กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 11
โดย saradio
มันนานโขอยู่เหมือนกันกว่าผมจะพายเรือไปถึงเกาะแถมยัยเรกะ ก็เอาแต่สั่งแต่เร่งให้ผมพายไวๆ โดยที่ไม่คิดจะมาช่วยผมพายสักนิด
พอถึงชายหาดของเกาะ ผมก็หมดแรงลงจากเรือไปนอนเกลือกอยู่บนพื้นทรายคิดว่าน่าจะรอดตายจากการลอยคว้างอยู่กลางทะเลแล้ว ขอหลับตาพักสักงีบเถอะขณะกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ เรกะก็สั่งว่ามา
“ไปสำรวจรอบๆ ซิ ว่ามีคนอาศัยอยู่หรือเปล่า”
ผมละเพลียใจกับยัยคนนี้จริงๆมันสั่งได้สั่งเอา ราวกับผมเป็นขี้ข้า ผมเลยทำเป็นหูทวนลม หลับตาไม่ตื่นเธอก็เอาเท้ามาเตะสะกิดที่แขนผม พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“ฉันพูดกับนาย นายไม่ได้ยินหรือไง”
คนไทยมักถือเรื่องเท้า และยิ่งกับคนที่ชอบสั่งแบบไม่เกรงใจมาทำแบบนี้อารมณ์มันก็เดือดขึ้นอย่างเกินระงับ ผมโมโหเลยเอามือกำทรายสาดใส่เธอ มันโดนหน้าอกเลยไปถึงหน้าจนเข้าปากเธอ แล้วพูดว่า
“ผมไม่ใช่ลูกน้องคุณนะ อย่ามาสั่งโน้นสั่งนี่ให้มากนัก ระวังจะโดนดี ที่ช่วยให้รอดตายมาถึงนี่ก็สำนึกขอบคุณกันบ้าง”
เธอถุยทรายออกจากปาก สีหน้าโมโหจัด แล้วก็พุ่งเข้ามาใส่ผมทั้งที่ผมกำลังนอนอยู่ เธอจับแขนผมข้างหนึ่ง แล้วม้วนตัวล็อกแขน และเอาท่อนขาหนีบดันคอผมมันกลับเป็นท่าล็อกแขนบิดหัวไหล่ ในวิชาการต่อสู้แบบ ยิวยิดสู
เธอเร็วมาก ลงมือโดยผมไม่ทันระวังผมกลับถูกเธอล็อกจนหัวไหล่จะหลุด ร้องด่าว่า
“อีบ้า มึงทำอะไรของมึงวะ รีบปล่อยเลย กูเจ็บ โอ้ยยย อีห่าลากเอ้ย”
ไม่รู้เธอเข้าใจคำด่าของผมหรือเปล่าแต่เธอบอกว่า
“ทีนี้จะยอมทำตามคำสั่งฉันดีๆ หรือจะให้ฉันหักแขนนาย”
ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ไหนเลยยอมกันง่ายๆ ถ้าอีนี่มันอยากเจ็บตัวนัก ผมก็จะช่วงสงค์เคราะห์ให้ผมกัดฟันพลิกตัวม้วนเพื่อให้หลุดตอนนั้นรู้สึกเจ็บเหมือนแขนกับไหล่แทบจะฉีกออกจากกัน แต่ก็ยังทนฝืนไม่ยอมแพ้ เธอเองก็ไม่ยอมให้ผมหลุดไปง่ายๆล็อกไว้แน่นจนผมกับเธอดิ้นม้วนไปม้วนมา เธออยู่ท่าคว่ำหน้ารัดแขนผม ผมนอนหงายโดนรัดแขนขาดันคอเอาไว้
วินาทีนั้นเห็นช่องทางรอดเพียงหนึ่งเดียวใช้มือข้างที่เหลือจกเข้าไปตรงกลีบอูฐระหว่างร่องตูดของเธอกางเกงขาสั้นแนบเนื้อที่ใส่ทับกางเกงบีกินี่ตัวจิ๋ว มันไม่อาจกั้นสัมผัสนิ้วที่กดจิกเข้าไปอย่างแรงเธอร้องโอ้ยย อย่างตกใจและเจ็บจนหน้าแดงฉาด ด่าผมว่า
“ไอ้คนทุเรศ”
เธอด่าภาษาไทยได้อย่างชัดถอยชัดคำ แต่ผมไม่ได้สนใจแม้จะต้องใช้วิธีต่ำทรามเอาชนะเธอก็ตาม ผมยังกดบดบี้อย่างแรง จนจมลึกเข้าไปในกลีบอูฐจนเธอทนทานไม่ได้เผลอปล่อยมือผมหลุด ผมเลยฉวยโอกาสพลิกตัวขึ้นมาจับเธอกดคว่ำบิดมือไพล่หลังจนเธอหมดทางต่อสู้
“ฤทธิ์เยอะนักเหรอ หึ..”
