ตำนานนักรัก ตอนที่ 64
ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเหมือนคนใจลอยอยู่ที่สระน้ำอีกพักใหญ่ จนแน่ใจว่าคุณเจนคงขึ้นไปชั้นบนเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยๆ
ขยับลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปภายในบ้านบ้าง เจอป้าหงุ่นที่ห้องทานข้าว แกสอบถามว่าผมทานอะไรแล้วหรือยัง แต่ตรงหน้าแก
มีชามข้าวต้มเครื่องสงกลิ่นและควันโชยมาหอมฟุ้ง
“อ๋อ..ชามนี้ของคุณเจนค่ะ..เดี๋ยวเธอจะลงมาทาน..คุณทองดีรับบ้างมั๊ยคะ..ป้าจะไปเอามาให้…”
ตอนแรกผมก็เกือบจะออกปากปฏิเสธไปแล้วว่ายังไม่หิว แต่พอรู้ว่าคุณเจนจะลงมาทาน ทำให้ผมเปลี่ยนใจ รีบบอกป้าหงุ่น
ว่าผมขอทานด้วยแล้วกัน จากนั้นสักพักป้าหงุ่นก็จัดการยกชามข้าวต้มมาให้ผมที่นั่งรอ
อยู่บนโต๊ะอาหาร พอดีกับคุณเจน
เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่กับบ้านเดินลงบันไดมาเช่นกัน
จนผมต้องหันไปเงยหน้าขึ้นมอง คุณเจนแต่งตัวง่ายๆ เป็นกางเกงขาสั้นบานๆคล้ายกระโปรงสีส้มหมากสุก ส่วนเสื้อคอปาด
แขนสั้นสีนวลๆ แต่งหน้าอ่อนๆ ชวนพิศ พอเธอเห็นว่าผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะทานขาวถึงกับชะงัก แต่ครู่เดียวก็เดินลงมาเป็นปรกติ
“ชามไหนของเจนคะป้า…” คุณเจนร้องถามป้าหงุ่นเสียงเรียบๆ พร้อมเหลือบหางตามามองหน้าผมเพียงแว๊บเดียวก็เมินไป
ทางป้าหงุ่น
“ชามนี้เจ้าค่ะ…” ป้าหงุ่นบอกยิ้มๆ แล้วชี้ชามข้าวต้มที่อยู่ตรงข้ามกับผม คุณเจนรีบเดินอ้อมไปนั่งด้วยท่าทางปรกติ แล้วลง
มือตักข้าวต้มใส่ปากทานไปเงียบๆสองสามคำ ก่อนจะเงยหน้าร้องถาม
“ป้าหงุ่นคะ..คุณแม่ได้บอกหรือยังคะว่า เย็นนี้จะพาเพื่อนๆมาทานข้าวด้วยที่บ้าน…” คุณเจนพูดลอยๆ ข้ามหน้าผมไปเสมือน
ผมไม่มีตัวตนอยู่ที่นั้น จนผมอดหมั่นไส้เธอไม่ได้ ที่เธอทำใจลืมผมได้รวดเร็วปานนี้
“ยังเลยค่ะ..สงสัยเมื่อเช้าคุณดาคงรีบ..เลยยังไม่ได้สั่งอะไรกับป้า..ว่าแต่คุณเจนพอจะทราบมั๊ยคะว่ามากันกี่คน..”
