หลิว 1

หลิว 1
โดย barthello00 

           หนึ่งปีผ่านมาแล้ว ผมเรียนหนังสือตามปกติ แต่สิ่งที่ไม่เป็นปกติคือ หลิวไม่เคยมาเรียนเลยนับจากเปิดเทอม เบอร์ติดต่อก็เปลี่ยน จนผมยากจะตามหา เมื่อไม่มีข้อมูลใดไห้ตามหา ผมก็ต้องใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนซังกะตายไปวันๆ ความรักนี่เป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุด พอจะมาก็มา เมื่อเราไม่คว้ามัน มันก็หายไปเหมือนสายลมพัดผ่าน เมื่อสายไปทุกที

วันนี้วันเสาร์ ผมต้องเดินทางไปที่นครศรีธรรมราชเพราะมีงานที่ต้องส่งค้างอยู่ ผมซื้อตั๋วรถไฟเดินทาง ผมมาถึงสถานีหัวหิน ผมไม่ค่อยสนใจผู้คนเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ผมออกมายืนที่ประตู ผมมองรถไฟออกจากสถานีช้าๆ ในสายตาผม แวบแรกเข้ามาในสมอง หญิงสาวผิวขาว ผมสั้นเทียมไหล่ หน้าตาคุ้นเคย กำลังเดินไปขึ้นรถสองแถวที่หน้าสถานี

“หลิว หลิว” ผมเรียกเสียงดังจนทุกคนมองเป็นตาเดียว ผมรีบกระโดดลงจากรถไฟทันที มองหารถสองแถวที่เป็นสายเดียวกัน ผมถามคนขับว่าสายนี้ไปถึงไหน ผมจ้างให้ไปส่งโดยเร่งให้ทันรถสองแถวคันหน้า

“พี่ จอดๆ จอดตรงนี้แหละ เท่าไหร่ครับ”

“ร้อยห้าสิบ ไอ้น้อง” ผมจ่ายเงินไป เดินตามทางที่เห็นหลิวเดินเข้าไป เป็นทางสายเล็กๆลูกรังห่างจากถนนใหญ่สามร้อยเมตร ข้างทางเป็นไร่สับปะรดสุดสายตา มีป้ายที่ปากทางเขียนว่าไร่อมร ผมเดินไปมีบ้านเพียงหลังเดียว ขนาด

ปานกลางไม่ใหญ่มาก

“หลิว” ผมเรียก หญิงสาวหน้าตาคุ้นเคยหันกลับมา

“ต้น มาได้ไง” ผมก็ไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง แต่ผมรู้ว่าตอนนี้หัวใจผม พบสิ่งที่ต้องการแล้ว ตรงหน้าผมนี้เอง

“หลิว หายไปไหนมา” หลิวอ่ำอึ่ง

“เอ่อ หลิวขอโทษ เอ่อ แล้วต้นพักที่ไหนละตอนนี้” หลิวพูดเปลี่ยนเรื่องทันที

“อ่อ…? ยังไม่มีที่พักเลย” เดี๋ยวไปหาเอาในเมืองก็ได้ คงหาไม่ยาก”

“ไม่ต้องหรอกไอ้หนุ่ม” เสียงพูดเหน่อแต่ดุดันมาจากทางด้านหลัง

“พ่อ นี่เพื่อนหนูเอง ชื่อต้น” ผมยกมือไหว้

“ชื่อต้นเหรอ มึงใช่ไหมที่ทำลูกกูท้อง” เหมือนฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อม เวลาเหมือนหยุดชะงักลง ทุกวินาทีภาพต่างๆลอยมาประดัง และภาพสุดท้าย หลิวที่ท้องป่องอุ้มท้อง

“พ่อ หยุดไม่ใช่อย่างที่พ่อคิด”

“ไม่ใช่ยังไง ถ่อมาง้อถึงที่นี่ เอ็งเป็นลูกเต้าเหล่าใคร? เป็นคนที่ไหน? มาทำไม?”

