โอ้…พี่สาวที่รัก ตอนที่ 9 กุลธิดาลองรัก
วันนี้เป็นวันถัดจากวันที่ไกรวิทย์และสาวิตรีร่ำไห้ตกลงกันว่าจะแยกบ้านไปอยู่กันลำพังสองคน
คืนก่อนนั้นไกรวิทย์เงียบขรึมผิดปกติจนกระทั่งแม่และภาวิณีต้องถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงว่าเขาเป็นอะไรไปรึเปล่า
“เปล่าครับ” ไกรวิทย์โกหก อันที่จริงจะว่าโกหกก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะเขาไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ เพียงแต่รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่เขากับสาวิตรีตกลงกันว่าจะย้ายออกจากบ้านโดยทิ้งครอบครัวที่รักของเขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ลึก ๆ ในใจ เขารู้ดีว่าต้องบอกเรื่องนี้ให้แม่กับพวกพี่สาวได้รู้ก่อนจะทำเช่นนั้น
นั่นเป็นเรื่องเมื่อคืน วันนี้เป็นวันใหม่แล้ว ดวงอาทิตย์ออกมาทำงานตามปกติ คนอื่น ๆ ในบ้านก็เช่นกันเว้นแต่สาวิตรีกับน้องชาย
“ไงจ๊ะที่รักของพี่” สาวิตรีทักพร้อมสวมกอดน้องชายบนเตียง
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่สา นี่กี่โมงแล้วล่ะครับ” ไกรวิทย์ถามขณะจูบพี่สาว
“ก็..เก้าโมงเช้าแล้วจ้ะ” เธอตอบหลังจากหันไปมองนาฬิกาข้างเตียง
“อ้อ เหรอครับ แล้วเหลือเราอยู่บ้านกันสองคนใช่มั้ยครับ” เขาถามพี่สาวซึ่งเธอก็พยักหน้ารับพร้อมกับจูบเขาอย่างดูดดื่ม ลิ้นเธอสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเขา
ไกรวิทย์จูบตอบ แขนเขาโอบรัดตัวเธอพร้อมดึงร่างเธอเข้ามาบดเบียดกับตัวเขา
“เดี๋ยวก่อนจ้ะวิทย์ พี่ว่าเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าจะบอกคนอื่น ๆ ยังไง ” สาวิตรีพูดขณะยันตัวออกไปนั่งอยู่บนเตียง
“โธ่ พี่สา
ครับ” เขาพูดอย่างผิดหวังเล็ก ๆ เพราะเขาตั้งหน้าตั้งตารอคอยเวลาที่จะได้สุขสมกับสาวิตรีอย่างเช่นเวลานี้ แต่เขาก็รู้ดีว่า ในไม่ใช้พวกเขาก็จะมีเวลาอยู่ร่วมกันตลอดไป ยังมีเวลาแห่งความสุขรอคอยพวกเขาอยู่อีกมาก
“เธอว่าเราจะบอกเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้ยังไงดีจ๊ะ” สาวิตรีถาม
“ผมเองก็ไม่รู้ครับ แล้วพี่สาล่ะคิดว่าเราจะบอกพวกเขายังไง” ไกรวิทย์ตอบ สายตาเขาโลมเลียไปทั่วเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของพี่สาวขณะที่เธอนั่งอยู่บนเตียง
สาวิตรีนิ่งคิดอยู่พักนึงก่อนจะตอบ
“พี่คิดว่าเราน่าจะหาที่อยู่ก่อนนะ…วิภาวรรณกับน้อง ๆ ที่เหลือคงจะเข้าใจเราดี แต่พี่ไม่แน่ใจว่าแม่จะเห็นด้วยรึเปล่าน่ะสิ” สาวิตรีพูดพร้อมกับเอนตัวลงไปซบน้องชาย
“ผมว่าค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเถอะครับพี่สา แล้วทุกอย่างก็คงจะลงตัวไปเอง” ไกรวิทย์ปลอบพี่สาวก่อนจะประทับจูบลงที่หน้าผากเธอแล้วกอดเธอแนบแน่น
ไกรวิทย์ตื่นขึ้นในอีกสองชั่วโมงต่อมา เขาไม่รู้ว่าทั้งเขาและสาวิตรีกอดกันผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“พี่สาครับ ตื่นเถอะครับ” เขาพูดเบา ๆ เพราะไม่อยากให้พี่สาวผวาตื่น
