เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 18
ฐิติพรรณไม่ใช่คนโง่ ถึงแม้ว่าเธอกำลังอยู่ในช่วงแห่งความรู้สึกอิ่มเอมกับการแผนการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว คือทั้งช่วยไม่ให้ตัวเองต้องตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของเด็กวัยรุ่นชั้นสวะเหล่านั้น และยังเป็นการแก้แค้นต่อรุจิราที่คอยเยาะเย้ยถากถางเธอด้วยคำพูดและสีหน้าแววตามาโดยตลอดอย่างสะใจ
แต่ภายใต้อารมณ์แห่งความสาแก่ใจกับความสำเร็จตามแผนการล่อหลอกคู่อริของเธอไปโดนรุมโทรมนั้น พริตตี้สาวรู้สึกมีอะไรบางอย่างรบกวนจิตใจ…เสียงนั้นพยายามบอกให้เธอตั้งสติใคร่ครวญ
…มีบางอย่างไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรือ…อย่างน้อยเธอเคยคิด
เหตุการณ์ที่เธอผ่านมากับตัวเองในค่ำคืนนั้นที่กลับออกมาจากผับกับศักดา
…และอีกฝ่ายรถเสียกระทันหัน…รถป้ายแดงอย่างนั้น…ไปจบลงตรงรถเมล์คันนั้นที่ตรงเข้ามารับเธอเหมือนกับไม่มีอะไรผิดปกติ
…มันไม่ใช่…มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน…มันต้องเป็นแผนที่ถูกเตรียมการเอาไว้…
ยิ่งคิดดวงตาของพริตตี้สาวก็แทบลุกเป็นไฟ เมื่อประกอบกับคำบอกเล่าของคันธรสว่าแท้ที่จริง…ศักดานั้นเป็นแค่แมงดาลวงโลก…ล่อหลอกผู้หญิงตีกินไปวันๆ
ฐิติพรรณโทรศัพท์ไปหาชิดโดยทันที…
และจากนั้นฐิติพรรณก็แทบคลั่ง เมื่อความฉุกคิดนั้นได้รับการตอกย้ำอย่างชัดเจน จาการหว่านล้อมตะล่อมถามจนอีกฝ่ายหลุดปากออกมาว่าร่วมมือกับศักดา ซึ่งความจริงหัวโจกเด็กนรกก็ไม่ได้ยี่หระอะไรนักที่จะบอกความจริงอยู่แล้ว น้ำเสียงที่เล่าให้ฐิติพรรณฟัง
จึงไม่มีวี่แววแห่งความรู้สึกผิดแต่อย่างใด ซ้ำยังหัวเราะร่วนให้พริตตี้สาวจนเธอแทบจะกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความคั่งแค้น
ไอ้ศักดา…ไอ้ชาติชั่ว…มันทำลายอนาคตของเธอจนป่นปี้ด้วยเงินตอบแทนแค่ไม่กี่หมื่นบาท….
ดวงตาคู่งามของพริตตี้นั้นหลั่งไหลน้ำตาแห่งความแค้นออกมา ใบหน้าที่สวยจัดนั้นเปล่งประกายอันเหี้ยมเกรียม
มันต้องได้รับการตอบแทนจากเธออย่างสาสม…ไอ้แมงดาชาติชั่ว…
…………………..
เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นสับสนอยู่บริเวณหน้าอาคารใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดรวมตัวของบรรดานักศึกษาที่เข้าประกวดเวทีมีสยูนิเวอร์ซิตี้ที่กำลังจะออกเดินทางไปร่วมทำกิจกรรมเก็บตัวกับกองประกวด ข้างๆ รถบัสคันใหญ่ถึงสองคันรถที่จอคอยอยู่นั้น บัดนี้มีกลุ่มคนวุ่นวายสับสนเดินขวักไขว่ไปมา กระเป๋าโดยสารกองเป็นภูเขาย่อมๆ กำลังถูกลำเลียงขึ้นไปในรถบัส ในเวลานั้นที่มุมต่างๆ รอบบริเวณลานกว้างจะแลเห็นบรรดานักศึกษาหน้าตาดีจับกลุ่มยิ้มหัวเราะและถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะกิ๊วก๊าวดังขึ้นโดยทั่วไปเป็นระยะๆ
ท่ามบรรยากาศแห่งความรื่นเริงบันเทิงใจ บรรดาพ่อแม่พี่น้องที่มาส่งบุตรหลานไปร่วมกิจกรรมของกองประกวดต่างยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาเบิกบาน มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้น จะมีก็แต่เพียงเด็กสาวหน้าหวานคนเดียวเท่านั้นที่ทำตาแดงๆ ยืนกอดร่างเล็กบางของพี่สาวเอาไว้แน่น
พี่แต๋วที่ยืนอยู่ข้าง ตบอกตัวเองอย่างแข็งขัน
“น้องษาไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ…พี่แต๋วคนนี้รับรองจ้ะว่าจะดูแลพี่นุชของน้องษาแบบไม่ยอมให้ริ้นไต่ไรตอมเลย…”
อรนุชเองก็พยายามเสริมคำพูดของสตรีผู้สูงวัยกว่า และกล่าวปลอบใจน้องสาวตัวเองด้วยน้ำเสียงรื่นเริง ทั้งๆ ที่ในใจชักแป้วไปเหมือนกันที่เห็นน้องสาวคนเล็กเป็นถึงขนาดนี้ เธออดสงสัยในใจไม่ได้
…ทำไมยายษาคราวนี้ถึงได้งอแงถึงขนาดนี้นะ…
วูบหนึ่งนั้น เด็กสาวหวนนึกน้ำเสียงแปลกๆ ของพี่สาวคนโตที่โทรมาหาเธอในวันนั้น…ก่อนที่เธอเกือบจะประสบกับชะตากรรมที่สุดเลวร้าย…ถ้าไม่ได้…น้องสาวที่มีสติดี…และ…เขา..คนนั้นที่เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันท่วงที
“นุช..พี่เป็นห่วง…ดูแลตัวเองดีๆ นะ…ฝากน้องด้วย…”
เสียงของพี่สาวคนโตนั้นประหนึ่งว่ายังคงดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ความรู้สึกอย่างหนึ่งมันตื้อขึ้นมากระทันหันจนจับไปที่ขั้วหัวใจ ร่างเล็กบางสั่นระริก ขนลุกซู่…ดวงตากลมโตของอรนุชพลอยชื้นๆ ไปด้วยน้ำตาขึ้นมาเหมือนกัน ยืนกอดน้องสาวเอาไว้แน่น…และในที่สุดต่างคนต่างน้ำตาไหลออกมา
พี่แต๋วเห็นดังนั้นแล้วทำท่าเหมือนกับจะเป็นลม รีบควักไปที่กระเป๋าหยิบซองกระดาษทิชชู่ออกมาวุ่นวาย ฉีกดึงออกมายื่นกระดาษให้กับอรนุช ส่งเสียงโอดโอย
