Oh! My Angel นางฟ้าอลเวง C.7 ภาค1
Episode I : The Missing Shoe
Chapter VII : “ผลข้างเคียง”
By DRACULolitA
“ไหนพี่เบิร์ดบอกว่าจะพาเบลไปโรงเรียนไงคะ” นางฟ้าเบลพยายามทวงสัญญาจากพี่ชายคนใหม่ของเธอ
“ก็พี่บอกแล้วไงว่าไม่ได้ๆ ตอนนี้ใครๆก็เห็นน้องเบลได้ทุกคนแล้ว รอพี่อยู่ที่บ้านดีกว่านะครับ” เบิร์ดยืนยันหนักแน่น ขืนปล่อยให้นางฟ้าเบลออกไปนอกบ้านคงได้มีปัญหาอื่นๆตามมาไม่รู้จักหยุดแน่ๆ
“เบิร์ดสัญญากับน้องแล้วไม่ใช่เหรอลูก ไม่เห็นเป็นไรเลย พาน้องไปซักวันนะลูก” แม่ของเบิร์ดไปเข้าข้างลูกสาวซะแล้ว
เบิร์ดอดสงสัยไม่ได้ว่านอกจากทำให้แม่ของเขาคิดว่านางฟ้าเบลเป็นลูกสาวอีกคนแล้ว นางฟ้าตัวน้อยใส่ความทรงจำอะไรเพิ่มเข้าไปอีก แต่พอจะหันไปถามนางฟ้าเบลก็เธอทำหน้าหงิกงอใส่ เบิร์ดต้องรีบยุติการเจรจาครั้งนี้โดยเร็วไม่งั้นไปโรงเรียนสายแน่ๆ
“เอาน่า…น้องเบลครับ อยู่บ้านช่วยคุณแม่ขายของนะ ถ้าวันนี้น้องเบลเป็นเด็กดี เดี๋ยวเย็นนี้พี่เบิร์ดกลับมาเล่นด้วย โอเคมั๊ย?” เบิร์ดพูด
พลางลูบหัวน้องสาวคนโปรดอย่างเอ็นดู
“จริงๆนะคะ” น้ำเสียงนางฟ้าเบลยังไม่คลายความเสียดายที่อดไปโรงเรียน
“แน่นอนที่สุดครับ” เบิร์ดยืนยันคำพูดด้วยการก้มลงหอมแก้มนางฟ้าตัวน้อยหนึ่งฟอดแล้วรีบลาแม่ออกจากบ้านไป โดยไม่ปล่อยให้นางฟ้าเบลได้ถามอะไรต่อเพราะมัวแต่ยิ้มที่โดนพี่ชายสุดที่รักหอมแก้มเข้าให้
บ้านของเบิร์ดห่างจากโรงเรียนเกือบ 10 กิโล แต่ยังโชคดีที่หน้าปากซอยบ้านติดกับถนนใหญ่และมีรถเมล์วิ่งหลายสาย นั่งรถเพียงต่อเดียวก็สามารถไปถึงหน้าโรงเรียนของเขาได้ หากโชคดีรถไม่ติด แม้ออกจากบ้านเจ็ดโมงครึ่งอย่างเช่นวันนี้ก็คงถึงโรงเรียนทันเวลา เบิร์ดยืนรอรถเมล์ไปพลางคิดถึงเรื่องที่บ้านไปพลางจนกระทั่งรถเมล์มา เบิร์ดเดินทางไปโรงเรียนโดยหอบความกังวลใจติดตัวไปด้วย
เบิร์ดเรียนโรงเรียนชายล้วนที่เปิดตั้งแต่ระดับชั้นป.1ถึงม.6 เขาเรียนที่นี่มาตั้งแต่ป.1เลยทีเดียว ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนเขารู้หมด ทันทีที่เบิร์ดลงจากรถเมล์แทนที่จะไปที่หน้าประตูโรงเรียน เขากลับวิ่งไปอีกทางซึ่งเป็นทางลัดที่เขาเตรียมไว้ใช้เข้าโรงเรียนในสถานการณ์ที่มาสายเช่นนี้
ในที่สุดเบิร์ดเข้าไปรวมกลุ่มเข้าแถวกับเพื่อนๆได้ โดยไม่โดนครูที่ดักรออยู่หน้าประตูโรงเรียนจดชื่อคนมาสาย
“สายอีกแล้วนะมึง” เพื่อนร่วมชั้นแซวเบิร์ดทั้งๆที่เห็นพฤติกรรมนี้เป็นประจำจนชินตา
