กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 39 (อัพเดทตัวละครและขยายรายละเอียด)

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 39 (อัพเดทตัวละครและขยายรายละเอียด)

กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 39 (อัพเดทตัวละครและขยายรายละเอียด)
โดย saradio

อาเจิน ภรรยาหลวงอันดับ 1 – ซ้อใหญ่ตัวเล็กหน้าเด็กตลอดกาล (เวลาในเนื้อเรื่องปัจจุบันอายุ 30ปี)
ส่วนสัด 34-24-35
สูง 158
น้ำหนัก 40 กก
อาเจิน เป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ที่มีบุคลิกเด่นล้ำกว่าคนธรรมดา เนื่องเพราะนางเป็นคนฉลาดรอบครอบ และมีความคิดสูง อีกทั้งมีความรู้ทั้งด้านการแพทย์ และสมุนไพรเป็นอย่างดี ความรู้หลายอย่างได้รับการถ่ายทอดมาจากกาฮูหยินผู้เป็นแม่ผัว
ในอดีต แต่งงานกับกาเหวินเหอหรือกาเซี่ยงตัวจริง ตอนอายุ 15 ส่วนกาเซี่ยงตัวจริงอายุประมาณ 30 พอแต่งงานได้ไม่กี่วัน บังเอิญมีกองคาราวานจะเดินทางไปค้าขายในดินแดนตะวันตก กาเซี่ยงตัวจริงอยากจะไปดินแดนตะวันตกดูสักครั้ง จึงขอติดตามไปด้วย แต่การไปครั้งนั้นเป็นการไปแล้วไม่ได้กลับมา ทิ้งให้อาเจิน ภรรยาเด็กสาวที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่กี่วันต้องเป็นม่ายและดูแลแม่ผัวเพียงลำพังมาตลอด 5ปี ก่อนที่จะมาเจอเจ้าเจ๋งเด็กหนุ่มที่ข้ามเวลามาจากอนาคต
อาเจินเป็นผู้ออกอุบายให้เจ้าเจ๋ง สวมรอยเป็นกาเซี่ยง เพื่อจะได้อยู่ช่วยกันสร้างครอบครัว จนเจ้าเจ๋งกลายเป็นกาเซี่ยงที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ในที่สุด
และด้วยสติปัญญาและการวางตัวของนาง ทำให้ เจ้าเจ๋งและบรรดาเมียเล็กเมียน้อยต่างยำเกรงและให้ความเคารพอย่างสูง นางจึงสามารถปกครองบรรดาเมียๆ ของเจ้าเจ๋งให้สามัคคีกลมเกลียว ไม่ให้มีการทะเลาะเบาะแว้งเป็นการภายในได้

ตูตู้หลุน

ภรรยาอันดับ 2 – หญิงสาวชาวยุทธจักรผู้มากฝีมือ (เวลาในเนื้อเรื่องปัจจุบันอายุ 23 ปี)
ส่วนสัด 36-25-35
สูง 171
น้ำหนัก 58
หญิงสาวผู้มีหน้าตาสระสวยคมคาย และรูปร่างสูงสง่าผ่าเผยดูทะมัดทะแมงแข็งแรง ราวกับนักรบสาวชาวกรีกโบราญ ช่วงวัยอายุ 15-17 ติดตามบิดาออกรบอยู่ในขบวนการโจรผ้าเหลือง แต่แล้วเกิดขัดแย้งกันด้านอุดมการณ์ จนบิดาถูกฆ่าตาย ก่อนตายได้ฝากตูตู้หลุนให้แต่งงานกับ เจ้าเจ๋งหรือกาเซี่ยง
ตูตู้หลุนเป็นคนพูดน้อยแสดงความรู้สึกน้อย แต่มีไหวพริบปฏิภาณดี และมีระเบียบวินัยในตัวเอง แถมไม่ค่อยเรื่องมาก มักรับฟังความคิดเห็นคนอื่นเสมอ ดังนั้นนางจึงไม่เพียงเป็นภรรยาคนที่สอง หากแต่ยังเป็นองครักษ์พิทักษ์คนในครอบครัวอีกด้วย