“อือม์ มีอะไรเหรอจ๊ะ” เธอถามเขาเสียงสลึมสลือขณะที่ค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ ให้ดวงตาปรับตัวเข้ากับแสงสว่าง
“ผมว่าผมได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่างน่ะครับ” ไกรวิทย์ตอบพร้อมกับลุกลงจากเตียงแล้วสวมเสื้อผ้า
“ในบ้านมีแต่เราสองคนเท่านั้นจ้ะวิทย์ ไม่ต้องไปกังวลมากหรอก” สาวิตรีพูดขณะที่เธอนอนขดตัวกอดหมอนของน้องชาย ดื่มด่ำกับความอบอุ่นที่ไกรวิทย์ทิ้งไว้บนหมอน
ไกรวิทย์ไม่ค่อยแน่ใจ เขามั่นใจว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างและอยากจะไปเช็คดู
ขณะที่เขาเดินลงบันไดไปจนถึงชั้นล่าง ไกรวิทย์ก็เห็นกุลธิดาพี่สาวของเขา
“ไงจ๊ะวิทย์” เธอทักเขาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นเขาที่บันได
“สวัสดีครับพี่ดา…” ไกรวิทย์แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเธออยู่ที่บ้าน “ทำไมวันนี้พี่ดากลับบ้านเร็วล่ะครับ”
“วันนี้ไม่มีเรียนจ้ะ เห็นว่ามีแกสรั่วหรืออะไรทำนองเนี้ยแหละ” เธอพูดยิ้ม ๆ “พี่ก็เลยกลับบ้าน”
“อ๋อ เหรอครับ” ไกรวิทย์พูดขณะที่เขาก้าวลงจากบันไดขั้นสุดท้ายไปยืนบนพื้นห้องครัวที่เย็นเฉียบ
“พี่สาอยู่ไหนเหรอจ๊ะ” กุลธิดาถามน้องชายซึ่งทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อยที่เจอคำถามนี้ “เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ”
“ป-เปล่าครับ พี่สา เอ้อ…อยู่ข้างบนน่ะครับ” ไกรวิทย์ตอบหลังจากหยุดคิดคำตอบอยู่แป๊บนึง
“ข้างบนเหรอ เอ วันนี้พี่สาตื่นสายผิดปกติเนอะ” กุลธิดาถาม
“เมื่อเช้าพี่สาเขาเพลียมากน่ะครับ รู้สึกว่าจะไม่ค่อยสบายด้วย” ไกรวิทย์พยายามปกปิดเรื่องระหว่างเขากับสาวิตรีโดยไม่รู้ว่าวันก่อนสาวิตรีกับกุลธิดาใกล้ชิดสนิทสนมกันขนาดไหน
“เหรอ งั้นพี่ต้องไปดูอาการพี่สาหน่อยแล้วล่ะ” กุลธิดาพูด
“โอ๊ย อย่านะครับ เอ้อ คือพี่สาเขาหลับอยู่น่ะครับ อย่าไปปลุกพี่เขาเลย” ไกรวิทย์โพล่งออกมา
ปฏิกิริยาของไกรวิทย์ทำให้กุลธิดาแปลกใจมาก ดูเขาจะออกอาการแปลก ๆ เรื่องสาวิตรี ทำให้เธอสงสัยว่าเขารู้เรื่องคืนที่เธอและสาวิตรีเล่นรักกันรึเปล่า
“ก็ได้ งั้นพี่ค่อยไปดูทีหลังละกัน” เธอพูด
“ดีแล้วครับ พี่สาเขาจะได้พักผ่อนเต็มที่หน่อย” ไกรวิทย์พูดพร้อมหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินขึ้นบันไดไป
“อ้าว แล้วนั่นเธอจะไปไหนล่ะ” กุลธิดาถาม
“เปลี่ยนชุดน่ะครับ เดี๋ยวผมจะกลับลงมา” ไกรวิทย์ตอบขณะที่รีบจ้ำขึ้นบันได
พอไปถึงห้อง ก็พบว่าสาวิตรีนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของเขาไปแล้ว
“พี่สาครับ พี่ดากลับมาแล้ว ตื่นเถอะครับ” เขาพูดพร้อมกับเขย่าแขนเธอเบา ๆ
“ยัยดากลับบ้านแล้วเหรอ เอ วันนี้กลับเร็วนะ” สาวิตรีพูดอย่างไม่ยินดียินร้าย แล้วเธอก็ทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงน้องชายอีกครั้ง