“พอดีมีเรื่องยุ่งๆที่บ้านน่ะ” เบิร์ดให้เหตุผล
“มึงก็พูดงี้ตลอดแหละ มัวแต่ไปดักรอเด็กข้างบ้านมึงอีกล่ะสิ…ไอ้ห่า” เสียงเพื่อนสนิทของเบิร์ดคนอื่นๆหัวเราะสมทบกับความคิดเห็นนั้น
“ไม่ใช่เว้ย…คราวนี้เรื่องที่บ้านจริงๆ” เบิร์ดทำสีหน้าเคร่งเครียดแทนที่จะยิ้มอายๆอย่างทุกทีทำให้เพื่อนๆเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องที่บ้านจริงๆ เมื่อเห็นว่าแซวเบิร์ดไม่สนุกแล้วเพื่อนๆของเขาก็เปลี่ยนประเด็นไปคุยเรื่องอื่นแทน จนกระทั่งเข้าแถวร้องเพลงชาติเสร็จแล้วก็ขึ้นห้องเรียนไป
เวลาเที่ยงวัน เบิร์ดและผองเพื่อนลงมารับประทานอาหารกลางวันกัน
“เฮ้ย! ไอ้ศักดิ์ ทำไมวันนี้มึงไม่ซื้อลูกบอลมาฟะ…แล้วเที่ยงนี้จะเล่นบอลได้ไง” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มบ่นขึ้นมากลางวง
“อ้าว…ก็วันนี้อาจารย์เค้าจะใช้สนามทำพิธีอะไรซักอย่างไม่ใช่เหรอ แล้วกูก็บอกไอ้กายแล้วว่าวันนี้เล่นบอลไม่ได้ มันไม่ได้บอกมึงเหรอ?” ศักดิ์แก้ตัวพร้อมให้เหตุผล
“เฮ้ย! ก็มึงเพิ่งบอกกูเมื่อวานตอนเย็น แล้วกูจะไปบอกใครได้วะ ไอ้ห่า” กายอธิบายไปพลางกินข้าวคำสุดท้ายไปพลาง
“เออๆ ไม่เป็นไร แม่งแค่ลูกบอลลูกเดียว จะต่อยกันเลยรึไงฟ่ะ” ปอนด์เห็นท่าไม่ดีรีบยุติความขัดแย้ง
“อืม…แล้วเที่ยงนี้จะทำอะไรดีวะ เล่นบอลก็ไม่ได้ซะแล้ว” ทั้งกลุ่มนั่งนิ่งเงียบ
“เล่นปาอัดมั๊ย…กูมีลูกปิงปอง” กายเสนอความคิดหลังจากดูดโค๊กจนหมดแก้วไปแล้ว
“ไอ้ห่า…มีกันอยู่ 4 คน คงจะปากันโดนหรอกนะมึง” ศักดิ์แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย
“มึงเล่นแล้วแพ้ต้องขึ้นแท่นประจำล่ะสิ…เลยไม่อยากเล่น” ปอนด์จอมรู้ทันแซวศักดิ์ ทั้งสามคนยังคงคิดถึงสิ่งที่จะทำก่อนเรียนคาบบ่ายกันต่อไปจนเกือบจะลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง
“เฮ้ย!…ไอ้เบิร์ด มึงเอาแต่นั่งนิ่งเงียบอยู่ได้ ช่วยกันคิดมั่งสิวะ” ศักดิ์สะกิดเบิร์ดด้วยไหล่
“หะ..หา อะไรนะ กูไม่ทันฟัง” เพื่อนทั้ง 3 มองหน้ากันเลิกลั่ก เสียงทั้งสามคนคุยกันดังจนถัดไปอีก3โต๊ะก็ได้ยินแต่เบิร์ดกลับไม่สนใจฟัง กายมองหน้าเบิร์ดพร้อมกับคิดอะไรบางอย่างอยู่
“กูรู้แล้ว…เที่ยงนี้เราจะทำอะไรดี” กายลุกขึ้นยืนประกาศต่อหน้าเพื่อนอีก 3 คน…