ท่านหญิงตั๋งไป่

ภรรยาอันดับ 3 – หญิงสาวผู้มีความงามพร้อมความดื้อรั้น (เวลาในเนื้อเรื่องปัจจุบันอายุ 17 ปี)
ส่วนสัด 33-23-34
สูง 162
น้ำหนัก 43
ตั๋งไป่ หลานสาวของตั๋งโต๊ะ ผู้นับได้ว่าเป็นสาวงามที่น่ารักหาได้อยากคนหนึ่ง แต่เนื่องเพราะขาดพ่อแม่แต่เล็ก และถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจจากตั๋งโต๊ะ ทำให้นางมีนิสัยไม่ต่างจากผู้เป็นปู่ ในอดีตได้ก่อวีรกรรมอำมหิตไว้มากมาย จนอุปนิสัยโหดร้ายนี้บดบังความงามของนางไปหมดสิ้น เพราะถ้าหากผู้คนกล่าวถึงตั๋งไป่เมื่อใด มิว่าผู้ใดก็ไม่ได้กล่าวถึงความงามของนาง หากแต่กล่าวถึงวีรกรรมของนางที่ทำเอาไว้ ทำให้ผู้ใดก็ไม่อยากเข้าใกล้ จนภายหลังตั๋งโต๊ะสิ้นอำนาจ นางตกละกำลำบาก จึงได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต และเมื่อได้แต่งงานเป็นภรรยาของเจ้าเจ๋ง ก็ได้ถูกอบรมบ่มนิสัยกันใหม่ โดยเฉพาะอาเจินเป็นผู้ที่เข้าถึงจิตใจนางได้ดีที่สุด เนื่องเพราะอาเจินเคยดูแลแม่ผัวที่มีสติฟันเฟือน จึงรู้วิธีรับมือกับคนอารมณ์แปรป่วนอย่างตั๋งไป่ได้ดี ตั๋งไป่จึงไม่เพียงนับถืออาเจินที่เป็นฮูหยินใหญ่ หากยังรักอาเจินประดุจดังมารดาอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น แม้นิสัยอำมหิตโหดร้ายของนางถูกละลายพฤติกรรมไปมากแล้ว แต่ก็ยังมีนิสัยดื้อรั้นติดตัวที่แก้ไม่หายและควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ ก็คงต้องรอให้นางเติบใหญ่กว่านี้และเรียนรู้ไปด้วยตนเอง

งิวอี้หลาง

ภรรยาอันดับ 4 – หญิงงามแห่งเสเหลียง ผู้เพียบพร้อม (เวลาในเนื้อเรื่องปัจจุบันอายุ 16 ปี)
ส่วนสัด 33-22-34
สูง 160
น้ำหนัก 40
งิวอี้หลาง เป็นบุตรสาวของ งิวฮูกับบุตรีของตั๋งโต๊ะ จึงมีศักดิ์เป็นหลานตั๋งโต๊ะเช่นเดียวกัน ในอดีตตอน 8-10 ปี เคยเป็นลูกศิษย์ของเจ้าเจ๋งหรือกาเซี่ยง ในตอนนั้นนางเกิดความรักในวัยเด็กกับผู้เป็นอาจารย์ จึงขอคำสัญญากับกาเซี่ยงในวันที่ต้องจากกันว่า หากนางเติบใหญ่เป็นสาวแล้วให้กาเซี่ยงมารับตัวนางไปเป็นเจ้าสาว กาเซี่ยงให้สัญญาไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นว่านางยังเป็นเด็ก
หลังจากนั้น ไม่กี่ปี งิวอี้หลาง วัน 14-15 ปี มีความงามโด่งดังไปทั่วเสเหลียง ทำให้ม้าเฉียวอยากได้นางมาเป็นเจ้าสาว แต่ไม่คาดว่า งิวอี้หลางยังมีใจมั่นต่อคำสัญญาของกาเซี่ยงที่ให้ไว้ จึงไม่ยอมแต่งงานกับม้าเฉียว จนถูกแม่เลี้ยงบังคับให้แต่ง แต่ภายหลัง กาเซี่ยงมาช่วยนางออกไปได้และรับนางเป็นภรรยาคนที่ 4
อุปนิสัยของงิวอี้หลางนั้น เป็นคนอ่อนโยนสุภาพ ดูเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรี และเป็นคนช่างเจรจา มีความรู้สูงทั้งยังชอบศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

