กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 31

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 31

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 31
โดย saradio

ชายคนหนึ่งอายุประมาณ50 เศษ เดินถือปืนอย่างองอาจก้าวเข้ามา เขาคนนั้นคือ โทกิ เรกะ ดีใจอย่างที่สุดเรียกคนที่มาว่า
“คุณอาโทกิ ”

แล้วเธอก็รีบวิ่งมาหาผม มากอดผมเมื่อรู้ว่าผมรอดแล้ว โทกิก็เข้ามาดู แล้วฉีกเสื้อผมมาทำผ้าพันแผลห้ามเลือดไว้ก่อนพูดว่า
“แค่นี้ยังไกลหัวใจ ไม่ตายหรอก”

เขาพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ทั้งที่ผมโดนยิงขาจนเลือดอาบลุกไม่ขึ้น แล้วเขาโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับระหว่างที่รอ เรกะ ก็เขาไปขอบคุณโทกิ แล้วพูดว่า
“ขอบคุณ คุณอาที่มาช่วยนู๋บุญคุณครั้งนี้ของคุณอานู๋จะไม่ลืมเป็นอันขาด”

โทกิกลับหัวเราะเนื่อยๆ แล้วพูดว่า
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เพราะฉันก็ไม่ได้จะตั้งใจมาช่วยเธอเท่าไหร่ เพียงแต่เธอมันโชคดีแค่นั้นเอง”

.โทกิ พูดพร้อมเรียบๆ อย่างไม่ใส่ใจ ทำให้เรกะกับผม ต่างงงและมองหน้ากันเรกะ เลยถามว่า
.”คุณอาหมายความว่ายังไงค่ะ”

โทกิ ยิ้มอย่างมีลับลมคมในแล้วพูดว่า
“เธอคิดว่า การที่เธอขอให้เจ้าทาเอดะยกโทษให้ฉันที่ไปสนับสนุนเจ้าโคอิจิให้ทรยศครั้งนั้นจะทำให้ฉันทราบซึ่งน้ำใจเธอจริงๆ เหรอ ถ้าอย่างนั้นเธอลองคิดสิว่าเจ้าโคอิจิมันรอดตายจากพ่อเธอมาได้ยังไง”
“หรือ คุณอาเป็นคนช่วยปล่อยมันมา”

เรกะ เริ่มเดาอย่างประติดประต่อ ด้วยความคลางแคลงใจ
“ใช่.. ฉันหาคนไปตายแทนเจ้าโคอิจิมัน แล้วช่วยให้มันหนีออกมา”
“คุณอาทำอย่างนั้นทำไม”
“หึๆ เพราะอย่างน้อยพ่อมันก็เป็นเพื่อนรักฉันและมันก็มีศัตรูคนเดียวกับฉันด้วย ฉันเลยปล่อยมันออกมาให้เล่นงานพวกเธอแทนฉันยังไงหละ”
ผมกับเรกะ ต่างคิดไม่ถึงว่าโทกิ จะมีแผนซับซ้อนขนาดนี้ทั้งทีตอนนั้เหมือนจะยอมสวามิภักดิ์ต่อเรกะไปแล้ว
“แล้วคุณอามาช่วยนู๋ทำไม”

เรกะถามอย่างคลางแคลงใจ จนโทกิหัวเราะพูดว่า
“ฉันไม่ได้มาช่วยเธอ แต่ฉันมาช่วยเขาต่างหาก ฉันถึงบอกว่าเธอโชคดียังไงหละ”

ทั้งผมและเรกะต่างคิดไม่ออกว่า โทกิ มาช่วยผมทำไมผมเลยถามอย่างสงสัยว่า
“แล้วทำไมคุณถึงต้องมาช่วยผม”

โทกิหัวเราะเสียงดัง เหมือนพอใจอะไรบางอย่าง ก่อนพูดว่า
“ก็แกเป็นลูกชายฉันยังไงหละ”