“พ่อ เพื่อน…ห…” พ่อยกมือห้าม

“ไปไอ้หนุ่ม เข้าบ้าน ไม่มีที่พักก็พักที่นี่แหละ” ผมถูกผลักเข้าไปในบ้าน แล้วอย่างนี้ผมจะทำอะไรได้…น้ำตาจะไหล ภายในบ้านตกแต่งสวยงาม ทุกอย่างดูไม่มากเกินไปและไม่เวอร์จนเกินไป

“ไป ไอ้หนุ่มทานข้าวกัน” ผมได้แต่พยักหน้า

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้หนุ่ม เอ็งตลกดี น้าชอบ ตอนที่ข้าบอกว่านังหลิวท้อง หน้ามันเหวอแดก ตลกดี”

“ลูกต้น อย่าไปถือสาพ่อมันเลย ทำตัวดุหวงลูกสาวไปงั้นแหละ” ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ

“แม่นังหนูนิ มันต้องขู่ไว้ก่อน เผื่อมันมาทำมิดีมิร้ายลูกเรา จะได้กันไว้ก่อน จริงไหมไอ้หนุ่ม” ผมได้แต่พยักหน้าเงอะงะไม่รู้จะพูดอะไรดี ผมรีบทานอาหารแล้วขอตัวออกมาเดินเล่นในสวนสับปะรด

“อย่าถือสาพ่อหลิวเลยนะ ต้น เป็นผู้ใหญ่บ้านหวงลูกสาวยังกะอะไรดี นี่ก็ไม่ยอมไห้ไปเรียนไกลบ้าน ชอบบอกว่าเป็นห่วง” ผมหันหลังมอง หลิวนะเอง

“ดีแล้วที่มีพ่อไว้เป็นห่วง บางคนมีแต่แม่ หรือไม่ก็ไม่มีเลย หลิวโชคดีขนาดไหนแล้ว”

“จ้า พ่อคนดี” เราทั้งสองหัวเราะร่วน ผมมองหน้าหลิว หนึ่งปีมันช่างยาวนาน นานเหมือนเป็นสิบปี

“ต้นเป็นอะไร มองหน้าหลิวซะหน้ากลัวเลย” ผมไม่ปล่อยไห้อะไรหลุดลอยไปแล้ว ผมดึงมือหลิวมากุม

“หลิว คบกับเรานะ” ประโยคที่ผมเก็บงำไว้ ที่จะช่วยไห้ความรู้สึกที่หนักอกบรรเทาลงได้

“ต้น” หลิวปากคอสั่น

“ต้น คิดดีแล้วเหรอ เราไม่ใช่คนดีอย่างที่คิดนะ”

“แล้วหลิว เป็นยังไง ต่างกับคนเมื่อหนึ่งปีก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่ต่าง นั่นแหละคนที่ต้นรู้จักดี”

ผมดึงหลิวเข้ามาในอ้อมกอด ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเมื่อหนึ่งปีก่อน ผมเข้าใจมันดีแล้วว่ามันต้องการอะไร

“บอกพ่อแม่กันไหม ว่าเราคบกัน” ผมออกความคิดเห็น

“ดีเหรอ พ่อหลิวดุนะ”

“ไม่ลองไม่รู้”

ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พ่อกับแม่ยอมรับผมไห้คบกันได้ ไห้อยู่ในสายตา ผมนอนค้างที่บ้านหลิวหนึ่งคืน ก่อนจะต้องเดินทางลงนครศรีธรรมราชอีกครั้ง

ผมนอนในห้องเล็กที่เอาไว้เผื่อมีคนมาพัก มีหมอนสองใบ ผ้าห่มผืนหนา ที่นอนและมุ้งขนาดกลาง สองทุ่มเศษผมขอตัวออกมานอนเล่นรับลมที่แคร่ห่างจากบ้านไม่เท่าไหร่ ผมนอนเล่นมองดาว ส่องประกายจ้าแข่งกันแสงเดือน

“อยู่ที่กรุงเทพจะเห็นอะไรแบบนี้ไหมนะ” เสียงหลิวเดินมานอนลงข้างๆ

“ใช่ ชักอยากอยู่ที่นี่แล้วสิ”

“ทำเป็นพูดดี”

“ต้น จำคำถามที่หลิวเคยถามได้ไหม” ผมทำท่าคิดหนัก จนคิ้วขมวด

“คนมันแก่แล้ว ถามใหม่ได้ไหม” ผมพูดพลาง หอมแก้มหลิว จนหลิวค้อนเอา

“แน่ะเล่นที่เผลอ หลิวถามว่าชอบหลิวตอนไหน” ผมมองขึ้นไปบนฟ้า มือหนุนศีรษะ หลิวมองหน้าผมขยับหนุนแขนผมต่างหมอน