ผมขบเขี้ยวฟันพูด และยังเอามือกดจกหีเธอไม่เลิก
“โอ้ยยยย..นายมันทุเรศ ปล่อยนะ.. โอ้ยยยย ..นายมัน..ไม่เป็นลูกผู้ชาย ..ไปตายซะ”
เธอด่าผมเป็นชุด จนนึกคำด่าภาษาไทยไม่ออก หันไปด่าภาษาญี่ปุ่น
“เอ๊า ด่าเลยด่าเข้าไป ปากดีอย่างนี้ ดูว่าฉันจะทำกับเธอยังไง”
ผมขู่อย่างเยาะเย้ยอย่างผู้กำชัยชนะ และมือผมก็ยังเน้นหนักขึ้นเมื่อเธอแผดเสียงด่าจนเธอรู้ไม่รู้จะทำยังไงและยังอับอายตัวเอง เธอร้องไห้ และพูดว่า
“ฉันยอมแล้ว ปล่อยฉันเถอะ ฉันข้อร้อง”
เสียงของเธอเบาและสะอึกสะอื้น พูดอย่างคนจนตรอกที่ไม่อยากทนความอับอายอีกต่อไปผมต้องได้สติเมื่อเห็นน้ำตา รู้สึกว่าตัวเองทำเกินเลยเกินไป จึงค่อยๆปล่อยเธอแต่ยังขู่เธอไว้ว่า
“ดี.. ที่รู้จักยอม แล้วที่หลังอย่ามาทำอวดเก่งอีกหละ”
เรกะก้มหน้าร้องไห้กับพื้นทราย เหมือนได้รับความอัปยศอดสูอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิตนานกว่าเธอจะทำใจ และลุกขึ้นมาได้ หลังจากนั้นเธอไม่กล้ามายุ่งกับผมอีกเลยและไม่คุยด้วย
ผมลากเรือชูชีพขึ้นฝั่ง ไปใต้ร่มไม้เพื่อไว้เป็นที่พักเพราะมันมีเต็นท์ในตัว หลังจากนั้นก็เอาอาหารกระป๋องกับน้ำถุงยังชีพมาเปิดกินเรกะกลับนั่งเหม่อมองทะเลอย่างไม่สนใจ หน้าตาเธอเรียบเฉยจนดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่เธอไม่ร้องขออาหารหรือน้ำ ไม่พูด และไม่ทำอะไรเลย
มันทำให้ผมหงุดหงิดใจและรู้สึกผิดเลยเดินเอาน้ำและอาหารไปให้ แต่เธอกับเฉยเมย ไม่แตะต้องอาหารและน้ำเลย
“เธอต้องกินนะ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีแรงอยู่รอถึงคนมาช่วยแน่”
ผมบอกด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลง และเป็นมิตร แต่เรกะยังเรียบเฉยอยู่เหมือนไม่ได้ยิน และทำอย่างกับผมไม่มีตัวตน ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยวางอาหารและน้ำไว้ตรงข้างเธอ จนบ่ายผมเห็นเธอยังไม่กิน มันรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้เดินไปหาอีกรอบ แล้วพูดว่า
“เอาละ ฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นกับเธออีก เธอกินมันได้มั๊ยถ้าเธอไม่กินเกิดเป็นอะไรไปตอนนี้ มันจะยิ่งยุ่งเข้าไปอีก”
เรกะเหมือนสะเทือนใจน้ำตาคลอ หันมาบอกว่า
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
