ยอดยุทธสะท้านบู๊ลิ้ม ตอนที่ 5 หมอวิปลาสพบรัก
โดย zeech
ทางด้าน เยี่ยกุ้ยอิง เหม่ยเยี่ย เหม่ยผิง และเหม่ยลี่ เมื่อเห็น หลิงหลิง แบกร่างของ
ลิ่มบ้อฮวยหนีออกจากวงล้อมไปได้แล้วก็เบาใจ ตัดสินใจบุกทะลวงฝ่าวงล้อม
อย่างเต็มกำลัง เหม่ยเยี่ย มีกำลังภายในสูงขึ้นด้วยฤทธิ์แห่งยา เหมยฟ้ารัญจวน
รวมกำลังกับ เยี่ยกุ้ยอิง ทลายวงล้อมของ ลัทธิเบญจธาตุออกเป็นช่อง
ให้เหม่ยผิง และเหม่ยลี่ รีบหลบหนีออกไปก่อน โดยทั้งสองต่อสู้ต้านทานไว้จนสุดกำลัง
กำลังทางฝ่ายของลัทธิเบญจธาตุ หนุนเนื่องมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด
เหม่ยเยี่ยถูกทูตลมบุกเข้ามารวบเอาตัวนางไป แล้วกระโดดหนีไปด้วยวิชาตัวเบาที่ล้ำเลิศ
เยี่ยกุ้ยอิงสุดปัญญาที่จะช่วยเหลือศิษย์รักของนางได้ ทำได้เพียงกระโจนหนี
ออกจากวงล้อมด้วยวิชาตัวเบาตามเหม่ยผิง และ เหม่ยลี่ไป
————
หมอวิปลาส ได้ยินเสียงเรียกอยู่ภายนอก ซ้ำอยู่หลายครั้ง ก็รู้สึกขัดเคืองใจนัก
ที่ถูกรบกวนความสุข จึงแสร้งทำนิ่งเสีย แต่เสียงเรียกกลับดังไม่หยุด
จนมันไม่สามารถทนต่อไปได้
ครั้นเปิดประตูห้องลับออกมา ก็พบหลิงหลิงแบกร่างสตรีนางหนึ่งไว้บนหลัง
มันเพ่งมองไปที่ใบหน้าของสตรีนางนั้น ถึงแม้ว่าใบหน้าของนางจะขาวซีด
เพราะต้องพิษ แต่ก็ไม่อาจลดทอนความงามของนางลงได้
หมอวิปลาส ตื่นตะลึงในความงามของนาง ใจของมันเต้นสั่นระรัว
โลหิตสูบฉีดไปทั้วร่างด้วยความตื่นเต้นพอใจ
“ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดเจ้าเด็กน้อย เจ้าก็เป็นเด็กที่ดี รู้จักกตัญญูแล้ว”
มันยื่นใบหน้าของมันเพ่งมองความงามของ ลิ่มบ้อฮวยอย่างใกล้ชิด จิตใจของมันเคลิบเคลิ้ม
และตกอยู่ในห้วงแห่งความรักทันที มันพูดกับ หลิงหลิงว่า
“เจ้าเด็กน้อย ในที่สุดเจ้าก็รู้จักคัดเลือกหญิงงามมาให้ข้า ฮ่าๆๆ ข้าพอใจนางยิ่งนัก”
หลิงหลิง รีบกล่าวตอบทันที
“มิใช่เช่นนั้นท่านหมอ นางผู้นี้คือ ฮูหยินลิ่มบ้อฮวย เจ้าสำนัก เงาจันทรา
นางถูกพิษร้ายแรงนัก ข้าพานางมาให้ท่านช่วยรักษา โปรดช่วยชีวิตนางด้วย”
“ข้าต้องช่วยนางแน่ นางช่างต้องใจข้านัก”
“ท่านหมอ ลูกศิษย์ของนาง เป็นสหายกับข้า พวกนางถูกพวกลัทธิเบญจธาตุล้อมอยู่
ขอท่านหมอกรุณาช่วยพวกนางออกมาด้วย”
หมอวิปลาส โบกมือปฏิเสธ
“ไม่ ไม่ ข้าไม่มีเวลา ข้าต้องเร่งช่วยเหลือแม่นางของข้าคนนี้ นางถูกพิษสาหัสนัก”
หลิงหลิง ไม่ละเลิกความพยายาม มันอ้อนวอนซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จนหมอวิปลาสเกิดความรำคาญ
ลงมือจี้สกัดจุดมันให้นิ่งไป
