มินิมาร์ทร้อนรัก ตอนที่ 3
โดย barthello00
ผมฟื้นสติขึ้นมาอย่างงัวเงีย เลือดแดงสดแห้งกรังแล้วเพราะเหมือนมีเทปกาวปิดที่ขมับเป็นเส้นๆ ผมปวดหัวอย่างที่สุด
“ฟื้นแล้วเหรอ ไม่นึกว่านายจะซวยแบบนี้นะ”
ผมมึนงงอยู่ ยังนึกอะไรไม่ออก แต่ที่รู้คือ มือขยับไม่ได้ แสงไฟก็มีเพียงแสงจากเสาริมถนนสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง ทำให้เห็นทุกอย่างเพียงลางๆ แต่ที่ผมมั่นใจคือผมโดนมัดไว้บนเตียงและโดนปิดตาด้วย
“อะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้น” ผมตะโกนถามไป แต่ที่ได้กลับมาคือความเงียบ ไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังใกล้เข้ามาหยุดอยู่ข้างตัวผม
“นี่มันอะไร เกิดอะไรขึ้น”
“ใจเย็นๆนะนาย ผ่อนลมเข้าออกนะ ช้าๆ” เสียงหญิงสาวดังคล้ายผ่านจากลำโพง
“ใครจะใจเย็นได้ลงละ นี่มันเรื่องอะไรกัน” ผมยังโวยวายต่อ
“เอาเถอะ เจ็บแปลบเดียว ที่เหลือนายจะสนุกสุดเหวี่ยง”
“อะไรนะ อะ… อ่า”ผมรู้สึกว่ามีเข็มฉีดยาฉีดเข้าที่สะโพกผม ผมรู้สึกร่างกายค่อยๆชาทีละนิด ผมทำท่าจะดิ้น แล้วก็หมดสติไป
ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงสีขาวสะอาด ภายในห้องกว้างพอๆกับสนามบาสเกตบอล ผมสะบัดหัวไปมาไล่อาการมึนงง
“ผมอยู่ที่ไหน กี่โมงละ”ผมมองหานาฬิกา ไม่มี “นี่มันเรื่องอะไรกัน” ผมสำรวจตัวเอง ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แต่มีความรู้สึกปวดหนึบที่น้องชายอย่างประหลาด แต่ผมไม่สนใจ เดินออกไปยังประตูทางออก มันล็อค ผมคิด
“มีใครอยู่ไหม เปิดประตูที” ผมเรียกอยู่หลายครั้งก็ไม่มีเสียงตอบ ผมใช้เท้าถีบประตูอย่างจัง จนประตูมันล้มครืนลง
ผมแปลกใจทันที เตะทีเดียวนี่นะ แต่ความสงสัยหยุดผมไม่ได้แล้ว ผมต้องออกไปจากที่นี่ นี่เป็นความคิดแรกที่อยู่ในหัว ผมเดินออกไปยังถนน ห่างไป50 เมตร มีป้ายรถเมย์ ผมโบกรถเมย์ทันที
ผมเดินช้าๆไปหาที่นั่น รถเมย์แดงในตอนนี้คนน้อย แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่นาฬิกา ผมชำเลืองมา ตี4 45นาทีเหรอ รถคันนี้ผ่านอนุสาวรีย์พอดี ผมลง ต่อรถกลับบ้านทันที
วันนี้เป็นวันจันทร์ผมต้องไปมหาลัย แต่ด้วยร่างกายที่ไม่พร้อม ผมมาถึงบ้านก็หลับเป็นตาย ตื่นอีกที่หลังเที่ยงคืน ของอีกวัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดสำหรับคนอย่างผม แต่ก็นั่นละ ผมจำอะไรไม่ได้หลังจากเลิกงานแล้ว ซึ่งนั่นผมต้องหาคำตอบให้ได้
เช้าวันใหม่ ผมตื่นมาอาบน้ำผมรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเป็นอย่างดี ผมมีกล้ามเนื้อมากขึ้น แถมน้องชายก็ใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อน นี่มันอะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายกันนี้
