นายแบบวัยใส ตอนที่1
นายแบบวัยใส
ตอนที่1
โดย Darkside_Erotic
// บทนำ //
– เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมานะครับ และไม่ใช่เรื่องเสียวหรือเซ็กส์สตอรี่
– เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่ บุคคลในชีวิตจริงใดๆ
– ผู้แต่งเดียวกับเรื่อง “นางแบบวาดรูป” หากใครชอบเรื่องนั้น อย่าพลาดเรื่องนี้ครับ ใครไม่เคยอ่าน อยากให้ไปลองอ่านก่อนนะครับ
เพื่อความสนุก ผมอยากให้ผู้อ่านปรับทัศนคติใหม่ก่อนนิดหน่อย ลองจินตนาการตามตัวเอกของเรื่อง ย้อนวัยไปสมัยยังเป็นวัยอยากรู้อยากเห็น ได้พบเจอสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อน ความตื่นเต้นในช่วงเวลานั้นของทุกคนมันจะเป็นยังไง ค่อยๆ ผจญภัยตามตัวเอกไปเรื่อยๆ อย่าไปคิดว่าเมื่อไหร่จะมีฉากเอากัน เมื่อไหร่จะมีฉากเสียว ผมบอกเลยแนวเรื่องนี้ไม่เน้นหรือไม่มีฉากเอากัน ถ้าใครหวังฉากนั้นก็ข้ามไปได้เลยครับจะได้ไม่เสียเวลา เพราะเรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องสบายๆ แทรกด้วยความเสียวและเปิดโลกกว้างทางเพศของเด็กหนุ่มเป็นหลักครับ
ใครก็รู้ว่าความยากจนมันน่ากลัว ผมเองเกิดในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ทว่าค่อนไปทางยากจนนิดๆ ครั้นพอเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น ฐานะทางบ้านจึงยิ่งย่ำแย่ลงหนักกว่าเดิม ท้ายที่สุดพ่อผมจึงไปหางานทำที่ต่างจังหวัดตามคำกล่าว “ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน” เหลือเพียงแม่และพี่สาวที่อาศัยอยู่ด้วยกันต่อไป และด้วยว่าเงินเก็บของทางบ้านนั้นไม่มีมากพอ ผมและพี่สาวจึงต้องออกจากการเรียน โดยมีวุฒิสูงสุดเพียง ป.6 เท่านั้น
พี่สาวผมแก่กว่าผมเพียงปีเดียว เธอจึงต้องออกจากการเรียนไปก่อนผม และไปหางานพิเศษเล็กๆ ที่เด็กวัย ม.ต้น จะทำงานได้ เพื่อประคองฐานะของครอบครัวไปก่อน และหลังจากผมจบ ป.6 แล้ว ก็ถึงคิวผมที่จะต้องไปหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวต่อไป
โชคดีทีเดียวที่เพื่อนเก่าของแม่มีกิจการขายเสื้อผ้าอยู่ ร้านค่อนข้างใหญ่ จึงรับพวกเราพี่น้องไปเป็นเด็กดูแลร้าน คอยจัดข้าวของ ทำความสะอาด แนะนำลูกค้า ซึ่งงานง่ายๆ เหล่านี้เด็กวัยผมย่อมทำได้ไม่ยากเย็นนัก และยังทำได้ดีจนได้คำชมจากเจ้าของร้าน ซึ่งก็คือน้าติ๋มนั่นเอง
น้าติ๋มเป็นเพื่อนสมัยเรียนของแม่ผม เคยสนิทกันมาก แล้วมาห่างๆ กันตอนขึ้น ม.ปลาย เพราะน้าติ๋มเรียนสายวิชาการแต่แม่ผมเลือกเรียนสายอาชีพ ทว่าโชคชะตาก็ทำให้พวกเขากลับมาพบกันอีก แถมเพิ่มเติมด้วยการที่น้าติ๋มรับพวกเราเป็นลูกจ้าง ซึ่งเพราะเหตุนี้แม่จึงสบายใจและหมดห่วงในเรื่องงานของพวกเรา