สิ้นเสียงของโทกิ ทำให้ผมกับเรกะ ตะลึงกันจนพูดไม่ออกโทกิจึงพูดต่อไปว่า
“ต้องบอกว่าสวรรค์คุ้มครองแกถ้าฉันไม่รู้ว่าแกเป็นลูกชายฉันก่อนหน้านี้เพียงนิดเดียวฉันก็คงไม่สนใจที่จะมาช่วยพวกแกแล้ว ตอนนั้นที่ทาเอดะแจ้งทุกคนว่า เรกะถูกจับตัวไปจากโรงพยาบาลพร้อมแก หลังจากที่มีคนเห็น พวกแกถูกบังคับจับตัวขึ้นรถฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือเจ้าโคอิจิ แต่ฉันก็ไม่ได้บอกทาเอดะเพราะต้องการยืมมือเจ้าโคอิจิจัดการกับเรกะอยู่แล้วแต่เมื่อทาเอดะบอกเรื่องของแกว่าเป็นลูกชายจิตตราทำให้ฉันนึกสงสัยและเมื่อฉันได้อ่านบันทึกนั้น ฉันมันใจได้ทันทีว่า แกไม่ใช่ลูกทาเอดะแต่เป็นลูกชายฉัน เพราะจิตตราไม่ได้มีทาเอดะเป็นคนรักแค่คนเดียว”
“อะไรนะ จะบอกว่าแม่ผมเป็นชู้กับคุณเหรอ”
“เปล่าเธอไม่ได้เป็นชู้กับฉันฉันรักกับจิตตรามาก่อนทาเอดะ ฉันเป็นคนไทยเหมือนเธอ และพาเธอมาญี่ปุ่น แต่เธอต้องยอมเป็นของทาเอดะเพราะต้องการให้ฉันเข้าแกงค์ และมีอนาคตอย่างรุ่งโรจน์ เราจึงรักกันอย่างลับๆโดยที่ทาเอดะไม่รู้”
“แต่บันทึกนั้น แม่ผมหมายถึงท่านประธานไม่ใช่เหรอ”
“หึ..หึ หึทั้งทาเอดะและฉันถ้าได้อ่านบันทึกนั้นก็ต้องต่างคิดว่าตัวเองเป็นพ่อทั้งนั้นนั้นเป็นเหตุผลที่เธอไม่ระบุชื่อยังไง เพราะถ้าเธอระบุชื่อฉันลงไปเมื่อทาเอดะได้อ่าน ฉันจะเป็นยังไง ..แต่มันมีหน้าหนึ่งที่ซ่อนโค้ดที่ฉันรู้กันกับจิตตราเอาไว้เมื่ออ่านตามโค้น มันก็จะบอกว่าพ่อเด็กคือใคร นั่นก็คือฉันเอง แล้วก็รูปถ่ายคู่พวกนั้นที่ถูกฉีกภาพผู้ชายออกไปภาพเหล่านั้นเป็นภาพคู่ของฉันทั้งหมด ไม่ใช่ภาพของทาเอดะสักภาพเดียวทีนี้แกเข้าใจหรือยังไอ้ลูกชาย”

ผมตอนนั้นสับสนไปหมด แต่ก็พอจะประติดประต่อเรื่องได้ตอนนั้นคิดว่าที่แม่ไม่เขียนชื่อ เพราะกลัวตำรวจสาวถึง แต่ที่ไหนได้เพื่อปกปิดทาเอดะต่างหาก

“เพราะเหตุนี้ใช่มั๊ยคุณอาถึงอยาก จะฆ่านู๋และพ่อนู๋เพราะแค้นที่คุณอาถูกแย่งคนรักไป”

คราวนี้เรกะ ถามขึ้นเพื่ออยากรู้ให้มันกระจ่าง โทกิเลยบอกว่า
“ไม่ใช่เรื่องนี้ เรกะ แต่เป็นเรื่องที่แม่เธอทรยศ จิตตราต่างหากจิตตราทุ่มเททำงานเสี่ยงอันตรายเพื่อพวกเราทั้งที่ท้องอยู่โดยไม่บอกใครแต่แม่เธอเพราะความคิดบ้าๆ กลับหักหลังจิตตราส่งข่าวให้ตำรวจ ทำให้เธอถูกหมายจับจนกลับญี่ปุ่นไม่ได้ เรื่องนี้เรามารู้กันที่หลัง แต่พ่อเธอกลับไม่ทำอะไรไม่ลงโทษแม่เธอ แม้แต่นิดเดียว มันทำให้ฉันแค้นใจและคิดจะโค่นมันยังไงหละ”

เรกะถึงเข้าใจทั้งหมด พูดเสียงสั่นเครืออย่างนึกหวั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า
“แล้วตอนนี้ คุณอาคิดจะทำยังไงกับนู๋”

โทกิกลับยิ้ม พูดว่า
“ตอนนี้ฉันจะทำอะไรเธอได้ ก็เธอเป็นคนรักของลูกชายฉันแล้วนี่ถ้าฉันทำลูกฉันคงไม่ยอม..เอาละ ฉันว่าฉันต้องไปแล้ว เดี๋ยวตำรวจและรถโรงพยาบาลก็จะมาถึงแล้วทาเอดะก็จะรู้ว่าฉันเป็นคนปล่อยเจ้าโคอิจิ ครั้งนี้มันคงไม่ยกโทษให้ฉันแล้วหละ ฉันคงต้องไปจากญี่ปุ่นเสียที”

