หลง ภาค 2 ตอนที่ 1
แพมตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนอันอบอุ่นของตนเอง หญิงสาวรู้สึกมึนหัวและปวดเมื่อยไปทั้งร่างกายโดยเฉพาะที่ง่ามขา เธอเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงนอนสำรวจดูด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่พบความผิดปกติ หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง สลัดศีรษะขับไล่ความมึนงง พร้อมกับพยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมถึงได้ปวดเมื่อยแบบนี้ จำได้ว่าเธอไปงานปาร์ตี้กับน้องแนน จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับมานอนที่นี่ได้ยังไง
ช่างมันเถอะ นึกไม่ออกก็ช่างมัน เธอเหลียวไปดูนาฬิกา ได้เวลาแต่งตัวไปมหาลัยแล้ว หญิงสาวลุกขึ้นบิดขี้เกียจสองสามที แล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนู อาบน้ำแต่งตัว แล้วลงมาข้างล่าง จัดการกับอาหารเช้า อันประกอบไปด้วย ขนมปัง หมูแฮม ไข่ดาว แล้วตามด้วยกาแฟจนเรียบร้อย เธอก็ออกมาจากบ้านเตรียมที่จะขับรถไปมหาลัย แพมกวาดตามองเพื่อจะดูว่ามีเด็กคนไหนอยู่แถวนั้นจะได้เรียกให้ไปเปิดประตูรั้ว ก็เห็นนายเรือง หลานชายของลุงอ่ำคนขับรถ กำลังเพลินอยู่กับการรดน้ำต้นไม้ จึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าเจ้านายคนสวยของตัวเองลงมาที่รถแล้ว
ดวงตาตากลมโตของ
แพมตอนนี้กำลังจ้องมองไปที่ร่างของนายเรืองพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนสวนของเธอเปลือยท่อนบนแลเห็นกล้ามเป็นมัดๆ แผงอกกว้างแข็งแกร่ง แพมจับจ้องมองผิวที่ค่อนข้างคล้ำ เนื้อกล้ามเป็นมันระยับสะท้อนกับแสงแดดจนเป็นประกาย เธอรู้สึกร้อนวูบวาบ ใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมจึงรู้สึกร้อนรุ่มไปถึงขนาดนี้ ร่างเปลือยท่อนบนของคนสวนหนุ่มทำให้เธอเกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ หญิงสาวถึงกับเผลอกลืนน้ำลาย เอานิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากบาง แล้วสอดนิ้วเข้าไป ดูดเลียที่ปลายนิ้วอย่างลืมตัว
หญิงสาวแอบมองได้สักพัก เรืองก็หันมาเห็นเจ้านายสาว
“อ้าว! คุณแพม จะไปมหาลัยแล้วหรือครับ”
แพมสะดุ้ง ใบหน้าของเธอเป็นสีแดงระเรื่อ รีบพยักหน้าให้
“งั้น ผมไปเปิดประตูให้นะครับ”
“ขอบใจจ้ะ”
สาวแพมรีบเข้าไปนั่งในรถ แต่ดวงตายังจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างของเรือง (อือ นายเรืองนี่ดูแข็งแรงกำยำดีจริงๆ) สายตาของเธอกวาดลงมาที่ด้านล่าง เลื่อนลงไปที่ใต้เข็มขัด หญิงสาวจ้องเขม็งจินตนาการลึกเข้าไปถึงเนื้อแท้ๆของมัน ใจหวิวไหวเต็มไปด้วยความเสียวซ่าน มือเรียวงามเลื่อนลงไปลูบคลำที่หน้าขาของตัวเอง คลึงไปคลึงมาบนกระโปรง
นายเรืองหลังจากเปิดประตูก็หันมาทางรถ คอยอยู่สักพักก็ไม่เห็นเจ้านายจะเลื่อนรถออกมาซักที ด้วยความสงสัยทำให้ชายหนุ่มเดินตรงมาที่รถ ทันใดรถสปอร์ทคันหรูก็ขับสวนออกไปอย่างรวดเร็ว
“คุณแพมวันนี้ดูแปลกๆ” เรืองพึมพำขณะที่เดินกลับไปปิดประตูรั้ว
…………………………………………….
