Oh! My Angel นางฟ้าอลเวง C.14 ภาค1
Episode I : The Missing Shoe
Chapter XIV : “ในโรงงานร้าง”
By DRACULolitA
เช้าวันพฤหัส เบิร์ดตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเสียดายกับความฝันอันสุดแสนวิเศษของเขา กำลังจะอมยิ้มเมื่อนึกย้อนเหตุการณ์ในฝันนั้นอยู่แล้ว แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบนางฟ้าเบลนอนทับเขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ซ้ำร้ายกว่านั้น ท่อนล่างของเบิร์ดก็มีสภาพไม่ต่างกัน คือกางเกงถูกกองเอาไว้กับเท้า ปล่อยให้ท่อนเสียวของเขาผงกหัวรับแสงอาทิตย์ยามเช้าแบบไม่อายใคร
เขารีบประคองนางฟ้าเบลลงนอนข้างๆ ก่อนจะลำดับเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครั้ง ที่สุดเบิร์ดก็ระลึกได้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ใช่ความฝัน หากแต่คนที่เขาร่วมรักอยู่ด้วยนั้น แท้จริงคือนางฟ้าเบลผู้ที่เขาพยายามจะดูแลสุดชีวิตนั่นเอง
“ตายๆๆ ตายห่าแล้วกู” เบิร์ดเอามือกุมขมับด้วยความเครียดสุดบรรยาย นี่เขาจะต้องตกนรกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกกี่
ชาติ ถึงจะสาสมกับความผิดทั้งหมดกันแน่
เบิร์ดรีบลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ เพราะก่อนที่เขาจะได้เจอกับนรกที่กล่าวถึงนั้น เขาจะต้องรีบไปให้ถึงโรงเรียนก่อนจะเจอนรกทั้งเป็น โดยมีครูที่ยืนเวรประจำเป็นคนคอยพิพากษาเขาอยู่ ตั้งใจไว้ว่าจะมาสะสางเรื่องของนางฟ้าเบลในภายหลัง
“วันนี้ไอ้หนุ่ยแม่งไม่มาเรียนอีกแล้วว่ะ” ไอ้ศักดิ์เพื่อนของเบิร์ดเปิดประเด็นสนทนาระหว่างกินข้าวเที่ยงพร้อมกัน 4 สหาย
“บ้านไอ้หนุ่ยมันอยู่ใกล้มึงไม่ใช่หรือ ไอ้เบิร์ด เจอหน้ามันมั่งป่าววะ?” ไอ้ปอนด์หันมาถามเบิร์ด
“หึ…ไม่ได้เจอนานแล้วเหมือนกัน” เบิร์ดตอบปฏิเสธแล้วก็หันไปเหม่อลอยตามประสาคนมีเรื่องต้องกังวล [เพี๊ยะ!] เสียงตบกบาลเบิร์ดดังสนั่น
“เหมอลอยอีกแล้วนะมึง เป็นอะไรของมึงอีกวะ…ไอ้เบิร์ด” ศักดิ์ขอทำหน้าที่เป็นตัวแทนเพื่อนๆตบเรียกสติเบิร์ด
“ไอ้ห่าศักดิ์…เจ็บนะมึง” เบิร์ดลูบหัวตัวเองแต่ไม่มีทีท่าจะตบคืนเหมือนที่เคยเป็น
“มีเรื่องที่บ้านอีกแล้วล่ะสิมึง” ไอ้กายจอมรู้ทันจับพิรุธของเบิร์ดได้
