Oh! My Angel นางฟ้าอลเวง C.6 ภาค1
Episode I : The Missing Shoe
Chapter VI : “เช้าวันใหม่ที่แสนยุ่งเหยิง”
By DRACULolitA
ความประทับใจในค่ำคืนแห่งสวรรค์นั้นช่างซาบซ่านใจของเบิร์ดยิ่งนัก เขาได้แต่คิดว่าตนกำลังฝันไป เป็นความฝันที่ดีที่สุดเท่าที่เบิร์ดเคยได้รับมา เขาไม่อยากลืมตาตื่นเพื่อกลับมาสู่โลกแห่งความจริงเลย แต่เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องตื่นเบิร์ดก็รู้สึกตัวขึ้นพร้อมสัมผัสที่ไม่คุ้นมือ มันนิ่มมากแต่ไม่เหมือนกับหมอนที่เขาใช้หนุนนอนเป็นประจำ แถมยังอยู่ต่ำระดับเอวเขา <เราเอาหมอนมาเพิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า?> เบิร์ดยังไม่ลืมตาตื่นเพราะยังงัวเงียอยู่
เขาเลื่อนมือลูบวนหมอนของเขาอย่างเพลินมือ จากนั้นก็เลื่อนขึ้นสูงเรื่อยๆแต่ก็รู้สึกได้แต่ความนิ่มราวกับความฝันเมื่อคืน < อ้าว…หรือว่าหมอนข้างหว่า ทำไมมันยาวจัง
> เบิร์ดยิ่งรู้สึกสับสนขึ้นเมื่อเลื่อนไปสัมผัสกับเส้นผมอันอ่อนนุ่มของใครบางคน ความรู้สึกนั้นปลุกให้เบิร์ดลืมตาสะดุ้งขึ้น เขามองหมอนข้างที่เขากำลังกอดอยู่ก็รู้สึกทั้งตกใจและดีใจปะปนกัน นางฟ้าเบลที่เขานึกว่าฝันถึงนอนร่วมเตียงเดียวกับเขา
สัมผัสนิ่มๆที่เบิร์ดจับเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากแก้มก้นและแผ่นหลังนิ่มๆของเธอ นางฟ้าเบลยังคงหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของเบิร์ด ใบหน้าของเธอแม้จะยังหลับอยู่แต่ก็เผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กๆราวกับเพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความสุขมา เบิร์ดนึกย้อนถึงความหลังตั้งแต่ช่วงที่เขาพบนางฟ้าเบล และแล้วเบิร์ดก็ต้องยอมรับความจริง เขาไม่ได้ฝันไป
เขาได้พบกับนางฟ้าเบลจริงๆ ได้อาบน้ำให้เธอ ได้นอนร่วมเตียงเดียวกันทั้งคืน ที่สำคัญเขาได้ร่วมรักกับนางฟ้าตัวน้อยคนนี้จริงๆ ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของนางฟ้าเบลชวนให้เบิร์ดรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง แม้เธอจะยินยอมเสียพรหมจรรย์ให้เบิร์ดแต่นั่นก็เป็นเพราะเธอไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง จนกระทั่งตัณหาในตัวของเขาผลักดันให้เบิร์ดชักจูงนางฟ้าผู้ไร้เดียงสาให้ตกเป็นทาสของความใคร่ เบิร์ดเอามือสางผมของนางฟ้าเบลอย่างอ่อนโยน