โรงเรียนของเบิร์ดมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีทั้งสนามฟุตบอล สนามบาส และโต๊ะปิงปองเป็นจำนวนมาก แต่กระนั้นก็มีไม่พอต่อความต้องการของนักเรียนทุกคน เมื่อสนามบอลของกลุ่มถูกยึดไปชั่วคราวแล้ว กลุ่มของเบิร์ดจึงไม่เหลืออะไรทำอีก ทั้งกลุ่มเดินหาที่นั่งจนกระทั่งได้โต๊ะหินอ่อนตัวหนึ่งมีร่มเงาพอให้นั่งคุยได้จนถึงเวลาเข้าเรียน
“ไอ้เบิร์ด…ตกลงเรื่องที่บ้านมึงที่ว่ายุ่งๆเนี่ยะ มันเรื่องอะไรวะ? กูเห็นมึงนั่งเหม่อตั้งแต่อยู่ในห้องเรียนแล้ว” กายเริ่มเปิดประเด็น
“ก็…ไม่มีอะไรมากหรอก” เบิร์ดตัดสินใจไม่เล่าดีกว่า
การจะให้คนอื่นเชื่อว่าตัวเองไปพบนางฟ้ามา ได้เย็ดกับนางฟ้า ได้นางฟ้ามาเป็นน้องสาว แล้วตอนนี้ก็ช่วยนางฟ้าหาทางกลับสวรรค์อยู่ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทแค่ไหนก็คงเชื่อได้ยาก
“ไอ้ห่า…มึงไม่ต้องมาโกหกพวกกู มีอะไรก็บอกมาซะดีๆ เผื่อพวกกูช่วยได้ไง” ปอนด์ชวนเชิญเบิร์ดให้ระบายความในใจออกมา
“อ๋อ…หรือว่าเกี่ยวกับเรื่องน้อง…อะไรของแกนะ น้องฝนใช่มั๊ย? เดี๋ยวนี้ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันแล้วเหรอ…555” ศักดิ์หาเรื่องแซวให้เบิร์ดกล้าพูดมากขึ้น
“ไอ้บ้า…น้องเค้าชื่อน้ำฝนเว้ย แล้วเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับน้องเค้าซักหน่อย” เบิร์ดอธิบาย
“ไอ้เหี้ย พูดผิดนิดผิดหน่อยไม่ได้เลยนะมึง…กูถามจริงๆเหอะ ทำไมมึงไม่มองผู้หญิงสาวๆสวยๆคนอื่นๆมั่งวะ แถวบ้านมึงก็มีเยอะไม่ใช่เหรอ?” กายขอเป็นฝ่ายถามบ้าง
“ไอ้เบิร์ดมันมองการณ์ไกลเว้ย…ตอนนี้ป.6 อีก 5 ปีก็ทันใช้พอดี 555” ปอนด์แซวแทรกคำตอบเบิร์ด ชวนให้ทั้งกลุ่มหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“ไอ้ห่า…ถ้าพวกมึงได้เห็นน้องเค้าแล้ว พวกมึงจะเข้าใจกู น้องเค้าน่ารักจริงๆนะว้อย” เบิร์ดได้โอกาสรีบเปลี่ยนประเด็นคุย แม้จะเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่ค่อยชอบให้เพื่อนๆแซวซักเท่าไหร่
“เหอะ…น่ารักแค่ไหนก็ ป.6 ล่ะว๊า นมเนิมยังไม่ทันขึ้นเลย มันจะไปมีอารมณ์อะไร มันต้องอย่างอาจารย์นิสิตห้อง 5 สิวะ แม่ง…นมโคตรโตเลย” ศักดิ์แสดงความคิดเห็นบ้าง
“หน้าตาก็งั้นๆแหละว๊า” กายที่เน้นสาวหน้าตาน่ารักไว้ก่อนไม่ยอมรับ
“ไอ้ห่า…หน้าตาดีแค่ไหนปิดไฟก็ไม่เห็นแล้ว” ศักดิ์ยืนยันความเชื่อเรื่องขนาดของไฟหน้า
เพื่อนทั้งสามคุยสนุกจนลืมเบิร์ดอีกแล้ว แต่คราวนี้แทนที่เบิร์ดจะคิดถึงเรื่องที่บ้าน เขากลับคิดถึงเรื่องเด็กข้างบ้านแทน เด็กสาวคนนี้เป็นเด็กที่เขาแอบชอบมาตั้งแต่เข้าอยู่ม.2 แล้ว เป็นเด็กเรียบร้อย นิสัยดี มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง รอยยิ้มของเธอแทบจะทำให้เบิร์ดลืมหายใจเลยทีเดียว