“ข้าเบื่อหน่ายเจ้าจริงๆ เจ้าเด็กน้อย เห็นแก่ความดีที่เจ้านำแม่นางคนนี้มาให้ข้า
ข้าจะให้รางวัลตอบแทนเจ้า ฮ่าๆๆๆ”
พูดจบ หมอวิปลาสก็เปลื้องผ้าหลิงหลิง ออกทั้งหมด กลับกลายเป็นเฟยอี้ในร่างเปลือย
แล้วผลักร่างของมันเข้าไปในห้องลับ แล้วปิดประตูห้องลับทันที
จากนั้นมันก็ตรงไปอุ้มร่าง ลิ่มบ้อฮวยวางลงบนเตียง แล้วใช้วิชาแพทย์อันล้ำเลิศของมัน
ฝังเข็มลงในจุดสำคัญ แล้วหันกลับไปปรุงยาแก้พิษ กรอกลงในปากนาง
เวลาผ่านไปชั่วครู่นึง มันก็จับร่างของ ลิ่มบ้อฮวยขึ้นนั่ง เตรียมที่จะใช้พลังวัตรของมัน
ทะลวงจุดสำคัญให้แก่นาง มันเปลื้องเสื้อนางออก แล้วถ่ายพลังไปที่ปลายนิ้ว
หวังที่จะเปิดจุด แล้วเคลื่อนพลังวัตรไปขับไล่พิษ พลันสายตาของมันก็เหลือบไปพบ
ทรวงอกของ ลิ่มบ้อฮวย มันถึงกับตะลึงค้างนิ่งอยู่กับที่ โลหิตในร่างโครจรอย่างแรง
จนร่างของมันเกิดอาการ ร้อนผ่าว และแล้วสิ่งที่มันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับมัน
แก่นกายของมันที่หลับไหลมาช้านาน แม้จะใช้วิธีใดๆรักษา ก็ไม่ได้ผล
กลับแข็งตั้ง ชี้ชูชันขึ้น มันดีใจจนหัวเราะเสียงดังออกมา
เมื่อหมอวิปลาสคลายความตื่นเต้นลงได้แล้ว มันก็หันกลับมาให้การรักษานางต่อ
มันเคลื่อนพลังวัตรไปที่ปลายนิ้วทั้งสอง แล้วจิ้ไปที่จุด ถางจง อันอยู่กึ่งกลาง
ระหว่าง ถันทั้งสองข้าง และจุด กวานหยวน ซึ่งอยู่ในตำแหน่งต่ำกว่าสะดือลงไป
หนึ่งฝ่ามือ แล้วนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น มันเพ่งมองใบหน้านางอันเป็นที่รักของมัน
และรับรู้สัมผัสอันหยุ่นนิ่มชวนให้วาบหวามใจ จนที่สุดมันก็เกิดอาการราคะกำเริบ
แก่นกายของมันแข็งตึงขึ้น แต่มันก็สู้อดใจทนไว้เพื่อให้นางอันเป็นที่รักของ
มันปลอดภัย
ข้างฝ่ายเฟยอี้ เมื่อถูกหมอวิปลาสผลักร่างมันเข้ามาในห้องลับ สายตาของมัน
ก็พบกับ ร่างเปลือยเปล่าของดรุณีวัยกำดัดสี่นาง กำลังนอนกระสับกระส่าย
กลิ้งเกลือกร่างอยู่ไปมา ทุกนางต่างส่งเสียงร้องครางออกมาไม่หยุดปาก
เฟยอี้ยืนตะลึงค้างอยู่กับที่ จ้องมองร่างเปลือยเปล่าที่งดงาม จนราคะกำเริบขึ้น
แก่นกายของมันขยายออกจนใหญ่โต และชี้แข็งยื่นออกมา
นักบวชหญิงนางหนึ่งเหลือบมาเห็น เฟยอี้ ก็ยิ้มให้มันอย่างอ่อนหวาน
ลุกขึ้นเดินตรงเข้ามาหามัน
“ช่วยข้าด้วย”
นางพูดขึ้นด้วยเสียงอันสั่นพร่า ชวนให้เฟยอี้เคลิบเคลิ้มพลางใช้มือของนาง
ลูบไล้ไปทั่วร่างเปลือยของมัน แล้วเบียดกายของนางเข้ามาแนบชิด
จนถันอันกลมกลึงของนาง บดบี้อยู่กับแผ่นอกของมัน
ผ่ามืออันอ่อนนุ่มของนางลูบไล้ไปมาบนร่างของมัน แล้วลากผ่านหน้าท้องลงไป