เขาไม่รู้ว่าชะตาชีวิตของเขาจะเป็นเช่นไรต่อไปแต่ตอนนี้เขาต้องรีบลุกจากเตียงไปอาบน้ำเพื่อไปโรงเรียนแล้ว เบิร์ดค่อยๆแกะมือของนางฟ้าเบลที่โอบเอวของเขาออกช้าๆ ไม่อยากรบกวนให้นางฟ้าตัวน้อยต้องตื่น แต่กว่าจะแกะออกได้ก็เล่นเอาเหนื่อย นางฟ้าเบลกอดเอวของเบิร์ดแน่นเหมือนไม่อยากให้เขาทิ้งเธอไป แต่ในที่สุดเบิร์ดก็หลุดออกมาจนได้
เขาลุกขึ้นห่มผ้าให้นางฟ้าคนโปรดแล้วลุกออกไปอาบน้ำ ขณะเดียวกันนางฟ้าเบลที่กำลังหลับอย่างสบาย เธอกำลังฝันถึงเบิร์ดคนดีของเธอ ในฝันนั้นมีแต่นางฟ้าเบลและเบิร์ดอยู่ร่วมกันเพียงลำพัง ทั้งสองคนกำลังอาบน้ำร่วมกันในบ่อน้ำบนสวรรค์ที่นางฟ้าเบลและพี่ๆของเธอใช้อาบกันเป็นประจำ เบิร์ดถูหลังให้เธออย่างอ่อนโยน นอกจากนั้นยังหอมเแก้มนางฟ้าเบลเป็นรางวัลที่เธอเป็นเด็กดีเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วย
“ถ้าเบลเป็นเด็กดี พี่เบิร์ดต้องให้รางวัลเบลเยอะๆนะคะ” นางฟ้าเบลหันมาอ้อนพี่เบิร์ดของเธอ
“แล้วน้องเบลอยากจะได้อะไรเป็นรางวัลล่ะจ๊ะ” พี่เบิร์ดในฝันของเธอถามด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น
“เบลอยากให้พี่เบิร์ดทำให้เบลเสียวอีก เบลอยากเสียวเยอะๆเลย นะคะ…นะ…นะ” นางฟ้าเบลหันหลังไปเกาะไหล่พี่เบิร์ดของเธอพร้อมกับทำสายตาออดอ้อนราวกับว่าหากเธอไม่ได้รางวัลชิ้นนี้เธอจะดิ้นตายให้เขาดูทันที
“ได้สิจ๊ะ…พี่เบิร์ดจะทำให้น้องเบลเสียวที่สุดในสวรรค์เลย” ว่าแล้วทั้งคู่ก็กอดกันกลมผลัดกันหอมแก้มจูบปากกันและกันอย่างดูดดื่ม มือของเบิร์ดถูไถร่องเสียวนางฟ้าราวกับจะเอาขี้ไคลของเธอออกจากบริเวณนั้นในคราวเดียว นางฟ้าเบลเสียวจนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
“เบลจะเอาน้ำเงียบของพี่เบิร์ดออกให้นะคะ” นางฟ้าตัวน้อยจำคำศัพท์ผิดๆติดไปฝันซะแล้ว
“อืม…พี่เบิร์ดว่า เอาควยของพี่ใส่ให้หีของน้องเบลดีกว่านะ” พี่เบิร์ดคนดีของเธอปฏิบัติตามความปรารถนาของเธอแทบจะทุกอย่าง นางฟ้าเบลกอดเบิร์ดแน่นไม่ยอมปล่อยเพื่อรับความเสียวซ่านที่เบิร์ดมอบให้โดยไม่มีปริปากบ่น
ความรู้สึกของเบิร์ดที่ลุกหนีเธอไปอาบน้ำไม่แรงพอจะทำให้นางฟ้าเบลตื่นได้ แต่แรงพอที่จะทำให้เธอเปลี่ยนเรื่องที่ฝันไป นอกจากนั้นความรู้สึกผิดหวังในใจลึกๆของเธอทำให้นางฟ้าเบลฝันถึงเรื่องพี่สาวของเธอทั้งสองคน พี่ๆของเธอกำลังช่วยกันต่อสู้กับเจ้าปีศาจร้ายกันอย่างเต็มกำลัง
“พี่โบ…พี่บิว” นางฟ้าเบลตะโกนเรียก
“อย่าเข้ามาเบล…มันอันตราย รีบหนีไปเร็ว!” นางฟ้าบิวหันมาเตือนน้อง เจ้าปีศาจเห็นโอกาสก็ร่ายคาถาใส่นางฟ้าบิวที่ไม่ทันระวัง นางฟ้าบิวโดนคาถาของมันซัดจนกระเด็นหายไปจากสายตาของน้องสาวทั้งสอง