แล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินหนีไปที่ใต้ร่มไม้ต้นหนึ่ง ไม่นานฝนทำท่าจะตก เพราะช่วงนี้กำลังเข้าฤดูมรสุมพายุเข้าบ่อย แล้วมันก็เทสาดลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว ผมเข้าไปหลบในเต็นท์แต่เรกะนั่งตากฝนอยู่ใต้ต้นไม้ ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่ดื้อและใจแข็งอย่างนี้มาก่อน ตอนแรกว่าจะปล่อยๆไปแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ ต้องออกไปตามเธออยู่ดี
ตอนนั้นเธอหลับขดตัวอยู่ใต้ต้นไม้ทั้งที่ฝนตกสาดใส่เมื่อผมเข้าไปดู จึงรู้ว่าเธอเริ่มไม่สบายและมีอาการอ่อนเพลียอย่างมากแถมตัวร้อนจี๋ ผมปลุกเธอ เธอก็ไม่รู้สึกตัว ผมจึงอุ้มเธอมานอนที่เต็นท์
จนฝนหยุด เรกะ ยังไม่รู้สึกตัวและมีอาการหนักขึ้น ดีที่กล่องอุปกรณ์ชูชีพ มียาลดไข้ให้มาด้วย จึงเอามาให้เธอกินไม่นานนักเธอก็พอจะรู้สึกตัว และคงงงอยู่ว่าตัวเองมาอยู่ในเต็นท์ได้ยังไง
ตอนนั้นผมก่อไฟ ผิงเสื้อผ้าของผมอยู่ด้านนอกโดยเหลือนุ่งกางเกงในตัวเดียว เมื่อแห้งดี ผมก็โยนเข้าไปในเต็นท์ให้เธอเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าของผมแล้วจะเอาชุดของเธอมาทำให้แห้ง แต่เธอกับนิ่งเฉยอีก
ผมต้องอ่อนใจ พูดอย่างเว้าวอนว่า
“แม่คุณเอ๋ย ขอร้องหละ จะให้ฉันทำยังไง เธอถึงจะหายโกรธ เอ้า..ว่ามา”
ครั้งนี้เธอยอมพูด แล้วบอกว่า
“ก็ได้..นายก็ตัดนิ้วก้อยของนาย เพื่อเป็นการขอโทษฉันซิ”
“ตลกแหละ..ทำไมฉันต้องตัดนิ้วตัวเองด้วย ไม่เอาเอาอย่างอื่น”
เธอทำเสียง เชอะ มองผมอย่างดูถูก ที่พูดไม่เป็นคำพูด แล้วก็ไม่พูดอะไรผมเลยต้องเสนอไปแทนว่า
“เอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะช่วยดูแลเธอให้ ทั้งอาหารการกินและน้ำดื่มจนกว่าจะมีคนมาช่วย เธออยากเป็นเจ้านายสั่งฉันไม่ใช่เหรอ ฉันยอมก็ได้เพื่อเป็นการไถ่โทษ”
เธอทำหน้าอย่างไม่เชื่อ แล้วพูดว่า
“ออกไปเถอะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
ผมก็เลยถอนหายใจ บอกว่า
“ก็ได้ถ้าเธอจะสั่งแบบนั้นอ่ะนะ แต่เตือนไว้ก่อนว่า ถ้าเธอไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเธออาจเป็นปอดบวมก็ได้”
ผมพูดแค่นั้นแล้วก็ออกไป เรกะมองตามผม แล้วจู่ๆ เธอก็บอกว่า