“ไม่รู้สิ มันนานมากแล้ว จำไม่ได้”

“นานขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ใช่ นานมาก ต้นรักหลิวอยู่คนเดียวมาหลายภพหลายชาติ จนจำไม่ได้แล้ว”

“ขนาดนั้นเชียว” ผมขยับแขนโอบเอวหลิวให้ขยับเข้ามาใกล้

“มันเป็นความจริง แล้วสักวันหลิวจะรู้”

หลิวพลิกตัวนอนคว่ำบนหน้าอกผม ใบหน้าแนบที่หน้าอกซ้าย ผมโอบร่างบางไห้อยู่ในอ้อมกอด ส่งความรู้สึกผ่านอ้อมกอดที่อบอุ่นนี้

“หลิวเชื่อ หัวใจต้น ไม่เคยเปลี่ยนสักจังหวะหนึ่ง” หลิวขยับกาย จ้องนัยน์ตาผมนิ่ง ริมฝีปากอุ่นประกบจูบดูดดื่ม ลมหายใจรดแก้มจนร้อนผ่าว ริมฝีปากสลับซ้ายขวารับรู้รสสัมผัสความหอมหวานรัญจวน ลิ้นพัวพันตวัดดูดดื่มกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวยากจะถอน มือหยาบสัมผัสลูบไล้ทั่วเรือนกายด้วยความคิดถึงกระสันใคร่อยาก ทั้งรสกามและความรัก หลิวถอนริมฝีปากอย่างเสียดายความรู้สึกของรสรักปานจะกลืน

“เข้าห้องเถอะ ยุงข้างนอกเยอะ” ผมเดินตามหลิวเข้าในบ้าน หลิวเดินแยกตัวออกไปที่ห้องตัวเอง ผมเดินเข้าห้องปิดประตู เข้าไปนอนในมุ้ง ข่มตาหลับไม่ได้สักครั้ง รสจูบที่ได้สัมผัสช่างน่าตราตรึงทุกอยาดหยด

เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ ผมได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาในห้อง ด้วยความสะลึมสะลือผมไม่ได้คิดอะไร ผมมองเวลา เที่ยงคืนพอดี ผมทำเป็นนอนไม่รู้เรื่อง มุ้งถูกเปิดขึ้น ผมหรี่ตามองเห็นเป็นเงาร่างเป็นหลิวเข้ามานอนข้างๆ มือบางโอบรอบเอว หันข้างเข้าหาผม ศีรษะนอนบนหมอนเดียวกัน ปลายนิ้วเรียว ใบหน้าผมเล่น เหมือนต้องการสำรวจทั่วใบหน้า หลิวเลื่อนนิ้วมาที่ริมฝีปาก ผมจับมือหลิวจูบที่กลางฝ่ามือเบาๆ หลิวสะดุ้ง มองหน้าผมนิ่ง ผมนอนตะแคง ใบหน้าชนกันบนหมอนเดียวกัน ลมหายใจรสใส่จมูกกันและกัน สัมผัสถึงความหอมของลมหายใจ ผมขยับกายเข้าใกล้หลิว มือหนาโอบเอวรั้งชิดกับกายผม มือบางลูบที่ใบหน้าผมไปมา

“เป็นอะไรหรือเปล่า” มือที่ลูบใบหน้าชะงักลง หลิวไม่ตอบ

หลิวรั้งคอผมขยับเข้ามาใกล้จมูกชนจมูก ริมฝีปากแนบสนิท จูบดูดดื่มและร้อนแรงกว่าทุกครั้ง สร้างความกระสันเสียวให้ผมมากมาย หลิวถลกเสื้อยืดผมขึ้นถึงหน้าอก พลิกร่างผมนอนหงาย หลิวยกตัวนั่งบนเอวผม ถอดเสื้อยืดผมออกจากตัว มือบางลูบไล้ไปทั่วตัวจนผมเสียวสยิว ผมจับเอวหลิวลูบไปทั่ว หลิวถอดกระดุมเสื้อนอนตัวเองออกที่ละเม็ด เผยหน้าอกอวบอูมในความสลัว หลิวจับมือมาสัมผัสที่เนินอกอวบอิ่ม ความนุ่มนิ่มที่สายตามาอาจสัมผัส สร้างจินตนาการที่น่าลิ้มลอง ผมบีบเบาๆ พร้อมเสียงครางกระสันเสียวดังที่หู

