มินิมาร์ทร้อนรัก ตอนที่ 7
โดย barthello00
คืนนี้เรานอนกอดกันเฉยๆ ผมสงสารแนนจับใจ ด้วยความเอาแต่ใจตัว พอเกิดอารมณ์ก็ไม่สนใจอีกฝ่าย ตั้งแต่ที่เกือบจะโดน
เกลียดที่มินิมาร์ทและอีกคืนที่บนดาดฟ้า
คืนนี้ผมนอนไม่หลับ เวลาก็ดึกมากแล้ว แสงดาวกะพริบไหวเต็มท้องฟ้า ผมเดินลงมาตามทางถึงชายหาด ได้ยินเสียงคลื่นถล่มสาดเสียงดังครืน ทุกๆวินาที ผมนอนลงบนผืนทรายเงียบๆ เสียงสายลมพัดมาตามคลื่น พร้อมกับเสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาวชาย
หนุ่มพลอดรักกัน ไม่นานเสียงครางก็ดังขึ้นเป็นจังหวะ นั้นทำให้ผมยิ่งสนใจจนหูแทบจะกางใหญ่ขึ้นอีก
ผมลุกขึ้นลองเดินไปเรื่อยๆ ห่างที่พักไปทีละน้อย จนเสียงดังใกล้ขึ้น ผมหยุดเดินมองไปยังต้นเสียง ในเต้นสีเดียวกับความมืด
แสงจากดาวไม่อาจทำให้บริเวณสว่างแต่เต็นท์ที่ยวบยาบกับเสียงที่ดังของหญิงสาว ทำให้เขาอยากจะเดินไปหยุดที่หน้าเต็นท์
ผมชั่งใจมองผืนน้ำเดินกลับที่พัก สักพักมีหญิงสาวรูปร่างเล็กเดินสวนทางมา เธอมองมาทางผมด้วย หญิงสาวยิ้มละไม เดินสวนทางผมไปไกลจนลับสายตา ผมออกเดินต่อ หญิงสาวคนนั้นวิ่งกะหืดกะหอบ มาขอความช่วยเหลือ เมื่อมีชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน วิ่งตามหญิงสาวมาด้วย เธอมาหลบที่หลังผม
“ช่วยฉันด้วย” เธอพูดหายใจหอบ
“มึงอย่าเสือก ถ้าไม่อยากตาย” มันคนหนึ่งดึงมีดออกมาจากกระเป๋าหลัง มีดสีเงินสะท้อนแสงแวววาว มองหน้าผมนิ่ง
ผมมองมีดพกอย่างสนใจ ชายที่ถือมีดพุ่งเสยมีดเข้าที่หน้าอกผม ผมยกมือปัดจนมีดเฉ คมมีดปาดเข้าที่ไหล่จนมีเลือดออก ผมเตะเท้าขวาเข้าที่ท้อง มันจุกงอนิ่งอยู่ที่พื้น ชายอีกคนกำหมัดวิ่งเข้าหา ผมปล่อยให้มันชกเข้าที่แก้ม ไม่เจ็บ แต่ผมหน้าหันตามแรงเล็กน้อย ผมง้างแข้งขวาแตะเข้าซี่โครงจนมันจุกตัวงอ ก่อนจะใช้เท้าเสยที่คางจนมันหงายหลังล้มตึงไปบนพื้นทราย
ผมมองดูมัน 2 คนอย่างสมเพช ก่อนจะดูแผลตัวเองที่แขน ผมตกใจ มองมันกำลังสมานตัวเองจนผิวแนบสนิทเหมือนเดิม มีเพียง
เลือดเปรอะที่แขนเท่านั้น ที่บ่งบอกว่าเพิ่งผ่านอะไรมา
“ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นหลังจากหมดเรี่ยวแรงที่เห็นผมโดนมีดปาดเข้าที่แขน
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมถามขึ้น ยื่นมือให้หญิงสาวจับพยุงตัวลุกขึ้น หญิงสาวปัดสะโพกผายที่ทรายติดมากับกางเกงขาสั้นออก