ผมเดินลงมาชั้นล่าง พี่ชายผมกำลังจะไปทำงาน ผมเลยติดรถไปลงหน้าปากซอย ตอนผมอยู่ใกล้พี่ชาย ผมรู้สึกว่าสูงขึ้นกว่าเก่าหลายเซนติเมตรเลยทีเดียว และนั่นสร้างความสงสัยให้ผมเป็นทวีคูณ
ผมไปถึงมหาลัยมีแต่คนมองเพราะเสื้อผ้าของผมมันรัดร่างกายที่มีแต่กล้ามเนื้อจนเสื้อแถบปริ และนั่นละปัญหาเมื่อมีกลุ่มนักเลงแถวนั่นเข้ามาหาเรื่อง
“แกกร่างนักเหรอ ดูใส่เสื้อผ้าเข้า อย่าให้ฉันเห็นแกใส่แบบนี้แกนะ มันขัดลูกตา” ผมเฉยนิ่ง มองพวกมันกระทุ้งเข่าใส่ผม 2 3 ครั้ง จนผมตัวงอกลิ้งคลุกฝุ่น ก่อนที่พวกมันจะหัวเราะเดินจากไป
ผมลุกขึ้นมองพวกมัน เอ๊ะไมรู้สึกเจ็บเลยแฮะ ผมคิดในใจ ทั้งที่เสื้อผ้าผมสกปรกเพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์สดๆร้อนๆ ความสงสัยผมยิ่งทวี แต่ก็นั่นแหละ เมื่อไม่เจ็บ ก็ผ่านไป แต่ผมคาดโทษไว้แล้ว ครั้งหน้าพวกมึงเจ็บ
ผมเดินเข้าห้องเรียนทั้งที่เสื้อมอมแมม ผมไม่สนใจใครอยู่แล้ว ผมมัวแต่ทำงานไม่มีเพื่อนกับใครเขาหรอก นับแต่เข้าห้องมาสายตาแปลกๆรบกวนผมตลอดเวลา ทำให้ผมไม่มีสมาธิในการเรียนเท่าไหร่ พอถึงเวลาพักผมต้องรีบออกไปสูดอากาศที่ดาดฟ้าตึกทันที
“อ้าวนึกว่าใครมานั่งแถวนี้” ผมส่งสายตามองไปทางด้นหลังแท้งเก็บน้ำ พวกมันอีกแล้ว ผมมองพวกมันนิ่ง
“มึงมองพวกกู อยากมีเรื่องเหรอ” หัวโจกประจำกลุ่ม ชี้นิ้วมาทางผม ซึ่งนั่นพอดีกับที่ผมได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของผู้หญิง มาจากหลังแท้งนั่น ผมลุกขึ้นเดินไปทางต้นเสียง
“ไม่ใช่เรื่องของมึง อย่าเสือก” นั่นละที่ทำให้ผมอยากหาที่ระบาย
พวกมัน 2 คนเดินออกมาขวางหน้าผมไว้ คนซ้ายปล่อยหมัดขวามาอย่างเร็ว ผมเอี้ยวตัวหลบไปได้ฉิวเฉียด คนที่สอง แตะเข้ามาที่ด้านขวา ผมใช้มือขวาป้องกันได้ คนซ้ายมือเห็นผมเผลอ ยันเท้าเข้ามาที่หน้าอกผมจนเป็นรูปรองเท้า แต่ผมกลับไม่รู้สึกเจ็บ นั่นสิไม่เจ็บสักนิด ผมเลยเตะสวนไปที่ก้านคอคนขวา พลั่ก มันกระเด็นไปเกือบ 2 เมตร สลบคาที ผมยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก ที่เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน แต่นั่นละตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดถึงมัน ผมวิ่งเข้าหาพวกมันอีกคน ประเคนเข่าลอยเข้าไป จนมันกลิ้งหลายตลบ ลุกไม่ขึ้นไปอีกคน หัวโจกเห็นท่าไม่ได้ วิ่งไปหลังแท้งน้ำ ถือท่อแป๊บเหล็กวิ่งเข้าหาผม ผมหลบได้แบบฉิวเฉียด และสวนด้วยหมัดขวา มันหลบได้ มันมีฝีมือพอตัวทีเดียว
