กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 29

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 29

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 29
โดย saradio

กลางมองดูเรกะจากไปด้วยความรู้สึกอ่อนใจ เหมือนมองเด็กที่ไม่รู้จักโต แม้เธอจะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ และฉลาดหลักแหลม จ้าวแผนการและมีความเป็นผู้นำสูงจนตอนนี้ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งแทนพ่อได้อย่างภาคภูมิ ทั้งที่อายุยังน้อย

แต่ส่วนหนึ่งในตัวเธอกลับมีความเป็นเด็กที่เอาแต่ใจคิดเรื่องไร้สาระได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเรื่องความรักของเธอที่มีต่อพี่ใหญ่

กลางนึกไปถึงวันที่เจอกับเรกะครั้งแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในกรุงเทพ ตอนนั้นกลางไปติดต่อขอทราบที่อยู่ของพี่ใหญ่หลังได้ข่าวเหตุการณ์พบผู้รอดชีวิต จากเหตุการณ์ลอบสังหารนักธุรกิจสาวชาวญี่ปุ่นแต่ตำรวจไม่เปิดเผยข้อมูลให้ เพราะกลางไม่มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติหรือเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องพอที่จะทำให้ตำรวจจะสามารถเปิดเผยข้อมูลให้ได้เพราะใหญ่ยังมีชื่อเป็นพยานในคดีอยู่

ตอนเรกะมาเจอกลางนั้นเธอกำลังมาให้ปากคำกับตำรวจพร้อมทนายและเจอกลางที่กำลังอ้อนวอนขอเบอร์โทรหรือที่อยู่ของใหญ่กับตำรวจจนจะโดนไล่ทำให้เรกะสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครและตัดสินใจเข้าไปพูดคุยด้วยเมื่อรู้ว่าเธอคือกลาง เรกะกลับทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดเธอหลอกกลางให้ไปญี่ปุ่น โดยบอกว่าจะพาใหญ่ไปญี่ปุ่นด้วยและจะหางานดีๆที่ญี่ปุ่นให้ทำ เพื่อตอบแทนที่ช่วยชีวิต

กลางเชื่อและไปญี่ปุ่นกับคนของเรกะก่อนแล้วหลังจากนั้นอีก 1 เดือน เรกะจึงให้คนมาพาใหญ่ไป แต่เรกะทำตามที่พูดไว้กับกลางเพียงครึ่งเดียว เธอหางานดีๆให้ใหญ่ทำแต่ไม่ให้กลางได้พบกับใหญ่ ด้วยเหตุผลที่กลางฟังแล้วขำไม่ออก เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมีความคิดแบบนี้บนโลก

เรกะบอกกับกลางตรงๆ ว่าใหญ่เป็นของเขา และไม่อยากให้ใหญ่เจอกลาง ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เรกะคิดว่า ใหญ่รักเธอมากที่สุดและเธอจะไม่มีวันได้พบใหญ่ จนกว่าใหญ่จะรักเรกะอย่างหมดใจ และรักมากกว่ากลาง

เรกะไม่ได้คิดทำอะไรกลางอยู่แล้วเพราะไม่อยากอยู่อย่างหวาดระแวง ถ้าใหญ่มารู้ที่หลัง ใหญ่ต้องไม่รักเธอแน่นอน จึงเอากลางมาเป็นแค่ตัวประกันคิดไว้ว่าหากวันใดวันหนึ่ง ใหญ่ไม่รักเธอ ใหญ่ก็จะไม่เจอกลางเหมือนกัน

แล้วตอนนั้นก็เลยกักบริเวณกลางไว้ในคอนโดที่พักของตัวเองเพื่อไว้เป็นเพื่อนคุยในสิ่งที่เธออยากรู้เรื่องของใหญ่

ความจริงเรกะเองก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งถ้าลองอยู่ในห่วงของความรักแล้ว ก็อยากรู้อยากพูดถึงคนรักกับใครสักคนที่สนิทกับคนที่เรารักเพียงแต่ฐานะเธอไม่สามารถไปพูดคุยเรื่องแบบนี้กับใครได้ กลางจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและหวังว่าเมื่อเธอสามารถเอาชนะใจใหญ่ได้ และพูดให้กลางได้ยินได้ฟังบ่อยๆ จะทำให้กลางถอดใจยอมแพ้ไปเอง

