ตำนานนักรัก ตอนที่ 76

ตำนานนักรัก ตอนที่ 76

ตำนานนักรัก ตอนที่ 76

หลังจากมะลิเดินออกไปจากห้องแล้ว แทนที่ผมจะรีบตามไปพบเธอที่ห้อง ผมกลับทิ้งตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผาก
บนเตียง ด้วยความรู้สึกที่สับสนไม่เข้าใจตัวเองเลยว่า ความรักและการผิดหวังนั้นมันมีอิทธิพลกับตัวผมขนาดที่มีสาวสวย
น่ารักอย่างมะลิมาเย้ายวนชวนเย็ด แต่ผมกลับไร้อารมณ์ตอบสนอง

แม้ว่าคุณดาไม่ได้ออกปากห้ามปราม แม้จะรุ้สึกสงสารเห็นใจมะลิก็ตามที แต่ทว่าท่อนลำของผมมันกับนอนนิ่งสงบไม่มี
ปฏิกิริยาอันใดโต้ตอบกับเรือนร่างอวบอิ่มสมบูรณ์ของมะลิเลยแม้แต่นิด ฉนั้นหลังจากนั้นครู่ใหญ่ ผมก็ตัดสินใจลุกขึ้นจาก
เตียงนอน เดินออกไปที่ห้องรับแขก แต่แทนที่จะเลี้ยวไปทางห้องนอนของมะลิกับสาลี่ ผมกลับเดินขึ้นบันไดไปช้าๆ แม้
จะได้ยินเสียงมะลิร้องเรียกตามหลัง ผมกลับไม่ฟัง ยังคงเดินดุ่มสาวเท้าก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของคุณดา

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ผมก็
กลับลงมาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง เจอพ่อตาผมกับคุณวินั่งพักเล่นอยู่ก่อนแล้วแต่ไม่
เห็นทั้งมะลิและสาลีอยู่ด้วย มะลิเธอคงผิดหวังและเสียใจ ที่ผมไม่สนองตอบความต้องการของเธอก็เป็นได้ จึงไม่ได้ออก
มาคอยรับใช้พ่อตาผมเหมือนปรกติ

“ผมออกไปธุระก่อนนะครับพ่อ…” ผมเอ่ยบอกพ่อตาผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พร้อมเดินเลี่ยงทำท่าจะออกไปเปิดประตูบ้าน
แต่พ่อตาผมกลับรีบร้องถาม

“แล้วเอ็งจะไปยังไงล่ะทองดี…ไม่เอารถไอ้เจนมันไปใช้ล่ะ จอดอยู่ว่างๆ..”

“อย่าเลยครับพ่อ..ผมไปรถรับจ้างดีกว่า…”

ผมร้องตอบไปด้วยความเกรงใจ เพราะมันเป็นธุระส่วนตัวของผมหาใช่ออกไปทำธุระให้พ่อตาหรือว่าคุณดาจึงต้องเอารถ
ในบ้านขับออกไปใช้

“อุ๊บ๊ะ!…เอ็งพูดเหมือนไม่รู้ใจพ่อ…แค่รถยนต์ ขับคันไหนออกไปใช้ ทำไมต้องมาเกรงใจกัน พ่อไม่หวงหรอก ขนาดทั้งลูก
ทั้งหลาน ยังยกให้เป็นเมียเอ็งเสียด้วยซ้ำไป…จริงมั๊ยแม่วิ..ฮ่าๆๆๆ”

พ่อตาผมพูดเหมือนน้อยใจ แต่ตอนท้ายแกกลับหัวเราะขำๆออกมา ทำเอาผมอึ้ง รู้สึกซาบซึ้งกับคำพูดของแก จึงหันกลับ
เดินมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา พร้อมก้มหัวลงกราบขอโทษ

“ผมขอโทษครับพ่อ..ช่วงนี้ผมรู้สึกสับสนว้าวุ่นใจเหลือเกิน…”

“เออ..พ่อเข้าใจ…ว่าเอ็งคงไม่สบายใจเรื่องไอ้เจนมัน…รักเค้าไปแล้วนี่หว่า..ฮ่าๆๆ จริงมั๊ยล่ะ…นี่ละบทเรียนที่เอ็งจะต้องคิด
และเรียนรู้ว่าจะผ่านมันไปได้อย่างไร…จะหวังให้พ่อตามช่วยทุกเรื่องคงไม่ได้ละ..พ่อช่วยเอ็งมามากแล้ว คราวนี้เอ็งต้องหา
วิธีช่วยตัวเองแล้วละ…”