“ก็…นิดหน่อยน่ะ” เบิร์ดได้แต่ตอบไปอย่างนั้น เพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเป็นกังวลไปด้วย อันที่จริงเขาไม่ต้องการให้ทั้งสามสหายเข้ามาทำให้เรื่องของเขายุ่งมากไปกว่านี้ต่างหาก เบิร์ดเก็บอาการเหม่อลอยถึงเรื่องของนางฟ้าเบลเอาไว้ก่อน ด้วยไม่อยากโดนตบกบาลทีเผลออีก
“ไอ้หนุ่ยเรอะ…”
เวลาเดียวกันหน้าปากซอยบ้านของเบิร์ด ไอ้หนุ่ยที่กลุ่มของเบิร์ดกล่าวถึงกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น เขาเป็นคนค่อนข้างเกเรและไม่อยู่กับร่องกับรอยซักเท่าไหร่ นึกจะเบื่อเมื่อไหร่ก็แอบหนีเรียนซะอย่างนั้น และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาตัดสินใจโดดเรียน
“เฮ้อ! น่าเบื่อจริงๆ อีกตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าโรงเรียนจะเลิก ทำอะไรดีว๊าาา” ไอ้หนุ่ยทำท่าถอนหายใจแบบเซ็งๆ ใส่ชุดนักเรียนออกมาจากบ้านถ้าจะกลับเข้าบ้านไม่ให้แม่สงสัย ก็คงต้องกลับบ้านหลังเวลาเลิกเรียนแล้วเท่านั้น
ไอ้หนุ่ยยังเหลือเวลาอีก กว่า 2 ชั่วโมงก่อนจะถึงตอนนั้น เขาเอามือล้วงกระเป๋าหยิบเอาบุหรี่ขึ้นมามวนหนึ่งพร้อมกับไฟแช็ค
[แชะ! แชะ! แชะ!] “ไอ้ห่าเอ้ย! หมดจนได้” ไอ้หนุ่ยบ่นอย่างอารมณ์เสีย เขาขว้างไฟแช็คอันเก่าทิ้งไปอย่างไม่ใยดี จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาในซอยบ้านของเบิร์ด เพราะนึกขึ้นได้ว่าบ้านของเบิร์ดเป็นร้านขายของชำ น่าจะมีไฟแช็คขาย
เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านของเบิร์ด หนุ่ยค่อยๆชะโงกหน้ามองเข้าไปในร้านอย่างกล้าๆกลัวๆ นึกขึ้นได้ระหว่างทาง ว่าถ้าแม่ของเบิร์ดเห็นเข้า เรื่องที่โดดเรียนวันนี้ก็อาจรู้ถึงหูแม่ของเขาได้
“เอาไงดีวะ…เดินมาถึงนี่แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้” ไอ้หนุ่ยกำลังคิดหาทางอยู่ ระหว่างรอดูลูกค้าอีกรายซื้อของอยู่ห่างๆ แต่แทนที่จะเป็นแม่ของเบิร์ดออกมาขายของ กลับกลายเป็นนางฟ้าเบลแทน
นางฟ้าตัวน้อยวันนี้สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เบิร์ดซื้อให้ เป็นชุดกระโปรงยาวถึงหัวเข่าสีชมพู แม้หนุ่ยกับเบิร์ดจะไม่ใช่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่หนุ่ยก็มาซื้อของที่ร้านของเบิร์ดบ่อยๆและไม่เคยเจอนางฟ้าเบลเลย นั่นทำให้เขาแปลกใจพอสมควร