“ตายๆๆๆ…อะไรกันเนี่ย…โอยยย…พี่แต๋วจะเป็นลม…น้องนุช….น้องษา…ไม่เอาค่ะ..ไม่เอา…โถ….ไปแค่ไม่กี่วันเองนะคะ…พี่แต๋วก็บอกแล้วไงว่าจะไม่ยอมให้น้องนุชเป็นอะไรเด็ดขาด…เอ้า…เช็ดหน้าเช็ดตาซะนะจ๊ะ”
อรนุชพยายามหักห้ามใจที่กำลังปั่นป่วน ยกหลังมือปาดน้ำตาตัวเองทิ้ง ปรับสีหน้าใหม่ให้สดใสร่าเริงขึ้น ยิ้มให้กับอรอุษา พลางใช้กระดาษนุ่มที่พี่แต๋วส่งให้บรรจงป้ายซับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางบนแก้มของน้องสาวอย่างอ่อนโยน
“ษา…ษาต้องเข้มแข็งนะจ๊ะ…พี่รับรองว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด…นะจ๊ะ..อย่าร้องไห้…คนเก่งของพี่”
อรอุษาพยักหน้ารับคำพร้อมกับพยายามกลั้นน้ำตาตนเองเอาไว้ เวลานั้นจมูกโด่งงามของเธอแดงก่ำ จนเสียงขึ้นจมูกกระท่อนกระแท่น
“ค่ะ…พี่นุช…ษาจะเข้มแข็ง…พี่นุชจะได้ไม่ต้อง…เป็นห่วงษาเหมือนกัน…”
แต่ถึงแม้อรอุษาจะพยายามหักห้ามใจสักเพียงไร แต่ในที่สุดดวงตากลมโตนั้นก็หลั่งหยาดน้ำใสๆ ออกมาอีก เมื่อเธอยืนมองรถบัสคันนั้นพาพี่สาวของเธอแล่นออกไปจากบริเวณลานจอดจนลับตา
…………………….
ปานเทพเพิ่งวางหูโทรศัพท์ลงหลังจากจบการสนทนาปรึกษาหารือกับฝ่ายกฏหมายเรื่องเกี่ยวกับนำเรื่องของโรงแรมเครือปาล์มบีชขึ้นศาล เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ธนาน้องชายโผล่หน้าเข้ามา
“คุณพ่อให้มาตามพี่เทพครับ”
คนเป็นพี่เลิกคิ้วถาม
“เรื่องอะไร…แกรู้ไหม”
“คงจะเรื่องการขอประนอมหนี้ของโครงการหมู่บ้านที่คุยกันค้างอยู่คราวประชุมคณะกรรมการบริหารที่แล้วมังครับ…ได้ยินว่ามีนักการเมืองช่วยวิ่งให้…สงสัยว่าคุณพ่อคงอยากฟังความเห็นพี่เทพ”
ปานเทพผงกศีรษะ ลุกขึ้นยืนก่อนจะส่งแฟ้มเอกสารตรงหน้าให้น้องชาย
“นี่คือประวัติของโครงการโรงแรมปาล์มบีชที่ทำเรื่องการปรับโครงสร้างกับเราทั้งหมด พี่มีสรุปข้อพิจารณาของฝ่ายกฏหมายด้วย แกเอาไปอ่านดูรายละเอียดนะ…คืนนี้เสี่ยทองเขานัดเราไปเจอที่โรงแรม”
ธนาทำหน้าเบื่อ
“ผมเซ็งกับเรื่องนี้เต็มทีแล้ว…เราเองก็ทำไปตามกฏเกณฑ์ที่มีอยู่ไม่ได้หรือครับ”
“เออน่า…ไปรับฟังข้อเสนอของทางเขาดูอีกทีจะเป็นไรไป…นี่พี่ก็เพิ่งปรึกษาเรื่องกับฝ่ายกฏหมายเสร็จหยกๆ เกี่ยวกับการเอาเรื่องขึ้นศาล…เราก็เตรียมงานของทางเราไป…ทางเขาก็คงต้องดิ้นหนักหน่อยมันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว…ถ้าไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่าเราก็คงทำไปตามแผน”
