Oh! My Angel นางฟ้าอลเวง C.9 ภาค1

Oh! My Angel นางฟ้าอลเวง C.9 ภาค1

Oh!My Angel นางฟ้าอลเวง
Episode I : The Missing Shoe
Chapter IX : “เพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจ”
By DRACULolitA

รองเท้าแตะที่เบิร์ดให้นางฟ้าเบลยืมใส่นั้นใหญ่กว่าขนาดเท้าของเธอทำให้เดินลำบากมากทีเดียว แต่กระนั้นก็ไม่อาจดึงความสนใจของนางฟ้าเบลไปจากสภาพภายนอกบ้านยามเย็นที่เธอกำลังพิจารณาอยู่ได้เลย ตึกแถวสี่ชั้นเรียงเป็นแนวไปจนสุดปลายถนน แม้เป็นซอยยาวแต่ก็เป็นซอยตัน ทำให้ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปผ่านมาบ่อยครั้งนัก

เด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับเธอออกมาจับกลุ่มเล่นหน้าบ้านทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน เสียงเจี้ยวจ้าวของพวกเขาชวนให้นางฟ้าตัวน้อยมองอย่างสนใจ เพื่อนบ้านที่คอยตอบรับการทักทายของเบิร์ด ร้านค้าต่างๆที่มีคนมาจับจ่ายซื้อของ ลูกสุนัขที่วิ่งไล่กัน ฝูงนกที่กำลังบินกลับรังตัดกับท้องฟ้ายามเย็น ภาพต่างๆที่นางฟ้าเบลไม่เคยได้เห็นมาก่อนทำเอาเธอมองด้วยความ
ตื่นตะลึงจนลืมที่จะหารองเท้าคู่โปรดของเธอ

“น้องเบลยังไม่เคยมาที่โลกนี่เลยเหรอครับ?” เบิร์ดสังเกตอาการของเธอออก
“ค่ะ…พี่ๆบอกว่าเบลยังไม่พร้อมที่จะมาที่โลก มันอันตราย” นางฟ้าเบลตอบโดยไม่ยอมละสายตาไปจากทิวทัศน์ที่เธอกำลังมองอยู่เลย เบิร์ดมองเห็นแววตาของนางฟ้าเบลที่มองสิ่งรอบข้างแล้วก็อดยิ้มไม่ได้

“นั่นอะไรคะ? / นี่อะไรคะ? / โน้นอะไรคะ?” นางฟ้าเบลถามเบิร์ดด้วยประโยคซ้ำๆ แต่เบิร์ดกลับไม่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะตอบเธอเลยซักนิด

จนกระทั่งเดินไปจนสุดท้ายซอยแล้วก็ไม่เห็นมีวี่แววรองเท้าข้างที่หายไปเลย ระหว่างทางที่ทั้งคู่เดินย้อนกลับมานางฟ้าเบลไม่วายถามคำถามซ้ำๆกับของบางอย่างที่เธอจำชื่อไม่ได้ เบิร์ดรู้สึกเหมือนพาชาวต่างชาติมาเยี่ยมเมืองไทยแต่ต่างกันตรงที่เขาไม่ต้องอายที่จะพูดกับเธอ แถมยังรู้สึกเต็มใจและดีใจเสียอีกที่ได้เดินเคียงคู่กันและได้อวดใครๆว่ามีน้องสาวที่น่ารักเช่นนี้

ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าทั้งคู่ก็กลับมาถึงหน้าบ้านของเบิร์ด น้ำฝนกำลังสอนน้องขี่จักรยานอยู่พอดี เธอและน้องชายเปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดอยู่กับบ้าน เบิร์ดแทบจะลืมมือนุ่มๆของนางฟ้าเบลที่ตัวเองจับเอาไว้เลย เมื่อเห็นเพื่อนบ้านสุดน่ารักในชุดอยู่บ้านแบบนี้