“น้องแนน ไม่เอาแล้วนะ เมื่อคืนก็เล่นพวกพี่จนหมดแรงแล้ว”
จิรพนธ์ร้องห้าม พร้อมกับปัดมือของสาวแนนออก บรรดาเพื่อนๆพี่ๆที่ร่วมกันรุมน้องแนน พากันชิ่งหนีหมดเมื่อเจออาถรรพ์รสสวาทของหมอจัน กรรมก็เลยตกมาที่จิรพนธ์ที่ต้องรับผิดชอบพาน้องแนนมานอนที่บ้าน โชคดีที่บ้านหลังนี้มีเขาอยู่คนเดียวจึงไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเห็น
“โธ่! พี่จิคะ ก็แนนอยากอีกแล้วนี่ พี่จิ” แนนร้องอุทธรณ์ ตาหวานฉ่ำ
“ไม่ได้แล้วแนน เดี๋ยวต้องไปเรียนกันแล้ว”
“เรียนอะไรกันคะ ไม่เรียนแล้ว มาทำกันดีกว่าค่ะ พี่จิ ไม่ต้องกลัวเหนื่อยน่า แนนทำให้เอง” สาวแนนพูดแล้วเอื้อมมือไปที่ท่อนเนื้อของจิรพนธ์ซึ่งกำลังห้อยหัวอย่างน่าสงสาร จิรพนธต้องปัดมือสาวรุ่นน้องอีกครั้ง คราวนี้เขาชักโกรธที่สาวแนนพูดไม่รู้เรื่อง
“จะบ้าหรือแนน ถ้าอยากมากก็ไปเป็นกะหรี่เหอะ คราวนี้ละมีผู้ชายมาเอาทั้งวันทั้งคืน”
แทนที่จะโกรธแนนกลับตาลุกวาว
“จริงหรือคะพิ่จิ เป็นกะหรี่มีผู้ชายมาเอาทั้งวันทั้งคืนเลยหรือคะ”
จิรพนธ์ใจหายวูบเห็นอาการร่านสวาทของแนน ก็ตกใจ เขาเพียงแต่พูดด้วยอารมณ์ไปอย่างนั้น คิดไม่ถึงว่าแนนจะทำท่าเหมือนจะเอาจริง เขารีบดึงแนนมากอดด้วยความสงสาร
“โธ่!น้องแนน พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ควรพูดกับแนนอย่างนั้น”
“พิ่จิคะ แนนอยากเป็นกะหรี่ค่ะ พี่จิช่วยแนนหน่อยซิคะ… แนนไม่รู้ว่าจะทำยังไง แนนอยากนอนกับผู้ชายเยอะๆ”
จิรพนธ์เอามือขยี้หัวตัวเอง เขาไม่รู้จะทำยังไงแล้ว จะทิ้งไปตามยถากรรมก็สงสาร จะเก็บเอาไว้ก็เดือดร้อน แต่เขาปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ที่แนนเป็นอย่านี้ก็เพราะตัวเขาเอง และจิรพนธ์ก็ไม่เลวพอที่จะทิ้งเธอได้ อนาคตของแนนอยู่ในกำมือของเขาคนเดียว
[“คนผูกเงื่อนก็ต้องเป็นคนแก้เงื่อน”] จิรพนธ์คิดในใจ [“เอาน้องแนนไปหาหมอจันดีกว่า น้องแนนเป็นอย่างนี้หมอจันต้องรับผิดชอบ”]
……………………………………………..