แม้บ้านของทั้งคู่จะอยู่ใกล้กันแต่ก็ต้องเรียนกันคนละโรงเรียนเพราะโรงเรียนของเบิร์ดไม่รับนักเรียนหญิง และโรงเรียนของเด็กข้างบ้านก็ไม่มีระดับชั้นมัธยม เบิร์ดใฝ่ฝันไว้ว่าหากเธอโตขึ้นเป็นสาวเต็มตัวแล้วจะขอเธอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ แต่บัดนี้เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปซะแล้ว เบิร์ดทำทุกอย่างพังด้วยการไปร่วมรักกับนางฟ้าเบล
จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดต่อนางฟ้าตัวน้อยอยู่เลย หนำซ้ำก็ยังรู้สึกผิดต่อเด็กสาวข้างบ้านด้วย ที่ไม่รู้จักห้ามใจรักษาความบริสุทธิ์ของเขาให้ดี ในใจของเบิร์ดตอนนี้สับสนว้าวุ่นใจไปหมด [เพี๊ยะ!]
“ไอ้เบิร์ด!” ศักดิ์ตบหัวเบิร์ดเต็มๆไป 1 ที
“ไอ้ห่า…กูเรียกตั้งนาน ใจลอยไปถึงไหนวะมึง” เพื่อนอีกสองคนก็มองเบิร์ดด้วยสีหน้าเหมือนเห็นเพื่อนอยู่ในอาการโคม่าใกล้ตายเต็มที
“ตกลงมึงจะเล่าให้พวกกูฟังได้รึยัง…เรื่องของมึงน่ะ” ปอนด์ย้ำคำถามที่เพิ่งถามไปอีกครั้ง
“เอ่อ…เรื่องนั้นช่างมันเหอะ คือตอนนี้มัน… มีเรื่องอื่นที่หนักใจกว่าอีกน่ะ…” เบิร์ดเห็นว่าเรื่องนี้พอจะปรึกษาเพื่อนๆได้
“เรื่องอะไรล่ะฟะ?” ศักดิ์คะยั้นคะยอ
“คือ…ถ้าพวกนายชอบใครคนนึง แต่ดันไปได้เสียกับอีกคนนึงแล้วเนี่ยะ พวกมึงจะทำไงวะ?” เบิร์ดจบประโยคคำถามปล่อยให้เพื่อนๆทำสีหน้าตกใจกับคำถามของเบิร์ดระยะหนึ่ง
“เฮ้ย! แต่ไม่ใช่กูนะเว้ย…คนที่บ้านเฟ้ย เค้ากลุ้มใจเลยมาปรึกษากู กูก็เลยเหม่อๆอย่างนี้ไง” เบิร์ดรีบหาข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผลได้ทันท่วงที เพื่อนๆทั้งสามพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
“มึงจะคิดอะไรมากมายไปทำไม เอาแม่งทั้ง 2 คนเลยหมดเรื่องหมดราว” ศักดิ์ให้ความเห็น
“กูว่านะเฟ้ย มันเป็นประสบการณ์ของชีวิต ครั้งแรกก็ถือซะว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นศึกจริง เวลาเอากับแฟนจริงๆจะได้ทำเป็นไง” ปอนด์ให้ความเห็นอีกอย่าง
“ไอ้ห่า…ทำอะไรให้มันมีความรับผิดชอบหน่อยสิเฟ้ย! ทำแล้วก็ต้องรับผิดชอบ” กายคัดค้าน นอกจากทั้งสามจะไม่ช่วยแก้ปัญหาให้เบิร์ดแล้ว ยังเพิ่มเรื่องให้เบิร์ดกังวลมากเข้าไปอีก <เออนะ…พวกมึง แล้วจะมาช่วยกูหาอะไรฟะ!> เบิร์ดได้แต่เก็บปัญหาของตนเอาไว้เครียดในใจต่อไปจนกระทั่งเลิกเรียน