“พี่บิว!” นางฟ้าทั้งสองต่างพร้อมใจกันตะโกนเรียกนางฟ้าบิวอย่างสุดเสียงแต่เปล่าประโยชน์
“แก…ไอ้ปีศาจบ้า!” นางฟ้าโบโมโหพุ่งเข้าใส่ปีศาจร้ายอย่างลืมตัว ทว่าขนาดสองนางฟ้าร่วมมือกันยังเอาชนะมันไม่ได้ ไม่นานนักนางฟ้าโบก็พลาดท่าจนได้ เธอถูกไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากตัวปีศาจช๊อตจนสลบและร่วงลงสู่พื้นโลกไป
“พี่โบ…พี่โบ!” นางฟ้าเบลตะโกนสุดเสียงแต่ก็ไม่เป็นผล ตอนนี้เหลือเธอเผชิญหน้ากับปีศาจร้ายเพียงลำพัง
นางฟ้าตัวน้อยสั่นกลัวเธอคิดจะบินหนีเจ้าปีศาจที่ชั่วร้ายตนนี้ แต่ทันทีที่หันหลังเตรียมจะหนีเจ้าปีศาจก็ตะครุบตัวเธอเอาไว้ นางฟ้าเบลตกใจสุดขีดดิ้นรนเพื่อให้พ้นจากอุ้งมือมาร
“อย่านะ!…ปล่อย” นางฟ้าผู้ไร้พิษสงพยายามทุบมือของเจ้าปีศาจให้มันปล่อยเธอไป แต่ดูเหมือนไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย มันยังคงรัดเธอแน่นและดูเหมือนจะแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“อย่าาาาา”
นางฟ้าเบลตื่นขึ้นจากฝันร้าย < ฝันไปเหรอเนี่ยะเรา > บรรยากาศในห้องนอนของเบิร์ดช่วยให้เธอระลึกได้ว่ากำลังฝันไป
“พี่เบิร์ด…พี่เบิร์ดขา” นางฟ้าตัวน้อยร้องเรียกชื่อเบิร์ดเป็นอันดับแรกเมื่อเห็นสุดที่รักของเธอหายไปจากเตียงที่ทั้งคู่นอนร่วมกัน
“พี่เบิร์ด…อูย” ความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ร่องเสียวชวนให้นางฟ้าผู้ไร้เดียงสาหวนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีกครั้ง แม้จะเป็นคืนที่เจ็บปวดแต่ก็เป็นคืนที่เสียวซ่านประทับใจเธอ
นางฟ้าเบลได้แต่อมยิ้มพลางร่ายคาถาสมานแผลใส่ร่องเสียวของเธอเอง ร่องเสียวที่เพิ่งถูกทะลวงไปกลับคืนสู่สภาพเดิมราวกับไม่เคยมีอะไรย่างกรายเข้าไปมาก่อน นางฟ้าเบลหันไปที่หน้าต่างห้อง แสงจากดวงอาทิตย์ยามเช้าชักชวนให้เธอลุกขึ้นไปดู นางฟ้าเบลมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นทิวทัศน์ในเช้าวันแรกของเธอบนโลกมนุษย์
ตึกรูปทรงเดียวกับบ้านของเบิร์ดตั้งขนานกับห้องของเบิร์ดเป็นแถวเรียงกันยาวไปจนเธอมองไม่เห็นหัวแถว บางตึกทาสีฟ้า บางตึกทาสีส้ม แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว เสียงนกกระจอกบนขอบหน้าต่างร้องราวกับทักทายนางฟ้าเบล
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ” นางฟ้าผู้ไร้เดียงสาตอบรับเสียงเรียกของมันด้วยสีหน้าอันเป็นมิตร
