ตำนานนักรัก ตอนที่ 81
“คุณดาพูดใหม่สิครับ..” แม้ผมจะได้ยินเสียงกระซิบของคุณดาอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คิดว่าหูคงฝาด
ไป จึงร้องบอกให้คุณดาตอบมาใหม่อีกครั้ง
“ค่ะ..คุณได้ยินถูกต้องแล้ว..ดาขอโทษ…” คุณดากระซิบยืนยันคำพูดเดิมอีกครั้งด้วยเสียงสั่นๆ ทำเอาผมอึ้งแทบหมดแรง
กอด ดีที่ว่าคุณดายึดจับแขนผมที่ตระกองกอดไว้แน่น มิเช่นนั้นมันคงตกลงที่ข้างตัว
“คุณยกโทษให้ดานะคะ..อย่าโกรธดาเลย…แค่นี้ดาก็ขยะแขยงตัวเองเต็มทนแล้ว…”
น้ำเสียงของคุณดาดูว่าเธอเสียใจไปกับการกระทำจริงๆ จนท้ายสุดก็สะอื้นร่ำไห้ออกมาเบาๆ จนผมต้องกระชับวงแขนกอด
รัดใต้ราวนมแน่นขึ้น พร้อมกระซิบปลอบโยนเสียงนุ่มๆเบาๆ
“อย่าร้องไห้เลยครับ..มันเสียไปแล้วเรียกกลับคืนมาอีกไม่ได้ คุณดาก็หักห้ามใจไว้ดีกว่า..เสียใจร้องไห้ มันจะมีผลกับอารมณ์
ของยัยหนูในท้องคุณดานะครับ..ผมยกโทษให้ครับ..”
“ทองดี…คุณดีกับดาเหลือเกิน…”
คุณดาเงยหน้าช้อนตาขึ้นแลสบตากับผม ด้วยประ
กายตาโศรกเศร้าปนอ่อนหวาน แม้มันจะแดงช้ำชอก เพราะผ่านการ
ร้องไห้มาแล้วหลายครั้งก็ตาม
มันทำให้ผมสงสารเธอจับใจ มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้สักนิด ที่ต้องเกิดมาเป็นคนไร้เล่ห์เหลี่ยม คิดไม่ทันคน แก้ไข
ปัญหาหรือทนแบกรับสถานการณ์กดดันไม่ได้เช่นนี้ ไม่เช่นนั้น เธอคงไม่ถูกพ่อตัวเองบงการชีวิตไปเสียทุกเรื่องราว แม้
กระทั่งการจะมีสามีหรือครอบครัว ก็ล้วนแล้วแต่ต้องพึงสายตาของลุงเสงี่ยม ซึ่งก็เห็นกันแล้วว่า สายตาของแกก็ไม่ถูกต้อง
ไปเสียทุกครั้ง มีผิดพลาดอยู่หลายครั้ง จนเกิดเรื่องราววุ่นวายในครอบครัวของแก
“ทำไมดาถึงเป็นคนแบบนี้นะ..ดาทนสิ่งเร้าไม่เคยได้เลย…คุณช่วยดาด้วยนะคะ..ดาไม่อยากเป็นแบบนี้เลย…” เสียงคุณดา
พูดเพ้อออกมาเบาๆ สั่นๆ พร้อมขยับวงแขนกอดรัดอ้อมกอดของผมอีกชั้นหนึ่งไว้แน่น
“อย่าโทษตัวเองเลยครับ..นายทัดเทพ มันคงรู้จุดอ่อนของคุณดาดี ว่าทำอย่างไร ที่จะให้คุณดาจะขาดสติ จนต้องยอมให้มัน
ข่มเหงใจ….อีกครั้ง”
“ทำไมคุณรู้ล่ะคะ…” คุณดาถามกลับด้วยสุ้มเสียงสั่นๆ พร้อมไล้ปลายนิ้วลูบใบหน้าผมเล่นเบาๆ