“เข้ามาซิ”
ผมเพิ่งออกจากเต้นท์ได้เพียงก้าวเดียว ก็ต้องหันกลับเข้ามาพร้อมตีหน้าเซ่อเหมือนจะถามว่ามีอะไร พอเธอเห็นผมเข้ามา เธอก็บอกว่า
“ออกไป”
ผมก็ออกไปด้วยสีหน้าที่เริ่มจะงง พอออกไปเสร็จ เธอก็บอกว่า เข้ามา ผมก็เข้ามา
“ออกไป”
“เข้ามา”
“ออกไป”
“เข้ามา”
“เฮ้ย ไม่มีอะไรจะเล่นหรือไง ให้เข้ามา ออกไปอยู่ได้ จะให้ทำอะไรก็ว่ามา ”
ผมพูดด้วยสีหน้ารำคาญ ที่เข้ามาออกไปหลายรอบ จนเธอหลุดหัวเราะคงดูว่าผมจะทำตามที่บอกได้มากแค่ไหน อารมณ์ของเธอดูดีขึ้น แล้วเธอก็ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าสีหน้าหยิ่งผยองของนางพญาเริ่มกลับมาแล้ว
ถึงภายนอกเรกะจะดูเย็นชาและน่ากลัวขนาดจับปืนยิงฆ่าคนได้ แต่เธอก็มีนิสัยความรู้สึกเหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ต้องการคนดูแลเอาใจใส่ยามรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ
ผมเข้าใจเธอได้ดี เลยพยายามทำตัวกับเธอใหม่ ให้เธอดูมีความสำคัญไม่โดดเดี่ยวและทำให้เธอกลับมาเข็มแข็งได้อีกครั้งโดยไม่รู้สึกหมดอาลัยตายอยากจนปล่อยให้ตัวเองล้มป่วยไปอีก
เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ จนอาหารกระป๋องและน้ำเราใกล้จะหมดแต่ยังไร้วี่แววของผู้มาช่วยเหลือ ผมต้องเดินเข้าลึกไปบนตัวเกาะเพื่อหาแหล่งน้ำและอาหาร ส่วนเรกะ ต้องคอยพึงผมตลอดเวลา แม้เธอจะเก่งในการต่อสู้แต่เธอไม่เก่งในการเอาชีวิตรอดแบบการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
จากการเดินสำรวจพบว่าเกาะนี้ไม่ใหญ่มากนักเป็นเกาะร้างจริงๆ ป่าไม่ทึบค่อนข้างโปร่งและไม่ค่อยมีพืชพันธ์ที่เอามาเป็นอาหารได้มากนอกจากเห็ดบางชนิด แถมแหล่งน้ำขนาดใหญ่ก็ก็ไม่มี มีแต่ธารน้ำเล็กๆที่ไหลมาจากซอกหินในโพลงถ้ำ พอให้กินให้อาบได้
ผมเลยชวนเรกะมาที่โพล่งถ้ำ ให้เธอดูที่ใช้อาบน้ำมันเป็นน้ำที่ไหลหยดจากซอกหินลงมาจากผนังหลังคาถ้ำจนดูเหมือนน้ำที่ไหลหยดจากฝักบัว
“ดีเลย อย่างนี้ฉันก็อาบน้ำได้ทุกวันนะสิ.. นายนี่เก่งเนอะหาที่แบบนี้ได้”
ริกะบอกอย่างดีใจ ผมเลยยิ้มรับแล้วบอกว่า
“มันก็ต้องอยู่แล้ว . เพื่อเจ้านายมันก็ต้องพยายามกันหน่อย”
