กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 7
โดย saradio
หลังจากที่ผมปลดปล่อยพันธะทางใจที่มีต่อนางออกไปแล้วผมก็เริ่มปล่อยให้ชีวิตผมเป็นไปตามเส้นทางที่มันควรจะเป็นถ้าชีวิตผมมันถูกลิขิตให้ต้องหากินกับผู้หญิง ผมก็ปล่อยให้มันเป็นไปแต่ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวดวงผมมันก็พาผมไปทางอื่นเอง
และที่สำคัญผมเลิกหงุดหงิดเวลาไปส่งกลางให้ลูกค้าเย็ดเพราะผมเริ่มปลงทุกอย่าง และคิดว่า ถ้าชีวิตเธอมันถูกลิขิตให้กลางต้องมาเป็นกระหรี่แล้วถ้าผมจะรักเธอ ผมก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นให้ได้ไม่อย่างนั้นผมก็คิดไม่ตกอยู่เรื่อยๆ เป็นทุกข์ใจเปล่าๆ
ตอนนี้ผมก็รอรับกลางอยู่หน้าโรงแรมเธอเดินลงมาพร้อมแขก และหอมแก้มลากัน รอจนแขกไปขึ้นรถเก๋งคันหรู ออกไปก่อนกลางจึงค่อยมาหาผม เธอขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ที่ผมสตาทร์รอเมื่อผมออกตัวเธอก็กอดเอวผมอย่างแนบแน่น สักพักเธอจู่ๆก็หัวเราะเหมือนนึกเรื่องอะไรขึ้นได้ บอกผมว่า
“ฮิฮิ ..พี่ใหญ่ แขกเมื่อกี่ให้พิเศษกลางตั้ง พันนึงแหนะ มันบอกว่าไม่เคยเย็ดใครมันส์ขนาดนี้มาก่อนเลย”
ผมเลยยิ้มน้อยๆบอกว่า
“บอกแล้วผู้ชายชอบแบบนี้ทุกคนแหละ ชอบผู้หญิงมีลีลายั่วยวนปลดปล่อยอารมณ์เวลาโดนเย็ด และมีอารมณ์ร่วมแสดงอาการให้มันรู้ว่าโดนเย็ดได้ถึงใจนะ โธ่ รับรอง 100 ทั้ง 100 ตายเป็นตายมีแรงเท่าไหร่ใส่มาหมดแหละ”
“หืยยย รู้ดี ..พี่เคยเย็ดผู้หญิงลีลาแบบนี้มากก่อนละซิท่า”
กลางไม่พูดเปล่า หยิกหลังผมอย่างมันเขี้ยว จนผมร้องโอ้ย แล้วเธอก็หัวเราะผมยิ้มไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่คิดตอบในใจว่า แน่นอนอยู่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็คือน้าแก้วเพราะน้าแก้วคือจอมลีลาตัวแม่ทั้งลีลาและคำพูดที่ยั่วยวนและมาแบบอินเนอร์จัดเต็มแบบไม่มีกั๊กไม่มีอายน้าแก้วจึงเป็นผู้หญิงที่ฝังแน่นอยู่ในใจผม เพราะเป็นผู้หญิงที่เย็ดได้มันส์และเสียวได้สะใจจริงๆ
ผมเลยแนะนำให้พวกเธอเอาไปใช้กับแขก โดยเฉพาะด้านลีลาการยั่วยวนและการสื่ออารมณ์ซึ่งมันได้ผลดีเกินคาด แขกติดใจทุกคนบอกว่าเด็กผมเทรนดีมาก ลีลาสุดยอดเที่ยวแล้วมีทอน(หมายถึง คุ้มค่าเกินราคา) อย่างกับเย็ดกับดารา AV ขนาดตอนนี้ผมอัพค่าตัวทั้งกลางและแอนเป็น 2500แล้ว ไม่มีแขกบ่นว่าแพงสักคน
“แล้วเป็นไง แขกคนนี้เย็ดเก่งมั๊ย ทำเราเสร็จไปกี่ที”
ผมนึกสนุกถามไปอย่างนั้น แต่กลางกลับยิ้มแหยะๆ บอกว่า
“โหย..พี่ใหญ่ ตั้งแต่กลางโดนพี่เย็ดเนี่ยะ คิดว่าคนอื่นยังจะเย็ดกลางเสียวจนเสร็จอีกมั๊ยหละ..”