“เฮ้อออกมาช่วยกันหน่อย” หัวโจกตะโกนเสียงดัง
“แล้วนังนี่ละ” มีเสียงตะโกนตอบกลับมา
“เอาออกมาด้วย จับมันออกมา” เพื่อนมันอีก 2 คน จับหญิงสาวที่ผมเผ้ากระเซิง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย กระโปรงแหวกขาดจนเห็นสะโพกขาวไร้ชั้นในปกปิด ผมถึงกับตกใจ
หัวโจกเดินถือท่อเหล็กเข้าหาผมอย่างอุกอาจ ฟาดซ้ายขวามาที่ผม ผมยังหลบได้ เพื่อนมันอีกคนวิ่งกระโดดถีบเข้ามาช่วยอีกแรง ผมใช้แขนไขว้เป็นกากบาทกันไว้ได้แต่ก็เซถอยหลังไปหลายก้าว พวกมันทั้ง 3 เห็นผมเสียหลักก็วิ่งเข้ามารุมสะกรำผม จนผมคุดคู้อยู่กับพื้นทีเดียว
“ช่วยด้วย อาจารย์ ช่วยด้วย” เสียงหญิงสาวตะโกนออกมาจากมุมหนึ่ง พวกมันพอได้ยินเสียงตะโกนก็วิ่งจ่ำอ้าวหามเพื่อนที่เหลือไปทันที
ผมลุกขึ้นปัดเสื้อผ้า ความเจ็บปวดไม่มีสักนิด เดินไปทางหญิงสาวที่เดินโซซัดโซเซเข้ามาหาผม
“เจ็บไหมคะคุณ” ผมสั่นหน้าเป็นเชิงตอบว่าไม่เป็นไร แต่หญิงสาวไม่คิดเช่นนั้นเพราะใบหน้าแตกยับเยินของผมที่หน้าเกลียดพอๆกับกอลลัมเลยทีเดียว
“แน่ใจว่าไม่เป็นไรนะคะ ไปทำแผลที่ห้องพยาบาลดีกว่าไหม”หญิงสาวออกความเห็น แต่ผมเห็นสภาพเธอยังจะน่าสงสารมากกว่า เมื่อผมมองใกล้ๆ รอยแผลถลอกเต็มตัวไปหมด กระดุมเสื้อขาดจนมองเห็นอกอวบที่ไร้บราห่อหุ้ม จนผมแทบจะกำเดาไหลให้ได้
ผมถอดเสื้อของผมที่กระดุมยังครบทุกเม็ดคลุมให้หญิงสาวอีกชั้นป้องกันตัวเองไว้ เพราะนี้มันมหาลัย เจอพวกบ้าถ่ายคลิปก็จะแย่เอา หญิงสาวเพิ่งรู้สึกตัว มองตัวเองอย่างอาย
“งั้นไปที่ห้องแนนดีกว่า อยู่หลังมหาลัยนี้เอง รีบไปเดี๋ยวจะเจอพวกมันอีก” ผมพยักหน้า เดินไปไม่ถึง 500 เมตร จาประตูรั้ว อพาร์ทเม้น 6 ชั้น ทาสีชมพูแป๊ด ดูก็รู้ว่าเป็นหอพักเฉพาะผู้หญิง และนั่นทำให้ผมไม่กล้าก้าวต่อไป
“รอตรงนี้แปบนะ” แนนบอก สักพักแนนก็เดินประคองผมเข้าไปในห้อง “ไม่เป็นไรเข้ามาได้” ผมลังเลแต่ก็ก้าวเท้าเข้าไปจนได้
“นอนบนโซฟาก่อน อย่าขยับไปไหนนะ” ผมมองแนนเดินเข้าไปในห้องนอน แนนถือตะกร้าที่มีชุดทำแผลมานั่งลงข้างๆ เลือดสีแดงเกรอะกรังเต็มใบหน้าผม ซึ่งผมมองเห็นผ่านกระจกก่อนจะนั่งลง
“เดี๋ยวแนนทำแผลให้ นั่นเฉยๆ” ผมลังเลนิดหน่อย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงมาทำอะไรให้แบบนี้
“เอ๊ะ ไม่มีแผลเลยซักแผล เมื่อกี้ใบหน้ายังปูดบวมอยู่เลย” แนนพูดขึ้นหลังจากเช็ดใบหน้าผมจนเกลี้ยงเกลา ผมเดินไปที่กระจกอีกครั้ง และนั่นก็สร้างความตะลึงให้ผมอีกครั้ง ผมกำหมัดแน่น รับรู้ถึงกำลังวังชาที่กลับมาเหมือนเดิม
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผม????”
