ยอดนักรบไทย ตอน 8

ยอดนักรบไทย ตอน 8

ยอดนักรบไทย ตอน 8

หมู่ชาญจ้องมองสะโพกกลมกลึงบิดส่าย สลับการบิดพริ้วช่วงเอวคอดกิ่วของหญิงสาวไปมาก็นึกอิจฉาวาสนาของหมวดหนุ่ม ที่จะได้ชื่มชิมลิ้มลองรสชาติความหวานขาวเนียนนุ่มจากเรือนร่างสาว….งาม สวยของหล่อนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า“หมวดครับมีอะไรให้พวกผมช่วยเหลืองาน แต่งงานไม้ครับ”
เสียงเอ่ยปากจากหมู่หนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหมวดเพิ่มศักดิ์ดังขึ้น ขณะที่เขาเพิ่งกลับจากส่งแฟนสาวกลับบ้านพัก“ขอบใจหมู่..สำหรับงานแต่งคงไม่ มีหรอกที่โรงแรมเขาจัดการหมด..แต่เรื่องเรือนหอคงต้องรบกวนหมู่ช่วยคุมพวก ไอ้เณรมันทำความสะอาดให้หน่อย..แล้วก็ช่วยยกย้ายของที่น้องทิพย์เขาสั่งซื้อ ไว้นะ”
“เอ่อสบายมากครับหมวด..ว่าแต่ผมเสียดายจังที่พวกผมไม่มีโอกาสฉลองให้ หมวด”
“เฮ้อ…ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันหมู่ชาญ….คุณพ่อท่านอยากจัดงาน ใหญ่ๆให้สมกับลูกสาวคน
เดียวแล้วก็สมกับฐานะท่าน…ไอ้ครั้นพอผมบอกให้พวกเรา ไปช่วยเซิฟท์น้ำ หรือไม่ก็ต้อนรับแขกท่านก็บอกไม่ต้องให้ทางโรงแรมเหมาจัดไปแล้ว….”
“ท่าน นายพลคงกลัวพวกผมไปทำเปิ่นมั้งครับ”หมู่ชาญกล่าวเบาๆแต่ก็ไม่ได้จริงจังกับ คำพุดมากนัก”
“คงไม่หรอก…ก็โรงแรมเขาเหมาราคารวมหมดแล้วคุณพ่อก็คงอยากให้ คุ้มเงินนะ..นี่ท่านก็บอกผมมาให้พวกเราไปร่วมงานด้วยในฐานะแขกของผม..หมู่ ชาญกับพวกก็ไม่ยอมไปซะอีก”
“โถ่หมวด..มีแต่นายทหารทั้งนั้นเลย..ขนาดลูกน้อง หมวดที่สนิทกับหมวดตอนอยู่เพชรบูรณ์พวกนั้นยังไม่กล้าไปเลย…อ้ายพวกผม เพิ่งรู้จักกับหมวดมาเดือนกว่าๆจะกล้าไปได้ยังไงละครับ”
“เฮ้อ…พวกนี้ละน้า แต่ละคนพอกันหมดไม่รู้จะกลัวอะไรกันนักกันหนา…อืม…..ถ้างั้นเอางี้.. ไหนๆอีกหน่อยเราคงต้องร่วมเป็นร่วมตายกันอยู่แล้ว..เดี๋ยวเสร็จจากที่งานตอน เขาส่งตัวเข้าเรือนหอค่อยมาฉลองกันที่บ้านแล้วกัน..หมู่เตรียมจัดงานไว้ด้วย ละกันดีไหม”
“ฮ้า…ไม่ดีละมั้งครับหมวดเดี๋ยวคุณหนูโกรธตายเลยยิ่งถ้าท่าน นายพลรู้ละก็ผมโดนขังลืมแน่ตัวหมวดเองก็อาจซวยโดนลูกหลงไปด้วย”“เอาน่า… ไม่เปนไรหรอกน้องทิพย์เขาใจนักเลงผมรู้ดีอีกอย่างเราก็ฉลองกันแบบนิดๆหน่อย ไม่เสียเวลานานหรอก.เอาตามนี้แหละ”
“ครับๆๆ..เดี๋ยวผมจะรีบไปบอกไอ้พวกนั้น ….ผมไปละครับหมวด” หมู่ชาญกล่าวเสร็จก็รีบหันหลังกลับออกไปยังบ้านพักของตัวเองซึ่งอยู่ใน บริเวณห่างออกไปในเขตบ้านพักของทหารชั้นประทวน…….ในใจแก่ยิ้มกริ่มที่ หมวดหนุ่มเจ้านายใหม่ หรือ ผอ.กองร้อยคนใหม่ของแกมีใจนักเลยยิ่งนักที่ยังเห็นความจริงใจของลูกน้องแบบ พวกแกจนถึงกับยอมให้มีการฉลองการแต่งงานกันก่อนส่งตัวเข้าหอ เพราะถ้าเป็นแกคงไม่ยอมเสียเวลาหาความสุขความกระสันกับเรือนร่างของภรรยาที่ ทั้งเพรียบพร้อมไปด้วยความสวยสดใส ความสง่างามและอิ่มเอมของเรือนร่างและกิริยาท่าทางทุกอย่างเป็นแน่
“หมู่ชาญๆๆ” เสียงเรียกดังมาแต่ไกลจากหน้าประตูบ้านพักของหมู่ชาญ
“ครับหมวด” หมู่หนุ่มเลือดนักรบส่งเสียงตอบรับแล้วกุลีกุจอโพล่กายออกมาจากชานบ้านเพราะ เขาจำเสียงได้ดีว่าเป็นเสียงของผู้หมวดหนุ่มซึ่งมีอายุอ่อนกว่าเขาเพียง 4-5 ปี เท่านั้น..