“ต้นค่ะ ทำไห้หลิวมีความสุขนะ” ริมฝีปากบางจูบทั่วใบหน้าพร้อมเสียงครางเบาๆ “อา อา” มือผมยังคงบีบหน้าอก ลมหายใจที่รดหน้า ความหอมภายในปากอันน่าพิสมัย หลิวขยับกายให้ปลายปทุมอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากหนาลูบไปทั่วเต้าตึง ลิ้นหยาบตวัดวาบหวาม ปลายถันชูชันท้าลิ้นสาก ลิ้นตวัดรับรสความหอมหวานจากเนื้อหนังอวบอูม อีกมือบีบเค้นยอดถันให้เสียวสยิว ปลายลิ้นตวัดคล่องดูดกลืนจนเป็นจ้ำ เสียงครางดังไม่หยุด มือบางลูบไล้ทั่วหน้าอก บีบเค้นหน้าอกผมด้วยกระสันอยาก ผมดันตัวขึ้น ให้หลิวนั่งอยู่ที่ต้นขา หน้าผมอยู่ที่เนินอวบอิ่มสองเต้าที่เด่นชี้ชันสู้มือ ลิ้นสากตวัดไม่ปราณี ดูดเค้นดัง “จ๊วบจาบ” ไม่ปราสัย มือหยาบบีบคลึงเคล้าสองเต้าอย่างเมามัน ตวัดปลายนิ้วยอดถันแข็งรับสัมผัส ริมฝีปากละสองเต้า ไล่มาถึงหน้าท้องแบนราบ ผมอุ้มหลิวนอนลงบนที่นอน ใบหน้าอยู่ตรงเนินสวาท บราสีขาวหยาดเยิ้มด้วยน้ำรักที่เสียวซ่านเป็นทางยาว ปลายจมูกสูกดมกลิ่นสาบสาว ลมหายใจร้อนสัมผัสเม็ดกระสัน จนหลิวสะดุ้งตัวขยับสะโพกหลบ ผมจับยึดแก้มก้นไม่ไห้ไหว มือดันสะโพกไห้เนินโหนกอยู่ตรงหน้า ลิ้นสากตวัดลูบไปทั่วปรีขาขาวเนียน ลิ้นสากลากไปตามเนื้อผ้าตัวจิ๋ว ลูบไล้ตวัดผ่านติ่งสวาทไปมา จนหลิวยกสะโพกรับ พร้อมเสียงคราง “อือ อา อา” ดังเป็นระยะ ผมดึงบราน้อยหลุดจากปลายเท้า ขยับหน้าเข้าใกล้เนินสวาทอีกครั้ง ขนหยาบไม่ครึ้มสัมผัสกับปลายจมูก น้ำรักไหลซึมจากแคมน้อย ปลายลิ้นตวัดลูบไหวรอบเนินเนื้อที่ปิดสนิท หลิวเกร็งตัวมองมาที่ผม

“ต้นค่ะ หลิวเสียว ทนไม่ไหวแล้ว” ผมเข้าใจดี ปลายลิ้นตวัดจุดกลางเนินสวาท ติ่งเสียวกระตุกวูบไหว เกร็งสะโพกบาง หลั่งน้ำรักเลอะเต็มปาก ผมไม่หยุด ละเลงลิ้นสาก กระตุ้นความกระสันอีกรอบ ปลายลิ้นแหย่เข้าในแคมสาว กรีดตวัดไปมา จนหลิวครางเสียงดัง ฮือ อา อ้า อ้า” พร้อมสะโพกที่กระตุกไหวอีกครั้ง

“ต้นค่ะ พอก่อนนะ หลิวไม่ไหวแล้ว” ผมละจากเนินเนื้อ มือบีบที่สองเต้าตึง เขี่ยที่ปลายปทุมชูชัน ริมฝีปากจูบดูดดื่มจนหายใจถี่

“รู้ไหม หลิวมีความสุขที่สุด สองครั้งแนะ หลิวไม่เคยเป็นเด็กไม่ดีขนาดนี้เลย ต้นทำไห้หลิวเสียคน”