มันเป็นเสื้อสายเดี่ยวพื้นขาวมีลายรูปหัวใจสีชมพูอันเล็กๆรอบตัว กับกางเกงขาสั้นสุดๆสีเดียวกับหัวใจบนเสื้อของเธอ แสงแดดอ่อนๆยามเย็นที่สาดมากระทบกับน้ำฝน ส่งผลให้ผิวขาวๆแบบคนจีนของเธอเปล่งประกาย จนเบิร์ดอดคิดไม่ได้ว่าน้ำฝนอาจเป็นนางฟ้าอีกคนที่พลัดตกลงมาจากสวรรค์ก็เป็นได้

“พี่เบิร์ด…ดูซี่ นี่เฟลมขี่จักรยานได้แล้ว…” สิ้นเสียงเจ้าหนูป.2 ที่พยายามขี่จักรยานมาหาเบิร์ดที่กำลังเหม่อลอยอยู่ก็ชนกับเบิร์ดทันที
“ตายแล้วเฟลม..พี่บอกแล้วไงว่าให้ดูทางน่ะ” น้ำฝนบ่นเสียงดังพลางวิ่งเข้าไปดูอาการทั้งน้องชายทั้งเพื่อนบ้าน นางฟ้าเบลก็เข้าไปดูเช่นเดียวกัน
“เป็นอะไรมากรึเปล่าเฟลม? เป็นอะไรมั๊ยคะพี่เบิร์ด?” เฟลมได้แต่ร้องโอดครวญเพราะเจ็บแผล

ส่วนเบิร์ดได้แต่ยังตะลึงกับความงามของน้ำฝนที่พุ่งเข้ามาหาเขาโดยไม่สนใจแผลถลอกบนตัวของเขาเลย กลิ่นกายหอมๆในตัวของน้ำฝนลอยมากระทบจมูกของเบิร์ด แทบจะทำให้เขาลืมความเจ็บปวดทั้งหมดได้ในทันที

“เดี๋ยวเบลจัดการเองค่ะ…{ …ข้าแต่เทพแห่งสายชล เบลินเดลข้ารับ…อุ๊บ!}” เบิร์ดตกใจตื่นจากภวังค์ปิดปากน้องสาวตัวดีแทบไม่ทัน

คราวนี้เขาพยายามเลือกวิธีที่ไม่ทำร้ายจิตใจนางฟ้าตัวน้อย เบิร์ดพานางฟ้าเบลออกมาห่างจากน้ำฝนและเฟลม

“น้องเบลจ๊ะ พี่คิดว่าน้องเบลไม่ควรใช้คาถาอะไรนั่นพร่ำเพรื่อนะ โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่นๆแบบนี้น่ะ” เบิร์ดพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ทำไมล่ะคะ? ก็พี่เบิร์ดถูกชนหกล้มเลือดออกขนาดนี้ หนูก็ต้องช่วยสิคะ” นางฟ้าตัวน้อยให้เหตุผล
“เอ่อ…มันก็จริงอ่ะนะ แต่พี่ว่าถ้าใครเห็นว่าน้องเบลใช้เวทย์มนต์คาถาได้ล่ะก็…” เบิร์ดพูดทิ้งช่วงเพื่อหาคำอธิบายที่หนักแน่นพอให้นางฟ้าตัวน้อยเชื่อฟังเขา

“ถ้าใครรู้เข้า น้องเบลอาจจะไม่ได้อยู่กับพี่อีกเลยนะ” เบิร์ดเลือกคำขู่ได้โดนใจนางฟ้าเบลยิ่งนัก เด็กสาวออกอาการร้อนรนทันที
“ทำไมล่ะคะพี่เบิร์ด ทำไมเบลจะอยู่กับพี่เบิร์ดไม่ได้อีกล่ะ?” สีหน้านางฟ้าตัวน้อยดูเป็นกังวลมากทีเดียว
“ก็เพราะที่โลกมนุษย์เค้าไม่มีเวทมนต์ใช้น่ะสิครับ ใครใช้ล่ะก็…จะถูกจับเข้าคุก ไม่ได้ออกมาพบใครๆอีกเลยนะ” คำขู่เบิร์ดใช้ขู่เด็กในละแวกบ้านที่ดื้อไม่ยอมเชื่อฟังได้ชะงัดนัก
“อืม…ก็ได้ค่ะ เบลจะไม่ใช้เวทมนต์อีกก็ได้…แต่พี่เบิร์ดต้องอยู่กับเบลนะคะ” นางฟ้าเบลกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบิร์ดก็หันไปช่วยน้ำฝนพยุงเฟลมกลับเข้าบ้านของน้ำฝนไปทำแผล

