กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 27
โดย saradio
พ่อบ้านนำพาผมไปพบฮูหยินรองที่ห้องรับรองห้องหนึ่ง ที่หน้าห้องมีสาวรับใช้ยืนเฝ้าประตูอยู่สองคน เมื่อพ่อบ้านพาผมมาถึงก็ส่งต่อผมให้สาวรับใช้เป็นผู้นำพาเข้าไปพบฮูหยินรองในห้อง
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ก็เห็นบรรยากาศในห้อง จุดเทียนตั้งโต๊ะหลายเล่มในแต่ละมุม ให้แสงสว่างสลัวมีบรรยากาศโรแมนติก จากนั้นก็ได้ยินเสียงพิณ พร้อมเสียงร้องสดใสของฮูหยินรอง ร้องมาเป็นเพลงไพเราะ คล้ายกับเป็นการตั้งใจ ใช้เสียงเพลงต้อนรับผม
ในตอนนั้นผมยังไม่เห็นฮูหยินรอง ได้ยินแต่เสียงพิณเสียงร้องเพลงของนาง เพราะนางนั่งเล่นพิณร้องเพลงอยู่หลังม่าน ผมแปลกใจไม่รู้ว่าฮูหยินรองจะมาไม้ไหน แต่ก็ยังเดินตามสาวรับใช้ ที่นำพาผมไปนั่งที่เบาะรองนั่งหน้าโต๊ะตั่งที่จัดวางอาหารสุราไว้พรักพร้อม จากนั้นสาวใช้ทั้งสองก็พากันออกจากห้องและปิดประตูให้ผมอยู่กับฮูหยินรองกันเพียงตามลำพัง
ยามนั้นผมต้องกรอกตามองรอบห้องโดยรอบ สังเกตว่านี่น่าจะเป็นห้องนอนของนาง และหลังม่านนั่นคงจะเป็นส่วนที่เป็นเตียง เลยต้องคิดไปว่า นางให้ผมมาพบถึงในห้องนอน แถมสร้างบรรยากาศแบบนี้ ทั้งยังดีดพิณร้องเพลงให้ฟัง คงไม่ใช่เชิญผมมาพบเพื่อพูดคุยกันธรรมดาแล้ว อาจต้องมีเสียน้ำ เสียแรงกันบ้าง
คิดแล้วรู้สึกหนักอกชั่งใจอยู่ไม่น้อย เพราะฮูหยินรองถึงจะน่าเย็ดแค่ไหน แต่ด้วยอุปนิสัยใจคอของนาง ที่หาความจริงใจกับใครไม่ได้ หากเข้าไปเกลือกกรั่วด้วยเกรงว่าผมคงโชคร้ายมากกว่าโชคดี
ขณะนั้นกำลังคิดอยู่เพลินๆ นางก็เล่นเพลงจบ ผมจึงต้องปรบมือเอ่ยปากชื่นชมไปตามมารยาท กล่าวว่า
“ฮูหยินรอง เล่นพิณร้องเพลงได้ไพเราะนัก นับว่าเป็นวาสนาข้าพเจ้าโดยแท้ ที่มาได้ฟังเช่นนี้”
ฮูหยินรองหัวเราะน้อยๆ เสียงสดใสหลังผ้าม่าน กล่าวถ่อมตนว่า
“ท่านกาเซียง ท่านกล่าวชมเกินไปแล้ว”
จากนั้นนางก็ขยับตัวลุกขึ้น เลิกผ้าม่านออก และเดินออกมาให้เห็น ทันทีที่ผมเห็นนาง ผมต้องลอบกลืนน้ำลายมองตาค้าง เพราะนางอยู่ในชุดที่สระสวย แต่แต่งกายอย่างไม่รัดกุม สวมใส่อย่างหละหลวม ปล่อยให้มีช่องว่างโหว่ เผยเนื้อหนังมังสาภายใน วับๆแวมๆออกมาล่อตาให้เห็น แถมด่านล่างก็ผ่าแหวกช่องจนเห็นโคนขาอ่อน สามารถมองลึกขึ้นไปจนแทบจิตนาการณ์ไปถึงเนินสามเหลี่ยมของนางได้
ยามนั้น ลุกตั้งอย่างไม่เจตนา อาหารกำหนัดเกิดขึ้นอย่างหลีกเล่ยงไม่ได้ ถึงกับต้องสบถพูดกับตัวเอง
‘เหี้ย..คืนนี้กูไม่รอดแน่’
พร้อมกันนั้นต้องกลืนน้ำลายลงอีกอึกใหญ่ เพราะมันยากที่จะข่มใจได้ ถ้าได้ตกอยู่ในสถานการณ์บรรยากาศอย่างนี้ บางทีคนเรารู้ทั้งรู้ว่าเป็นเบื้องหน้าเป็นนรกก็ยังต้องยอมตกลงไป เพียงเพื่อขอให้ได้ตอบสนองความอยากของกิเลสตัณหา ผมเองก็ไม่ใช่พระอรหันต์ตรัสรูละกิเลสได้ ก็ย่อมหลีกหนีตัณหาราคะไปไม่พ้น ยิ่งตอนนี้ได้กินยาบำรุงกำลังของอาเจินทุกวัน รู้สึกว่าความเป็นชายมักจะถูกกระตุ้นได้ง่ายดายเสียเหลือเกิน เพียงแค่เห็นแค่นี้ จิตใจก็ว้าวุ่น ครุ่นคิดแต่เรื่องอย่างว่า ควยก็ยังโด่แข็งปั๋ง บังคับให้สงบไม่ได้
ผับผ่าสิ แม่ง ยาบำรุงของอาเจินนี่ยิ่งกว่าไวอาก้าเสียอีก นี่ถ้าได้กลับไปโลกปัจจุบันนะ เอายานี้ไปแปรรูปขาย ผมว่าผมรวยแน่ๆ
ยามนั้น ฮูหยินรองเห็นผมจ้องมองไม่วางตา ก็หลบสายตาเอียงอาย กล่าวว่า
“ท่านกาเซียง ท่านมองข้าพเจ้าด้วยสายตาเยี่ยงนั้น ไหนเลยข้าพเจ้ากล้าก้าวเท้าออกไป”
ผมจึงได้สติกลับคืนมา แล้วพยายามข่มใจให้นิ่งไว้ แม้ความเป็นชายยังไม่ยอมสยบหดกลับเข้าที่จนต้องยืนตัวงอ แต่ สติสตัง ยังพอรั้งกลับคืนมาได้บ้าง แต่ยามกระทันหัน ยังนึกอะไรไม่ออก หาคำกล่าวอะไรไม่ได้ เลยรีบก้มหน้าหลบ กล่าวคำว่าขออภัยที่เสียมารยารท
นางเห็นท่าทีของผมออกอาการประหม่าแบบนี้ ถึงกับแย้มยิ้มหัวเราะคิกคัก พลางก้าวเดินออกมายืนตรงหน้า เจตนาให้ผมได้เห็นนางชัดๆ ก่อนพูดว่า
“ท่านกาเซียง เชิญนั่งเถอะ”
ผมต้องรีบข่มสีหน้าให้ปกติ ก่อนพยักหน้า และนั่งลง ฮูหยินรองก็นั่งลงตามโดยนั่งลงข้างๆผมอย่างใกล้ชิดจนเนื้อตัวเบียดกันเล็กน้อย ยามนั้นกลิ่นหอมน้ำอบจากตัวนางโชยหอมชื่นเข้าจมูก ยิ่งเพิ่มความรัญจวนใจขึ้นเป็นทวี อีกทั้งนางขยับตัวรินสุรา เสื้อผ้าก็ขยับเปิดช่องให้มองเห็นเล็ดรอดไปถึงข้างใน
เนื้อเนียนขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะที่แพลมออกมาล่อตาให้เห็น ทำให้ผมไม่อาจบังคับตัวเองไม่ให้เหลือบมองได้ พลันรู้สึกสับสนปั่นปวนในความคิด เกิดความขัดแย้งกันระหว่างหัวบนกับหัวล่าง พลางแอบทอดถอนใจครุ่นคิด ว่า คืนนี้ผมคงหลุดรอดเงื้อมือนางไปได้ยากเสียแล้ว คงต้องตกเป็นผัวนางอย่างแม่นมั่น แม้รู้ทั้งรู้ว่านางเจตนาทำเยี่ยงนี้ย่อมมีแผนการในใจ แต่ก็ไม่อาจทำใจปล่อยโอกาสเยี่ยงนี้ให้ผ่านไปได้ เพราะมันรู้สึกเสียดาย แถมความเป็นชายก็ยังตั้งแข็งเรียกร้องเสียเหลือเกิน