“หมู่ว่างหรือเปล่าตอนนี้”
“ว่างครับหมวด…หมวดมีอะไรจะให้ผมทำ เหรอครับ”
“คือผมจะรบกวนหมวดไปตามพวกในหมวดของเรามาช่วยผมหน่อย…พอดีผมกับ น้องทิพย์กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่นะ….แต่ว่าพวกเฟอร์นเจอร์ที่สั่งไว้มัน ยังไม่มาส่งเลยผมเลยจะออกไปตาม”
“อ้อ..ได้เลยครับแค่นี้เอง..เดี๋ยวผมไปตาม ไอ้พวกนั้นมาจัดการเองหมวดไม่ต้องเป็นห่วง”
“ขอบใจมากหมู่…เอาแค่ทำตามที่ น้องทิพย์เขาบอกแล้วกันหมู่….ตอนนี้น้องทิพย์เขากำลังเก็บกวาดอยู่จะได้มี ลูกมือช่วยเยอะๆหน่อย..ไม่งั้นเดี๋ยวของมาส่งแล้วจะหาที่วางไม่ได้”
“ครับ หมวดไม่ต้องเป็นห่วง…..ไอ้อ๊อด…ไอ้อ๊อดโว้ย”….รับคำเสร็จหมู่ชาญส่ง เสียงอันหนักแน่นตะโกนเรียกพลทหารหนุ่มคนสนิทที่อยู่หลังบ้านให้ออกมาทันที
“งั้นผมไปก่อนละหมู่ฝากด้วยนะ”
“ครับๆตามสบายครับ..รับรองของมาเมื่อไหร่พวก ผมกะไอ้พวกนั้นจะเตรียมบ้านผู้หมวดให้ใหม่เอี่ยมอ่องเลยครับ”
“ไอ้อ๊อด…เดี๋ยวมึงไปตามพวกไอ้เณรในหมวดเรามาหน่อยเอามันมาทุกตัวเลย…” หมู่ชาญเอ่ยกล่าวกับสิบตรีอ๊อดนายทหารชั้นประทวนรุ่นน้องเมื่อมันวิ่งกระหืด กระหอบออกมาจากท้ายบ้าน..พร้อมกับตัวแกเองก็กำลังก้าวขากลับขึ้นไปบนบ้าน ใหม่อีกครั้ง
“ไปตามมาทำไมพี่ชาญ…พี่จะให้มันทำอะไรเหรอพี่”
“ไปช่วยแฟนผู้ หมวดแกเก็บกวาดบ้านพักโว้ย…มึงรีบๆตามตามไอ้พวกนั้นมาเถอะ..แต่ใครเข้าเวร ก็ปล่อยมันเอาแต่ไอ้พวกว่างๆนะ..ไปแล้วเดี๋ยวไปเจอกับกูที่บ้านผู้หมวด”….
“เฮ้อ…อิจฉาผู้หมวดจริงโว้ย.ได้เมียทั้งสวยทั้งรวยแถมพ่อก็เป็นนายพลอีก.. เฮ้อ….ไอ้เรามันวาสนาน้อย..ยังดีหน่อยที่หมวดแกก็ดีกะเรา..ม่ายงั้นกุไม่ ยุ่งด้วยหรอก” หมู่หนุ่มครุ่นคิดในใจเงียบๆขณะใกล้จะถึงบ้านพักของหมวดหนุ่มผู้บังคับบัญชา ……อันที่จริงตัวแกเองก็จัดว่าเป็นทหารที่ได้ชื่อว่าเป็นทั้งนักรบและนัก รัก….พอจบโรงเรียนนายสิบก็ถูกส่งไปแนวหน้ารบกับพวกคอมมิวนิสต์แถว เพชรบูรณ์…นอกจากจะต้องห่ำหั่นกับคนไทยด้วยกันที่มีแนวคิดสังคมนิยมยัง ต้องรบกับพวกลาวพวกเวียดนามผสมปนเปมั่วกันไปหมด…จะว่าโชคดีหรือโชคราย สำหรับชีวิตแกก็ไม่รู้ขณะที่หมวดของแกซึ่งเป็นหมวดปืนเล็กยาว ของกองร้อยลาดตระเวณระยะไกล ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับการกองร้อยให้ออกลาดตระเวณบนเทือกเขาตะเขบชายแดน ระหว่างไทยกับลาวก็ถูกซุ่มโจมตีโดยทหารไม่ทราบสัญชาติ……ผู้หมวดหนุ่ม บังคับหมวดถูกกระสุนสังหารเสียชีวิตอย่างฉับพลันทันที….จ่ากองร้อยก็ถูก สะเก็ดระเบิดจนขาขวาแหลกละเอียด…แกซึ่งมียศในตอนนั้นเพียงสิบตรี เพราะเพิ่งจบโรงเรียนนายสิบได้ไม่นานกลับทำหน้าทีแทนผู้หมวดและจ่ากองร้อยนำ พาพลทหารอีกกว่า 10 ชีวิตที่ทั้งบาดเจ็บและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่กำลังเสียขวัญและกำลังใจบุกตะลุย ตีฝ่าวงล้อมออกมาจนกลับฐานที่มั่นได้สำเร็จ……แต่แค่นั้นยังก็ยังไม่เท่า กับการที่แกขอเอาชีวิตเข้าแลกนำเสนอผู้บังคับกองร้อยขอออกไปพร้อมกับพลทหาร ที่ได้รับการพักฟื้นออกไปนำร่างอันไร้วิญญาณของผู้หมวดและจ่ากองร้อยที่แก เคารพรักกลับฐานที่มั่น…….ในตอนแรกผู้บังคับกองร้อยไม่ยินยอมเพราะกลัว สูญเสียกำลังพลในการรักษาฐานที่มั่น….แต่ข่าวคราวของแกก็แพร่สะพัดถึงความ เด็ดเดี่ยวแน่วแน่รักในเพื่อทหารยินยอมพลีชีพได้เพื่อร่างที่ไร้วิญญาณสมคำ ว่าทหารหาญของไทย…กระจายไปถึงหูผู้บังคับกองพัน…และเลยไปถึงผู้บังคับ กองพล..และเหมือนกับสวรรค์บันดาล…ร้อยตรีเพิ่มศักดิ์ นายทหารสัญญาบัตรที่จบจากโรงเรียนนายร้อยได้ไม่นานแม้ว่าจะอยู่แนวหน้า เหมือนกันแต่ก็เป็นแนวหน้าที่มีการรบขั้นปละปลายไม่ได้รุนแรงหรือมีชีวิต เสี่ยงตายแขวนบนเส้นด้ายเหมือนกองร้อยอื่นๆขันอาสาขอเสี่ยงชีวิตร่วมกับนัก รบบ้าบิ่นคนนั้นทันที..
