อาถรรพ์ปลัดขิก ตอนที่ 19 รสรักของสาวน้อย

อาถรรพ์ปลัดขิก ตอนที่ 19 รสรักของสาวน้อย

อาถรรพ์ปลัดขิก ตอนที่ 19 รสรักของสาวน้อย
โดย Kamen Rider V-3

วิไลหลับตาพริ้มหายใจถี่จนหน้าอกอันอวบอิ่มของเธอสะท้อนขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้สึกอิ่มเอมและสมหวัง
กับรสรักที่เด็กหนุ่มผู้นี้ปรนเปรอให้ จนเธอทั้งรักและหลงใหลเขาอย่างที่สุด ถึงแม้จะรู้ดีว่าสักวันเด็กหนุ่มผู้นี้
ก็จะต้องห่างเหินจากเธอไปมีคู่ของเขาเอง

วิไลหันไปมองป๊อดที่นอนแผ่หราอยู่ข้างๆร่างของเธอ แล้วยิ้มพร้อมกับเอ่ยขึ้น

“ป๊อด….นี่เธอหายดีแล้วใช่ไหม”

“ครับ…ผมหายดีแล้ว”

“แล้วมาทำแกล้งเป็นนอนเจ็บอยู่ที่นี่ทำไม”

“ก็ผมอยากจะรู้ว่าคุณวิไลเป็นห่วงผมบ้างหรือป่าวนี่ครับ”

วิไลยิ้มกว้างอย่างพอใจ แม้จะรู้ว่าป๊อดพูดไปตามภาษาผู้ชายเจ้าชู้

“เธอเนี่ยเจ้าชู้ไม่เบาเลยนะ แต่ฉันรู้นะว่าคนที่เธอรอน่ะ ไม่ใช่ฉันหรอก”

ป๊อดได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกตกใจเขาหวาดระแวงอยู่เสมอว่าวิไลจะรู้ความลับระหว่างเขากับลูกสาวของเธอ

“ฉันรู้นะ……ว่าหนิงน่ะชอบเธอ…….เธอห้ามทำให้ลูกสาวฉันเสียใจเป็นอันขาดนะป๊อด”

เสียงของวิไลเข้มขรึมขึ้นอย่างชัดเจน จนป๊อดต้องหันมาสบตากับเธอและรับคำ

“ครับ”

“และเธอก็ห้ามแพร่งพรายเรื่องของเราให้หนิงรู้เป็นอันขาด ในวันข้างหน้าหากพวกเธอทั้งสองคนยังรักกันอยู่
และคิดจะแต่งงานกัน ทั้งฉันและเธอก็จะต้องหยุดพฤติกรรมแบบนี้อย่างสิ้นเชิงและต้องทำเหมือนกับว่าเราไม่เคย
มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันเลยนะป๊อด”

ป๊อดสบตามองวิไลนิ่งอย่างเข้าใจความรู้สึกของเธอ เธอผู้นี้ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เขาได้ก่อความสัมพันธ์ขึ้นและเป็นต้นเหตุ
ที่ทำให้เธอรู้สึกยุ่งยากใจ เธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจเข้มแข็ง มีความรักและหวังดีต่อลูกของเธอจนยอมทำทุกๆอย่าง
เพื่อไม่ให้ลูกของเธอเสียใจ

ป๊อดขยับร่างเข้าไปใกล้แล้วโอบกอดเธอไว้ด้วยความรักที่มีให้เธออย่างจริงใจ

“ครับ…ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณวิไลดีครับ”

——

ช่วงเย็นของวันนั้น ในขณะที่ป๊อดออกมานั่งเล่นที่ม้านั่งหน้าห้องของตัวเองคนเดียว เขาก็เหลือบไปเห็นเถ้าแก่เจียง
กำลังเดินยิ้มตรงเข้ามาหาเขา ในมือของเถ้าแก่ถือของถุงกระดาษใบหนึ่งแล้วทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆกันกับป๊อด
ป๊อดจึงรีบยกมือไหว้แล้วเอ่ยคำสวัสดี

“สวัสดีครับ…เถ้าแก่”

“เป็นไงบ้างอาป๊อด….ลิ้อหายดีหรือยัง”

“หายดีเป็นปกติแล้วครับ”

“ดี………อั๊วมีเรื่องจะคุยกับลื้อหน่อย ก่อนอื่นลื้อเอานี่ไปเก็บไว้…………….เอ้า….”

แล้วเถ้าแก่เจียงก็ยื่นถุงกระดาษที่ถือมาด้วยส่งให้กับป๊อด เขายื่นมือออกไปรับแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“มันคืออะไรเหรอครับ….เถ้าแก่”

“ลื้อก็เปิดดูสิ”

ป๊อดแหวกปากถุงกระดาษ หยิบสิ่งที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าขาวอย่างมิดชิดในถุงกระดาษออกมา แต่ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับห่อผ้า
เส้นขนภายในร่างของป๊อดก็ลุกตั้งชันขึ้นพร้อมกันทั้งร่าง พร้อมกับมีของสิ่งหนึ่งตกลงมาอยู่ต่อหน้าเขา ของสิ่งนั้นก็คือ
ปลัดขิกพญางิ้วดำนั่นเอง เขารีบหยิบปลัดขิกขึ้นมาใส่ลงในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว โดยเถ้าแก่เจียงไม่ทันสังเกตเห็น แล้วครุ่นคิด
อย่างสงสัยว่าเหตุใด จู่ๆ น้าขิกจึงต้องออกจากร่างของเขา หรือว่าเป็นเพราะสิ่งของที่อยู่ในห่อผ้าที่เขาถืออยู่นี้

ป๊อดรีบวางมันลงข้างๆตัวแล้วคลี่ผ้าที่ห่อหุ้มนั้นออกดูโดยทันที แล้วเขาก็ถึงกับอุทานออกมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเถ้าแก่เจียง

“มีดหมอหลวงพ่อเดิม”

ในตอนนี้ป๊อดได้คลายความสงสัยลงแล้วว่าทำไมน้าขิกจึงไม่สามารถสถิตย์อยู่ในร่างของเขาได้ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
มีดหมอหลวงพ่อเดิมเล่มนี้มีอานุภาพทำลายล้างอาถรรพ์และอาคมได้ทุกชนิด แม้กระทั้งอักขระคงกระพันบังตาที่จารลงบนปลัดขิก
ก็สิ้นอานุภาพลง เมื่อชิตนำมันมาแทงเขา ป๊อดหยิบมีดหมอขึ้นมาพิจารณาอย่างรู้สึกสงสัยว่าเถ้าแก่เจียงได้มันมาได้อย่างไร