ผมทำงานกับน้าติ๋มมาเกือบปี มีความประพฤติดีและได้รับความเอ็นดูจากน้าติ๋มเสมือนลูกหลาน บางวันน้าติ๋มก็พาพวกเราไปกินข้าวเย็น น้าติ๋มเป็นคนโสด ไม่มีลูก อายุอานามก็เข้าเลขสี่ไปแล้ว อาจเพราะเหตุนี้ทำให้น้าติ๋มดูแลเราดีมากๆ ก็เป็นได้
จนกระทั่งวันหนึ่งน้าติ๋มมีข่าวมาบอกเรา โดยที่น้าติ๋มเองบอกว่าเป็นข่าวดี ผมและพี่สาวพากันตื่นเต้นและรอฟังข่าวนั้นอย่างจดจ่อ แต่น้าติ๋มบอกว่าจะเข้าไปคุยกับแม่ด้วยเลย ค่อยฟังพร้อมๆ กัน วันนั้นทั้งวันผมนี่ลุ้นอยู่ตลอด ในใจอยากให้ปิดร้านเร็วๆ เพื่อที่จะได้ฟังข่าวดีที่ว่านั้นคือเรื่องอะไร
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ไม่ว่านานแค่ไหนตะวันก็ย่อมตกดิน เมื่อปิดร้านเรียบร้อยแล้ว น้าติ๋มพาพวกเรามาส่งบ้านเพื่อที่จะพบกับแม่ของพวกเราและแจ้งข่าวดีนั้น
รถเก๋งคันงามสมฐานะเจ้าของกิจการแล่นเข้าจอดเทียบข้างอาคารพาณิชย์ อึดใจต่อมาพวกเราทั้งหมดก็ออกจากรถ แม่ผมแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นน้าติ๋มเดินยิ้มนำเข้ามาแต่ไกล แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงจัดหาเก้าอี้ให้นั่งรับแขกตามปกติ ส่วนผมและพี่สาวก็ไปนั่งโซฟายาวใกล้ๆ กัน
“นี่ยัยต้อย ชั้นมีข่าวดีมากบอกแหละ” เสียงน๋าติ๋มดูกรุ้มกริ่ม
“อะไรล่ะยายติ๋ม ถึงขนาดมาเองเลยนะ” แม่ผมกล่าว
“ชั้นมีงานพิเศษดีๆ มาให้ลูกแกทำ รายได้ดีเลยนะ ชั้นไม่อยากให้พลาด”
“หืม งานอะไรของแก แล้วมันดีแค่ไหนกัน” แม่ผมทำท่าเหมือนไม่เชื่อ
“นี่ คืองี้… ชั้นรู้จักกับออร์แกไนซ์อยู่คนนึง เป็นลูกค้าชั้นด้วยแหละ ทีนี้เค้ามาติดต่ออยากได้ลูกแกไปเป็นนายแบบนางแบบ เพราะเห็นหน่วยก้านแล้วเข้าท่า แต่ชั้นไม่สามารถตกลงอะไรได้ เลยต้องมาให้แกซึ่งเป็นผู้ปกครองอนุญาตเสียก่อน”
พอได้ยินคำว่านายแบบนางแบบหัวใจของผมก็พองโต แม้จะไม่ได้ไฝ่ฝันในอาชีพนี้ แต่การได้เป็นนายแบบมันก็เท่ไม่เบาเหมือนกัน
“มันมีงานแบบนี้ด้วยเหรอ ใครเค้าจะมาเอานายแบบนางแบบรุ่นนี้ไป ถ่ายแบบชุดนักเรียนหรือไง หรือว่าชุดชั้นใน?” แม่ผมถาม
“เอ ชั้นก็ไม่ได้ถามเค้านะ แต่เท่าที่ฟังดูเค้าจริงจังมาก ก็คงแนวๆ นั่นล่ะแก”
“แล้วค่าตัวมันจะเท่าไหร่กัน”
“เท่าที่คุยคร่าวๆ นะ เห็นเค้าว่าจะลองทำสัญญาดูก่อนสามเดือน ซึ่งในช่วงนี้เค้าจะหางานมาป้อน ก็ได้ค่าตัวแตกต่างกันไปแล้วแต่งาน ถ้าทำตัวดีๆ ก็ค่อยต่อสัญญาอะไรไป แต่ชั้นคิดดูแล้วมันดูมีอนาคตไกลนะ”