จนสัมผัสเข้ากับแก่นกายอันแข็งตึง นางใช้มือกำรอบแก่นกายของเฟยอี้
แล้วรูดมือเข้า และออกอย่างเชื่องช้า พลางใช้ปากของนางจูบพรมไปทั่วเรือนร่างของมัน
เส้นขนทั่วร่างของเฟยอี้ชี้ชันด้วยความเสียวสยิว ความเสียวแล่นวูบจนแข็งเกร็งไปทั้งช่องท้อง
มันอยากจะเบี่ยงกายหลบด้วยเกรงว่า ทำนบแห่งธารารักของมัน จะพังทลายลงเสียก่อน
แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องด้วยถูกจี้สกัดจุดไว้
และแล้วมันก็ต้องส่งเสียงครางดังออกมา เมื่อนางลดกายลงนั่งแล้วใช้มือของนาง
จับแก่นกายอันแข็งตึงของมันยัดเข้าไปในปาก แล้วดูดอย่างรุนแรง
“ฮ้าาา……….ซี๊ดดดดดดด”
กำหนัดของเฟยอี้ พุ่งพล่านจนเกินจะระงับ มันทำได้แต่เพียงตั้งรับ
มิอาจรุกกลับได้ ปล่อยให้ดรุณีนางนั้นโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว
ขณะที่มันพยายามต่อสู้กับความเสียวซ่านที่แผ่เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆอยู่นั้น
กลับมีสัมผัสอันอ่อนนุ่มนิ่มสองก้อน บดคลึงอยู่กับแผ่นหลังของมัน แล้วนางผู้นั้น
ก็โอบแขนรัดร่างมันไว้ พลางใช้ท่อนล่างของนางเบียดถูเข้ากับร่างของมัน
อยู่ไปมา
เฟยอี้อยู่ในภาวะรับศึกสองด้าน ทั้งมันต้องป้องกันมิให้ทำนบธาราของมัน
พังทลายลงมาด้วย มันทำได้แต่เพียงกัดกรามแน่น แล้วครางออกมาเพื่อ
ผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้น
“ซี๊ดดดดดดดดดด…..โอ้ววววววววว………..”
แต่ยังไม่สิ้นสุดเพียงแค่นั้น อีกสองนางเดินเข้ามาที่ข้างกายมันทั้งซ้ายและขวา
ใช้มือลูบไล้แผ่นอกของมัน แล้วก้มลงดูดกินยอดอกของมัน พลางใช้ลิ้น
ลูบไล้ไปมา
“อู้ววววววววว……..ซี๊ดดดดด……..อ้าาา…..”
ทั้งสี่นางผนึกกำลังกันเข้าโจมตี จนเฟยอี้อับจนปัญญาที่จะต้านทานไหว
ขณะที่ทำนบของมันกำลังจะพังทลายออกมาอยู่นั้น คล้ายกับพวกนางล่วงรู้
นางเหล่านั้นละเลิกจากร่างของมัน แล้วช่วยกันประคองร่างของเฟยอี้
ให้นอนลงกับพื้น นักบวชหญิงนางหนึ่งทอดกายของนางขึ้นทาบทับร่างของมัน
แล้วดันเนินเนื้อของนางสัมผัสเข้ากับแก่นกายที่แข็งชูชันทันที
ส่วนหัวของแก่นกายมัน ผลุบเข้าไปในโพรงสวาทของนาง นางทำเสียงคราง
ออกมาคล้ายเจ็บปวด แต่กลับขยับร่างขึ้นลงบนแก่นกายอันแข็งตึงอย่างเคลิบเคลิ้ม
ร่างของนางโยกขึ้นลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ ประดุจกำลังควบอยู่บนหลังอาชา
โพรงสวาทของนางตอดรัด แนบแน่นกับแก่นกายของมัน จนเฟยอี้
หมดสิ้นความทนทานอีกต่อไป ธาราแห่งรักจากแก่นกายของมัน
ทะลักพรั่งพรูออกมา พร้อมเสียงครางอย่างสุขสม
“โอ้ววววววววว………..”