บ้านของน้ำฝนเป็นร้านขายข้าวแกง ช่วงเวลาเย็นๆอย่างนี้มีลูกค้าพอสมควร เมื่อเห็นว่าคุณแม่กำลังยุ่งอยู่กับร้าน น้ำฝนจึงได้โอกาสพาทั้ง 3 คนขึ้นชั้นสองไป ด้วยไม่อยากให้คุณแม่ต้องเป็นกังวลใจ

ลักษณะของบ้านน้ำฝนไม่ต่างจากบ้านของเบิร์ดมากนักเนื่องจากเป็นตึกชุดเดียวกัน แต่ห้องนอนของน้ำฝนและเฟลมอยู่ชั้นที่ 2 ส่วนพ่อกับแม่ของเธอนอนที่ชั้น 3 เบิร์ดเองก็เพิ่งเคยขึ้นมาถึงชั้น 2 นี้เป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ก็เพียงได้ดักเจอเธอที่หน้าบ้านหรือชวนเฟลมเล่นด้วยกันเฉยๆ ในใจเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้มีโอกาสเช่นนี้ ประตูห้องนอนเปิดออก เบิร์ดอุ้มเฟลมที่ตอนนี้เลิกร้องไห้แล้วเข้าไปนั่งบนขอบเตียง

“เดี๋ยวหนูไปเอายามาให้นะคะ” น้ำฝนพูดพลางรีบวิ่งแจ้นไปหายา ทิ้งให้ทั้งสามคนนั่งรออยู่ในห้องนอนของเธอ

เบิร์ดได้โอกาสเหมาะ เขามองสำรวจไปรอบๆห้องนอนของเด็กสาวที่เขาแอบชอบ เตียงเดี่ยวขนาดพอๆกับเตียงของเบิร์ดตั้งอยู่ที่มุมห้องด้านหนึ่ง ปลายเตียงชี้ไปทางหน้าต่างบานเกล็ดแบบเดียวกับห้องนอนของเบิร์ด ผนังด้านขวาที่ติดกับขอบเตียงนอกจากปฏิทินและภาพครอบครัวของน้ำฝนแล้วก็ไม่มีอะไรอื่นประดับอีก

ส่วนด้านซ้ายนั้นตู้เสื้อผ้า 2 ตู้วางชิดติดกัน ถัดจากนั้นมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสีขาวสลับกับสีชมพูขนาดพอเหมาะกับน้ำฝน อุปกรณ์เสริมความน่ารักของเด็กสาววางตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบแบบครบชุด ทำให้เบิร์ดจินตนาการได้ถึงภาพของน้ำฝนที่กำลังหวีผมอยู่ที่หน้ากระจกหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ผมดำสนิทยาวสลวยเกือบถึงกลางหลังตัดกับสีผิวขาวๆของเธอในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หยดน้ำบางส่วนที่เด็กสาวเช็ดไม่หมดค่อยๆไหลจากซอกคอเธอลงไปจนถึงเนินอกขนาดย่อมๆ แล้วก็ซึมหายไปกับผ้าเช็ดตัวที่พาดขวางทางเอาไว้
เพียงช่วงเวลาสั้นๆนั้นก็ทำให้เบิร์ดรู้สึกอิจฉาเจ้าหยดน้ำเหล่านั้นแล้ว ที่ได้มีโอกาสโลดแล่นอยู่บนเรื่อนร่างของเด็กสาวที่เขาหมายปอง แต่แล้วเบิร์ดก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเรื่องที่คิดเพราะเขาเหลือบไปเห็นตระกร้าผ้าที่วางตั้งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้งนั่นเอง ชุดนักเรียนที่น้ำฝนใช้ใส่ไปเรียนในวันนี้ อันได้แก่เสื้อนักเรียนสีขาวกับกระโปรงจีบรอบสีน้ำเงินถูกซุกรวมกันอยู่ภายในตระกร้าใบนั้น และแล้วภาพแห่งจินตนาการอันใหม่ก็ผุดขึ้นมาในสมองของเบิร์ด