น้องชายผงกศีรษะรับแฟ้มมาถือไว้ ก่อนที่ปานเทพจะตบบ่าธนาและขยับจะเดินออกไปจากห้องเพื่อไปพบกับบิดาของเขา…นายธวัชชัย…ผู้เป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัทบริหารหลักทรัพย์ชื่อดังของเมืองไทยแห่งนี้
ก่อนจะพี่ชายจะเดินออกไปนั้น ธนากระตุกแขนเสื้อของพี่ชายเอาไว้ กล่าวด้วยใบหน้าขัดเขินนิดๆ
“เอ่อ ถ้าช่วงนี้ไม่มีมีตติ้งอะไรสำคัญนัก เสร็จจากคืนนี้แล้ว ผมขอตัวได้ไหมครับ…”
ปานเทพยิ้มกว้าง กล่าวเคล้าเสียงหัวเราะ
“จะไปหายายนุชล่ะสิ…”
น้องชายเกาศีรษะเขินๆ ก่อนจะพยักหน้า
“ครับ…หมู่นี้งานยุ่งมากจนไม่มีเวลาไปเจอน้องนุชเลย…เมื่อวันก่อนที่เธอประสบอุบัติเหตุเรื่องรถ…ผมก็ยังติดประชุมเสนอรายงานอยู่…ร้อนใจจะตายแต่จะออกไปหาก็ไม่ได้…”
ปานเทพหัวเราะเสียงดัง ผงกศีรษะ
“เอาเถอะน่า…ยัยนุชโทรมาว่าไม่เป็นอะไรมากก็โอเคแล้ว….อือม์…เอาเถอะ…พี่เห็นใจแก…เอาอย่างนี้แล้วกัน…หลังจากคุยกับเสี่ยทอง…เราก็มาสรุปแนวทางกันอีกครั้ง…จากนั้นแกก็ฟรี…”
ธนายิ้มกว้างอย่างสดชื่น ดวงตาเป็นประกาย นึกใคร่อยากจะโบยบินไปหาเด็กสาวร่างเล็กบางคนนั้นตั้งแต่เดี๋ยวนี้
………………….
เกมกามที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงครางกระเส่าของรุจิราดังประสานกันอย่างเร่าร้อน
“อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ….ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ….”
เด็กสาวแหงนหน้าเพริด อ้าปากส่งเสียงร้องออกมาอย่างสุดเสียว เมื่อร่างที่มีแต่คราบน้ำกามกำลังนั่งขย่มควยของมืดที่นอนแผ่อยู่บนเตียงนั้นกำลังสั่นระริกไปทั้งตัว เพราะความเสียวกระสันนั้นกำลังไต่ระดับจนใกล้จะถึงจุดกระสันซ่านน้ำแตกเต็มที
สองเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงแต่ทว่าแตกต่างในรายละเอียดเกิดขึ้นในรังสวาทแห่งนี้ ครั้งก่อนเป็นฐิติพรรณที่ตกอยู่ในอาการที่แก๊งเด็กนรกมอมยาเธอจนคุมสติไม่อยู่ แต่ครั้งนี้รุจิราที่เพลิดไปกับเพลิงกระสันที่ถูกป้อนให้เสพสมอย่างต่อเนื่องนั้น ชิดกับพวกไม่ได้ใช้ยากับเด็กสาวแต่อย่างใด…
ตลอดค่ำคืนอันยาวนาน กับความหื่นกระหายของสมาชิกแก๊งเด็กนรกที่ตักตวงเอาจากเรือนกายของสาวสด รุจิรานั้นสลบเหมือดไปหลายต่อหลายครั้ง และเมื่อเธอฟื้นความรู้สึกขึ้นมา ทุกครั้งจะมีร่างของวัยรุ่นสมาชิกแก๊งนรกกำลังทาบทับกระเด้าเธออยู่อย่างเมามันราวกับไม่มีที่สิ้นสุด…
