ตำนานนักรัก ตอนที่ 68
แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาผมจะนอนไม่ค่อยหลับ แต่พอรุ่งเช้าก่อนฟ้าสาง ผมก็รุ้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนคุณดา จึงค่อยขยับตัวลุกขึ้น
อย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้คุณดาตกใจตื่น จากนั้นก็เดินออกไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ยังคงเห็นพ่อตาผมหลับสนิท
จึงย่องเท้าเดินผ่านเตียงท่านไป
แม้กระทั่งทำธุระเรียบร้อยแล้ว ขากลับพ่อตาผมก็ยังคงหลับอยู่เช่นเดิม แต่พอเปิดประตุเข้าไปในห้องนอนตนเอง ได้เห็นว่า
คุณดาเธอตื่นแล้ว พร้อมกับชูมือยื่นมาหาผม แม้ผมจะไม่ได้อยากทรุดตัวลงไปนั่งให้เธอกอด แต่ก็ทำไปด้วยความเคยชิน
“ตื่นนานแล้วหรือคะ..ทองดี…” คุณดาส่งเสียงหวานๆร้องถาม แล้วขยับหัวซบลงมาที่ตักผมแทนหมอนหนุน
“ก็สักครุ่เองครับ..ยังเช้ามืดอยู่เลย.คุณดานอนต่อก็ได้ครับ…” ผมบอกเสียงเบาๆ นั่งนิ่งๆ ปล่อยให้คุณดาโอบมือกอดรอบเอว
โดยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้
“เมื่อคืนทองดีพูดจริงๆหรือคะ..ที่ไม่อยากให้มะลิมานอนด้วย…”
คุณดาลืมตาจ้องหน้าผมแล้วถามขึ้นมาอย่างข้องใจ เมื่อผมพยัก
หน้ายืนยัน ความตั้งใจแบบเดิม เธอก็อมยิ้ม แล้วหมุนหัว
ตะแคงมาจูบที่กลางลำตัวผมเบาๆ กล่าวเสียงอู้อี้ๆออกมาว่า ขอบคุณๆ
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ…ผมไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากทำในสิ่งที่ถูกต้อง…ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณดา ที่ยอม
เสียสละความสุขให้ผมทำเช่นนั้น…กับมะลิ..นับจากนี้ผมสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดีของคุณดาคนเดียวครับ..”
กว่าที่ผมจะพูดคำนี้ออกมาได้นั้น ก็ต้องผ่านความคิดมาแล้วแทบทั้งคืน ในเมื่อคุณเจนเธอยอมเสียสละความสุขของเธอเอง
ด้วยการให้ผมลืมเธอ ให้มอบความรักทั้งหมดกับคุณดาแม่ของเธอได้เพียงคนเดียว ทำไมผมซึ่งเป็นผู้ชายจะยินยอมตัด
ความรัก และเสียสละตัวเองให้เธอบ้างไม่ได้ ถ้าโชคชะตาวาสนาให้ผมกับเธอมาพบกันและรักกัน โชคชะตานั้นคงหวังให้
ผมได้รักเธอเพียงอย่างเดียว ไม่ปรารถนาให้เราอยู่เป็นคู่เคียงกันแน่นอน
“ดารักทองดีค่ะ..ไม่ผิดหวังเลยที่ดาเลือกทองดีเป็นสามี..”
คุณดาพูดอู้อี้ๆ เสียงสั่นเครือออกมาเบาๆ แล้วให้รางวัลด้วยการส่ายหน้าคลุกลงไปที่หว่างขาผม จนปากเรียวบางของเธอ
จูบเบาๆที่แก่นกายหดเหี่ยวของผม แต่ทว่ามันก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอันใด จนคุณดาเงยหน้าขึ้นมามองจ้องหน้าผม แล้วถาม
เสียงหวานๆเบาๆ
“ให้เมียช่วยนะคะ….”