“โธ่ พี่สาครับ ผมหลอกพี่ดาว่าพี่ไม่สบาย แกบอกว่าสักพักจะขึ้นมาดูอาการพี่สา เพราะฉะนั้นพี่ต้องกลับไปที่ห้องตัวเองนะครับ” ไกรวิทย์ระล่ำระลัก พร้อมกับทรุดนั่งลงบนเตียงข้างพี่สาว
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะวิทย์” สาวิตรีพูด “อย่ากังวลไปเลย”
“ผมเปล่ากังวลนะแต่ผมไม่อยากให้พี่ดารู้เรื่องของเราในลักษณะนี้” ไกรวิทย์พูดพร้อมกับเอนตัวเข้าหาพี่สาวแล้วจ้องหน้าเธอ
“ยัยดาเขารู้เรื่องของเราอยู่ก่อนแล้วล่ะจ้ะวิทย์ บอกให้เธอขึ้นมาหาพี่ได้เลยถ้าเธอต้องการ” คำพูดนี้ทำให้ไกรวิทย์ตกตะลึงพรึงเพริด กุลธิดารู้เรื่องของพวกเขาได้ยังไงกันเนี่ย
“วิทย์จ๊ะ ช่วยลงไปบอกยัยดาให้พี่ก่อน ให้เวลาพี่ได้คุยกับยัยดาแป๊บนึง แล้วพี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังทีหลัง” สาวิตรีพูดก่อนจะจูบเขาที่แก้มแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง ผ้าห่มร่วงหล่นลงจากร่างของเธอ เผยให้เห็นปทุมถันอวบใหญ่คู่งามพร้อมกับยอดปทุมที่สวยงามไร้ที่ติ
ไกรวิทย์ทำตามที่พี่สาวขอโดยลงไปบอกกุลธิดาตามที่สาวิตรีสั่ง
สาวิตรียิ้มออกมาขณะที่เธอมองตามน้องชายที่เดินออกจากห้องไป เธอรู้ว่าในที่สุดแล้วเธอต้องเล่าแผนของเธอกับไกรวิทย์ให้ใครสักคนฟังและกุลธิดาก็เป็นคนที่น่าจะยอมรับได้ในสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการและคงจะสามารถให้คำแนะนำดี ๆ ได้ เพราะแม้ว่าเธอจะเป็นน้องสาวคนท้าย ๆ แต่เธอก็มีความคิดก้าวหน้าเกินอายุจริง
“พี่ดาครับ พี่สาบอกว่าถ้าพี่อยากขึ้นไปหาก็ไปได้ครับ” ไกรวิทย์พูดกับพี่สาวที่นั่งอยู่หน้าทีวี
“อ๋อ จ้ะ” กุลธิดาลุกขึ้นและเดินขึ้นบันไดไป
“พี่สาอยู่ที่ห้องผมครับ” ไกรวิทย์พูด กุลธิดาพยักหน้าแล้วเดินต่อ
“พี่สาคะ เป็นอะไรมากรึเปล่า” กุลธิดาถามขณะเปิดประตูห้องน้องชายแล้วโผล่หัวเข้าไป
“ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะดา เข้ามาสิแล้วปิดประตูด้วยนะ” สาวิตรีพูดขณะที่เธอนั่งอยู่บนเตียงน้องชายโดยมีผ้าห่มปกปิดส่วนล่างไว้เท่านั้น
“นายวิทย์บอกว่าพี่สาไม่ค่อยสบาย” กุลธิดาพูดขณะที่เธอเดินเข้าไปนั่งบนเตียงข้างพี่สาว
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก นายวิทย์เขาแค่ไม่อยากให้เธอรู้เรื่องระหว่างพี่กับเขาเท่านั้นแหละจ้ะ เขาน่ารักมาก ไม่อยากให้เธอช็อคที่ได้รับรู้เรื่องนี้” สาวิตรีอธิบายพร้อมกับจูบน้องสาว
“งั้นแสดงว่าเขาไม่รู้เรื่องของเราสองคนใช่ไหมคะ” กุลธิดาถาม สาวิตรีสั่นหัวเป็นเชิงปฏิเสธ
“ดีแล้วล่ะค่ะ” กุลธิดาพูดขณะที่จูบตอบพี่สาวโดยเริ่มใช้ลิ้นมากขึ้น
“พี่กลับไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ พี่ว่าอีกหน่อยเราคงจะต้องเปิดอกคุยกันทุกเรื่องแล้วล่ะ” สาวิตรีพูดขณะดึงเสื้อยืดน้องสาวออกไปทางศีรษะและก้มลงไปหาเต้าอวบของเธอ มือกุมเต้าแต่ละข้างไว้ ส่วนปากเธอก็ระดมจูบที่หัวนมทั้งสองข้างที่บัดนี้แข็งชูชันขึ้นมาแล้ว