เมื่อร่างกายที่กะปลกกะเปลี้ยเริ่มมีอาการตอบสนองต่อความเสียวกระสัน และปากงามของเด็กสาวอ้าออกครางครวญ ท่อนเอ็นอวบของเด็กช่างกลที่เธอไม่เคยรู้จักก็แอ่นกระเด้ายื่นเข้ามาต่อหน้า
หลังจากที่ถูกสอนให้รู้จักรสชาติของท่อนเอ็นที่ฉุนกลบปากเป็นครั้งแรกตั้งแต่ในรถเมล์นรกเมื่อคืนก่อน รุจิราก็รู้ดีว่าต้องทำอะไรกับท่อนเนื้อที่ถูกยื่นเข้ามานั้น
ทุกประการวนเวียนไปเหมือนกับหนังฉายซ้ำ….เพลิงสวาทระลอกแล้วระลอกเล่าที่ถาโถมเข้าใส่ประสาทสัมผัสอันอ่อนไหวของเด็กสาว…ความเสียวกระสันจนถึงจุดสุดขีด ร่างกายที่สั่นเทิมร่านระริกเสียวซ่านจนแทบจะปริออกจากทุกรูขุมขน….ก่อนที่ความเหนื่อยล้าจะคืบคลานเข้ามา…ความเจ็บระบม…และอย่างช้าๆ ความเสียวระลอกใหม่ก่อเกิด…วนซ้ำจนร่างกายของเธออ่อนล้าเกินกว่าจะรับรู้อะไรได้อีก….และทุกอย่างค่อยๆ ดับมืดสนิทไปจากความรับรู้….จนกระทั่งเธอฟื้นขึ้นมาใหม่อีกรอบ….
เวลาเลยเที่ยงมาแล้วตอนที่รุจิราที่ตื่นขึ้นมาพบกับอ้วนที่กำลังทะลวงควยอวบกระซวกโพรงหลืบของเธออย่างเมามัน เสียงหัวเราะทักทายจากเด็กช่างกลร่างอ้วนที่ใบหน้ามันอูมนั้นมีรอยยิ้มอย่างกระหาย รุจิราครางออกมาอย่างเจ็บปวดร้าวระบมไปทั่วตัว แต่ทว่าอย่างช้าๆ ร่างที่กระปลกกระเปลี้ยก็ค่อยๆ สั่นสะท้านไปด้วยความเสียวซ่านรัญจวน และเด็กสาวที่นอนหงายอยู่บนฟูกก็แอ่นโคกอูมของเธอเสนอสนองตอบการกระเด้าของเด็กร่างอ้วนอย่างร้อนร่าน จนกระทั่งอ้วนกระฉูดน้ำเมือกใส่โพรงสวาทของรุจิราอย่างสุขสม
และจากนั้นก็เป็นคิวของมืด ที่จับเธอนั่งคร่อมควยของตนเองที่เด้งคอยอยู่ จนกระทั่งถึงตอนนี้ที่เด็กสาวกำลังเกร็งหน้าท้องโยกสะโพกผายของเธอควบลำเอ็นที่อัดแน่นในโพรงสวาท และรับรู้ถึงความรู้สึกเสียวกระสันที่กำลังไต่ระดับไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว ใบหน้างามของเธอแหงนเพริดปากครางกระเส่า อืออๆๆๆๆๆๆ
ขณะนั้นเองชิดเดินยิ้มกริ่มเข้ามาส่งมือถือให้รุจิรา กล่าวเสียงกลั้วหัวเราะ
“พี่หมวยคนสวย..มีคนโทรมาหา”
ใบหน้าที่กำลังเหยเกเพราะแรงกระแทกจากควยที่เธอคร่อมคาอยู่นั้น เบิกตาโพลงออกมา ยื่นมือสั่นสะท้านหยิบมารับสาย เด็กสาวพยายามกัดฟันทำเสียงให้เป็นปกติ ขณะที่ร่างของเธอสั่นกระตุกไปตามแรงกระแทกของมืด
“รุเหรอจ๊ะ..”
“ไอซ์…..”