เวลาเย็นหลังเลิกเรียนแล้ว เบิร์ดรีบเดินบึ่งตรงไปยังป้ายรถเมล์
“มึงจะรีบกลับทำไมวะ…ไอ้เบิร์ด ไม่อยู่เตะบอลด้วยกันก่อนล่ะ?” ปอนด์พยายามตื้อเพื่อนให้อยู่ต่อ
“กูบอกแล้วไง พอดีมีธุระต้องรีบกลับไปทำที่บ้าน” เบิร์ดอธิบายสั้นๆ เขาสัญญากับนางฟ้าเบลแล้วว่าจะไปช่วยหารองเท้าให้เธอ
นอกจากนั้นการปล่อยให้นางฟ้าที่ไม่คุ้ยเคยกับโลกมนุษย์ต้องอยู่ตามลำพังก็ทำให้เบิร์ดอดเป็นห่วงไม่ได้ เขาต้องรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เบิร์ดเดินจ้ำอ้าวขึ้นรถเมล์โดยไม่สนเสียงเพื่อนๆที่ตะโกนไล่หลังมา
พอลงจากรถเมล์ได้เบิร์ดก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งจากหน้าปากซอยตรงเข้าบ้านทันที
“พี่เบิร์ด!” เสียงใสๆของนางฟ้าเบลร้องเรียกตั้งแต่เบิร์ดยังไม่เข้าบ้านเลยทีเดียว
“วันนี้เป็นเด็กดีรึเปล่า?” เบิร์ดถามนางฟ้าเบลขณะถอดรองเท้าและถุงเท้าของตัวเองออก
“ค่ะ…วันนี้เบลช่วยคุณแม่ขายของด้วย ลูกค้าเยอะแยะเลยค่ะ…..” นางฟ้าเบลเล่าเหตุการณ์ต่างๆตลอดทั้งวันให้เบิร์ดฟังอย่างตื่นเต้น ทำให้เบิร์ดอดยิ้มไม่ได้กับท่าทีของนางฟ้าผู้ไร้เดียงสา
“อ๊ะ!ลูกค้ามาอีกแล้ว…ซื้ออะไรดีคะ?” นางฟ้าเบลรีบปรี่เข้าไปทักทายลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน ดูท่าทางเธอจะสนุกกับงานใหม่ของเธอไม่น้อย
“มีเชือกฟางขายมั๊ยครับ?” คำถามลูกค้าหนุ่มทำให้นางฟ้าเบลมองซ้ายมองขวาหลายรอบก่อนจะหันมายิ้มแหยะๆให้เบิร์ด
“เชือกฟางอยู่บนชั้นด้านซ้ายนั่นน่ะ มา…เดี๋ยวพี่หยิบเอง” เบิร์ดลุกขึ้นทำท่าจะไปช่วย
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เบิร์ดเดี๋ยวเบลจัดการเอง” นางฟ้าเบลรีบปฏิเสธเพราะอยากจะโชว์พี่เบิร์ดของเธอว่าวันนี้เธอช่วยคุณแม่ทำอะไรมาบ้าง
นางฟ้าตัวน้อยคว้าเก้าอี้เพื่อปีนขึ้นไปหยิบเชือกฟางตามตำแหน่งที่เบิร์ดชี้ ถึงกระนั้นเธอก็ยังต้องเขย่งขาขึ้นเพื่อหยิบเชือกฟางจากบนชั้นนั้นออกมา ในตอนนั้นเอง…แม้เบิร์ดจะเป็นห่วงกลัวว่านางฟ้าเบลจะพลัดตกลงมาซักเท่าไหร่ แต่เขามีเรื่องให้ต้องห่วงมากกว่านั้น เบิร์ดเพิ่งระลึกได้ว่าเมื่อเช้าเขาให้นางฟ้าเบลสวมแค่เสื้อยืดตัวเดียวเท่านั้น