“ทำไมพี่สาถึงคิดอย่างนั้นล่ะคะ” กุลธิดาเอ่ยถามขณะที่เธอแหงนหน้าเริ่ดดันเต้าอวบสล้างให้พี่สาวได้ฟอนเฟ้นถนัดมือยิ่งขึ้น
“ก็พี่กับนายวิทย์ตกลงใจว่าจะย้ายออกไปอยู่ด้วยกันที่อื่นน่ะสิ” น้ำเสียงสาวิตรีเจือปนด้วยความลังเลนิดหน่อย
“ย้ายไปอยู่ด้วยกัน!” กุลธิดาถอยตัวออกจากริมฝีปากพี่สาวแล้วมองเธอด้วยอาการตกตะลึงพรึงเพริด
“จ้ะ เราตัดสินใจกันเมื่อคืน” สาวิตรีฝืนยิ้ม
“นายวิทย์เขาเก่งขนาดนั้นเลยเหรอคะ” กุลธิดาแหย่พี่สาว ทำให้สาวิตรีหัวเราะคิกออกมาด้วยความโล่งอก
“สุด ๆ ไปเลยล่ะจ้ะ” สาวิตรีตอบยิ้ม ๆ “แต่เธอเองก็มีอะไรดี ๆ ที่ไม่เหมือนใครนะ” เธอพูดพร้อมกับดึงตัวน้องสาวขึ้นมาทาบทับเรือนร่างอันเต่งตึงของเธอและเริ่มจูบเธออย่างดูดดื่ม
ตอนนั้นไกรวิทย์อยู่ที่ชั้นล่าง กำลังนึกสงสัยอยู่ว่าสาวิตรีกำลังคุยอะไรกับกุลธิดา เขายังคงไม่เชื่อว่าเธอจะรู้เรื่องระหว่างเขากับสาวิตรี หรือว่าสาวิตรีบอกเธอ…
ย้อนกลับมาที่ห้องนอน สาวิตรีกำลังกอดรัดน้องสาวแน่น เรือนร่างของสองสาวแนบชิดกัน เต้าคู่งามของทั้งสองเสียดสีกันอย่างเร้าอารมณ์ขณะที่เรียวลิ้นก็ผลัดกันเลียริมฝีปากกันและกัน
“แล้วพี่สาจะไปเมื่อไหร่คะ” กุลธิดาเอ่ยถามขณะที่แยกห่างออกจากตัวสาวิตรีเพื่อจะได้ดึงผ้าห่มขึ้นและสอดตัวเข้าไปคร่อมตัวสาวิตรีที่อยู่ข้างใต้
“เรายัง…อื้อมม์” คำพูดของเธอถูกขัดจังหวะโดยริมฝีปากของน้องสาว กุลธิดาสอดลิ้นเข้าไปในอุ้งปากพี่สาว ซึ่งสาวิตรีก็ดูดลิ้นเธออย่างเอร็ดอร่อยเหมือนดูดไอติมยังไงยังงั้น
“พูดต่อสิคะ” กุลธิดายิ้มหวานให้พี่สาวขณะที่เลื่อนมือลงไปถอดกางเกงยีนส์ตัวเองแล้วดันมันลงไปตามเรียวขา พร้อมกันนั้นเธอก็พรมจูบบนผิวกายที่นิ่มเรียบลื่นของพี่สาวโดยลากลิ้นเป็นเส้นตรงยาวลงมาถึงหน้าท้องในขณะที่เธอสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มซึ่งมือเธอก็ดันกางเกงยีนส์ต่ำลงไปเรื่อย ๆ
“เรายังไม่รู้เลยล่ะ ยังไม่ได้ตัดสินใจ…” ณ.วินาทีนั้น สาวิตรีรู้สึกได้ถึงลิ้นของน้องสาวกำลังเลียกลีบสาวที่ฉ่ำเยิ้มของเธอ กุลธิดาอยู่ใต้ผ้าห่ม ทำให้สาวิตรีไม่มีทางรู้เลยว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่นั่นกลับยิ่งเร้าอารมณ์สวาทให้คุโชนยิ่งขึ้น ตอนนี้เธอเหมือนลูกไก่ที่ตกอยู่ใต้อุ้งมือของกุลธิดาไปเสียแล้ว
“…ว่าจะบอกคนอื่น ๆ เมื่อไหร่หรือแม้แต่จะบอกยังไงเลย” สาวิตรีพูดต่อจนจบขณะที่เธอแยกขากว้างออก ช่วยอำนวยความสะดวกให้น้องสาวเข้าถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
มองจากมุมมองของสาวิตรี เธอเห็นแต่ตัวกุลธิดาใต้ผ้าห่มนูนขึ้นมาเหมือนภูเขาลูกย่อม ๆ ซึ่งมีการขยับตัวเป็นครั้งคราวเพื่อเปลี่ยนไปอยู่ในตำแหน่งที่จะจู่โจมเนินสวาทของพี่สาวได้ดียิ่งขึ้น แต่ภายใต้ผ้าห่ม น้องสาวเธอกำลังระบายลมหายใจอันร้อนระอุลงไปที่โคกหีของสาวิตรีพร้อมกับแหย่ลิ้นเลียใต้เม็ดเสียวทำให้สาวิตรีถึงกับดิ้นพราด ๆ