ขณะที่นางฟ้าเบลกำลังชมธรรมชาติรอบตัวอยู่นั้น เบิร์ดก็อาบน้ำเสร็จและเข้ามาในห้องพอดี เบิร์ดแทบสะกดอารมณ์ไม่อยู่เมื่อเห็นภาพของนางฟ้าเบลที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างในสภาพเปลือยเปล่า แสงอรุณที่สาดส่องเข้ามากระทบส่วนโค้งเว้ายิ่งเสริมให้ความเป็นนางฟ้าของเธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะรอยยิ้มของนางฟ้าคนงามที่ส่งมาให้เขาทันทีที่เธอรู้ว่าเบิร์ดเข้ามา ยิ่งทำให้เบิร์ดรู้สึกว่าตนนั้นโชคดียิ่งนักที่ได้พบเธอ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่เบิร์ด” นางฟ้าเบลหันมาทักทายเบิร์ดทันที น้ำเสียงและรอยยิ้มของเธอแทบทำให้หัวใจของเบิร์ดเผลอหยุดเต้น
“เอ่อ…จ้ะๆ อรุณสวัสดิ์จ้ะ” เบิร์ดตอบกลับอย่างเขินๆ เขาไม่เคยทักทายยามเช้ากับเด็กสาวที่ไหนมาก่อน ยิ่งในสภาพเช่นนี้แทบไม่ต้องหวังเลย เบิร์ดกำลังจะหันหลังกลับมาแต่งตัวแต่ก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
“น้องเบลจ๊ะ…เข้ามานั่งข้างในหน่อยเถอะนะ” เบิร์ดเรียกนางฟ้าเบล สภาพเปลือยเปล่าริมหน้าต่างของนางฟ้าผู้ไร้เดียงสา หากใครมาเห็นเข้าคงต้องหาคำอธิบายกันยาว
“ทำไมล่ะคะ?…เบลคุยกับนกอยู่กำลังสนุกเลย” นางฟ้าเบลตอบอย่างกร่อยๆแต่กระนั้นก็เชื่อฟังเบิร์ดเดินมานั่งขอบเตียงอย่างว่าง่าย
“คือ…เดี๋ยวคนข้างนอกมาเห็นเข้า…” เบิร์ดเริ่มจะอธิบายแต่นางฟ้าเบลก็รีบแทรกขึ้นมา
“คนอื่นๆเค้ามองไม่เห็นเบลหรอกค่ะ” เบิร์ดทำท่านึกขึ้นมาได้เพราะเมื่อคืนแม่ของเขาก็มองไม่เห็นนางฟ้าเบลจริงๆ แต่เบิร์ดก็ยังสงสัยไม่เลิก ตั้งคำถามต่อขณะที่เปลี่ยนชุดนักเรียน
“อ้าว…แล้วคุยกับนกรู้เรื่องด้วยเหรอ?” นางฟ้าเบลยิ้ม
“รู้เรื่องค่ะ นางฟ้าทุกคนคุยกับสัตว์ได้แทบทุกชนิดนั่นแหละ” เธออธิบายอย่างคล่องแคล่วราวกับเป็นไกด์นำเที่ยวทีเดียว
“พี่เบิร์ดจะไปไหนเหรอคะ?” นางฟ้าเบลเป็นฝ่ายถามบ้างเมื่อเห็นชุดนักเรียนของเบิร์ด
“ไปโรงเรียนครับ วันนี้วันศุกร์ พี่เบิร์ดต้องเรียนหนังสือ” นางฟ้าเบลพยักหน้าทำเป็นเข้าใจ
“อ้าว…ไหนพี่เบิร์ดว่าจะช่วยเบลหารองเท้าไงคะ?” เสียงนางฟ้าเบลฟังดูเศร้าๆพาให้เบิร์ดนึกถึงเรื่องที่เขาสัญญาขึ้นมาได้
“อ๋อ…เอ่อ เอาไว้ตอนเย็นได้มั๊ยครับ คือพี่ต้องเรียนให้เสร็จก่อนน่ะ ถึงจะว่าง” เบิร์ดอธิบายให้นางฟ้าเบลฟัง เธอถอนหายใจสั้นๆแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นรอยยิ้มเล็กๆ
“งั้น…ให้เบลไปโรงเรียนกับพี่เบิร์ดด้วยคนนะคะ เบลอยากเห็นโรงเรียน” นางฟ้าเบลขอร้อง