“ขอบคุณนะคะ คุณช่วยไปส่งฉันที่พักหน่อยก็จะดีนะคะ” หญิงสาวมองไปที่ 2 หนุ่มแล้วก็กอดแขนผมมือสั่นนิดๆผมพยักหน้า
“หนูชื่อทราย พี่ละชื่ออะไร” ผมมองใบหน้ากลมของหญิงสาวตรงหน้า น่าจะอายุ15-16 เองนะ มาทำอะไรดึกดื่นป่านนี้
“พี่ชื่อโอ๋” ผมตอบกลับไป เดินตามทรายที่เดินคุยเสียงแจ้วๆนำหน้าไป
“นั่น หนูมาเที่ยวกับพี่สาว ที่เต็นท์นั่น”
………………
ผมตะลึง เพราะเพิ่งได้ยินเสียงครางของหญิงสาว และนั่นก็คือพี่สาวของทรายนี่เอง
“พี่คะ หนูกลับมาแล้ว” เสียงซิปรูดลง ก่อนที่มีหญิงสาวใบหน้าคล้ายกัน ออกมาจากเต็นท์ แสงไฟฉายสาดมาทางผม จนผมแสบตา แสงไฟไล่จากศีรษะลงถึงปลายเท้าผม
“กลับมาแล้วเหรอ หายไปไหนมา มัน 5 ทุ่มแล้วนะ”
“ขอโทษคะพี่สายลม หนูไปเดินเล่นแปบเดียวเอง นี่ค่ะ พี่โอ๋ ช่วยพาหนูมาส่งด้วยหละ”
“ขอบคุณมากค่ะที่พาน้องฉันมาส่ง ทรายเข้าเต็นท์ไปก่อน พี่มีเรื่องจะคุยกับพี่ชายคนนี้”
ผมงง จะมีอะไรคุยกัน ผมทำท่าจะเดินกลับ ทรายเข้าเต็นท์ไป พร้อมกับโบกมือลาผม ผมพยักหน้ารับรู้
“เดี๋ยวก่อน นาย อย่าเพิ่งไป” ผมหันหน้ากลับมามอง แต่ไม่หยุดฝีเท้า หญิงสาววิ่งตามไป ใช้มือทั้ง 2 ข้างดันที่หน้าอกหยุดผมไว้ ผมมองหน้าหญิงสาวตรงหน้า
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันชื่อสายลม นายชื่อโอ๋ใช่ไหม ขอบใจที่พาน้องฉันมาส่ง” ผมพยักหน้า นิ่งไม่พูดตอบ
“นายออกกำลังกายเหรอ กล้ามหน้าอกแน่นมาก” สายลมโพลงขึ้น ใช้มือข้างหนึ่งลูบตามร่างกายผม ก่อนจะหยุดที่น้องชาย ผมจับมือสายลมออก
“วันหลังถ้าจะทำอะไรแบบนั้น อย่าพาน้องสาวมาด้วยดีกว่านะ” สายลมมองหน้าผม ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อ
“นายรู้” หญิงสาวอายจนแทบจะเอามือปิดหน้า
“นะ…นาย…อย่าบอกน้องสาวฉันนะ ขอละ” ผมมองหญิงสาวตรงหน้าที่นัยน์ตาเริ่มแดงระเรื่อ
“ฉัน… นาย…ฉัน…”
หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก สายลมสลัดมือจากการจับของผม มือบางจับที่แก้มผม ริมฝีปากประกบจูบ มือบางเลื่อนลงมาถึงเป้า มือบางนวดท่อนเนื้อจากที่นวลนิ่มเป็นแข็งอวบจนหญิงสาวสะดุ้ง
“ใหญ่มาก” สายลมพูดเสียงเหมือนกระซิบ สายตาเริ่มเคลิ้มมองมือของตัวเองที่กำแท่งเนื้อที่นูนเป็นรูปคล้ายกระบอง
“กำไม่รอบ” สายลมพึมพำ ผมสะบัดมือหญิงสาวออก จับปลายคาง กดริมฝีปากทาบทับประกบจูบดูดดื่ม น้ำลายไหลออกจากขอบริมฝีปาก เลอะเต็มปลายคาง มือบางดึงกางเกงขายาวลง เผยแท่งเนื้ออวบใหญ่เด้งสู้มือ