“โอยย อูววว์ ดีจ้ะ” สาวิตรีกรีดร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของน้องสาวตกกระทบกลีบแคมก่อนที่ลิ้นของเธอจะแทรกเข้ามาในร่องหลืบที่ไวต่อการสัมผัส
ยังดีที่ใช้เวลาไม่นานนักสาวิตรีก็ล่องลอยสู่สวรรค์ ไม่งั้นกุลธิดาคงเป็นลมไปก่อนเพราะใต้ผ้าห่มนั้นมันร้อนอึดอัดมาก ไหนจะความร้อนที่เกิดจากการหอบหายใจของตัวเองบวกกับความร้อนจากตัวของสาวิตรีเข้าไปอีก
“อาวว์ อูยยย์ ถึงแล้ววววว” สาวิตรีร้องครางออกมาพร้อมกับแอ่นตัวขึ้นจากพื้นเตียง น้ำหีเธอไหลทะลักเปื้อนผ้าคลุมเตียงน้องชายและเข้าไปในปากของน้องสาว
ลิ้นของกุลธิดากวาดไปทั่วเนินหีพี่สาวโดยไม่ปล่อยให้น้ำเสียวอันหวานอร่อยหลุดรอดไปได้แม้แต่หยดเดียว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะใต้ผ้าห่มนั้นมันมืดสนิทจนมองอะไรไม่เห็น
กุลธิดาค่อย ๆ โผล่หัวออกมาจากใต้ผ้าห่มช้า ๆ ปทุมถันเธอบดเบียดเข้ากับตัวพี่สาว ในขณะที่เธอเลื่อนตัวขึ้นมาตามเรือนร่างอันอวบอัดของสาวิตรี
สาวิตรียิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงเนินหีที่ฉ่ำแฉะของน้องสาวที่ลูบไล้ขึ้นมาตามเรียวขาของเธอ ทิ้งร่องรอยความเปียกชื้นเป็นทาง
ในที่สุดกุลธิดาก็เลื่อนขึ้นมาจนหัวเธอวางอยู่บนหมอนใบเดียวกันกับสาวิตรี ร่างเธอทาบทับตัวของพี่สาว
“เธอว่าพี่กับนายวิทย์ควรทำอย่างไรต่อดีจ๊ะ” สาวิตรีถามพร้อมกับรั้งร่างเปลือยเปล่าของน้องสาวเข้ามาแนบชิดกับตัวเธอ
“พี่สารักนายวิทย์จริง ๆ รึเปล่าล่ะคะ” กุลธิดาถามขณะพรมจูบแผ่วเบาทั่วลำคอและติ่งหูสาวิตรี
“จริงสิจ๊ะ รักมากจนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะ” สาวิตรีตอบพร้อมเลื่อนมือลงไปตามแผ่นหลังน้องสาวแล้วใช้ปลายนิ้วลูบไล้รูตูดเธอ
“ถ้างั้นหนูว่าพี่กับนายวิทย์ตัดสินใจถูกแล้วล่ะค่ะที่จะแยกไปอยู่กันลำพัง” กุลธิดาให้ความเห็น เธอรู้สึกปลายนิ้วพี่สาวกรีดขึ้นลงตามร่องก้นอย่างแผ่วเบา
“ขอบใจจ้ะดา” สาวิตรีพูดขณะรั้งใบหน้าน้องสาวเข้ามาใกล้แล้วจูบริมฝีปากเธอ
“แต่มีข้อแม้อยู่อย่างนึงนะคะ” กุลธิดาเสริมหลังจากถอนริมฝีปากออก
สาวิตรีจ้องมองกุลธิดาด้วยความฉงนใจก่อนที่เธอจะขยายความ
“ก่อนพี่กับนายวิทย์จะย้ายออกไป พี่สาคิดว่านายวิทย์เขาจะ..เอ้อ…อย่างงั้นน่ะค่ะ” กุลธิดาพูดตะกุกตะกักแล้วซุกหน้าลงกับอกสาวิตรีด้วยความอาย ปากก็ดูดดุนปลายถันพี่สาวเป็นการแก้เขิน
“อ๋อ พี่ว่าเขาคงจะโอเคนะ” สาวิตรีพูดยิ้ม ๆ ขณะที่รู้สึกปลายลิ้นน้องสาวฉกเลียหัวนมซ้ายของเธอ
“จริงนะคะ หนูแทบจะทนรอไม่ไหวแล้ว” กุลธิดาพูดอย่างตื่นเต้นขณะที่เธอยังใช้ลิ้นเล่นกับหัวนมพี่สาวไม่เลิก
“งั้นทำไมไม่ลงไปข้างล่างแล้วให้เขาทำซะตอนนี้เลยล่ะจ๊ะ” สาวิตรีแนะกุลธิดาซึ่งถึงกับทำให้เธอช็อคไปชั่วขณะ แต่แล้วเธอก็ยิ้มซุกซนให้กับพี่สาวก่อนจะลุกจากเตียงน้องชายแล้ววิ่งปราดไปที่ประตู
ไกรวิทย์ตกตะลึงหัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อกุลธิดานวยนาดเข้ามาในห้องนั่งเล่นในสภาพเปลือยเปล่า ขากรรไกรเขาอ้าค้างเมื่อเธอบิดสะโพกเดินเข้ามาหาเขาในท่าทางที่ยั่วยวนกวนสวาทเป็นที่สุด