คำขอของนางฟ้าตัวน้อยชวนให้เบิร์ดจินตนาการไปถึงภาพที่เขานั่งเรียนโดยมีนางฟ้าเบลยืนเปลือยเปล่าอยู่ข้างๆเขา ในห้องเรียนที่มีแต่นักเรียนชายเต็มห้องไปหมด ว่าแล้วท่อนเสียวของเบิร์ดก็เริ่มสำแดงเดช มันโป่งดันกางเกงออกมาเป็นลำแต่นางฟ้าเบลยังไม่ทันสังเกตเห็น เธอมัวแต่มองใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการของเบิร์ดอยู่
“พี่เบิร์ดคะ…พี่เบิร์ด” นางฟ้าเบลเขย่าตัวเรียกสติเบิร์ด
“ตกลงจะให้เบลไปด้วยรึเปล่าอ่ะ?” นางฟ้าเบลถามอย่างร้อนรนเมื่อเห็นเบิร์ดเอาแต่ยืนจินตนาการอยู่ เบิร์ดได้สติมองนางฟ้าตัวน้อยอย่างอายๆ เขาไม่รู้ว่าจะทนนั่งเรียนในสภาพที่จินตนาการเอาไว้ได้รึเปล่าแต่ก็พยักหน้าตอบนางฟ้าเบลไป
นางฟ้าตัวน้อยดีใจจนออกนอกหน้า คว้าคอของเบิร์ดเขย่งขาขึ้นหอมแก้มเขาแทนคำขอบคุณไปฟอดใหญ่ พอโดนเข้าไปอย่างนี้เบิร์ดแทบหัวใจวายตายตรงนั้นเลยทีเดียว รอยยิ้มของนางฟ้าเบลยิ่งมากเท่าไหร่จิตใจของเบิร์ดก็เปี่ยมไปด้วยความสุขมากเท่านั้น เบิร์ดมองหน้านางฟ้าเบลด้วยความเอ็นดูแล้วก็หันไปหยิบเสื้อยืดในตู้ออกมาตัวหนึ่ง
เขาสวมเสื้อยืดให้นางฟ้าเบลเหมือนพี่แต่งตัวให้น้องสาว เสื้อของเขายาวจนเกือบถึงเข่าของนางฟ้าเบลทีเดียว ไหล่เสื้อตกลงมาจนแขนเสื้อคลุมข้อศอกนางฟ้าเบล ช่วงคอที่กว้างกว่าทำให้เบิร์ดต้องคอยขยับเสื้อไม่ให้โป๊ เบิร์ดมองดูสภาพนางฟ้าตัวน้อยอีกครั้ง < ค่อยยังชั่วหน่อย > แม้จะไม่มีใครเห็นแต่ปล่อยให้นางฟ้าเบลเดินตัวเปล่าตลอดทั้งวันจิตใจของเบิร์ดคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่ๆ
นางฟ้าเบลยิ้มให้เบิร์ดอย่างดีใจ ความอบอุ่นจากเสื้อของเบิร์ดยิ่งทำให้นางฟ้าเบลรักเขามากขึ้น เบิร์ดพานางฟ้าเบลที่สวมเสื้อยืดตัวเดียวเดินลงบันไดไปชั้นล่างเพื่อทานมื้อเช้าที่แม่ของเบิร์ดเตรียมเอาไว้
เมื่อทั้งคู่เดินลงมาถึงชั้นหนึ่งก็เห็นแม่ของเบิร์ดกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่พอดี
“มีอะไรกินมั่งแม่” เบิร์ดถามอย่างคุ้นเคยเหมือนทุกที แม่ของเบิร์ดหันมาหาตามเสียงเรียก แต่สีหน้าของเธอจากที่เคยปกติก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าแห่งความสงสัยทันที
“เป็นอะไรไป…แม่” เบิร์ดเริ่มใจไม่ดีที่เห็นแม่ของเขาทำสีหน้าเช่นนั้น โดนเฉพาะสายตาของเธอที่ไม่ได้มองเขาแต่มองเลยไปทางนางฟ้าเบลที่อยู่ด้านหลัง
“เด็กผู้หญิงคนนั้น ใครน่ะลูก?” ทั้งคนทั้งนางฟ้าต่างตกใจกันไปตามๆกัน