แต่กลางก็ไม่ได้ถอดใจและไม่แสดงอาการโกรธหรือหึงเรกะ ถ้าเรกะจะพูดเรื่องความรักของเธอกับใหญ่ให้ฟังแบบแอบเยาะเย้ยถากถางแต่ในทางกลับกัน กลางยังรับฟังอย่างดีและให้คำปรึกษาด้วย และแอบกล่อมเกลาเธอแฝงไปในคำพูดให้คำปรึกษาเพราะกลางอยากให้เรกะเปลี่ยนทัศนะคติความรักของเธอทีมีต่อพี่ใหญ่จากรักที่หวังแก่งแย่งกันเป็นที่หนึ่ง มาเป็นรักแบบรักของเธอที่ขอเพียงแค่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขก็พอ เพราะกลางดูแล้วเรกะก็รักพี่ใหญ่ของเธอมากเหมือนกัน

ทำให้ไปๆมาๆ เมื่อเวลานานเข้า กลางกลายเป็นทั้งเพื่อน ที่ปรึกษาและตัวประกัน แถมเป็นศัตรูความรักในเวลาเดียวกันจนบางทีเรกะเองก็แยกความรู้สึกที่มีต่อกลางไม่ออก

ในวันเดียวกันในตอนค่ำเรกะเสร็จจากงานการประชุมกลับมาที่พักเธอเห็นกลางกำลังง่วนรื้อกระเป๋าเดินทางที่กลางนำติดตัวมาจากเมืองไทยอยู่สองสามใบ

เรกะเลยต้องยิ้มอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า
“เธอคิดจะหนีเหรอ ทำอย่างนั้นไม่เป็นผลดีกับเธอและนายใหญ่เลยนะฉันจะบอกให้”
“ฉันรู้น่า .ฉันไม่หนีเธอหรอกฉันแค่จะหาอะไรบางอย่างแค่นั้น… นี่ไงเจอแล้ว”
กลางพูดอย่างดีใจ แล้วเอาอัลบั้มรูปออกมาจากกระเป๋าเรกะสนใจ เลยเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“อัลบั้มรูปใคร”

กลางยิ้มไม่บอกว่าของใคร แต่วางไว้ตรงเคาน์เตอร์บาร์ดื่มเหล้าใกล้ๆแล้วพูดว่า
“เธออยากดูก็ดูสิ”

แล้วกลางก็เข้าไปในเคาน์เตอร์ จัดการเครื่องดื่มเบาๆให้ตัวเองกับเรกะตอนนั้นเรกะเดินมาเปิดอัลบั้มดูด้วยความอยากรู้ มันเป็นรูปถ่ายของกลาง แอน และนายใหญ่ 3 คน ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ข่อนแก่นแต่ละภาพทั้งสามคนถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนานและดูอบอุ่นรักใคร่กลมเกลียวกัน

ตอนแรก เรกะดูด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่เมื่อดูไป 2 สามหน้า ก็เผยยิ้มออกมาหน่อย แล้วพูดว่า
“ผู้หญิงคนนี้ คือแอนใช่มั๊ย ดูพวกเธอบ้ากันดีจัง”
“ใช่ .. ตอนนั้นพวกเราบ้ากันจริงๆฉันคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขกันที่สุดแล้ว พวกเราทำอะไรได้โดยไม่ต้องสนใจใคร เพราะเรามีแค่กันและกัน”

กลางบอกอย่างนึกถึงความหลัง ขณะเทวิสกี้ผสมน้ำผลไม้ทำค๊อกเทลโดยไม่ได้หันมามอง แล้วเรกะก็หัวเราะพูดว่า
“รูปนี้ นายใหญ่ตลกจัง ฉันไม่คิดว่าเขาจะกล้าโพสท่าแบบนี้นะ”

กลางต้องแวบมาดูด้วยแล้วหัวเราะ เมื่อนึกถึงตอนนั้น แล้วพูดว่า
“ยังมีตลกกว่านี้อีกนะ เธอดูไปเรื่อยๆสิ.”