“หมู่ๆๆผู้กองให้ไปพบในฐานด่วนครับ”
“มีเรื่องอะไรว่ะไอ้อ๊อด”
“ไม่รู้เหมือน กันหมู่…แต่ว่านายทหารเต็มไปหมดเลย..ผมว่าหมู่รีบไปเถอะ” พลทหารอ๊อด..เด็กหนุ่มลูกอีสานขนานแท้วิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกลทำท่าทาง เหนื่อยเหลือประมาณกล่าวตัดบทแล้วลมตัวลงนอนหอบแฮกๆโดยไม่อยากจะพูดอะไร เพิ่มเติม..เพราะฐานกองร้อยแม้จะอยู่ไม่ไกลจากบังเกอร์แต่ก็ตั้งบนยอดเขา ซึ่งแม้ตอนวิ่งลงมาจะเป็นทางลาดลงเขาแต่บังเกอร์ก็อยู่ในส่วนของยอดเขาน้อยๆ อีกลูกดังนั้นจึงเข้าลักษณะแบบวิ่งลงแล้วก็ต้องวิ่งขึ้นเล่นเอาพลทหารผู้นี้ ถึงกับเหนื่อยแฮกๆ….
“หมู่นี้หมวดเพิ่มศักดิ์”
“สวัสดีครับผู้หมวด..เอ่อมีอะไรให้ผมทำเหรอครับผู้ กอง” หมู่ชาญกล่าวกับผู้บังคับกองร้อยภายหลังจากเดินเข้ามาในกระโจมฐานที่มั่น แล้วทำท่าทางเครารพทั้งผู้กองและผู้หมวดคนใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับการแนะนำ
“สงสัยจะมาเป็นนายใหม่กู..หล่อๆอย่างงี้สงสัยไม่กี่วันก็ตายห่ะแล้ว” หมู่ชาญคิดเงียบๆในใจกึ่งดูถูกและเวทนา…จริงอยู่แม้แกจะดูออกว่าหมวดหนุ่ม หรือ ร้อยตรีเพิ่มศักดิ์คนนี้จะอายุน้อยกว่าแกไม่มากเท่าไหร่..แต่แกเองก็ทรนงใน ตังเองในเรื่องที่ความโชกโชนในการรบที่แกมั่นในจว่าแกเองนั้นมีประสบการณ์ เสี่ยงตายมากกว่าร้อยตรีผู้นี้แน่นอน
“ผู้หมวด………ผู้หมวดขันอาสาจะออก ไปเอาร่างหมวดชัยกับจ่าดำกับคนของหมู่” หมู่ชาญได้ยินถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจความคิดต่างๆที่เคยดูถูกดูแคลนมลายหายไป ในพริบตากลับกลายมาเป็นความฉงนระคนไม่เชื่อแทนที
“ผู้หมวดนะเหรอครับ..ต. แต่”
“ไม่ต้องแต่…ถ้าไม่ก็หมดโอกาสแล้วหมู่..คนเราเกิดมาก็ตายกันแค่หน เดียว..เพียงแต่ว่าจะตายกันแบบไหนเท่านั้น..สำหรับผมถ้าจะตายก็ขอตายแบบ เลือดทหารไทย..และเพื่อเพื่อนทหารด้วยกัน..ไปพาผมไปหาลูกน้องหมู่หน่อยซิ” คำพูดที่ออกมาจากปากหมวดหนุ่มหน้าตะยังกะพระเอกหนังไทยดังกล่าวเท่าเอาหมู่ชาญ ถึงกับสั่นคร้ามยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจออาการเฉียบขาดแตกต่างจากรูป ลักษณ์ภายนอกที่เห็น..หมู่ชาญเดินตามออกไปโดยไม่รู้ตัวพวกบรรดาพลทหารหรือ แม้แต่ผู้บังคับหมวดอื่นๆในกองร้อยที่รู้จักและยำเกรงหมู่ชาญภายนอกกระโจม ต่างก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นสีหน้าซีดเผือดของหมู่นักรบใจเด็ดเดิมตามหลัก หมวดหนุ่มรูปหล่อต้อยๆ……เพราะภายหลังจากเหตุการณ์การซุ่มโจมตี…แม้ทุก คนจะยอมรับในความสามารถที่แกนำพาพวกที่เหลือรอดตายกลับมาได้แต่หลังจากนั้น ก็ก็แอบบออกไปนอกฐานเพื่อจะกลับไปนำร่างอันไร้วิญญาณของหมวดและจ่าผุ้บังคับ บัญชากลับฐานให้ได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว..เพราะหน่วยเหนือไม่อนุญาตให้นำ กองกำลังออกทำการ…แม้จะไม่เคยสำเร็จ..แต่หมู่ชาญก็มีของติดมือมาด้วยทุก ครั้ง..นั้นคือหัวของศัตรูฝ่ายตรงข้าม…นับจนถึงวันนี้ก็กว่า 10 หัวเข้าไปแล้ว..
“ข..ขออนุญาตครับหมวด…ค.คือ”
“ไม่ต้องถามหรอกผมรู้หมู่จะ พูดอะไร…คืนนี้แหละ..เดี๋ยวผมขอพบลูกน้องหมู่ก่อน…แล้วจะวางแผนเอง..ถ้า ผ่านคืนนี้ไปก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว…ท่านแม่ทัพให้โอกาสครั้งนี้เพียงครั้ง เดียว”
“เอ่อ.ค..ครับๆ..แต่ว่า”
“ไม่มีแต่..มีสองทางคือถ้าไม่ได้ร่างพี่ชัย กับจ่าดำ..ในวันนี้…เราก็จะไม่กลับมาฐานนี่อีกเลย..”