“นี่แกถึงขนาดออกตัวแรงให้เลยเหรอ เออแฮะ ได้ค่านายหน้าเปล่าเนี่ยยัยติ๋ม” แม่ผมยิ้มๆ
“แหมเพื่อนเอ๊ย มันก็ต้องมีกันบ้าง แต่ชั้นก็อยากให้เด็กมันมีงานดีๆ ทำแหละ”
“แล้วพวกเราล่ะว่าไง?” แม่หันมาถามพวกผมบ้าง
ผมและพี่สาวมองหน้ากันก่อนที่ผมจะเอ่ยปากไป
“ก็… ก็น่าสนใจอยู่นะ”
“ตาเมฆโอเค แล้วยัยฟ้าล่ะ” แม่ผมหันไปหาพี่สาว
“ก็… ถ้าแม่ว่าดีฟ้าก็ว่าดีจ้ะ”
“เอ้า นี่ถามความสมัครใจนะ”
“ก็… สนใจค่ะ” พี่ผมตอบแบบยิ้มๆ
“เห็นมั้ย ลูกแกโอเค แล้วแกล่ะ” น้าติ๋มถามแม่ผม
“เอาเถอะ ถ้างานมันดีจริง ได้เงินดีจริง เด็กๆ มันโอเคชั้นก็ตามนั้นแหละ”
“แหม ดีเลย งั้นพรุ่งนี้ถ้าสะดวกชั้นจะให้เค้าเข้ามาคุยแล้วเอาสัญญามาให้เซ็นนะ”
แม่ผมพยักหน้ายิ้มเบาๆ ส่วนพวกผมก็พยายามกลั้นยิ้ม แต่ทำยังไงก็ไม่เนียนอยู่ดี
คืนนั้นผมแทบจะนอนไม่หลับ ในใจวาดฝันไปถึงอนาคตอันใกล้ ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เข้าสู่วงการถ่ายแบบกับเค้าบ้าง บางคนเป็นตอนอายุมาก แต่ผมกลับได้รับโอกาสตอนอายุน้อย ผมคิดว่าการเป็นนายแบบนอกจากจะเท่แล้วยังรวยแถมมีชื่อเสียงอีกด้วย
ผมหันไปหาพี่สาวที่นอนอยู่บนเตียงอีกมุมห้องหนึ่ง ก็พบว่าเธอนอนตาใสมองเพดานยิ้มเพ้อฝัน คงกำลังนึกอะไรไม่ต่างจากผม ตอนนี้แทบจะอดใจรอให้ถึงพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว ต้องขอบคุณน้าติ๋มเพื่อนแม่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ให้โอกาสนี้กับพวกเรา
รุ่งขึ้น ผมและพี่สาวไปทำงานที่ร้านน้าติ๋มตามปกติ ตลอดเวลาทั้งวันผมพยามเงี่ยหูฟังว่าน้าติ๋มได้คุยโทรศัพท์อะไรที่เกี่ยวกับงานนี้หรือไม่ แล้วก็ไม่ผิดหวัง เมื่อสุดท้ายแล้วตัวแทนออร์แกไนซ์ที่ว่าก็เข้ามาคุยกับพวกเราในช่วงเย็นจริงๆ
“นี่เด็กๆ มาสวัสดีพี่เค้าซะสิ” น้าติ๋มเรียกพวกเราไปหาคนผู้หนึ่งที่เดินยิ้มเข้ามา
“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ” พวกเรากล่าวทักทาย
คนที่มานี้ผมคุ้นหน้าพอสมควร เพราะเขามาที่ร้านอยู่หลายครั้ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นผู้หยิบยื่นโอกาสให้กับผม พี่เขาชื่อยอร์ช รูปร่างผอมโปร่ง สูง ดูดี ออกจะเป็นแนวชายไม่จริงไปสักหน่อย ดูตุ้งติ้ง เสียงแหลมๆ ทว่าไม่แสดงออกจนน่าเกลียด แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูออกอยู่ดีว่าไม่แมน