เรกะ ต้องเหลียวมองกลาง และยิ้มอย่างรู้ทัน พูดว่า
“เธอเอามาให้ฉันดูทำไม คิดจะกล่อมฉันอีกละสิ”

กลางอมยิ้มไม่ได้ตอบ หันไปหยิบเครื่องดื่มมาส่งให้ เรกะรับมาและแม้รู้เจตนากลางดี แต่ก็อดที่จะดูต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้จนมาถึงภาพถ่ายที่ไปเที่ยวทะเล พร้อมนางและก้อย มีภาพหมู่ภาพหนึ่ง ที่มี กลาง นางก้อย และแอน เข้าห้อมล้อมถ่ายกับกระเทยคนหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง

เรกะ ขมวดคิ้วมองพิจารณา อย่างกับกระเทยนี่หน้าคุ้นๆ
“กระเทยนี่ใครหนะ”

เรกะถามอย่างสงสัย กลางบอกว่า
“เธอลองทายดูสิ”

เรกะจึงมองอย่างตั้งใจ ก่อนจะหัวเราะงอหงาย
“นี่นายใหญ่เหรอเนี่ย ทำไมเขาแต่งตัวแบบนี้หละ”

กลางเลยเล่าให้ฟัง แบบตลกๆ ที่พี่ใหญ่ต้องปลอมตัวหลบหน้านางทำให้เรกะหัวเราะไม่หยุด เมื่อนึกถึงสภาพนายใหญ่ตอนนั้น เมื่อดูจนจบเรกะยังชวนกลางดื่มต่อแล้วผลัดกันเล่าเรื่องสนุกของนายใหญ่ให้ที่ต่างคนต่างเชิญมาให้กันฟัง และนินทานายใหญ่กันสนุกปาก

จนกลางเห็นเรกะเริ่มเคลิ้มอารมณ์ดีไปกับคำพูดของเธอ ก็เลยตัดสินใจพูดว่า
“จริงๆ ถ้าพวกเราได้อยู่ร่วมกันทุกคน มันคงจะสนุกนะ…ทำไมเธอถึงคิดว่าเธอต้องที่หนึ่งในใจเขาตลอดหละ”

เรกะ จากที่หัวเราะยิ้มอยู่ ก็เปลี่ยนสีหน้าถอนหายใจ ก่อนจะพูดว่า
“เธอนี่หาเรื่องกล่อมฉันได้ทุกเวลาจริงๆเลยนะ”

เรกะพูด ด้วยอารมณ์ที่ไม่มีความโกรธ เหมือนทุกที แล้วก็พูดต่อว่า
“เอาละ ฉันจะบอกให้….ก็เพราะว่าแม่ฉันเป็นเมียน้อยยังไงหละ และฉันจะไม่ได้เกิดมาเลยถ้าเมียคนแรกของพ่อฉันไม่หายสาบสูญไป แม่ฉันเล่าให้ฟังว่า ท่านทรมานใจแค่ไหนกับการรอคอยความรักของพ่อให้หันมาสนใจท่านและสอนให้ฉัน หากคิดจะรักใครต้องอย่าเป็นแบบแม่ เขาคนนั้นต้องให้ความรักความสำคัญต่อฉันเป็นอันดับแรก…หึหึ หึ แต่โชคชะตาก็เหมือนเล่นตลกที่ให้ฉันมารักกับคนเจ้าชู้อย่างตาบ้านั้นทั้งที่พยายามหักห้ามใจแล้วแต่ฉันก็ทำไม่ได้ ฉันก็เลย… ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อครอบครองเขาไว้แม้จะต้องฆ่าคนก็ตาม”

เรกะพูดและหันมายิ้มมองกลางด้วยสายตาคมกริบ จนกลางหนาวเหน็บไปถึงไขสันหลัง กลัวว่า เรกะ จะทำตามที่พูดถ้าเป็นอย่างนั้น ชีวิตพี่น้องเธอก็ไม่ปลอดภัย

