ตำนานนักรัก ตอนที่ 79
“ไม่ใช่นะพี่..มะลิออกไปดักรอคุณทองดีเอง..พี่ก็ทราบนี่จ๊ะ…คุณทองดีไม่ได้ชักชวนมะลิให้ออกไปด้วยเสียหน่อย…”
มะลิรีบพูดแทรก แก้ต่างให้ผม ด้วยน้ำเสียงหวั่นวิตกจนใบหน้าใสๆของเธอซีดเซียว ดูแล้วน่าสงสาร
“ไม่เป็นไรหรอกมะลิ…ไม่ต้องกลัว…”
ผมร้องปลอบมะลิเบาๆ พร้อมสาวเท้าก้าวเดินเข้าไปในตัวบ้าน รีบเดินตรงไปยังพักของพ่อตาผมทันที แล้วเคาะประตุเรียก
ท่านเบาๆ เมื่อหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ด้วยเกรงใจว่าจะเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะอีกไม่ได้แล้ว เพราะท่านไม่ได้อยู่ตามลำพัง
ภายในห้องนั้นยังมีคุณวิอยู่อีกคน
“ผมเองครับพ่อ…” ผมรีบขานตอบ หลังจากได้ยินเสียงแหบๆของพ่อตาผมร้องถามออกมาว่าใคร
“เออ..เอ็งรีบเข้ามาเลย..”
ทันทีที่ได้ยินเสียงพ่อตาอนุญาต ผมรีบเลื่อนประตุเปิดออกอย่างร้อนใจ นึกสังหรณ์ใจว่าคงมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่ เมื่อเข้าไป
ในห้องเห็นว่าคุณวิกำลังประคองพ่อตาผมลงจากเตียง พามานั่งที่เก้าอี้บุหนังสีดำ ตัวเดียวกับที่ผมเคยปรับเอนแล้วยึดไว้
เป็นที่
นอนชั่วคราว ผมจึงรีบเดินไปหาที่นั่งตรงข้ามกับตัวท่าน แล้วรีบสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านอย่างร้อนใจ
“คุณลุงคะ..ให้วิออกไปก่อนมั๊ยคะ…” พ่อตาผมยังไม่ทันตอบ คุณวิก็ชิงกล่าวขึ้นเสียก่อน ดูสีหน้าของเธอ ผมยิ่งมั่นใจว่าคง
เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นมาแน่ ระหว่างที่ผมกับมะลิไม่อยู่บ้าน
“ไม่ต้องหรอกจ๊ะ..หนูวิไม่ใช่ใครอื่น…อยู่นี่ละ..”
แม้ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน พ่อตาผมก็ยังมีอารมณ์พูดออดอ้อนกับคู่ขาคนใหม่ของแกด้วยน้ำเสียงหวานๆกรุ้มกริ่ม ไม่เปลี่ยน
แปลง คุณวิจึงทรุดตัวลงนั่งบนที่เท้าแขนของเก้าอี้ตัวใหญ่ข้างๆตัวพ่อตาผมตามเดิม
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับพ่อ..” ผมถามย้ำอีกครั้ง เพราะกระหายใคร่รู้เต็มทนแล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ก็แม่ดาน่ะสิ..พ่อไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นอะไร..พอหล่อนรู้ว่าเอ็งไม่อยู่บ้าน..ซ้ำมะลิมันก็ไม่อยู่อีกคน..คงคาดเดาว่ามะลิ
มันออกไปกับเอ็ง..ก็เป็นฟืนเป็นไฟ โมโหใหญ่เลย.. แล้วพาลออกไปจากบ้านพร้อมเพื่อนๆของหล่อน…”
พ่อตาผมบอกเรื่องราวช้าๆ ด้วยความงุนงง ที่จู่ๆทำไมลูกสาวตนเองจึงโมโหขนาดนี้ เมื่อทราบว่าผมออกไปข้างนอกบ้าน
กับมะลิ ทั้งๆที่ตัวเธอเป็นคนอนุญาติเอง ที่ให้ผมมีอะไรกับมะลิสาวใช้ภายในบ้าน