น้ำฝนที่เพิ่งกลับถึงบ้านตรงเข้ามาในห้องแล้วบรรจงถอดเสื้อนักเรียนของเธอออก เผยให้เห็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาวลายหัวใจที่เขาเห็นในวันนี้ จากนั้นกระโปรงจีบรอบสีน้ำเงินก็ถูกเพื่อนบ้านเจ้าเสน่ห์ปลดให้หล่นลงมาเป็นอันดับต่อไป กางเกงชั้นในที่เบิร์ดจินตนาการให้มันเป็นสีขาวก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา น้ำฝนในชุดชั้นในไม่รีบร้อนที่จะแต่งตัวให้เสร็จ เธอกลับยืนมองรูปร่างตัวเองอยู่หน้ากระจกชื่นชมความงามแบบเด็กๆของตน

“เอ…เราแต่งตัวแบบนี้แล้วพี่เบิร์ดจะชอบมั๊ยน้าาา” น้ำฝนในจินตนาการของเบิร์ดรำพึงถึงเขาออกมาเสียงดัง แม้เป็นเพียงความฝันลึกๆของเขา แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้เบิร์ดมีความสุขแล้ว
“พี่เบิร์ด!” เสียงนางฟ้าเบลเตือนสติเขาเหมือนจะรู้ความคิดของเบิร์ด
“หา! เอ่อ…มีอะไรเหรอน้องเบล?” เบิร์ดเกือบถลำลึกจินตนาการจนเกินขอบเขตซะแล้ว
“หนูเรียกพี่เบิร์ดตั้งนานก็ไม่ยอมตอบ” นางฟ้าเบลบ่นน้อยใจนิดๆที่ไม่ได้รับความสนใจจากเบิร์ดเหมือนอย่างที่เคย
“อ๋อ…พอดีพี่คิดอะไรเพลินอยู่น่ะ”

นางฟ้าเบลหมดโอกาสได้ซักไซ้ต่อ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา น้ำฝนถือกระเป๋าอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาครบชุด กับขันน้ำและผ้าขนหนูผืนหนึ่ง

“มานี่เร็วเฟลม…เดี๋ยวพี่ล้างแผลให้” น้ำฝนออกคำสั่งกับน้องชายจอมซน

เบิร์ดกับนางฟ้าเบลได้โอกาสมองเพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจทำแผลให้น้องชายอย่างคล่องแคล่ว ราวกับว่ามีอุบัติเหตุแบบนี้ให้เธอต้องช่วยเหลือเป็นประจำ จนในไม่ช้าน้ำฝนก็จัดการทุกแผลบนตัวของเฟลมจนเรียบร้อย

“เอ้า!เสร็จแล้ว วันนี้ไม่ต้องไปซ้อมขี่จักรยานแล้วนะ เข้าใจมั๊ย!” น้ำเสียงดุแบบมีน้ำใจของน้ำฝนชวนให้เบิร์ดยิ้มเพราะไม่รู้จะมีซักกี่คนที่จะกลัวเสียงดุแบบนี้ของเธอ
“มาค่ะพี่เบิร์ด เดี๋ยวหนูทำแผลให้” เสียงน้ำฝนเตือนให้เบิร์ดระลึกขึ้นได้ว่าเขากำลังจะถูกน้ำฝนทำแบบเดียวกับน้องชายของเธอ
“เอ่อ…ไม่เป็นไรครับ…น้ำฝน แผลแค่นี้เดี๋ยวเดียวก็หาย น้ำฝนไม่ต้องลำบากหรอก” เบิร์ดเกิดรู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อเด็กสาวที่เขาแอบรักเข้ามาใกล้ชิดเขาถึงเพียงนี้ เบิร์ดตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวลด้วยเกรงว่าจะเป็นการไม่เหมาะสม
“ไม่ลำบากหรอกค่ะพี่เบิร์ด น้องเฟลมขี่จักรยานชนพี่เบิร์ด หนูก็ต้องรับผิดชอบสิคะ” น้ำฝนอธิบายฉะฉานเสียงดังฟังชัด จากนั้นก็ไม่รอให้เบิร์ดได้ตอบโต้อะไรอีก