กลางรีบกุมมือเรกะ พูดว่า
“ไม่…เธอไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น เธอก็เห็นรูปพวกนั้นแล้วเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้ เธอเชื่อฉันเถอะ พี่ใหญ่จะไม่มีวันทอดทิ้งเธอเขารักผู้หญิงทุกคนที่เขารัก และเขาก็รักเธอมากด้วย เขาจะให้ความสำคัญเราเท่าๆกันทุกคนไม่มีใครมากกว่าหรือน้อยกว่ากัน”

ตอนนั้น กลางกุมมือเรกะเหมือนข้อร้อง รนรานพูดอย่างร้อนรน พยายามกล่อมเรกะ ให้เปลี่ยนความคิด จนเรกะ ต้องหลุดหัวเราะ แล้วเธอก็พูดว่า
“ฉันล้อเธอเล่นหรอกน่า ถ้าฉันจะทำ ฉันทำไปนานแล้ว ดูเธอตอนนี้สิเริ่มกลัวฉันจริงๆ แล้วใช่มั๊ยหละ ฮึฮึ” กลางหน้าซีดเผือก รู้สึกกลัวผู้หญิงคนนี้จริงๆ

แล้วเรกะก็ถอนหายใจอย่างผผ่อนคลายเหมือนกำลังจมกับความคิด เพราะหลังจากที่ได้เห็นภาพพวกนั้น เรกะเห็นพวกเธอดูมีความสุขและเป็นอิสระ และเป็นสิ่งที่เรกะไม่เคยมีมาตลอดชีวิต เรกะทั้งรู้สึกอิจฉาและอยากเป็นส่วนหนึ่งในนั้นและอยากมีโอกาสได้สนุกสนานเหมือนพวกเธอ

จนเธอหลุดพูดเปรยออกไปตามที่ใจคิดว่า
“เธอคิดว่า พี่น้องเธอ และเพื่อนของเธอ จะเข้ากับฉันได้มั๊ย”

กลางตาลุกวาว รีบพูดว่า
“ได้สิ เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเขาอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีปัญหา ถ้าพวกเขาพร้อมใจอยู่ด้วยกันแสดงว่าเขายอมรับที่จะอยู่ร่วมกันอย่างนั้นแล้วอยู่ที่เธอจะเปิดใจรับพวกเราหรือไม่เท่านั้น”

เรกะยิ้มเล็กน้อยอย่างไวตัว แล้วหันมาพูดว่า
“เธอก็อย่าเพิ่งดีใจไปฉันยังไม่ได้รับปากอะไรเธอสักหน่อย”

แต่กลางยังยิ้มไม่หุบ เพราะการที่เรกะพูดแบบนี้ ก็เหมือนเธอเริ่มจะใจอ่อนคล้อยตามแล้ว

—————————————————————————

รุ่งเช้า เรกะ ได้รับข่าวจากดาเตะหัวหน้าสาขาประเทศไทยที่คอยเป็นสายรายงานให้ว่า ใหญ่กำลังเดินทางกลับญี่ปุ่น โดยออกเดินทางตั้งแต่เมื่อคืน น่าจะถึงตอนสายๆของวันนี้เรกะ ถามดาเตะถึงงานที่ใหญ่ไปทำให้ท่านประธานอีกว่าเป็นอะไรสำเร็จหรือไม่แต่ดาเตะไม่รู้เรื่องพวกนั้น เลยตอบว่าไม่ทราบ

แต่เรกะ ไม่ได้ใส่ใจมากนัก คิดแค่ว่าหากใหญ่กลับมา งานน่าจะสำเร็จแล้ว เธอวางสายอย่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะพ่อของเธอบอกว่าหากใหญ่กลับจากประเทศไทยเมื่อไหร่ จะให้พูดคุยเรื่องแต่งงานกัน

ดังนั้น เธอรีบโทรบอกให้เรขา ให้โทรเลื่อนนัดทุกอย่างของวันนี้เพื่อจะไปพบพ่อที่โรงพยาบาลและดักรอใหญ่ที่นั่น จะได้พูดกับพ่อเรื่องงานแต่งงาน