ครั้นพอผมได้ยินเรื่องราว ก็เกิดความงุนงงไม่ต่างไปจากพ่อตาเลยแม้สักนิด ไม่เข้าใจว่าคุณดาจะโมโหโกรธผมด้วยเรื่อง
นี้ทำไม ในเมื่อตัวเธอเองเป็นคนพามะลิมาเสนอ มาให้ทำหน้าที่ผู้ช่วยยามที่เธอตั้งท้อง มีอะไรกับผมไม่ได้ หรือว่าจะเป็น
เรื่องอื่นกันแน่ แล้วผมก็เสียวสันหลังวาบเมื่อนึกไปถึงเรื่องของผมกับคุณเจน จึงรีบสอบถามพ่อตาผมให้แน่ใจ
“คุณดามาโกรธผมในเรื่องของมะลิ…ไม่ถูกนะครับพ่อ…เพราะเธอเป็นคนพามะลิมาให้ผมเอง หรือว่าคุณดาทราบความจริง
แล้วว่าผมมีอะไรกับคุณเจน…”
“เฮ้ย!…เรื่องของเอ็งกับไอ้เจนน่ะ..พ่อไม่ได้พูดนะ…รอให้ตัวเอ็งแก้ปัญหาด้วยตัวเองเสียก่อน จึงค่อยบอกแม่ดา..พ่อว่า
แม่ดาก็คงยังไม่ทราบเรื่องหรอก…เอ็งใจเย็นๆ เดี๋ยวคืนนี้แม่ดากลับมา เราค่อยคุยกัน..ว่าแต่เอ็งคิดหาทางออก แก้ไขปัญหา
นี้ได้หรือยังล่ะ…”
“ครับพ่อ…ผมคิดว่า จะไปขอโทษคุณดา..และสารภาพความจริงว่าผมมีอะไรกับคุณเจนแล้ว…แต่ที่ทำแบบนี้นั้น มิได้หวัง
ให้คุณดายับยั้งเรื่องของคุณเจนกับคุณเอ็มหรอกนะครับพ่อ…ทั้งสองคนคงเหมาะสมกันดีแล้ว และถึงอย่างไรผมก็เชื่อว่า
คุณเจนคงไม่มีวันกลับมาหาผมอีก ตราบใดที่ผมยังเป็นพ่อเลี้ยงของเธอ..แต่จะให้ผมเลิกลากับคุณดา เพื่อคุณเจนนั้น ผม
ทำไม่ได้ครับพ่อ..เพราะผมกำลังมีลูกกับเธอ…”
แม้คำว่ามีลูกกับเธอ จะไม่มีน้ำหนักอะไรเลยในใจผมที่ตัดสินใจเช่นนี้ ด้วยความจริงที่ผมรับรู้เพียงคนเดียวว่า เด็กที่อยู่ใน
ท้องของคุณดา หาใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของผม แต่ผมคงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างมากเป็นแน่ ถ้าจะเอาข้ออ้างนี้มาเป็น
เหตุผลเพื่อเลิกกับคุณดา
“อืม…ถ้าเอ็ง..ตัดสินใจเช่นนี้แล้วว่าจะลืมไอ้เจนมัน…แล้วเอ็งจะไปอธิบายให้แม่ดาฟังทำไมวะ..เก็บเรื่องนี้ไว้ให้ตายไปกับ
ตัวเอง ไม่ดีกว่ารึ..แล้วทำใจให้ความสุขกับแม่ไอ้เจน และบริวารคนอื่นๆก็พอ…พ่อต้องขอโทษเอ็งด้วยวะ…เห้อออ…
พ่อไม่รู้เลยว่าไอ้เจนมันจะมีความคิดแบบนี้..ที่จะไม่ยอมใช้สามีคนเดียวกับแม่..ถ้าพ่อรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ พ่อคงไม่วาง
แผนแบบนั้น..เพราะมันทำร้ายจิตใจของทั้งเอ็งและหลานของพ่อ….”
ท้ายเสียงถอนหายใจของพ่อตาผม เสียงที่พูดออกมานั้นสั่นเครือ แสดงว่าท่านเสียใจจริงๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนผมได้
แต่ฝืนยิ้มปลอบใจ แล้วกล่าวตอบเบาๆ
[post]”ไม่เป็นหรอกครับพ่อ..สิ่งที่พ่อทำล้วนแต่เป็นความหวังดี..แต่ตัวผมเองที่โชคไม่ดี ที่ไปรักคุณเจนอย่างจริงใจและเธอก็รัก
ตอบผมเช่นกัน..เรื่องราวมันจึงไม่ง่ายๆ แบบที่พ่อคิดครับ…..”