ภายในมหาลัย
“แพม” ธวัชชัยเอ่ยปากทัก เมื่อเห็นอดีตคนรักเดินมาที่รถ เขามาดักรอเธอตรงนี้อยู่นานแล้ว
“คงไม่ได้มารอแพมนะคะ อาจารย์” แพมพูดเสียงเรียบ
“โธ่!แพม ขอโอกาสให้พี่ได้อธิบายอะไรบ้างได้มั้ย”
แพมยกนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วยักไหล่
“ไม่มีเวลาแล้วค่ะ แพมนัดน้องจี๊ดซ้อมเทนนิสในอีกยี่สิบนาทีนี้ แพมต้องรีบไป”
“อะไรกันสนามเทนนิสอยู่แค่นี้เอง ห้านาทีก็ถึง”
“เสียเวลาค่ะอาจารย์ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว”
แพมตัดบทแล้วเดินไปที่ประตูคนขับ แต่ธวัชชัยเดินไปพิงไว้
“เอ๊ะ” แพมขมวดคิ้วเรียวงามด้วยความไม่พอใจ
“แพม… พี่ขอห้านาที” ธวัชชัยพูดเสียงอ่อน
“หลีกไป” แพมเน้นเสียงหนัก “ถ้าไม่หลีก แพมจะตะโกนว่าอาจารย์ลวนลามแพม”
ธวัชชัยจ้องหน้าสาวสวยด้วยความโกรธ แต่แพมจ้องตอบอย่างไม่เกรงกลัว
“แพม เอาจริงนะ..หนึ่ง…สอง…สา”
“ก็ได้… ไว้แพมอารมณดีค่อยคุยกันก็ได้”
ธวัชชัยถอนใจ เดินหลบออกไป แพมกดรีโมทเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปนั่งข้างในรถโดยไม่ชายตามองเขาแม้แต่น้อย จากนั้นสปอร์ทคันหรูก็ขับออกไปอย่างไม่ใยดี ทิ้งให้อาจารย์จอมเจ้าชู้มองตามด้วยดวงตาละห้อย
….แม้จะมีปริษา แต่ธวัชชัยก็ยังเสียดายแพมไม่หาย เขาถอนหายใจ…. ความงามของแพมทำให้เขารู้สึกเหมือนกับสูญเสียสิ่งที่มีค่าในชีวิตไปอีกชิ้นหนึ่ง แพมเป็นสาวงามจริงๆ ความงามของเธอล้ำเลิศ เป็นความฝันของผู้ชายในมหาวิทยาลัยทุกคน ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่เขารู้จักจะเทียบกับแพมได้เลย นอกจาก..ปริษา ธวัชชัยนึกสงสัยว่าปริษาตอนสาวๆจะสวยสักแค่ไหนนะ แม้แต่ตอนนี้เธอก็ยังมีความงามอันล้ำเลิศ แต่ความงามของปริษานั้นต่างจากแพม ความสง่านั้นไม่แพ้กัน แต่ปริษาดูอ่อนแอเปราะบางเหมือนกับจะยอมแพ้อยู่ตลอดเวลา ต่างกับแพม ซึ่งมีความเชื่อมั่นในตนเองอยู่เต็มเปี่ยม และนั่นเป็นคำตอบว่าทำไมเขาจึงถูกแพมเตะทิ้งออกมาจากชีวิตอย่างไม่ไยดี
……………………………………………..
“เฮ้ย! ไอ้จิ ทางนี้โว๊ย” เสียงไอ้แมนร้องเรียกเมื่อเห็นจิรพนธิ์เดินมาแต่ไกล
จิรพนธ์ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างอมทุกข์หันไปมองก็เห็น ไอ้เต่า ไอ้เบี้ยว ไอ้เหม่ ไอ้แมน ไอ้อ๊อดจับกลุ่มกันอยู่ ก็รีบเดินเข้าไปหา
“อะไรกันวะ มาสุมหัวอยู่กันครบแก๊งเลย” ไอ้จิพูด
“ทำไมหน้าตาอมทุกข์จังเลยวะ ไอ้จิ” ไอ้เบี้ยวถาม
“ยังมีหน้ามาพูดอีกหรือวะ… ก็เรื่องน้องแนนไง พวกมึงนี่เสร็จแล้วชิ่งกันหมด ทิ้งให้กูรับผิดชอบคนเดียวนะมึง”
“อ้าว! แล้วมึงไปรับผิดชอบทำไม ก็ปล่อยมันไปตามเรื่องตามราวซิโว๊ย น้องแนนเค้าเป็นแม่มึงรึไง”