ดีหละ เมื่อนางให้ท่าถึงเพียงนี้ จะไม่ปี้ก็ดูควายไปหน่อย เพียงแต่ปี้แล้วจะชิ่งอย่างไร คงต้องคิดการณ์กันต่อไป เพราะจะอย่างไรผมคงไม่ยอมเอาคนอย่างฮูหยินรองมาทำเมียโดยเด็ดขาด เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว พลางกำหนดแผนการขึ้นในใจ หากนางคิดจะใช้แผนหญิงงามสยบใจชาย เหมือนที่เตียวเสี้ยนใช้กับลิโป้แล้วละก็ ผมก็จะต่อกรกับนางด้วย คารมขุนแผนแสนสะท้าน ฟันแล้วทิ้ง
ฮูหยินรองเมื่อรินสุราเสร็จแล้ว ก็ยื่นส่งให้ กล่าวว่า
“ในตอนแรกที่ท่านมา ข้าพเจ้าไม่ทันตั้งตัว จึงไม่ได้จัดเตรียมเลี้ยงต้อนรับอย่างสมเกียรติ เกรงว่าท่านอาจตำหนิได้ ค่ำคืนนี้ ข้าพเจ้าจึงคิดเลี้ยงท่านเป็นการพิเศษเพื่อตอนรับและขอขมาในคราวเดียว หวังว่าท่านคงจะไม่ถือสา”
ฮูหยินรองบอกพร้อม ยืนส่งสุราผมจอกหนึ่งและตัวนางจอกหนึ่ง จากนั้นก็ชวนผมดื่ม ผมยังไม่ดื่มในทันที รอจนนางดื่มก่อน แล้วจึงดื่มตาม เพื่อให้แน่ใจว่าในสุราไม่มีสิ่งปลอมปนอยู่ เมื่อดื่มสุราเสร็จ ผมก็พูดว่า
“ฮูหยินรองให้เกียรติข้าถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นที่ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ความจริงแล้ว จะว่าไป ข้าพเจ้าก็เคยเป็นข้ารับใช้ในบ้านหลังนี้มาก่อน ได้รับบุญคุณมากมายจากท่านงิวฮู ฮูหยินรองท่านก็อย่าได้มากพิธี เกรงอกเกรงใจกันไปเลย”
ฮูหยินรองพลันตอบว่า
“ไหนเลยทำได้ ตอนนี้ท่านเป็นถึงขุนนางใหญ่ในราชสำนัก เป็นที่ปรึกษาของท่านลิฉุยผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ส่วนตอนนี้ข้าพเจ้าเป็นเพียงแม่ม่ายในตระกูลขุนนางตกอับ ไหนเลยกล้าอาจเอื้อมทำตัวตีเสมอ แม้ครั้งก่อนท่านเคยเป็นข้ารับใช้ในบ้านหลังนี้ แต่พวกเราก็มิได้มองท่านเป็นคนอื่นไกล รู้สึกเอ็นดูท่านประดุจคนในครอบครัว เรื่องถือเป็นบุญคุณนั้น ข้าพเจ้าไม่เคยคิดแม้แต่น้อย ท่านก็อย่าได้ใส่ใจเลย มาเถอะ เรามาดื่มกันอีกสักจอก”
ต้องบอกว่า ฮูหยินรองนี่ตอแหลได้โล่จริงๆ นี่ถ้าผมเป็นคนโง่ไม่เท่าทันคน หรือดูคนไม่ออก คงหลงเคลิ้มไปกับคำพูดนางไปแล้ว แต่ผมเป็นคนที่ชอบศึกษาอุปนิสัยใจคอคน ระหว่างที่เคยอยู่ที่นี่ ผมก็รู้ว่าใครมีนิสัยใจคอเป็นอย่างไรแล้ว ไอ้เรื่องที่พูดว่า ไม่ถือเป็นบุญคุณ แต่การพูดตอกย้ำแบบนี้ก็เท่ากับเป็นลำเลิกบุญคุณอย่างหนึ่งเหมือนกัน
ระหว่างนั้นนางรินเหล้าส่งให้ผมอีก ถึงแม้ไม่มีอะไรปลอมปนในสุรา แต่เหล้านั้นเป็นสุราฤทธิ์แรง เจตนาคงจะมอมเหล้าผมเป็นแน่แท้เพราะชวนดื่มถี่เหลือเกิน พูดจบประโยคหนึ่งก็ส่งเหล้า จบอีกประโยคหนึ่งก็ส่งเหล้า คงหวังให้ผมเมามายจนเคลิบเคลิ้มตกลงไปในหลุมพรางของนางโดยง่าย เมื่อผู้ชายตกอยู่ในอาการมึนเมา อีกทั้งยังมีนารีแต่งตัวยั่วยวนพูดจาฉอเลาะนัวเนียอยู่เคียงข้าง มีหรือจะไม่เกิดอาการหวั่นไหวจนหน้ามืดหืนกระหาย ไม่อย่างนั้นบรรดาอาเสี่ยอาเฮียทั้งหลายคงไม่หมดเงินหมดทองให้กับนักร้องกันเป็นแสนเป็นล้าน แต่บังเอิญในตอนนั้นผมก็คิดจะหลอกฟันนางเหมือนกัน และคนอย่างผมก็ไม่เคยยอมให้ผู้หญิงหลอกแดกได้ง่ายๆ ของอย่างนี้มันอยู่ที่เล่ห์เหลี่ยมคารม ว่าใครจะอยู่เหนือใคร งานนี้คงต้องวัดกันว่าเล่ห์เหลี่ยมของใครมันจะแพรวพราวกว่ากัน
เมื่อนางคิดจะมอมเหล้าให้ผมเมา ก็ไม่ต้องลำบากนางมากนัก ผมแกล้งเมาให้เองก็ได้ ผมจึงยกเหล้าดื่มติดต่อกันอีกหลายจอก แล้วเริ่มแสร้งเมามาย พูดจาหลุดรั่ว มือไม้อยู่ไม่สุข บางครั้งก็ถือโอกาสลวนลามเกินเลย จับเนื้อต้องตัวนาง
ฮูหยินรองเห็นเช่นนั้น แอบยิ้มสมใจเล็กน้อย และไม่มีท่าทีปฏิเสธหลบเลี่ยง กลับชวนคุยพูดจาเย้ายั่วไม่ขาด ราวกับเด็กเล้าจ์ที่คอยเอาใจอาเสี่ย นี่นับว่านาง ในคืนนี้ คิดยอมพลีกายให้ผมเป็นแน่แท้ เพียงแต่คนอย่างนางไม่ยอมลงทุน หากไม่มีข้อแลกเปลี่ยนคุ้มค่า ตอนนั้นแม้ผมอยากจะเย็ดนาง แต่ก็ไม่พลีพลาม หากยังไม่รู้ว่าวัตถุประสงค์แท้จริงของนางนั้นต้องการอะไร ก็จะยังไม่รีบร้อน ใช้วิธีหมาหยอกไก่ เกี้ยวพาราสีนางไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆให้นางเผยไต๋ออกมาเอง
ผมจึงพูดเกี้ยวนางว่า
“ฮูหยินรองงดงามยิ่งนัก เล่นดลตรีก็ไพเราะ นึกแล้วให้น่าเสียดาย ที่ฟ้าลิขิตให้เราเจอกันช้าไป คิดแล้ว ข้าพเจ้านั้น รู้สึกอิจฉาท่านงิวฮู ยิ่งนัก เฮ้ออออ”
พูดจบพลันถอนหายใจส่ายหัวอย่างเสียดาย ก่อนจะยกสุราขึ้นดื่มอีกจอก ฮูหยินรองฟังเช่นนั้นก็แย้มยิ้มรู้ที ว่าผมคิดจะสานสัมพันธ์เกินเลย จึงแสร้งไขสือกล่าวว่า
“ท่านเองมีอันใดต้องอิจฉา ท่านงิวฮู ตอนนี้ตัวท่านมีทั้งอำนาจวาสนา อีกทั้งยังมีภรรยาสาวสวยถึงสามคนคอยติดตาม ส่วนข้าพเจ้านั้นเป็นเพียงหญิงม่ายไร้วาสนา ไหนเลยไปเทียบเคียงพวกนางได้”