“หมายความ…หมายความว่า”หมู่ชาญหน้าซีดเข้าไปอีกรีบตะกุกตะกักถามเสียง สั่นแต่ยังไม่ทันจบคำก็มีเสียงตอบกลับพร้อมกับการหยุดชะงักของหมวดหนุ่มแล้ว ตามมาด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนมาดุดันเหี้ยมเกรียมของหมวดเพิ่มศักดิ์
“ใช่..ไม่ ได้ร่างพี่เขามา..เราก็จะตายกันตรงนั้นมันทั้งหมวดนั่นแหละ…หรือว่าหมู่ ไม่เห็นด้วย”
นั้นซิ…คำว่าอย่ามองคนแต่เปลือกมันหมายถึงอย่างนี้เอง…หมู่ ชาญเพิ่งเข้าใจคำพูดนี้ก็ตอนนี้..ดวงตาแกแดงกล่ำอย่างตื้นตันใจ..ที่นายทหาร ผู้นี้แม้จะมียศต่ำสุดในบรรดานายทหารสัญญาบัตร..แต่จิตใจนั้นบ่งบอกเหลือ เกินว่า…แม้แต่บรรดานายพันนายพลในกองทัพไทยทั้งหมดที่มีอยู่นั้นยังไม่ได้ แม้แต่กระพี้เดียวของคำว่า..เลือดทหารไทยชาตินักรบ…หมู่ชาญหยุดนิ่งชิด เท้ายืนตัวตรงยกมือทำวันถยาหัตถ์ต่อหน้าหมวดหนุ่มอย่างพร้อมกายพร้อมใจ..ขณะ ที่หมวดหนุ่มเองก็ยืนตรงทำความเคารพตอบเช่นกัน..เล่นเอาบรรดาทหารหาญทั้ง หมวดของตัวเองและหมวดอื่นๆถึงกับยืนงงเป็นไก่ตาแตกเลยทีเดียว……ผลการปฎิ บัติการเป็นไปด้วยความสำเร็จ….แต่ลูกน้องของหมู่ชาย 2 คน ถุกกับระเบิดขาขาดไปคนละข้าง..ส่วนหมวดเพิ่มศักดิ์ถูกกระสุนเข้าใส่ท้อง.. แต่ไม่ใช้เพราะความประมาทของหมวด..เพราะแกโดนยิงขณะที่กำลังวิ่งเข้าไปยัง ร่างของพลทหารทั้งสองขณะโดนกับระเบิดเพื่อลากร่างทั้งสองคนออกมาจากสภาพช่วย เหลือตัวเองไม่ได้ขณะที่แกก็มัวแต่พะวงยิงสกัดข้าศึกอยู่อีกด้าน……ความ กล้าหาญบ้าบิ่นเลือดทุกหยดของนักรบไทยชุดนี้เพียง 12 คน สามารถฝ่าวงล้อมแหกด่านข้าศึกกว่า 100 คน เข้าไปเอาร่างของนักรบร่วมชาติขจรไกลไปทั่วทั้งฝั่งโขง…ผู้บังคับบัญชาที่ เกี่ยวข้องต่างก็ยิ้มหน้าบานและยกย่องเล่าทหารกล้ากลุ่มนนี้……แต่จาก นั้นไม่นานทั้งหมดได้รับการเคลื่อนย้ายให้กลับเข้ากรมกองเพื่อเป็นรางวัลและ รอคำสั่งอื่นต่อไป เพราะกองทัพนับถือและได้จัดให้หมวดปืนเล็กยาวชุดนี้เป็นชุดลับเฉพาะกิจแทน โดยมุ่งหวังจะให้ทำงานด้านราชการลับสุดยอดแทนที….หมู่ชาญได้รับเลื่อนยศ เป็นจ่า..ส่วนร้อยตรีเพิ่มศักดิ์ได้เลื่อนยศเป็นร้อยโทแซงหน้าเพื่อนร่วมรุ่น..แต่ขณะเดียวกันก็ถูกส่งไปรักษาของโรงพยาบาลทหาร…และ ณที่นี้…ท่านแม่ทัพภาคผู้เป็นคนอนุมัติให้เขาสามารถออกปฎิบัติการก็ได้มา เยี่ยมเยียนเขาพร้อมกับกล่าวชมเชยและนับถือในจิตใจความเป็นเลือดนักรบ…แม้ จะไม่ใช่เพื่อรร่วมรบแต่ก็ยินยอมพร้อมตายเพื่อเพื่อนทหารไทยด้วยกันแถมท่าน แม่ทัพเองก็ได้รับคำชมเชยจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปในการมีวิสัยทัศน์ ในการเลือกใช้คนได้เหมาะสม..สมกับคำว่าแม่ทัพ…….แต่สิ่งที่ทำให้ร้อยตรี หนุ่มถึงกับอิ่มเอมและตื่นเต้นหาได้เป็นการมาของแม่ทัพภาคหากแต่เป็นหญิงสาว ในชุดนิสิตขาวสะอาดตาเรือนร่างอรชอนขาวใสสวยสดแพร่มพรายของรอยยิ้มเต็มไป ด้วยเลือดฝาดที่ผุดประกายไปทั้งวงหน้าในขาวผ่องสดสวย….ชื่อ สายทิพย์…ที่ตามบิดามาด้วยเนื่องจากได้ยินบิดาเอ่ยถึงเขาและชื่นชมบ่อย ครัง้……