“เถ้าแก่ได้มาได้อย่างไรครับ ตอนนั้นมันชุลมุนกันเหลือเกิน และผมก็เจ็บมากจนจำไม่ได้แล้วว่าสุดท้ายแล้ว
มีดหมอเล่มนี้ได้ไปตกอยู่กับใคร”

“อั๊วเป็นคนรับจากมือของอาหลิวมาเก็บไว้เอง แล้วก็ไม่ได้บอกตำรวจ หลังจากที่เห็นมีดหมอเล่มนี้สามารถทะลุเข้าไป
ในท้องของลื้อได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ลูกปืนยังทำอะไรลื้อไม่ได้เลย ซ้ำยังเห็นอาหลิวนำมาตัดสายสิญจน์ทำลายอาคม
ของไอ้ชิตได้สำเร็จ อั๊วก็รู้ได้ทันทีว่ามีดเล่มนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ หากตกไปเป็นของคนที่ไม่หวังดีต่อลื้ออีก
ลื้อก็จะเป็นอันตราย”

ป๊อดได้ยินที่เถ้าแก่เจียงพูดก็รู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาจนน้ำตาซึมออกมา พร้อมกับยกมือไหว้กล่าวขอบคุณในความเมตตา
ของเถ้าแก่เจียงทันที

“ผมไม่รู้จะพูด หรือขอบคุณความกรุณาของเถ้าแก่อย่างไรดีแล้วครับ”

เถ้าแก่เจียงยกมือมาตบที่ไหล่ของป๊อดเบาๆอย่างกรุณา

“ลื้อก็เป็นเหมือนลูกเหมือนหลานของอั๊ว อะไรก็ตามที่จะทำให้ลื้อเป็นอันตราย อั๊วจะยอมได้รึ”

แล้วเถ้าแก่เจียงก็นึกถึงเรื่องที่ได้ไปฝากฝังป๊อดไว้กับท่านรองฯ เดชาขึ้นมาได้ จึงรีบเอ่ยขึ้นทันที

“เออ….อาป๊อด…อั๊วเกือบลืมบอกลื้อไปเรื่องหนึ่ง วันที่ลื้อถูกเอาตัวไปนอนที่โรงพยาบาล เพื่อนของอั๊วที่เป็นนายพล
ตำรวจใหญ่ ชื่อท่านเดชา ได้เข้ามาดูแลและสั่งงานเกี่ยวกับคดีนี้ อั๊วเลยได้โอกาสฝากฝังลื้อไว้กับท่านและท่านก็ตอบตกลงแล้ว
เหลือเพียงแค่ลื้อเอาวุฒิการศึกษาไปสมัครและสอบนักเรียนนายสิบตามขั้นตอนเท่านั้น ตอนนี้ลื้อพร้อมหรือยังล่ะ”

“ตอนนี้เหลือแต่รอรับวุฒิการศึกษาแล้วครับเถ้าแก่”

ป๊อดตอบออกไปด้วยความรู้สึกหวิวๆ เพราะเขารู้ดีว่า หากเขาได้เป็นนักเรียนนายสิบแล้ว ก็คงต้องจากและห่างจากบ้านหลังนี้
ไปเป็นเวลาหลายปี

“ถ้าอย่างนั้นลื้อก็เหลือเวลาว่างๆอีกหลายเดือนเลย อั๊วว่าลื้อน่าจะไปหาที่เรียนที่เขารับติวเข้านายสิบเตรียมไว้ได้แล้วนะ
จะได้ภูมิใจที่สามารถสอบเข้าได้ด้วยตัวเอง”

“ครับ”

ป๊อดมองหน้าเถ้าแก่นิ่งอยู่ แล้วรับคำทั้งๆที่ยังรู้สึกใจหายแม้ว่าจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสอบติดหรือไม่

“เออ…อั๊วมีเรื่องจะบอกลื้ออีกเรื่องหนึ่ง อั๊วคิดว่าบ้านเราสมควรที่จะรวมตัวกันไปพักผ่อนแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันสักครั้ง
หลังจากที่เจอเรื่องร้ายๆกันมา อั๊วหมายถึงรวมทั้งลื้อด้วยนะ”

ป๊อดยิ้มออกมาอย่างดีใจ เขาเองก็ต้องการเห็นสมาชิกในบ้านหลังนี้ ไปเที่ยวด้วยกันและมีความสุขแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน
ซักครั้งเช่นเดียวกัน

“เมื่อไหร่หรือครับ….เถ้าแก่”

“สิ้นเดือนนี้……ลื้อเตรียมตัวไว้แล้วกัน……..เอาล่ะ….อั๊วมีเรื่องมาบอกลื้อเท่านี้แหละ พักผ่อนซะเถอะ….อาป๊อด…อั๊วไปล่ะ”

แล้วเถ้าแก่เจียงก็วางฝ่ามือบนไหล่ของป๊อดเบาๆ ก่อนที่จะเดินจากไป ตรงไปยังตึกใหญ่

——–

เป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ที่ป๊อดกลับจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้าน ตลอดเวลาเขารู้สึกกังวลใจต่อเรื่องของนิสาที่ยังค้างคาอยู่
เขาเคยคิดที่จะปรึกษาน้าขิกอยู่เหมือนกันแต่ก็ยับยั้งใจเอาไว้ไม่ปลุกน้าขิกขึ้นมาอีก หลังจากที่คืนเข้าสู่ปลัดขิกในครั้งที่เขาสัมผัสกับ
มีดหมอหลวงพ่อเดิม เพราะเขาเคยสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่า สิ่งที่เขาทำลงไปกับนิสาก็อาจจะเป็นเพราะน้าขิกคอยตามใจเขา
ไม่ว่าเขาจะขอให้ช่วยเหลือสิ่งใดน้าขิกก็ไม่เคยขัด เขาจึงขอทดลองอยู่่โดยไม่มีน้าขิกดูบ้าง มันอาจทำให้เขาตามใจตัวเองได้ยากขึ้น