“เหอะ หะ.. อย่าไปพูดถึงพวกนางเลย ภรรยาข้าแต่ละคนล้วนไม่ได้ความ คนหนึ่งบ้าตำราวิชาหมอ คนหนึ่งบ้าวรยุทธชอบต่อยตี ส่วนตั๋งไป่นั้น ท่านเองก็ทราบอยู่ ว่านางเป็นเช่นไร วันๆ มีแต่สร้างเรื่องปวดหัวให้กับข้าพเจ้า แต่ละคนล้วนไม่มีดี สวยแต่รูปจูบไม่หอม อันหน้าทีภรรยาแท้จริงกลับไม่ประสีประสา หาความสำราญอันใดไม่ได้ เฮออ พูดไปก็เหนื่อยหน่าย ใคร่ขับไล่พวกนางออกไปให้หมด”
ผมแสร้งระบายความอึดอัดใจ ร่ำสุราต่อไปอีก 1 จอกระบายอารมณ์ ฮูหยินรองคิดว่าเป็นเรื่องจริง ก็แอบแย้มยิ้มสมใจ คล้ายกับว่า แผนการนางนั้นไม่อยากแล้ว หากเป็นดังที่ผมพูดมา แต่ยามนั้นยังแสร้งตีสีหน้าเห็นใจ กล่าวว่า
“ข้าพเจ้านั้น มิรู้จะกล่าวกระไร เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของท่าน ข้าพเจ้านั้นเป็นคนนอกไม่อาจออกความคิดเห็น หาไม่แล้ว ความรู้ถึงหูภรรยาท่าน ข้าพเจ้าคงย่ำแย่แล้ว ดีไม่ดี เรานั่งดื่มกันอยู่ในลักษณะนี้ หากพวกนางรู้ก็อาจสร้างความหึงหวงให้กับพวกนางได้”
“เหอะ ถ้าพวกนางกล้ามาอาระวาดกับท่าน ก็ดูซิ ว่าเราจะจัดการพวกนางอย่างไร”
คำพูดของผมทำเอาฮูหยินรองแย้มยิ้มไม่หุบ นึกในใจว่า ผมหลุมหลงนางเข้าให้แล้ว งานนี้คงไม่ยากที่จะสอดแทรกเข้าไปเป็นฮูหยินใหญ่ของขุนนางแซ่กา ส่วนตัวผมเองนั้นก็ดูนางออกว่า นางเชื่อในสิ่งที่ผมพูด ดังนั้นไม่ยากที่ซ้อนแผนนาง ดังนั้นรีบพูดรุกต่อไปว่า
“เฮ้อออ ไหนๆ ก็พูดกันถึงขั้นนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็จะขอสารภาพตามตรง ข้าเองนั้นอันที่จริงหลงรักท่าน ตั้งแต่ครั้งเหยียบย่างเข้าจวนนี้เป็นครั้งแรก แต่ตอนนั้นท่านเป็นเมียนาย ข้าเป็นเพียงบ่าว จึงไร้วาสนา เลยได้แต่ตัดใจ แต่ครั้งนี้ข้าเป็นถึงขุนนางใหญ่ ส่วนท่านเองก็เป็นม่าย นับว่าวาสนานำพาให้เรามาพบกันอีก ข้าพเจ้าจึงคิดใครได้ท่านมาเป็นภรรยา ท่านนั้นคิดเห็นเป็นประการใด”
ฮูหยินรองถึงกับตาเป็นประกายไม่คาดว่า แผนสำเร็จง่ายดายกว่าที่คิด ในใจลิงโลดยินดี แต่ไม่แสดงออก แสร้งทำเป็นเอียงอาย กล่าวเง้างอนว่า
“ท่านกล่าวกระไร นี่คงไม่ใช่เพราะฤทธิ์สุราหรอกหรือ”
“ฮูหยินรอง ข้าพูดตามความสัตย์ ไม่เพียงข้าจะรับท่านเป็นภรรยา ลูกชายของท่านข้าก็จะส่งเสริมให้ได้ตำแหน่งขุนนางในวังหลวง ท่านว่าดีหรือไม่”
ขณะพูดผมแอบคิดในใจว่า ผู้หญิงเห็นแก่ผลประโยชน์เช่นนางย่อมต้องแพ้สายเป ข้อเสนอนี้เป็นเพียงข้อหยั่งเชิง เพื่อล่อให้นางพูดสิ่งที่ต้องการจริงๆออกมา หากนางเห็นว่าน้อยไปย่อมต้องเสนอต่อรองออกมา
และจริงดังคาด ฮูหยินรองเมื่อเห็นผมหลุมหลงนางจนยอมเสนอออกมาประดานี้ ย่อมคิดว่าคราวนี้จะต่อรองไม่ใช่เรื่องยาก จึงพูดว่า
“ท่านกาเซียง มิใช่ว่าข้าพเจ้าไม่ชมชอบท่าน เพียงแต่ว่า ข้าพเจ้านั้นเป็นหญิงม่าย หากแต่งงานใหม่ ก็อาจเป็นได้แค่นางบำเรอ ไร้ศักดิ์ศรี ตระกูลงิวของเรา ชั่วดีถี่ห่างอย่างไรก็เป็นขุนนางเกา เป็นถึงเจ้าเมือง หากให้ข้าพเจ้าไปเป็นนางบำเรอท่านแล้ว ลูกชายข้าพเจ้าคงไม่มีหน้ารับราชการสืบต่อ”
ในที่สุดนางก็เผยความต้องการแท้จริงออกมา ไม่ใช่นางแค่ต้องการผมเป็นผัว หากแต่ต้องการเป็นฮูหยินตระกูลกาด้วย จะได้มีศักดิ์เสมอเหมือน บรรดาเมียของผม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก รับปากไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ผมจึงหัวเราะ พูดว่า
“ผู้ใดว่า ข้าพเจ้าจะตบแต่งท่านเป็นนางบำเรอ ย่อมต้องตบแต่งท่านเป็นฮูหหยินอยู่แล้ว ท่านอย่าได้กังวลไป”
“แต่ว่า เหล่าภรรยาท่านจะยินยอมรับหรือ”
“เหอะ ผู้ใด กล้าขัดข้า ข้าจะไล่มันผู้นั้นออกจากตระกูลกา …ข้าพูดเช่นนี้ ท่านคงสบายใจได้แล้วกระมั่ง”
ผมบอกพร้อมดึงตัวนางมาแนบกอด นางก็มิได้ขัดขืน ยินยอมให้กอดจนแนบอก ชายหญิงอยู่ลำพังใกล้ชิดกันเยี่ยงนี้ มีหรือจะระงับอารมณ์ได้ มือผมเริ่มลุกลามคลุกคามไปใต้ร่มผ้าที่หละหลวมของนาง เมื่อลูบไล้ถึงเนินเนื้อประทุมทัน มันนิ่มแน่นเด้งเสียจนอดใจเอามือบีบคลึงเล่นมิได้ นางเผยอปากครางเบาๆอย่างมีอารมณ์ และปล่อยให้ผมลุกล้ำกรำกรายไปอย่างไม่พูดจา จนมือลื่นเลื้อยลงต่ำ ไปสัมผัสกับเนินเนื้อโหนกนูนตรงหว่างขา นางมิได้ใส่ผ้าปกปิดภายในแต่อย่างใด เมื่อลูบล้วงลงไปก็สัมผัสถูกหน้าท้องน้อยและเนินโหนกนูนที่มีขนอ่อนเรียบลื่นให้ลูบไล้เล่นได้เพลินมือ สร้างความรู้สึกวาบหวิวตื่นเต้นยิ่งนัก มิคาดว่าขณะจะล้วงลึกชำแรกกลีบเนื้อเข้าไป นางกลับหนีบขาหุบสกัดกั้น และดันตัวออกจากอ้อมกอด ทำหน้าเง้างอน แย้มยิ้มต่อว่า ว่า
“แย่แล้ว เผลอไผลเพียงชั่วครู ก็ถูกท่านลุกล้ำถึงเพียงนี้ นี่ถือว่าไม่ถูกต้อง หากผู้อื่นรู้เข้า ข้าพเจ้าคงไม่อาจแบกหน้ารับได้ ทางที่ดีวันนี้ท่านกลับไปก่อน รอวันท่านตบแต่งข้าเป็นภรรยาแล้ว ถึงตอนนั้นข้าพเจ้าจะให้ท่านลูบล้วงสมใจ”
พลางขยับตัวถอยนั่งห่างออกไปและจัดแจงสวมรัดเสื้อผ้าให้รัดกุมขึ้น และลุกเดินขึ้นไปเปิดประตูห้องทิ้งอ้าเอาไว้ คล้ายกับเป็นการส่งแขก ผมถึงกับค้างคา แอบร้องด่าในใจ ว่าร้ายกาจ ล่อให้อยาก เสือกไม่ให้เย็ด แบบนี้เจตนาเล่นตัวให้ผมรีบขอนางแต่งงานโดยไว้ หากต้องการเย็ดนาง ถือว่าเดินหมากได้ดีเยี่ยม หากแผนนี้ใช้กับคนอื่นอาจสัมฤทธิ์ผล ไม่วันพรุ่งหรือวันมะรื่นคงต้องรีบมาสู่ขอนางแต่งงานเป็นแน่