“เพราะผมเป็นสามีคุณดาน่ะสิครับ ผมจึงรู้ดีว่าจุดอ่อนของคุณดามีทั่วทั้งตัว พอโดนกระตุ้นเล้าโลมไม่นาน คุณดาก็จะเคลิบ
เคลิ้มจนขาดสติ และยินยอม.. เหมือนเช่นตอนนี้…”
ผมพูดจบก็ก้มหน้าลงไปบนทรวงอกอวบหยุ่นของคุณดา ครั้งแรกมิใช่ตั้งใจจะกระตุ้นให้เธอเกิดอารมณ์แล้วร่วมรักกับผม แต่
ผมต้องการปลอบใจเธอมิให้กังวลว่าผมรังเกียจร่างกายของเธอ แต่ร้อยหมื่นคำพูดหรือจะสู้การกระทำเพียงครั้งเดียวได้
แต่ครั้นก้มหน้าลงไปบนอกอวบ กลิ่นที่โชยระเหยออกมาเข้าจมูกนั้น มันชี้ชัดว่าเป็นกลิ่นน้ำลายกลิ่นบุหรี่ จากปากของไอ้
ทัดเทพ แทนที่ผมจะนึกรังเกียจ แต่กลับมีอารมณ์แปลกประหลาดทำให้วาบหวิว จากที่ตั้งใจจะก้มลงไปจูบอกอวบของคุณดา
เบาๆ กลับทำให้ผมส่ายหน้าคลุกเคล้า แล้วอ้าปากไล่ควานหาจุกหัวนมของคุณดา พอเจอก็อ้าปากงับดูดอย่างตะกรุมตะกราม
จนคุณดาร้องซี๊ดดดโอ๊ยยด้วยความเจ็บปวดออกมาเบาๆ
“ซี๊ดดคุณ!…เบาๆค่ะ..ดาเจ็บ…”
ผมได้ยินเสียงคุณดาร้องบอก รีบผงะหน้าออกมาด้วยความแปลกใจ สีหน้าคุณดามิได้เสแสร้ง เธอแสดงความเจ็บปวดออกมา
จริงๆ จนผมตัองรีบผุดลุกนั่งตัวตรง แล้วเอื้อมมือถลกเสื้อคุณดาขึ้นมาเหนืออก
“คุณจะทำอะไร..อย่าค่ะ..อย่าดูเลย..”
คุณดาร้องปรามเสียงหลง แล้วพยามยามยกสองมือขึ้นมากอดอก แต่ผมก็ยังมองเห็นเต้าตูมนวลขาวอยู่ดี แล้วก็ใจหายวาบ
เมื่อทั่วทั้งเนินอกที่เคยขาวผ่อง บัดนี้มันเต็มไปด้วยร่องรอยแดงช้ำ เป็นจุดๆด่างๆแดงๆ ลายพร้อยเต็มสองเนินเนื้อ
“มันทำคุณดาขนาดนี้เลยหรือครับ..”
ผมเผลอตัวคำรามเสียงเข้มๆออกมาด้วยความโมโห เมียของผมเต้านวลเต่งตึงที่ผมทนุถนอนจูบเคล้าก็เอาแต่พองาม ไม่ให้
มันช้ำชอก แต่บัดนี้ มันเต็มไปด้วยร่องรอยที่เกิดจากการกระทำที่ป่าเถือ่น เหมือนคนซาดิสจากไอ้ทัดเทพ มิหนำซ้ำเมื่อผม
เลิกบราตัวบางๆหลุดออกจากเต้า คุณดาก็ผวาร้องครางอุ๊ย เมื่อผมแลเห็นเม็ดหัวนมที่เคยเป็ยติ่งเล็กๆเท่าปลายก้อย สีแดง
ใสๆ แต่บัดนี้มันกลับบวมพองขยายใหญ่จนเท่าปลายนิ้วกลาง มิน่าล่ะ ที่คุณดาร้องบอกให้ผมดูดเบาๆ คงเพราะมันอักเสบ
จนปวดรวดร้าวอย่างแน่นอน
“โธ่..คุณดา..”