แต่นางยังคงควบอาชาต่อไปไม่หยุด นางยังไปไม่ถึงที่หมาย เฟยอี้แม้ถึงจุดสุขสมไปแล้ว
แต่เมื่อมีร่างของหญิงงามคร่อมอยู่บนแก่นกายของมัน ฤทธิ์แห่งยา เหมยฟ้ารัญจวน
ในร่างก็ยังคงแสดงฤทธิ์เดชของมันออกมา แก่นกายเฟยอี้ ยังคงแข็งชูชันเช่นเดิม
จนในที่สุดนักบวชหญิงนางนั้น ก็ร้องครางเสียงแหลมออกมา ใบหน้าของนาง
เคลิบเคลิ้มล่องลอย แล้วล้มพับลงบนร่างของเฟยอี้
เมื่อนักบวชหญิงที่ถึงจุดสุขสม ก็พลิกร่างของนางออกจากร่างของเฟยอี้ นักบวชหญิงอีกนาง
ก็ทอดร่างขึ้นทาบทับร่างของมันทดแทนทันที เฟยอี้ไม่ต้องการถูกกระทำอยู่เพียงฝ่ายเดียว
มันใช้ความพยายามเคลื่อนลมปราณในร่างเพื่อทะลวงจุดที่ถูกสกัดไว้ จนในที่สุดมันก็ทำสำเร็จ
ร่างของเฟยอี้เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นอิสระ ขณะที่นักบวชหญิงผู้นั้นกำลังควบอาชาอยู่บนแก่นกายของมัน
มันคว้าร่างของนักบวชหญิงอีกนาง ขึ้นมาคร่อมใบหน้าของมัน จนมองเห็นสองกลีบแห่งเนินสวาท
ของนางผู้นั้นแยกออกจากกันเป็นช่อง มันคว้าจับเอวอันคอดกิ่วของนางไว้ แล้วระรัวลิ้นของมัน
ตรงรอยแยกแห่งกลีบสวาทนั้น นักบวชหญิงนางนั้นถึงกับร้องเสียงดังไปทั้งห้อง
“อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย………..อ๊ายยยยยยยย……”
ลิ้นของมันเกี่ยวกระหวัดเข้าไปภายในโพรงสวาทของนาง ริมฝีปากของมัน
ก็กดเน้นลงบนเนินเนื้อ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อู้วววววววววว…….ซี๊ดดดด…………”
เป็นเวลาเดียวกับนางที่กำลังควบอาชาอยู่นั้นใกล้จะถึงที่หมายแห่งนาง การควบของนาง
รัวถี่ขึ้น โพรงสวาทของนางก็ตอดรัดแก่นกายของเฟยอี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนมันต้องละปาก
ออกจากนางที่คร่อมใบหน้ามันอยู่ เฟยอี้ยกท่อนล่างของมันสะท้อนกลับการควบของนาง
จนเกิดเสียง เนื้อกระทบกันดังเป็นจังหวะรัวถี่
“ป้าบ…ป้าบ…ป้าบ…ป้าบ…ป้าบ…ป้าบ…ป้าบ”
ในที่สุด จุดสุขสมของทั้งสองก็เกิดขึ้นพร้อมกัน
เฟยอี้ ปลดปล่อยธารารักของมันอีกครั้ง พรั่งพรูเข้าไปในโพรงสวาทของนักบวชหญิงผู้นั้นอย่าง
สุขสมและเหนื่อยหอบ
เฟยอี้นอนหงายแผ่หราสิ้นเรี่ยวแรง หายใจหอบยาวๆ นักบวชหญิงนางนั้น
ค่อยๆคลานออกไปห่างจากร่างของมัน คงเหลือแต่เพียงอีกสองนางที่เหลือ
ยังคงลูบไล้ไปมา ไม่ห่างจากพวงสวรรค์ของมัน นางทั้งสองไม่ปล่อยเวลา
ให้มันพักแม้ชั่วอึดใจ
และแล้ว นางนึงก็ก้มลงเลียพวงสวรรค์ของมัน อีกนางก็หันกลับมาประกบปาก
จูบมันอย่างดูดดื่ม เฟยอี้กัดฟันลุกขึ้นสู้อีกครั้ง มันใช้มือล้วงเข้าไปที่เนินสวาท
ของนางที่กำลังก้มจูบมันอยู่ นิ้วของมันชอนไชเข้าไปในร่องอันหยุ่นนิ่มของนาง
แล้วกระดกนิ้วระรัว นักบวชนางนั้นถึงกับถอนปากที่กำลังจูบมันอยู่ บิดหน้าเหยเก
ครวญครางออกมา
เฟยอี้ได้ใจที่สามารถรุกกลับได้บ้าง มันบี้นิ้วควานหาติ่งเสียว