แล้วเธอก็มาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าโดยขับรถมาเองคนเดียว โดยไม่มีผู้ติดตาม เผื่อขากลับจะได้กลับพร้อมนายใหญ่จะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เพราะวันนั้นที่ไปส่งนายใหญ่ที่สนามบินมีโอกาสพลอดรักกันเพียงสั้นๆ ยังไม่รู้สึกอิ่มหนำสำราญใจสักเท่าไหร่มันยังรู้สึกค้างคาและโหยหาอยู่เป็นเนืองนิตย์

เมื่อ ทาเอดะ เห็นลูกสาวมาหาก็พอจะเดาใจออก พูดหยั่งเชิงว่า
“วันนี้แกไม่มีงานหรือไง ถึงมาหาฉันแต่เช้า”

เรกะเลยยิ้มอย่างเอาใจ พูดว่า
“งานก็มีหนะค่ะ แต่ว่า นู๋ไม่ได้มาเยี่ยมพ่อนานแล้วก็เลยอยากจะแวะมาหาพ่อบ้าง พ่อจะได้ไม่เหงา”

ทาเอดะ ต้องยิ้มอย่างรู้ทัน หัวเราะเบาๆ ยิ้มพูดว่า
“หึ หึ หึ .แกไม่ต้องมาพูดดีหรอกที่แกมาเพราะรู้ว่าเจ้าโอกิกำลังจะมามากกว่า ก็เลยจะมาทวงสัญญากับฉัน”

เรกะจึงเลิกคิ้วยิ้มทำหน้าซื่อตาใส ไม่ตอบแล้วลุกขึ้นไปชงชาญี่ปุ่นมาให้ทาเอดะ เพื่อเอาใจกลบเกลื่อนความเขินตัวเองที่ถูกพ่อจับได้

ทั้งสองคนคุยกันตามประสาพ่อลูกสักพักทเอดะ ก็มีเรื่องอยากจะบอกเรกะ จิบชาทำใจสักครู่เลยพูดว่า
“ความจริง แกมาตอนนี้ก็ดี ฉันมีเรื่องอยากจะพูดกับแกแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะหาโอกาสพูดกับแกตอนไหน….แกอยากรู้มั๊ยว่าฉันส่งโอกิไปประเทศไทยทำไม”
“ก็พ่อบอกว่าให้เขาไปเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนไม่ใช่เหรอค่ะ”
“ไม่.. แกรู้ดี ก็เจ้าดาเตะรายงานแกตลอดไม่ใช่เหรอว่าเจ้าโอกิมันไปทำงานให้ฉัน มันไม่ได้ไปเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนอะไรเลย”
“ก็ได้ค่ะ..นู๋ยอมแพ้ ไม่ว่านู๋จะทำอะไรพ่อก็รู้ไปหมดตกลงพ่อให้เขาไปทำงานอะไร.”
“พ่อให้เขาไปตามหา เมียคนแรกของพ่อ”
“อะไรนะค่ะพ่อ…”

เรกะ พูดแค่นี้ ก็พูดอะไรไม่ออก ทาเอดะเลยพูดต่อว่า
“แกอาจจะไม่รู้ว่าพ่อมีเมียก่อนที่พ่อจะมีแม่ของแก..”
“นู๋รู้ค่ะ ถึงตอนนั้นนู๋จะยังไม่เกิด แต่แม่ก็เล่าให้นู๋ฟังทุกอย่าง”