แล้วโทกิ ก็เดินมาหาผม ตบบ่าผมพูดกระซิบบอกผมว่า
“ฉันเคยดูหนังAvของแกที่แกเคยเล่นมาก่อนหลังจากที่ฉันรู้ว่าแกเป็นลูกจิตตรา ฉันจึงมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าแกคือลูกชายฉันโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ”

แล้วโทกิ ก็หัวเราะ จากนั้นพูดเสียงดังว่า
“เอาหละ ..ฉันต้องไปแล้ว แกก็รักษาตัวด้วยแล้วกันนะไอ้ลูกชาย”
แล้วโทกิ ก็เดินกลับไปขึ้นรถ ขับรถออกไป ตอนนั้นผมรู้สึกอย่างอยากจะอธิบายเป็นคำพูดได้อะไรหลายอย่างมันช่างซับซ้อนจนผมงงไปหมด

จากนั้นรถโรพยาบาลและตำรวจก็มาในไม่ช้าผมถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาล และถูกสอบปากคำ ผมกับเรกะนัดกันว่า จะไม่พูดถึงโทกิ และบอกตำรวจว่าไม่รู้จักคนที่มายิงโคอิจิและและไม่เห็นหน้าเพราะสวมไอ้โม่ง ทำให้ตำรวจไม่รู้ว่าใครยิงโคอิจิ เลยสันนิฐานว่าเกิดการหักหลังกันระหว่างจับตัวเรียกค่าไถ

แล้วเรกะ ก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าเธอจะทำเธอไม่บอกทาเอดะเรื่องที่ผมเป็นลูกโทกิ แต่ให้พ่อเธอยังเข้าใจว่า ผมเป็นลูกชายเขาโดยเธอไปคุยกับพ่อ ว่าจะยอมเป็นแค่น้องสาว และจะไม่มีงานแต่งงานทาเอดะแม้เสียใจเรื่องพี่น้องรักกันเอง แต่การได้ลูกชายไว้สืบสกุลมันน่าดีใจยิ่งกว่าและแถมตัวเองใกล้ตายแล้วด้วย ทำให้ทาเอดะยอมรับผมอย่างง่ายๆ แล้วให้ย้ายโรงพยาบาลมาพักอยู่ด้วยกัน

ตอนนั้นผมยังไม่ได้ย้ายไปนอนอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลที่เข้าตอนแรก และถามเรกะว่า
“ทำอย่างนี้ เธอคิดว่ามันดีแล้วเหรอ’

เรกะยิ้มแล้วพูดว่า
“ฉันว่า ดีที่สุดแล้วหละ มันจะได้จบความแค้นกันไปทั้งหมด นาย..เอ้ย ฉันต้องเรียกพี่สิ พี่คิดว่าจะเป็นยังไงถ้าฉันบอกพ่อว่าพี่เป็นลูกของอาโทกิกับแม่พี่ ส่วนฉันคิดว่า พ่อคงจะโมโหอาโทกิไม่น้อยเผลอๆก็จะมาลงกับพี่อีก ตอนนั้นอย่าว่าแต่แต่งงานเลยอยู่ด้วยกันก็ไม่ได้อยู่ มันคงเป็นเรื่องอีกยาวแน่ๆ แต่ดูตอนนี้สิเห็นมั๊ยพ่อฉันให้พี่ไปพักโรงพยาบาลเดียวกับเขา แสดงว่าพ่ออยากได้ลูกชายมากพี่ก็เป็นลูกชายให้พ่อฉันหน่อยก็แล้วกัน ให้เขาได้มีความสุขช่วงสุดท้ายของชีวิต”
“แล้วเธอไม่สนใจที่จะต้องแต่งงานแล้วเหรอ”
“ฉันไม่สนใจแล้วหละ แค่เห็นพี่ยอมรับกระสุนแทนฉันมันก็ทำให้ฉันเชื่อได้แล้วว่าพี่รักฉันมากแค่ไหน …และวันนี้ฉันมีของขวัญมาให้พี่ด้วย”
“ของขวัญอะไร”
“เดี๋ยวถึงรถก็จะรู้เอง”
เรกะ พาผมมาถึงรถตู้ที่จอดรออยู่ เมื่อรถตู้เปิด ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างในเธอมองผผมอย่างตื่นเต้นดีใจ และเรียกผมเสียงดังว่า
“พี่ใหญ่”
เธอคือกลางนั้นเอง ผมตื่นเต้นดีใจจนลุกขึ้นจากรถเข็น เพื่อไปหาเธอจนตัวจะล้ม เรกะรีบมาประคองให้ผมขึ้นรถเข้าไป กลางโถมเข้ากอดผมน้ำตาไหล พลอยพามน้ำตาไหลไปด้วยแล้วกอดเธอไว้แน่นผมจูบทั้งหน้าผากและแก้มของเธอ อย่างจะสัมผัสให้รู้ว่าเธอคือตัวจริง