พ่อตาผมพูดด้วยน้ำเสียงปราณี พร้อมยื่นมือมาลูบหัวปลอบเบาๆ ให้ผมคิดและตั้งสติรับสถานการณ์นี้ด้วยตนเอง เสมือนผม
มิใช่ลูกเขยหรือหลานเขย แต่เป็นลูกชายคนหนึ่งของแกกระนั้น

“ครับพ่อ..ผมจะจำคำพูดของพ่อไว้…” ผมตอบรับเสียงอุ๊บอิ๊บเบาๆ ความรู้สึกหนักอกหนักใจ ดูเหมือนมันบรรเทาเบาบาง
ลงไปแทบจะทันที

“ว่าแต่เอ็งจะไม่ชวนมะลิมันออกไปเที่ยวเล่นบ้างรึ…” แต่แล้วพ่อตาผมก็ทำให้ผมต้องนิ่งอึ้งอีกครั้ง เมื่อท่านร้องถามก่อนที่
ผมจะออกจากบ้าน

“เอาไว้ก่อนครับพ่อ..ช่วงนี้ผมอยากอยู่ตามลำพัง…”

ผมตอบพร้อมเดินไปหยิบกุญแจรถสปอร์ตของคุณเจน จากนั้นก็ขับออกจากบ้านไปตามลำพัง โดยยังไม่รู้จุดหมายปลาย
ทางว่าควรจะไปหาญาติๆตามที่ร้องบอกกับพ่อตาผมดีมั๊ย

แต่แล้วพอรถใกล้ถึงหน้าปากซอยที่ผมจำเป็นต้องชะลอรถ ก่อนจะเบรคหยุดเพื่อมองรถทางด้านขวามือก่อน เพื่อจะเลี้ยว
ไปทางด้านซ้าย ก็ต้องเบรครถกระทันหันเมื่อจู่ๆ มะลิเดินออกมายืนขวางหน้ารถ ผมไม่ทราบว่าเธออกมาจากบ้านตั้งแต่
ตอนไหน และคิดอย่างไรจึงมายืนขวางหน้ารถผมไว้เช่นนี้ จึงลดกระจกรถลงเพื่อสอบถาม

“ให้มะลิไปด้วยนะคะ…”

ทันทีที่กระจกรถถูกลดลง มะลิรีบวิ่งถลาเข้ามายืนด้านข้าง แล้วร้องบอกเสียงรัวๆ หน้าตาตื่นๆ ผมได้แต่อึกอัก ไม่รู้จะตัด
สินใจประการใดดี นอกจากรีบบอกให้มะลิอ้อมมาขึ้นรถเพราะรถคันหลังเริ่มบีบแตรไล่เสียงดัง

“มะลิ…ออกมาจากบ้านทำไม….” ผมถามเสียงเข้มๆ ทันที่ที่มะลิเปิดประตูรถเข้ามานั่งด้านข้าง

“ให้มะลิได้วยนะคะ…”

มะลิยังคงพูดคำเดิม พร้อมส่งสายตาแดงๆอ้อนวอน จนผมต้องเลียวรถไปจอดข้างทางเพื่อคุยกับเธอ พร้อมเริ่มรู้สึกอึดอัด
ที่มะลิออกมาดักรอพบผมเช่นนี้

“ออกมานี่บอกใครหรือเปล่ามะลิ..เดี๋ยวที่บ้านเข้าใจผิดกันหมด…”

ผมถามเสียงเข้มๆออกไปอย่างตำหนิ จนหน้ามะลิถอดสี ดวงตายิ่งแดงก่ำตั้งท่าจะร้องไห้ด้วยความตกใจและเสียใจ ที่เธอ
ไม่เคยได้ยินเสียงเข้มๆแบบนี้จากผม

“บอกพี่ลี่แล้ว…พี่..ให้มะลิไปด้วยนะ…” มะลิตอบอึกอัก เสียงสั่นเคลือ ในมือกอดกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบเล็กๆไว้แน่น

“ไม่ได้…”

ผมตอบสั้นๆเสียงเข้มๆ พร้อมขับรถออกไป เพื่อหาทางยูเทิร์นพามะลิกลับมาส่งบ้านตามเดิม ทำเอามะลิน้ำตาคลอไหล
ปริ่มลงมาตามร่องแก้ม