ผมอุทานร้องบอกด้วยความสงสาร จากนั้นค่อยๆประคองร่างเธอล้มลงนอนหงาย แล้วขยับมือไปปลดตะขอกระโปรงของ
คุณดาลงอย่างรีบร้อน สังหรณ์ใจว่าขนาดช่วงบนมันยังทำคุณดาช้ำชอกได้ขนาดนี้ แล้วช่วงล่างของเธอจะชอกช้ำ
ขนาดไหน
“อย่าค่ะ..คุณอย่าดูเลย..ดาขอนะคะ..” คุณดาร้องปรามห้ามผม พร้อมยื้อยุดมือผมที่กำลังรูดซิปกระโปรงของเธอออก
“อย่าห้ามผมเลยครับ..ครั้งนี้ผมต้องดูให้เห็นกับตา ว่ามันทำอะไรคุณดาบ้าง..แล้วผมจะไปเอาคืนให้สาสมกับที่มันทำกับ
คุณ…”
ผมร้องบอกเสียงเข้มๆ ด้วยความเจ็บปวดและโมโห อารมณ์ความวาบหวิวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่อง
รอย จากนั้นก็รูดซิปพร้อมดึงกระโปรงคุณดาจนหลุดลงมากรอมที่ปลายเท้า พร้อมๆกับอันเดอร์แวร์ที่ส่งกลิ่นคาวคลุ้ง และ
เต็มไปด้วยเมือกลื่น ที่บัดนี้มันจับตัวเป็นเกล็ดขาวๆแข็งๆ แล้วก็ใจหายวาบเมื่อแลเห็นว่ากลีบแคมทั้งสองข้างของคุณดา
แบะอ้าแดงก่ำเลอะคราบเมือกลื่น มีบางส่วนแดงๆคล้ายรอยปริ แล้วพอผมเอื้อมปลายนิ้วลงไปแตะ คุณดาก็ผวาร้องอุ๊ยทำ
หน้าเจ็บปวด ไอ้สัตว์นรก..ผมคำรามอยู่ในใจ พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความสงสารไว้อย่างเต็มที่
“คุณอย่าไปยุ่งกับทัดเทพอีกเลยนะคะ..ดาขอร้อง…” คุณดาร้องปรามผมเสียงเบาๆ จนทำให้ผมฉุนโกรธด้วยความโมโห
ว่าเธอโดนมันทำมาขนาดนี้แล้วยังจะมาร้องห้ามผมอีก
“คุณดายังมีเยื่อใยกับมันอีกหรือครับ โดนมันปู้ยี่ปู้ยำมาขนาดนี้แล้ว…” คราวนี้ผมร้องถามด้วยเสียงแข็งกระด้าง ด้วยนึกว่า
ที่คุณดาร้องห้ามมิให้ผมไปเอาเรื่องกับไอ้นรกนั่นเพราะยังคงเหลือเยื่อใยกับมันอยู่
“เปล่านะคะ..คุณเข้าใจผิดแล้ว..ดาห้ามเพราะดาเป็นห่วงคุณ ว่าจะเป็นอันตราย เดี๋ยวนี้ทัดเทพไม่ใช่ทัดเทพคนเก่าอีก
แล้ว..เค้าเหมือนพวกมาเฟีย มีลูกน้องหลายคน…อย่าไปยุ่งกับคนเหล่านี้เลยนะคะ..ดาเป็นห่วงคุณจริงๆ…”
ผมถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคุณดาอธิบาย พร้อมฉุกคิด ไม่ใช่เพราะกลัวว่าไอ้ทัดเทพเหมือนพวกมาเฟียวินแท็กซี่หรอก แต่
ฉุกคิดที่คุณดาบอกว่ามันมีลูกน้องหลายคน หรือว่าที่คุณดารู้เพราะ…
“มันทำกับคุณดากี่คนครับ…” ผมรีบสอบถามสิ่งที่อยากรู้ทันที
“เอ้อ..ทัดเทพทำคนเดียวค่ะ…” คุณดาอึกๆอักๆก่อนจะร้องตอบ พร้อมหลบตาอย่างมีพิรุท
“กี่คนกันแน่ครับ ที่มันทำกับคุณดาแบบนี้…” คราวนี้ผมมั่นใจเต็มที่ว่าผมคิดถูก เพราะหลักฐานที่อันเดอร์แวร์มันชี้ชัด ว่า
ไม่ได้เกิดจากการกระทำของคนคนเดียว
“เอ้อสะ..สองมั้งคะ…ดาไม่รู้..ฮือออ..คุณเชื่อดานะคะ..ดาไม่รุ้จริงๆ พวกมันจับดากรอกเหล้าจนเมา…ไม่ได้สติ…รู้แต่ว่า
น่าจะมากกว่าทัดเทพคนเดียว….”