เรกะหัวเราะแล้วมองผมโดยไม่ได้พูดอะไร ผมว่าเรกะ เดี๋ยวนี้ยิ้มง่ายและหัวเราะง่ายกว่าตอนแรกมากกำแพงแห่งความเย็นชาและการถือตัวคงโดนผมละลายไปหมดแล้ว ผมเลยให้เธอไปอาบน้ำก่อนโดยจะรออยู่ข้างปากถ้ำ เมื่อเธอเสร็จแล้วผมก็เข้าไปอาบต่อ โดยเธอมารอข้างนอก
ขณะที่ผมกำลังเปลือยกายถูตัว ด้วยน้ำที่หยาดหยดลงมาเป็นเส้นสายจากผนังถ้ำจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องกรี๊ด แล้วเรกะก็วิ่งเข้ามา ปากก็ร้อง งู งูแล้วมากอดแอบหลังผม เธอร้องอย่างหวาดกลัว แล้วให้ผมไปไล่มัน
แต่ผมโดนเธอกอดไว้แน่น แถมแก้ผ้าโทงๆจะไปไล่ยังไง พอดีงูมันเลื้อยผ่านหน้าถ้ำไป งูนอกถ้ำหนีไปแล้วแต่งูในถ้ำกำลังผงกหัวขึ้นจากสัมผัสการกอดของหญิงสาวในขณะที่ผมแก้ผ้าอยู่
“มันไปแล้ว”
ผมบอก
เธอโพล่หน้าขึ้นมาจากการแอบหลังผมมองไปข้างนอกแต่ก็ยังไม่ไว้ใจ แต่วินาทีนั้นเธอก็เห็นควยผมตั้งผงาดยิ่งกว่าอะนาคอนด้าต้องยืนมองตัวแข็งทื่อนิ่งสนิท หรือจิตหลุดก็ไม่ทราบ
จนผมต้องเรียกชื่อเธอ เพื่อเรียกสติและบอกว่า
“งูมันไปแล้ว เธอจะยืนดูฉันอาบน้ำ ตรงนี้อีกนานมั๊ย”
เรกะถึงได้รู้สึกตัว และหน้าแดงฉาด ก้มหน้าเดินงุดๆ ออกไป
ผมอาบน้ำเสร็จก็ใส่เสื้อผ้าพาเธอเดินกลับเต้นท์ เธอเดินตามหลังผมโดยไม่พูดอะไรเลย และพยายามหลบสายตาผมเวลาผมชวนคุยถามคำก็ตอบคำ เหมือนใจเหม่อคิดอะไรอยู่
จนมาถึงเต็นท์ ก็กินปลาตากแห้งกับเห็ดย่างไฟเป็นอาหารเย็นพอหัวค่ำฝนก็เริ่มตก ต้องเข้าไปหลบในเต็นท์
เรกะ มีอาการประหม่าจนเห็นได้ชัดเมื่อเข้ามาในเต็นท์2 ต่อ 2 เหมือนเธอคิดอะไรอยู่ตลอด แถมพอตอนจะนอน เธอก็นอนหันหลังห่างจากผมจนชิดขอบเต้นท์อีกด้านเหมือนกับกลัวผมยังไงยังงั้น ผมเดาว่าน่าจะมาจากเห็นควยผมตอนอาบน้ำแน่ๆเพราะเริ่มมีอาการตั้งแต่ตอนนั้น
ตอนนั้นก็นึกสนุกจะแหย่เธอเล่นแกล้งพลิกตัวไปใกล้ๆ ขยับตัวให้เธอรู้สึก ว่ากูมาแล้วนะ เธอมีอาการสยิวขยับตัวหนีจนเบียดขอบเต็นท์ ผมก็ขยับเข้าไปอีกจนเธอหนีไม่ได้พอผมเบียดจนสัมผัสถูกตัวเธอ เธอมีอาการสะท้านเล็กๆ แต่ยังนอนนิ่งไม่ไหวติงผมรู้สึกได้ถึงหัวใจเธอที่เต้นแรงจนรั่วเหมือนกลอง
ผมเลยลองเองแขนไปกอดพาดช่วงเอวที่เธอนอนตะแคงหันหลังเธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่โวยวาย ไม่ขัดขืนอะไรทั้งที่เธอไม่ได้หลับ รสเนื้อนุ่มแน่นของเนื้อเอวที่คอดการโอบกอดสาวที่ห่างเหินมานาน จากที่คิดจะแหย่เล่น กลับรู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาจริงๆผมกลับยับยังชั่งใจไม่ได้ที่จะลูบไล้ไปตามตัวเธอ เมื่อเธอไม่แสดงอาการขัดขืน