“เสียเฉพาะต้น ไม่มีใครว่าหรอก ต้นจะแต่งงานกับหลิวนะ” ผมจูบหน้าผากหลิวที่เหงื่อชุ่มตัว

“พรุ่งนี้เราไปนครศรีฯกันนะ”

“ไปทำไมเหรอ”

“ต้นไปส่งงาน แล้วถือว่าฮันนีมูนกันดีไหม”

“บ้า ฮันนีมูนคือเราแต่งงานกันแล้ว”

“นี่ไงเราก็เหมือนแต่งกันแล้ว” ผมตอบพลางยิ้มกริ่ม มือหยาบลูบไล้ทั่วตัว หยุดที่สองเต้าตึง บีบเค้นบางเบา หลิวเป่าลมหายใจออกอย่างกระสันเสียว มืออีกข้างลูบไล้ถึงร่องสวาท ปลายนิ้วเขี่ยที่ติ่งเสียวจนหลิวแยกขารับสัมผัส สะโพกบางยกโยกรับนิ้วมือที่ลูบคลำทั่วเนินสวาท นิ้วชี้ลูบไล้ไปทั่ว ค่อยแหย่เข้าร่องเนิน เข้าไม่ถึงข้อนิ้ว หลิวร้องเสียงดัง กระซิบข้างหู “เจ็บ ต้นค่ะ หลิวเจ็บ” ผมจูบที่ริมฝีปากบาง ลิ้นลากตวัดรีบรสความหอมหวานอย่างดูดดื่ม นิ้วชี้ค่อยๆขยับหมุนควงจนเลยหนึ่งข้อ หลิวครางอู้อี้ในลำคอ กอดคอผมแน่น ผมบีบเค้นเต้าตึง สะกิดยอดถัน ให้เสียวซ่านจนร่องแคมหลั่งไหลด้วยน้ำรัก ผมค่อยๆแทงนิ้วเข้าออกช้าๆ จนหลิวคลายความเจ็บลง เหลือเพียงความเสียวซ่านในอารมณ์เริงสวาท “อา อา อ๊า” ผมจับมือหลิวให้ลูบคล้ำที่น่องผมจนเลื่อนมาที่แท่งเนื้อที่กระสันชูชันสู้มือบางที่กำลังชักขึ้นลง “อา อู้ อา” ผมครางกระเส่าสันอยาก นิ้วชี้ชักเข้าออกตามจังหวะที่หลิวรูดแท่งเนิน จนครางออกมาไม่เป็นศัพท์เช่นกัน “อา หลิวจะไม่ไหวอีกแล้ว ต้นค่ะ หลิวจะไม่ไหวแล้ว อา อ้า” ผมขยับลุกถอดกางเกงนอนออก เหลือกายเปลือยเปล่า ผมจับมือหลิวให้รูดอีกครั้ง หลิวกระตุกชักขึ้นลงจนผมแทบบ้า สมองหมุนวน ซื้ดปาก สะโพกไหว “ต้นใส่ละนะ” หลิวพยักหน้า นอนลงบนที่นอน ผมนั่งลง จับสะโพกหลิวให้ลอยรับท่องเนื้อ ปลายหยักค่อยๆเสียบเข้า แคมสวาทแยกออกจนบุ๋มเข้า เสียงครางเจ็บปวดดังจากหลิว พร้อมกับมือทั้งสองดันที่หน้าท้องผมไม่ไห้ฝืนเข้า ผมรอจนหลิวตั้งตัวพร้อม ผมขยับออกเข้าช้าๆแค่ปลายแท่งสุขสันต์ ผมก้มลงดูดคลึงสองเต้ากระตุ้นให้เสียวจนหลั่งน้ำรักหล่อลื่นให้ขยับง่ายขึ้น ผมโยกสะโพกเข้าออกช้าๆ จนแน่ใจว่าหลิวพร้อม ผมจับมือหลิวแน่น จูบที่ริมฝีปาก “ใส่แล้วนะ” ผมบอก หลิวพยักหน้าพร้อม ผมดันเข้าด้วยกำลังที่พอจะไม่ทำให้หลิวเจ็บมาก หลิวดันสะโพกหลบด้วยเจ็บ แต่ผมฝืนดันจนมิดแท่ง ผมจูบดูดดื่มอีกครั้ง กระซิบข้างหู “ไม่เป็นไรนะ” “พี่ใส่เข้าไปหมดแล้ว พี่จะโยกนะ หลิวหน้าเหยเก แต่พยักหน้าพร้อม ผมดันเข้าออกที่ละน้อยจน ได้ยินเสียงกระเส่าด้วยสุขสันต์แทนความเจ็บปวด หลิวจับคอผมกอดแน่น คราง “อือ อา อ๊า” หายใจถี่หนัก ตัวสั่นกระเพื่อมด้วยแรงกระแทกใส่ “ต้นค่ะ หลิวจะไม่ไหวแล้ว” ผมรีบโยกเข้าออกถี่ขึ้น “อา อ๊า อา เสียวมากเลย ต้นค่ะ หลิวเสร็จแล้ว อา” พร้อมหายใจหนักหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมตามแรงลมหายใจ นอนแผ่บนที่นอนนิ่ง ผมยังคาอยู่ในร่องที่ดูดรัดแท่งเนื้อตลอดเวลา “หลิว ต้นโยกต่อนะ ต้นจะเสร็จแล้วเหมือนกัน” หลิวมองหน้าผม ดึงหน้าผมมาจูบ ผมโยกเข้าออกอย่างเมามัน หลิวครางกระเส่า เหงื่อกาฬแตกเต็มตัว หน้าอกสั่นกระเพื่อมไหวตามแรงโยกที่หนักหน่วง ผมกระตุกใส่ร่องสวาท ที่กระตุกดูดกลืน น้ำรักที่ผมปล่อยเข้าเนินเนื้อ ผมถอนแท่งสวาทออกมาจากแคมน้อย นอนหอบอยู่ข้างหลิว หลิวมองหน้าผม ดึงผ้าห่มปิดบังกายที่เปลือยเปล่า หอบหายใจถี่ ผมพลิกตัวจูบที่แก้มแดงทั้งสอง จัดผ้าห่มให้หลิวเข้าที่ทาง ผมนอนแผ่ลงข้างหลิว จนหลับไปทั้งคู่ด้วยอ่อนเพลีย