“แล้วเอ็งมีเหตุผลอะไรหรือวะ..ถึงได้มาโกหกพ่อ ตั้งแต่วันแรกที่กลับมาจากอยุธยา…”
หลังจากที่พ่อตาผมได้ยินคำพูดของผมไปแล้ว ว่าผมไม่ได้โทษท่านที่เป็นคนวางแผนการนี้ขึ้นมา จนมีผลกระทบต่อตัว
ผมและคุณเจน จึงมีน้ำเสียงที่แช่มชื่นขึ้น รีบซักถามสิ่งที่ท่านข้องใจ ว่าเพราะเหตุใดผมจึงหลอกท่านในครั้งนั้น
“คุณเจนขอร้องไว้ครับพ่อ…ถ้าผมบอกความจริง เธอขู่ว่าจะหนีออกจากบ้าน..ตอนนั้นผมเชื่อครับว่าเธอไม่ได้แค่พูดขู่
คุณเจนทำแน่ ผมจึงต้องยอมพูดโกหกกับพ่อ หวังเพียงให้เธอยังคงอยู่ใกล้หูใกล้ตาไม่ไปไหน…จนกระทั่งคุณดาพานาย
เอ็มมาดูตัวนั่นแหละครับ ผมจึงแน่ใจว่าคุณเจนคงกำลังวางแผนใช้วิธีแต่งงานไปกับคนอื่น เพื่อหนีปัญหา ผมจึง
เอ้อ…พยายามมีอะไรกับคุณเจน เพื่อให้พ่อเห็นทางกล้องcctv..หวังว่าพ่อจะช่วยแก้ปัญหาให้ผมได้ โดยที่ผมไม่ผิดคำพูด
ที่รับปากกับคุณเจน..แต่แผนนี้ก็ไม่เป็นผล พ่อไม่ได้ย้อนเทปกลับไปดู จนคุณเจนมาทราบความจริงว่า ที่เธอต้องเสียตัว
ให้ผมนั้น เพราะการวางแผนของพ่อ ในวันงานแต่งพี่ชิตน่ะครับ..ทั้งยังเข้าใจผมผิด คิดว่าผมช่วยพ่อวางแผน เพียงเพื่อ
หวังให้ได้ตัวเธอ..ไม่ได้ทำไปด้วยความจริงใจ คุณเจนเลยโกรธผม และผมก็ไม่ทราบเลยว่าเธอวางแผนไปเรียนต่อ
เมืองนอก…คิดเพียงว่าเธอใช้นายเอ็ม เพื่อถ่วงเวลาให้มีทางออกที่ดีขึ้น แต่ตอนนี้ผมว่าคุณเจนเธอคงตัดใจจากผมได้
แล้วละครับ….”
ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตนเองประสพมาให้พ่อตาผมและคุณวิฟังทั้งหมด ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ซึ่งทั้งสองคนต่างก็นั่งฟัง
กันเงียบๆ จนผมเล่าจบ ต่างก็ถอนหายใจดั่งหนักใจ ออกมาพร้อมๆกัน
“แล้วเอ็งจะทำยังไงต่อล่ะ…”
“ก็อย่างที่ผมพูดน่ะครับ ว่าจะสารภาพความจริงกับคุณดา แต่ถ้าพ่อว่าไม่สมควร..ผมก็จะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และอยู่
ให้ความรักกับคุณดาและลูกต่อไป โดยพยายามตัดใจจากคุณเจนครับ….”
“อืมมมม..พ่อ..ขอบใจเอ็งว่ะ…”
พ่อตาผมพูดสั้นๆ พร้อมเอื้อมมือมาลูบหัวผมด้วยความปราณีเบาๆ ผมรู้ดีจากสัมผัสว่าพ่อตาผมก็รุ้สึกเสียใจเช่นกัน ที่แผน
การที่หวังดีของท่าน กลับมาย้อนทำร้ายความรู้สึกทั้งของผมและคุณเจนหลานสาว จนกายต้องแยกจากกัน ทั้งๆที่ใจยัง
รักกันอยู่
“ว่าแต่เอ็งพูดคุยกับไอ้มะลิมันเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ยวะ..ยังไงเสียมันก็เป็นผู้หญิงของเอ็งคนหนึ่งนะโว๊ย..คราวหลังอย่าทำ
ให้มันรู้สึกเหมือนกำลังโดนเอ็งทอดทิ้ง..ไม่ว่าจะเป็นแม่ดา หรือมะลิ หรือคนไหนๆ เอ็งก็ต้องเฉลี่ยความรักให้ลดหลั่นกัน
ไปให้ทั่วถึง…”
พ่อตาผมจบคำสั่งสอนด้วยเสียงหัวเราะหึๆ จากนั้นก็ซุกมือที่วางบนตักคุณวิหายวาบเข้าไปในหว่างขาทันทีต่อหน้าผม เล่น
เอาคุณวิตัดพ้ออายๆเบาๆ แล้วพยายามดึงแขนพ่อตาผมออก แต่โดนท่านแข็งขืน พร้อมทำตาเจ้าชู้ใส่ จนคุณวิต้องจิกตา
ค้อนดุๆอายๆ แล้วอมยิ้ม ปล่อยให้มือข้างนั้นลูบๆคลำๆหว่างขาตนเองต่อไปโดยดี