เธอพูดเหมือนผมไม่น่าถาม แล้วเธอก็พูดต่อ
“อย่าถามเลยว่ากี่ที ทีเดียวก็ไม่เสร็จ ไอ้เสียวหนะมันเสียวอยู่แต่จะให้เสร็จเนี่ยมันจะถึงก็ไม่ถึง แต่กลางก็แกล้งเสร็จไปยังงั้นแหละให้แขกมันฟิน”
ผมเลยบอกว่า
“เออ ดีแล้วแหละ อย่าลืมอินเนอร์ด้วย จะเสียวไม่เสียวจะเสร็จไม่เสร็จยังไง จัดเต็มไว้ก่อน เอาให้เหมือนตอนโดนพี่เย็ดนั่นแหละ”
“รู้แล้วค่า…ผัวขา แหมย้ำเหลือเกินกลัวคนอื่นเย็ดเมียตัวเองไม่มันส์เหรอค่ะ”
กลางจีบปากจีบคอทำเสียงประชดเหมือนพักหลังมานี่ ผมเน้นเรื่องนี้กับเธอบ่อย
ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่จนต้องปล่อยออกมา แล้วนึกว่า เออ จริงของกลางมัน นี่กูเป็นคนยังไงไปแล้ววะที่กลัวคนอื่นเย็ดเมียตัวเองไม่มันส์
ตอนนั้นยังต้องแวะไปรับแอนอีก แล้วก็พากันซ้อน3 กลับบ้าน ตอนนี้เราเช่าบ้านอยู่แทนห้อง เพราะจะได้อยู่กันสบายขึ้น ไม่ต้องแออัดยัดเยียดในห้องเช่าเล็กๆกัน3คน เพราะแค่เสื้อผ้า 2 สาวก็จะเต็มแล้ว
และในขณะเดียวกันนางที่กำลังเป็นนักร้องลูกทุ่ง ก็ได้ออกซิงเกิ้ลแรกออกมา เป็นเพลงเพราะซึ่งๆที่ฟังฮิตติดหูถูกใจคนรากหญ้า ทำให้กระแสตอบรับดีมาก จนเป็นทำให้นางเป็นนักร้องดาวรุ่ง และเริ่มมีชื่อเสียง
นางเคยโทรมาชวนกลางให้ไปอยู่ด้วยแต่กลางไม่ไป เธอคิดเหมือนผม ว่าตอนนี้เราเหมือนอยู่คนละโลกกันแล้ว เราไม่ควรจะไปทำลายให้นางเสียชื่อเสียงเพราะถ้าอยู่ไปอยู่มานักข่าวรู้ว่า กลางเคยขายตัวมาก่อนมันอาจทำให้กระทบถึงฐานะนักร้องของนางก็ได้ตอนนี้กลางยังต้องปิดบังแม้แต่นามสกุลตัวเอง โดยการไปเปลี่ยนนามสกุลใหม่
วันหนึ่งเรา 3 คนพักหยุดกันเพราะกลางมีประจำเดือน ส่วนแอนประจำเดือนยังไม่มา แต่ก็อยากพักหยุดมั่ง เลยดูทีวีอยู่ที่บ้านโดย 2 สาวนั่งบนโซฟา และมีผมนอน ขวางตัว หัวหนุนขากลาง เอาขาพาดตักแอน แอนดูทีวีและกดเปลี่ยนช่องหารายการที่น่าสนใจส่วนกลางกำลังถอนผมคันให้ผมเล่น ผมก็เคลิ้มเพลินกำลังจะหลับ แต่แอนกดไปเจอรายการหนึ่งซึ่งนางเป็นแขกรับเชิญ แอนจึงร้องบอกอย่างตื่นเต้น
“เฮ้ย กลาง พี่นาง ออกรายการทีวีเว้ย”
ผมกับกลางต่างหันมาสนใจทีวีทันที และดูรายการนั้น นางเธอดูเรียบร้อย สวยสง่า จนกลางพูดชม
