กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 18

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 18

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 18
โดย saradio

ฮิเดตะพอเห็นผมโพล่เข้ามาก็ตกใจหน้าเสีย ถึงกับอุทานว่า ซวยแล้ว ผมรีบถามต่อไปว่า
“พวกคุณกำลังพูดถึงเรกะอยู่ใช่มั๊ย เธออยู่ไหนพาผมไปหาเธอหน่อย”
ฮิเดตะกลืนน้ำลาย ยังไม่พูดอะไรออกมาหันไปมองมิโนฮาระเหมือนขอความเห็นว่าจะเอายังไงดี แต่มิโนฮาระยกสองมือเหมือนขอบายท่าทางมีความหมายว่า เรื่องนี้กูจะไม่ยุ่ง แล้วแต่มึงเลยกูไม่อยากเอาคอไปขึ้นเขียงอีกคน แล้วค่อยๆ ถอยตัวออกไป จากนั้นก็เดินออกจากห้องประชุมไปทิ้งให้ฮิเดตะต้องรับหน้าผมเพียงลำพัง
“นายพูดถึงอะไร แล้วเข้าห้องมาทำไมไม่รู้จักเคาะห้องก่อนเสียมารยาทจริงๆ”
ฮิเดตะ เฉไฉ ทำสีหน้าไม่พอใจต่อว่าผมเพื่อกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากตอบคำถามผมแต่ผมก็ไม่ลดละที่จะถาม
“คุณ ฮิเดตะครับ ผมได้ยินหมดแล้ว คนที่สั่งคุณ ให้พาผมมาญี่ปุ่น คือเรกะ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนผมอยากเจอเธอ”
ผมพูดด้วยใจที่ร้อนรนทั้งที่ความจริงเรื่องของเรกะกับผมมันควรจะจบลงไปแล้วถ้าผมไม่รู้ข่าวคราวอะไรของเธอเลย ผมยังรู้สึกเฉยๆ ถึงแม้จะคิดถึงบ้างเป็นบางเวลาแต่ก็หักห้ามใจได้ แต่พอมารู้แบบนี้ว่าเธอคือคนพาผมมาญี่ปุ่น ทั้งยังให้ฮิเดตะดูแลผมอย่างดี ทำให้ผมรู้ว่าเธออยู่แค่เอื้อมเลยกระตุ้นความรู้สึกคิดถึงขึ้นมาจนเปี่ยมล้น จนอยากจะเจอเธอสักครั้ง
ฮิเดตะ อ้ำอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะพูดว่า
“ระ. เรกะ ไหน ฉันไม่รู้จัก.. อ๋อตอนนี้ฉันงานด่วนต้องทำเอาไวคุยกันวันหลัง”
ฮิเดตะ พยายามตัดบทและไม่ยอมบอกอะไร เหมือนเขาลำบากใจอย่างมากถ้าต้องบอกผมว่าเรกะอยู่ไหน หรือพาผมไปหาเรกะเขารีบจ้ำอ้าวออกจากห้องโดยไม่สนใจเสียงผมที่เรียกทัดทาน
ผมพยายามตามไปจะถามให้รู้เรื่องอีกแต่ฮิเดตะก็หลบหน้าผมออกจากอ๊อฟฟิตไปข้างนอก ผมเลยต้องไปถามมิโนฮาระเพื่อจะได้เรื่องมั่ง
มิโนฮาระทนผมเซ้าซี้ไม่ไหว ต้องพูดว่า
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรหรอก และไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้นรู้มากก็เดือดร้อนมาก นายก็เหมือนกันไม่ต้องไปตามคาดครั้นท่านประธานให้มากนักหรอกถ้าคุณหนูเขาอยากเจอนาย เขาก็บอกท่านประธานเองแหละ แต่ท่านประธานไม่อยากบอกอะไรนายก็เพราะคุณหนูสั่งไม่ให้บอกยังไงหละ แต่ถ้านายจะถามเอาให้ได้รู้มั๊ยว่าท่านประธานนั่นแหละจะเดือนร้อน เขาช่วยเหลือนายมาขนาดไหนทำไมไม่เห็นใจเขามั่งว้า…”
มิโนฮาระพูดให้ผมได้คิดทำให้ผมรู้สึกผิดต่อฮิเดตะ ผมก็เลยไม่ไปคาดครั้นถามคุณฮิเดตะอีกแต่ก็ไม่ล้มเลิกความคิดที่จะไปเจอเรกะ