ผมยังไม่ทันตอบ คุณดาก็ก้มหน้าลงไปจูบไซ้เน้นๆ โดยเฉพาะที่ลำลึงค์หดเหี่ยว เธอใช้เรียวปากคาบย้ำเบาๆยึกๆ จนมันมี
ปฏิกิริยาพองตัวตอบโต้ คุณดาก็ขยับหัวเงยขึ้นพร้อมถลกชุดนอนผมลงไป ก่อนควักมันออกมาจากกางเกง แล้วรูดยวบๆ
สามสี่ที จนมันพองตัวได้ขนาด ปากเรียวบางก็อ้างับเข้าไป พร้อมดูดดุนเล่นด้วยปลายลิ้น จนมันคับแข็งขึ้นมาเต็มตัว
“คุณดายังไม่พร้อมไม่ใช่หรือครับ…” ผมร้องถามเสียงเบาๆ พร้อมเอื้อมมือไปลูบหัวคุณดาเล่น
“ไม่แน่ใจค่ะ..แต่ดาอยากทำให้ผัวมีความสุข…” คุณดาเงยหน้าขึ้นมาร้องตอบเสียงหวานๆ เสร็จแล้วก้มกลับลงไปใช้ปาก
อีกครั้ง
“ไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งเลยครับ..ผมทนได้…ไปถามหมอก่อนว่าถ้าทำแล้วไม่มีอันตรายกับลูกค่อยทำกัน..ผมพาไปหาหมอวันนี้
เลยนะครับ..” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆปรกติ แต่พอคุณดาเธอได้ยินว่าผมจะพาไปหาหมอ เธอถึงกับชะงักรีบยกหัวออกมา
จากกลางหว่างขาผมทันที
“เอ้อ..ไม่ต้องหรอก..ทองดีไม่ต้องไป ดาไปคนเดียวก็ได้…” คุณดาร้องบอกหน้าตาตื่นๆ พร้อมผุดลุกขึ้นมานั่ง จนผมอด
สงสัยไม่ได้ว่า แค่ผมบอกว่าจะพาคุณดาไปพบหมอ ทำไมเธอจึงมีสีหน้าเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
“เอ้อ..คุณดาครับ..ผมได้คุยกับพ่อแล้วว่า..ผมอยากให้คุณดาจ้างคุณวิมาทำหน้าที่ดูแลท่านแทนผม ส่วนผมอยากไปช่วย
งานคุณดาที่บริษัทบ้างจะได้มั๊ยครับ..เพราะยิ่งนานวัน คุณดาก็ยิ่งท้องใหญ่ขึ้นๆ จนทำงานไม่
สดวก..”
เมื่อคุณดาไม่อยากให้ผมพาไปพบหมอ ผมก็ยังไม่อยากขัดใจเธอ จึงเปลี่ยนเรื่องสนทนากัน คุณดานิ่งครุนคิดอยู่ครู่เดียว
ก็ตอบตกลง แล้วผุดลุกขึ้นเดินลงจากเตียง เธอคงหมดอารมณ์ที่จะช่วยผมแล้วเป็นแน่
เป็นอันว่าวันนั้นคุณดายังคงไม่พร้อมที่จะให้ผมเริ่มงานกับเธอ ผมจึงใช้เวลานั้นไปหาคุณวิ และชักชวนให้เธอมารับงาน
ดูแลพ่อตาผมแทนผม ส่วนคุณเจนผมก็ไม่เห็นเธอลงมาจากห้องเลยทั้งวัน จนกระทั่งเย็น ไอ้เอ็มหนุ่มนักเรียนนอกก็เสนอ
หน้ามารับคุณเจนออกไปหาอาหารทานกันนอกบ้านอีกตามเคย
จะกระทั่งอีกเกือบอาทิตย์นั่นแหละเมื่อคุณวิพร้อมมาเริ่มงานดูแลพ่อตาผมแล้วคุณดาจึงพาผมมาที่ออฟฟิสของเธอ พร้อม
แนะนำให้พนักงานหญิงชายหลายๆคนทำความรู้จักว่าผมเป็นใคร และจะมาช่วยงานอะไรในออฟฟิส โดยให้ผู้ช่วยสาวคน
หนึ่งเป็นคนสอนงานให้ผม ซึ่งจริงๆแล้วมันก็หาได้ยุ่งยากเลยสักนิด แค่ต้องละเอียดรอบคอบในการติดต่องาน กับทาง
โรงแรม กับร้านค้าของที่ระลึกต่างๆ รวมทั้งจัดหาโลเกชั่นสวยๆ ในการถ่ายรูป เพียงแค่ไม่กี่วันผมก็สามารถทำได้แล้ว
“คุณดาไปพบหมอหรือยังครับ..” สายๆวันหนึ่งหลังจากเข้ามาทำงานกับคุณดาได้สี่ห้าวันแล้ว จึงมีโอกาสได้เข้าไปคุยกับ
เธอในห้องทำงาน
“เอ้อ…ยังเลยค่ะ ดามัวแต่ยุ่งอยู่กับงาน” คุณดาตอบมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ผมดูสีหน้าและแววตากลับแปลกใจที่มัน
มีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“งั้นไปกันเสียวันนี้เลยนะครับ…ช่วงบ่ายงานไม่มีอะไรนี่ครับ เดี๋ยวผมขับรถพาไป…”
คราวนี้ผมพูดด้วยเสียงขรึมๆจริงจัง พร้อมจ้องตาแบบคาดคั้นจนคุณดาหลบตาวูบ แล้วบ่นอุ๊บอิ๊บเบาๆคนเดียว แล้วขยับตัว
ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน
“ใจร้อนจังทองดีนี่..ไปก็ได้ แต่ดาขอเข้าไปตรวจคนเดียวนะคะ..ทองดีรอดาอยู่ที่รถ…”
คุณดายังคงมีข้อแม้เสียอีก หรือว่าเธอจะอายหมอที่มีสามีอายุอ่อนคราวลูกแบบผม แต่เมื่อผมบีบบังคับเธอด้วยสายตา คุณดา
จึงลุกขึ้นหยิบกระเป๋ามาคล้องแขน แล้วพาผมเดินออกมาจากที่ทำงานจนถึงรถ ผมแสร้งรับปาก เพราะกะไว้ว่าพอถึงโรง
พยาบาลผมจะพยายามลงไปด้วย เพราะยิ่งคุณดาทำอิดออด ไม่อยากไปพบหมอพร้อมผม มันก็ยิ่งน่าสงสัย แต่ก็ภาวนาให้
ความสงสัยของผมผิด
แต่ดูเหมือนว่าตั้งแต่คุณดาขึ้นมาในรถจากบริษัท เธอก็เอาแต่นั่งเงียบๆเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ตามลำพัง จนกระทั่งเธอสะดุ้ง
เฮือกเมื่อจู่ๆผมก็ถามขึ้นมาเสียงเรียบๆเบาๆ
“คุณดาท้องกี่เดือนแล้วครับนี่..อายุครรภ์ขนาดนี้เรารู้เพศลูกได้หรือยังครับ…”
แม้ผมจะพอทราบดีอยู่แล้วว่า ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมมีอะไรกับคุณดาที่อยุธยา จนมาบัดนี้ อย่างมากที่สุดก็ไม่น่าจะเกินสองเดือน
ครึ่งเอาเป็นว่าอายุครรภ์ของคุณดานั้น มากที่สุดก็เพียง10หรือ11สัปดาห์เท่านั้น ในกรณีย์ที่เธอตั้งท้องตั้งแต่ครั้งแรกที่โดน
ผมเย็ด
“เอ้อ..ๆ..จะถามทำไมคะ..ดาจำไม่ได้หรอก..แล้วก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะรุ้เรื่องเพศของลูกหรือยัง…”
คุณดาตอบอึกอัก ด้วยเสียงที่ตวัดขึ้นสูง เสมือนไม่พอใจที่โดนผมซักถาม พร้อมเอามือกุมหน้าท้องที่อวบนูนเห็นได้อย่าง
ชัดเจน
“ก็ผมอยากรู้ว่าลูกเราจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนี่ครับ…”
ผมตอบเสียงเรียบๆ เหมือนไม่ได้ติดใจสงสัยกับเสียงของคุณดา จนเธอนั่งนิ่งเงียบไปอีกครั้ง พอรถผมเลี้ยวผ่านประตูโรง
พยาบาลย่านถนนเพชรบุรีเข้าไป หาที่จอด คุณดาจึงร้องบอกว่า
“จอดส่งดาหน้าประตูทางเข้าก่อนค่ะ..แล้วทองดีค่อยวนรถไปหาที่จอดทีหลัง เดี๋ยวดาตรวจเสร็จจะโทรบอก..”
ผมทำตามใจเธอ เมื่อจอดรถเรียบร้อยที่ด้านหน้าทางเข้า บุรุษพยาบาลก็นำรถเข็นนั่งมาเทียบ พอคุณดาลงจากรถไปนั่ง
รถเข็น บุรุษพยาบาลผู้นั้นก็เข็นพาคุณดาผ่านประตูกระจกเข้าไปทันที ส่วนผมต้องขับรถวนหาที่จอดจนได้ แต่ก็เสียเวลา
ไปหลายนาที ก่อนจะเจอ และนำรถจอดเข้าซองเรียบร้อยแล้ว จึงลงมา แล้วเดินกลับมายังประตูทางเข้าโรงพยาบาลอีก
ครั้ง ก็เจอบุรุษพยาบาลคนที่นำรถเข็นมาให้คุณดานั่งพอดี
“พี่ครับ..มะกี้พี่พาแฟนผมไปตรวจท้องที่ไหนครับ..”
ผมรีบตรงเข้าไปสอบถามด้วยความอยากรู้ แต่บุรุษพยาบาลผู้นั้นกลับมาจ้องหน้าผมยิ้มๆก่อนที่จะตอบออกมาเบาๆด้วย
น้ำเสียงเรียบๆ
“คุณผู้หญิงชุดสีน้ำเงินนั่นน่ะหรอ แฟนน้อง..”