สายลมละริมฝีปากที่เหนียวเหนอะด้วยน้ำลาย เลื่อนตัวเองลงที่อยู่ที่ง่ามขา มือบางจับแท่งเนื้อที่หัวบานกระตุกอยู่ระดับสายตา
เธอพอดี หญิงสาวมองมันตาโต กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ มือบางรูดแท่งเอ็น ปลายจมูกก็สูดดมกลิ่นสาบสาง ปลายลิ้นตวัดรอบพวงไข่ ไล้มาตามเอ็นอวบ ลมหายใจอุ่นพ้นลมร้อนไปทั่วลำกล้อง ที่ถูกมือบางขัดขึ้นลงจนผมกระตุกไหวตามมือ
“มันใหญ่เกินปากฉันเลยอะ ไม่เคยเห็นอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย”
ผมมองสายลม ลมหายใจผมหนักขึ้น ผมยกหญิงสาวขึ้น เสื้อยืดสีขาวถูกถลกด้วยมือหนา หน้าอกอวบภายใต้บราสีเนื้อลอยเด่นต่อหน้า ผิวสีน้ำผึ้งสะท้อนแสงดาวหัวนมสีน้ำตาลค่อนข้างคล้ำสั่นไป ตามปลายลิ้นที่ตวัดไล้ไล่ไปทั่วเนินอกอวบ
สายลมครางกระเส่า มองบางกำรูดท่อนเอ็นไม่อยากปล่อย อีกมือปลดซิบกางเกงลง โชว์ชั้นในสีเนื้อ ปกปิดเนินเนื้ออวบ ที่เธอ
ค่อยๆดึงลงจนหลุดไปจากขา ผมจับสายลมก้มลงอยู่ในท่าโก้งโค้ง ขาเรียวตึงกำลังสั่นไหวกับปลายท่อนเนื้อที่กำลังถูไถไปตามร่อง
กลีบที่บานแฉะ
“อา เสียวมาก ใหญ่จนทำใจไม่ได้เลย อา” ผมถูไถขึ้นลงจนหญิงสาวดันสะโพกเข้าหาท่อนเนื้อ มันเข้าไปเกินครึ่งแล้ว สายลม
ครางเสียงดังคล้ายสมใจอะไรสักอย่าง ผมดันสะโพกเข้าไปจนสุดลำกล้อง สายลมงอเข่าลงทรุดกับพื้นทราย ตอนนี้เราอยู่ในท่าด็อกกี้
“ไม่ไหวแล้ว เสียวมาก มันคับจนฉันจะบ้าแล้ว”
เสียงพึมพำของสายลมดังมาเป็นระยะ ผมโยกท่อนเอ็นช้าๆ สายลมเกร็งสะโพกอวบที่สะท้อนแสงดาว ปากครางเสียงสั่นสะท้าน ผมโยกเข้าออก เสียงดัง ปับๆๆ มือทั้งสองเอื้อมไปบีบคลึงหน้าอกค่อนข้างเหลวแต่ยังคงรูปร่าง สวยงามอยู่
ผมจับสายลมนอนลงบนพื้นทราย จ่อลำกล้องที่เยิ้มไปด้วยน้ำเมือกเลอะเต็มลำ จอที่กลีบร่องบานฉ่ำ ผมอ้าขาเธอเท่าที่จะอ้าได้ กระหน่ำกระแทกเข้าออก จนทรายขยับออก
“อา แฮ่กๆๆ มัน…เสียว..มาก ที่สุด…ของที่สุด..จริงๆ อา…” สายลมหอบหายใจหนักขึ้น มองดูผมที่กำลังโยกเข้าออก มือบางลูบที่หน้าท้องตัวเองเพราะความเสียว
“อา…ฉันจะเสร็จแล้ว อา”
ผมกระแทกกระทั้นหนักขึ้น จนเสียงครางดังขึ้นตามแรงที่กดลงไป ผมอุ้มสายลมขึ้น ถอดยกทรงออกจากายเปล่าเปลือย กดสายลมลงนอนราบกับพื้นทราย อ้าขาออกกว้าง ผมนอนทาบทับ กดแท่งเนื้อฝังลงจมมิดด้าม สายลมครางเสียงกระเส่า หอบหายใจหนักขึ้น สะโพกเกร็งกระตุกจนขึ้นเป็นรูป
“อา ฉันจะเสร็จอีกแล้ว จะ…อา เสร็จแล้ว” ผมได้ยินเสียงครางพึมพำดั่งขาดใจ