แต่คิดจะใช้กับผมนั้นคงยาก เพราะหนึ่งนั้นผมไม่ได้หลุมหลงนางจริงๆ เพียงคิดจะหลอกฟัน สองนั้น ผมเก่งอยู่แล้วเรื่องอ่านทางผู้หญิง เมื่อคิดจะเล่นตัวมาก็ต้องเล่นตัวกลับ ก็ต้องดูสิว่าใครจะตกเป็นเบี้ยล่างใคร พลันหัวเราะแย้มยิ้ม พูดว่า
“ที่แท้ฮูหยินรองก็ไม่ได้เชื่อใจข้า กลัวข้าไม่รักษาคำพูดบิดพลิ้ว จึงต้องรอแต่งงานเข้าหอก่อนจึงจะยินยอม เฮออ ข้าพเจ้ารู้สึกผิดหวังนักที่ท่านไม่เชื่อใจ คนเราเมื่อไร้ซึ่งความเชื่อใจกันแล้ว จะหาความจริงใจต่อกันได้ไม่ ถ้าเช่นนั้นก็ถือว่าคืนนี้ข้าพเจ้าเมามายกล่าววาจาไร้สาระออกไปก็แล้วกัน”
พลันลุกขึ้น ทำท่าจะกลับอย่างหุนหัน ฮูหยินรองถึงกับตกใจ ร้องทัดทานว่า
“กาเซี่ยง นี่ท่าน”
นางร้องแค่นั้นก็พูดต่อมิออก แต่ด้วยความตอแหลไวปัญญา จึงแสร้งหลั่งน้ำตาร้องไห้ว่า
. “ข้าพเจ้าไหนเลยไม่เชื่อใจท่าน เพียงแต่กลัวทำผิดธรรมเนียมประเพณี มิอาจสู้หน้าผู้อื่น ใยท่านจึงเข้าใจผิดคิดเป็นอื่น”
ผมจึงหยุดเท้าไม่ได้เดินออกนอกประตูไป แต่ปิดประตูกลับคืนเข้าที่ หันกลับเดินเข้าไปสวมกอดนาง พร้อมพูดปลอบว่า
“เรื่องนี้ข้าเข้าใจอยู่ เพียงแต่เมื่อข้ารับปากเจ้าแล้วย่อมต้องทำตาม เพียงแต่เจ้ายั่วยวนน่าหลงใหล เราใคร่เชยชมในบัดดล แต่เจ้ากับผลักไสไล่ส่ง ไหนเลยทานทนได้ เช่นนี้เถอะ หากเจ้ากลัวเราบิดพลิ้ว ข้าจะทำสัญญาตบแต่งเจ้าทิ้งไว้ พร้อมกับลงตราขุนนางประทับ เช่นนี้ข้าก็บิดพลิ้วเจ้าไม่ได้แล้ว”
ฮูหยินรองถึงกับคิดหนัก รู้สึกว่าเริ่มจะไม่เป็นไปตามแผล ผมแม้ดูหลุมหลงนาง แต่ก็แสดงออกให้เห็นว่า พร้อมตัดใจได้ทุกเมื่อหากคืนนี้ไม่ได้ร่วมหลับนอนกับนาง ดังนั้นฮูหยินรองไม่กล้าปล่อยให้ผมกลับไปอีก เพราะกลัวผมเปลี่ยนใจในภายหลัง เมื่อฟังว่าผมจะร่างสัญญา ก็พาให้นางใจชื้นได้ในระดับหนึ่ง จึงตอบตกลงอย่างแง่งอน
ผมจึงเขียนสัญญาขึ้นมาฉบับหนึ่ง มีเนื้อหาใจความว่าจะแต่งฮูหยินรองไว้เป็นเป็นฮูหยินของตัวเอง และลงตราประทับขุนนางประจำตัวพร้อมลงชื่อเอาไว้ ฮูหยินรองพอได้อ่านก็เบาใจ คิดว่าจะยังไงผมก็คงบิดพลิ้วไม่ได้ จึงยอมปลงใจเข้าหอกับผมในคืนนั้น
ผมจึงอุ้มนางขึ้นไปบนเตียง วางร่างนางลงแล้วนอนประกบข้างเข้าประคองสวมกอด กระซิบข้างหูว่า
“คืนนี้ไม่เช้าแล้ว เจ้ามีดีอันใด ก็แสดงออกมาเถิด”
ฮูหยินรองถึงกับแย้มยิ้มเอียงอาย จิตใจวาบหวิว แต่ในแววตาแฝงความมั่นใจเปี่ยมล้น ที่จะปรนเปรอผมให้ถึงใจได้แน่แท้ พลางขยับตัวจากอ้อมกอดลุกขึ้นนั่ง แล้วค่อยๆ ปลดเปรื่องเสื้อผ้าออกอย่างช้าๆ ให้ผมได้เห็นส่วนสัดรูปร่างของนางเต็มตา
นางแม้อายุ 30 กว่าปี แต่รูปร่างยังดี ผิวพรรณยังเต่งตึงน่าลูบไล้ อีกทั้งยังมีกิริยาชะมดชะม้อยยั่วยวนน่าเย็ด สมแล้วที่เคยเป็นอดีตนางรำเลื่องชื่อ
ผมมองร่างเปล่าเปลือยของนาง จนเกิดอารมณ์ควยตั้ง ดันจนกางเกงตุง นางเห็นแล้วต้องแย้มยิ้มอย่างรู้ที จึงค่อยๆปลดกางเกงของผมออกอย่างช้าๆ เพียงผ้ากางเกงถูกดึงหลุดต่ำลงจากเอว มังกรของผมก็โผล่ทยานออกจากที่ซ่อน ชูผงกหัวงึกๆ ออกมาให้เห็น
มังกรตัวนี้ใหญ่ยาวพอประมาณ รับประทานได้เต็มปากเต็มคำ ฮูหยินรองเห็นแล้วยังอดเสียวไปถึงท้องน้อยไม่ได้ ยามนั้นนางจึงใช้มือจับสัมผัสลูบไล้เบาๆ มันก็เด้งสู้มือมิถอยหนี เห็นแล้วอยากใช้ปากชิมลิ้มลองยิ่งนัก
มิช้ามินาน นางก็ก้มลงใช้ปากบรรจงจูบ แทนการลูบจับ เริ่มจากค่อยๆลิ้มชิมรสอย่างแผ่วเบา ใช้ลิ้นระรั่วเลียอย่างนิ่มนวลละมุนละม่อม สร้างควงามเสียวสยิวให้ผมจนตัวเกร็ง
“โอ้ววววววว ดี… อาหหหหห์ เสียวดีเหลือเกิน”
ผมนอนหงายแหงนหน้าซีดส์ปากหลับตาพริ้ม ให้นางสำแดงฝีมือได้ตามใจ ฮูหยินรองเห็นผมครางร้องเสียวออกมาเช่นนั้น ยิ่งกระหยิ่มยิ้มได้ใจ มาดหมายในใจว่า จะอย่างไรผมต้องหลงใหลไปกับความสุขที่นางมอบให้เป็นแน่แท้ ตำแหน่งฮูหยินใหญ่ตระกูลกาคงหนีมือนางไปไม่พ้น พลันเร่งร้อนสำแดงฝีมือ จากที่คอยๆจูบลิ้มเหลี่ยระรั่วลิ้น ก็เริ่มจับมันเข้าปากรูดดูดหัวอย่างเอร็ดอร่อย
จ๊วบๆๆ แจ๊บๆ จ๊วบบๆๆๆๆ อืมส์ แจ๊บๆ จ๊วบบบๆๆๆๆ
เสียงดูดควยของนางยิ่งมายิ่งถี่ยิบ ผมเสียวสะท้านจนแอ่นตูดลอย
“อ้อยยยยยย ฮูหยินรอง ดูดควยดีเหลือเกิน อาห์ ซีดดดส์”
ฮูหยินรอง เงยหน้ามองผมอย่างย่ามใจ ถามว่า
“ท่านกาเซียง ท่านชอบแบบนี้หรือไม่ อืมส์ อาห์”
“โอ้วววว ชอบสิ ดีมากกเลย ซีดดส์ เอาละดูดแรงๆ เลย เอาให้นำพิสุทธิ์ของข้า หลั่งไหลออกมาเต็มปากเจ้า”
ฮูหยินรองฟังดังนั้น ก็เร่งร้อนอย่างไม่ผ่อนปรน หวังให้น้ำควยผมแตกคาปากนาง มิช้ามินานนัก ผมก็สุดอั้น ปล่อยน้ำทะลักเข้าเต็มปาก น้ำควยผมครานี้ไม่ทราบว่า เกิดผิดปกติอย่างไรขึ้น มันมีมากกว่าที่เคยมากนัก แม้ฮูหยินรองพยายามรูดดูดควยเก็บน้ำที่ฉีดพ่นออกจากควยเก็บไว้ในปาก แต่มันก็มากจนล้นทะลักกลืนกินไม่ทัน จนต้องเอามือรอง คลายที่เหลือออกใส่มือ