วันนั้นผมกลับห้องด้วยใจที่วุ่นวายพอควรคิดไม่ออกว่า ทำยังไงถึงจะได้เจอเรกะ แต่แล้วก็มีรถตู้คันหนึ่งขับมาจอดข้างหน้าขณะผมกำลังเดินกลับที่พัก ชายฉกรรจ์สี่ห้าคนลงมาจากรถ เขามาตะครุบตัวจับผมเอาไว้ แล้วคนหนึ่งก็เอาผ้าโป๊ะจมูกผม
“เฮ้ย… มันเรื่องอะไรกันว่ะ”
ผมโวยวายถาม อย่างไม่ทันตั้งตัว แต่แล้วก็รู้สึกตัวเองไร้เรียวแรงแล้วมึนหัวอย่างมาก ผมดิ้นรนอยู่ไม่นานก็รู้สึกตัวเองวูบไป
ผมมารู้สึกตัวอีกที่ ก็รู้สึกว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นแข็งๆมือและเท้าถูกมัดอยู่ ปากก็พูดไม่ได้และตาก็มองไม่เห็นเพราะถูกปิดด้วยผ้าผมส่งเสียง อื้มๆ อยู่ในลำคอ ก่อนจะลองขยับตัว แต่ก็กระดิกกระเดี้ยอย่างลำบาก
ฉิบหายแน่กู นี่มันเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ยผมร้องบอกตัวเองในใจ และพยายามดิ้นรนหาทางแก้มัดตัวเองให้หลุดพ้นพันธนาการผมคิดว่าพวกมันไม่มีใครอยู่ดูผมไม่อย่างนั้นพวกมันต้องเข้ามาจัดการผมแล้วถ้าเห็นผมพยายามดิ้นรนเพื่อแก้มัดตัวเอง
แต่ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ผมเลยต้องหยุดการดิ้นรน แกล้งทำเป็นสลบไม่ได้สติต่อเพื่อดูว่าพวกมันต้องการอะไรจากผม เสียงประตูห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องที่ผมอยู่เปิดออกดัง แอ๊ด แล้วได้ยินเสียงร้องเท้ากระทบพื้น ดังกึกๆ เดาว่าน่าจะมีเกิน 3-4คนเข้ามาในห้อง
“แน่ใจนะ ว่าจับมาไม่ผิดตัว”
“ครับ ..ผมสืบมาอย่างดีแล้วไอ้หมอนี่แหละที่ติดเกาะอยู่กับคุณหนู และถูกคุณหนูแอบพามาญี่ปุ่น โดยให้อยู่กับเจ้าฮิเดตะ…ว่าแต่คุณ โคอิจิ แน่ใจหรือครับว่า ทั้ง 2 คนมีอะไรกัน”
“หึ หึ หึ..ชายหนุ่มหญิงสาวติดเกาะอยู่ด้วยกันนับเดือนจะบอกว่ามันไม่เกิดอะไรขึ้นก็คงเชื่อได้ยาก..แล้วถ้าไม่มีอะไรกัน ทำไมต้องแอบพามันมาญี่ปุ่นส่งเสริมเลี้ยงดูมันอย่างดี นี่ก็เท่ากับว่าเป็นหลักฐานที่ชัดแล้ว….หรือแกว่ายังไง”
“ครับ..ถ้ายังงั้นละก็ เราก็ใช้ไอ้หมอนี้ไปเปิดโปงเรกะ คิดว่าท่านประธานคงทนอับอายไม่ไหว ต้องปลดเรกะออกจากตำแหน่งผู้สืบทอดแน่ๆแล้วคุณโคอิจิ ก็จะได้ขึ้นแทน…แต่ว่า ถ้าท่านประธานไม่ยอมปลดเรกะหละเราจะทำยังไงดี”
“หึๆ ถึงตอนนั้น หัวหน้าสาขาอื่นๆ ก็คงไม่สนับสนุนเรกะอีกต่อไปแล้วฉันก็จะจัดการทั้ง 2 คนพ่อลูกพร้อมกันไปเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า…เอาหละ อีก 3วันจะมีการประชุมใหญ่ หัวหน้าสาขาต่างๆจะมาชุมนุมกันฉันจะใช้วันนั้นแหและเล่นงานเรกะ แกก็เฝ้าดูมันไว้อย่าให้มันเป็นอะไรไปก่อนหละ”