พี่ยอร์ชเอาเอกสารมาให้เรากรอก ก็มีชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง สัดส่วน จากนั้นจึงนำอัลบั้มภาพตัวอย่างงานที่เคยทำมาให้พวกเราดู มีแต่สวยๆ ทั้งนั้น ก็อย่างที่เคยคิดไว้ มีทั้งถ่ายแฟชั่น เครื่องแบบต่างๆ ชุดว่ายน้ำ ชุดชั้นใน ซึ่งนายแบบนางแบบเหล่านี้มีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพวกสาวๆ ในชุดชั้นในนี่ทำให้ผมตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะนอกจากรูปร่างหน้าตานางแบบจะดีแล้ว การได้เห็นผิวพรรณหญิงสาวในร่มผ้านี่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ สำหรับผม แค่เห็นเพื่อนที่โรงเรียนกระโปรงเปิดหน่อยเดียวผมก็ลุ้นแทบแย่แล้ว
“ส่วนมากงานจะเป็นตามใจลูกค้าน่ะ ทางเรารับงานเกือบทุกรูปแบบ น้องๆ ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมเอ่ย” พี่ยอร์ชถามย้ำ
“ครับ / ค่ะ” พวกผมพยักหน้ารับคำ
“ดีมากจ้ะ เหลือให้แม่น้องเซ็นสัญญาก็เรียบร้อย เอกสารอื่นๆ เดี๋ยวพี่คุยกับแม่ของน้องเอง ส่วนเรื่องงาน ไว้ถ้าช่วงไหนที่มีพี่จะบอกนะ ถ้าไม่มีน้องก็พักหรือทำงานที่ร้านเจ๊ติ๋มเหมือนเดิมก็ได้ แต่ดูแลตัวเองกันหน่อยนะ เกิดป่วยหรือเป็นแผลอะไรขึ้นมา มันจะมีผลกับงานนะ”
“ครับ / ค่ะ”
ค่ำนั้นทั้งน้าติ๋มและพี่ยอร์ชพาพวกเรามาส่งบ้าน เพื่อที่จะพบกับแม่เราและอธิบายลักษณะงานทั้งหมด รวมถึงเรื่องเอกสารต่างๆ ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี แม่ผมจรดปากกาเซ็นหลังจากเอกสารผ่านๆ เป็นอันว่าเสร็จสิ้นกระบวนการทุกอย่างเรียบร้อย
ก่อนพี่ยอร์ชจะกลับไป เขาได้บอกพวกเราว่ามีงานชิ้นหนึ่งรออยู่ตอนนี้แล้ว เดี๋ยวถ้าพร้อมจะนัดพวกเราเข้าไปถ่ายงานได้เลย ผมและพี่สาวตื่นเต้นกันมาก และอีกเพียงสองวันเท่านั้นพี่ยอร์ชก็มารับตัวพวกเราไปยังสถานที่ถ่ายงาน
ตอนแรกพวกเรายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานเลย มีแต่เพียงความตื่นเต้นตลอดเวลา เมื่อเดินทางมาถึงก็ได้ทราบว่ามันเป็นห้องสตูดิโอ มีหลายห้องต่างรูปแบบกัน พี่ยอร์ชพาเราเข้าไปรู้จักพวกผู้ใหญ่ และพี่เลี้ยงที่ดูแลพวกเรา เธอเป็นสาวตัวเล็ก ผมสั้นๆ หน้าตาน่ารักทีเดียว ชื่อว่า “พี่ฝน” จากนั้นพี่ฝนจึงรับช่วงต่อพาเข้าไปในห้องแต่งตัว เมื่อเข้าไปแล้วพวกเราก็ได้เจอแบบคนอื่นๆ อีกหกคน หากจัดเป็นคู่แล้ว จะได้คู่หญิงชายที่เด็กกว่าเราหนึ่งคู่ และอีกสองคู่ที่โตกว่าเรา ถ้าให้เดาจากหน้าตาทรงผม เขาคงคัดช่วงประถมปลาย มอต้น มอปลาย และวัยมหาลัยมาให้ครบพอดี