“คงครอบครัวเดียวมั้งคะ..น่าจะสองสามคนไม่เกินนี้…” คุณเจนพูดเรื่อยๆ ด้วยน้ำเสียงไม่สะดุดหรือเปลี่ยนแปลง
“ค่ะ..คุณดาท่านจะพาเพื่อนมาทานข้าวเฉยๆ หรือมีวาระพิเศษอะไร คุณเจนพอทราบมั๊ยคะ..ป้าจะได้จัดอาหารได้ถูก..” ป้า
หงุ่นถามด้วยความรอบครอบ แต่พอคุณเจนตอบกลับผมถึงกับสำลักข้าวต้มที่กำลังตักใส่ปากทันที
“คุณแม่จะพาเพื่อนๆกับลูกขายมาดูตัวเจนมั้งค่ะ…สงสัยเบื่อที่จะเลี้ยงเจนเสียแล้ว…”
น้ำเสียงที่คุณเจนบอกป้าหงุ่นไม่มีวีแววจะเศร้าเสียใจเลย เมื่อบอกว่าคุณแม่คงเบื่อเลี้ยงเธอเสียแล้ว แต่มันกลับแฝงแวว
ขี้เล่นสนุกสนานจนพูดกลั้วเสียงขำๆ เสียดแทงเข้าไปในใจผม และยิ่งเห็นผมสำลักข้าวไอแค๊กๆ
“ป้าหงุ่นคะ..ขอน้ำให้พี่ทองดีดื่มหน่อยค่ะ.เธอสำลักข้าวต้มของป้าแล้ว…”
ผมรับน้ำดื่มที่ป้าหงุ่นรินใส่แก้วแล้วนำมาวางใกล้ๆมือขึ้นดื่ม หลังจากที่หยุดไอจนหน้าแดงได้แล้ว ก็ลอบเงยหน้ามอง
วงหน้าสวยๆใสๆของคุณเจนด้วยสายตาที่อยากเข้าไปกระชากเธอมากอดมาจูบเสียให้สาสมกับท่าทางช่างยั่วของเธอ แต่
ก็ทำแบบนั้นไม่ได้
“ดูท่าทางคุณเจนรีบร้อนจะมีคู่ควงจังนะครับ…” ผมเค้นเสียงถามเบาๆ ตาจับจ้องมองวงหน้าคุณเจนเขม็งแต่เธอมิกล้าเงย
หน้าขึ้นมาสบสายตา
“ก็ไม่รีบร้อนหรอกค่ะ..แต่กลัวว่ายัยอรจะล้ำหน้า..เลยบอกคุณแม่ให้ลองแนะนำลูกชายเพื่อนๆที่ยังโสดมาทำความรู้จักกัน
ไว้ก่อน…พี่ทองดีมีปัญหาหรือคะ……”
ขณะที่คุณเจนลอยหน้าลอยตาพูด หางตาผมเหลือบมองเห็นป้าหงุ่นค่อยๆ ขยับเดินถอยหลังจนไปยืนอยู่หน้าห้องครัว
พร้อมกับมะลิและสาลีที่เดินออกมาพอดี ถึงกับชะงักยืนจับกลุ่มกันอยู่ตรงนั้น คงเกรงว่าอีกไม่นานสงครามประทะคารม
ระหว่างคุณเจนกับผมคงกำลังเกิดขึ้นเหมือนดั่งเคยเป็นแน่
“เอ้อ..ไม่ครับ..ผมไม่มีปัญหาอะไร..เพียงแค่ไม่อยากให้คุณเจนรีบร้อนทำแบบคุณอร..โบราณเค้ายังบอกไว้ว่าช้าๆได้พร้า
เล่มงาม..”
ผมพูดพร้อมยื่นปลายเท้าที่อยู่ใต้โต๊ะทานข้าวเขี่ยโดนปลายเท้าคุณเจน จนเธอรีบชักเท้ากลับ พร้อมเงยหน้าลอบทำตาดุ
จิกใส่
“เจนเคยแต่ได้ยินที่คนโบราณเค้าบอกว่า เลือกนักมักได้แร่ค่ะ…ขืนเล่นตัวเลือกนานๆ คงไม่เหลือเพขรเหลือทองให้เจนแล้ว
จะเหลือก็เพียงแร่ราคาถูกๆเท่านั้นค่ะ…”
คุณเจนตอบโต้คารมเสียงขำๆยั่วๆ พร้อมชักเท้าหนี เมื่อปลายเท้าผมไล่เขี่ยควานหา จนหนีไม่รอดเธอก็จิกตาดุใส่ หลังจาก
เหลือบไปมองดูแล้วว่าสาลีมะลิและป้าหงุ่นไม่ได้หันมามอง มัวแต่คุยซุบซิบๆกันอยู่
“ป้าคะ..เจนทานอิ่มแล้วค่ะ..ขอบคุณนะคะ..ฝีมือป้ายังอรุ่อยไม่เปลี่ยนเลย..”