โคอิจิ สั่งลูกน้องให้คุมตัวผมไว้ ในห้องแคบๆ นั้น 3 วันโดยให้ลูกน้องมากล่อมผมให้ยอมรับสารภาพ ว่ามีอะไรกับเรกะจริงๆ ผมรู้ได้เลยว่าเรกะลำบากแน่ ถ้าผมยอมรับออกไป และไปเป็นพยานในวันประชุมสาขาผมเลยไม่พูดอะไรเลยแม้สักครึ่งคำ พวกมันซ้อมผมอย่างหนักเพื่อให้พูด จนผมน่วมไปทั้งตัว ตอนนั้นในใจผมทั้งแค้นทั้งโมโหคิดในใจว่าอย่าให้กูหลุดไปได้นะมึง กูจะตามฆ่ามึงแน่ แล้วผมก็คิดอะไรขึ้นมาได้ คิดว่าถ้าผมจะต้องตายก็จะลากพวกมันลงนรกไปด้วยเลยคิดจะซ้อนแผน โดยแกล้งยอมรับสารภาพ บอกว่า ถ้าพูดออกไปเรกะต้องฆ่าผมแน่ถ้าจะให้ผมไปเป็นพยานพูดวันนั้น ผมต้องได้รับการคุ้มครอง และขอเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเอาไว้หนีกลับประเทศไทยและจะไม่มาญี่ปุ่นอีก
ผมใช้บทบาทการแสดงทำให้พวกมันหลงเชื่อว่าผมพูดจริง พวกมันรับปากตามที่ผมต้องการ แต่ผมคิดว่าต่อให้เสร็จงานนี้ พวกมันก็ไม่ปล่อยผมไว้แน่นอน
พอวันประชุมใหญ่มาถึง พวกหัวหน้าสาขาต่างๆของแก็งค์ ก็ไปร่วมตัวกันที่บ้าน คิมิยะ บ้านญี่ปุ่นทรงโบราญ ที่ผมแอบไปด่อมๆ มองๆในตอนแรก
พวกโคอิจิคุมตัวผมไว้ในรถตู้และเตรียมก่อการยึดอำนาจจากพ่อของเรกะ เพื่อให้โคอิจิขึ้นเป็นหัวหน้าแทน
ผมนั่งรอบนรถด้วยใจระทึกการประชุมเริ่มไปตั้งนานแล้ว และคิดว่าน่าจะมีการถกเถียงเรื่องเรกะกับผมมาเป็นประเด็นแล้วแน่ๆเพราะคนของโคอิจิเริ่มเคลื่อนไหวไปวางกำลังตามจุดต่างๆ
และแล้วผมก็ถูกพาตัวลงจากรถตู้ไปห้องโถงที่พวกยากูซ่าประชุมอยู่เมื่อประตูเลื่อนญี่ปุ่นบานหนึ่งถูกเลื่อนออก ผมก็เห็นห้องกว้างขนาดใหญ่ ที่มีคนนั่งเรียงแถว 2 ฝั่ง โดยมีชายสูงอายุคนหนึ่งนั่งอยู่บนแท่นตรงกลางและเหมือนมีอาการป่วยเป็นโรคประจำตัว เพราะต้องใช้สายอ๊อกซิเจนช่วยในการหายใจ
ด้านข้างของชายสูงอายุ มีผู้หญิงในชุดกิโมโนที่งามอย่างเย่อหยิ่ง นั่งสงบนิ่งอยู่ เธอจะเป็นใครอื่น ไปไม่ได้นอกจากเรกะลูกสาวยากูซ่า ที่ผมคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เธอมองผมด้วยแววตาที่สั่นระริกแต่สีหน้าและอริยะบทยังสงบนิ่ง ไม่แสดงอะไรออกมา
และผมก็ยังเห็น ฮิเดตะ ที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงกลางวงล้อมที่ประชุม เหมือนกำลังถูกสอบสวน
“ฮิเดตะ แกยังปากแข็งอีกเหรอ นี่ไงคนที่ฉันบอกว่าแกให้ความช่วยเหลือมันตามคำสั่งของเรกะ”
โคอิจิบอกเสียงดัง แล้วลากผมเข้าไปนั่งข้างฮิเดตะฮิเดตะตัวสั่งงันงกพูดอะไรไม่ออก คงรู้ตัวว่าไม่รอดแน่ๆ แต่มันก็ยังภัคดีต่อเรกะไม่พูดอะไรสักคำเดียว
“เอาละ แกพูดไป เล่าออกมาให้หมด ว่าแกกับเรกะเป็นอะไรกัน”
โคอิจิ หันมาบอกผมให้ผมพูด อย่างกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างผู้มีชัย โดยทั้งห้องประชุมต่างจับจ้องมองผมเป็นจุดเดียวผมจึงต้องเริ่มพูด
“ผม..เป็น คนรักของเรกะ”
เสียงฮือฮาดังขึ้น เมื่อผมพูดประโยคนี้เรกะเองก็ตัวสั่นระริกหายใจไม่ทั่วท้อง แล้วผมก็พูดต่อ
“แต่ผมรักเธอข้างเดียว เธออยู่สูงเกินจะเอื้อม ผมจึงวาดฝันไว้ว่าสักวันหนึ่งผมจะมีฐานะคู่ควรกับเธอ ผมจึงมาที่ญี่ปุ่นและทำงานกับฮิเดตะ…..”
“มึงพูดอะไรของมึงว่ะ”
โคอิจิ เข้ามากระชากคอผม เมื่อผมพูดไม่ตรงกับที่เคยสารภาพกับพวกมันแต่ท่านประธาน ทาเอดะ พอจะเห็นทางรอดของเรกะ เลยรีบห้ามบอกว่า