พวกเราทั้งหมดนั่งพักและดูอะไรไปเรื่อยๆ ผมเริ่มสังเกตนางแบบอีกสามคนก่อนเลย คนแรกเป็นน้องสาววัยประถมปลาย หน้าตาออกลูกครึ่งฝรั่ง หน้าตาคม ผมยาว จมูกโด่ง ผิวขาวเนียนละเอียด หน้าอกและสะโพกถือว่าโตเกินวัย คนต่อมาเป็นสาวมอปลาย หน้าตาสะสวย ผมยาว รูปร่างสมวัย ผิวพรรณดีแต่ไม่ขาวเท่าน้องคนแรก หน้าอกหน้าใจกำลังดี ดูแข็งแรงน่าจะเป็นแนวนักกีฬา คนสุดท้ายสาวมหาลัย ผู้ใหญ่เกินตัวผมไปหน่อย เป็นหมวยตาโต ผิวออกขาวเหลือง ผมยาวสลวย ผิวขาวอวบอิ่ม ทรวดทรงโดดเด่นแต่ไม่อ้วน อาจกล่าวได้ว่าคนที่มานี่ล้วนถูกคัดสรรมาอย่างดี
สักครู่หนึ่งพี่ฝนก็เดินเข้ามา
“น้องๆ พร้อมกันรึยังคะ เดี๋ยวเราจะเริ่มกันเลย เดี๋ยวพี่จะแจกเสื้อผ้า ให้น้องๆ เปลี่ยนให้เรียบร้อยแล้วเดี๋ยวจะมีช่างมาแต่งหน้าทำผมนะคะ”
ห้องแต่งตัวนี้เหมือนถูกสร้างมาโดยเฉพาะ เนื่องจากมีกระจกเงาแผ่นใหญ่มาก มีไฟส่องหน้า และโต๊ะเครื่องแป้งแบบบิวด์อิน ที่ผนังห้องก็มีพื้นที่เล็กๆ สองห้องพร้อมด้วยม่านกั้น ประมาณห้องลองชุดในห้าง
และเมื่อผมได้ชุดที่ต้องใส่มาแล้วก็ถึงกับใจสั่น เนื่องจากมันเป็นชุดชั้นใน นอกจากตัวผมจะต้องใส่กางเกงในตัวเดียวถ่ายรูปแล้ว ยังจะได้เห็นสาวคนอื่นๆ ในชุดชั้นในอีก ความตื่นเต้นนี้ทำเอาไอ้หนูน้อยของผมเริ่มตึงๆ จากที่นอนสงบเงียบมานาน
แบบทั้งหมดแยกเข้าห้องเปลี่ยนชุดกันคนละฝั่ง ผมยืนรอให้คนอื่นเขาเข้าไปเปลี่ยนกันก่อน แต่ละคนที่เดินออกมาก็จะสวมชุดคลุมสีขาวผ้าลื่นๆ ไว้กันโป๊ สำหรับแบบที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยจะได้ไปแต่งหน้าก่อน ซึ่งตอนนี้มีพี่ช่างแต่งหน้าทำผมเข้ามาแล้ว คนอื่นก็นั่งรอกันไป คนที่แต่งหน้าเสร็จก็จะออกไปข้างนอก สำหรับพวกผมอายุไม่มากนักก็ไม่ได้แต่งอะไรเยอะ เอาให้พอดูดีมีความสดใสก็พอ
ระหว่างนั้นพี่ฝนก็แนะนำชื่อให้พวกเราทุกคนรู้จักกัน คู่น้องประถมชื่อ “แคท” กับ “เจมส์” คู่พี่มอปลายชื่อ “แพรว” กับ “ปอนด์” คู่พี่มหาลัยชื่อ “นุ่น” กับ “โป้”
เมื่อผมแต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อย คราวนี้ก็ได้เวลาของจริงสักที
ผมและพี่ฟ้าเข้าคู่กันเดินไปที่ห้องห้องหนึ่ง ถูกจัดแสงและฉากไว้อย่างดี ตอนนี้คู่น้องประถมกำลังถ่ายแบบอยู่ ผมนี่แทบจะมองตาค้างแต่ก็ต้องสำรวมไว้ น้องแคทลูกครึ่งคนนั้นยามต้องแสงไฟแล้วเฉิดฉายมากๆ น้องสวยและน่าดึงดูดจริงๆ แม้ชุดที่ใส่จะเป็นชั้นในแบบเฟิร์สบรา ไม่ได้ออกแบบมาล่อตาแบบของพวกผู้ใหญ่ แต่มันก็ดูสวยน่ารักสมวัยใส ประกอบกับรูปร่างผิวพรรณของน้องก็เรียกได้ว่าดูดีมาก ผมถึงกับน้ำลายหนืดคอ พี่ฟ้าถึงกับสะกิดเพราะดูท่าทางของผมออก
เรานั่งรอกันอยู่เงียบๆ หลังพี่ช่างภาพ ซึ่งใกล้ๆ เราก็จะมีเหล่าผู้ใหญ่เจ้าของงานและทีมออร์แกไนซ์นั่งดูอยู่ จากนั้นไม่นานคู่พี่มอปลายก็มานั่งรอข้างๆ เรา