ผ้าขนหนูชุบน้ำจากขันบรรจงเช็ดแผลที่หัวเข่าของเบิร์ด ความเย็นของผ้าชุบน้ำส่งกระแสความเสียวแสบเล็กๆไปทั่วร่างของเบิร์ด แต่เขาไม่ทันได้สนใจเพราะทันทีที่น้ำฝนก้มลงเช็ดแผลให้เขา < โอ้โห…เย็ดแม่! > เด็กสาวข้างบ้านก็เผลอโชว์ซาลาเปาในเสื้อสายเดี่ยวของเธอแถมให้เบิร์ดดูอย่างไม่ตั้งใจ

แม้จะเป็นเนินอกที่ยังไม่ได้โตเต็มที่แต่ก็เป็นของเด็กที่เบิร์ดหลงไหล สันดานดิบในตัวของเบิร์ดเริ่มออกอาการอีกครั้ง < แค่ป.6ยังขนาดนี้ ถ้าโตขึ้นจะขนาดไหนนะ? > เบิร์ดเริ่มคิดอกุศลกับเพื่อนบ้านเจ้าน้ำใจ สายตาของเขาจ้องมองทุกท่วงท่าอิริยาบถของน้ำฝนอย่างสนอกสนใจ

“เสร็จแล้วค่ะ พี่เบิร์ดเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่าคะ?” บาดแผลภายนอกที่น้ำฝนเห็นถูกจัดการหมดในเวลาอันสั้น เบิร์ดรู้สึกเสียดายยิ่งนัก หากทำแผลเสร็จเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกแต่เบิร์ดยังไม่อยากจากน้ำฝนไปไหนเลย
“เอ่อ…รู้สึกเจ็บๆแถวๆนี้แฮะ” เบิร์ดบ่นๆพลางเอามือลูบเอวของเขา เมื่อยกชายเสื้อขึ้นมาก็พบรอยช้ำขนาดใหญ่ซึ่งน่าจะเกิดจากจักรยานล้มลงมาทับ
“ตายแล้ว!…เดี๋ยวนะคะพี่เบิร์ด แผลช้ำอย่างนี้ต้องทายาหม่อง” น้ำฝนหันไปหยิบกระเป๋ายาคว้าเอายาหม่องออกมาอย่างชำนาญ

“ยกเสื้อขึ้นซิคะ…พี่เบิร์ด” น้ำฝนออกคำสั่งหวังเพียงจะทายาให้กับเบิร์ด เธอไม่ทันได้นึกเลยว่าที่อยู่ตรงหน้าเธอก็คือหนุ่มข้างบ้านที่แอบชอบเธออยู่

เบิร์ดถกเสื้อขึ้นสูงให้น้ำฝนได้เห็นกล้ามเนื้อท้องอันกำยำจากการออกกำลังกายของเขา เลือดในกายเบิร์ดฉีดพล่านไปทั่วร่างด้วยความตื่นเต้น เมื่อน้ำฝนป้ายยาหม่องติดนิ้วของเธอมาสัมผัสที่บั้นเอวเขา จากนั้นสาวน้อยน้ำใจงามก็บรรจงถูบริเวณรอยช้ำหมุนวนเป็นวงกลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า นิ้วมือที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นให้สัมผัสที่ชวนเคลิ้บเคลิ้ม ความมีน้ำใจของน้ำฝนทำให้เบิร์ดรู้สึกหลงรักเด็กสาวข้างบ้านคนนี้ยิ่งขึ้นทุกทีที่เขาเห็นเธอ

“น้ำฝนนี่ทำแผลเก่งจัง ใครได้น้ำฝนเป็นแฟนคงโชคดีน่าดูนะเนี่ยะ” เบิร์ดอดไม่ได้ที่จะพูด เขาใช้โอกาสนี้แหย่คำถามดูปฏิกิริยาน้ำฝน”พี่เบิร์ดอ่ะ..ไม่เห็นจะเกี่ยวกันซะหน่อย” น้ำฝนยิ้มแบบเขินๆที่จู่ๆก็ถูกชม เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาทายาใส่รอยพกช้ำของเบิร์ดอย่างใจเย็น
“อ้าว…ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ ขนาดพี่…น้ำฝนยังเป็นห่วงขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนน้ำฝนคงจะดูแลดียิ่งกว่านี้อีก” รอยยิ้มแบบเขินๆของเด็กสาวทำให้เบิร์ดเริ่มกล้าที่จะแซวเธอต่อ