เสี่ยวถิง – เสี่ยวจู สาวใช้หน้าปฐมนมมหาลัย สาวรับใช้คนสนิทและนางทาสบำเรอ (เวลาในเนื้อเรื่องปัจจุบันอายุ 17 ปีทั้งคู่)
เสี่ยวถิง เสี่ยวจู
ส่วนสัด 35-23-35 ส่วนสัด 35-22-34
สูง 157 สูง 156
น้ำหนัก 42 น้ำหนัก 39
เสี่ยวถิงกับเสี่ยวจู สองสาวผู้อาภัพ ความจริงไม่ได้เป็นพี่น้องกัน หากแต่เติบโตและตกระกำลำบากมาด้วยกันทั้งคู่จึงรักกันเหมือนพี่น้อง
อดีตวัยเด็กนั้น ทั้งคู่ต้องกำพร้าพ่อแม่ในภัยสงครามโจรผ้าเหลือง จากนั้นก็ถูกผู้อื่นนำไปเลี้ยง ก่อนจะขายพวกนางไปเป็นทาสบ้านตระกูลงิว ในที่แรกได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงรับใช้คุณหนูงิว แต่ภายหลังเติบใหญ่ขึ้น ฮูหยินรองเห็นพวกนางหน้าตาดีทรวดทรงองเอวก็ดึงดูดเพศตรงข้าม จึงจับมาฝึกให้เป็นนางทาสบำเรอ คอยใช้ให้ปรนเปรอพวกขุนนางเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง พวกนางนั้นถูกกดขี่ทางเพศจนรู้สึกรันทดตนเอง ความจริงคิดว่าพวกนางถูกขายให้ตระกูลใหญ่น่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ต่างจากถูกขายให้ซ่องโสเภณี
เสี่ยวถิงนั้นเป็นคนมีความคิด แม้ถูกขายมาเป็นทาส แต่จิตใจไม่ยอมเป็นทาสใคร ดังนั้นจึงคิดอยากจะเป็นอิสระ มีความคิดจะนำพาเสี่ยวจูหนีออกจากบ้านตระกูงิวไปผจญชีวิตเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ประจวบเหมาะ ได้เจอกาเซี่ยง ที่จะพาคุณหนูงิวหลบหนีการแต่งงาน นางจึงขอร้องกาเซี่ยงให้ช่วยพาพวกนางหนีไปด้วย กาเซี่ยงจึงได้ช่วยเหลือทั้งสองคนให้พ้นจากบ้านตะกูลงิว

ฮูหยินรองแห่งบ้านตระกูลงิว – มีชื่อรอง เรียกว่า เจ๋าซือ หรือฮูหยินเจ๋า (เวลาในเนื้อเรื่องปัจจุบันอายุ 33ปี)
สัดส่วน 36-24-36
สูง 164
น้ำหนัก 47 กก
ฮูหยินรอง หรือว่าเจ๋าซือ แต่เดิมเป็นนางรำที่มีความงามยั่วยวนบุรุษ ตอนอายุ 15 ได้ไปรำแสดงอวยพรวันเกิดให้กับงิวฮูที่บ้าน งิวฮูเห็นเพียงครั้งแรกก็หลุ่มหลง จึงติดต่อรับนางมาเป็นภรรยา หากแต่ ฮูหยินตั๋งลูกสาวตั๋งโต๊ะผู้เป็นภรรยาหลวงไม่ยินยอม ที่จะตั้งให้เจ๋าซือเป็นฮูหยิน เพราะเจ๋าซือนั้นเป็นเพียงนางรำต่ำต้อย หากงิวฮูจะรับมาเป็นเมีย จะให้เป็นได้ก็แค่นางบำเรอเท่านั้น เรื่องนี้ทำความลำบากใจให้กับงิวฮูไม่น้อย เพราะเจ๋าซือเองก็ไม่ยอมที่จะให้นางเป็นแค่นางบำเรอ ที่นางต้องการคือตำแหน่งฮูหยิน
ภายหลังงิวฮูเฝ้าเอาใจกล่อมฮูหยินตั๋งอยู่นาน กว่าฮูหยินตั๋งจะใจอ่อน แต่ฮูหยินตั๋งก็ได้ให้ข้อแม้ว่า บรรดาบุตรใดๆ ที่เจ๋าซือให้กำเนิดจะต้องไม่มีสิทธิในบ้านตระกูลงิว แม้บุตรของนางจะเป็นชายก็ตาม งิวฮูดีใจจึงรับปาก แล้วตั้งให้เจ๋าซือเป็นฮูหยินรอง แล้วไม่นานฮูหยินรองก็ตั้งครรภ์จริงๆ ได้บุตรชายนาวว่า งิวกุย แต่งิวกุยก็ไม่มีสิทธิในบ้านตระกูลงิวและเป็นผู้สืบทอดงิวฮู เพราะงิวฮูทำเป็นข้อตกลงไว้กับฮูหยินตั๋ง ภายหลังทั้งงิวฮูและฮูหยินตั๋งเสียชีวิตไปทั้งคู่ ฮูหยินรองจึงยึดอำนาจในบ้านมาทั้งหมดมาเป็นผู้ครอบครองเอง
แต่ด้วยตั๋งโต๊ะกับงิวฮูสิ้นอำนาจลงไปแล้ว บ้านตระกูลงิวจึงตกต่ำลง ธุรกิจการค้าของบ้านตระกูลงิวที่มีอยู่ในเสเหลียงล้วนผูกโยงกับอำนาจทางการเมืองทั้งสิ้น เมื่อไม่มีอำนาจการเมืองหนุนหลัง ธุรกิจการค้าต่างๆของบ้านตระกูลงิวที่เคยทำอยู่ก็ถูกโยกย้ายไปให้ผู้อื่น ฮูหยินรองเพื่อรักษาธุรกิจการค้าของบ้านตระกูลงิวที่หลงเหลืออยู่นั้น จำต้องดิ้นรนหาวิธี ไอ้ครั้นจะหวังพึง งิวกุย ลูกชายวัย 17 ของนาง ให้ช่วยพลิกฟื้นตระกูลงิว มันก็ไม่เอาถ่านพึงพาอาศัยอะไรไม่ได้ สุดท้ายนางต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ถึงกับต้องเอาตัวเข้าแลกก็ยอม
จนกระทั้งม้าเท้งคิดการใหญ่ จึงใช้นางไปหลอกกาเซี่ยง แต่ไปๆมาๆ นางกลับคิดหักหลังม้าเท้งไปเข้าด้วยกับกาเซี่ยง คิดจะหนีไปอยู่กับกาเซี่ยงที่เตียนอันด้วยกัน หากแต่กาเซี่ยงนั้นไม่ได้จริงใจกับนาง เห็นนางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่จะใช้ซ้อนแผน หลอกม้าเท้งให้ตายใจ ภายหลังฮูหยินรองถูกแผนสับเปลี่ยนเจ้าสาวของอาเจิน โดนตูตู้หลุนจี้สกัดจุดจับขังไว้ในหีบ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากลูกชายงิวกุยจนออกมาได้
ฮูหยินรองในยามนั้นทั้งรักทั้งแค้นกาเซี่ยง แต่กาเซี่ยงได้หนีไปแล้วจึงทำอันใดไม่ได้ เลยครุ่นคิดถึงตัวเองว่าคงอยู่เสเหลียงต่อไปไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะหากม้าเท้งพ่ายศึกกลับมาต้องมาฆ่าตนแน่ จึงบอกลูกชายให้อพยพหนีออกจากเสเหลียงกันเสียก่อนม้าเท้งจะกลับมา