ตอนนั้นเธอใส่เสื้อยืดของผมและกางเกงขาสั้นแนบเนื้อของเธอ โดยไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน เพราะบีกินี่ที่ใช้ต่างชุดชั้นในเธอใช้ใส่อาบน้ำไปแล้ว
มือผมละลาบละล้วงเข้าไปในเสื้อยืดลูบหน้าท้องที่แน่นของเธอก่อนจะขึ้นไปทรวงอกที่ไร้ซึ่งยกทรง เพียงผมสัมผัสถูกเธอก็สะท้าน ส่งเสียงครางในลำคอดัง อืมส์
เสียงฝนตกกระทบผ้าเต็นท์ดังเปาะแปะและบรรยากาศที่เย็นพร้อมกับอุ่นไอสาวชาวต่างชาติที่ไม่เคยลิ้มลอง มันทำให้ผมไม่อาจหักห้ามใจได้อีกแล้ว
ผมจับเธอพลิกตัวมาแล้วกอดจูบเธอเธอเพียงพริ้มหลับตาและตอบสนองการจูบแบบเต็มใจ เหมือนใจเธอเองก็ต้องการและรอคอยเพียงแต่ไม่กล้าที่จะแสดงออกผมแลกจูบกับเธออย่างแผ่วเบาและถะนุถนอมค่อยเป็นค่อยไป แต่อารมณ์ของเธอก็ขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนจิตใจครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ตลอด
ชายหนุ่มหญิงสาวที่เร้าร้อนด้วยไฟตัญหาและบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจ ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็คงหยุดกันไม่อยู่แล้ว ผมค่อยๆถอดเสื้อของเธอออก ตามาด้วยกางเกงขาสั้น รูปร่างสาวชาวญี่ปุ่นที่ไร้สิ่งปิดบัง ขาวผ่องสะท้อนแสงไฟจากแสงไฟฉายแสงอาทิตย์ ที่ชาร์ทเก็บไว้เมื่อตอนกลางวัน มันช่างงดงามเกินคำบรรยายมันยากที่จะไม่ให้ผมเชยชมเธอทุกสัดสวน
ผมไล่จูบโลมลิ้นตั้งแต่ซอกคอลงหน้าอกเคล้าคลึงที่หน้าท้องลงไปถึงปลายขา แล้วจึงวกกลับขึ้นมาที่เนินสวาทสาวเจ้าถ่างขารับลิ้น โดยเอาแขนยกขาแบะให้ อย่างกับที่เห็นในหนัง Av
ผมลงลิ้นที่แตดอย่างนุ่มละมุน พร้อมกับนิ้วที่แยงรูเข้าออกช่วยเสริมน้ำเงี่ยนเธอถูกกระตุ้นหลังไหลฉะโลมเปียกจนร่องตูดก็ฉ่ำแฉะไปด้วย เสียงครางร้องเสียงเล็กน่ารักอย่างชาวญี่ปุ่นที่ชาตินี้คิดว่าจะได้ยินแต่ในหนังโป๊ก็เริ่มได้ยินมากระทบโสตประสาทเมื่อเธอเริ่มเสียวกำหนัดอย่างหนัก
“อิ..คึ.. อิคึ อิคึ นายใหญ่ ฉันเสียวไปหมดแล้ว ใจจะขาดแล้ว .. ฉันทรมานเหลือเกินอิคึ”