พวกเราทั้งหมดนั่งรอคู่น้องแคทถ่ายจนเสร็จ ซึ่งใช้เวลานานพอสมควรทีเดียว เนื่องจากมีการเปลี่ยนฉาก เปลี่ยนชุด เปลี่ยนพร็อพ มีหลากหลายท่าทาง ถ่ายคู่บ้างเดี่ยวบ้าง ซึ่งจะไม่มีการถ่ายสลับกัน ต้องรอถ่ายให้จบเป็นเซ็ตไปเท่านั้น พวกผมจึงนั่งรอกันนาน แต่ก็ได้ดูอะไรดีๆ ไปด้วย ก็ไม่น่าเบื่อเท่าไหร่
เมื่อคู่น้องแคทเสร็จ ก็ถึงตาคู่ผมบ้างแล้ว ผมและพี่สาวถอดชุดคลุมออก ผมถึงกับหนาวนิดๆ ก็แน่ล่ะ ทั้งตัวมีแต่กางเกงใน ผมหันดูพี่ฟ้าดูเธอจะอายเล็กๆ ก็เข้าใจว่าตั้งแต่โตมาไม่เคยถอดผ้าผ่อนให้ใครเห็น นี่ถึงขั้นถ่ายรูปให้ใครต่อใครดู ครั้งแรกก็คงอายเป็นธรรมดา พวกเราถูกเรียกไปยืนตามจุด มีพี่ฝนคอยเข้ามาจัดท่าทางตามคำสั่งของพี่ช่างภาพ อันที่จริงมันสนุกดีนะ ยืนนิ่งๆ เปลี่ยนท่านิดหน่อยไปเรื่อยๆ ตามสั่ง ก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร
พอถึงคิวพี่ฟ้าถ่ายเดี่ยว ผมก็ต้องออกมายืนรอก่อน ก็ได้โอกาสสำรวจเรือนร่างพี่สาวคนสวยของผม แม้จะเห็นมาตั้งแต่เกิดแต่ก็ไม่เคยเห็นชั้นในของพี่แบบเต็มตาขนาดนี้ อาจมีเห็นตอนก้มๆ เงยๆ นั่งไม่ระวังอะไรบ้าง ก็ไม่เท่าตอนนี้ที่เห็นชัดๆ ช้าๆ แทบทุกมุมด้วยซ้ำ ผมเห็นพี่สาวผมหน้าแดงบางๆ คงเพราะอายผมด้วยล่ะ
หลังผ่านการถ่ายนับหลายร้อยรูปก็จบเซ็ตของเรา ผมและพี่สาวได้กลับมาเป็นฝ่ายนั่งดูอีกครั้ง คราวนี้ผมค่อนข้างจะตื่นเต้นกว่าเดิม เพราะคู่ต่อไปเป็นวัยสาวมอปลาย แม้หุ่นจะค่อนไปทางกล้ามเนื้อมากกว่าเซ็กซี่ แต่การมีสาวถอดผ้าใส่แต่ชุดชั้นในมาให้ดูก็เป็นอาหารตารสชาติเยี่ยมอยู่ดี
พี่แพรวจัดได้ว่าเป็นสาวสวยคนหนึ่งทีเดียว ชุดชั้นในของเธอก็เป็นแบบวัยผู้ใหญ่ มีลวดลาย ลูกไม้ ระบายต่างๆ แต่ไม่วาบหวิวอะไรนัก ก็เหมาะสมกับเด็กสาววัยรุ่นเป็นอย่างดี การถ่ายแบบของพี่แพรวถึงจะไม่มีอะไรหลุดรอดมาให้เห็นของดี แต่ผมก็เพลิดเพลินพอสมควร
ระหว่างนั้นพี่ฝนเอาข้าวกล่องมาให้เรากินกันก่อน ผมจึงได้มานั่งล้อมวงกินข้าวและสนทนากระชับมิตรกับคู่น้องแคทและคู่พี่นุ่น
จากการคุยเบื้องต้นก็ได้ความว่า คู่น้องแคทมาถ่ายเป็นครั้งที่สอง คู่พี่นุ่นเคยถ่ายกับทีมนี้หลายครั้งแล้ว และคู่พี่แพรวก็เป็นครั้งที่สาม คนอื่นๆ เคยเจอกันมาก่อนแล้ว มีแต่ผมและพี่สาวที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการเป็นครั้งแรก
“ทำตัวดีๆ ไว้นะน้อง งานพวกนี้ถ้ารับได้ก็อยู่ยาว เดี๋ยวมีอะไรสนุกๆ กว่านี้อีก” พี่โป้กล่าวบอกผมเหมือนมีเลศนัย