คราวนี้พอคุณดาพูดจบ เธอยกมือทั้งสองขึ้นปิดหน้า แล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้ง จนผมสงสารไม่กล้าซักถามอะไรต่อ ได้
แต่เพียงก้มตัวนอนลงไปกอดเธอเพื่อปลุกปลอบเบาๆ จนเธอหยุดร่ำไห้ ผมจึงอุ้มคุณดาเข้าไปอาบน้ำชำระคราบความใคร่
ของไอ้พวกทัดเทพ จนร่างกายสอาด จึงอุ้มกลับมานอนกอดปลอบให้เธอหลับไปในอ้อมกอดของผม
“คุณ..คุณ..ช่วยเมียด้วย…” จนกระทั่งเวลาผ่านไปกี่โมงกี่ยามแล้วผมก็ไม่ทราบ เพียงได้ยินเสียงแผ่วๆเรียกเบาๆให้ช่วย
จากคุณดา ผมเลยรีบผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความตกใจ
[post]”เป็นอะไรครับคุณดา…” ผมร้องถามเสียงตื่นๆ พร้อมเอื้อมมือไปเปิดสวิทซ์ไฟที่โคมหัวเตียง พอแสงสว่างจ้า ก็ต้อง
ตกใจ เมื่อเห็นคุณดานอนบิดตัวเป็นเกลียว สมองมือซุกเข้าไปที่หว่างขา ใบหน้าแสดงความเจ็บปวด จนเหงื่อไหลลงมา
อาบโค้งหน้าผาก
“ช่วยด้วยค่ะ..ดาปวดท้อง..” คุณดาร้องตอบเบาๆ ด้วยวงหน้านิ่วคิ้วโก่งสองข้างขมวดเข้าหากัน
“ปวดท้องแบบไหนครับ…”
ผมซักถามด้วยความตกใจ แต่คุณดายังไม่ทันตอบคำถามของผม มือที่ซุกเข้าไปในหว่างขาค่อยๆ ดึงออกมา แล้วผมก็ใจ
หายวาบ เมื่อเห็นรอยเลือดเป็นดวงกลมโต อยู่ตรงหว่างขาของเธอ แม้ผมไม่เคยมีเมีย หรือล่วงรู้มาก่อน แต่อาการแบบนี้
ก็ทำให้ผมตกใจ รีบช้อนมือโอบอุ้มคุณดาขึ้นในวงแขน แล้วรีบพาเธอลงมาข้างล่างอย่ารวดเร็ว ปากก็ร้องตะโกนโหวกเหวก
“สาลี่..มะลิ..ช่วยด้วย..”
เสียงตะโกนของผมดังพอจะปลุกให้คนทั้งบ้านตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ และเมื่อออกจากห้องมาเห็นผมอุ้มร่างโชกเลือด
ของคุณดาไว้ในวงแขน ต่างก็หวีดเสียงร้องด้วยความตกใจหวาดกลัวเช่นเดียวกัน
“คุณทองดี..วางคุณดาลงนอนบนโซฟาก่อนค่ะ..เดี๋ยววิโทรเรียกรถพยาบาลก่อน…”
ดูเหมือนคุณวิจะเป็นคนเดียวที่มีสติมากกว่าเพื่อน รีบร้องบอกให้ผมว่างร่างคุณดาลงบนโซฟา แล้วตัวเธอก็โทรไปเรียกรถ
พยาบาลฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
“ลูก..ลูกจ๋า..คุณ…ช่วยดาด้วย”
คุณดาเพ้อออกมาอย่างอ่อนแรง ใบหน้าเธอขาวซีดจนเหมือนไร้สีเลือด ผมก็จนปัญญาไม่รุ้จะช่วยอะไรเธอได้ ทำได้เพียง
ยื่นมือไปยึดจับมือของคุณดาบีบไว้แน่น ส่วนพ่อตาผมค่อยๆเดินออกมาจากห้องทีหลังเพื่อน เมื่อแกพบว่าคุณดาลูกสาว
คนเดียวของแกเป็นอะไรไป ผมก็เห็นร่างแกโงนเงน จึ่งร้องบอกใหสาลี่ที่ยืนอยู่ใกล้สุดช่วยพยุงแกไว้ก่อนที่จะล้มลงมานอน
แล้วคืนที่แสนจะฉุกละหุกวุ่นวายก็จบลงเมื่อรถพยาบาลฉุกเฉินมาถึง และนำคนป่วยทั้งสองคือคุณดาและพ่อตาผมไปส่ง
โรงพยาบาล โดยมีผมขับรถพาคุณวิเดินทางตามไปอย่างกระชั้นชิด
“ทำใจดีๆไว้ก่อนนะคะคุณทองดี…คุณดาอาจจะยังไม่แท้งก็ได้..”
คุณวิพูดปลอบใจซ้ำซากแบบนี้ไปตลอดทาง ทั้งๆที่สีหน้าเธอก็ไม่สุ้ดีนัก ด้วยความกังวลว่าพ่อตาผมจะเป็นอะไรมากไป
กว่าเป็นลมเพราะความตกใจ