กว่า 1 ปี หลังจากนั้น ร้อยโทเพิ่มศักดิ์ก็ได้กลับเข้ากรมกองพร้อมกับได้รับการแต่งตั้งให้มาคุมชุด เฉพาะกิจกวาดและทำลายล้างซึ่งก็คือหมวดของหมู่ชาญที่เคยร่วมรบกันมานั้นเอง …ครั้งแรกที่ทั้งสองได้เจอกันอีกหน ก็คือวันแรกที่ร้อยโทเพิ่มศักดิ์เดินทางมารายงาน ณ กรม ทหารราบแห่งนี้แถวบางเขน แต่ด้วยแม้การรบติดพันกับเหล่าคอมมิวนิสต์ยังมีอยู่ต่อเนื่องแต่งานราชการ ลับยังไม่มีคำสั่งลงมา..ผู้หมวดจึงยังคงมีอิสระและประจำในกรมกองในกรุงเทพ ต่อไปโดยพักอาศัยในบริเวณของบ้านพักของเหล่าทหารชุดเฉพาะกิจซึ่งแต่ละคนก็ ได้รับการเลื่อนยศกันทุกคนต่ำสุดจากพลทหารกลายมาเป็นสิบตรี…ส่วนตัวเองก็ ได้เลื่อนยศมาเป็นถึง สิบเอก…..การมาครั้งนี้ของร้อยโทหนุ่มนั้นมิได้มาอย่างเปล่าเปลี่ยวแต่มา พร้อมกับความรักหวานอันแสนรื่นรมย์กับบุตรสาวคนสวยของท่านแม่ทัพที่ได้รับ เลื่อนยศเป็นพลเอกและกลายมาเป็นผู้บังคับบัญชาของเขาด้วยอีกตาหาก…
“ลัลลา..ลัล..ลัลลา…เย้ห์เย้..อืมมมมๆ……” เสียงร้องฮัมเพลงอย่างอารมย์สดใสเจื้อยแจ้วมาเบาๆออกมาจากตัวบ้านของร้อยโท เพิ่มศักดิ์ที่ลอยแว่วเข้ามาในโสตประสาทของหมู่ชาญทำเอาหมู่หนุ่มได้สติกลับ คืนมาอีกครั้ง..เขาเผลอยิ้มที่มุมปากตัวเองเล็กน้อยกับเสียงหวานอันไพเราะดู ท่าทางกำลังอยู่ในช่วงแห่งความสุข…………ใช่นั่นคือเสียงของสายทิพย์ …หญิงสาวซึ่งกำลังจะรับปริญญาอีกไม่กี่วันข้างหน้า…และหลังจากนั้นเธอก็ จะเข้าสู่พิธีวิวาห์กับนายทหารหนุ่มรูปหล่อซึ่งเป็นที่รู้จักกันนี้ในบรรดา เหล่าขุนทหารหาญของชาติ….เธอภูมิใจยิ่งนักและรู้สึกพองโตในหัวใจที่แฟน หนุ่มหรือว่าที่สามีของเธอนั้นได้รับการยกย่องจากบรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่ ทั้งเจ้านายของบิดาหรือแม้แต่เพื่อของบิดา…หญิงสาวผู้งามสะพรั่งไปทั่วทุก อณูของเรือนร่างรูปลักษณ์นั้นโดดเด่นแจ่มจรัสเป็นที่ถวิลหาของบรรดาหนุ่มๆ ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยและแผ่ลามไปถึงกองทัพอันเกรียงไกร…..ธิดาสาวคนโตของ ท่านนายพลเป็นที่กล่าวขวัญ ถึงรูปโฉมนงคราม สติปัญญา วาจาถ้อยคำเพรียบพร้อมไปทุกสัมผัส….แต่ไม่มีใครที่จะอาจหาญเข้ามาทลาย กำแพงหัวใจเธอได้เลยยกเว้นเขาผู้นั้นคนเดียว..ร้อยโทหนุ่มเพิ่มศักดิ์ วันนี้สายทิพย์มาบ้านหรือเรือนหอของหมวดหนุ่มด้วยเสื้อผ้าลำลองไร้ซึ่งความ กังวลหรือเกรงกลัวใดๆ..แม้ครอบครัวของเธอจะไม่ได้พักอาศัยภายในบริเวณค่าย ทหารแต่ใครๆหรือส่วนใหญ่ภายในรั้วค่ายทหารแห่งนี้ต่างก็รู้จักเธอกันหมดแถม บิดายังเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของค่ายทหารแห่งนี้ด้วย เสื้อยืดตัวบางสีเหลืองสดใสขับรับกับกางเกงขาสั้นตัวน้อยขาวสะอาดเนื้อ ละเอียดบางเบาได้รับการบรรจงใส่มาอย่างตั้งใจ……………
วันนี้เธอกับ หมวดคนรักนัดหมายกันมาทำความสะอาดบ้านหลังนี้เพื่อรอรับการมาของ เฟอร์นิเจอร์ข้าวของเครื่องใช้สำหรับการเปลี่ยนแปลงมันเป็นรังรักของเธอและ เขา……….พื้นบ้านไม้กระดานที่ดูเขรอะไปด้วยฝุ่นผงรวมทั้งข้าวของ เครื่องใช้เดิมที่ดูกระดำกระด่างเพราะไม่ได้รับการเช็ดถูจำเป็นที่เธอในฐานะ อนาคตแม่บ้านที่แสนดีของเขาจะต้องเช็ดถูมันให้ดูสะอาดเรียบร้อยทำให้สาย ทิพย์ต้องละเลิกเสื้อผ้าที่ขัดต่อความสะดวกในการทำความสะอาดขนานใหญ่ซะ… และเลือกสรรเสื่อผ้าเครื่องแต่งกายที่ดูแล้วจะสามารถกระทำตามคามประสงค์ของ เธอได้อย่างไม่ติดขัด………หญิงสาวใช้ที่คาดผมคาดคาไว้กลางศรีษะทำให้ผม ดำเงาสยายถูกจัดรวบรวมไว้อย่างเป็นระเบียบปล่อยเลยไปทางแผ่นหลัง….