“เออ…ดีเหมือนกัน ถ้าซื้อกับน้องคนนี้คงไม่ถูกจับได้ล่ะนะ” หนุ่ยพึมพำในใจก่อนจะเดินตรงเข้าไปในร้านของเบิร์ดด้วยความมุ่งมั่น
“รับอะไรดีคะ?” นางฟ้าเบลหันมาเห็นลูกค้าคนใหม่ก็ทักทายด้วยรอยยิ้มที่แสนสดใส
“เอ่อ…ขอไฟแช็คอันนึง” หนุ่ยตอบแบบสั้นๆพลางมองหาแม่ของเบิร์ดที่อาจจะโผล่ออกมาเมื่อไหร่ก็ได้
“หาอะไรอยู่เหรอคะ?” เสียงนางฟ้าเบลทักหนุ่ย ดึงความสนใจเขาให้กลับมาที่นางฟ้าตัวน้อย หนุ่ยหันมาหานางฟ้าเบลก็เห็นดวงตากลมๆใสๆของเธอจ้องมองเขาด้วยความสงสัย
“อ่อ…ก็…หาไฟแช็คไงครับ…ไฟแช็ค” หนุ่ยรีบแก้ตัวทันทีแล้วก็ยังไม่วายมองลอดนางฟ้าเบลเข้าไปทางหลังร้าน
“นี่ไงคะ…ไฟแช็ค พี่จะเอาสีอะไรคะ?” นางฟ้าเบลยื่นตระกร้าใส่ไฟแช็คให้หนุ่ยดู
โดยปกติแล้วไฟแช็คสีไหนๆก็เหมือนกัน คงไม่มีใครนึกจะถามว่าจะเอาสีอะไร แต่สำหรับนางฟ้าเบลที่เคยต้องวุ่นวายเปลี่ยนของให้ลูกค้าเพราะได้สีที่ไม่ถูกใจแล้ว เธอจำเป็นต้องถามทุกครั้งให้แน่ใจเอาไว้ก่อน
“สีอะไรก็ได้…เอามาเหอะ” หนุ่ยไม่มีอารมณ์จะตอบคำถามนางฟ้าเบล
เขาหยิบไฟแช็คพร้อมกับจ่ายเงินลงตะกร้าเตรียมจะออกจากร้าน แต่ทว่าด้วยความที่รีบร้อน ทำให้หนุ่ยชนตระกร้าไฟแช็คตกลงกับพื้นกระจุยกระจาย แม้จะเป็นคนค่อนข้างเกเรแต่เมื่อหนุ่ยเป็นฝ่ายผิด เขาก็แสดงรับผิดชอบ ทั้งหนุ่ยและนางฟ้าเบลต่างคนต่างก้มลงเพื่อจะเก็บไฟแช็คทั้งหมดใส่ตระกร้าดังเดิม
“โทษนะน้อง” หนุ่ยขอโทษแบบสั้นๆไปพลาง ช่วยนางฟ้าเบลเก็บไปพลาง
“ไม่เป็นไรค่ะ…เดี๋ยวหนูเก็บเอง” นางฟ้าเบลวางตระกร้าลงข้างตัว ตั้งหน้าตั้งตาเก็บไฟแช็คใส่ตระกร้านั้นทีละอันสองอัน หนุ่ยเองก็ช่วยเก็บไฟแช็คที่อยู่ใกล้ตัวเขาเอาไว้ได้ 6 อัน แล้วโยนใส่ตระกร้าไปด้วยความชำนาญ
แต่ทว่าภาพที่อยู่เบื้องหน้าเขาสะกดให้สมาธิของหนุ่ยหลุดลอยไป… นางฟ้าเบลที่กำลังนั่งยองๆเก็บไฟแช็คอยู่นั้น เธอไม่ได้รู้เลยว่าตนเองกำลังนั่งโชว์ร่องเสียวของตนให้เพื่อนร่วมชั้นของเบิร์ดดู ร่องเพศนางฟ้าแสนซื่ออวดโฉมอันเกลี้ยงเกลาและโหนกนูน ที่ปรากฏสู่สายตาใครเป็นต้องสะกดอากัปกิริยาของคนๆนั้นให้เอาแต่จับจ้องมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น และในตอนนี้หนุ่ยก็คือเหยื่อรายต่อไป