“แม่เห็นเหรอ?” เบิร์ดหันหน้าหันหลังทำอะไรไม่ถูก นางฟ้าเบลเองก็เช่นกัน แต่ก่อนที่อะไรๆจะเลวร้ายไปกว่านี้ นางฟ้าเบลก็เริ่มร่ายคาถางึมงำๆในใจแล้วก็ซัดใส่แม่ของเบิร์ดไป [แว่บ!] ทันทีที่แม่ของเบิร์ดโดนคาถาของนางฟ้าตัวน้อยเข้า เธอก็ยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้น
“ทำไมแม่ของพี่เบิร์ดเห็นเบลได้ล่ะ?…หนูยังไม่เคยร่วมเพศกับใครมาก่อนเลยนี่นา!” นางฟ้าเบลบ่นอย่างหัวเสีย การกระทำและคำพูดของเธอทำให้เบิร์ดเพิ่มเรื่องที่ต้องกังวลเข้าไปอีกหลายเรื่อง เบิร์ดทำท่าสับสนอย่างหนักไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาไหนก่อนดี
“น้องเบลทำอะไรแม่ของพี่น่ะ?” เบิร์ดเลือกแก้ปัญหาแม่ของเขาก่อน
“เบลหยุดการเคลื่อนไหวแม่ของพี่เบิร์ดค่ะ หนูตกใจก็เลยไม่ทันนึกคาถาอื่น” นางฟ้าเบลแก้ตัว เบิร์ดค่อยโล่งอกได้แต่หวังว่านางฟ้าเบลคงมีคาถาที่คืนแม่ของเขาให้อยู่ในสภาพเดิม
“เอ่อ…น้องเบลหมายความว่าไงที่พูดเมื่อกี้เนี่ยะ…?” เบิร์ดแก้ไขปัญหาของนางฟ้าเบลเป็นอันดับต่อมา เขาไม่ทันได้ฟังตอนท้ายๆประโยค เพราะมัวแต่กังวลเรื่องที่แม่ของเขาเห็นนางฟ้าเบลอยู่
“อ๋อ…เบลตกใจอ่ะค่ะ ปกติถ้าเบลยังไม่ถูกใครแตะต้องตัว คนๆนั้นก็จะไม่มีทางเห็นเบลได้นี่นา แต่แม่ของพี่เบิร์ดกลับเห็นเบล…” นางฟ้าเบลเงียบเสียงลงราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่
“แล้ว…” เบิร์ดช่วยต่อประโยคให้นางฟ้าเบลพูดต่อ
“ที่เป็นอย่างนี้แสดงว่าหนูต้องร่วมเพศกับใครมาแน่ๆเลย แต่เบลไม่ได้ร่วมเพศกับใครมาจริงๆนะคะ…แล้วแม่ของพี่เบิร์ดเห็นเบลได้ยังไงอ่ะ?” พออธิบายจบนางฟ้าเบลก็ทำท่าคิดใคร่ครวญถึงสาเหตุอื่นๆที่น่าจะเป็นไปได้
ฝ่ายเบิร์ดพอได้ยินคำอธิบายของนางฟ้าเบลก็เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งในทันที เขาอยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก < การศึกษาบนสวรรค์ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆเลย > เบิร์ดนึกในใจโทษความไร้เดียงสาของนางฟ้าเบลว่าเป็นความผิดของสวรรค์
“นี่น้องเบล…แล้วที่หนูคิดว่าร่วมเพศเนี่ยะ มันต้องเป็นยังไงเหรอ?” เบิร์ดหาเรื่องถามนางฟ้าเบล เธอหันมามองเขาด้วยสีหน้าที่ยังกังวลไม่หาย
“อ้าว…ร่วมเพศก็ต้องประมาณว่า เอาเพศของคนหลายๆคนมารวมกันไม่ใช่เหรอคะ? หนูยังไม่เคยทำอย่างนั้นซะหน่อย” เบิร์ดได้ยินคำอธิบายที่ไร้เดียงสาพลางนึกถึงภาพคนเอาอวัยวะเพศของตัวเองมารวมกันเยอะๆ
คงเป็นภาพที่ประหลาดดีพิลึก แต่เบิร์ดไม่มีเวลามากนัก เขาต้องรีบทำความเข้าใจให้นางฟ้าเบลเสียใหม่