ผมจับสายลมนอนหงาย หน้าอกอวบลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ผมจ่อแท่งสวาทจนมิดลำ ก้มใบหน้าดูดเลียปทุมสีน้ำตาลเข้มจนน้ำลาย
เหนียวเหนอะเต็มอกอิ่ม มือหนาบีบคลึงหน้าอกอย่างรุนแรง กระตุ้นหญิงสาวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผมขยับท่อนเอ็นที่เสียบคาเนิน
สวาทกลีบบานกลืนกินเข้าทั้งลำ ผมดันสะโพกเข้าออกเร่งเร็วจนเสียงครางดังต่อเนื่องไม่หยุด สายลมจับท่อนเอ็นที่ผมกำลังสาว
เข้าออกอย่างเมามัน มันขยายใหญ่ขึ้น จนเธอคับแน่นไปหมดทั้งร่องหนีบ
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ฉันจะเสร็จรอบที่ 3 แล้วนะ นายจะอึดไปไหน โอ้ว..อา” สายลม สั่นกายน้อยๆ มองใบหน้าผมที่กำลังดันท่อง
กลึงเข้าออก
“อ๊า ฉันไม่ไหวแล้ว เสร็จสักทีเถอะ อา” ผมมองหญิงสาวที่อ่อนระทวย หน้าอกอวบสั่นไหวกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทก ใบ
หน้าโยกขึ้นลงสู้แรงตามผมไม่ไหว
ผมกระตูกวูบไหว สะโพกเกร็งเร่งความเร็วยิ่งขึ้น ใบหน้าผมใกล้จะสุขสม มือผมกดที่หน้าอกอวบที่โยกไปมา พ่นน้ำขาวชขุ่มเต็มร่องสวาท
“อา เสร็จ สัก..ที ฉันจะตายแล้ว แฮ่กๆ” ผมดึงท่อนเอ็นที่ยังแข็งค้างออก เสียงดัง บ๊วบ ผมลงนั่งบนหน้าอกหญิงสาว ยื่นท่อลำส่ง
เข้าปากเธอ ที่หอบหายใจส่งไออุ่นกระทบท่อนเนื้อจนรู้สึกสยิวเสียว
สายลมนอนสงบนิ่งบนพื้นทรายที่ร่างกายจมลึกลงบนพื้น ผมขยับตัวนอนลงข้างหญิงสาว สายลมนอนหอบหายใจถี่ ไอแค่กๆเพราะสำลักน้ำลายที่หายใจไม่ทัน
สายลมใช้กำลังพอจะมีหันมามองหน้าผม ผมหอบหายใจเริ่มจะกลับเป็นปกติ ลุกขึ้นช้าๆเพื่อจะใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อจจะมีใครมาเห็น สายลมขยับแขนมาจับที่ข้อศอกผม
“ฉัน…แฮ่ก…ตอบแทนนาย ที่…แฮ่ก..ช่วยน้องสาวฉัน ไม่งั้น…”สายลมเบือนหน้าหนี
“ไม่งั้นอะไร” ผมถามย้ำ
“น้องสาวฉัน ฉัน…ไม่อยากให้เธอ…เป็นแบบฉัน” ผมงง มองใบหน้าสายลมที่น้ำตาเริ่มรินหยดลงข้างแก้ม ผมจับแก้มหญิงสาวให้หันมาสบตาผม
“บ้าจริง ทำไม…ฉันอยากจะเล่าให้นายฟัง” สายลมใช้กำลังลุกขึ้น ปลายคางเกยที่ไหล่ผม น้ำตาสีใสหยดเป็นสายไหล่อบแก้มนวล หยดเป็นสายกระทบไหล่เปล่าเปลือยของผม
ผมรอให้เธอร้องจนพอใจ สายลมสะอื้น ปาดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้ม มองหน้าผมน้ำตายังไม่หยุดไหล
“ฉัน…เล่าให้นายฟังได้ใช่ไหม นายอย่า..”