เขาจ้องมองเนินสวาทของนางฟ้าตาแทบถลน เนินเสียวขนาดกำลังพอเหมาะกับตัว โหนกนูนนำเสนอสมบัติล้ำค่าจากสรวงสวรรค์ ให้มนุษย์เดินดินอย่างหนุ่ยได้เห็นต่อหน้าต่อตา กลีบเสียวซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด ปรากฏเพียงติ่งสวรรค์ที่โผล่แทรกร่องเสียวขึ้นมาเป็นหน่อเล็กๆเท่านั้น แม้หนุ่ยจะเคยเห็นของเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับนางฟ้าเบลมาบ้าง แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าไม่เคยเห็นร่องเสียวของใครงดงามน่ามองเท่านี้มาก่อน
“พี่คะ?” นางฟ้าเบลร้องเรียกลูกค้าที่อยู่เบื้องหน้าเธอเมื่อเห็นเขานั่งนิ่งไป
“มองอะไรอยู่เหรอคะพี่?” นางฟ้าแสนซื่อพอไม่ได้รับคำตอบจากหนุ่ย เธอก็หาคำตอบด้วยตัวเองโดยการมองตามสายตาของเบิร์ดไปหาสิ่งที่เขาจับจ้องอยู่ จนในที่สุดเธอก็รู้ว่าสิ่งที่หนุ่ยมองจนไม่ยอมวางตาคืออะไร
“พี่…มองจิ๋มเบลทำไมอ่ะคะ?” ไม่ถามเปล่าๆนางฟ้าเบลยังถ่างขาตัวเองออกเล็กน้อยเพื่อจะเปิดมุมมองให้ตัวเองเห็นจุดสนใจที่หนุ่ยจ้องอยู่นั้นด้วย
ภาพร่องเสียวขยับออกเล็กน้อยเขย่าสติหนุ่ยให้กลับมาเผชิญความเป็นจริง เขาเงยหน้าขึ้นมองหน้านางฟ้าเบล ก็เพิ่งได้รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป
“อ๋อ…เอ่อ…คือ” หนุ่ยทำอ้ำๆอึ้งๆ
“อุ๊ย!ตายจริง เบลลืมใส่กางเกงในนี่นา แหะๆๆ” นางฟ้าเบลเพิ่งสังเกตถึงความผิดปกติของตัวเอง
เธอลุกขึ้นยืนหลังจากเก็บไฟแช็คทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทำหน้าทำตาเฉยๆราวกับว่าเธอแค่ลืมผูกผมหรือใส่รองเท้าเท่านั้นเอง ในใจทีแรกคิดจะรีบออกจากร้านทันทีที่ซื้อไฟแช็คเสร็จ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อครู่ หนุ่ยกลับอยากอยู่ต่อ เผื่อว่าเขาจะมีโอกาสได้เห็นร่องเสียวที่แสนงดงามอันนั้นอีกซักครั้ง ท่าทีที่แสนไร้เดียงสาของนางฟ้าเบลช่วยให้ความเป็นไปได้เช่นนั้นเพิ่มสูงขึ้น
“เบล…เป็นอะไรกับไอ้เบิร์ดน่ะ เป็นน้องสาวใช่มั๊ย?” หนุ่ยหาเรื่องถามนางฟ้าเบลรอโอกาส