“พี่นางดูสวยเนอะ”
“แต่กูว่ามึงสวยกว่าพี่มึงอีกนะ”
แอนบอกพร้อมไปหยิบถุงขนมมาแกะกิน แต่ผมพูดสวนทันทีว่า
“สวยพอกันแหละ แต่สวยคนละแบบ”
ผมพูดไปแค่นั้นโดยไม่อธิบายว่าใครสวยแบบไหนแล้วเอามือไปล้วงถุงขนมจากมือแอนมากินด้วย
“แต่พี่มึง หน้าดูบ้านนอกหวะ”
แอนวิจารณ์ต่อในมุมมองของเธอเอง แต่กลางเริ่มคิ้วขมวดหันไปแขวะเพื่อนว่า
“หืม…อีแอน.มึงก็บ้านนอก ลองมึงไม่ไปทำจมูกสิหน้าบ้านนอกกว่าพี่กูอีก”
“โหย.. อีนี่ เล่นแรงหวะ”
ตอนนั้นผมกำลังตั้งใจดูทีวีอยู่ เลยรำคาญเสียงรบกวน เลยบอก 2สาวให้เงียบก่อน นางกำลังจะบอกว่า มีโปรแกรมโชว์ตัวที่ไหน และในรายการโชว์ตัวนั้นมีทุ่งศรีเมืองจังหวัดขอนแก่น จังหวัดที่พวกเราอยู่ด้วย
“เฮ้ย พี่นางจะมาที่นี่ นี่หว่า ไปดูกันมั๊ย”
แอนพูดอย่างตื่นเต้น กลางไม่ได้ตอบทันที แต่หันมามองผมเหมือนอยากจะดูความเห็นผมก่อน
ผมเลยบอกว่า
“ถ้าไปก็ไปกัน 2 คนนะ พี่ไม่ไป”
“พี่ไม่คิดถึงพี่นางบางเหรอ”
กลางถามด้วยน้ำเสียงปกติ ที่ผมไม่รู้ว่าเธอลองใจผมหรือเปล่าผมเลยไม่ได้ตอบ แต่ลุกขึ้นบิดขี้เกลียด บอกว่าจะไปนอนแล้วแล้วเดินขึ้นบันไดไปห้องนอน แอนทำท่าจะลุกตามมา แต่ต้องชะงักกึก เพราะกลางทักดักคอไว้
“มึงจะไปไหน อีแอน แหม อย่างไวเลยนะ”
“กูก็จะ.. ไปนอนไง”
แอนตอบแบบยิ้มอ่อยๆที่โดนจับได้ แต่ปากยังเฉไฉ
“แหนะ นอนจิงอ่ะ เห็นกูมีประจำเดือนไม่ได้เลยนะมึง กูหยุด จะต้องหยุดตามโธ่ กูรู้ทันมึงหรอกอีแอน”
“แหม กลางก็ เพื่อนกันแบ่งกันกินแบ่งกันใช้น่า ผัวมึงก็เหมือนผัวกู แล้วถ้าเกิดกูมีผัวมึงจะเอาผัวกู กูก็ไม่ว่านะ ”
แอนบ่ายเบี่ยงไม่ออก เลยต้องยอมรับกันแบบซื้อๆกลางความจริงก็แหย่เล่นไปอย่างนั้น เลยพูดว่า
“เอาเหอะๆ จะไปก็ไป กูอ่อนใจกับมึงแล้ว”
แอนหัวเราะคิกคัก แล้วรีบตามผมขึ้นมาทันที เลยโดนผมจัดชุดใหญ่รับคนเดียวไปเต็มๆ
วันต่อมา นางเดินทางมาที่ขอนแก่นโทรบอกกลางให้ไปดูคอนเสิร์ตตอนหัวค่ำ แล้วจะได้เจอกัน กลางถามว่าผมจะไปด้วยมั๊ยผมบอกไม่ไป กลางจึงไปกับแอน 2 คน ผมเลยอยู่บ้านคนเดียว ตอนนั้นนอนคิดกระวนกระวายจนสุดท้ายทนไม่ไหว คิดว่าแอบไปเห็นหน้าสักครั้งก็ยังดี เลยแอบตามไปที่หลัง