“ผมไม่บอกใครหรอก ระบายออกมาเถอะ” ผมลูบใบหน้าหญิงสาวที่ยังหลงเหลือคราบน้ำตาเป็นทาง
“เมื่อหลายปีก่อน ฉันต้องเสียพ่อแม่ในเหตุการณ์ไฟไหม้ ฉันต้องอยู่กับน้องสาวที่กำลังเรียนแค่มัธยมต้น ฉันต้องออกมาหางานทำด้วยภาระหลายๆอย่างที่จะต้องใช้จ่าย ดีที่มีบ้านที่ไม่ต้องเช่า ฉันทำงานจนได้เลื่อนตำแหน่ง จนไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ทุกอย่างเริ่มลงตัว” สายลม นั่งลงข้างๆผม มองคลื่นที่กำลังกระทบฝั่ง น้ำตาเริ่มไหลรินอีกครั้ง ไหล่กว้างจึงเป็นที่พักอิงชั่วคราว
“ฉันได้รู้จักชายคนหนึ่ง ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ฉันเสียตัวให้เขาหลังจากคบได้ไม่ถึงอาทิตย์ นั้นคือจุดเริ่มต้นในชีวิตฉันเลย เขาย้ายมาอยู่ที่บ้านฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาเจ้าชู้ เขาเรียบร้อยต่อหน้าฉัน แต่ฉันไม่รู้เลยเมื่อวันหนึ่ง เขาคิดจะทำไม่ดีกับทราย น้องสาวที่ฉันรัก” หญิงสาวสะอื้นไห้ ผมโอบไหล่บางที่กำลังสั่นสะท้าน
“หลังจากนั้น…เขาก็เริ่มเปลี่ยน ฉันถูกขังอยู่ในห้องกับหัวหน้าแผนก ฉันถูกข่มขืน ฉันสู้แรงมันไม่ได้” หญิงสาวกระแทกเสียงคำท้าย เหมือนเจ็บแค้นอย่างที่สุด
“หลังจากนั้น ฉันก็ถูกบังคับจากหัวหน้าแผนกเกือบทุกวัน จนฉันต้องลาออก เพราะทนไม่ไหว ชายที่ฉันเรียกว่าแฟน มันเริ่มตีจาก แต่มันยังคิดจะทำไม่ดีกับน้องสาวฉันให้ได้ ฮือๆ” หญิงสาวกอดอกเปล่าเปลือย สั่นสะท้านทรวงที่นึกถึงทุกครั้ง
“ฉัน…เป็นห่วงน้องสาวมาก พวกมันเป็นเดรัจฉาน มัน…พวกมัน…ให้เพื่อนมาดักรอที่บ้าน มันจะฉุดน้องสาวฉันให้ได้ ฉันรู้เรื่องที่พวกมันสุมหัวกัน ฉันล็อคบ้าน ฝากตำรวจให้ดูแล ก่อนจะหนีออกมา เพื่อให้พวกมันคิดว่าฉันหนีไปแล้ว”
“แต่ฉันคิดผิด ฉันไม่กล้าแจ้งความ เพราะกลัวอับอายกลัวน้องจะเสื่อมเสียในอนาคต” สายลมปาดน้ำตา มองไปยังพื้นทะเลในยามที่สายลมพัดแรงจนหนาวสะท้าน
“และที่นายได้ยิน มันตามฉันมาถึงที่นี่ มันรังแกฉันอีกครั้ง และมันให้เพื่อนมันอีก 2 คน ตามหาน้องสาวฉัน และนาย…เข้ามาช่วย” หญิงสาวเริ่มน้ำตาคลออีกครั้ง ผมปาดน้ำตาหญิงสาวตรงหน้า มองใบหน้าของสายลมที่ใบหน้าแดงระเรื่อ
“ใส่เสื้อผ้าเถอะ อากาศหนาว” หญิงสาวพยักหน้า คว้าเสื้อผ้ามาสวม
“ขอบใจที่รับฟังนะ ฉันสบายใจ ที่ได้ระบายกับใครสักคน นายเป็นคนดี แม้ไอ้นั่นของนายจะทำให้สาวที่นายพามาลำบากเป็นแน่” สายลมพูดขึ้น จ้องมองที่เป้าผม ก่อนจะมองใบหน้าผมด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
ผมเดินไปส่งหญิงสาว รอยต่อสู้เมื่อสักครู่ยังคงหลงเหลือ แต่ไม่เห็นมัน 2 คนอยู่แล้ว ผมนึกขึ้นได้
“รีบวิ่งเถอะ ผมเป็นห่วงทราย” หญิงสาวด้านข้างตกใจ รีบวิ่งไปที่ตั้งเต็นท์ทันที
เสียงกรีดร้องของเด็กสาวดังขึ้นสะท้านไปทั่วบริเวณในความเงียบเช่นนี้ ผมเร่งความเร็วขึ้น ในความมืดมองเห็น คน 2 คนกำลัง ใช้กำลังจับหญิงสาวนอนกับพื้น ชายหนุ่มรูปร่างใหญ่ยืนกำลังถอดกางเกงลง
“พวกมึง ทำอะไรกัน” ผมตะโกน ให้พวกมันหันมาสนใจ