และแล้วก็ถึงคิวของรุ่นใหญ่ คู่พี่แพรวกลับมานั่งพักกินข้าวบ้าง คู่พี่นุ่นนี่บอกเลยว่าน่าดูที่สุด เพราะหุ่นพี่แกอัดแน่นเชฟบ๊ะมาก นมเป็นนม ก้นเป็นก้น เนื้อตัวนุ่มนิ่มน่าสัมผัสแม้เพียงดูด้วยตาก็รู้สึกได้ ด้วยความมากประสบการณ์ของคู่นี้ งานทุกอย่างยิ่งง่ายยิ่งสนุก ออกรสออกท่าได้ยิ่งกว่าคู่พวกเราเป็นไหนๆ
ที่สำคัญคือชุดของพี่นุ่นดูจะเร้าใจชายหนุ่มมากกว่าใคร มีบราแบบเกาะอก มีทั้งกางเกงในขอบบาง และด้วยว่ากางเกงในที่บางทั้งขอบทั้งเนื้อผ้าแต่ถูกฉาบฉายด้วยแสงไฟเจิดจ้านั้น มันทำให้ผมเห็นอะไรปุยๆ อยู่ภายใน ไม่บอกก็เดาได้ว่ามันคือกลุ่มเส้นขนที่เนินสาว แบบนี้อนุมานได้ว่าพี่นุ่นคงดกดำไม่เบา ได้เห็นของจริงสักครั้งจะไม่ลืมพระคุณ คิดได้เท่านั้นไอ้จ้อนของผมก็เริ่มขยับตัวอีกครั้ง
และที่พวกเราเกือบทั้งหมดต้องอึ้งทึ่งเสียวกันเลยทีเดียว คือชุดเซ็ตสุดท้ายของพี่นุ่น มันเป็นลายตาข่ายลูกไม้บางๆ สามารถมองทะลุเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้ราว 50% ท่อนบนมีผ้าหนาปิดเพียงครึ่งเต้า ท่อนล่างมีปิดใต้ง่ามขา กล่าวคือ ท่อนบนสามารถเห็นหัวนมได้ครึ่งหนึ่ง ท่อนล่างนี่เห็นความดกดำปุยๆ ได้ชัดเจน ซึ่งของพี่นุ่นก็เป็นอย่างที่ผมคาดไว้จริงๆ
ผมนั่งเกร็งตัวแข็งและไม่ใช่เฉพาะลำตัวที่แข็งด้วย พี่ฝนเดินยิ้มอ่อนๆ เข้ามาโยนคำถามใส่พวกเรา
“เซ็ตนี้จะค่อนข้างผู้ใหญ่ๆ หน่อยนะคะ น้องๆ มีใครอยากไปนั่งรอที่ห้องแต่งตัวมั้ยคะ”
แน่ล่ะว่าทุกคนนิ่ง อันเป็นคำตอบว่าขอดูตรงนี้ดีกว่า ผมเห็นพี่ฝนหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปทำงานต่อ ผมหันไปมองพี่สาวผมก็ดูเธอจะอึ้งนิดๆ หันไปดูพี่แพรวก็เห็นเธอมองพี่นุ่นเหมือนอายแทน และสุดท้ายน้องแคทผู้น่ารัก ดูเธอจะเฉยๆ ที่สุด ทำให้ผมแปลกใจนิดหน่อย แต่ก็พอเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงเหมือนกันคงไม่อะไรมาก
แต่ที่ฮือฮาไปอีก คือพี่โป้ กางเกงในของพี่โป้นี่คลุมถึงโคนไอ้จ้อนกับถุงไข่เท่านั้น นอกนั้นมีเพียงสายบางๆ ไปพันรอบเอวเพื่อไม่ให้มันหล่น ผมเห็นขนสีดำแลบๆ ออกมาเพียงเล็กน้อย อย่างนี้ก็แปลว่าพี่โป้ไม่ได้ดกดำมาก ไม่งั้นก็คงตัดแต่งมาอย่างดี
ผมเห็นพี่ฟ้าและพี่แพรวมองกันตาค้าง เพราะส่วนผ้าที่ปิดของลับของท่อนชายนั้นมันออกรูปทรงมาเป็นลำยาว แสดงถึงขนาดของท่อนชายที่หลับไหลอยู่ภายใน อีกทั้งพี่โป้เป็นชายหนุ่มหุ่นดี มีมัดกล้ามเนื้อแข็งแรงเห็นชัดเจนแม้ยังไม่ได้เกร็ง หน้าตาหล่อคมคาย ผิวสีเข้มดูแมน เห็นกันขนาดนี้สาวหลงก็ไม่แปลก