อืมส์ ซีดดดส์ รสชาติแบบณี่ปุ่นเป็นแบบนี้นี่เอง ซีดดดส์ ผมร้องในใจ และดูดแตดเลียหีด้วยความเสียวกระสันกำหนัดควย เพราะเสียงร้องครางของเธอ จริตสาวญี่ปุ่นเวลาโดนเย็ดมันต่างจากสาวไทย จริตหญิงสาวชาติใดมันก็มาจากวัฒนธรรมชาตินั้น
คิมิยะ เรกะ แสดงสีหน้าอย่างทรมานแต่ปากกลับร่ำร้องบอกความสุข มันช่างยั่วใจให้อยากกระหน่ำเธอจริงๆสักพักเธอร้องอย่างเสียว เสียงแหลมเล็ก เสร็จน้ำหีแตกคาปากผม เธอตัวกระตุกปล่อยน้ำกระฉอกออกมาจนหมด หายใจเหมือนคนใกล้จะตาย ปากก็กระเส้าร้อง คิมูจี้ๆอยู่ตลอด จนน้ำหีแตกจนหมด
จากนั้นผมเข้าไปกอดเธอแล้วจูบปาก จับมือเธอมาจับควยผมให้เธอลูบไล้เธอจับมันรูดจนมันแข้งเป็นเอ็นปูด หัวควยบานเป็นเห็ดหนังหุ้มปลายถลอกแนบไปกับลำควย เธอรู้ได้ว่าผมต้องการให้เธอทำอะไรเธอลุกขึ้นไปนั่งกลางหว่างขาผม แล้วคู้คดตัว ก้มลงใช้ลิ้นละเลงควยที่ใหญ่ยาวให้เธอจนควยผมกดแนบไปกับหน้าทอง แล้วใช้ลิ้มไล่ตั้งแต่หัวควยจนถึงไข่ แล้วก็เลียเล่นไข่ผม
จนผมทั้งเสียวทั้งจุกเกร็งตัวกดหัวเธอเอาไว้
“ซีดดส์ เรกะ เธอเก่งจังเลย อาห์”
ผมบอกแล้วเธอก็ยิ้ม แล้วเอาหัวควยผมที่บานเป็นเห็ดเข้าปากใช้ลิ้นในปากเล่นวนจนมันชุ่มเปียกไปหมด เธอทำมันอย่างช้าๆแผ่วเบาและมองผมด้วยสาวตาวิงวอนอ้อนควย ปราศจากคราบนางพญาที่เย่อหยิ่ง จนไฟราคะผมรุกโชนอยากเย็ดเธอเต็มแก่ ผมไม่รอให้เธอทำให้ผมเสร็จด้วยปาก เพราะอดรนทนไม่ไหว ขยับตัวลุกขึ้นให้เธอโก้งโค้ง จับเธอเย็ดท่าหมา
เธอแอ่นตูดเอวงอจนขับเน้นความน่าจับกระแทกเย็ดเข้ารูหีจากด้านหลังได้อย่างดีสายตาเธอมองผมตลอดที่กำลังเตรียมเอาควยยัดเข้าหีเธอ
“อ้ออยยยยย ซีดดส์ ”
เธอร้องเมื่อหัวควยที่บานของผมเริ่มมุดเข้าไป หีของเธอทั้งฟิตทั้งแน่นรูดรัดควยจนเสียวไปหมด เรกะ ถึงไม่ใช่ผู้หญิงซิง แต่ก็คงไม่เคยโดนของใหญ่ขนาดนี้และคงไม่มีแฟนมานาน หีถึงได้กลับมาฟิตเหมือนหีซิงอีกครั้ง
ผมค่อยๆดันเข้าจนมิด ระหว่างนั้นเธอก็ร้องว่า
“โอ้ยยย ซีดดดส์ มันใหญ่จัง แน่นไปหมดแล้ว ซีดดส์”
“เธอเจ็บมั๊ย”
ผมกระซิบถามด้วยความเป็นห่วง แต่เธอกลับกัดฟันส่ายหน้า ผมจึงค่อยๆกระเด้าช้าๆเธอตัวสั่นสะดุ้งสะท้านตลอดที่ควยผมออกสุดและเข้าจนสุด สักพักเหมือนจะเข้าออกได้ดีขึ้นน้ำหีเธอแฉะจนฉ่ำ ผมก็เริ่มทำได้เร็วขึ้น จนเริ่มซอยใส่ ดัง ตับ ตับ ตับ ตับ เสียงร้องอิ คึ ของเธอก็เริ่มดังตามมา