“ว่าแต่น้ำฝนมีแฟนรึยังเนี่ยะ?” เบิร์ดได้โอกาสเหมาะยิงคำถามสำคัญ คำถามนี้น้ำฝนถึงกับต้องเหลือบตาขึ้นมามองหน้าเบิร์ดดูความตั้งใจของเขา
” หนูเพิ่งจะป.6 เองนะคะ จะไปมีได้ยังไงเล่า?” น้ำฝนตอบเสียงสั่นๆยังไม่ทิ้งสำเนียงอายๆ พลางเก็บยาหม่องที่เพิ่งใช้เสร็จลงกระเป๋าไป
“แหะๆๆ นั่นสิเนอะ” เบิร์ดหัวเราะตอบรับคำตอบเด็กสาวลดความอึดอัดใจให้เธอ
“แฟนคืออะไรเหรอคะพี่เบิร์ด?” นางฟ้าเบลเกิดความสงสัยหลายเรื่อง แต่เธอนึกอยากจะถามเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน คำถามของเธอเรียกสติเบิร์ดให้ระลึกได้ว่าน้องสาวสุดที่รักของเขาก็อยู่ที่นั่นด้วย
“เอ่อ…คือ แบบว่าคนสองคนรักกันน่ะน้องเบล เค้าเรียกว่าเป็นแฟนกัน” เบิร์ดตอบคำถามไปตามปกติ

“คือน้องเบลเค้าอยู่ต่างประเทศนาน คำศัพท์ภาษาไทยบางคำยังไม่รู้น่ะน้ำฝน” เบิร์ดรู้ดีว่านางฟ้าเบลจะต้องถามแน่ๆ เขาเตรียมวิธีแก้ตัวได้อย่างสมเหตุสมผลทีเดียว
“อ๋อ…งั้นหนูกับพี่เบิร์ดก็เป็นแฟนกันน่ะสิคะ?” นางฟ้าเบลสรุปคำพูดของเบิร์ดออกมาเสียงดังฟังชัด

น้ำฝนได้ยินเข้าถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ แต่เบิร์ดกลับเขินจนทำอะไรไม่ถูก ความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอนั้นเหนือกว่าความคิดของเบิร์ดหลายเท่าตัวนัก

“ไม่ใช่หรอกครับ เราเป็นพี่น้องกัน เป็นแฟนกันไม่ได้หรอก” เบิร์ดรีบอธิบายแบบสั้นๆก่อนที่นางฟ้าตัวน้อยจะเผลอหลุดปากถามอะไรออกมาอีก

“เออ…จริงสิ พรุ่งนี้น้ำฝนว่างมั๊ยครับ?” เบิร์ดนึกเรื่องที่จะพูดขึ้นมาได้ เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“เอ๋?…มีอะไรเหรอคะ?” น้ำฝนถามกลับด้วยความสนใจ ทั้งๆที่ยังคาใจกับคำถามของนางฟ้าเบลไม่หาย
“คือ…น้องเบลเค้าเพิ่งมาถึงบ้านพี่ แต่ยังไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่เลยน่ะ พี่ว่าจะพาน้องเบลเค้าไปซื้อชุดสวยๆใส่ซะหน่อย” น้ำฝนพยักหน้าตามจังหวะพูดของเบิร์ด

“แบบว่า…ถ้าน้ำฝนไป จะได้ช่วยเบลเลือกชุดได้ด้วยไง คือพี่เป็นผู้ชายใช่ม้า…ก็อาจจะไม่สะดวกซักเท่าไหร่น่ะ”

เบิร์ดยกข้ออ้างได้ดีทีเดียว ด้วยเหตุผลนี้เขาจะได้มีโอกาสออกไปเที่ยวพร้อมกับน้ำฝนและนางฟ้าเบลในคราวเดียว คงจะมีความสุขไม่น้อยถ้าเขาจะได้เดินห้างโดยมีเด็กสาวน่ารักๆถึงสองคนเดินเคียงคู่ด้วย