“ใช่เธอจริงๆด้วย เธออยู่ที่นี่ได้ยังไง รู้มั๊ยพี่ตามหาเธอแทบแย่ พี่คิดถึงเธอจริงๆนะกลาง”

กลางพูดอะไรไม่ออกได้แต่ร้องไห้เรียกชื่อผม ผมเอื้อมมือไปคว้าเรกะมากอดอีกคนพูดพร่ำขอบคุณเธอไม่ขาดปากที่ไปตามหากลางมาให้ผม

แต่เรกะมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยตอนที่ผมบอกขอบคุณ แล้วเธอก็บอกว่า
“เดี๋ยวนาย เอ้ย พี่ไปกับกลางนะ ฉันจะไม่ไปด้วย”
“อ่าวทำไมหละ”

ผมถามอย่างแปลกใจ แต่เรกะยิ้มบอกว่า
“ก็อย่าลืมสิ ช่วงนี้เราเป็นพี่น้องกัน ทางทีดีช่วงนี้อยู่ห่างกันหน่อยดีกว่าพ่อฉันจะได้สบายใจ..เอาละฉันไปละ”

เรกะบอกพร้อมลงจากรถ โบกมือบ๊ายบาย ก่อนจะปิดประตูเธอพูดว่า
“พี่ใหญ่รถคันนี้ส่วนโดยสารแยกจากคนขับ และเก็บเสียง ถ้าจะจะทำอะไรก็ระวังกระเทือนแผลด้วยนะด้วยความเป็นห่วงจากน้องสาวกำมะลอ”

แล้วเธอก็ปิดประตู ทิ้งให้ผมไปกับกลาง อยู่ในห้องโดยสารกัน 2 คน แล้วให้คนขับออกรถได้ผมรู้สึกขำในลูกเล่นของเรกะ ที่เตรียมพร้อมให้ผมได้อยู่กับกลางขนาดนี้ แต่ตอนนั้นผมคิดไม่ออกว่ากลางมาอยู่กับเรกะได้ยังไง

———————————————

Share the Post:

Related Posts

ลองใจรุ่นพี่ขี้เงี่ยน เจอลักหลับขย่มควยจนแตกในเฉยเลย

เรื่องเสียว ลองใจรุ่นพี่ขี้เงี่ยน เจอลักหลับขย่มควยจนแตกในเฉยเลย ผมไม่รู้ว่าจะสรรค์หาวิธีไหนแล้ว ที่จะมาอ่อยพี่ กิ่ง รุ่นพี่ที่ผมแอบชอบแบบสุด ๆ คนนี้ เธอดูเป็นคนกร้านโลก คนร่าเริง และมีความโดดเด่นเรื่องอุปนิสัย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นมาก็คือ เธอยังคงมองผมว่าเป็นน้องชายที่แสนดีอยู่เสมอ ผมเองก็จนใจที่จะพยายามมีบทบาทในชิตของเธอไปเลยจริง ๆ เพราะจะจีบก็ไม่ได้ เธอบอกแล้วว่าไม่อยากจะเป็นแฟนกับคนสนิท เพราะกกลัววันหนึ่งถ้าเลิกกันขึ้นมาแล้วจะมองน้ากันไม่ติด

Read More

out door ริมทาง แบบนี้ก็เสียวหีดีเหมือนกันนะคะ

เรื่องเสียว out door ริมทาง แบบนี้ก็เสียวหีดีเหมือนกันนะคะ เรื่องเสียวเรื่องนี้เกิดจากความเงี่ยน และความรนหาที่ของฉันเองค่ะ…ฉันโสดมาราว ๆ ครึ่งปีแล้ว พอมันเริ่มเหงา เพื่อน ๆ ก็มีแฟนกันไปหมด ทำให้ฉันนั้นกลายเป็นว่าทั้งเหงา แล้วก็ทั้งเงี่ยนอีกด้วย เลยเล่นแอปฯ หาคู่ดู จนได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่หน้าตาดี หล่อเลยทีเดียว

Read More