“ค่ะ…พี่รู้จักพี่เบิร์ดด้วยเหรอคะ?” นางฟ้าตัวน้อยรีบตอบรับทันทีที่ได้ยินหนุ่ยเอ่ยชื่อเบิร์ดออกมา
“รู้จักสิ…ก็พี่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับมันน่ะ ว่าแต่…วันนี้เบลไม่ไปโรงเรียนเหรอ?” เด็กวัยประถมอย่างนางฟ้าเบลเวลานี้น่าจะอยู่ในโรงเรียนมากกว่ามานั่งขายของที่บ้านแบบนี้
“ค่ะ…พี่เบิร์ดไม่ให้หนูไปอ่ะ” นางฟ้าเบลตอบด้วยสีหน้าจ๋อยๆ แต่ก่อนที่หนุ่ยจะทันได้ถามคำถามต่อไป นางฟ้าเบลก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“พี่…ช่วยพาหนูไปโรงเรียนทีสิคะ หนูอยากเจอพี่เบิร์ดอ่ะ” อีกไม่ถึงสองชั่วโมงเบิร์ดก็จะกลับมาถึงบ้านแล้ว แต่นางฟ้าเบลก็ยังอยากไปหาเบิร์ดเร็วๆอยู่ดี
“เอางั้นเหรอ?” หนุ่ยไม่เสียเวลาซักไซ้มาก
เขาเดินนำทางนางฟ้าเบลออกจากบ้านทันที… < ทำไงต่อดีวะตู ดันพายัยเด็กนี่ออกมาจนได้ > หนุ่ยเพิ่งมารู้สึกวิตกหลังจากพานางฟ้าเบลออกมาถึงป้ายรถเมล์แล้ว < ว่าแต่…ไอ้เบิร์ดนี่ก็เหลือเกิน มีน้องสาวน่ารักๆแบบนี้แล้วปิดเงียบเชียว > ไหนๆก็พาออกมาจากบ้านแล้ว หนุ่ยคิดจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงที่เหลือนี้ หาทางหลอกนางฟ้าเบลให้เปิดหอยโชว์ให้เขาดูอีกซักครั้งสองครั้ง ก่อนจะพาไปหาเบิร์ดตามที่นางฟ้าเบลตั้งใจเอาไว้
“อ๋อ…รออยู่ตรงนี้แล้วเดี๋ยวก็จะมีรถคันใหญ่ๆมารับพวกเราใช่มั๊ยคะ? พี่เบิร์ดเคยพาเบลขึ้นทีนึงแล้ว” นางฟ้าเบลกล่าวอย่างอารมณ์ดี แต่นั่นยิ่งทำให้หนุ่ยสงสัยมากยิ่งขึ้น < อะไรกัน…ยัยเด็กนี่ แค่รถเมล์ก็ยังไม่รู้จัก ไปอยู่ไหนมานะ? >
“เอ่อ…แต่พี่ว่าช่วงนี้รถมันคนเยอะน่ะ ขึ้นไปตอนนี้มันไม่มีที่นั่งหรอก เอาไว้ใกล้ๆเลิกเรียนแล้วเราค่อยไปหาไอ้เบิร์ดกันนะ” หนุ่ยออกอุบายหลอกให้นางฟ้าเบลอยู่กับเขานานๆ
“ระหว่างนี้…เดี๋ยวเราเดินเล่นกันแถวๆนี้ก่อนดีมั๊ย?” หนุ่ยเสนอ
“ก็ดีค่ะ…เบลเพิ่งจะได้ออกมาถึงตรงนี้ครั้งเดียวเอง พี่เบิร์ดไม่ยอมพาเบลออกมาซักที” นางฟ้าเบลบ่นพี่ชายของตนให้หนุ่ยฟัง
“งั้น…มาทางนี้ดีกว่า” หนุ่ยเห็นโอกาสดังนั้นก็จึงเดินนำนางฟ้าเบลไปที่ๆเขาใช้ซ่อนตัวเวลาโดดเรียนเป็นประจำ