“แต่ยังไงร่ายกายคุณก็บอบช้ำมาเยอะ นอนพักบนโซฟานี้แหละ จนกว่าจะหาย เดี๋ยวแนนของไปอาบน้ำก่อน สกปรกมาก อ่อ และขอบคุณที่ช่วยแนนนะ และ…อย่าลืมทานยาแก้ปวดด้วย” เสียงหวานใสยังกระระฆังแก้ว ยังก้องในหัวสมอง ทำให้ผมถึงกับใจเต้นไม่เป็นส่ำเลยทีเดียว ไม่นานผมก็ต้องสลัดความคิด เดินไปหยิบยาที่แนนเตรียมไว้ 2 เม็ด ไม่นานผมก็หลับไป
ผมตื่นขึ้นมาในช่วงหัวค่ำ เพราะกลิ่นอาหารที่หอมชวนน้ำลายสอ ลอยมากระทบนาสิกเข้าอย่างจัง
“อา มึนหัวจัง” ผมคราง พร้อมกับสลัดความมึนงง
“คุณ ทานอะไรซักหน่อยนะ” ผมหันไปมองทางต้นเสียง แนนกำลังทำกับข้าวอยู่ด้านหลังห้อง
“โอ๋ ผมชื่อโอ๋”
“ขอบคุณ โอ๋ อีกครั้งที่ช่วย แนนนะคะ” แนนพูดขึ้นพร้อมกับอาหารชวนน้ำลายสอถูกวงตรงหน้า
หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็ขอไปอาบน้ำ ซึ่งแนนก็เตรียมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ซึ่งน่าแปลกที่หอพักหญิงจะมีเสื้อผู้ชาย แต่ก็นั่นแหละ นิ่งไว้ดีกว่า เพราะยังไม่สนิทการพูดคุยหรือถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม เป็นสิ่งไม่ควร
อาบน้ำเสร็จ แนนก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับผ้าห่มซึ่งผมคิดว่าเธอคงอยากให้ผมอยู่ด้วยในคืนนี้ และนั่นผมควรจะทำยังไง
“ผมต้องกลับแล้ว ขอบคุณที่ช่วยทำแผลให้นะ”
“อา จะกลับหรือค่ะ อย่าเพิ่งเลย” ผมมองหน้าเธอนิ่ง คล้ายอยากได้คำตอบ
“อะ เอ้อ คุณ อะ โอ๋ก็รู้ว่าที่นี่เป็นหอพักหญิง ผู้ชายไม่สามารถเข้ามาได้ และ.. ตอนนี้ข้างล่างก็มีคนดูแลที่หน้ากลัวอยู่ มันจะอันตราย” ผมฟังเหตุผมของแนนอย่างงงๆ และก็ถามกลับ
“แล้วตอนเข้ามา แนนพาผมเข้ามายังไง”
“ก็ แนนให้สินบนแม่บ้าน และแม่บ้านนั่นก็จะมาตอนเช้าพรุ่งนี้” ผมพยักหน้าเข้าใจ ผมจะเอ่ยถามต่อ ว่าพาผู้ชายมากี่คนแล้ว แต่ผมก็ชะงักค้างไม่ถาม
“เข้าใจละ ผมจะอยู่เป็นเพื่อน คืนนี้” แนนยิ้ม พร้อมกับเสนอถามว่าผมจะดูวีดีโอไหม หนังใหม่ๆมีเยอะเลย
“ผมทำท่าจะปฏิเสธ แต่แนนก็วิ่งเข้าห้อง พร้อมกับเครื่องเล่น “ดูหนังกันนะ” ผมพยักหน้า จะทำไงได้ละหลวมตัวไปแล้ว ท่าทางการดูหนังของแนนไม่เหมือนคนอื่น มีทุกอารมณ์ เศร้าแนนก็ร้องไห้ พอแอคชั่นก็เหมือนคนเชียร์มวย ทำให้ผมขำตลอด
“แนน ตื่นๆ ไปนอนในห้อง”
“ไม่ อาว อะ ง่วง อย่ายุ่ง” พร้อมกับมือปัดป่ายไปมา ผมสั่นหัว
“ซะงั้น” ผมอุ้มแนนไปยังห้องนอน แนนเหมือนจะละเมอกอดคอผม พร้อมกับหัวเราะ เพ้อแต่ว่า สู้มัน ยังงั้น เอาให้ตาย