ผมรู้สึกสมใจนัก ที่ได้แตกน้ำควยใส่ปากฮูหยินรองเต็มที่แบบนี้ ใครจะไปคิดว่าผมกับนางจะมีวันนี้ได้ แต่ก่อนตอนที่ผมเป็นผู้ติดตามงิวฮูอยู่ที่นี้ เพียงแค่หางตาของนาง นางยังไม่คิดจะเหลือบแลผม คล้ายเห็นผมเป็นดังอากาศธาตุ
แต่วันนี้ นางถึงกับยอมดูดควยกินน้ำรักของผม เพียงเพื่อต้องการอำนาจวาสนา กลับไปเชิดหน้าชูตามีบารมีเหมือนแต่ก่อน ครุ่นคิดถึงความตอแหลของนางพลันนึกมันไส้ ใคร่หลอกเย็ดนางให้สาสมดูสักครา เอาขนาดว่าจะเย็ดให้หีบาน น้ำหีแตกกระจาย เลยทีเดียว
คิดแล้วยิ่งกำหนัด พลันดึงร่างนางเข้ามานอนกอด ระดมจูบอย่างหื่นกระหาย ทั้งจูบทั้งไซด์ไปทั่วทั้งตัว มือไม้ก็ลูบจับขยำอย่างมันมือ
“อ้อยยยยย ท่ากาเซียงงงง ท่านทำข้าเจ็บแล้ววว ซีดดดส์”
ฮูหยินรองตกใจที่ถูกระดมฟัดอย่างหื่นกระหายกักขฬะ ทั้งเจ็บทั้งเสียวปะป่นกันจนจำแนกไม่ออก ร่ำร้องครางออกมา
ผมทำเป็นไม่สนใจ ยังจูบไซด์ บดขยี้ไปทั่ว ปากก็พูด อย่างหื่นกระหายว่า
“เจ้านั้น น่ากลืนกินไปทั้งตัว ทั้งยังน่าเย็ดอย่างยิ่ง เมียข้าทั้งสามคนยังเทียบเจ้าไม่ติดเลย”
คำพูดของผมทำเอา ฮูหยินรองกลับไม่กล้าขัดขืนหรือร้องห้ามปล่อยให้ผมจูบไซด์บดขยี้อย่างชายหื่นต่อไป เพราะความเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านี้ หากแลกได้กับตำแหน่งฮูหยินขุนนางใหญ่มันย่อมคุ้มค้า
ดังนั้นนางจึงอดทนตอบสนอง แม้บ้างครั้งรู้สึกเจ็บก็ไม่มากอะไรยังพอทนทานได้ เพียงแต่ตัวเองรู้สึกเหมือนกำลังถูกข่มขืนเท่านั้น แต่สักพักไปๆมาๆ นางกลับเริ่มมีอารมณ์ร่วมไปด้วย อาการกำหนัดถูกปลุกขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ รู้สึกเงี่ยนจนอยากโดนเย็ด น้ำหีฉ่ำเยิ้มย้อยออกมา
ในตอนนั้นผมไซด์ซุกหน้าลงไปหว่างขาของนาง นางขณะเคลิ้มๆ พลันตกใจหุบขา เมื่อรู้สึกถึงลิ้นที่กำลังรุกล้ำของสงวนของนาง ผมรู้ได้ในที ว่านางลงไม่เคยโดนลิ้นเล่นรักมาก่อน เพราะคนยุคนี้ ผู้ชายถือคติตนเองอยู่เหนือกว่าผู้หญิง ดังนั้นจะไม่ยอมก้มหัวไปทำรักด้วยปากให้เพราะคิดว่าเสียศักดิ์ศรี มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องทำรักด้วยปากให้ผู้ชาย
ฮูหยินรองเองก็ไม่เคยได้ลิ้มรสนี้มาเหมือนกัน พอถูกลิ้นแตะก็ตกใจสะดุ้ง หุบขาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมจึงพูดว่า
“เจ้าไม่ต้องตกใจ ข้าจะทำรักด้วยปากให้เจ้า เจ้าจะได้รู้ว่าข้าหลงรักเจ้ามากแค่ไหน”
ฮูหยินรองถึงกับหัวใจพองโต มองผมตาไม่กระพริบ พูดอะไรไม่ออก ผมจึงจับขานางถ่างออก แล้วก้มลงไปจูบหี และโลมเลียให้ ฮูหยินร้องถึงกับสะดุ้งเสียว ใช้สองมือจิกกดหัวผม แหงนหน้าครางออกมา พลันคิดกระหยิ่มยิ้มเยาะในใจว่า
‘กาเซียงเอ๋ย เจ้าถึงกับยอมลดศักดิ์ศรีให้ข้าเช่นนี้ เท่ากับว่าเจ้าหลุมหลงข้าจนหมดใจแล้ว หึ หึ ต่อไปนี้เจ้าก็แค่ลูกไก่ในกำมือของข้า อ้อยยย ซีดสสสส์ เสียวหีดีเหลือเกิน วิเศษดีจริงๆ การถูกผู้ชายทำรักด้วยปากมันช่างวิเศษอะไรเช่นนี้ อ้อยยยยยย’
ประโยคหลังนางถึงกับครางร้องออกมา รู้สึกเสียวกระสันมีความกำหนัดจนใจจะขาด
“อืมส์ จ๊วบๆๆ แจ๊บบๆๆๆ แผล่บๆๆๆ อืมส์ น้ำหี ฮูหยินรองนี่เยอะดีจริงๆ คงเงี่ยนจนอยากจะเสร็จสมแล้วละซิ”
“อ้อยยยยย ข้าอยากแล้ว อยากใจจะขาด ข้าอยากถึงสวรรค์ อู๊ยยยยย อ้อยยยยยย”
ฮูหยินรองถึงกับสติกระเจิดกระเจิง ร้องตอบอย่างไม่อาย สองมือกดหัวผม ให้ปากผมจมบี้ไปกับหีนาง ทางหนึ่งนางก็เด้งสะโพกสวนบดสู้ ดูแล้วใคร่อยากจะเสร็จเต็มแก่ ผมจึงตอบสนองนางหถึงแก่น ทั้งบดทั้งจูบดูดแตด จนนางสะท้านตัวกระตุกเสร็จน้ำหีแตกพรั่งพรูออกมาจนฉีดใส่หน้าผม
“อ้อยยยย ท่านกาเซียงง ท่านกาเซียงงงง ”
ฮูหยินรองนอนงอขาถ่าง ตัวกระตุก หลับตาหน้านิ้วคิ้วขมวด ร้องเรียกชื่อผมไม่หยุด ส่วนหีน้ำก็ยังไหลซึมออกมาไม่หยุด คล้ายกับนางมีอาการเสร็จติดต่อกันตามมาอีกสองสามครั้ง
“ฮูหยินรอง ท่านถึงสวรรค์หรือไม่”
ผมแย้มยิ้มถาม เมื่อเห็นสภาพของนาง นางพยักหน้าแทนคำตอบ ผมจึงพูดว่า
“ดี ตอนนี้ท่านน่าเย็ดดีเหลือเกิน ยิ่งเห็นหีท่านบานแบบนี้อย่างกับหีคณิกา ข้ายิ่งอยากเย็ด มาเถอะ ท่านช้อนยกขาแหกหีให้ข้าเย็ดท่านทีเถอะ ”
ฮูหยินรอง ทำตามที่บอกอย่างอ่อนแรง ยกช้อนขาแบะหีให้ผมเข้าไปเย็ด ผมจึงจับเอาควยยัดหีนางก่อนจะดันเข้าไปจนจมมิด ฮูหยินรองสะดุ้งจนผวา ปล่อยมือที่ช้อนขาแบะ โผเข้ากอดผม
ผมหัวเราะเบาๆ ที่เห็นนางสะดุ้งควยผมจนผวา เพราะผมเจตนาดันพรวดเข้าไปไม่ให้นางได้ตั้งตัว จากนั้นก็โน้มหน้าไปกระซิบที่ข้างหูนางพูดว่า
“เป็นยังไง เต็มรูหีดีมั๊ยอีกระหรี่”
คำว่าอีกระหรี่ ผมพูดเป็นภาษาไทย ฮูหยินรองฟังไม่เข้าใจ เข้าใจแต่คำว่าเต็มรูหี จึงพูดว่า
“เต็มดีเหลือเกิน แต่อีกระหรี่ นี่หมายความว่าอย่างไร”