หนุ่ยพานางฟ้าเบลมาถึงโรงงานร้างแห่งหนึ่ง สภาพภายนอกแม้จะดูทรุดโทรม แต่ก็แข็งแรงพอที่จะเป็นที่หลบแดดหลบฝนได้ มันปิดทำการมานานกว่า 3 ปีแล้วเนื่องจากเจ้าของล้มละลาย มันตั้งอยู่ท้ายสุดของซอยถัดจากซอยบ้านของเบิร์ดออกไปอีก 4 ซอย ช่วงเวลากลางวันแบบนี้ บริเวณนี้เรียกได้ว่าเปลี่ยวสุดๆ
“อืม…เดี๋ยวเราเข้าไปนั่งพักในนั้นหน่อยละกันนะ พี่เริ่มเหนื่อยแล้วล่ะ” หนุ่ยพานางฟ้าเบลที่เอาแต่มองบรรยากาศรอบๆตัวของเธอด้วยความสนใจ
แกล้งพาเธอเดินข้ามเนินดินบ้าง พุ่มไม้บ้าง ซากกำแพงบ้าง แอบมองน้องสาวของเพื่อนเผลอยกขาโชว์ของสงวนให้ดูแบบวับๆแวมๆ แต่ดูเหมือนแค่นี้จะยังไม่สะใจหนุ่ย เขาพานางฟ้าแสนซื่อเข้าไปสู่โรงงานร้างแห่งนั้นเพียงลำพังสองคน ทว่าพอไปถึงภายในโรงงานร้างนั่น ก็ปรากฏว่ามีกลุ่มขี้ยาอีกกลุ่มนึงมาถึงก่อนแล้ว เป็นแก๊งขี้ยาอันธพาลประจำถิ่น ซึ่งเมื่อหนุ่ยมาเจอทีไรเป็นต้องเปิดทางให้พวกมันได้ใช้พื้นที่ โดนที่เขาไม่มีสิทธิจะโต้แย้งอะไรได้เลย วันนี้พวกมันมากัน 3 คน
“เอ่อ…พี่ไม่เหนื่อยแล้วล่ะ พี่ว่าเรากลับกันดีกว่า” หนุ่ยรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย รีบจับมือนางฟ้าเบลหันหลังกลับ
“เดี๋ยวเซ่ไอ้น้อง…” เสียงคนในกลุ่มขี้ยาตะโกนออกมา หนุ่ยได้ยินเข้าก็ถึงกับเสียวสันหลังวาบ ทุกทีที่เจอกันก็มักจะโดนแกล้งหรือเยาะเย้ยเป็นประจำ ครั้งนี้ก็คงไม่แตกต่างจากครั้งอื่นซักเท่าไหร่
“…จะรีบไปไหนวะฮะ เหม็นขี้หน้าพวกกูนักรึไง!” หัวหน้าแก๊งตวาดใส่หนุ่ย
“เอ่อ…เปล่าครับ คือพอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ…” หนุ่ยรีบแก้ตัว
“มึงมีธุระ… แล้วยัยเด็กที่อยู่ข้างๆมึงล่ะ มีธุระรึเปล่า? หน้าตาน่ารักดีนี่หว่า…” หัวหน้าแก๊งหันมาแซวนางฟ้าเบล พร้อมกับส่งสัญญาณให้ลูกน้องอีกสองคนล้อมหนุ่ยกับนางฟ้าเบลเอาไว้
“พวกมึงจะมีธุระอะไรกันนักหนาวะ อยู่คุยกับพวกพี่หน่อยไม่ได้เหรอจ๊ะน้องสาว…ฮ่าๆๆ” หนุ่ยถึงกับหน้าซีด ลองเจ้าตัวหัวหน้าพูดแบบนี้แล้วล่ะก็ ท้ายที่สุดคงไม่จบแค่คุยเฉยๆแน่นอน
“คุยได้ค่ะ…แต่ต้องก่อน 3 โมงนะคะ เดี๋ยวเบลจะต้องกลับไปหาพี่เบิร์ด” นางฟ้าเบลไม่ได้รู้สถานการณ์ของตัวเองเลย เธอกล่าวตอบหัวหน้าแก๊งอย่างอารมณ์ดี
“อุ๊แหม่…อีกชั่วโมงเดียวเองเหรอ? คงไม่ได้หรอกม๊างน้องสาว เพราะเรื่องที่พี่ๆอยากคุยด้วยน่ะ คุยกันทั้งคืนก็ไม่จบ…ฮ่าๆๆ” แก๊งขี้ยาหัวเราะด้วยความสะใจ หัวหน้าแก๊งจับแขนของนางฟ้าเบลเอาไว้ เตรียมจะพาเธอไปคุยเป็นการส่วนตัว