“ไม่กลับ…มะลิตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับไปอีก..ถ้าพี่ไม่ต้องการพามะลิไปด้วย..ก็จอดรถให้มะลิลงข้างทาง..มะลิจะไปตาม
ทางของตัวเอง…”

มะลิร้องตอบเสียงดังปนเสียงสะอื้น แล้วทำท่าจะเอื้อมมือไปปลดล็อคประตูรถ เมื่อผมไม่ยอมหยุดรถจอดตามที่เธอร้องบอก
ทำเอาผมต้องเอื้อมมือซ้ายไปคว้ามือมะลิดึงไว้วุ่นวายจนรถแฉลบไปมา เดชะบุญที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ

“ก็ได้ๆ…ไปกับพี่ก็ได้…”

ที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ชั่วคราว บอกจะให้เธอไปด้วยหวังให้อารมณ์ของมะลิสงบลง แล้วทันที่ที่บอก ท่าทางของมะลิก็สงบ
ลงจริงๆ เธอนั่งห่อตัวซุกนิ่งเงียบอยู่กับเบาะ ไม่ได้ร้องถามผมแม้สักคำว่าจะพาเธอไปไหน แต่ภายในหัวของผมกลับคิดวุ่น
วายว่าจะทำอย่างไรดี จนขับรถไปตามทางเรื่อยๆ ในถนนเทพารักษ์ แล้วตัดสินใจได้ว่า พามะลิออกไปนั่งทานข้าวสักมื้อ
ดีกว่า แล้วค่อยหาเวลาพูดคุยปลอบใจเธอ ว่าผมไม่ได้มีเจนตนาละทิ้งเธอ แต่เมื่อเช้าที่ผมไม่ตามไปที่ห้องนั้น เพราะมัน
ไม่มีอารมณ์จริงๆ แต่ก่อนอื่น ผมต้องโทรไปบอกเรื่องมะลิให้พ่อตาทราบเสียก่อน ที่ท่านจะรุ้ว่าบัดนี้มะลิหายออกมาจากบ้าน
ดูเหมือนว่า โชคยังเข้าข้างผมอยู่ เพียงโทรศัพท์ไปอธิบายไม่นาน พ่อตาผมก็เข้าใจ

“มะลิมันก็เป็นเมียคนหนึ่งของเอ็งเหมือนกัน พามันออกไปเที่ยวบ้าง คงไม่เป็นไรหรอก..แล้วพ่อจะบอกแม่ดาให้เอง.ฮ่าๆๆๆ..”

เป็นคำพูดสุดท้ายที่พ่อตากรอกเสียงเข้ามาในโทรศัพท์ พร้อมทั้งเสียงหัวเราะๆกวนๆชอบใจ ทำให้ผมอดอมยิ้มไม่ได้ พร้อม
คิดว่าให้ตายแล้วเกิดใหม่อีกกี่ชาติ ก็ไม่มีวันหาพ่อตาดีๆแบบนี้ได้

เมื่อรายงานเรื่องมะลิให้พ่อตาทราบเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับรถออกจากปั้มน้ำมัน บ่ายหน้าออกนอกเมืองจุดหมายปลายทาง
คือบางปู ที่มีภัตตคารติดทะเล และอากาศชายทะเลสดชื่น คงมีเวลาพูดคุยทำความเข้าใจกับมะลิได้บ้าง

“พี่โกรธมะลิหรือเปล่าคะ…” มะลิร้องถามขึ้นมาด้วยสุ้มเสียงสั่นๆ หลังจากที่ผมขับรถออกมาจากปั้มน้ำมันเรียบร้อยแล้ว

“คราวหลังมะลิอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ…” ผมไม่ตอบเธอว่าโกรธหรือไม่โกรธ แต่เตือนและห้ามมิให้เธอทำอะไรเอาแต่ใจ
แบบนี้อีก

“มะลิขอโทษ…คราวหลังมะลิไม่ทำอีกแล้ว…มะลิไม่อยากเห็นพี่เครียดเรื่องเมียพี่นี่คะ..เลยคิดว่าจะเอาตัวเข้าไปเพื่อทำให้
พี่ผ่อนคลายได้บ้าง…” มะลิให้เหตุผลซื่อๆ เสียงอุ๊บอิ๊บเบาๆ แต่ตายังไม่กล้ามองจ้องตาผม

[post]”พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคุณดานี่ครับ….มะลิเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า….” ผมร้องถามมะลิด้วยความแปลกใจ เธอคง
เข้าใจผิดไปแน่ที่เห็นผมไม่ได้ตามคุณดาออกไปส่งไอ้เอ็มที่สนามบิน