และสิ่งที่ทำให้เบิร์ดนึกขึ้นมาได้ก็คือแก้มก้นขาวๆที่โผล่พ้นชายเสื้อออกมาขณะที่นางฟ้าเบลกำลังเขย่งตัวหยิบเชือกฟางนั้นเอง เบิร์ดสังเกตุเห็นว่าลูกค้าชายหนุ่มก็มองไปที่เป้าหมายเดียวกัน นั่นทำให้เบิร์ดรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นที่สุด
“อันนี้ใช่มั๊ยคะ?” นางฟ้าเบลหยิบเชือกฟางม้วนสีขาวชูให้เบิร์ดดู
“อืม…ใช่จ้ะ” เบิร์ดค่อยคลายความกังวลใจเมื่อนางฟ้าเบลค่อยๆลงจากเก้าอี้ได้โดยไม่เปิดหวอแถมให้ลูกค้าหนุ่มไปอีก
“นี่ค่ะ…เชือกฟาง” นางฟ้าเบลยื่นเชือกฟางให้ลูกค้าหนุ่ม สีหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใสโดยไม่รู้เลยว่าทำให้เบิร์ดหงุดหงิดแค่ไหน ลูกค้าหนุ่มรับเชือกฟางไปพิจารณาอยู่ครู่ใหญ่
“เอ่อ…มีสีเขียวไหมครับ?” ลูกค้าเจ้าปัญหาอยากขอเปลี่ยน
“อ๋อ…มีค่ะ เดี๋ยวนะคะ” นางฟ้าเบลตั้งเก้าอี้ทำท่าจะปีนอีกรอบ
“ไม่ต้อง…น้องเบล เดี๋ยวพี่หยิบเอง” เบิร์ดเห็นท่าไม่ดีรีบลุกมาช่วยน้องสาวคนใหม่หยิบเชือกฟางที่ลูกค้าต้องการ โดยไม่ปล่อยให้นางฟ้าตัวน้อยได้ทันปีนเก้าอี้
“เอ้า!นี่ครับ…” เบิร์ดส่งเชือกฟางสีเขียวส่งให้ลูกค้า สายตาของเขาจ้องจะจับผิด <ไอ้บ้านี่…แค่เชือกฟางยังจะต้องเลือกสีอีก อย่านึกว่ากูรู้ไม่ทันมึงนะ>
เบิร์ดออกอาการหวงน้องสาวอย่างออกนอกหน้า ยืนคุมหน้าร้านด้วยสีหน้าจริงจังเผื่อว่าลูกค้าตัวแสบจะต้องการอะไรเป็นพิเศษอีก ยังดีที่ลูกค้าหนุ่มจ่ายเงินแล้วก็ออกจากร้านไปทันที ไม่งั้นเบิร์ดคงระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แน่ๆ
“พี่เบิร์ดอ่ะ…ทำไมไปทำหน้าตาดุๆอย่างงั้นใส่ลูกค้าล่ะคะ…เดี๋ยวเค้าก็ไม่กลับมาซื้อของที่ร้านเราอีกหรอก” นางฟ้าเบลบ่นใส่พี่ชายโดยที่ยังไม่รู้ว่าต้นเหตุก็คือตัวเธอเอง
“ไม่มาก็ดี..ไม่เห็นจะต้องไปแคร์เลย ดูหน้ามันซิ..อย่างกับพวกหื่นกาม” ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเบิร์ดบรรยายท่าทีของลูกค้าแรงเกินเหตุ
“หื่นกาม?…หมายถึงอะไรเหรอคะ?” เบิร์ดมีคำศัพท์ใหม่มาให้นางฟ้าเบลเรียนรู้อีกแล้ว
“เอ่อ…คือ…” เบิร์ดได้แต่อ้ำๆอึ้งๆเพราะรู้ว่าไม่ควรสอนคำศัพท์พวกนี้ให้นางฟ้าผู้ไร้เดียงสาจำอีก
“ช่างมันเหอะ…ว่าแต่น้องเบลเถอะ เวลาออกมาขายของคราวหลังต้องแต่งตัวให้ดีๆกว่านี้หน่อยนะ แล้วก็ที่สำคัญ อย่าให้ใครเห็นไอ้นั่น เข้าใจมั๊ย?” เบิร์ดนั่งลงอธิบายพร้อมกับชี้ประกอบ
“ทำไมล่ะคะ?” นางฟ้าเบลถามด้วยความสงสัยพลางยกชายเสื้อขึ้นดู ‘ไอ้นั่น’ ที่เบิร์ดชี้ แม้เบิร์ดจะเพิ่งห้ามนางฟ้าเบลไปหยกๆ แต่ทันทีที่นางฟ้าตัวน้อยเปิดของดีให้ดู เบิร์ดกลับไม่ยอมเสียโอกาสจ้องมองโหนกเสียวของนางฟ้า