“เฮ้ย!มึง…ปล่อย…” หนุ่ยเห็นเรื่องเริ่มจะบานปลาย เขาพยายามหยุดพฤติกรรมหื่นกระหายของพวกขี้ยาแต่ทว่าน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ
[ผัวะ!][เปรี้ยง!][ตุ๊บ!][พลั่ก!] หนุ่ยถูกสมุนทั้งสองรุมอัดจนตัวงอล้มลงกับพื้น
“พี่!…” นางฟ้าเบลร้องลั่น พยายามจะสบัดมือที่ถูกจับเอาไว้ให้หลุดเป็นอิสระ แต่แรงของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงไม่อาจต้านทานพลกำลังของชายหนุ่มกลัดมันได้ เธออถูกลากเข้าไปด้านในของโรงงานร้าง ทิ้งให้หนุ่ยนอนบอบช้ำอยู่เพียงลำพัง
ภายในห้องด้านในของโรงงานร้าง นางฟ้าเบลถูกลูกน้องแก๊งขี้ยาจับขึงกับพื้น ลูกน้องคนหนึ่งจับแขนทั้งสองข้างของนางฟ้าเบลกดเอาไว้เหนือหัวของเธอ ส่วนหัวหน้าและลูกน้องอีกคนจับขาของนางฟ้าเบลเอาไว้คนละข้าง เพียงเท่านี้นางฟ้าเบลก็หมดสิทธิ์จะคิดหนีแล้ว
“แม่เจ้าโว้ย! ไม่ใส่กางเกงในซะด้วย…ใจกล้าซะจริงนะน้องสาว ฮ่าๆๆ” เหล่าอันธพาลอดตื่นเต้นไม่ได้ ที่ได้รู้ความจริงว่านางฟ้าเบลใส่มาแต่ชุดกระโปรงตัวเดียวเท่านั้น ท่อนเสียวของทั้งสามเหล่าขี้ยาโป่งดันกางเกงยีนส์ออกมาเป็นลำ
“ปล่อยนะคะพี่…ปล่อยเบลนะ” นางฟ้าเบลพยายามดิ้นรนให้ตนเป็นอิสระแต่ก็ยังคงไร้ผลเช่นเคย < หนอยแน่!…บอกให้ปล่อยดีๆไม่ยอมปล่อยใช่มั๊ย! > นางฟ้าเบลเริ่มบันดาลโทสะ
{“…ข้าแต่เทพแห่งสุริยา เบลินเดลข้ารับใช้แห่งท่านขอพลัง อัญเชิญ…”} เธอเริ่มท่องคาถาเตรียมจะสั่งสอนสามแก๊งขี้ยาหื่นกาม แต่ทว่ายังไม่ทันจะท่องคาถาจบเธอก็ดันหยุดชะงักเสียก่อน < อ๊ะ! ไม่ได้ๆ เราจะใช้เวทมนตร์ที่นี่ไม่ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็… >
“โอ๊ย!เจ็บ!~ ” นางฟ้าเบลร้องลั่น เมื่อหัวหน้าแก๊งเอานิ้วของเขาแหย่เข้าไปในร่องเสียวที่ไม่พร้อมรับการรุกราน
“แม่ง..ตอดนิ้วดีชิบหาย คราวนี้ได้สนุกกันล่ะโว๊ย..ฮ่าๆๆ” ดูเหมือนไอ้ขี้ยาทั้งสามจะไม่ได้สนใจความรู้สึกของนางฟ้าเบลเลยแม้แต่น้อย
“ดูสิ…ผิวก็โคตรขาวเลยว่ะ ท่าทางจะเป็นลูกผู้ดี แม่ง…วันนี้ขอเย็ดเด็กเลื่อนฐานะตัวเองหน่อยเหอะวะ” ชุดกระโปรงใหม่เอี่ยมอ่องของนางฟ้าเบลถูกถลกขึ้นจนหลุดออกไปกองกับพื้นอย่างไม่ใยดี