“พี่ดาครับ พ—พี่…โป๊อยู่นะคับ” ไกรวิทย์พูดปากคอสั่น พี่สาวเขายิ้มแล้วพยักหน้ารับ
“แหม ก็ใช่น่ะสิจ๊ะนายวิทย์ ของมันเห็น ๆ กันอยู่” เธอสัพยอกขณะที่ยืนชดช้อยอยู่เบื้องหน้าน้องชายในท่าแยกขาออกเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเผยให้เห็นเนินหี
ไกรวิทย์มองต่ำลงไปที่กลุ่มขนหมอยสีดำสนิทที่ถูกตัดเล็มจนสั้นเป็นระเบียบ มันดูเซ็กซี่จริง ๆ
ไกรวิทย์เงยหน้ากลับขึ้นมามองเต้านมพี่สาว มันเต่งตึงดึงดูดสายตาเสียนี่กระไร ยอดปทุมชูช่อล่อใจให้ดูดดื่มน้ำหวานจากปลายถัน
“ล-แล้วพี่ดาลงมาทำอะไรข้างล่างทั้ง ๆ ยังโป๊อยู่ล่ะครับ” เขาถาม สายตาก็กวาดมองของดีพี่สาวด้วยความชื่นชม
“พี่ก็ลงมาทำอะไรบางอย่างที่ควรจะทำมาตั้งนานแล้วน่ะสิจ๊ะ” กุลธิดาพูดยิ้ม ๆ
ในที่สุดไกรวิทย์ก็เข้าใจแล้วว่าเธอหมายถึงอะไร อย่างน้อยเขาก็คิดว่าตัวเองเข้าใจ แล้วก็ยิ้มให้กับเธอก่อนจะเลียริมฝีปากอย่างรอคอย
“วิทย์จ๊ะ ก่อนหน้านี้พี่ทำอะไรบางอย่างที่ไม่ดีลงไป” จู่ ๆ กุลธิดาก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไกรวิทย์ไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าเธอจะพูดอย่างนี้ก็เลยไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
“พี่ดาหมายถึงอะไรเหรอครับ” ไกรวิทย์ถามด้วยความไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“พี่กับพี่สาเล่นรักกันบนเตียงเธอน่ะจ้ะ” เธอเบะปากราวกับเด็กที่สารภาพความผิดกับพ่อแม่
ไกรวิทย์ตะลึงงันเมื่อได้ยินคำสารภาพของเธอ
“ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เราทำแบบนี้” เธอกล่าวต่อ ทำท่าคอตกแต่ตาจ้องมองน้องชายและแอบยิ้มในใจ ทำแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากและไกรวิทย์ก็เริ่มจับทางได้แล้วว่าเธอกำลังเล่นเกมอะไรอยู่
“อ้อ งั้นพี่ดาก็เป็นเด็กไม่ดีน่ะสิ” ไกรวิทย์พูดเสียงเข้ม เล่นละครแบบนี้ทำให้เขาเงี่ยนเป็นกำลัง ควยเขาพองตัวแข็งขึ้นมาจนรู้สึกปวดหนึบ เขาสังเกตเห็นรอยชื้นน้อย ๆ ที่ด้านในขาอ่อนของกุลธิดาแสดงให้เห็นว่าเธอเองก็กำลังเงี่ยนไม่ผิดกับเขา
“จ้ะวิทย์จ๋า พี่ว่าเธอคงต้องทำโทษพี่แล้วล่ะจ้ะ” เธอพูดเสียงอ่อย
“ผมก็ว่างั้นแหละ” ไกรวิทย์พยักหน้าเห็นด้วย
ไกรวิทย์เงี่ยนอยากขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึงการตีก้น ครั้งแรกที่เขารู้ก็คือตอนที่ได้ดูภาพยนตร์ที่มีผู้หญิงถูกตีก้นซึ่งทำให้ควยเขาแข็งปั๋งขึ้นมาทันทีทันใดและเขาต้องชักว่าวให้ตัวเองจนน้ำควยไหลทะลักออกมามากอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ส่วนกุลธิดาเองก็เช่นกัน คืนหนึ่งตอนเธออายุ 19 เธอเคยโดนเพื่อนชายตีก้น ซึ่งทำให้เธอชอบถูกตีก้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา มันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ที่มีมืออันแข็งแรงทิ้งรอยสีแดงสดใสบนก้นขาว ๆ ของเธอ ความรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ บนเนื้อนุ่ม ๆ ทำให้เธอเสียวซ่านไปทั้งตัว