ขณะที่ ร่างงามของเธอกำลังคุกเข่าคลานเช็ดถูพื้นไม้อยู่อยากอิ่มเอมใจ….อากาศโดย รอบปลอดโปร่งแช่มอุราเสริมพลังเติมแต่งให้ความสุขในอนาคตที่กำลังรอคอยในอีก ไม่กี่วันจรรโลงเป็นอารมย์แห่งสุนทรีย์ขับเคลื่อนออกมาเป็นเสียงใสก้องกัง วาฬผ่านริมฝีปากเรียวบางออกมาเป็นท่วงทำนองแห่งดนตรีกาลอันแสนจะประโลมโสต ทัศน์ของผู้ที่ได้ยินมันหมู่ชาญได้ยินทุกท่วงทำนองอันแสนจะแช่มชื่นใจทุกตัว โน๊ต….ภาพใบหน้าหวานๆของหญิงสาวก็เริ่มจะแจ่มชัดแทรกขึ้นมาในห้วงภวังของ แก่มันแรงขึ้น…แรงขึ้น..ชัดขึ้นมาจนกระทั้งเรือนร่างในชุดของนิสิตสาวยาม เยือ้งย่างก้าวขาขึ้นบันได้บ้านหลังนี้มันชัดเจนเหมือนกำลังเกิดขึ้นจริง… ใบหน้าขาวสวยสดชมพูระเรื่อๆเต็มไปด้วยเลือดฝาดของวัยสาวเอี้ยวคอเมียงมองลง มายังตัวเขาพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาที่กำลัง ยั่วเย้าระคนหยอกล้อให้แก่ชายหนุ่มที่กำลังตะลึงงันในความงามทั้งใบหน้าผิว พรรณและเรือนร่างอันน่าหลงไหลของเธอ…………เอวน้อยคอดกิ่วส่ายไหวไปมา ช้าๆแอ่นสะบัดยักย้ายสะโพกผายกลมกลึงให้แกว่งไกวบิดพริ้วไปตามจังหวะก้าว เดินที่ละนิดๆอย่างแช่มช้อยประหนึ่งนางในสรวงสวรรค์ชั้นฝ้าที่ผลิบินโพยพิน เข้าหยอกเอิญยอดหญ้าบนพื้นพสุธา…
“ลัลลา..ลัล..ลัลลา…เย้ห์” ไม่อีกกี่ก้าวที่เยื้องย่างแผ่วเบาของหมู่ชาญขณะก้าวขาขึ้นมาตามบันได้ไม้ เขาก็จะได้เชยชมร่างงามและใบหน้าหวานชวนฝันอีกครั้ง…หมู่หนุ่มไม่ต้องการ จะทำเสียงใดๆที่จะดังจนไปขัดจังหวะความรู้สึกที่กำลังลื่นไหลของเธอให้หยุด ลง..ตัวเขาอีกหากเทียบอายุกับเธอซึ่งเพิ่งจบปริญญาตรี ก็น่าจะราวๆ 21-22 ก็คงจะห่างกันเพียง ไม่เกิน 10 ปี เด็กสาวอายุขนาดนี้ถ้าใคราเป็นเขาก็จะรู้ได้ดีว่ามันสร้างภาวะการณ์อัน กระอักกระอ่วนใจแก่หนุ่มวัย สามสิบเศษยิ่งนัก…..แต่ยังไม่ทันปล่อยให้อารมย์ของตัวเองเตลิดไปไกลเกินกว่า ใจของตนจะไขว่คว้า…ร่างของหมู่ชาญยอดนักรบผู้ผ่านสนามรบอันดุเดือดจนแทบ ชีวิตจะไม่รอด ผู้ซึ่งเคยผ่านพบ ร่างกายที่ปราศจาก แขน ขา หรือ แม้ตาร่างทหารหาญที่เต็มไปด้วยเลือด กลิ่นอายคาวเลือดฟุ้งตลบอบอวน หรือแม้แต่มันสมองเหลืองสดที่ทะลักออกมาตามรูกระสุนจากกระโหลกศรีษะเพื่อน ร่วมรบ หรือ แม้กระทั่งข้างหน้าจะมีความตายมารอรับอยู่ก็ตาม…เขาก็ไม่เคยที่จะพรั่น พรึงต่อสิ่งเหล่านั้นไม่ แต่สิ่งที่สายตาของเขาประสบพบเจออยู่ตรงหน้าทันทีที่ส่วนดวงตาของเขาโพล่พ้น ขอบชานบ้านขึ้นมาได้เล็กน้อย กลับทำให้ ร่างการทุกสัดส่วนของเขาแข็งเกร็งจนแทบจะทานทนไม่ไหวปราททุกสัดส่วนเขม็ง เกร็งไปทั่ว ร่างกำยยำสีน้ำตาลคล้ำที่เต็มไปด้วยบาดแผลนานับไม่ถ้วนกลับส่งกระแสแตกซ่าน แผ่ขยายเข้ากระแสเลือดนักรบชายชาติทหารจนลุกผ่านเดือดกระจายแทบกระเซ็นไป ทั่วทุกขุมขน สิ่งที่ดวงตาและสายตาของชายหนุ่มผู้นี้ประสบเจอก็คือบั้นท้ายงามงอนกลมกลึง กำลังส่ายไหวไปมาช้าๆซ้ายทีขวาทีสะโพกโค้งมนแอ่นเพยิบๆขึ้นๆลงจนเอวคอดของ เรือนร่างบิดเป็นเกลียว..เจ้าของร่างที่กำลังคุกเข่าคลานเช็ดถูพื้นอย่าง สนุกสนานสวมใส่ซาวเบาท์ตามสมัยนิยมเพื่อฟังเพลงขณะทำงานไปด้วยนั้นทำให้เธอ ไม่ได้มีโอกาสล่วงรู้หรือจับระหัสการเคลื่อนไหวของบุคคลทางด้านหลังได้แม้ ว่าตอนนี้เขาผู้นั้นจะก้าวขึ้นมายืนอยู่บนบ้านอย่างเต็มตัวแล้วก็ตาม ………..