เรือนร่างผุดผ่องของนางฟ้าองค์น้อยๆปรากฏสู่สายตาแก๊งขี้ยา ฝ่ามืออันหยาบกร้านระดมตะปบจับทรัพย์สมบัติส่วนตัวของนางฟ้าเบลจนเพลินมือ พื้นแข็งๆของโรงงานร้างเสียดสีกับแผ่นหลังของนางฟ้าตัวน้อยเป็นริ้วรอย ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอ ความกลัวแล่นพล่านเข้าสู่สมองของนางฟ้าตัวน้อย
“พี่ๆจะทำอะไรหนู…ปล่อยนะคะ” สำหรับนางฟ้าเบลแล้ว มนุษย์โลก 3 คนนี้น่ากลัวซะยิ่งกว่าปีศาจร้ายที่เธอเคยเจอมาเสียอีก แถมในตอนนี้พี่สาวทั้งสองของเธอก็ไม่อยู่ซะด้วย แล้วในโลกมนุษย์ที่เธอเพิ่งจะเคยมาเป็นครั้งแรกนี้ จะมีใครที่เธอนึกถึงได้อีกล่ะ ถ้าไม่ใช่…
“พี่เบิร์ด!ช่วยเบลด้วย!~”
ณ โรงเรียนของเบิร์ด เบิร์ดกำลังจะออกจากโรงเรียนเตรียมตัวไปเล่นบอลอยู่พอดี
“เฮ้ย! ไอ้เบิร์ด วันนี้อยู่เตะบอลกับพวกกูป่าววะ มึงเบี้ยวมาเป็นอาทิตย์แล้วนะเฟ้ย!” ปอนด์หันมาถามเบิร์ด
“เออๆ รู้แล้วล่ะน่า…ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้ว่าง” เบิร์ดส่งเสียงตอบด้วยความเบื่อหน่ายที่ต้องพูดประโยคเดิมๆซ้ำอยู่หลายรอบ
< “พี่เบิร์ด!ช่วยเบลด้วย!~” > จู่ๆเสียงของนางฟ้าเบลก็แทรกโสตประสาทของเบิร์ดเข้ามาก้องกังวานในหัวของเขา
เบิร์ดสะดุ้งตกใจเชิดหน้าขึ้นมองรอบๆตัว ด้วยกลัวว่านางฟ้าเบลจะแอบตามเขามาถึงโรงเรียน < สงสัยเราท่าจะเป็นเอามาแฮะ จู่ๆก็เหมือนได้ยินเสียงน้องเบล > เบิร์ดได้แต่คิดว่าตัวเองหูแว่วไปเอง
< “โอ๊ย!…ฮือๆๆ พี่เบิร์ดดดด…” > เสียงของนางฟ้าเบลดังขึ้นในหัวเบิร์ดอีกครั้ง คราวนี้ดังกว่าเดิมอีก
“น้องเบล!” เบิร์ดหันซ้ายแลขวาหานางฟ้าเบลอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่พบเธอ
“ไอ้เบิร์ด…มองหาอะไรของมึงวะ” เบิร์ดไม่สนใจคำถามของกายแล้ว ในหัวของเขารู้สึกกังวลลกับนางฟ้าเบลมากกว่า
“โทษทีนะพวก…พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระน่ะ” เบิร์ดหันมาบอกเพื่อนทั้งสามขณะวิ่งตรงไปยังหน้าโรงเรียนเปลี่ยนแผนเตรียมจะกลับบ้าน
“ไอ้เบิร์ด…มึง เบี้ยวนัดพวกกูอีกแล้วนะมึง!” ปอนด์ตะโกนไล่หลังเบิร์ดไป โดยที่ไม่ได้รับความสนใจจากเบิร์ดเลยซักนิดเดียว…