“น้องเบลจ๊ะ…” เบิร์ดเรียกให้นางฟ้าผู้ไร้เดียงสาหันขึ้นมามองเขา
“คะ?” นางฟ้าเบลตอบรับสั้นๆ
“น้องเบลจำเมื่อคืนที่พี่เอาไอ้นี่ใส่ไอ้นั่นของน้องเบลได้มั๊ย?” เบิร์ดพูดพลางชี้อวัยวะแทนการเรียกชื่อมัน
“อ๋อ…ที่พี่เบิร์ดเอาคว…” เบิร์ดรีบเอามือปิดปากนางฟ้าเบลไม่ปล่อยให้เธอพูดจบประโยค ความจริงที่ว่าแม่ของเขายืนอยู่ตรงนั้นทำให้เบิร์ดรู้สึกผิดยิ่งนักที่สอนอะไรๆทุเรศๆให้กับนางฟ้าผู้ไร้เดียงสาของเขา
“จำได้ค่ะ” นางฟ้าเบลพูดต่อเมื่อเบิร์ดเอามือออกแล้ว สีหน้าของเธอมีรอยยิ้มเล็กๆเพราะหวนนึกถึงเรื่องคืนแห่งความเสียวของเธอ
“อืม…” เบิร์ดทิ้งจังหวะสูดหายใจลึกๆก่อนจะพูดต่อ
“นั่นแหละ…ที่เค้าเรียกว่าร่วมเพศ” นางฟ้าเบลทำตาโตด้วยอาการช็อค < อุ๊ยตายแล้ว!…นี่เราร่วมเพศไปแล้วเหรอเนี่ยะ? > นางฟ้าเบลคิดในใจ
เธอยังจินตนาการไปถึงเรื่องอื่นๆที่จะตามมาหลังจากการที่เธอได้ร่วมเพศไปแล้วตามที่พี่ๆของเธอบอกอีกมากมาย เบิร์ดเห็นนางฟ้าเบลเงียบไปก็พลอยกังวลไปด้วย
“เป็นอะไรรึเปล่าน้องเบล…พี่เบิร์ดขอโทษนะ…พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นเป็นความตั้งใจของเบิร์ดชัวร์ๆ แต่เขาอยากให้นางฟ้าตัวน้อยอภัยให้จึงต้องพูดเช่นนี้ ฝ่ายนางฟ้าเบลเมื่อได้ยินเบิร์ดพูดก็รีบเปลี่ยนสีหน้าฝืนยิ้มตอบเบิร์ดไป
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…ไม่ใช่ความผิดของพี่เบิร์ดซักหน่อย” เบิร์ดสบายใจขึ้นที่เห็นรอยยิ้มของเธอ ได้แต่หวังว่าคราวนี้นางฟ้าเบลจะไม่ได้ฝืนตอบเพื่อเขาอีก
“เอ่อ…แล้วเราจะทำยังไงกับแม่ของพี่ดีล่ะ” เบิร์ดเปลี่ยนเรื่องคุยมาสู่เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง
“เบลทำให้แม่ของพี่ลืมเรื่องเมื่อกี้ได้ค่ะ” นางฟ้าเบลจำคาถาลบความทรงจำชั่วระยะเวลาหนึ่งได้
“คือทำให้ความจำหายไปได้ครึ่งชั่วโมงน่ะค่ะ” นางฟ้าเบลอธิบายขยายความ
เบิร์ดนั่งเก้าอี้ครุ่นคิดต่อไป คาถาลืมความจำก็น่าสนอยู่แต่จะทำอย่างไรหลังจากนี้ดี เพราะนางฟ้าเบลต้องอยู่ร่วมกับเขาจนกว่าจะหารองเท้านางฟ้าของเธอเจอ การจะคอยเสกคาถาลืมความจำใส่แม่ของเขาทุกๆครึ่งชั่วโมงคงไม่ไหวแน่
“มีคาถาทำให้แม่ของพี่มองไม่เห็นน้องเบลมั๊ย?” นางฟ้าเบลนึกในใจ
“มีค่ะ…แต่หนูจำไม่ได้อ่ะ” เบิร์ดถอนหายใจแล้วก็นั่งคิดต่อ นางฟ้าเบลเองก็ไม่สบายใจที่เห็นเบิร์ดเป็นเช่นนี้
“มีคาถาแทรกความทรงจำได้ด้วยค่ะ” นางฟ้าเบลเสนอคาถาที่เธอพอนึกออกให้เบิร์ดตัดสินใจ เขานั่งนึกต่อไปว่าคาถานี้พอจะทำอะไรได้บ้าง