“คือ…มันไม่สุภาพน่ะ เวลาขายของเค้าต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยๆ ลูกค้าจะได้ชื่นชมไงครับ” เบิร์ดนึกหาเหตุผลอธิบายไปจ้องเนินสวาทน้องสาวไป
“แต่ถ้าอยู่ที่บ้านปกติน้องเบลจะแต่งชุดยังไงก็ได้นะ…พี่เบิร์ดไม่ได้ว่าอะไร” ด้วยความทะเล้นเบิร์ดรีบขยายความต่อเพื่อไม่ให้ปิดกั้นโอกาสของตัวเอง นางฟ้าเบลพยักหน้ายอมรับเหตุผลของเบิร์ด
“แต่เบลจะเอาเสื้อผ้าดีๆที่ไหนใส่ล่ะคะ…ชุดของเบลก็มีอยู่แค่ชุดเดียวเอง” นางฟ้าเบลทำเสียงเศร้าๆ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เบิร์ดจะพาน้องเบลไปซื้อเอง” เบิร์ดลูบหัวน้องสาวคนโปรดด้วยความเอ็นดู
ใบหน้าที่สดใสของเธอย้ำเตือนเบิร์ดเสมอว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่ได้นางฟ้าตัวน้อยมาอยู่ข้างกายเขา ฝ่ายนางฟ้าเบลสัมผัสจากพี่ชายสุดที่รักยิ่งทำให้เธอมีความสุขมากขึ้นชวนให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“พี่เบิร์ด…เบลอยากเสียวแบบเมื่อคืนอีกอ่ะ พี่เบิร์ดทำให้เบลเสียวอีกได้ไหมคะ?” น้ำเสียงของเธอออดอ้อนซะจนใจของเบิร์ดแทบละลาย แต่ท่อนเสียวของเบิร์ดกลับแข็งตุงดันกางเกงนักเรียนให้โป่งออกเป็นลำ
เบิร์ดทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากทำตามความปรารถนาของน้องสาวสุดที่รัก เขาดึงตัวของนางฟ้าเบลเข้าหาระดมหอมทั้งแก้มทั้งซอกคอ จนนางฟ้าตัวน้อยหัวเราะร่าดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเสียว
“นี่…เอาแต่เล่นกันอยู่นั่นแหละ ลูกค้ามาแล้วไม่เห็นเหรอลูก” แม่ของเบิร์ดเดินออกมาจากหลังร้านทำเอาเบิร์ดแทบช๊อค มือของเขายังกำก้นของนางฟ้าเบลติดมืออยู่เลย เบิร์ดรีบปล่อยนางฟ้าเบลทำเอาน้องสาวหน้างอด้วยความหงุดหงิดเพราะกำลังสนุกได้ที่
“ไม่เป็นไร…เดี๋ยวแม่ขายเองลูก” แม่ของเบิร์ดออกไปต้อนรับลูกค้า ปล่อยให้เบิร์ดทั้งงงทั้งแปลกใจที่แม่ของเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เบิร์ดทำกับนางฟ้าเบลเลย
“พี่เบิร์ดอ่ะ…เบลกำลังสนุกเลย อย่าเพิ่งหยุดสิคะ” นางฟ้าเบลออดอ้อนพี่ชายสุดที่รักของเธอต่อ แต่ตอนนี้เบิร์ดไม่มีอารมณ์จะเล่นสนุกกับเธอแล้ว
“เป็นไงลูก ไปเรียนวันนี้เหนื่อยมั๊ย?” แม่ของเบิร์ดถามหลังจากลูกค้าออกจากร้านไปแล้ว
“ก็ปกติครับ น้องเบล…ไม่เอาน่าพอแล้ว ปล่อยพี่ก่อน” เบิร์ดพยายามแกะแขนนางฟ้าเบลที่โอบคอของเขาอยู่ ด้วยไม่อยากให้แม่ของเขาเข้าใจผิด