“แกจะใจร้อนอะไร โคอิจิ ไม่ฟังมันให้จบก่อน เรื่องทั้งหมดจะได้กระจ่าง”
หัวหน้าสาขาอื่นๆ ก็อยากจะฟังให้รู้เรื่องก็พากันส่งเสียงสนับสนุนให้ฟังก่อน โคอิจิ จึงทำอะไรไม่ได้ถอยออกไปอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กระซิบบอกผมว่า
“ถ้ามึงไม่พูดตามที่มึงเล่าให้กูฟังละก็ กูฆ่ามึงแน่”
ผมยิ้มอย่างไม่ยีหระ นึกในใจว่า มึงพลาดแล้วที่ปล่อยให้กูมาพูดแล้วผมก็พูดต่อว่า
“เมื่อเรกะรู้ว่าผม มาทำงานกับฮิเดตะ ครั้งหนึ่งผมเคยช่วยชีวิตเธอเธอจึงตอบแทนผม โดยให้ฮิเดตะสนับสนุนผม ถือว่าเป็นน้ำใจที่ชาวยากูซ่าที่รักคุณธรรมน้ำมิตรตอบแทนกัน ไม่มีสัมพันธ์ชู้สาวใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเพียงแต่เธอขอให้ผมทำงานให้เธอชิ้นหนึ่ง นั้นคือจับคนทรยศ ที่คิดปองร้ายเธอและพ่อของเธอ โดยให้ปล่อยข่าวว่าผมมีอะไรกับเธอตอนอยู่บนเกาะเพื่อล่อคนนั้นออกมาจับตัวผม ใช้ประโยชน์จากผมมาทำลายคุณหนูเรกะและตอนนี้คนๆนั้นก็หลงกลแล้ว มันก็คือเจ้าโคอิจิ ผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารเรกะที่ประเทศไทย”
ผมลุกขึ้นชี้หน้ามัน ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนโคอิจิถึงกับเดือดดาล พูดกระแทกเสียงดังว่า
“มึงพูดอะไรของมึง กล้าแต่งเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายกูเหรอ.”
“ใส่ร้ายไม่ใส่ร้ายดูก็จะรู้เองมึงให้คนของมึงวางกำลัง ล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว ทันทีที่มึงปลดคุณหนูเรกะได้มึงก็จะตั้งตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้า ใครไม่สนับสนุนมึง มึงก็จะกำจัดทิ้งแม้แต่ท่านประธานเองก็ตามหรือที่กูพูดมันไม่จริง”
ผมเถียงสวน จนหลายคนในนั้นถึงกับแตกตื่น ท่านประธาน ทาเอดะถึงกับหลุดปากว่า “อะไรนะ” การ์ดหลายคนรีบขยับตัวเข้ามาป้องกันภัยให้ทาเอดะและเรกะ โคอิจิเห็นว่าความแตกและผิดแผนไปหมดเกิดสับสนคิดอะไรไม่ออกชั่วขณะ ผมเลยฉวยโอกาส กระโจนเข้าล็อกคอกระแทกเข่าเข้าท้องมันอย่างจัง จนมันจุกนอนงอเป็นกุ้งผมรีบเข้าไปเอาปืนที่เอวมันออก แล้วจี้จ่อหัวมันไว้ บอกต่อเรกะว่า
“คุณหนูครับ อย่าให้คนในห้องนี้ขยับไปไหนเพราะไม่รู้มีใครร่วมมือด้วย ตอนนี้พวกข้างนอกมันยังไม่รู้ตัวว่าแผนแตกรีบส่งคนออกไปจับตัวคนของโคอิจิไว้ดีกว่า”
เรกะ พยักหน้า สั่งให้การ์ดคุมห้องประชุมไว้ ไม่ให้ใครขยับไปไหน และให้อีกส่วนหนึ่งพาคนออกไปจับพวกของโคอิจิที่อยู่ด้านนอกเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ ทุกคนในนั้นเลยเชื่อคำพูดผมทั้งหมด
ทาเอดะ กวาดสายตามองรอบห้องพร้อมพูดเสียงกราดเกรี้ยวว่า
“ใครในที่นี้ ยังร่วมมือกับเจ้าโคอิจิอีก ยอมสารภาพมาซะดีๆ”
ทุกคนในห้องยังเงียบ ทาเอดะเลยพูดว่า