และผมก็เริ่มจังหวะเร้วขึ้นเมื่อรู้ว่าหีเธอพร้อมรับแล้ว
ตับๆๆๆๆๆ
“โอ้ววว ซีดดดส์ วิเศษ ตอดรัดควยดีจริงๆ เรกะ หีเธอสุดยอดเลย ซีดดดส์”
ผมไม่รู้ว่าเรกะ เข้าใจคำว่าหีมั๊ย คำว่าควยมั๊ย แต่ผมก็อดพูดชมเธอไม่ได้เมื่อรู้สึกมันส์ควยและเสียวควย ขณะกระเด้าเย็ดเธอ ตอนนั้นเธอก็ร้อง อิ คึแล้วตามมาด้วยภาษาญี่ปุ่นที่ผมแปลไม่ออก แต่นั้นไม่สำคัญหรอกเอาแค่เสียงที่เล็กใสของเธอบอกกับท่าทีที่แสดงออกก็เรียกอารมณ์ได้มากแล้ว
“อาห์ ซีดดดส์ เสียว จนน้ำควยจะแตกแล้วว ซีดดส์ เรกะ จ๋า ขอแตกน้ำควยให้เต็มหีเลยนะซีดดดส์”
ผมพร่ำพูด พร้อมอารมณ์จะเสร็จ จากนั้นก็ซอยเร็วๆ ปล่อยน้ำแตกเต็มหีเธอเธอร้องกระตุกเสร็จตาม ขมิบหีตอดรัดรีดน้ำจากควยผมจนหมด แต่อารมณ์เงี่ยนผมยังไม่หมดที่ได้เย็ดผู้หญิงอย่างเรกะแม้น้ำแตกแต่ควยไม่หด ยังแข็งเป็นลำคาหีอยู่อย่างนั้น จึงโยกเย็ดต่อเลย
เรกะ ดูแปลกใจ แต่เธอก็เสียวสะท้านไปหมดเพราะเพิ่งเสร็จก็โดนเย็ดต่อเลย ทำให้อารมณ์เสียวเธอต่อเนื่องไม่ขาดตอน และยิ่งเสียวมากขึ้นไปอีกเมื่อน้ำควยผมที่แตกเต็มรูหีเธอมันถูกควยกระแทกจนแตกฟองติดควยติดหีจนเป็นครีมขาว เปื้อนเปรอะไปทั้งหน้าขาและง่ามตูดของเธอ
“อิ คึ ดีอะไรอย่างนี้ อิ .. อิ คึ ไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อนเลย อิ.. คึ.. ใหญ่นายเก่งจังเลย ..”
เรกะ เธอพูดเพ้อเสียงกระท่อนกระแท่น หลับตา ตัวเกร็งรับดุ้นควยที่กระทั้นกระแทกเข้าหีเธอไม่นานเธอก็เสร็จน้ำแตก ล้างคราบครีมขาวที่เกิดจากน้ำควยผมออกจากหีเธอจากนั้นผมเปลี่ยนท่า จับเธอมาอุ้มแตง เธอก็ช่วยขย่ม ผมก็กอดจูบซุกไซด์นมเธอ เธอเสียวเสร็จไปหลายรอบหลังๆ ยิ่งเสร็จไว ไม่นานเธอก็เสร็จน้ำแตกอีก ครั้งนี้เธอตาลอย ตัวอ่อนไร้เรียวแรงเหมือนหมดสภาพ ร้องแต่ คิมูจี้ ๆ อย่างคนจะขาดใจ ผมจึงวางเธอนอน แล้วชักควยตรงหน้าเธอ เธอก็อ้าปากรอน้ำอย่างไร้เรียวแรง ไม่นานผมก็ชักควยน้ำแตกใส่ปากเธอ
มันท่วมจนล้นปากจนเธอปล่อยไหลออกข้างแก้ม แล้วเธอก็อ่อนระโหยโรยแรง ขยับตัวเข้ามากอดผมสีหน้าเคลิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะหลับไป และหลับไปทั้งทีตัวเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคาบน้ำกาม
—————————————————————————————————-