“เบิร์ดก็…ตามใจน้องหน่อยสิลูก เบลเค้ารอจะเล่นกับเบิร์ดทั้งวันเลยนะ” น้ำเสียงเรียบเฉยของแม่ของเบิร์ดยิ่งทำให้เขางุนงงมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าการที่เขาลูบคลำเรือนร่างของน้องสาวเล่นนั้นเป็นเรื่องปกติ
“อ่ะ…ค..ครับ” เบิร์ดทดสอบสมมติฐานของตัวเองด้วยการค่อยๆโอบเอวของนางฟ้าเบลพลางจ้องปฏิกิริยาของแม่ของเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ จากโอบเอวเป็นลูบหลัง
จากลูบหลังเป็นจับก้นจากนอกเสื้อ จากนอกเสื้อเป็นจับก้นโดยตรง แต่สีหน้าของแม่ของเบิร์ดก็ยังเรียบเฉยอยู่อย่างนั้น ใจของเบิร์ดเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะสิ่งที่เขาทำแม้จะทำกับน้องสาวของเขาแต่ก็คงไม่มีลูกบ้านไหนทำกับแบบนี้ ที่คุณแม่จะนั่งนิ่งเฉยปล่อยให้ลูกชายจับต้องของสงวนของลูกสาววัยกำลังโตโดยไม่ว่าอะไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นฝีมือของนางฟ้าเบลแน่ๆ ที่ทำให้แม่ของเขามีท่าทีเช่นนี้
แต่ตอนนี้เขากำลังเริ่มสนุกที่ได้ลวนลามนางฟ้าเบลต่อหน้าต่อตาแม่ของเขา เรื่องที่มาที่ไปคงเก็บเอาไว้ถามทีหลังจะดีกว่า เบิร์ดจับนางฟ้าเบลพลิกตัวจนทั้งสองพี่น้องตอนนี้หันหน้าไปหาแม่ของพวกเขา มือซ้ายของเบิร์ดลอดใต้แขนของนางฟ้าเบลขึ้นไปคว้านมนางฟ้าบีบเล่น ส่วนมือขวาเลื่อนลงมาจับโหนกเสียวเอาไว้เต็มมือ สายตาของเบิร์ดยังคอยสังเกตปฏิกิริยาของแม่ของเขาโดยตลอด
“อย่างนี้ดีมั๊ยน้องเบล?” เบิร์ดแกล้งถามนางฟ้าเบลที่จริงต้องการดูปฏิกิริยาของแม่ของเขามากกว่า
“ดีค่ะพี่เบิร์ด…เบลเสียวจังเลย…ซื๊ดสสส” เสียงตอบรับของนางฟ้าเบลนอกจากจะทำให้เบิร์ดมีอารมณ์มากขึ้นแล้ว
ยังช่วยยืนยันความจริงที่ว่าหากเขาเย็ดนางฟ้าเบลต่อหน้าต่อตาแม่ของเขาก็คงไม่ว่าอะไร เบิร์ดเริ่มได้ใจถูไถร่องเสียวนางฟ้าเบลอย่างเอาเป็นเอาตายจนนางฟ้าเบลแข้งขาอ่อนปวกเปียกไปหมด
“ขอโทษค่ะ” เสียงเด็กผู้หญิงตะโกนเข้ามาจากนอกร้านดันหัวใจของเบิร์ดให้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอคือเด็กสาวข้างบ้านที่เบิร์ดแอบชอบอยู่นั่นเอง
เบิร์ดรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ปล่อยให้ทั้งนางฟ้าเบลและตัวเองอารมณ์ค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนรีบแจ้นออกไปต้อนรับโดยไม่สนสีหน้าของแม่และน้องสาว…