“อ้อ มันเป็นคำต่างแดนใช้เรียกชมผู้หญิงที่มอบความสุขให้ฝ่ายชายได้สุขสม”
ฮูหยินรองไม่รู้ว่าผมหลอกด่า ถึงกับยิ้มเอียงอายเข้าใจว่าผมชม จึงเอาสองมือโอบรอบคอผมโน้มผมลงไปจูบปากแลกลิ้น แล้วกล่าวว่า
“คำว่าอีกระหรี่นี้ ฟังดูแปลกหู แต่เพราะดี ท่านเรียกข้าพเจ้าว่าอีกระหรี่เช่นนี้ คงหมายถึงข้าพเจ้าทำให้ท่านมีความสุขมากใช่หรือไม่”
ผมฟังแล้วถึงกับกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ แต่ก็แกล้งหัวเราะยิ้มกลบเกลื่อน พูดว่า
“ใช้แล้ว ในปฐพีนี้ ไม่มีผู้ใดเหมาะสมกับสมยานามอีกระหรี่เท่ากับท่านอีกแล้ว”
ฮูหยินรองแย้มยิ้มไม่หุบ พูดว่า
“ถ้าเช่นนั้นท่านก็เรียกข้าว่าอีกระหรี่เถิด ต่อไปข้าจะทำให้ท่านมีความสุขแทบทุกวัน”
ผมแอบหัวร่องอหงายในใจ แต่คิดแล้วก็เหมาะสมกับนาง จึงว่า
“ดี อีกระหรี่ คืนนี้ ข้าจะเย็ดเจ้าให้หนำควย ให้เหมาะสมกับสมยาของเจ้า”
พลางขยับสะโพกเด้าควยเข้าออก เพียงขยับสองสามครั้งในทีแรก ก็เร่งกระเด้าใส่ควยไม่ยังจนเสียงดัง ตับๆๆ ให้สมกับที่นางเป็นกระหรี่
ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“อ้อยยยยยย ท่านกาเซียงงงง ท่านเก่งเหลือเกิน ข้าพเจ้าสะท้านไปหมดแล้วววว อ้อยยยยยยย”
ฮูหยินรอง หน้านิ้วคิ้วขมวดเกร็งตัวหลับตาร้อง ตามความเสียวที่ถูกควยกระเด้าใส่ สองมือนางจับตัวผมไม่เป็นที่ บางที่โอบจับเอว บางทีโอบรอบคอ บางครั้งก็จิกที่นอน ดึงจนผ้าปูย่นยู่
น้ำในหีของนางไหลเล็ดออกมาไม่หยุด และถูกควยผมกระเด้าตำจนส่งเสียงน้ำในหีแตกดัง จั๊ก จั๊ก ผสานกับเสียงเนื้อกระทบดัง ตับ ตับ ไม่ขาด
ผมยิ่งเย็ดยิ่งมันส์ กระเด้าใส่อย่างลืมตาย คราวนั้นพลันรู้สึกว่าผมมีกำลังวังชามากกว่าแต่ก่อน แม้โหมกระเด้าใส่รั่วๆโดยไม่หยุด แต่กลับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแต่ประการใด คิดให้สงสัยตัวเอง ว่าไฉนจึงมีกำลังวังชาดีปานนี้ พลันคิดไปถึงระยะนี้ ดื่มยาบำรุงของอาเจินทุกเช้าอีกทั้งยังฝึกปรือกำลังภายในเสริม หรือทั้งสองสิ่งส่งผลให้ผมแข็งแรงขึ้น
สิ่งที่ผมคิดไม่ผิด ยาบำรุงของอาเจินช่วยเพิ่มกำลังทางเพศ สร้างเสริมน้ำอสุจิ ส่วนวิชากำลังภายในที่ผมฝึกอยู่ช่วยให้ไม่เหนื่อยง่ายและฟื้นตัวเร็ว และช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก เมื่อสองสิ่งผนวกกัน ผมก็กลายเป็นนักเย็ดมาราธอนได้เลย
ยามนั้นเมื่อไม่เหนื่อยผมก็กระเด้าใส่ไม่ยั้ง ปากก็จูบประกบแลกลิ้นอย่างดูดดื่มกับฮูหยินรอง พอถอดปากหายใจก็พร่ำพูดกับนางว่า
“อีกระหรี่ฮูหยินรอง เจ้าชอบหรือไม่ ถึงใจหรือไม่ โอ้ววว ซีดดดศส์”
ตับๆๆๆๆๆๆ
“อ้อยยยยย ถึงใจเหลือเกิน ข้าจะเสร็จอีกแล้วววว อ้ออยยยย ซีดดดดส์ อีกระหรี่ชอบเหลือเกิน”
ผมฟังแล้วทั้งนึกหัวร่อ ทั้งเกิดอารมณ์ พลันเร่งเย็ดจนนางเสร็จน้ำหีแตก แล้วผมก็แตกตามโดยปล่อยอัดน้ำเข้าไปเต็มรูหีนาง ตอนนั้นแม้เสร็จน้ำแตกแล้ว ผมกลับยังรู้สึกคึกคัก ควยไม่หด และยังอยากเย็ดต่อ จึงจับนางโก่งโค้งคลานสีขา เย็ดท่าหมาต่อ
หีของนางเต็มไปด้วยน้ำควยผมที่แตกคาไว้อยู่ พอจับนางโก่งโค้งคลาน น้ำควยก็ย้อยออกจากหีย้อยหยดออกมา ผมยิ่งดูยิ่งน่าเย็ด จึงเอาควยยัดเย็ดสวนเข้าไป ควยผมเบียดเสียดแทรกเข้าไปในหี ดันน้ำควยที่ค้างอยู่ภายในให้ทะลักล้นปริออกมาจนย้อยหยดออกมาเป็นสาย
“อู๊ยยยยย ซีดดดศ์ อีกระหรี่ มึงนี่มันเด็ดจริงๆ”
ผมร้องบอกพร้อมเริ่มกระเด้าเย็ด สองมือผมกดเอวของนางจนตูดแอ่น ให้หีรับการกระเด้าควยของผมได้เน้น
“อ้อยยยยย ท่านกาเซียงงงง อีกระหรี่เสียวหีเหลือเกิน”
ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมยิ่งเด้ายิ่งมันส์ จากที่เอามือกดเอว ก็เปลี่ยนไปจับบ่านางทั้งสองข้าง ดึงรั้งจนเอวงอตัวแอ่น กระเด้าใส่รั่วๆ จนหีนางบานฉ่ำเต็มไปด้วยน้ำหีน้ำควยผสมผสานหยาดเยิ้มหยดออกมาไม่ขาด นางเสียวกระสันจนสุดจะทน รู้สึกเสร็จแล้วเสร็จอีก จนน้ำหีแตกไม่รู้กี่ครั้ง ร่ำร้องครางเสียงหลงไม่หยุด บางครั้งกรีดร้องอย่างกับสุกรถูกเชือด ไม่นานนักผมก็เสร็จน้ำแตกอีกครั้ง อัดเข้าไปเต็มหีนาง เมื่อถอดควยออก น้ำควยถึงกับไหลย้อยเป็นยวงหยดแหมะออกมาตาม เหมือนกับว่าน้ำควยผมในหีนางมีเต็มจรเกินรองรับแล้ว
ผมเองก็ยังรูสึกแปลใจนี่ขนาดเสร็จครั้งที่สาม น้ำควยยังมาก แถมควยยังแข็งเย็ดต่อได้ นับว่ายาบำรุงของอาเจินนั้นให้ผลดีมากนัก คิดแล้วต้องลิงโลดยินดี ทีนี่ต่อให้ลุยศึกหนักกับภรรยาทั้งสามคนก็ไม่มีคำว่าฟ้าเหลืองสำหรับผมแล้ว
ยามนั้นยังคึกคักอักโข จึงจับฮูหยินรองเย็ดต่อ ฮูหยินรองถึงกับแอบร้องคร่ำครวญในใจ ครุ่นคิดมิรู้ว่าผมไปตายอดตายอยากมาจากไหน อีกทั้งไฉนจึงมีพลังขับทางเพศมากมายเช่นนี้ นับว่าเกิดมาชาตินี้ไม่เคยพบเจอ