และด้วยความเป็นห่วงนิสา ต้องการรู้ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ป๊อดก็ใช้ให้โหงพรายไปเฝ้าดูอาการและการใช้ชิวิตประจำวัน
ของเธอมาบอกต่อเขา ซึ่งก็ได้ความว่า เธอมักจะปลีกตัวอยู่เงียบๆคนเดียวและไม่ค่อยพูดคุยกับใครอยู่เช่นเดิม พอป๊อดรู้อย่างนั้น
เขาก็ยิ่งเกิดความกังวลใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เขาจึงตั้งใจเอาไว้ว่าเมื่อกลับจากไปพักผ่อนกับครอบครัวของเถ้าแก่เจียงแล้ว
เขาจะหาทางทำทุกวิธีเพื่อช่วยเหลือเธอให้พ้นจากความเศร้าซึมนี้ให้ได้

พอพ้นจากเรื่องของนิสา เขาก็คิดเลยเถิดไปถึงแจงซึ่งเขารับปากเธอเอาไว้ว่า จะไปหาเธอหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล
ซึ่งก็ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว เขาจึงคิดที่จะโทรศัพท์ไปพูดคุยกับเธอ แต่พอล้วงมือลงไปในกระเป๋าเพื่อหาโทรศัพท์ มือของเขาก็สัมผัส
กับกุญแจงพวงหนึ่ง และเมื่อดึงขึ้นมาดูก็จำได้ว่าเป็นกุญแจงห้องที่คอนโดของแจง เขาจึงเปลี่ยนความตั้งใจที่จะโทรไปหาเธอ
แต่คิดจะทำเซอร์ไพร์สด้วยการแอบเข้าไปในห้องของแจงโดยไม่บอกล่วงหน้า

ป๊อดหันไปมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้อง ก็เห็นว่ามันเป็นเวลาที่แจงใกล้จะกลับแล้ว เขาจึงเขียนข้อความลงในกระดาษเล็กๆ
แผ่นหนึ่งติดไว้ที่หน้าห้อง มีข้อความว่า

“ออกไปหาซื้อของใช้ข้างนอก”

เพื่อที่หลิว และหนิง อาจจะเข้ามาหาเขาหลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วจะได้ไม่สงสัยว่าเขาหายไปไหน แล้วรีบออกจากบ้านไปในทันที

เวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมงรถประจำทางที่ป๊อดโดยสารไปก็ถึงคอนโดของแจง เขารีบตรงขึ้นไปยังชั้นอันเป็นที่ตั้งของห้อง
แล้วหยุดยืนนิ่งอยู่ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ลูกกุญแจปลดล้อคประตูแล้วเปิดเข้าไปทันทีโดยไม่เคาะประตูห้อง แต่เขาก็พบแต่
ห้องที่ว่างเปล่า ป๊อดเหลือบดูนาฬิกาแล้วเอนตัวลงนอนอยู่บนเตียงซึ่งเคยเป็นวิมานรักของเธอและเขาอย่างใจจดจ่อ
จนรู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าและยาวนานเหลือเกิน

ในขณะที่เขากำลังนอนเกือกกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างเบื่อหน่าย ก็มีเสียงฝีเท้าดังสลับกันใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง

ป๊อดตาเบิกกว้างแล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เขากระโดดแผล็วลงจากเตียงรีบวิ่งเข้าไปแอบอยู่ในห้องน้ำแล้วถอดเสื้อผ้าออก
อย่างรวดเร็ว เขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะซุ่มรอให้แจงถอดเสื้อผ้าเข้ามาห้องน้ำ เขาก็จะย่องไปรวบตัวเธอโดยไม่ให้รู้ตัว แล้วเล่นบทรัก
กับเธอท่ามกลางสายน้ำให้หายคิดถึง

เสียงไขลูกบิดประตูดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะถูกดันให้เปิดออก ป๊อดสอดสายตาเพ่งมองไปยังช่องว่างระหว่างบานพับประตู
ด้วยความตื่นเต้น แต่แล้วเขาก็ต้องตาเหลือกโพลง ใจหายวาบ เมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้าไม่ใช่แจงอย่างที่เขาคิด แต่กลับเป็น
หญิงสาววัยราวๆ 14 ถึง15 ในเสื้อนักเรียนสีขาวแขนยาว กระโปรงสีน้ำเงินเข้ม เดินเข้ามาพร้อมกับเสียงเรียกของโทรศัพท์
ที่ดังขึ้นพอดี

“ฮัลโหล…ว่าไงพี่แจง”

“หา……พี่แจงขึ้นรถแล้วเหรอ แหม…เร็วจัง จ๋าก็พึ่งมาถึงที่คอนโดเหมือนกัน”

“อื้อ……อื้อ…….แต่พี่แจงอย่าเผลอบอกแม่นะ ว่าวันนี้ที่โรงเรียนปล่อยกลับบ้าน เดี๋ยวแม่น้อยใจ คืนนี้จ๋าจะนอนที่คอนโด
พรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปกับเพื่อนเลย นานๆครั้งจ๋าถึงจะได้เที่ยวกับเขาบ้าง….น้าาา…พี่แจงน้าาา…ช่วยน้องหน่อย”

“จ้า….ไม่ต้องเป็นห่วง….พี่แจงไปเยี่ยมแม่บ้างดีแล้ว จ๋าน่ะกลับทุกอาทิตย์อยู่แล้ว เท่านี้น้าาา…..จ้าาาา….”

ป๊อดตัวแข็งนิ่งฟังอย่างตั้งใจ และนึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่โทรหาแจงก่อน เขาก้มมองดูสารรูปตัวเองซึ่งตอนนี้เหลือแต่ร่างเปลือยเปล่า
หากว่าจ๋ามาพบเขาอยู่ในห้องของเธอ ทั้งๆทีแก้ผ้าโทงๆอย่างนี้ เธอคงต้องกรีดร้องคิดว่าเขาเป็นไอ้โรคจิตแน่ๆ ป๊อดพยายามคิดหา
วิธีที่จะออกไปจากห้องแล้วหันไปมองดูเสื้อผ้าที่กองอยู่ไม่ไกลตัวนัก แต่เขาก็ไม่กล้าขยับตัวหรือเคลื่อนไหวใดๆ เพราะในตอนนี้
จ๋าได้มายืนอยู่หน้ากระจกกลางห้องเสียแล้ว หากเขาเคลื่อนไหวอาจทำให้จ๋าสะดุดตาและมองเห็นเขา ป๊อดจึงได้แต่ทนนิ่งมองดู
การเคลื่อนไหวของเธอผ่านช่องว่างระหว่างบานพับประตูอยู่เงียบๆ