ปล.. เอ…. จะมีใครแอบเอะใจเกี่ยวกับชื่อจริงของฮูหยินรองหรือเปล่าหนอ

Share the Post:

Related Posts

แอบดูเมียเย็ดกับชู้ควยใหญ่

เรื่องเสียว แอบดูเมียเย็ดกับชู้ควยใหญ่ ผมกับเมียแต่งงานกันมาแล้ว 4ปี ผมอายุ 36 เมียผม 32 เราทั้งคู่ยังไม่อยากมีลูกเพราะต้องการสร้างฐานะให้มั่นคง ก่อน ผมกับเมียถือว่าเกิดมาจากครอบครัวที่มีฐานะพอสมควร และอาชีพการงานของผมก็ค่อนข้างมีหน้มีตาและราย ไต้ถือว่าสูงมากพอที่จะทำงานคนเดียวโดยให้เมียทำงานบนอย่างเดียว โดยไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง เมียผมเป็นคนน่ารัก ผิวขาวอย่างคนจีน อกไม่ใหญ่มาก สะโพกงอนสวยมาก โดกของเธออวบอูม มีขนประปราย

Read More

วันไหลสงกรานต์ มันส์ขนาดไหน แตกในเลยคิดดูสิคะ

เรื่องเสียว วันไหลสงกรานต์ มันส์ขนาดไหน แตกในเลยคิดดูสิคะ แถว ๆ บ้านฉัน มีคนใหญ่คนโตจัดงานวันไหลสงกรานต์ให้หนึ่งวัน คือวันที่ 20 เมษายน ซึ่งฉันเองก็มาไปร่วมงานด้วย แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้เจอเรื่องเสียวในสถานที่แบบนี้ จุดเริ่มต้นอาจจะเพราะว่าการแต่งตัวของฉันก็ได้ ฉันคงไม่ปฏิเสธหรอก ว่าฉันนั้นแต่งตัวน้อยชิ้นไปเอง แต่ก็เพราะว่ายังไงก็ต้องเปียกอยู่ดี ฉันเลยไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ จนกระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งมาทักทายฉันแล้วขอปะแป้ง เขาถามฉันว่ามากับใคร

Read More