“ทุกคนในที่นี้เคยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับฉันมาทั้งนั้นวันนี้กลับมีคนไม่เห็นด้วยกับการที่ฉันจะยกตำแหน่งให้เรกะจนเกิดเป็นความแตกแยก…เอาเถอะ ใครที่ยอมรับมาตรงๆ ฉันจะไม่เอาชีวิตมัน”
ทันใดนั้นมี คนจากแถว ขยับตัวกัน 4-5 คนลุกออกมานั่งตรงกลางอย่างยอมรับผิด แต่ละคนล้วนมีความสำคัญกับแก๊งค์อย่างมาก จนทาเอดะ ต้องถอนหายใจอย่างเสียดายคน พูดว่า
“ฉันไม่คิดเลยว่า พวกแกก็จะรวมหัวกับเจ้าโคอิจิด้วย”
หนึ่งในนั้นตอบว่า
“ผมเองก็ไม่อยากจะทำ แต่จะให้เราก้มหัวให้กับผู้หญิงที่อายุรุ่นลูกและยกให้เป็นหัวหน้าแก็งค์ สู่ให้พวกเราตาม คุณโคอิจิ ยังจะดีเสียกว่า”
ทาเอดะพูดอะไรไม่ออก จึงพูดว่า
“ก็ดี …งั้นพวกแกตัดนิ้วทิ้งไว้คนละนิ้วแล้วก็ไปได้”
แต่เรกะรีบห้ามไว้ บอกว่า “พ่อค่ะอย่าเพิ่ง”
แล้วเธอก็เดินไปตรงหน้าคนพวกนั้นพูดว่า
“ตอนฉันยังเด็ก คุณอา โทกิ เคยอุ้มฉันและบอกว่าฉันเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดในโลก ฉันยังจำได้ดี และวีรกรรมของคุณอาที่แย่งชิงเขตคุ้มครองของชินจูกุมาจากแก็งค์ เซนโจทำให้เราขยายอิทธิพลจนแก็งค์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 มีใครบ้างไม่รู้หากคุณอาเห็นว่าฉันยังเด็กและขาดประสบการณ์ ก็ขอให้คุณอาเอ็นดูฉันเป็นที่ปรึกษาให้ฉันเถอะนะ”
เรกะบอก พร้อมกับก้มลงโค้งคำนับ ทำเอาโทกิ ถึงกับน้ำตาไหลพูดอะไรไม่ออก ทาเอดะเลยพูดเสริมว่า
“โทกิ แกกับฉันเหมือนพี่น้อง เรกะก็เหมือนลูกหลานของแกขอให้แกเชื่อในตัวเรกะเถอะ ว่าเธอจะนำพาแก็งค์ไปได้ดีโดยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฉัน”
โทกิซาบซึ่งใจจนพูดอะไรไม่ออก รับปากเป็นที่ปรึกษาให้ เรกะทุกคนในนั้นจึงไม่มีใครถูกลงโทษสักคน ยกเว้นเจ้า โคอิจิ คนเดียวที่คาดว่าอนาคตอันใกล้นี้มันจะหายสาบสูญไปจากโลกนี้
เมื่อเรื่องทั้งหมดคลี่คลายผมถูกเรียกไปพบ ท่านประธานทาเอดะ 2ต่อ 2 แล้วท่านประธานก็พูดกับผมว่า
“เรื่องของแกเรกะสารภาพกับฉันแล้วเมื่อกี้นี้….ฉันควรจัดการยังไงกับแกดี”
ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ทาเอดะเลยพูดต่อว่า
“ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ ฉันคงเก็บแกไปแล้ว…แต่วันนี้ถือว่าแกมีความชอบอย่างมาก..และดูเหมือนว่าลูกสาวฉันจะไม่ยอมถ้าจะฆ่าแกทิ้ง..ดังนั้นฉันมี 2 ทางเลือกให้แก คือ 1 กลับประเทศไทยไปซะแล้วไม่ต้องมาที่นี้อีก หรือ 2 เข้าแก็งค์ของฉัน แล้วพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนที่เหมาะสมกับเรกะ แกจะเลือกอย่างไหน”
เมื่อฟังข้อ 2 ผมดีใจจนพูดไม่ออก ยิ้มรับอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่ทาเอดะ จึงให้ผมไปดูแลสาขาของเจ้าโคอิจิที่ว่างลงแทนแต่มีข้อแม้ว่าผมห้ามมีสัมพันธ์ชู้สาวกับเรกะอีกจนกว่าผมจะพิสูจน์ตัวเองจนเป็นที่ยอมรับได้ผมเลยต้องกลายเป็นยากูซ่าไปโดยปริยาย
————————————————————–