จ๋ายืนพิจารณาใบหน้าของตัวเองอยู่เป็นเวลานาน แล้วหันซ้ายหันขวาไปมาเพื่อสำรวจเรือนร่างของตัวเองตามนิสัยของผู้หญิง
จนป๊อดซึ่งซุ่มดูอยู่ก็พิจารณาเรือนร่างของเธอตามไปด้วย

ในทีแรกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอนักเพราะมัวแต่กังวลว่าเธอจะมองเห็นเขา แต่พอได้พิจารณาดูเธออยู่ครู่ใหญ่ เขาก็เพิ่งเห็นว่า
จ๋าเป็นหญิงสาวที่สวยและน่ารัก ใบหน้าของเธอดูสวยสดใสตามรูปแบบของสาววัยแรกรุ่น เครื่องแบบนักเรียนคอนแวนต์ที่เธอสวมใส่
อยู่ก็ดูเหมือนจะช่วยเน้นทรวดทรงของเธอให้ดูสะดุดตา แม้ว่าดูเหมือนเธอจะเป็นหญิงสาวที่มีหุ่นเพียวบางก็จริง แต่ก็มีส่วนสัดต่างๆ
ที่รับกันอย่างเหมาะเจาะจนป๊อดเริ่มรู้สึกสนใจในตัวเธอและมองดูเธอบิดเรือนร่างไปมาอย่างเพลิดเพลิน

แต่แล้วในขณะที่ป๊อดกำลังมองดูจ๋าอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของเธอออกทีละเม็ดๆ จนหมด
แล้วดึงชายเสื้อออกมาจากขอบกระโปรงก่อนที่จะสลัดมันหลุดไปจากท่อนบนของเธอ ติดตามมาด้วยเสื้อผ้ายืดบางเบาแขนกุด
จนเหลือเพียงยกทรงตัวน้อยที่ห่อหุ้มปกปิดทรวงอกของสาวรุ่นเอาไว้

จ๋ายืนนิ่งพิจารณาตัวเองที่หน้ากระจกอีกครู่หนึ่ง แล้วมีสีหน้าเหมือนไม่พอใจในสรีระของตนเอง เธอหันหน้าไปมาสำรวจ
ภายในห้องด้วยความเคยชิน แต่แล้วก็เหมือนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเธออยู่ในห้องแค่เพียงคนเดียว เธอจึงเอื้อมมือไปปลดตะขอยกทรง
แล้วเหวี่ยงมันลงตะกร้าต่อหน้าต่อตาของป๊อด

ป๊อดไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด เขามักจะพาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์ที่ยั่วยวนให้เขาเกิดอารมณ์ใคร่เช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง
เขาเพ่งมองดูทรวงอกที่เป็นกระเปาะกลมตั้งเต้าของสาวรุ่นอย่างชื่นชม แม้ว่ามันจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่โตนัก แต่ป๊อดก็คิดว่ามันเหมาะเจาะ
สมสัดส่วนของเธอเป็นอย่างดี

แต่จ๋าดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับขนาดทรวงอกของเธอเท่าไหร่นัก เธอใช้มือทั้งสองประคองเต้ากลมกลึงของเธอแล้วเบ้ปากอยู่น้อยๆ
พร้อมกับหันซ้ายหันขวาสำรวจเรือนร่างของเธออย่างพิจารณา

ป๊อดยิ่งมองดูก็ยิ่งรู้สึกปั่นป่วนอารมณ์ขึ้นทีละน้อยๆ เขาพยายามสกัดกั้นไม่ให้อารมณ์ของตัวเองลุกโชนมากไปกว่านี้ แต่ก็ดูเหมือน
สถานการณ์จะไม่เป็นใจกับเขาเท่าไหร่นัก เมื่อจ๋าเริ่มปลดเข็มขัดและตะขอกระโปรงของเธอออก ก่อนที่จะปล่อยมันลงไปกองกับพื้น
จนเผยให้เห็นขาขาวเรียวงามอย่างชัดเจน ป๊อดมองดูเธอจากด้านข้างทำให้เขาเห็นความโด่งงอนของบั้นท้ายและส่วนโค้งนูนบริเวณ
ด้านหน้าของเธอได้อย่างชัดเจนจนเขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า รูปร่างอ้อนแอ้นบอบบางภายใต้กระโปรงสีน้ำเงินเมื่อสักครู่
จะซ่อนส่วนสัดที่ยั่วยวนได้ถึงขนาดนี้

ลำเอ็นของป๊อดเริ่มแข็งตัวอย่างไม่สามารถควบคุม ตาของเขาจ้องมองไปที่เรือนร่างของจ๋าที่กำลังหันซ้ายหันขวาอย่างไม่กระพริบ
ตอนนี้เขาล้มเลิกความพยายามสกัดกั้นอารมณ์ความต้องการของเขาไปแล้ว เหลือแต่รอลุ้นให้เธอเปิดเผยสัดส่วนสุดท้ายให้เขาได้เห็น
อยู่เพียงอย่างเดียว

และแล้วสิ่งที่ป๊อดกำลังลุ้นอยู่ก็เกิดขึ้น เมื่อจ๋าใช้มือรูดซับในตัวน้อยของเธอ แล้วก้มตัวดึงมันออกไปจากปลายขาทีละข้างโดยหันบั้นท้าย
มาทางเขา เผยให้เห็นกลีบเนื้อขาวนวลเนียนที่เบียดเสียดกันอยู่ระหว่างเรียวขางามของเธออย่างชัดเจน ป๊อดถึงกับจ้องมองดู
อย่างไม่วางตาและรู้สึกถึงเลือดในกายของตนเองที่สูบฉีดแรงขึ้น

จ๋าเหวี่ยงกางเกงในตัวน้อยไปยังตะกร้าที่วางอยู่ไม่ไกลนักแต่พลาด มันกลับไปคลุมทับอยู่ที่ส่วนหัวของตุ๊กตาเซรามิครูปเด็กผู้ชาย
ที่ตั้งประดับอยู่ที่พื้น แต่เธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจใดๆ หันกลับมายืนชื่นชมสัดส่วนของตัวเองที่หน้ากระจกอยู่อีกครู่ใหญ่ ก่อนที่จะเดิน
ไปหยิบหมวกอาบน้ำมาสวมใส่

ป๊อดกำลังเพลิดเพลินกับอาหารตาที่อยู่ตรงหน้า พอเห็นเช่นนั้นก็ใจหายวาบในทันที เขาหันซ้ายหันขวาอย่างลุกลนเพื่อหาหนทาง
ให้รอดพ้นจากสายตาของเธอด้วยเกรงว่าจ๋าจะเข้ามาพบเขาในห้องน้ำ