เรกะ ลุกขึ้นและพูดสวนขึ้นมาทันที แล้วพูดต่อว่า
“ทำไมค่ะพ่อ มันตั้งนานแล้วนะค่ะ พ่อจะไปตามหาเธออีกทำไม”
“เรกะ เธอนั่ง แล้วฟังพ่อแกก็รู้ว่าพ่อจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว บางทีคนเราเมื่อแก่ตัวใกล้ตาย ก็อยากจะเจอคนที่ตัวเองรักหรือไม่ แค่ได้รู้ข่าวก็ยังดี อย่างน้อยพ่อก็จะได้ตายตาหลับ”
“แล้วแม่ของนู๋หละ พ่อไม่ได้รักเธอหรอกเหรอ”
“ฉันเองก็รักแม่เธอ เรกะ รักไม่ต่างจากเมียคนแรกของฉันไม่อย่างนั้นฉันจะกันแม่เธอไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมายที่ฉันทำแต่ก่อนหรือไงแต่แม่เธอก็เข้าใจฉันผิดมาตลอดจนกระทั้งเธอตาย และฉันไม่รู้ว่าเธอเล่าอะไรให้เธอฟังมั่งแต่บอกไว้เลยว่า แม่เธอไม่มีความสุขเพราะเขาทำตัวเองเขาเป็นคนที่ทำให้จิตตราเมียฉันต้องหนีคดีหัวซุกหัวซุนที่ประเทศไทยจนติดต่อไม่ได้และหายสาบสูญไปแม่เธอปิดบังฉันหวาดระแวงและกลัวฉันจะรู้ เลยอยู่อย่างไม่มีความสุข จนถึงวันที่เธอจะตายเธอถึงยอมสารภาพแต่ฉันก็ยังอภัยให้แม่เธอ เธอยังคิดว่าฉันไม่รักแม่เธออีกเหรอ”

เรกะ สะท้อนใจอย่างหนัก ที่ได้รู้ความจริงเรื่องนี้ทุกอย่างแม่คิดไปเองทั้งหมดว่าพ่อไม่รัก เพียงแต่พ่อไม่ได้รักผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นเองมันช่างไม่ต่างจากตัวเธอและนายใหญ่ตอนนี้เหลือเกินทำให้เรกะได้ฉุกใจคิดเรื่องของเธอ ว่าเธอจะเดินตามซ้ำรอยแม่เธอหรือไม่ หากมัวแต่คิดจะครอบครองและเป็นที่หนึ่งของคนที่ตัวเองรัก

ตอนนั้น มีคนเคาะประตู ทำให้ทั้งคู่ต้องยุติการสนทนา และคนของท่านประธานเข้ามารายงานว่าหัวหน้าสาขา คุณ โอกิมาถึงแล้ว กำลังรอเข้าพบ ท่านประธานยิ้มอย่างยินดีแล้วบอกให้เข้ามาได้

Share the Post:

Related Posts

แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู

เรื่องเสียว แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู เอิร์นนะคร้า เป็นสาวมหาลัยในเชียงใหม่นี้เองค่า เอิร์นเป็นสาวมหาลัยปีสองแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้ชายเลย ยุคนี้แล้วเนอะ ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะคะที่ล่าแต้ม เอิร์นเองก็กินมาเยอะเหมือนกันค่ะ สูงยาว ลำอวบ ใหญ่ยาว กินมาหมดแล้วค่า ชีวิตครั้งนึงเนอะ เรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องมีบ้างอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ และแน่นอนว่าเอิร์นเลยกินแต่วัยเดียวกัน รู้ตัวอีกทีได้แอบกินรุ่นใหญ่พี่แท็กซี่ซะอย่างนั้นเลยค่ะ ที่สำคัญไม่เคยเจอมังกรที่ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มาก่อน มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยความที่อยู่เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะ

Read More

จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว

เรื่องเสียว จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว “ตั้งกล้องเรียบร้อยแล้ว มึงพร้อมยังจะได้กดเริ่ม” วันนี้เรามีถ่ายคลิปวิดีโอทำอาหารที่คอนโดของพวกเราสองคนที่เป็นเพื่อนกัน เรามองเม็กที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดจนเห็นแผงอกที่เป็นมัดกล้าม กางเกงขาขั้นสั้นสบาย ๆ แต่พอมาอยู่บนร่างกายของเม็กแล้วมันดูดีไม่น้อยเลย ถึงแม้เราทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่พอมาเจอมันในลุคนี้ก็ทำให้เราใจสั่นไม่น้อย “มึงกูสวยยัง” “สวยแล้ว” พอได้รับคำตอบที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว เราก็พยักหน้าให้มันเริ่มกดบันทึกภาพวิดีโอทันที การถ่ายทำดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นตอนการชิมอาหาร “อะ

Read More