ยามนั้นฮูหยินรอองเสร็จไปหลายรอบจนอ่อนเรียวแรงไม่อาจแข็งขืน ถูกจับปรับเปลี่ยนท่าใดก็ไม่อาจดิ้นรนตัดพ้อได้ เหตุนี้มิใช่ว่านางขัดขืนเสียมิได้เลย หากแต่นางมิได้ขัดขืนเอง แม้นางจะอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่ความเสร็จสุขสมที่ได้รับมันช่างยั่วเย้าให้นางต้องการมันอีก เนื่องเพราะที่ผ่านมา แม้นางจะผ่านผู้ชายมามากแต่ก็ไม่เคยได้เสร็จสมเช่นนี้มาก่อน
นั่นก็เพราะว่าผู้ชายในยุคนั้นถือตนเป็นใหญ่เหนือผู้หญิง ยามร่วมรักกัน จึงมิได้เคยใส่ใจว่าผู้หญิงจะเสร็จสมหรือไม่ เพียงสนใจว่าฝ่ายหญิงทำให้ตัวเองเสร็จก็เป็นพอ ผิดกับกาเซียงผู้นี้ที่ใส่ใจรายละเอียดการร่วมรักและรู้ท่วงทำนองความต้องการของอิสตรีที่แสดงออกมาได้อย่างดี รู้จังหวะเร่งจังหวะผ่อนตามความต้องการของฝ่ายหญิง จึงร่วมรักพาให้นางจนเสร็จสุดยอดได้หลายครั้ง ทำให้นางแม้อ่อนแรงแทบจะไม่ไหว แต่ก็ยังอยากลิ้มรสสวาทนั้นอยู่
ครั้งนี้ผมจับนางนอนตะแคงเข้าสวมกอดประกบด้านหลัง คิดเล่นพิสดารกับนาง สอดใส่ทางประตูหลัง ฮุหยินรองพอรู้สึกตัวว่าผมพยายามสอดใส่ผิดช่องทาง ก็ตื่นตระหนกอิดออด เพราะมิเคยมีใครร่วมรักพิสดารเช่นนี้มาก่อน จึงหวาดกลัวมิใคร่ยินยอม ผมต้องกล่อมนางอยู่นานจนนางรู้สึกคล้อยตามยินยอมให้สอดใส่
ผมจึงทำอย่างนุ่มนวลละมุนละม่อมเพื่อไม่ให้นางเจ็บจนหมดอารมณ์ ค่อยๆสอดใส่โดยอาศัยน้ำรักที่มากล้นเต็มหี เอามาเป็นตัวช่วยหล่อลื่น เมื่อเริ่มมุดหัวสอดใส่เข้าไปได้ นางถึงกับซีดดศ์ปาก ทั้งเสียวทั้งจุก รู้สึกถึงรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับรู้มาก่อน สร้างความตื่นเต้นกำหนัดให้กับนางไม่น้อย เมื่อเริ่มคุ้นชินแล้วความจุกบรรเทาลง แต่ความเสียวมีมากขึ้น อีกทั้งผมยังใช้มือกระตุ้นเม็ดแตดเล่นหีนางเสริม ทำให้เสียวทั้งหน้าทั้งหลัง สร้างความรัญจวนใจให้จนเคลิบเคลิ้ม
“อ้อยยยย ซีดดดส์ ท่านร้ายกาจนัก ทำเอาข้าพเจ้าไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ซีดดดส์ อ้อยยยย”
ฮูหยินรองพร่ำร้อง หลับตาพริ้มไปกับความเสียวออันละมุนนุ่มนวลที่ได้รับ ผมขยับโยกช้าๆไม่ได้เร่งร้อนเนื่องเพราะนางเพิ่งโดนทางประตูหลังครั้งแรก จึงมิควรหักโหมไป มิเช่นนั้นนางอาจจะเจ็บจนเข็ดขยาดไปจนตาย
ประตูหลังย่อมรัดรูดกว่าประตูหน้า ถึงขยับเข้าออกช้าๆ ก็รัดรูดควยผมจนเสียวสยิว มิต้องเร่งเร้ามากนัก ทำไปช้าๆเนิบๆ ก็บรรเทิงจนทำให้เสียวกระสันน้ำควยแตกได้ ดังนั้นผมจึงไม่หักโหม แต่ทำอย่างนุ่มนวล ควยกระเด้าเข้าออกช้าๆ มือก็บดแตดเล่นหีนางให้กระสัน มินานนักฮูหยินก็ร้องตัวเกร็ง ถูกเสียวทั้งหน้าทั้งหลังจนเสร็จน้ำหีแตกคามือผม ผมเองก็โยกเย็ดอีกไม่นาน ก็พ่นพิษใส่เต็มรูทวารหลังของนาง
ครั้งนี้นางเสร็จและหมดเรียวแรงจริงๆแล้ว หลังจากน้ำหีแตกเสร็จ ก็พริ้มตาปรือจะหลับลงไปโดยไม่สนใจสิ่งใด ผมเองพอพ่นน้ำควยเสร็จก็นอนกอดประกบปล่อยควยคารูตูดของนางไว้แบบนั้น
เราทั้งคู่หลับไปตอนไหนไม่ทราบ ผมมารู้สึกตัวเมื่อนางขยับตัว ยามนั้นผมเพียงสะลึมสะลือหรีตามองขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ไม่ได้ตื่นลืมตาขึ้นมา เห็นฮูหยินรองลุกจากเตียงอย่างลับๆล่อๆ ทำให้ผมต้องไหวตัวฝืนความง่วงเรียกสติให้ตื่นขึ้นมา เพียงแต่ยังแสร้งหลับอยู่
พลันเห็นนางลุกไปยืนข้างเตียงมองสังเกตมาที่ผมหลายครั้ง คล้ายจะดูว่าผมหลับสนิทไปแล้วหรือไม่ สักพักไม่เห็นผมขยับตัว ทั้งยังหลับตาหายใจอย่างสม่ำเสมอก็เข้าใจว่าผมหลับสนิทไปแล้วจริงๆ นางจึงไปสวมเสื้อผ้า แล้วค่อยๆย่องออกจากห้องไป
ผมรู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงรีบลุกขึ้น ไปที่ประตูเปิดแง้มดูว่านางทำลับๆล่อๆ จะไปยังที่ใด ยามนั้นเห็นนางไปยืนอยู่หน้าห้องข้างๆที่ติดกัน นางเคาะเบาๆไปทีหนึ่งก็มีคนเปิดประตูอออกให้ แล้วนางก็เข้าไป ผมเห็นดังนั้น คิดแล้วก็น่าสงสัย นางเป็นเจ้าของบ้าน ที่นี่ก็คือห้องของนาง ยามค่ำคืนดึกดื่นไม่อยู่นอนห้องตัวเอง ยังออกไปเคาะห้องหาใคร มีธุระอะไรกับใครในบ้านในเวลาดึกดื่นปานนี้
พลันรู้สึกไม่ชอบมาพากลจึงคิดอยากจะไปแอบดูว่านางไปหาใคร จึงเปิดประตูย่องอออกจากห้อง ไปหน้าห้องที่นางเข้าไป แล้วก้มตัวลงเอาหูแนบฟัง ได้ยินเสียงคนคุยกันแววมาว่า
“ฮูหยินรองดูท่านคืนนี้ คงสุขสมมิใช่น้อย มิคาดคิดว่า เจ้ากาเซียงนั้นจะเป็นนักรักผู้ช่ำชอง เล่นงานท่านเสียจนครางไม่เป็นผู้เป็นคน”
เสียงฮูหยินรองกลับกล่าวตัดพ้อว่า
“นี่ท่านแอบดูรึ”
เสียงผู้ชายคนนั้นตอบว่า
“ก็ต้องมีบ้าง เจ้าเป็นเมียของข้า ถูกผู้อื่นเอาไปเชยชม มีหรือจะไม่อยากรู้ว่าพวกเจ้าเริงรักกันออย่างไร”
ฮูหยินรองกลับเปล่งเสียงแง่งอน ดัง ชิ กล่าวว่า
“ที่เช่นนี้ ข้าทำงานได้สมใจท่าน ก็เรียกข้าว่าเป็นเมีย แต่จนแล้วจนรอดมิเคยคิดตบแต่งข้าเข้าตระกูลม้าของท่าน กลับซ่อนข้าไว้เป็นเมียเก็บ”
“เอ้ยยยย เรื่องนี้ข้าก็บอกต่อเจ้าหลายครั้งแล้ว หากตบแต่งเจ้าเป็นฮูหยิน มีหรือภรรยาข้าจะยอม พอข้าจะแต่งเจ้าเป็นนางบำเรอ เจ้าก็มิยินยอมอีก แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร”