แต่แล้วคาถากำบังกายซึ่งเขาเคยใช้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครั้งหลบหนิงในห้องน้ำก็ผุดขึ้นมาในความคิด เขาเร่งสำรวมจิตแล้วภาวนา
คาถากำบังกายอย่างรวดเร็วทันที

“มะอะอุ ไม่เห็นตัวกู….มะอะอุ ไม่เห็นตัวกู….มะอะอุ ไม่เห็นตัวกู”

จ๋าเข้ามาในห้องน้ำแล้วผลักประตูปิดพร้อมกับล้อคประตู เธอหันหน้ามาทางป๊อดที่กำลังนั่งหลบอยู่ด้านหลังบานประตู แล้วชะเง้อหา
ของใช้ส่วนตัวที่เก็บอยู่บนชั้นวางที่อยู่เหนือขึ้นไปจากที่ป๊อดนั่งหลบอยู่ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าบริเวณตรงหน้าของเธอในระดับเดียวกันกับ
ของสงวนของเธอนั้น มีชายหนุ่มกำลังจ้องมองดูมันตาเขม็ง ร่างของเธอและเขาใกล้กันเพียงแค่เอื้อมมือถึง

ป๊อดจ้องมองดูตรงส่วนนั้นของจ๋าอย่างไม่วางตา เขาทั้งตกใจและตื่นเต้นจนเหงื่อชุ่มไปทั้งฝ่ามือ มันอยู่ใกล้เขาอย่างที่สุด
ใกล้จนแทบจะได้กลิ่น ในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนถูกกดดันและถูกเร่งเร้าอารมณ์ความต้องการให้ทวีขึ้นอย่างรุนแรง
จนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ท่อนเอ็นของเขาตื่นตัวชี้ตั้งคล้ายกับจะเตือนเจ้าของของมันว่า มันพร้อมที่จะออกศึกแล้ว

จ๋ายังคงยืนนิ่งอยู่ตรงจุดเดิม ค้นหาของใช้ที่วางอยู่บนชั้นอย่างใจเย็น ปล่อยให้ป๊อดจ้องมองดูเนินเนื้อแห่งความเป็นหญิง
ของเธออยู่อย่างเนิ่นนาน จนในที่สุดป๊อดก็หักห้ามใจไว้ไม่ไหว เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ตรงส่วนนั้นของเธอจนเกือบชิด
แล้วลากลิ้นเลียอย่างถนัดถนี่

“ว๊ายยยยยยยยย…….”

จ๋าสะดุ้งขึ้นสุดตัวพร้อมกับส่งเสียงร้องขึ้นอย่างตกใจ เธอรีบถอยร่างออกไปจากจุดนั้น แล้วสอดส่ายสายตามองหาสิ่งที่มาสัมผัส
เรือนร่างของเธออย่างตื่นกลัว แต่พยายามเพ่งมองดูอยู่นานก็ไม่เห็นมีสิ่งใดผิดปกติ เธอทั้งรู้สึกตื่นกลัวและเคลือบแคลง
จนหันไปมองรอบห้อง แต่เมื่อนิ่งเพ่งมองอยู่นานก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ จึงได้แต่คิดไปว่าตัวเองคงวิตกไปเอง

จ๋าไม่กล้าไปยืนอยู่ ณ จุดเดิมอีก ด้วยความที่เป็นคนกลัวผีมาแต่เยาว์วัย เธอผละจากจุดนั้นไปที่ใต้ฝักบัวอย่างนึกระแวง
แล้วเปิดน้ำให้ไหลรินราดรดลงบนเรือนร่างของเธอ ความชุ่มฉ่ำเย็นของน้ำทำให้เธอคลายความเคร่งเครียดและวิตกกังวลลง
เธอยืนแหงนหน้ารับสายน้ำที่พร่างพรมลงบนเรือนร่างเพียวงามของเธออย่างผ่อนคลาย

ป๊อดเดินตามเข้าไปหาเธอด้วยอารมณ์ที่คั่งค้างแล้วจับจ้องเรือนร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาว ในเวลานี้เขาไม่มีความยับยั้ง
ชั่งใจเหลืออยู่อีกแล้ว จะมีก็แต่อารมณ์ที่กรุ่นแน่นไปด้วยความใคร่ และพร้อมที่จะหาหนทางสนองความต้องการของตน
เขาก้าวเข้าไปยืนซ้อนเรือนร่างของเธอที่เบื้องหลังใช้มือข้างหนึ่งปิดปากของเธอไว้แล้วกระซิบลงที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่ดัด
ให้ต่างไปจากเดิม

“อยู่นิ่งๆอย่าส่งเสียงร้อง….ไม่อย่างนั้นฉันจะหักคอเธอซะ”

จ๋าตาเบิกโพลงอย่างตกใจสุดขีด เมื่อรู้สึกถึงร่างที่เข้ามาแนบชิดจากทางด้านหลังและโอบรัดร่างเธอไว้จนแน่น
เธอคิดจะส่งเสียงร้องแต่ก็ถูกมือที่มองไม่เห็นปิดปากของเธอไว้จนแน่นพร้อมกับคำขู่ เธอเกิดความกลัวจนถึงกับ
ยืนนิ่งอยู่กับที่และสั่นเทา

ป๊อดเห็นว่าเธอมีอาการที่สงบลงและไม่ดิ้นรนแล้ว เขาก็คลายแรงกดของฝ่ามือที่ปิดปากเธออยู่ แล้วพูดขึ้น

“เธอบังอาจโยนของต่ำของเธอมาคลุมหัวฉัน เธอต้องชดใช้”

พอได้ยินอย่างนั้นจ๋าก็คิดถึงตุ๊กตาเซรามิคตัวนั้นขึ้นมาทันที เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะโยนกางเกงในไปคลุมหัวมันเลย
แต่มันเป็นความบังเอิญ เธอคิดไปเองว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่เป็นดวงวิญญาณที่สิงสถิตย์อยู่ที่ตุ๊กตาตัวนั้น
จ๋ารีบระล่ำระลักพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือทันที

“หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูขอโทษ อย่าทำอะไรหนูเลย”

“ไม่ได้ เธอต้องชดใช้ที่บังอาจมาทำกับฉัน”

จ๋าเริ่มใจเสียด้วยความกลัว พูดออกมาด้วยเสียงที่คล้ายกำลังร้องไห้

“หนูขอโทษจริงๆ พี่ผี….จะให้หนูทำอะไรหนูยอมทั้งนั้น อย่าหักคอหนูเลย”

“ถ้าอย่างนั้นก็อยู่นิ่งๆ”

ป๊อดเลื่อนฝ่ามือทั้งสองลงจากลำคอของหญิงสาว ไต่ลงสู่ทรวงอกกลมกลึงแล้วเกาะกุมไว้จนเต็มอุ้งฝ่ามือ เขาเค้นคลึงมัน
อย่างเบามือและทนุถนอม จ๋าตาเบิกโพลงแล้วยกมือขึ้นปัดป้องทันที เมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกมือที่มองไม่เห็นล่วงล้ำมาที่
ทรวงอกของเธอ

“อย่า….อย่าค่ะ…พี่ผี….”