ผมวางแนนลงบนเตียง แต่แขนที่คล้องคอผมมันแน่นขึ้น ผมจึงต้องโน้นตัวลงจนใบหน้าใกล้แนนแค่ไม่กี่เซน ลมหายใจอุ่นจากจมูกเรียวพรมบนหน้าผมเหมือนจะแรงขึ้น พร้อมกับริมฝีปากบางประกบที่ริมฝีปากผมอย่างยาวนาน ผมเผลอตัวไปกับรสจูบนั้น ริมฝีปากนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นลิปมันจางๆ
จูบอันดูดดื่นนี้ยาวนานจนคล้ายเคลิ้มฝัน แขนบางกอดรัดแน่นขึ้น รสจูบดูดดื่ม ปลายลิ้นตวัดรัดรึงอยู่ภายในจนน้ำลายเหนียวเหนอะ ผมละจากริมฝีปากบาง มองหน้าแนนที่ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
“แนนชอบโอ๋ คบกับแนนนะ” แนนพูดคล้ายเสียงกระซิบ แต่ผมได้ยินมันทุกประโยคอย่างชัดเจน
ผมประกบริมฝีปากอีกครั้ง รับรู้รสชาติหวานหอมภายในปากกับลมหายใจอุ่นที่รดแก้มกันและกัน มือบางลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังผม แนนถอดเสื้อผมออก จนมัดกล้ามบึกบึนประจักษ์แก่สายตาเธอ แนนลูบคลำไปทั่วหน้าอกที่เหมือนจะเต้นได้นั้นอย่างหลงใหล แนนดันอกผมเบาๆ ผมต้านแรงเธอนิดหน่อย แนนก็ผละจากรสจูบนั้น ผมมองหน้าแนนอย่ากังขา
“ใจเย็นๆนะโอ๋ มีเวลาทั้งคืน” แนนลุกจากเตียง เธอถอดเสื้อผ้าออกที่ละชิ้น จนหลือเพียงบรากับชั้นในตัวจิ๋วสีดำ ที่ดูเซ็กซี่ยากจะบรรยาย ผิวชมพูอ่อน เอวคอดกิ่ว หน้าอกกำลังพอดีคำ กำลังยั่วน้องชายผมให้มันแข็งเป็นลำ จนดันกางเกงแทบจะทะลุ
แนนเดินเข้ามาหาผมผลักผมลงบนเตียง ผมมองลีลาเธอแทบจะช่ำชองเลยทีเดียว และนั่นผมก็ไม่แปลกใจ หากที่ห้องนี้มีเสื้อผ้าผู้ชายอยู่ ผมจัดตามใจแนนเลย
แนนค่อยๆไต่ขึ้นตามตัวผม สายตาหยาดเยิ้มที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อช่างน่าพิศวง ในสายตาผม แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเธอเสนอผมก็สนอง แนนรุกไล่ขึ้นเตียงขึ้นคร่อมที่หน้าท้องผม ที่มีกล้ามขึ้นเป็นลูกคลื่น แนนลูบไล้ไล่ไปตามมัดกล้ามอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะประกบจูบดูดดื่มอีกครั้ง สะโพกกลมกลึงขยับขึ้นลงที่หน้าท้อง ผมรับรู้ถึงเนินสวาทนูนเด่นลูบไล้ทั่วหน้าท้อง
“อา แนนหลงรักโอ๋เข้าแล้ว” และนั่นเป็นประโยคสุดท้าย ที่ต่อมาจะมีเพียงแค่เสียงครางของคน 2 คนเท่านั้น
ผมนอนลงบนที่นอนอีกครั้ง แนนนั่งคร่อมที่ตัวผม เธอเอื้อมมือปลดตะขอจนอกอวบเผยต่อสายตาผม ยอดปทุมสีน้ำตาลอ่อนน่ามอง ใบหน้าชวนหวาบหวาม ผมเอื้อมมือจับที่หัวไหล่ ไล้ฝ่ามือลงไปตามกระดูกไหปลาร้า ก่อนจะหยุดลงที่อกอูมพอดีมือ ที่นุ่มนิ่มเต่งตึงมือ แนนสอดมือบางลูบไล้ที่หน้าอกผมเช่นกัน มือบางบีบมันเบาๆ ก่อนจะเขี่ยหัวนมผมเล่นอย่างคะนองมือ