“ได้ข่าวว่ารุ..ลาป่วยวันนี้…เมื่อวานมีอะไรจ๊ะ…อยู่ดีๆ…รุก็หายไปเฉยๆ…ที่สตูเขาตามให้วุ่น…ไอซ์พยายามโทรติดต่อรุไปก็ไม่รับสาย”
เสียงของฐิติพรรณดังขึ้นมาอย่างห่วงใย รุจิราที่กัดฟันแน่น เพราะแรงกระแทกที่โพรงหลืบทำให้เธอรู้สึกเสียวซ่านจนตัวสั่นสะท้าน พยายามใช้มือป้องไปที่โทรศัพท์พยายามปิดบังไม่ให้เสียงหนั่นเนื้อกระทบกันปั่บๆๆๆ นั้นดังลอดออกไปอีกด้าน
“.พอดี…รุเปลี่ยนใจ…เลยไม่ได้ไปที่สตู…จ้ะ…คือ…รุ…รุ…ปวดหัว…เลยเปลี่ยนใจ…”
เด็กสาวส่งเสียงกระท่อนกระแท่นเต็มทีตอบไป…ยกมือปิดไปที่โทรศัพท์แน่น ขณะที่หลับตาปี๋ ขบริมฝีปาก พยายามกลบความเสียวซ่านให้ดังอยู่ในลำคอ อือ อือ อือ….ปั่บ ปั่บ ปั่บ
เสียงอีกด้านดังมาอย่างเป็นห่วง
“เหรอจ๊ะ…แหมเสียดายจัง…มิน่า..วันนี้เห็นเพื่อนรุบอกว่ารุลาป่วย….แล้วรุรู้สึกดีขึ้นหรือยัง”
“มะ..ไม่เป็นไร..แล้ว…เอ่อ…รุต้องไปล่ะ…มีธุระ…”
รุจิราเริ่มพูดเสียงระรัวเร็ว เพราะความเสียวซ่านนั้นมันกระเพื่อมแรงขึ้นๆ ทุกที จนเธอนั้นขนลุกซ่านไปทั้งตัว
“จ้ะ…อย่าลืมนะจ๊ะ…ถ้ารุมีอะไรให้ไอซ์ช่วยบอกมาได้เลย…ไอซ์ยินดีช่วยทุกอย่าง…จะให้รุช่วยนัดทางสตูให้ใหม่เอาไหมจ๊ะ…”
เสียงใสๆ นั้นดังมา รุจิรารีบตัดบท
“เอา…เอา…ไว้ก่อนแล้วกัน…รุ..รุต้อง..วางหูแล้วนะ…แค่นี้นะ”
จากนั้นเด็กสาวก็รีบปิดมือถือลง แล้วแหงนหน้าเพริดร้อง อ๊ะๆๆๆๆๆๆ อารมณ์พล่านไปตามแรงกระแทก ปั่บๆๆๆๆๆๆๆ….
มืดลากมือไปตามลอนสะโพกผายของรุจิราที่คร่อมตอของตัวเอง แสยะยิ้มกระเส่าร้อง
“พี่หมวย…เสียวซ่านไปถึงทรวงใช่ไหมล่ะ…คนสวยของมืด…”
“ชะ..ใช่….อ๊ะๆๆๆ…พี่..พี่จะ…ถึงแล้ว…อ๊ะๆๆๆๆ….เร็วๆๆๆ…อ๊ะๆๆๆๆ….”