“ฉันบอกให้อยู่นิ่งๆไง”

ป๊อดทำเสียงเข้มดุใส่ เมื่อถูกมือของเธอเข้ามาขัดจังหวะ และมันก็ได้ผลจ๋าลดมือลงอย่างไม่เต็มใจเพราะความกลัว
เธอยืนหลับตาปี๋ปล่อยให้มือของป๊อดเค้นคลึงทรวงอกของเธอโดยไม่ขัดขวางอีก ป๊อดได้ใจจีบสองนิ้วบดบี้ยอดงามสีชมพู
ทั้งสองของเธอสลับกับเค้นคลึงอย่างสมอยาก แล้วลอบมองดูใบหน้าของจ๋าที่กำลังหลับตาปี๋ขมวดคิ้วน้อยๆพร้อมกับ
เผยอปากออกมาทำให้เขายิ่งรู้สึกงุ่นง่านปั่นป่วนยิ่งขึ้น ป๊อดแอ่นช่วงล่างเข้าไปแนบชิดกับบั้นท้ายงอนงามของจ๋า
จนลำเอ็นแข็งเกร็งของเขาพาดสัมผัสกับร่องก้นของเธอ

จ๋าพยายามถดถอยด้วยการแอ่นสะโพกหนีห่างให้มากที่สุด เพราะรับรู้ได้ว่าเจ้าท่อนแข็งๆที่อุ่นร้อนนั้นคืออะไร
แต่ป๊อดก็ละมือข้างหนึ่งออกจากทรวงอกของเธอลดต่ำลงมาเกาะกุมเนินสวาทที่โหนกนูนเป็นหลังเต่าจากการ
แอ่นหนีท่อนเอ็นของเขาอย่างถนัดถนี่

“โอ๊ะ…..ไม่ค่ะ…พี่ผี…เอามือออกไป………..อย่า…อย่าค่ะ…..โอ๊ะ…….”

จ๋าส่งเสียงร้องห้ามอย่างตกใจที่ถูกล่วงล้ำจุดสำคัญจนรู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่แผ่กว้างและแข็งแรงกำลังบดคลึงของสงวน
ของเธอ และพยายามแบะกลีบเนื้ออันปิดสนิทของเธอให้แยกออกจากกัน โดยมีนิ้วมือหนึ่งที่ไม่อยู่สุขสอดส่ายไปมา
เพื่อหาทางสอดลึกล่วงล้ำเข้ามาภายในร่างของเธอ จนสัมผัสเข้ากับปุ่มเสียวที่แม้แต่ตัวเธอเองก็พยายามหลีกเลี่ยง
ไม่ถูกต้องสัมผัสมัน

“อย่าค่ะพี่ผี…….อย่า…โอ๊ะ……..อืมมมมม……..ไม่เอาค่ะ….อู็วววว…..”

จ๋าร้องห้ามด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นสั่นพร่า เธอพยายามถดถอยสะโพกหนีมืออันซุกซนของป๊อดแต่บั้นท้ายของเธอ
ก็ไปชนเข้ากับเจ้าท่อนเอ็นแข็งเกร็งที่ชี้ยาวออกมา จนเธอต้องขยับสะโพกหนีเข้าหามือของเขาอีกครั้ง นิ้วกลางของป๊อด
สอดส่ายหายเข้าไปในร่องหลืบของเธอจนพบเป้าหมายแล้วกดทิ้งน้ำหนักลงบนปุ่มเสียวพร้อมกับคลึงวนอย่างชำนาญ

“โอ๊ววว……..อย่าทำหนูเลยพี่ผี……โอ๊ววววว…..ซี๊ดดดดด…….อย่าค่ะ…….อ๊าาาา……”

เสียงร้องห้ามของเธอเริ่มหดหายและเปลี่ยนหางเสียงเป็นครวญคราง สภาพของจ๋าในตอนนี้คล้ายถูกล้อคไว้ด้วยกลสวาท
อันชำนาญของป๊อด มือข้างหนึ่งของเขาเค้นคลึงทรวงอกหญิงสาวพร้อมกับใช้นิ้วไล้วนไปที่ยอดงามสีชมพู ส่วนอีกข้าง
ก็เกาะกุมเนินสาวพร้อมกับบี้บดติ่งเสียวไปพร้อมกัน อีกทั้งบริเวณด้านหลังของเธอก็ถูกร่างของเขาทาบประชิดส่งลำเอ็น
อันแข็งเกร็งเข้าก่อกวนที่บั้นท้ายของเธอ พร้อมกับซุกไซ้ใบหน้าไปตามลำคอและใบหูของหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง

ป๊อดเริ่มรับรู้ถึงเมือกลื่นที่ถูกขับออกมาจากร่องหลืบของหญิงสาว เรือนร่างของเธอเริ่มอ่อนระทวยไม่แข็งเกร็งขัดขืน
เหมือนในทีแรก ป๊อดจึงจับไหล่ของเธอให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาแล้วประทับจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ ลิ้นของป๊อด
สอดส่ายพัวพันกับลิ้นของจ๋าอย่างดูดดื่ม แล้วผลักดันร่างของเธอจนไปติดกับผนังห้องน้ำใต้ฝักบัว

จ๋ายืนรับรสจูบแรกของเธออย่างเคลิบเคลิ้ม เธอหลับตานิ่งปล่อยให้เจ้าผีในความคิดของเธอจูบแล้วใช้มือลูบไล้สำรวจ
เรือนร่างของเธอไปจนถ้วนทั่วอย่างไม่ขัดขืน เธอเริ่มรู้สึกเป็นสุขจากรสสัมผัสจนคลายความหวาดกลัวลง เจ้าผีของเธอ
ถอนริมฝีปากออกจากการจูบแล้วหันมามาซุกไซ้ที่หน้าอก มันอ้าปากงับยอดอกที่กำลังชี้ชันเข้าไว้ในปากพร้อมกับ
ดูดกินอย่างหิวกระหาย สร้างความซ่านเสียวให้กับเธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนเผลอตัวครางออกมาอย่างเปิดเผย

“อ้าาาาาา…….ซี๊ดดดดดดดดดดด………………อืมมมมมม……..”