ในงานคนเยอะมาก นางขึ้นเวทีมาตอน 2ทุ่มกว่า ร้องเพลง ตัวเอง เพลงหนึ่ง และ เพลงของคนอื่น 2เพลงเพราะเพลงตัวเองเพิ่งออกมาเพลงเดียว เลยต้องร้องเพลงคนอื่นเพิ่มอีก 2 เพลงผมยืนมองและยืนฟังเพลงที่เธอร้องจนเงียบค้าง ใจล่องลอยคิดไปถึงตอนที่เราจากกัน เนื้อหาเพลงของเธอมีความหมาย รอชายคนที่รัก ผมเลยรู้สึกเหมือนเธอร้องให้ผมฟัง
ตอนนั้นมีคนมาสะกิดตีที่หลังผม ผมให้ผมตื่นจากผะวังพอผมหันไปก็เห็นกลางกับแอนยืนอยู่ข้างหลัง
“ไหนว่าไม่มาไง”
กลางถามด้วยสีหน้าและแววตาที่เยาะหยันผมหน่อยๆ
“ก็แค่อยากมาดู ว่านางดังขนาดไหน ดูสิคนเยอะมากเลย ดังใช้ได้เลยนะเนี้ย”
ตอนท้ายผมเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง กลางยิ้มเยาะแบบรู้ทัน พูดว่า
“โธ่ คิดถึงพี่นางก็บอกมาเถอะ กลางไม่หึงหรอก พี่ใหญ่อะแสดงอาการออกตั้งแต่เห็นพี่นางในทีวีแล้ว”
“เหรอ พี่แสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ”
ผมทำซื่อกลบเกลื่อน เพราะไม่รู้จะเถียงกลางยังไง ท่าทีผมคงกวนโอ้ยจนกลางตีที่แขนผมอีก แล้วกลางก็พูดว่า
“ไปหลังเวทีเหอะ พี่นางจะลงแล้ว”
แล้วกลางก็จูงแขนผมให้ตามมา แต่ผมยืนนิ่งไม่ขยับ เธอฉุดก็ไม่ไปผมบอกว่า
“พี่ยืนดูแค่นี้ก็พอแล้ว ไปกันเองเหอะ”
“หืม.. พี่ใหญ่อ่ะ … อ่ะ งั้นเอางี้ถ้าไม่อยากให้พี่นางเห็นก็ปลอมตัวไป”
“ปลอมตัว..ปลอมยังไง”
ผมถามอย่างสงสัย แต่กลางก็บอกว่าเอาน่า ตามมาเหอะ แล้วพาผมไปที่ห่างๆคนหน่อย กลางกับแอน จับผมแต่งหน้าเป็นกระเทย โปะแป้งทาปาก เขียนคิ้วให้เรียบร้อย
“นี่เอาจริงหรือเนี่ย”
ผมถามหน้าเหรอ ขณะพวกเธอกำลังง่วนกับการแต่งหน้าผม
“เอาจริงสิ ถึงขนาดนี้แล้ว จะเสร็จแล้วอยู่นิ่งๆ”
กลางบอก แต่แอน มองผมเอาแต่หัวเราะ แล้วพูดว่า
“กระเทยบ้าอะไร ควยใหญ่เป็นเสาเข็ม มึงก็คิดได้เนอะ อีกลาง”
“อีห่า อย่าทำให้กูหัวเราะสิกูเขียนคิ้วพลาดเลยอีเหี้ย แล้วใครแม่งจะมาเปิดดูวะ”
ผมนี่จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก รอจนเธอแต่งผมหน้าเสร็จก็ไม่คิดอยากจะส่องกระจกดูเลย กลางรีบพาผมไปหลังเวที ขณะผมเดินตามกลางแอนสะกิดบอกผมให้เดินตุ้งติ้งหน่อย ผมก็ขัดๆ เขินๆ แต่เอาก็เอาวะ ก็ทำเป็นเดินตุ้งติ้งแบบกระเทยจนแอนปล่อยหัวเราะก๊าก