ของนางจนพบ แล้วคลึงนิ้วของมันกับติ่งเสียวนั้น ร่างของนางผู้นั้นบิดเบี้ยว
ด้วยความเสียวซ่าน มันเองก็เกิดความเสียวซ่านแผ่เข้ามาอีกครั้งเช่นกัน
เมื่ออีกนางที่กำลังโจมตีอยู่ที่ท่อนล่างของมัน ใช้ลิ้นของนางโลมไล้ไปตามความยาว
ของแก่นกายมัน แล้วระรัวลิ้นของนางอยู่ที่ส่วนหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนมันต้องยันกาย
ลุกขึ้น หันมาจัดการนางที่โจมตีท่อนล่างของมันคืนบ้าง มันจับนางนอนคว่ำหน้าลง
แล้วยกสะโพกของนางขึ้น จนกลีบสวาทของนางแย้มออกมา มันจับแก่นกายของมัน
ลากผ่านไปตามร่องกลีบนั้น แล้วดันผลุบเข้าไปจนสุดแก่นกายของมัน
มันยึดสะโพกของนางผู้นั้นไว้อย่างมั่นคง แล้วขยับท่อนล่างของมันเข้าออก
บางครามันก็กดส่วนล่างจนแนบแน่นกับเนินเนื้อของนางแล้วบดคลึงแก่นกาย
ร่างของนางสั่นไหวตามแรงกระแทกกระทั้นของมัน มันเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น
และเพิ่มแรงกระแทกมากขึ้น จนเกิดเสียงกระทบกันของหนั่นเนื้อ
“ตั้บ..ตั้บ..ตั้บ..ตั้บ..ตั้บ..ตั้บ..ตั้บ”
นักบวชหญิงรับรู้ถึงความแข็งเกร็งของแก่นกาย ที่ชำแรกเข้ามาภายในร่าง
ทุกครั้งที่แก่นกายอันแข็งแกร่งนั้น ผลุบเข้ามา และออกไปจากร่างของนาง
ความเสียวกระสันก็เพิ่มระดับขึ้นทุกครั้ง จนระดับความเสียวซ่านพุ่งขึ้น
ถึงจุดสูงสุด เมื่อมันรัวจังหวะเข้าออกอย่างถี่ยิบ นางร้องครางออกมาตาม
จังหวะที่ถูกเร็วระรัวนั้น
โอ้วว..โอ้ว..โอ้ว..โอ้ว..โอ้ว..โอ้ว..โอ้ว……..อ้าาาาา”
ร่างของนางสั่นกระตุก สามสีครั้ง แล้วทิ้งกายฟุบลงกับพื้น
[post]เฟยอี้เป็นฝ่ายมีชัย มันหันกลับมาจัดการนักบวชหญิงอีกนางทันที
มันช่วงชิงลงมือก่อน ด้วยการใช้ท่าไม้ตายจับเรียวขาของนางแยกออก
แล้วก้มหน้าของมันลงซุกไซ้ลงที่เนินสวาทของนาง ริมฝีปากของมันเข้าจู่โจม
เข้าที่จุดสำคัญของนาง มันเม้มติ่งสวาทของนางไว้ในปาก แล้วดูด
นักบวชนางนั้น ดิ้นพล่านด้วยความเสียว สีหน้าของนางบิดเบี้ยวคล้ายเจ็บปวด
“อูยยยย…อูยยย…อูยยยยย”
เฟยอี้ดูดติ่งสวาท สลับกับใช้ลิ้นตวัดโลมเลีย มันตั้งใจที่จะพิชิตศึกโดยเร็วไว
เมื่อเห็นว่าระดับความกำหนัดของนางใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว มันก็เลื่อนกายขึ้น
จ่อแก่นกายของมันสอดเข้าไปยังหลืบสวาทที่แย้มออกมา
นักบวชหญิงนางนั้น แอ่นกายขึ้นรับทันที นางต้องการปลดเปลื้องกำหนัด
ที่เฟยอี้ก่อกวนขึ้นจนเปี่ยมล้น ทุกครั้งที่เฟยอี้ขยับแก่นกายสอด
เข้ามาในร่างของนาง นางก็แอ่นกายขึ้นรับทุกครั้ง บทรักของทั้ง
คู่ต่างสอดประสานรับกันอย่างดี
“อู้วว……ซี๊ดด….ซี๊ดด…ซี๊ดด..ซี๊ดด.ซี๊ดด.ซี๊ดด”
สุดท้ายก็มาถึงจุดที่คนทั้งคู่รอคอย นักบวชหญิงแอ่นกายค้างนิ่ง ซาบซ่านไปกับ
ความสุขที่ได้รับ นางรับรู้ถึงธารารักอุ่นๆ ที่พุ่งกระจายเข้ามายังโพรงสวาทของนาง
เฟยอี้หมดสิ้นเรี่ยวแรงฟุบลงที่ร่างของนาง หลับตาดื่มด่ำกับความสุขจนหลับไป