ป๊อดเชยชมทรวงอกงามของจ๋าจนพอใจแล้ว ก็ลดตัวต่ำลงมาจนเผชิญหน้ากับเนินงามกลางหว่างขาของหญิงสาว
เขาจับเรียวขาข้างหนึ่งของเธอพาดบ่าตัวเองไว้ แล้วจ้องมองดูมันอย่างหลงใหลพร้อมกับรำพึงอยู่ภายในใจว่า
มันช่างสวยน่ารักเหมือนกับตัวเธอไม่มีผิด กลีบเนื้อทั้งสองอวบอูมขาวเนียนปกคลุมไปด้วยเส้นขนอ่อนละเอียด
อยู่บางตา

จ๋ารู้สึกถึงลมอุ่นๆเหมือนกับมีคนกำลังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ตรงส่วนนั้นของเธอ เธอรู้สึกวูบวาบจนขนลุกไปทั้งร่าง
แล้วใช้สองมือดันรั้งหัวของป๊อดไว้ทั้งที่มองไม่เห็น แต่ป๊อดไม่รอให้เธอดิ้นรนขัดขืน เขารีบฝังจมูกและริมฝีปากซุกไซ้ลงไป
ทั้งดอมดมและชิมรสชาติของเธออย่างสมอยาก กลีบเนื้อขาวเนียนตาของเธอเผยอออกจากการที่เขารั้งขาของเธอไว้บนบ่า
จึงทำให้ลิ้นของป๊อดล่วงล้ำชอนไชเข้าไปอย่างง่ายดาย

จ๋าสะดุ้งเฮือกขึ้นสุดตัวพร้อมกับส่งเสียงร้อง ความเสียวจี๊ดแล่นขึ้นสู่ท้องน้อยจนเธอต้องเกร็งหน้าท้องแล้วหยิกกำเส้นผมของป๊อด
ไว้จนแน่น

“อ๊ายยยยยยยยย……………….อ๊ายยยยยยยยยยย……………อ๊ายยยยยยยย………….”

ป๊อดยิ่งได้ยินเสียงร้องก็ยิ่งได้ใจ เขาห่อปากจ่อไปที่ติ่งเสียวของเธอ แล้วดูดมันจนเกิดเสียงดังเป็นช่วงๆ จนจ๋าเขย่งปลายเท้า
หน้าท้องเกร็งแข็ง ส่งเสียงร้องอย่างระบายความเสียวออกมาอย่างสุดจะทน

“ซู๊ดดดด…….ซู๊ดดดด………ซู๊ดดดด…….ซู๊ดดดด………ซู๊ดดดด…….ซู๊ดดดด………ซู๊ดดดด…….ซู๊ดดดด………”

“อ๊ายยยย…..อ๊ายยยยย……….อ๊ายยยยย…….พอก่อนเถอะพี่ผี……อ๊ายยยยย……จ๋าเสียวเหลือเกิน….อ๊ายยยยยย….”

ป๊อดแทบไม่ถอนใบหน้าออกจากหว่างขาของเธอเลย ยิ่งเขาได้ยินเสียงร้องครวญครางของจ๋า เขาก็ยิ่งห่อปากดูดติ่งเสียวของเธอ
ถี่ขึ้นแรงขึ้น คล้ายกับมีความสุขที่ได้ยินเสียงเธอร้องครวญคราง จ๋าหลับตาปี๋ส่ายหน้าร้องครวญครางอย่างต่อเนื่อง มันทั้งสุข
ซาบซ่านและเสียวจนแทบจะขาดใจ

และแล้วเธอก็มีความรู้สึกคล้ายกับตัดขาดจากโลกภายนอก ร่างของเธอเหยียดเกร็งและกระตุกอย่างไร้การควบคุม
เธอรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยไปในอากาศ เธอจึงจุดสุดยอดอย่างสุขล้นคาปากของป๊อด ขาทั้งสองของเธออ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง
ทรุดฮวบลงจนป๊อดต้องประคองร่างของเธอเอาไว้

“อ๊ายยยยยย……อ๊ายยยยยยยย……ไม่ไหวแล้ว……โอ๊ววว…..โอ๊ววววว……โอววววววววววว……..”

ป๊อดช้อนร่างของเธอเอาไว้้ในอ้อมแขน แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ววางร่างอ้อนแอ้นของเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล
แล้วเอนร่างลงทาบทับเริอนร่างบางของเธอไว้ ท่อนเอ็นอันแข็งเกร็งของเขาจรดจ่อลงที่รอยแยกกลางเนินเนื้อสาว
พร้อมที่จะชำแรกแทรกตัวลงไปในถ้ำน้อยของเธอ

จ๋ายกสองแขนขึ้นผลักดันเอาไว้ราวกับว่ามองเห็น เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายไม่ให้เขาเคลื่อนร่างเข้ามาอีก
แต่มันไม่ได้ผลเพราะสิ่งที่ป๊อดขยับเคลื่อนไหวคือสะโพก เขาใช้มือจับแก่นกายที่แข็งตัวอย่างเต็มที่ของเขา
หมุนวนราวกับจะขอเบิกทางแล้วขยับสะโพกเข้าไป ส่งผลให้ส่วนหัวอันมีเงี่ยงที่เบ่งบานของมันทะลวงเยื่อ
แห่งความบริสุทธิ์ของเธอจนขาดสะบั้น

จ๋าสะดุ้งเฮือกร้องออกมาด้วยความเจ็บ เธอรับรู้ได้ถึงขนาดความใหญ่โตที่หยุดนิ่งคาอยู่ในช่องท้องได้เป็นอย่างดี
มันทั้งคับแน่นและอึดอัด จนเธอคิดไปว่าเธอคงไม่อาจทนได้หากเจ้าผีตัวนี้ยังขืนดันส่วนนั้นของมันเข้ามาอีก