สายตาของหมู่ชาญเพ่งมองไม่กระพริบใบหน้าของทหารหนุ่มก้มมองลง เบื้องล่างจากด้านหลังของหญิงสาว..เลือดกายนักรบหนุ่มแตกซ่านเดือดพล่านไป ทั่วร่างยิ่งมองยิ่งตื่นกระสันนักรบน้อยขยับไหวเบียดผงาดตื่นตัวขยายลำลุก โชนจนปวดหนึบไปทั่วหว่างขา…หมู่หนุ่มผู้เจนรบเผลอลืมตัวระมัดระวังเพราะ เขาเองก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นแบบลำลอง เสื้อยืดกางเกงบอลขาสั้นตัวบางที่สวมใส่มาเมื่อเจอนักรบน้อยตื่นกระสันผงาด ลำขยายใหญ่สุดตัวสุดกำลังแบบรุนแรงรวดเร็วแบบนี้เจ้ากางเกงตัวบางถึงกับตุง เด่โปงพองจนเด่นชัด…ยิ่งร่างงามแอ่นขยับส่ายไหวไปตามแรงเช็ดถูสะโพกผายกลม กลึงของเธอก็ยิ่งขยับเขยื้อยแอ่นโบกสลับไปมากับช่วงเอวบั้นท้ายงามงอนแม้จะ ถูกปิดบังด้วยกางเกงตัวสวยแต่ความบางของมันก็มากมายเหลือเกิน ยิ่งยามเธอคุกเข่าโก่งก้นอวบกลมอยู่อย่างนี้กอยก้นอวบอัดก็ยิ่งตึงเปรี้ยะ แผ่ขยายเนื้อหนังความสาวอัดแน่นกับเนื้อผ้าของกางเกงตัวน้อย…..ชั้นในตัว บางที่ถูกสวมใส่อยู่จึงอวดโฉมแลเห็นได้อย่างทะลุปรุโปร่งผ่านเนื้อผ้าของเก งขาสั้นตัวนั้น……ยิ่งมากยิ่งกระสันหมู่ชาญกลืนน้ำลายลงคบแทบจะไม่ได้ รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่างแถมตอนนี้สายตาเจ้ากรรมเหมือนจะแกล้งเขาให้แตกซ่าน ไปมากกว่าเดิมเพราะเมื่อเผลอมองต่ำลงไหลตามบั้นท้ายงามงอนลามไปตามแก้มก้น อวบกลมลอดลงไปทางง่ามก้นของหญิงสาว…ก็เห็นความอูม….อวบอิ่มแตกเป็นร่อง เห็นเป็นพรูเนื้อกลางง่ามขาทั้งสองข้างด้วยความเต่งตึงของแก้มก้นอวบกลมที่ ทำเอาเนื้อผ้าตึงเปรี๊ยะจนเกิดเป็นร่องแหวกอยู่กลางง่ามขาจนเห็นกลีบเนื้อ แบะออกเป็นสองแคมพรูสวยอย่างชัดเจน…..
หมู่ชาญเห็นแบบนั้นแทบจะหยุดหายใจ ยิ่งเห็นต้นขาอวบกระชับทั้งสองข้างที่เลยพ้นขอบกางเกงออกมาโชว์ความขาวสดใส ผิวพรรณนวลเนียวขาวสล้างดั่งสีของงาช้างแถมแผ่ซ่านปกคลุมด้วยสีชมพูสวยสดจาก เลือดฝาดของวัยสาวผสมผสานปลีน่องกลมมลเกลี้ยงเกลาดั่งลำกล้วยด้วยแล้ว…มโน สติของแกแทบจะดับสิ้นจนอยากจะปลดปล่อยความกระหายของเสือหนุ่มชาตินักรบเข้า ใส่เรือนร่างที่ยังไม่รู้ตัวเผลอขยับตัวส่ายไหวแอ่นเอวไปมาตรงหน้าซะเดี๋ยว นั้น
“หมู่ๆๆ…ผมพาไอ้พวกนี้มาช่วยแล้ว”
….ภายในโรงแรมม่านรูดกลางถนน สุขุมวิท
“ชั่วคราว.เท่าไหร่น้อง”
“ห้าร้อยครับพี่…แล้วพี่..เอ่อพี่จะสั่ง อะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ”
“เอาน้ำส้มกับเบียร์มาอย่างละสองขวดแล้วกัน..เอา.. เอาเงินไปไปอีกไม่ต้องทอนแล้วเดี๋ยวฉันรออยู่ตรงนี้แหละ”
“ครับๆๆพี่รอแป ปครับผม”
“รินจ๋า…รินเข้าไปก่อนนะเดี๋ยวพี่ตามเข้าไป…ไอ้พวกนั้นจะได้ไม่เห็น” เสียงของชายหนุ่มเอ่ยเร่งเร้ากับหญิงสาวหน้าตะสะสวยอายุอานามไม่เกิน 20 ขณะที่เข้าเปิดประตูฝั่งด้านข้างคนขับเพื่อพูดจากับหล่อน
“ต..แต่ว่าพี่เพิ่มริน…”.. เสียงสาวน้อยกล่าวตอบด้วยเสียงอันสั่นเครือด้วยความตื่นกลัวและลังเลต่อสิ่ง ที่บุรุษหนุ่มผู้นี้จะให้เธอปฎิบัติตาม
“น่า..เดี๋ยวพี่รีบเข้าไปครับ..เร็วๆ หน่อยครับเดี๋ยวมันจะกลับมาก่อนเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องกันหมด”
เด็กสาวยังทำ ท่าทางลังเลใบหน้าซี๊ดเผือดตื่นตระหนกกับสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายไว้ แต่แล้วเธอก็ลุกขึ้นก้าวเท้าลงจากรถเก่งกลางเก่ากลางใหม่คันนั้นแล้วรีบจ้ำ พรวดๆเปิดประตูห้องหายลับเข้าไปภายในอย่างเร่งรีบ………….