“อืม…คาถานี้ใช้แล้วอยู่ได้นานมั๊ยน้องเบล?” เบิร์ดนึกอะไรขึ้นมาได้
“ก็มันเป็นความทรงจำที่แทรกเข้าไปนี่คะ…มันก็ต้องอยู่ไปจนตลอดชีวิตแหละค่ะ” นางฟ้าเบลอธิบายสรรพคุณคาถาของเธอ เบิร์ดพยักหน้าเข้าใจพลางยิ้มเล็กๆที่นึกหนทางขึ้นมาได้
“น้องเบลช่วยแทรกความทรงจำให้แม่ของพี่เบิร์ดคิดว่ามีลูก 2 คนได้มั๊ย?…ให้น้องเบลเป็นน้องสาวของพี่เบิร์ดน่ะ” เบิร์ดเสนอความคิดเห็นให้นางฟ้าตัวน้อยฟัง
นางฟ้าเบลยิ้มแก้มปริกับความคิดนั่น การที่เธอต้องพลัดพรากจากพี่สาวทั้ง 2 ของเธอ ทำให้นางฟ้าเบลรู้สึกว้าเหว่ยิ่งนัก หากพี่เบิร์ดที่เธอรักยอมรับเธอเป็นน้องสาวก็คงช่วยคลายความรู้สึกนั้นให้ลดน้อยลงได้
“ดีค่ะ…เบลอยากมีพี่ชายอย่างพี่เบิร์ด ถ้าทำอย่างนี้แล้วเบลจะได้อยู่กับพี่เบิร์ดต่อไปใช่มั๊ยคะ?” นางฟ้าเบลถามเบิร์ดเสียงแจ๋ว
“แน่นอนจ้ะ” เบิร์ดยิ้มพร้อมกับตอบรับเธอด้วยความรู้สึกยินดีไม่แพ้กัน
นางฟ้าเบลไม่รอช้าหลับตาตั้งสมาธินึกถึงคาถาที่เธอจะใช้ ว่าแล้วก็ท่องคาถาแล้วซัดใส่แม่ของเบิร์ดไป [แว๊บ!] เกิดลำแสงเส้นเล็กๆพุ่งจากมือของนางฟ้าเบลไปปะทะกับร่างของแม่ของเบิร์ด จากนั้นนางฟ้าเบลก็คลายคาถาหยุดการเคลื่อนไหวของเธอ เบิร์ดและนางฟ้าเบลจ้องมองแม่ของพวกเขาด้วยความตื่นเต้น
แม่ของเบิร์ดรู้สึกตัวขึ้นมองเด็กทั้งสองที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“อ้าว…เบิร์ด…เบล มาจ้องหน้าแม่ทำไม พิลึกจังเลยเราสองคนนี่” ได้ผล…แม่ของเบิร์ดไม่มีทีท่าสงสัยเลยซักนิด มองนางฟ้าเบลราวกับเป็นลูกสาวของเธออีกคน
“รีบๆมากินข้าวได้แล้ว จะได้ไปโรงเรียน” เบิร์ดยิ้มอย่างโล่งอก อย่างน้อยเขาก็แก้ปัญหาของเช้าวันนี้ได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
“ครับแม่” ทั้งสามคนนั่งเก้าอี้เตรียมรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน
“อ้าว! ตายจริง ทำไมแม่ลืมเตรียมนมให้เบลได้นะ แย่จังเลย” แม่ของเบิร์ดลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นหานมมาให้ลูกสาวของเธอ
“เบลดื่มแต่นมค่ะพี่เบิร์ด” นางฟ้าเบลอธิบายให้เบิร์ดฟังเมื่อเห็นเขาทำหน้าสงสัย
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” นางฟ้าเบลรับนมแก้วโตจากแม่ของเบิร์ดแล้วส่งยิ้มให้คุณแม่คนใหม่ของเธออย่างอารมณ์ดี
ฝ่ายเบิร์ดเองก็รู้สึกดีที่ตอนนี้เขามีน้องสาวคนใหม่แถมยังเป็นนางฟ้าอีกด้วย การได้เห็นนางฟ้าเบลและแม่ของเขาคุยกันอย่างมีสนุกสนานก็พลอยทำให้เบิร์ดรู้สึกดีไปด้วย สามแม่ลูกทานมื้อเช้ากันอย่างมีความสุข