คุณเจนรีบพูดพร้อมลุกขึ้นยืน หลังจากที่โดนปลายเท้าผมสอดไปเขี่ยลึกจนถึงขาอ่อน แต่ก่อนที่จะลุกขึ้นจากโต๊ะทานข้าว
คุณเจนยังเอื้อมมือมาจิกเล็บหยิกจนผมสะดุ้ง
“อะไรกันคะคุณเจน บอกป้าทำอร่อยแต่ทานไปเพียงไม่กี่คำก็อิ่มเสียแล้ว..” ป้าหงุ่นบ่นเบาๆ พร้อมเดินมาเก็บถ้วยชามที่
คุณเจนทานเหลือกลับเข้าไปในครัว
“คืนนี้ผมต้องออกมาร่วมวงทานข้าวดูตัวว่าที่คู่ควงของคุณเจนด้วยหรือเปล่าครับ..” ผมรีบถามก่อนที่คุณเจนจะลุกเดินออก
ไปจากโต๊ะทานข้าว
“ต้องมาสิคะ…ในฐานะพ่อเลี้ยงของเจน…”
คุณเจนตอบสั้นๆเสร็จ ก็สบัดหน้าเดินจากไปไม่เหลียวหลังกลับมามอง จนผมรวบช้อนแสดงท่าว่าอิ่มข้าวเช้าแล้วเหมือนกัน
ทั้งๆที่ทานไปได้ไม่ถึงครึ่งชาม ด้วยความรู้สึกที่มันตื้อขึ้นมาถึงอก จนทานต่อไปไม่ลง
“ท่าทางคุณเจนแปลกๆไปนะคะ..” ผมแทบสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงมะลิพูดแทรกขึ้นมาเบาๆ หลังจากที่คุณเจนเดินจากไปแล้ว
“แปลกยังไงหรือมะลิ..ผมว่าเธอก็เป็นแบบนี้มาตลอด…”
ผมรีบถาม พร้อมแสร้งพูดกลบเกลือน แล้วรีบลุกขึ้นไม่รอให้มะลิตอบ เดินลิ่วๆกลับเข้าห้องพ่อตาผมทันที เพราะมะลิไม่ใช่
คนโง่ ขืนให้หล่อนสงสัยคงต้องจับตาดู แล้วผมเชื่อว่าในไม่ช้ามะลิคงรู้เป็นอย่างแน่ ว่าคุณเจนนั้นแปลกไปเพราะอะไร
ผมขลุกตัวอยู่ในห้องพ่อตาผมเกือบทั้งวันในช่วงบ่าย มีพาท่านออกมาเดินเล่นออกกำลังกายในช่วงสั้นๆ ก่อนจะปรึกษา
พ่อตาผมอย่างจริงจัง
“พ่อครับ..ผมว่าผมจะขออนุญาตไปช่วยคุณดาทำงานดีมั๊ยครับ..พ่ออยุ่ทางนี้ก็ให้สาลีกับมะลิมาดูแลตามเดิม หรือจะจ้าง
คุณวิมาดูแลด้วยก็ได้นะครับ…เอาเงินเดือนที่จะจ่ายผมไปจ้างคุณวิแทน….”
ผมลองเลียบเคียงปรึกษาพ่อตาผมดู เพราะอยุ่เฉยๆต้องเห็น ต้องเจอหน้าคุณเจนวันละหลายๆครั้ง ผมเกรงว่าวันหนึ่งผม
จะอดใจไม่อยู่ ถ้าได้ออกไปทำงานช่วยคุณดานอกบ้านบ้างคงจะทำให้ผมหายฟุ้งซ่าน
“เอ็งเบื่อคุยกับพ่อแล้วหรือวะ…” พ่อตาผมกลับคิดไปว่าที่ผมอยากออกไปทำงานช่วยคุณดาเพราะเบื่อแกไปเสียอีก จนผม
ต้องอธิบายให้แกฟัง
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับพ่อ..ท้องคุณดานับวันก็จะใหญ่อุ๊ยอ้ายขึ้น..ผมเลยอยากช่วยแบ่งเบางานเธอบ้างนะครับ..ส่วนพ่อเวลา
ผมเลิกงานกลับมา..เราก็คุยกันเหมือนเดิม..ไม่ดีหรือครับ คราวนี้พ่อจะได้ใกล้ชิดคุณวิได้มากขึ้น..เผลอๆได้เมียอีกสักคน…”
“อืมมมม..ก็จริงเหมือนกันนะ แม่ดาจะได้มีเวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้น…ว่าแต่แม่วิเค้าจะยินยอมมาอยู่ประจำที่บ้านเรารึ…”
“ผมว่าพ่อลองอ้อนขอร้องเธอสิครับ..ดูท่าทางแล้วคุณวิไม่น่าจะมีอะไรขัดข้อง…เพียงแต่พ่ออย่าไปทำให้สาลีกับมะลิน้อยอก
น้อยใจเท่านั้นก็พอ..ฮ่าๆๆๆ” ผมแกล้งพูดแซวแกเหมือนเป็นเรื่องขำๆ พร้อมหัวเราะ เรียกเสียงหัวเราะฮาๆจากแกอย่างอารมณ์
ดี พร้อมคุยโวโอ้อวด
“ปั๊ดโธ่…แค่สามคนแค่นี้..เอ็งคิดว่าพ่อเอาไม่อยู่หรือวะ..รุ้จักพ่อน้อยไปซะแล้วไอ้ทองดี…สมัยพ่อเป็นหนุ่มๆนะโว๊ยเคยมีเมีย
พร้อมกัน่ร่วมสิบคน..บริหารจัดเวลาโดยพวกเมียๆของพ่อไม่เคยทะเลาะกันสักคน..”