Share the Post:

Related Posts

เป็นผัวพี่ได้เหล้าฟรีทุกวัน เอาไหม ?

เรื่องเสียว เป็นผัวพี่ได้เหล้าฟรีทุกวัน เอาไหม ? บ้านของฉันเป็นร้านขายของชำ อยู่ข้างกำแพงวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งขาประจำ นอกจากจะเป็นชาวบ้านชาวช่องแล้ว ก็ยังมีเด็กวัด ที่ชอบมาซื้อเหล้า ซื้อบุหรี่ที่ร้านของฉัน ซึ่งพอเราสนิทกันมากขึ้น ก็ชอบที่จะมาซื้อกันตอนดึก ๆ ดื่น ๆ ซึ่งสำหรับฉันแล้ว ไอ้เมฆ ก็เป็นแค่เด็กวัดที่ทะเล้นทะลึ่งคนหนึ่งเท่านั้นแหละ หน้าตาก็ใช้ได้

Read More

เย็ดกันกับผู้ชาย ที่กลายมาเป็นพี่เขย

เรื่องเสียว เย็ดกันกับผู้ชาย ที่กลายมาเป็นพี่เขย มันเป็นเรื่องเสียวที่ทำให้ฉันรู้เลยว่าโลกกลมมาก ๆ ที่ฉันเคยนัดเย็ดกับผู้ชายคนหนึ่ง ก่อนเราจะกลายมาเป็นคู่เย็ดของกันและกัน เพราะว่าเขาเย็ดมันส์มาก ๆ เขาเป็นคนที่ทำให้ฉันมีประสบการณ์เสียวที่ไม่เหมือนใครที่เย็ดมาเลยสักคนเดียว และเพราะแบบนั้น ฉันเองก็เลยติดใจในเขาด้วยเช่นกัน แต่วันนี้เขากลับมาเป็นขี่เขยของฉัน เราก็เลยแทบจะไม่มีช่วงเวลาที่ได้สร้างเรื่องเสียว ๆ ด้วยกันเลย แต่ว่านึกย้อนไปแล้วครั้งแรกที่เราได้เจอกันนั้นมันสุดยอดจริงๆ ค่ะเลยเอามาเล่าเรื่องเสียวให้ได้ฟังกัน ย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ

Read More