สายนรินทร์ เดินช้าๆตรงไปยังเตียงนอนรูปทรงกลมรอบด้านยกเว้นทางไปห้องน้ำภายในห้องดัง กล่าวแวดล้อมไปด้วยกระจกสะท้อนทั้งสิ้นแม้แต่ด้านบนเพดานห้องก็ยังมีกระจก สะท้อนบานใหญ่ติดตราดึงฉายเงาภาพของตัวเองให้เห็นอย่างเด่นชัด……… ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในสถานที่ที่คนทั่วไปต่างเรียกมันว่า “ม่านรูด” ก่อนหน้านนี้ทั้งเธอและเขาเวลานัดเจอกันทั้งครั้งจะเป็นโรงแรมหรือไม่ก็ บังกะโลตามแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัด…..แต่ครั้งนี้ด้วยเวลาของเธอและเขา ที่เหลืออยู่น้อยนิดทำให้เธอมิอาจจะปฎิเสธความโหยหาและความคิดถึงที่เธอมี แก่เขาได้เมื่อเขานัดหมายที่จะไปรับเธอที่มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกันกับพี่สาว และนำพาเธอมาที่โรงแรมม่านรูดชานเมืองแห่งนี้แม้ว่าเธอและเขาจะไม่ขัดสน เรื่องเงินสำหรับการเปิดห้องพักในโรงแรมหรูๆกลางเมือง..แต่เพียงแค่เธอและ เขาย่างกรายไป ณ สถานที่แห่งนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเปิดเผยออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนเพราะเธอและเขาต่างก็เป็นที่รู้จักในแวดวงชั้นสูงด้วยกันทั้งคู่….
แน่นอนสาวน้อยธิดาคนรอง หรือกล่าวคือคนเล็กนั้นเองของท่านนายพลผู้เลอโฉมซึ่งมีความงดงามที่มิได้ ด้อยรองไปจากพี่สาวของเธอเลย แถมยังอยู่ในคณะและรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่สาวของเธอเพียงแต่ชั้นเรียน ต่ำกว่า 2 ปีเท่านั้น ย่อมเป็นที่รู้จักกันในสังคมแน่นอน..ส่วนเขาคนนี้นั้นก็คือว่าที่พี่เขยของ เธอนั้นเองสายนรินทร์ตื่นจากภวังก์เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออกเบา พร้อมกับร่างอันกำยำหล่อเหลาของว่าที่พี่เขยพลุบเข้ามา……….ในมือของ เขาทั้งสองข้างถือทั้งเบียร์และขวดน้ำส้มไว้อย่างละสองขวดจนหญิงสาวเองก็อด ประหลาดใจไว้ไม่ได้
“สั่งมาทำไมตั้งเยอะแยะค่ะพี่เพิ่ม”
“ก็พี่กะว่าจะไม่ออก ไปไหนอีกจนกว่า” ว่าที่พี่เขยของสายนรินทร์เอ่ยค้างไว้แค่นั้นขณะที่กำลังวางเครื่องดื่มลงบน หัวเตียงพร้อมกับยกขวดเบียร์ขึ้นดวดขึ้นลงไปจนหมดไปครึ่งขวดในพริบตาแล้ว เมื่อเขาวางมันลงชายหนุ่มก็หมุนตัวกลับตรงมายังร่างงามในชุดนิสิตใสสะอาดตา ที่ยังคงนั้งอยู่บนเตียงนอนอันหนานุ่มพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเธอ…ชาย หนุ่มเบียดสีข้างอิงแนบแอบชิดกับร่างของสาวน้อยผู้เพิ่งจะผ่านพ้นวัยสาวรุ่น ได้ไม่นานจนร่างงามของเธอเองถึงกับไหวเอน………….
แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ได้ คิดขยับเขยื้อนตัวเองให้ถอยห่างออกไปแต่อย่างใด ฝ่ามืออันหยาบกร้านอันเกิดจากการกำกระบอกปืนสู้รบจนได้รับเกียรติยศชื่อ เสียงขจรขจายถูกยกขึ้นมาเกาะกุมฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของเด็กสาวอย่างทนุถนอม… หญิงสาวเองก็มิได้ห้ามปรามกลับเอนกายซบแก้มเปล่งปลั่งของเธอลงไปที่หัวไหล่ ของเขาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เริ่มไหลรินเอ่อล้นออกจากขอบตาดวงสวยอาบชโลมหัว ไหล่อันแข็งแรงของเขาจนชายหนุ่มเองก็รู้สึกได้…..

Share the Post:

Related Posts

คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวติวสยิว

คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวติวสยิว

เรื่องเสียว คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวติวสยิว ผมแต่งงานเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว ถัดมาอีกปีก็มีลูกสาวคนหนึ่ง หลังคลอด คุณหมอแนะนำให้ผมทำหมัน เพราะภรรยาสุขภาพไม่ดี มีโรครุมเร้าหลายโรค ไม่เหมาะกับการตั้งครรภ์อีก ผมเชื่อหมอทำหมันทันที เพื่อถนอมชีวิตภรรยาผม แต่สองปีให้หลังก็ไม่อาจจะรั้งชีวิตเธอได้ เธอจากไปด้วยโรคร้ายมะเร็งในสมอง ทิ้งลูกสาวคนเดียวไว้ให้ผม หลังงานศพเธอ ผมตัดสินใจทิ้งความหลังทั้งหมด ย้ายมาซื้อตึกแถวสองชั้นชานเมืองกรุงเทพ เปิดเป็นร้านถ่ายเอกสารและถ่ายรูปด่วนติดบัตร เลี้ยงลูกสาวคนเดียวด้วยความทนุถนอม ผ่านไปหลายปี

Read More
แม่ผมเป็นโรคซึมเศร้า

แม่ผมเป็นโรคซึมเศร้า

เรื่องเสียว แม่ผมเป็นโรคซึมเศร้า ไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆ คนไหนชอบเรื่อง SEX ในครอบครัวเหมือนผมบ้างไหม ผมเป็นคนนึงที่มีความฝันที่อยากจะมีsexกับแม่แท้ๆของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ แต่ผมก็ยังมีความคิดแบบนี้มาตั้งแต่ผมอายุ 19 หรือตอนเรียนมหาลัยปี 2 นั้นเอง ปัจจุบันผมก็เรียนจบได้ 2 ปีทำงานเป็นครูอยู่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาครอบครัวของเราก็ต้องเสียหัวหน้าครอบครัวไปอย่างไม่มีวันได้กลับมา จากสาเหตุจากที่พ่อของผมนั้นไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้วเกิดอุบัติเหตุทางรถยนตร์ในวันที่เดินกลับจากการทำงาน

Read More