ไม่มีคำพูดใด ๆ ระหว่างพี่น้องทั้งสองคนอีกแล้วขณะที่กุลธิดาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาน้องชายแล้วคุกเข่าลงข้างเขาบนโซฟาก่อนที่จะทิ้งลำตัวและหน้าอกลงทาบทับกับตักเขา จากนั้นเธอก็ดันตัวเลื่อนไปข้างหน้าถูไถผ่านหว่างขาเขาที่กำลังตุงออกมาจนกระทั่งหน้าท้องเธอสัมผัสกับควยเขาที่ดันเนื้อผ้าออกมาและก้นเธออยู่ตรงตำแหน่งที่เหมาะสำหรับมือน้องชาย
ไกรวิทย์สูดลมหายใจลึก ๆ แล้วกลั้นไว้ หัวใจเขาเต้นถี่เร็วราวรัวกลอง เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย และแม้ว่าความมั่นใจในตัวเองของเขาจะเพิ่มขึ้นมามากจากประสบการณ์ที่ผ่านมาแต่ครั้งนี้ก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่ดี
กุลธิดาร้องครวญครางเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือน้องชายลูบไล้ผ่านแก้มก้นแล้วบีบมันเบา ๆ ก่อนจะเคลื่อนไปตามเส้นทางที่ตั้งใจไว้
“แล้วพี่ภาล่ะครับ ถ้ามหาลัยหยุดเรียนเหมือนพี่ดาว่าล่ะก็ พี่ภาอาจโผล่เข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้นะครับ” ไกรวิทย์พูดขณะรู้สึกก้นของกุลธิดาดีดส่ายไปมาใต้มือเขา เขาค่อนข้างกังวลเพราะไม่รู้ว่าภาวิณีจะรับได้รึเปล่าถ้าเข้ามาเจอเหตุการณ์ในตอนนี้
“มหาลัยเขาปิดแค่อาคารที่พี่เรียนเท่านั้นแหละจ้ะ อีกสองอาคารที่เหลือไม่เป็นไร ยัยภากว่าจะกลับคงอีกนาน” กุลธิดาตอบขณะรู้สึกมือน้องชายเลื่อนไปตามขาอ่อนแล้วลอดลงไปเกาะกุมกระเปาะหีเธอ
เขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบนฝ่ามือและเริ่มได้กลิ่นน้ำเงี่ยน กลิ่นคล้าย ๆ กับของสาวิตรีแต่ดูเหมือนจะแรงกว่าเล็กน้อย แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เร้าอารมณ์อยู่ดี
ไกรวิทย์ค่อย ๆ ดึงแขนออกจากซอกขาอ่อนพี่สาวแล้วกลับไปวางบนก้นของเธอ แต่เที่ยวนี้เขาละเลงน้ำหีของเธอบนผิวก้น ดูจากภายนอกเหมือนเขากำลังแกล้งให้เธอเงี่ยนจัดขึ้น แต่แท้ที่จริงเป็นการถ่วงเวลาเพื่อสะกดความตื่นเต้นของตัวเองก่อนที่จะเริ่มลงมือทำในสิ่งที่เขาคิดว่าน่าจดจำเป็นที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมา
กุลธิดาพริ้มตาลงรอคอยอย่างใจจรดใจจ่อขณะที่เธอรู้สึกมือน้องชายยกขึ้นจากแก้มก้นเธอ
ไกรวิทย์มองต่ำลงไปที่ผิวกายที่อ่อนละมุนของพี่สาวแล้วยิ้มออกมา ก้นเธอขมิบเกร็ง มือเธอขยำโซฟาไว้แน่น เธอพร้อมแล้วและเขาเองก็เช่นกัน
เพียะ
ฝ่ามือไกรวิทย์ลดต่ำลงมาตีก้นพี่สาว ไม่ถึงกับแรงมากแต่ก็พอที่จะทำให้เธอร้องออกมาแล้วกระตุกหัวเชิดขึ้น
ไกรวิทย์รอจนกุลธิดาลดหัวลงไปวางกับโซฟาอีกครั้งก่อนจะยกมือขึ้นและมองเห็นรอยสีแดงที่หลงเหลืออยู่บนก้นอันขาวเนียนนั้น