“ครับใช่..คุณดาน่ะเมียผม…”
ผมไม่แปลกใจในสายตาที่บุรุษพยาบาลมองมาที่ผมแม้แต่น้อย เพราะเค้าก็คงนึกเหมือนคนทั่วๆไปเป็นแน่ ที่เห็นรุปร่างหน้า
ตาของคุณดาดูมีอายุแก่กว่าผมหลายปี แต่เมื่อเจอสายตาดุๆเสียงเข้มๆของผมเข้า บุรุษพยาบาลก็จำเป็นต้องหุบยิ้ม พร้อม
แนะนำและบอกทางไปแผนกสูติแพทย์ให้ผมด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
ผมรีบเดินผละจากไปหลังจากที่ได้รับการบอกทางเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งเห็นป้ายบอกทางไปแผนกสูติ ทันได้เห็นด้าน
หลังของคุณดาแว๊บๆว่าหายเข้าไปในห้องตรวจ ผมจึงเดินตามเข้าไปยืนเก้ๆกังๆในล้อบบี้ด้านหน้าจนมีพยาบาลประจำ
เค้าน์เตอร์มาสอบถาม
“เอ้อ..ผมพาแฟนมาฝากครรภ์น่ะครับ..เธอเพิ่งเข้าไปในห้องตรวจนั้น..” ผมบอกพยาบาลสาวด้วยเสียงเรียบๆพร้อมชี้มือให้
เธอมองตาม
“อ้อ…สามีคุณกานดาหรือคะ…เธอเพิ่งเข้าไปอุลตร้าซาวน์ค่ะ…ทำไมจึงเพิ่งมาฝากครรภ์เล่าคะ..จนอายุครรภ์ตั้งสามเดือน
กว่าแล้ว…”
เสียงพยาบาลสอบถามพร้อมอมยิ้ม คงสมเพชความเด๋อด๋าเมื่อเห็นหน้าตาตื่นๆของผมเป็นแน่ ก็จะไม่ให้ผมทำหน้าตาแบบ
นั้นได้อย่างไรได้เล่า ในเมื่อได้ยินชัดเต็มสองหูว่าคุณดาตั้งครรภ์มากว่าสามเดือนแล้ว
“อะไรนะครับ..คุณพยาบาลว่าเมียผมตั้งครรภ์มาสามเดือนแล้วจริงๆหรือครับ…” ผมถามย้ำให้แน่ใจอีกครั้งด้วยเสียงสั่นๆ
ด้วยความตกใจ
[post]”ค่ะแน่ใจสิคะ..ในแฟ้มประวัติคนไข้บอกแบบนั้น…นี่ไงคะ อาจารย์หมอยังระบุไว้ชัดเจนในประวัติเลย..ภรรยาคงเพิ่งบอก
ให้คุณทราบสินะคะ…อิอิ…”
พยาบาลสาวกล่าวยิ้มๆ พร้อมเดินจากไปทำหน้าที่ต้อนรับ คนไข้รายอื่นที่ทยอยเดินเข้ามาตรวจครรภ์กันอยู่เรื่อยๆ ผมเลย
เลี่ยงไปนั่งรอที่โต๊ะรับแขก จนพยาบาลคนเดิมเดินเข้ามาบอก
“คุณพ่อจะเข้าไปดูในห้องอัลตร้าซาวน์ก็ได้นะคะ…จะได้ตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าจะได้บุตรเพศไหน…”
เมื่อได้ยินคุณพยาบาลบอก ผมรีบลุกเดินไปยืนอยู่หน้าห้องอัลตร้าซาวน์ทันที แล้วตัดสินใจที่จะเปิดประตูเข้าไป เห็นว่า
คุณดานอนหงายอยู่บนเตียง หน้าท้องอูมๆเปิดเลิกขึ้น โดยมีคุณหมอใช้เครื่องมือคล้ายๆไฟฉายลูบไล้ไปตามหน้าท้อง
แล้วปรากฏภาพทารกตัวน้อยๆในครรภ์อยู่บนจอมอนิเตอร์ มันดูเหมือนดักแด้ มากกว่าเป็นทารก พร้อมอธิบายเสียงนุ่มๆให้
คุณดาฟัง ว่าตรงนั้นคืออวัยวะส่วนใด
แต่พอได้ยินเสียงผมเปิดประตูเข้าไป คุณหมอหันมามอง พร้อมกับคุณดาก็ผงกหัวขึ้นมามองและเมื่อเธอมองเห็นว่าเป็นผม
หน้าเธอถึงกับเปลี่ยนสีไปมา ระหว่างแดงก่ำและขาวซีด จนผมต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนที่คุณหมอจะสอบถาม
“ผมเป็นสามีคุณดาครับ…”