แล้วพ่อตาผมก็ได้ทีเล่าเรื่องราวในอดีตของตนเองให้ผมฟังอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับข้ามขั้นตอนไปถึงช่วงที่แกโดนทางบ้าน
กีดกันไม่ให้พบกับแม่หนูยิ้ม จนแกเที่ยวใช้ชีวิตเสเพลเอาผู้หญิงโดยไม่เลือกหน้าเลือกตา..ขอเพียงให้ใครมาเข้า
ทางปืนเท่านั้นแกฟันดะ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ ผมก็เพียงฟังผ่านๆอื่อๆออๆ ไปตามเรื่อง เพราะในหัวของผมมีเรื่องกังวลที่ต้อง
คิดมากกว่า
จนกระทั่งเย็น ที่คุณดาขับรถกลับบ้านมาด้วยหน้าตาแจ่มใสยิ้มเบิกบาน เธอคงดีใจที่วันนี้จะมีเพื่อนเก่าพาลูกชายมาทำความ
รุ้จักกับคุณเจนเป็นแน่ เพราะพอกลับมาถึงบ้าน แกก็มัวแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับป้าหงุ่นในการจัดการเตรียมต้อนรับ ไม่เข้ามาหาผม
และพ่อตาผมในห้องเลย จนกระทั่งให้สาลีเข้ามาเตือนว่าแขกใกล้จะมาถึงบ้านแล้วนั่นแหละ ผมจึงลุกขึ้นอาบน้ำอาบท่า
แต่งตัวใหม่ แต่พ่อตาผมขอตัวขี้เกียจไปนั่งเป็นพระอันดับ ผมเลยให้สาลีเข้ามาดูแลแก ส่วนมะลิให้อยู่ช่วยงานด้านนอก
แล้วผมก็แต่ตัวด้วยเสื้อผ้าลำลองแต่ดูดีมีราคา เพราะคุณดาเลือกสรรให้ออกไปต้อนรับว่าที่ลูกเขยในอนาคต
“มานี่ค่ะ..มารู้จักเพื่อนๆของดาก่อน…”
พอผมโผล่ออกไปในห้องรับแขก คุณดาก็รีบเดินมาคล้องแขนพาผมเข้าไปนั่งสนทนากับเพื่อนของเธอที่มาพร้อมสามีและ
ลูกชายหน้าขาวๆ แต่ก็หล่อดี อายุประมาณรุ่นเดียวหรือแก่กว่าผมไม่เกินสองสามปี
“นี่ทองดีค่ะ..สามีของดา..ส่วนนี่เพื่อดาชื่อกิ๊กกับคุณประกอบ ชายหนุมคนนี้ชื่อน้องเอ็ม ค่ะทองดี…”
คุณดาแนะนำพร้อมกันทั้งสองฝ่าย จนผมมองเห็นเพื่อนคุณดาพร้อมสามีทำหน้าเหว๋อๆเหมือนไม่เชื่อว่าคุณดาจะมีสามีอายุ
คราวลูก
“ต๊ายยย..เธอนี่แอบซุ่มเงียบนะยัยดา…ถ้าชั้นไม่มาบ้านเธอ ก็คงไม่รุ้จักคุณทองดีเป็นแน่..”
[post]เพื่อสาวของคุณดาพูดแซวขำๆ ทำเอาสามีและลูกชายนายเอ็มหัวเราะเบาๆตามไปด้วย หลังจากนั้นคุณดากับเพื่อนและสามี
ของเพื่อนต่างก็คุยกันในเรื่องอดีต ที่ผมไม่เคยทราบมาก่อน และก็ไม่อยากทราบด้วย ทำให้ผมและนายเอ็มต่างอึดอัดนั่งนิ่ง
เงียบจนกระทั่งคุณดาเอ่ยปาก
“ทองดีคะ..พาน้องเอ็มไปหาเครื่องดื่มก่อนก็ได้ค่ะ..ดาคุยกับเพื่อนติดลมแล้ว..ไม่ได้เจอกันนานหลายปี…”
คุณดาพูดเสร็จ ผมเลยชวนนายเอ็มลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินไปหาเครื่องดื่มมึนๆสักหน่อย คุณเจนก็เดินลงบันไดมาพอดี ด้วยชุด
แซกสั้นสีดำรัดรูป จนมองเห็นเนินอกอวบและสะโพกผายกว้าง เธอแต่งหน้าลงสีสันจนงดงาม เหมือนกำลังจะออกไปงาน
ดินเนอร์นอกบ้าน มิใช่การกินข้าวเย็นตามธรรมดา เล่นเอานายเอ็มแหงนหน้ามองจ้องอย่างตะลึงลาน พร้อมฉีกยิ้มส่งให้ ข้าง
คุณเจนก็ยิ้มแย้มทอดไมตรีตอบ มองข้ามผ่านหัวผม เหมือนดั่งว่าผมไม่มีตัวตน ไม่ได้ยืนอยู่ด้วยเลย