“เอาเถอะๆ ถือว่าข้าพเจ้าโง่งมเองที่ไปหลงรักท่าน แล้วทีนี้จะให้ข้าพเจ้าทำอย่างไรต่อ”
ชายผู้นั้นหัวเราะอย่างพอใจ พูดว่า
“กาเซียงผู้นี้ ตอนนี้ดูจะหลงงมงายเจ้ายิ่งนัก ถึงขั้นยอมทำรักด้วยปากให้กับเจ้า บุรุษที่ยอมลดศักดิ์ศรีกับสตรีเยี่ยงนี้ มีหรืออจะไม่หลงงมงายในสตรีผู้นั้น ที่นีเจ้าก็ค่อยๆเกลี่ยกล่อมมัน ให้มันมาร่วมกับข้า ทีนี้ล่ะ เมื่อข้าได้กาเซียงผู้นี้มา การจะจัดการกับลิฉุยและกุยกี เพื่อเข้ายึดเมืองหลวงก็ไม่ใช่เรื่องยาก เหอะๆ ถึงตอนนั้นข้าม้าเท้งนี่แหละจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
ผมพอได้ยินว่า มันคือม้าเท้ง ถึงกับตกใจตาโต คิดไม่ถึงว่าคนข้างในจะเป็นมัน พวกมันกลับคิดวางแผนการดึงผมไปเข้าร่วม โดยใช้ฮุหยินรองเป็นนกต่อ นับว่าเป็นเรื่องที่ผมคิดไปไม่ถึงจริงๆ ที่แรกคิดว่า ฮูหยินรองเพียงต้องการจับผมเป็นผัวเท่านั้น ไม่คิดว่านางจะมีแผนการที่ซ่อนอยู่อีก ดีที่มาได้ยินกับหู หาไม่แล้วคงไม่รู้เรื่องใหญ่แบบนี้ นี่แสดงว่า ไอ้ม้าเท้งมันคิดการใหญ่มานานแล้ว ประจวบเหมาะกับที่ผมกลับมาเสเหลียง มันเลยคิดจะหาทางดึงผมไปใช้งานเป็นหนอนบ่อนไส้ เพื่อใช้กำจัดลิฉุยกับกุยกี เหอะ เดาได้เลยว่า หากผมช่วยมันจัดการลิฉุยกุยกีแล้ว ศพต่อไปก็ต้องเป็นผมออย่างแน่นอน เพราะหากผมทรยศลิฉุยกับกุยกี ไปเข้าด้วยกับมัน หลังจากใช้งานผมเสร็จแล้ว มีหรือจะปล่อยผมไว้ หึ กูไม่โง่คิดสั้นขนาดนั้นหรอกไออ้ม้าเท้ง ดีแหละจะย้อนด่อนพวกมึงให้แสบเลย
ยามนั้นภายในห้อง ม้าเท้งเข้ามาสวมกอดฮูหยินรองพูดต่อไปว่า
“หากแผนการนี้สำเร็จ เจ้าจะมีความชอบใหญ่หลวง รับรอองว่า ข้าจะดูแลเจ้าและลูกชายเจ้าให้สุขสบายไปชั่วชีวิต”
ฮูหยินรองในตอนนั้นกลับจิตใจสับสน รู้สึกไม่ยินดียินร้ายกับคำพูดของม้าเท้ง นางยามนี้เหมือนมีความลังเลใจ จิตใจหวั่นไหวจนบอกไม่ถูก ม้าเท้งเห็นนางเงียบเฉย รู้สึกผิดปกติไป จึงถามว่า
“เจ้าเป็นอะไร ไม่ดีใจหรือ”
ฮูหยินรองจึงรู้สึกตัว พูดแก้ต่างว่า
“จะให้รีบยินดีไปไย งานยังมิได้สำเร็จสักเล็กน้อย กาเซี่ยงยังมิได้ตอบรับช่วยเหลือท่าน ไฉนรีบยินดี”
“ฮ่าๆๆ มันหลุมหลงเจ้าปานนั้น มีหรือจะไม่คล้อยตาม ชายใดที่หลุมหลงอิสตรี ต่อให้สตรีชี้ไม้บอกว่านก มันก็ต้องบอกว่านกตาม งานนี้ขึ้นอยู่กับเสน่ห์ของเจ้า ข้ามั่นใจว่าเจ้าทำได้ ฮ่ะๆ ขนาดข้าเองก็ยังหลุมหลงเจ้าปานนี้”
ฮูหยินรองกับมีสีหน้าเย็นชาไม่ใคร่เชื่อถือ พูดว่า
“เหอะ ท่านนั่นหรือหลุมหลงข้า ถ้าเช่นนั้นหากข้าชี้ไม้บอกว่านก ไฉนท่านไม่บอกว่านกตามข้า”
ม้าเท้งรู้ได้ในทีว่านางจะวกกลับไปโต้เถียงเรื่องเก่า ที่ไม่ตบแต่งนางเป็นฮูหยิน จึงรีบทำเสียงอ่อนง้อว่า
“เอาเถอะๆ จะอย่างไรข้าก็รักเจ้า แค่นี้ไม่เพียงพอหรือ เจ้ารู้หรือไม่ เมื่อข้าเห็นเจ้าร่วมรักกับเจ้ากาเซี่ยง ใจข้ารุ่มร้อนดังไฟพลาญ หากไม่ใช่เพื่อการใหญ่ คงพังประตูเข้าไปจัดการเชือดคอมันแล้ว”
ฮูหยินรองเชิดปาก ส่งเสียงดัง ชิ อย่างไม่เชื่อน้ำคำ เพราะมันเองเป็นคนให้นางไปร่วมรักกับกาเซียงเอง แล้วจะมาหึงหวงอันใด ม้าเท้งเห็นนางยังแง่งอน จึงโอบกอดงอนง้อ พลันนึกภาพนางถูกกาเซี่ยงกระทำชำเรา พลันเกิดอารมณ์กำหนัดขึ้นมา นึกอยากเย็ดนางให้สะเด่าเหมือนที่กาเซียงทำ พลันชักชวนนางไปที่เตียง
มิคาดว่าฮูหยินรองอิ่มในรสกามเต็มเปี่ยมแล้ว รู้สึกไม่ใคร่อยาก อีกทั้งเกิดการเปรียบเทียบระหว่างม้าเท้งกับกาเซียงให้สับสนในจิตใจ จนว้าวุ่น ไม่มีอารมณ์กำหนัด จึงบ่ายเบี่ยงว่า
“ตอนนี้ไหนเลยได้ ข้าพเจ้าออกมานานแล้ว หากมันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ไม่พบเห็นข้าพเจ้า อาจฉุกคิดสงสัย เกิดความแตกมิเสียหายหรอกรึ”
ม้าเท้งรู้สึกนางมีอะไรค้างคาใจเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นฉุกคิดสงสัยพูดว่า
“แต่ละครั้งเจ้าไม่เคยบ่ายเบี่ยงข้า ครั้งนี้กลับดูมิใคร่เต็มใจ มิใช่ว่าข้าให้เจ้าไปทำให้มันหลงใหล แต่เจ้ากลับไปหลงใหลมันเสียเอง จนคิดตีตัวออกห่างข้าหรือ”
ฮูหยินร้องตกใจ รีบตีสีหน้าเสร้า พูดเง้างอว่า
“ท่านก็กล่าวกระไร ในใจข้ามีเพียงท่านเพียงคนเดียว ท่านไม่ทราบหรอกหรือ แม้ท่านใช้ให้ข้าไปนอนกับชายอื่น ข้ายังทำตาม ข้าทำเพื่อท่านขนาดนี้ ท่านยังไม่เชื่อใจข้าอีกหรือ”
พลางร่ำไห้สะอื้นหลังน้ำตา ม้าเท้งพลันรู้ตัวว่าพูดผิดไป จึงรีบเข้าไปปลอบง้อ พูดว่า
“โอ้ว ข้ามิได้ตั้งใจ เพราะความหึงหวงจึงพูดออกไปเช่นนั้น เอาเถอะๆ เจ้าเองก็กลับไปยังห้องมันเถอะ หากมันตื่นมาสงสัยอย่างเจ้าว่า ก็จะเสียการ”
ผมแอบฟังอยู่ รู้ว่าฮูหยินรองจะออกมาแล้ว จึงรีบกลับเข้าห้อง ไปแกล้งนอนหลับต่อ สักพักฮูหยินรองก็กลับเข้ามา นางถอดเสื้อผ้าออกจนหมดให้โป๊เปลือยเหมือนเดิน จากนั้นก็ย่องขึ้นบนที่นอน ขยับตัวเข้าหามานอนกอดผมจนสนิทแน่น ผมแสร้งหลับใหลไม่รู้สึกตัว แต่ในหัวกลับคิดวิธีหาทางซ่อนแผนพวกมันอย่างไรดี