บันทึกลับอาจารย์ริน ตอนที่ 5
โดย –
บ่ายสามโมงวันเสาร์ฉันแต่งตัวอย่างรัดกุมใส่เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นกางเกงยีนขับรถไปถึงบ้านนายกรตามแผนที่ที่เขาเอาไปวางบนโต๊ะทำงานฉันบ้านนายกรอยู่ในหมู่บ้านเปิดใหม่ติดถนนใหญ่ซึ่งหมู่บ้านนี้เขาลือกันว่าบ้านหลังหนึ่งราคาหลายสิบล้าน ซึ่งก็ท่าจะจริงเพราะทางเข้าโครงการสวยมากขับผ่านมาก็มีอาคารฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามบอล สนามแบดมินตัน สนามเทนนิสเพื่อให้บริการผู้พักอาศัย แต่พื้นที่ว่างในโครงการก็ยังเยอะเป็นที่ดินเปล่ารอการปลูกสร้างตามแบบตามใจของเศรษฐีผู้เป็นเจ้าของฉันขับเข้ามาลึกเกือบท้ายโครงการน่าจะมีบ้านปลูกเสร็จแล้วแค่สิบห้ายี่สิบหลังเอง แล้วฉันก็สังเกตเห็นบ้านหลังใหญ่น่าจะกินพื้นที่สักไร่นึงได้ตั้งอยู่โดดเดี่ยวที่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าของต้องการความเป็นส่วนตัวสูงฉันขับรถไปจอดที่หน้าบ้าน ชื่อบ้านตรงกับที่ระบุไว้ในกระดาษของนายกรแต่เป็นคนละนามสกุลกับนามสกุลของนายกรฉันลงจากรถเดินเข้าไปกดกริ่ง บ้านหลังนี้ทาสีขาวสวยและยังใหม่มากมีสนามหญ้าอยู่หน้าบ้าน มีรถเบนซ์จอดอยู่สองคัน กับรถวีออสอีกหนึ่งคันฉันสังเกตเห็นชายผมสีดอกเลานั่งหันหลังให้หน้าต่างอยู่ที่ฉันสองเขาหันมาดูที่หน้าต่างมองมาที่ฉันแวบบนึงแล้วก็หันกลับไปแล้วสักครู่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะมีอายุหน่อยเดินมามองฉันที่กระจกก่อนจะทำท่าหันไปคุยกับใครแล้วเดินจากไปฉันยืนตากแดดอยู่สักัพกหนึ่งนายกรก็เดินมาเปิดประตูให้ฉัน“ไม่ต้องพาอาจารย์เข้าไปข้างในหรอก เอาฮารท์ดิสมาก็พอ” นายกรก็กระเซ้าฉันกลับมา“อาจารย์จะไม่อยากลบมันเองกับมือหรือครับ จะได้มั่นใจคอมอยู่ที่ห้องนอนผมชั้นสองใกล้ๆนี้เอง” ฉันนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งถ้าพ่อแม่นายกรอยู่ด้วย เขาก็ไม่น่าจะกล้าทำอะไรฉัน “ก็ได้ งั้นพาอาจารย์ไปซิ”แล้วฉันก็ก้าวผ่านรั้วบ้านเข้ามาในตัวบ้าน
ข้างในบ้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สลักหลากหลายสวยงามสะท้อนถึงทรัพย์สินอันมหาศาลที่เจ้าของบ้านมีระหว่างทางเดินขึ้นฉันสองตรงบันได้จะมีกระจอกมองออกไปทางหลังบ้าน ฉันก็เห็นคนงานสองคนกำลังใช้ไม้คราดยาวๆเก็บใบไม้ที่ตกลงในสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่อยู่หลังบ้านพ่อ แม่ก็รวยขนาดนี้ แต่อบรมลูกเทียบไม่ได้แม้แต่น้อยกับเงินที่มีเลยแล้วความคิดฉันก็สะดุดลงเมื่อนายกรทักขึ้นมาว่า“งั้นอาจารย์ไปสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่ก่อนแล้วกันนะครับ” “ไปสิ” ดีเหมือนกันยิ่งถ้าพ่อ แม่นายกรรู้ว่าฉันเป็นอาจารย์มาที่นี่นายกรก็จะยิ่งไม่กล้าทำอะไรรุ่มร่ามกับฉัน นายกรก็เปิดประตูไม้บานใหญ่แล้วให้ฉันก้าวเข้าไปในห้องก่อนนายกรเดินตามหลังมาพร้อมปิดประตู ในห้องมีชายแก่นั่งอยู่หลังโต๊ะซึ่งมีกองเอกสารตั้งอยู่ปึกหนึ่งกับโน๊ตบุ๊คหนึ่งตัวแสงจากหน้าต่างสาดเข้ามาทำให้ฉันมองเห็นไม่ถนัดนักแต่พอเห็นได้ว่าชายคนนี้น่าจะอายุ 50 กว่ารูปร่างอ้วนนั่งอยู่บนโต๊ะขวามือของเขามีผู้หญิงน่าจะอายุราวๆสี่สิบเศษๆแต่งหน้าเข้มและดูรู้เลยว่าสมัยสาวๆคงสวยมากแต่ที่ขัดตาฉันคือทางซ้ายมือของพ่อนายการมีชายหนุ่มคนหนึ่งน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันใส่เสื้อแจ๊คเก็ตแถมยังสวมแว่นตาดำดูเหมือนบอดีการ์ดเจ้าพ่อในหนังไทยเปี๊ยบเลย ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วยกมือสวัสดี“สวัสดีค่ะ” แล้วเสียงนายกรก็ดั