ผมก็ไม่แพ้มือเธอ หน้าอกอวบถูกผมบดคลึงจนแทบปริ ผมยกตัวเองขึ้น แนนแอ่นอกอวบเชิดขึ้น ผมตวัดปลายลิ้นไล้ไปตามฐานอก บดคลึงที่ยอดปทุมที่ชูชันสู้ปลายลิ้นอย่างเสียวซ่าน
“อา ..อา แรงอีกนิด”
ผมไม่ขัดใจเธอเด็ดขาด แนนอยู่ในอ้อมกอดผมในท่านั่ง สะโพกเธออยู่ที่น่องผมพอดี แนนเชิดหน้าครางกระเส่าดั่งจะขาดใจทุกครั้งที่ปลายลิ้นตวัดที่เม็ดปทุมสีน้ำตาลอ่อน แนนกดหัวผมจนแทบฝังกับเนื้อหนังอันชมพูเกลี้ยงเกลานั่น
“อา อา”
เสียงลมหายใจแรงขึ้น ผมพลิกแนนนอนลง ริมฝีปากประกบกันอีกครั้ง แนนตวัดขาเกี่ยวก้นผมไว้ มือบางไล้ไปตามแผ่นหลังที่แน่นไปด้วยมัดกล้าม แนนค่อยๆปลดกางเกงผมลงทีละนิดด้วยมือทั้ง 2 แต่ติดที่แท่งเอ็ดชูธงรบไม่อาจหลุดได้ง่ายๆ ผมยกสะโพกเพื่อให้แนนสะดวกขึ้น จนรนไปถึงขา แนนใช้ขาดันกางเกงจนหลุดออกไปสุดเตียง มันยิ่งทำให้น้องชายเป็นอิสระมากขึ้น แนนตวัดขารัดสะโพกผม จนแท่งเอ็นแนบกับเนินสวาทของเธอจนแนนสะดุ้ง
“อา มันอะไรกัน อา”
ปลายลิ้นผมดูดเลียยอดปทุมถันจนมันเป็นสีแดงระเรื่อ ผมไล่ตัวลงพร้อมปลายลิ้นที่ตวัดไปตามท้องน้อยที่กำลังหอบหายใจหนัก มือหนาถอดกางเกงชั้นในตัวจิ๋วออก แนนช่วยขยับสะโพกจนเห็นเนินสวาทเต็มตา ขนเพชรน้อยจนแทบจะไม่มี ก้นเกลี้ยงเกลาไม่มีเส้นขนให้รำคาญตา เนินเนื้ออูมอวบสีแดงสด ผมก้มลงใช้ปลายลิ้นสัมผัสเบาๆ จนแนนสะดุ้ง ส่ายสะโพกรับเข้าหาปลายลิ้นผมอย่างลืมตัว จนเนินสวาทแฉะไปด้วยน้ำรักผสมน้ำลายจะแนนส่ายสะโพกร่อนอย่างสุขสม
“อา โอ๋ พอก่อน แนนจะขาดใจแล้ว” ผมละใบหน้า รดไอร้อนจากริมฝีปากอุ่นๆไปที่เนินสวาท ที่กำลังเต้นกระตุกตามลมหายใจผม
แนนลุกขึ้น มองหน้าผม ก่อนจะผลักผมลงนอน หันหัวไปทางปลายเตียง แนนไล่ปลายนิ้วเรียวจากหน้าผาก จมูกโด่ง ริมฝีปาก ปลายคาง ไล้มาถึงหน้าอก จนหยุดที่ขนเพชรหยักศก แนนถอนขนมันออกมาจนผมสะดุ้ง
แนนชอบใจหัวเราะคิกคัก ก่อนจะใช้มือกำที่เอ็นเนื้อที่กำลังกระตุสู้มืออย่างองอาจ
อา มันใหญ่มาก กำไม่รอบเลย นั่นคือความคิดของแนน แนนมองมันด้วยสายตากระหาย ตวัดปลายลิ้นเรียวลงบนหัวเห็ดที่บาดจนดูน่ากลัว ก่อนที่จะตวัดด้วยปลายลิ้นไปรอบๆจนน้ำลายเหนอะไปหมด ผมครางกระเส่า มองภาพที่เธออมแท่งเอ็นจนหุ้มหัวบานนั้นหายเข้าไปในปาก มันอุ่นไปด้วยลมหายใจภายในปากเธอ จนผมกระตุก แนนใช้มือรูดขึ้นลง ปลายลิ้นตวัดจนผมเสียวซ่าย เผลอยกสะโพกจนแท่งเอ็นจมมิดในปากน้อยๆนั้น จนแนนไอสำลัก