Share the Post:

Related Posts

แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู

เรื่องเสียว แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู เอิร์นนะคร้า เป็นสาวมหาลัยในเชียงใหม่นี้เองค่า เอิร์นเป็นสาวมหาลัยปีสองแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้ชายเลย ยุคนี้แล้วเนอะ ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะคะที่ล่าแต้ม เอิร์นเองก็กินมาเยอะเหมือนกันค่ะ สูงยาว ลำอวบ ใหญ่ยาว กินมาหมดแล้วค่า ชีวิตครั้งนึงเนอะ เรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องมีบ้างอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ และแน่นอนว่าเอิร์นเลยกินแต่วัยเดียวกัน รู้ตัวอีกทีได้แอบกินรุ่นใหญ่พี่แท็กซี่ซะอย่างนั้นเลยค่ะ ที่สำคัญไม่เคยเจอมังกรที่ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มาก่อน มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยความที่อยู่เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะ

Read More

จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว

เรื่องเสียว จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว “ตั้งกล้องเรียบร้อยแล้ว มึงพร้อมยังจะได้กดเริ่ม” วันนี้เรามีถ่ายคลิปวิดีโอทำอาหารที่คอนโดของพวกเราสองคนที่เป็นเพื่อนกัน เรามองเม็กที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดจนเห็นแผงอกที่เป็นมัดกล้าม กางเกงขาขั้นสั้นสบาย ๆ แต่พอมาอยู่บนร่างกายของเม็กแล้วมันดูดีไม่น้อยเลย ถึงแม้เราทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่พอมาเจอมันในลุคนี้ก็ทำให้เราใจสั่นไม่น้อย “มึงกูสวยยัง” “สวยแล้ว” พอได้รับคำตอบที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว เราก็พยักหน้าให้มันเริ่มกดบันทึกภาพวิดีโอทันที การถ่ายทำดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นตอนการชิมอาหาร “อะ

Read More