เด็กวัยรุ่นหน้าปรุ หัวร่อร่า
“ได้สิครับ…ถ้าพี่หมวยคนสวยร้องขอ…มีหรือมืดจะให้ไม่ได้..กั๊กๆๆๆๆๆ”
สะโพกของรุจิราที่กระเด้าลงมาประสานกับแรงกระทอกของมืดที่ใบหน้าเบี้ยวด้วยความหฤหรรษ์บังเกิดเสียงดัง ปั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ…..รุนแรงถี่ยิบต่อเนื่อง เนื้อตัวบนร่างขาวๆ ที่กำลังนั่งคร่อมตัวเต้นระริกๆ ไปจนทั่ว และในที่สุดเมื่อความเสียวกระสันนั้นพล่านไปจนถึงสุดทาง ใบหน้างามก็แหงนเพริด
“อ๊ะๆๆๆๆ….อ๊ายยๆๆๆๆ….อ๊ายยยยยยยซซ”
รุจิราร้องลั่นสุดเสียงถึงจุดทะลักแตกไปคาควยของมืด ก่อนที่ร่างปวกเปียกของเธอนั้นจะทรุดฮวบลงไปทาบกับตัวของช่างกลหน้าปรุอย่างอ่อนแรง หน้าอกอูมของเธอที่ปลายงอนนั้นเต็มไปด้วยรอยขบกัดจนแดงเถือกบดเบียดลงไปบนหน้าอกแห้งกรังของเด็กหนุ่ม
มืดหัวเราะกระเส่าโอบรัดร่างขาวของรุจิราเอาไว้แน่น กระดกควยกระทอกใส่โพรงสวาทนั้นอย่างเมามันไม่มีหยุด เสียง ปั่บ ปั่บ ปั่บ ดังถี่ยิบ ขณะที่หน้าเปื้อนสิวนั้นระดมเบียดไซร้ไปตามหน้าขาวผ่องที่ทาบลงมาอย่างอ่อนแรง แลบลิ้นเลียไปตามวงหน้าของรุจิราอย่างอร่อยลิ้น ซ๊วบ ซ๊วบ ซ๊วบ
เนื้อขาวๆ บนร่างปวกเปียกของรุจิราที่ทาบไปบนตัวของเด็กช่างกลหน้าปรุยังเต้นระริกๆ ไปตามจังหวะกระทอกของมืด ซึ่งเร่งเร้าความแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามความเสียวกระสันของผู้เป็นเจ้าของอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนใบหน้าบิดเบี้ยวนั้นเหยเกสุด แหกปากร้อง อู๊ซซซๆๆๆๆๆ…สุดยอด…โอววว…อูยยยยย…จะออก..แล้วโว้ย….อูซซซ…อูซซซ…โอ้ววว…อ๊าซซซซ…อ๊าซซซซซ
ร่างของมืดกระตุกพราดๆ ควยกระทอกปั่ปๆๆ กระแทกสวนโพรงหลืบที่ฉ่ำเยิ้มนั้น กระฉูดน้ำกามระลอกใหม่เข้าไปอย่างสุดๆ ใบหน้าปรุนั้นอ้าปากหอบครางอย่างสุขสม….อูววววว..อูววววว…สุดยอดดดด…พี่หมวย….
รุจิราที่ป้อแป้เต็มที่ ถูกดึงตัวพรวดออกมา โพรงหลืบนั้นหลุดจากควยของมืดดังบ๊วบใหญ่ เด็กสาวอ้าปากคราง ซี๊ดดดดดด…อย่างเสียวซ่านเมื่อลำเอ็นนั้นครูดไปตามโพรงหลืบบี้เบียดไปตรงติ่งแตดเธอเต็ม ๆ
อ๋องเป็นคนดึงร่างขาวบางของเด็กสาวขึ้นมา เด็กโค่งมองไปยังโพรงหลืบที่ตอนนั้นเฉอะแฉะ น้ำเมือกขาวขุ่นๆ เกรอะไปตามกลีบอูม น้ำกามของมืดเพื่อนร่วมแก๊งที่เพิ่งพรวดเข้าไปเมื่อครู่นี้เยิ้มย้อยออกมาเป็นทางยาวไปตามลำขาเนียนของรุจิรา
อ๋องหัวเราะหื่น ดันให้รุจิราไปยืนโก้งโค้งเอามือเกาะพนักเก้าอี้โซฟาตัวเก่า ๆ ที่ตั้งอยู่ในห้อง ก่อนที่จะเกร็งหน้าท้องสูดปาก อูซซซซซซซซ..อัดทะลวงควยเข้าไปในโพรงหลืบที่ฉ่ำแฉะนั้น
รุจิราแหงนหน้าเพริด อ้าปากคราง อื้อออออออ…..