ผมทนไม่ไหว จับแนนนอนลงบนที่นอนอีกครั้ง กดปลายท่อนเอ็นกดลงที่เนินเนื้ออวบกลีบบัวแยกค่อยๆกลืนท่อนเอ็นไปทีละน้อย จนผมเสียวซ่าน มันใส่แทบจะไม่เข้า แต่นั่นละ แนนขยับขาอ้ากว้างขึ้น พร้อมกับเสียงครางกระเส่า ผมดันตัวเองเข้าไปทีละนิด แต่ใบหน้าแนนกลับเสียวซ่านกระตุกทุกครั้งที่ผมดัน
“อา โอ๋ ใจเย็นๆ ค่อยๆ แนนเจ็บไปหมดแล้ว สุดหรือยัง “
“อีกนิด”ผมกล่าว แนนสะดุ้งทุกครั้งที่ผมดัน
“โอ๋ เดี๋ยวแนนเอง” แนนพูดแค่นั้น ก็ผลักผมนอนลง ยกตัวขึ้นคร่อม จับน้องชาย จ่อเข้ากับเนินอวบอูมที่บานจนแทบปริ
ผมผงกหัวขึ้นมอง แนนจับหัวผมกดลง แนนค่อยกดตัวลงทีละนิด พร้อมกับครางขึ้นทุกครั้งที่กดลง ผมคิดในใจของผมมันใหญ่ขนาดนั้นเหรอ แนนล้มตัวลงนอนทับผม ริมฝีปากบางจูบไปทั่วใบหน้าผม ผมรับจูบนั้นอย่างดูดดื่ม มือผมสาละวนทั่งอกอวบอย่างมันมือ แนนดันตัวเองขึ้นอีกครั้ง กดลำตัวลงจนผมรับรู้ถึงสะโพกทิ้งน้ำหนักลงถึงหน้าขาผม
“อา ย…ใหญ่จัง อา แนน เจ็บไปหมด เสียวมาก” แนนค่อยๆยกตัวขึ้น จนน้ำรักไหลออกมาช่วยให้ขยับขึ้นลงได้ง่ายขึ้น และนั่นและทีของผม
เมื่อแนนคล้ายจะเสร็จเต็มที ผมดันแนนนอนลง ขยับสะโพกชักเข้าออก จนแนนส่ายหน้าครางกระเส่า หน้าอกอวบสั่นขึ้นลงตามน้ำหนักกระแทก แนนกอดคอผมแน่นผงกหัวมองท่อนเนื้อที่กำลังสอดใส่ กระแทกกระทั่นเข้าออกอย่างสุขสมปนเสียว
“อา แนนจะเสร็ตอีกแล้ว โอ๋ เร่งหน่อย แนนจะ..เสร็จ..แล้ว อา โอ๋ แนนรักโอ๋จัง อา…อา” แนนนอนหอบหายใจ ที่เสร็จไป 2 ครั้งแล้ว
ผมถอดท่อนสวาทที่กำลังผงกหัวกดลงไปอีกครั้ง และอีกครั้ง สอยถี่ๆ จนแนนไม่มีแรงเหลือจะตอบโต้ เหงื่อกามแตกพลั่กไหลย้อยเต็มที่นอน ผมมองตัวเองอย่างทึ่งๆ ที่แรงยังคงเหลือเฟือ ไม่มีที่ท่าจะเสร็จในเร็วๆนี้
ในเมื่อแนนเสร็จไป 4 ครั้งแล้ว นอนหมดเรี่ยวแรงจะขยับ แนนหอบหายใจถี่หนัก จนผมแทบจะบ้าเหมือนกัน ยิ่งกระแทก ยิ่งสนุก ยิ่งเห็นผู้หญิงตรงหน้าหมดเรียวแรงยิ่งกระแทกกระหน่ำเข้าไปอีก ผมเสียสติไปแล้วเหรอ แต่ก็ไม่นาน ผมก็กระฉูดออกมาเต็มร่องสวาทของแนน จนแนนตกใจ รู้สึกถึงน้ำสวาทขาวขุ่นไหลทะลักล้นออกมายังกับท่อปะปาแตก แต่ไร้เรี่ยวแรงจะต่อว่าผมแล้ว แนนทุบผมเบาๆที่หลัง แต่นั่นแหละผมหลับหนุนอกอวบหลับไปแล้ว
ไม่นานประตูห้องของหญิงสาวถูกเปิด แสงจากกล้องถ่ายรูปกระพริบ 2-3 ครั้ง ก่อนที่ประตูจะปิดลง