“กูไม่ใจดำแบบพวกมึงนี่หว่า”
“เฮ้ย อย่าทะเลาะกัน” ไอ้เต่ารีบร้องห้าม “ไอ้จิ มึงก็ไปจริงจังอะไรกับอีแนนมันวะ ปล่อยวางซะบ้างเถอะ”
“เออ! ไม่อยากทะเลาะก็ไม่ต้องคุยเรื่องนี้… นี่พวกมึงมาสุมหัวอะไรอีก อย่าบอกนะว่าคิดเรื่องเหี้ยๆกันอีกแล้ว”
ไอ้เหม่หัวเราะเคี๊ยก เคี๊ยก แบบกวนส้นเท้า
“ไอ้เหี้ยจิแม่งฉลาดโว๊ย กูบอกเลยละกัน พวกเราเลือกเหยื่อได้อีกแล้วโว๊ย”
“เหยื่ออะไรอีกวะ กูไม่เอาด้วยแล้ว”
“ไม่ฟังก่อนหรือว่าคราวนี้ใคร” ไอ้เต่าพูดอย่างมีเลศนัย
“ใคร” จิรพนธ์อดไม่ได้ที่จะต้องถาม
“น้องหวาน กมลวรรณไง สนไม๊เพื่อน สุดน่ารักเลย”
“เฮ้ย! น้องหวานยังเป็นเด็กอยู่เลย”
“เด็กเหี้ยอะไร ก็ปีหนึ่งแบบอีแนนนั่นแหละ”
“ไม่เหมือนกันนะโว๊ย น้องแนนนั่นเค้าชอบสนุก แต่น้องหวานนั้นเรียบร้อยแบบเด็กๆ”
“เออ เรียบร้อยนั่นแหละกูชอบ เร้าใจดีว่ะ เร้าใจกว่าพวกแร่ดๆเยอะ” ไอ้อ๊อดพูดเสียงกระเส่า
“สาวเรียบร้อย นี่กลีบคงปิดสนิท อูยยย กูขอเปิดบริสุทธิ์นะเพื่อน” ไอ้แมนว่า
“ข้ามศพกูก่อนเหอะ” ไอ้เต่าว่า “กูจะเย็ดให้น้องหวานหัวสั่นหัวคลอน ร้องครวญครางว่า พี่เต่า แรงๆค่ะ พี่เต่าสุดยอดเลยค่ะ อูย ซี๊ด” ไอ้เต่าทำเสียงเล็กเสียงน้อย
“อย่าเลยว่ะ กูสงสาร ขอร้องเถอะ เธอไม่เหมาะกับพวกเราหรอก”
“เฮ้ย ไอ้จิ นี่มึงเปลี่ยนเป็นพ่อพระตั้งแต่เมื่อไหร่วะ เรื่องแบบนี้จริงๆมึงควรจะเป็นคนรบเร้าไม่ใช่หรือ” ไอ้อ๊อดเริ่มเหล่ด้วยความสงสัย
จิรพนธ์อึ้ง จริงของไอ้อ๊อด เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้ เขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นสภาพของน้องแนน เมื่อเช้าเขาแวะพาแนนไปส่งให้กับหมอจัน หมอจันทำได้แค่เพียงสะกดให้เธอนอนหมดสติ แล้วบอกกับจิรพนธ์ว่ายังคิดไม่ออกว่าจะแก้ยังไง เขาจึงฝากแนนไว้กับหมอจันแล้วมาเรียน ในใจเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขาไม่รู้ว่าน้องแนนจะได้เรียนจบหรือเปล่า แล้วไอ้พวกเวรนี่หาแต่เรื่อง ปัญหาเก่ายังแก้ไม่ได้ หาเรื่องใหม่มาสุมหัวอีกแล้ว แถมนี่ยังเป็นเด็กที่น่ารักบริสุทธิ์แบบน้องหวานอีกด้วย
“ทำไมเงียบไปวะ หมดสมรรถภาพไปแล้วหรือมึง” ไอ้อ๊อดล้อ
จิรพนธ์ถอนใจ“แล้วพวกมึงจะทำยังไง”
“ก็พาน้องหวานผู้น่ารักไปทัวร์สวรรค์น่ะซิ กูติดต่อหมอจันไว้แล้ว”
“หมอจันอีกแล้ว”
“เออ! แต่คราวนี้ไม่พลาดแน่ คราวที่แล้วมันพลาดก็เพราะอีแนนมันทำตัวมันเองนะโว๊ย ไม่ใช่ผิดพลาดที่หมอจัน”
“เริ่มเมื่อไหร่ก็บอกกูเล้วกัน” จิรพนธ์ตัดบท
“ต้องอย่างนี้ซิเพื่อน” ไอ้แมนตบไหล่จิรพนธ์อย่างพอใจ
จิรพนธ์ขมวดคิ้วครุ่นคิด เขาไม่เห็นด้วยกับเพื่อนๆหรอก แต่รู้ว่าถึงปฏิเสธ ไอ้พวกนี้มันก็ไม่ยอมปล่อยกมลวรรณแน่ ดูไปก่อนแล้วกัน…