“พี่ต่างหากที่เข้าใจผิด…มะลิไม่ได้หมายถึงคุณดาค่ะ…”

คราวนี้มะลิหันหน้ามาจ้องหน้าผม พร้อมพูดและอมยิ้ม เล่นเอาผมสะอึกสองมือเกร็งยึดขอบพวงมาลัยรถไว้แน่น จนเหงื่อซึม
ด้วยความตกใจ ที่ได้ยินมะลิพูดเช่นนี้

“เหลวไหลน่า…มะลิ..” ผมเอ็ดมะลิเต็มเสียงแก้เก้อ แล้วใจเต้นกระวนกระวายเมื่อมะลิหันมาจ้องหน้าผมแล้วอมยิ้มก่อนจะพูด
ช้าๆเน้นๆออกมา

“คืนวันที่คุณเจนออกไปเที่ยวกับคุณเอ็มน่ะ พอกลับมามะลิแอบเห็นนะคะว่า..พี่กับคุณเจนเย็ดกันที่เชิงบันได..พอสักพักพี่ก็
อุ้มคุณเจนไปยืนเย็ดกันหน้าห้อง… หรือพี่จะปฏิเสธว่ามะลิพูดไม่จริง…”

ผมไม่อาจที่จะปฏิเสธได้เลยว่ามันไม่ใช่ความจริง วันนั้นผมเย็ดกับคุณเจนก็หวังว่าพ่อตาผมจะเห็นจากกล้องcctv จนเอาแต่
จ้องมองจุดที่ตั้งของกล้องบนเพดานห้อง ไม่ระแวงเลยว่าจะมีใครบางคนแอบดูอยู่ในระดับเดียวกันกับผม

“วันที่พี่จะไปทำธุระให้คุณท่านที่อยุธยากับคุณเจนและเพื่อนเธอ แล้วพี่ปฏิเสธที่จะมีอะไรกับมะลิ คงเพราะพี่จะเก็บแรงไป
เอ้อ…เย็ดคุณเจนใช่มั๊ยล่ะคะ…”

มะลิเดาเรื่องได้ทะลุปรุโปร่งจนผมไม่คิดจะแก้ตัว ได้แต่ขับรถออกไปยังจุดหมายปลายทางเงียบๆ จนรถเลี้ยวเข้าไปตรงทาง
เข้าสถานตากอากาศบางปู จึงกำชับมะลิ มิให้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง โดยเฉพาะกับคุณดา

Share the Post:

Related Posts

แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู

เรื่องเสียว แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู เอิร์นนะคร้า เป็นสาวมหาลัยในเชียงใหม่นี้เองค่า เอิร์นเป็นสาวมหาลัยปีสองแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้ชายเลย ยุคนี้แล้วเนอะ ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะคะที่ล่าแต้ม เอิร์นเองก็กินมาเยอะเหมือนกันค่ะ สูงยาว ลำอวบ ใหญ่ยาว กินมาหมดแล้วค่า ชีวิตครั้งนึงเนอะ เรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องมีบ้างอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ และแน่นอนว่าเอิร์นเลยกินแต่วัยเดียวกัน รู้ตัวอีกทีได้แอบกินรุ่นใหญ่พี่แท็กซี่ซะอย่างนั้นเลยค่ะ ที่สำคัญไม่เคยเจอมังกรที่ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มาก่อน มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยความที่อยู่เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะ

Read More

จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว

เรื่องเสียว จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว “ตั้งกล้องเรียบร้อยแล้ว มึงพร้อมยังจะได้กดเริ่ม” วันนี้เรามีถ่ายคลิปวิดีโอทำอาหารที่คอนโดของพวกเราสองคนที่เป็นเพื่อนกัน เรามองเม็กที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดจนเห็นแผงอกที่เป็นมัดกล้าม กางเกงขาขั้นสั้นสบาย ๆ แต่พอมาอยู่บนร่างกายของเม็กแล้วมันดูดีไม่น้อยเลย ถึงแม้เราทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่พอมาเจอมันในลุคนี้ก็ทำให้เราใจสั่นไม่น้อย “มึงกูสวยยัง” “สวยแล้ว” พอได้รับคำตอบที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว เราก็พยักหน้าให้มันเริ่มกดบันทึกภาพวิดีโอทันที การถ่ายทำดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นตอนการชิมอาหาร “อะ

Read More