แต่ป๊อดก็รู้จังหวะเชิงรักเป็นอย่างดี เขาปล่อยท่อนเอ็นนิ่งแช่ไว้อย่างนั้นแล้วบดหมุนคลึงสะโพกจนแนบแน่น
ไปกับเนินเนื้อของเธอ กายแนบกาย สัมผัสที่แนบชิด ทำให้จุดที่ไวต่อสัมผัสเสียดสีกันไปมา จนจ๋าเกิด
ความเคลิบเคลิ้มขึ้นอีกครั้งแล้วร่อนส่ายสะโพกติดตามเขาอย่างลืมตัว

ป๊อดเริ่มยกสะโพกขึ้นน้อยๆ แล้วขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ เขาจ้องใบหน้าของจ๋าที่กำลังบิดเบี้ยวไปด้วยความเสียวซ่าน
ยิ่งจ้องมองใบหน้าของเธอ อารมณ์ใคร่ของเขาก็ยิ่งร้อนระอุ

เรียวขาทั้งสองของเธอถูกเขายกขึ้นพาดบ่าแล้วยึดจับเอวอันคอดกิ่วเอาไว้ แล้วเริ่มโยกสะโพกอย่างเนิบนาบ

“โอ๊ววววว……ซี๊ดดดดดด……”

จ๋าหน้าบิดเบี้ยวส่งเสียงครางดังออกมาตามจังหวะของป๊อด แล้วถี่ครั้งครั้งขึ้นเรื่อยๆตามจังหวะกระแทกกระทั้นของป๊อด

“โอ๊ววว………….ซี๊ดดดดด………………….โอ๊ววว………….ซี๊ดดดดด………………….โอ๊ววว………….ซี๊ดดดดด………………….”

ป๊อดกัดกรามจนขึ้นเป็นสันนูนด้วยความเสียวอย่างที่สุด ร่องหลืบของจ๋าหนึบแน่นจนเขาแทบจะปลดปล่อยน้ำรักออกมาอยู่หลายครั้ง
แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เขารู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาในเกมส์รัก ทำให้ยืดระยะเวลามาได้ แต่ในตอนนี้ร่องหลืบของจ๋า
กำลังตอดรัดลำเอ็นของเขาอย่างรุนแรงจนเขาแทบจะหมดความอดทน แม้ว่าเขาหยุดนิ่งเพื่อพยายามผ่อนจังหวะแต่ร่องหลืบของเธอ
ก็ยังคงตอดรัดอย่างไม่หยุด จนป๊อดต้องตัดสินใจเดินหน้าโยกบั้นเอวอย่างรุนแรงและต่อเนื่องโดยหมายจะให้เธอถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกับเขา

“ตั้บบบ….ตั้บบบ……ตั้บบบ….ตั้บบบ……ตั้บบบ….ตั้บบบ……ตั้บบบ….ตั้บบบ……ตั้บบบ….ตั้บบบ……”

“โอ๊ววว….ซี๊ดดดด…….โอ๊วววว….ซี๊ดดดดด……โอ๊ววว….ซี๊ดดดด…….โอ๊วววว….ซี๊ดดดดด……โอ๊ววว….”

เสียงร้องครวญครางอย่างซ่านเสียวของทั้งคู่ดังสอดประสานจนลั่นไปทั้งห้อง และแล้วในที่สุดจ๋าก็ส่งเสียงร้องดังยาว
ออกมา แล้วติดตามมาด้วยเสียงของป๊อด

“โอ๊ะ….พี่ผี….โอ๊ะ……..โอ๊ะ…..โอ๊วววววววววววววว……….”

“โอ้ววว…..จ๋า….โอววว…..จ๋า……จ๋าของพี่…….โอวววววววว……..”

ป๊อดทอดร่างทาบทับร่างของจ๋าปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนทะลักล้นอย่างสุขล้น จ๋าเองก็เช่นเดียวกันเธอรู้สึกซาบช่าน
ไปทั้งร่างโอบแขนกอดรัดร่างของเขาไว้จนแน่นอย่างอิ่มสุข

Share the Post:

Related Posts

ประสบการณ์เย็ดกับอาจารย์ในมหาลัย

เรื่องเสียว ประสบการณ์เย็ดกับอาจารย์ในมหาลัย ก่อนอื่นต้องบอกผมเป็นนักศึกษา ปี 2 ประจำมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ผมเป็นคนที่ชอบเที่ยวชอบกินเหล้าสังสรรค์กับพวกเพื่อน ๆ บ่อยครั้งที่ต้องออกไปปาร์ตี้กับรุ่นพี่ เนื่องจากผมเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายทำให้ค่อนข้างจะรู้จักกับคนมากหน้าหลายตา เมื่อผมจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์เสี่ยว ผมจึงอยากออกตัวก่อนว่าเหตุการณ์ไม่ใช่ครั้งแรกของผม ถึงแม้ว่าหน้าตาผมจะไม่หล่อเหลาจนสาวเหลียวแต่ก็พอได้กรุบกริบบ้างเล็กน้อย จนกระทั่งวันที่ผมจะไม่มีทางลืมเด็ดขาดคือการได้หลับนอนกับครูสาวประจำภาควิชาของตัวเอง ผมคงไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าผมเรียนคณะอะไรแต่ก็พอชี้เป้าได้ว่าอาจารย์คนนั้นออกแนวสายฝอ. และค่อยข้างจะเจนจัดในด้านนี้พอสมควร ในคืนของวันศุกร์ผมกับรุ่นพี่ได้นับกันไปนั่งกินเหล้าอยู่ริมชายหาด ผมที่ไม่เคยปฏิเสธรุ่นพี่อยู่แล้วจึงตอบตกลง ในวงเหล้าก็จะมีรุ่นพี่อยู่ประมาณ 7-8

Read More

ชู้รักในห้องยาม

เรื่องเสียว ชู้รักในห้องยาม สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน ดิฉันชื่อ สิรินทิพย์ หรือชื่อเล่น หยก ขออนุญาตใช้สรรพนามแทนว่าป้านะคะเพราะเกือบ 50 แล้ว 555+ ป้าเป็นคนที่บ้ายอเรื่องคำพูดมาก โดยเฉพาะเรื่องร่างกายเลยต้องทำให้ตนเองนมใหญ่ หีต้องฟิต หุ่นเป๊ะเอวทรงเอส อยู่ตลอดเวลา ผัวป้ามักจะชมบ่อยๆ พอผัวป้าชมทีไร หัวนมนี่ตั้งพร้อมให้ดูดมากเลย

Read More