ตอนนั้นกลางไปติดต่อขอพบ นางหลังเวที นางสั่งไว้แล้วถ้ามีคนชื่อกลางมาหา ให้พามารอที่ห้องพักแต่งหน้าหลังเวทีเจ้าหน้าทีดูแลเลยพาเข้าไป ซึ่งนางลงจากเวทีมานั่งรออยู่แล้ว
ทั้ง 2พี่น้องรีบโพเข้าหากันและกอดกันกลมน้ำตาไหล เพราะไม่ได้เห็นหน้ากันนาน ได้แต่พูดคุยโทรศัพท์แล้วชวนกันไปนั่งคุย ตอนนั้นผมกับแอนยืนอยู่ใกล้ๆ ผมมองเห็นนางชัดทั้ง 2ตาห่างกันแค่เอื้อมมือถึง มันทำให้ผมตื่นเต้น ใจหวิวจนบอกไม่ถูก
แล้วกลางก็แนะนำให้รู้จักกับแอนและผมแอนนั้นนางเคยเห็นมาก่อน เพราะเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กของกลางเคยวิ่งเล่นด้วยกันอยู่ พอกลางบอกว่าเป็นใครยังไงนางก็จำได้ก็เข้าไปจับมือแล้วกอดทักทาย พอมาถึงผม กลางดันลืมนึกชื่ออ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แล้วบอกว่า
“ขลิก มันชื่อ ขลิก”
นางยิ้มอย่างประหลาดในชื่อ แล้วทวนให้แน่ใจว่า
“ชื่อขลิก เหรอ”
แอนยิ้มเหมือนนึกอะไรได้ รีบต่อว่า
“ใช่..ชื่อเต็ม ชื่อปลัดขลิก”
ทั้งกลางทั้งนาง พากันปล่อยหัวเราะ ออกมาอย่างอดขำไม่ได้ผมยืนเป็นกระเทยบื้อ อยากจะถีบทั้งกลางและแอน ได้ที อี 2 คนนี้มันเล่นผมกันใหญ่จากนั้นนางก็ไปคุยกับกลางต่อ และยังพูดเรื่องให้กลางไปอยู่ด้วยกันแต่กลางก็ยังยืนยันว่าจะไม่ไป บอกว่าอยู่นี้ ทำงานสบายดีแล้ว
ตอนนั้นพอดีมีคนเคาะห้อง แล้วเปิดประตูเข้ามาเลย บอกพวกเราว่า
“เอ๊า น้องๆ หมดเวลาแล้วนะ เดี๋ยวนางต้องไปพัก เพื่อเตรียมไปที่อุบลต่อ”
นางเลยบอกว่า
“กลาง พี่ต้องทำงานต่อนะ ยังไงไว้ถ้าพี่วางจริงๆ พี่จะมาเยี่ยมนะ”
นางก็กอดลาน้องสาวอีกที และลากันออกจากห้อง พวกเรายังเดินตามไปส่งเธอถึงรถตู้แล้วโบกมือลากันอีกที ผมคิดในใจว่า แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผมในการที่ได้มาเห็นเธอก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จ เมื่อเธอเป็นสุข ผมก็ควรจะสุขด้วยผมคิดว่าผมคิดถูกที่ผมไม่ให้เธอเห็น และไม่ควรมีตัวตนสำหรับเธออีกต่อไปเพราะเธอควรจะมุ่งหน้าไปตามเส้นทางของเธอโดยไม่มีผม มันจะดีที่สุด
—————————————————————————