“ว่าไงน้ำฝน…ว่างมั๊ยครับ พี่รบกวนเกินไปรึเปล่า?” เบิร์ดถามด้วยใจร้อนรน
“เอ่อ…อ๋อ ตายจริง!คือ…หนูมีนัดกับคุณครูที่โรงเรียนน่ะค่ะ ต้องไปช่วยงานตั้งแแต่แปดโมงเช้าเลยอ่ะ” น้ำฝนตอบปฏิเสธ สีหน้าของเธอก็บ่งบอกอาการเสียดายอยู่ไม่น้อย

“แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ล่ะก็ว่างนะคะ” น้ำฝนรีบเสนอทางเลือกให้เบิร์ดตัดสินใจ การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่น้ำฝนปรารถนาเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
“อืม…งั้นวันอาทิตย์ก็ได้ครับ 10โมงนะ โอเคมั๊ย?” เบิร์ดทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุดแต่ในใจของเขาพองโตไปด้วยความตื่นเต้น
“ได้ค่ะ” น้ำฝนตอบรับคำเชิญชวนของเบิร์ดอย่างเต็มใจ

หลังจากนั้นทั้งสามคนก็คุยเล่นกันอีกเล็กน้อยก่อนที่เบิร์ดจะขอตัวพานางฟ้าเบลกลับบ้าน…

Share the Post:

Related Posts

ครั้งแรกที่โดนเจ้านายเย็ด แลกกับการไม่โดนไล่ออก

เรื่องเสียว ครั้งแรกที่โดนเจ้านายเย็ด แลกกับการไม่โดนไล่ออก ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ทำงานออกมาได้ดีนัก ถูกตำหนิตั้งแต่เบื้องบนลงมากระทั่งพนักงานระดับเดียวกัน การเป็นนักศึกษาจบใหม่ไฟแรงมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ความสามารถของฉันมันไม่ได้เข้าขั้นเลยจริงๆ และการที่จะต้องรับเงินเดือนเท่าๆ กับคนที่ทำงานมากกว่า มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมสำหรับคนเหล่านั้น จึงไม่แปลกที่บ่อยครั้งฉันจะโดนเขม่นมองอยู่บ่อย ๆ สุดท้าย หัวหน้าของฉันก็เรียกฉันเข้าไป พูดอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ก็ลงท้ายด้วยการยื่นข้อเสนอเรื่องหนึ่งให้ฉัน มันคือเรื่องเสียว…และเพื่ออนาคตของฉันแล้ว ฉันไม่มีทางเลือกอะไรเลย ความตื่นเต้น ความกังวลเกิดขึ้นทันที

Read More

ได้คืบจะเอาศอก ได้อมจะเอาเย็ด ลักหลับลูกพี่ลูกน้องควยใหญ่ในงานปีใหม่รวมญาติ

เรื่องเสียว ได้คืบจะเอาศอก ได้อมจะเอาเย็ด ลักหลับลูกพี่ลูกน้องควยใหญ่ในงานปีใหม่รวมญาติ ฉันยังจำเรื่องเสียวที่เกิดขึ้นช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ไม่ลืมเลยจริงๆ ค่ะ เพราะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะใจกล้าและบ้าบิ่นได้มากขนาดนั้น ที่กล้าลงมือลักหลับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองแบบนี้ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นฉันทั้งเมา ทั้งเงี่ยน แถมไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวร้ายก็นอนควยตั้งอยู่ต่อหน้าต่อตาของฉัน มันเหมือนมีอะไรที่ช่างเหมาะเจาะกันมาเจอกันในวันนี้เลยจริงๆ ค่ะ ครอบครัวของเรานั้นเป็นครอบครัวใหญ่ ปีใหม่ที่ก็จะกลับมารวมตัวที่บ้านคุณทวด ซึ่ง “บี” ลูกพี่ลูกน้องของฉันเมื่อสองปีก่อนเขาไม่ได้มาเพราะว่าต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ปีนี้เขาเลยกลับมาเพื่อร่วมงานรวมญาติ

Read More