ผมคิดว่าพี่ฟ้าคงยังไม่เคยเห็นของผู้ชายจริงๆ ส่วนพี่แพรวนั้นผมไม่ทราบได้ ทว่าน้องแคทผู้ไร้เดียงสาที่สุด เธอกลับดูไม่รู้สึกอะไรมาก เพียงยิ้มเบาๆ แต่ไม่ได้มีอาการตกใจหรือเอียงอายอะไร นี่ทำให้ผมประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เซ็ตของพี่นุ่นและพี่โป้ถ่ายเยอะกว่าของทุกคู่ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ ไม่เพียงยืนถ่ายธรรมดา แต่มีการจัดท่าทางเหมือนกับคู่รัก มีการยืนแนบชิด โอบกอด สัมผัสเรือนร่างของอีกฝ่าย ลูบไล้ตามจุดนู้น จุดนั้น โฉบเฉี่ยวไปมาอยู่บริเวณพื้นที่ลับส่วนบุคคล เห็นแล้วทำเอาสยิวได้เหมือนกัน
เมื่อถ่ายครบทุกเซ็ตทุกคู่ ถือเป็นการจบงานจ๊อบนี้ พวกเราทั้งหมดถูกเรียกมาถ่ายรูปหมู่รวมกัน โดยที่ใส่ชุดชั้นในกันอยู่นั่นแหละ พี่นุ่นซึ่งยืนใกล้ผมอีกทั้งยังมีการเอนตัวมาใกล้ด้วย ยิ่งทำให้ผมตื่นตัวเข้าไปอีก เมื่อถ่ายเสร็จก็สลายตัว ต่างคนต่างเดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จังหวะนั้นบังเอิญมือพี่นุ่นแกว่งมาโดนเจ้าหนูของผมที่กำลังแข็งตัวอยู่พอดี ผมถึงกับสะดุ้ง พี่นุ่นเองก็คงตกใจไม่แพ้กัน ได้แต่หันมายิ้มพร้อมกล่าวคำขอโทษ ผมก็ยิ้มตอบแบบอายๆ ไม่ได้อายเรื่องโดนจู๋ผมหรอก อายที่เธอรู้ว่าท่อนเนื้อผมมันตื่นต่างหาก
ก่อนจากกันในวันนั้น หลังพวกเราร่ำลากันแล้ว พี่โป้คนเดิมก็แวะมาตบไหล่ผมพร้อมกระซิบเบาๆ
“แล้วเจอกันงานหน้านะน้อง”
“ครับ” ผมยิ้มพร้อมตอบเบาๆ
ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าพี่โป้หมายถึงอะไร ตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วที่บอกว่ามีงานสนุกกว่านี้ แล้วทำไมจึงเลือกกระซิบผมคนเดียว แต่ก็เอาเถอะ เห็นว่าพี่เค้าถ่ายมาหลายงานแล้ว ถือว่ารู้เห็นอะไรมากกว่า บางทีเขาคงรู้อะไรมากกว่าเรา พอแย้มมาว่ามีงานสนุก ผมเองก็อดตื่นเต้นเสียไม่ได้ แค่งานแรกก็ได้เห็นเนื้อในร่มผ้าของสาวๆ แล้ว โดยเฉพาะโบนัสสุดคุ้มคือได้เห็นพี่นุ่นสุดสวยในชุดชั้นในซีทรู อันเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่ผมจะเอาไปใช้หาความสุขกับมือตัวเองในคืนนี้
ระหว่างทางนั่งรถกลับ พี่ยอร์ชยื่นซองให้เราคนละซอง
“นี่เป็นค่าขนมของวันนี้นะ พี่จ่ายรายวันเลย เพราะเรายังไม่มีบัญชีเป็นของตัวเอง”
“ขอบคุณครับ / ค่ะ”
“เอาไปให้แม่บ้างนะ ได้เงินทั้งที”
“ครับ / ค่ะ” พวกเราตอบสั้น
เมื่อเปิดซองมาดูถึงกับหัวใจพองโต มันเป็นแบงค์สีเทาถึงสองใบ สำหรับเด็กอายุอย่างพวกผม ค่าแรงต่อวันขนาดนี้ถือว่าเยอะมาก พวกเรายิ้มกันแก้มปริไม่หุบเลยทีเดียว แถมยังนึกในใจว่า งานแบบนี้ได้เงินง่าย สนุกอีกด้วย ถ้าสามารถทำอาชีพนี้ได้ตลอดไปก็คงสบาย แต่ก็ไม่รู้จะมีโอกาสได้ทำถึงไหนน่ะสินะ