กุลธิดารู้สึกแก้มก้นเธอร้อนผะผ่าว เธอถูกตีที่แก้มก้นข้างขวาแต่ในตอนนี้ความร้อนได้กระจายไปจนทั่วแก้มก้นทั้งสองซีกแล้ว
ไกรวิทย์สูดลมหายใจลึก ๆ อีกครั้งแล้วฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้ง
เพียะ
เที่ยวนี้กุลธิดาครางกระเส่าออกมาแทนเสียงร้องด้วยความเจ็บ มือของน้องชายฟาดลงไปที่แก้มก้นด้านซ้ายของเธอ
ไกรวิทย์ได้ยินเสียงครวญครางแล้วก็ใจชื้นขึ้นว่าเขาทำได้ไม่ผิดพลาด คราวนี้จึงไม่รีรอลังเลอีกแล้ว เขาฟาดมือลงไปอีกครั้ง
เพียะ เพียะ เพียะ
แต่ละครั้งที่โดนตีก้น กุลธิดาต้องร้องครางแหบโหยในลำคอ เธอรู้สึกก้นเธอร้อนไปหมด มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ จนน้ำหีเธอไหลเยิ้มออกมาเลอะกางเกงน้องชายเป็นดวงใหญ่
ไกรวิทย์เองก็เกิดอารมณ์ขึ้นไม่แพ้พี่สาว กุลธิดารู้สึกถึงควยเขาเต้นกระดุ๊บอยู่ตรงหน้าท้องเธอ ซึ่งก็ยิ่งทำให้ความเงี่ยนของเธอทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เพียะ
อีกครั้งที่โดนตีก้น ไกรวิทย์กำลังสนุก มือเขารู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ส่วนกุลธิดาจะรู้สึกยังไงที่ก้น เขาได้แต่จินตนาการเท่านั้น
“โอวว์ วิทย์จ๋า ดีจังเลยจ้ะ ตีก้นพี่อีก ทำโทษพี่อีกซิจ๊ะ” กุลธิดาร้องโหยหวนขณะที่เธอรู้สึกฝ่ามือน้องชายฟาดลงไปที่ก้นเธออีกครั้ง ตอนนี้เธอเจ็บระบมไปหมด โดนตีแต่ละครั้งทำให้เธอแทบร้องไห้แต่มันก็ส่งกระแสความเสียวแล่นไปที่เนินหีเธอด้วยเหมือนกันจนทำให้โพรงหีเธอชุ่มฉ่ำยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ
ไกรวิทย์ได้ยินพี่สาวพูดเช่นนั้นเขาก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น เขาเองก็เงี่ยนจัดอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งได้มาเห็นก้นที่แดงระเรื่อของเธอด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความเงี่ยนขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ
เพียะ
กุลธิดากรีดร้องออกมา ร่างเธอเกร็งเขม็งบนตักน้องชายเมื่อความสุขเสียวแล่นไปทั่วตัวขณะถึงจุดสุดยอด
ไกรวิทย์รู้สึกน้ำเสียวของพี่สาวไหลหยดลงบนกางเกงเขาและซึมผ่านลงไปถึงผิวหนังที่อยู่ข้างใต้ บรรยากาศในห้องคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นหี ยิ่งทำให้เขาเงี่ยนหนักขึ้น ควยเขาแข็งจนไม่รู้จะแข็งยังไงแล้วและเขาต้องปลดเปลื้องความเครียดที่สะสมนี้ในทันที
“โอววว์ วิทย์จ๋า พี่…พี่มีความสุขจังเลยจ้ะ” กุลธิดาพึมพำขณะพลิกหงายขึ้นมาเผชิญหน้าน้องชายพร้อมยิ้มหวานให้เขาเมื่อรู้สึกความแสบร้อนที่ก้นลดลงจนเหลือเพียงความรู้สึกแปล๊บ ๆ เท่านั้น
ไกรวิทย์ยิ้มตอบแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่พี่ว่าถึงตาเธอมั่งแล้วล่ะ” กุลธิดาพูดเสียงเข้มบ้าง
ไกรวิทย์มองพี่สาวอย่างตกตะลึง เขาไม่ค่อยชอบโดนตีก้นเท่าไหร่นัก กุลธิดาเห็นสีหน้าเขาแล้วยิ้มขัน ๆ
“บ้า พี่ไม่ได้หมายความว่าพี่จะตีก้นเธอ ตาบ๊องเอ๊ย” เธอหัวเราะคิก “แหม ผู้ชายก็ยังงี้แหละ