ก้อย ภาค 2 ตอนที่ 15
พอกลับมาถึงห้องผมก็ต้องตกใจเมื่อเจอว่าก้อยอยู่ในห้อง เธอกังวลเรื่องทดสอบเป็นผู้จัดการเลยมาหาผมเพื่อให้ผมแนะนำ เรื่องแนะนำไม่เท่าไหร่ แต่ว่าฟางอยู่ที่ห้องด้วยนี่ซิ แล้วแนนบอกก้อยว่ายังไงหละเนี่ย
“กลับมาแล้วหรอค่ะพี่บี”
“เออจ๊ะ แล้วก้อยไม่กลับบ้านหรอวันนี้ ไม่เหนื่อยหรอ”
“ก้อยร้อนใจค่ะ ก้อยอยากมาปรึกษาพี่บี”
“ก็ได้จ๊ะ แล้วก้อยจะค้างหรือเปล่า” ผมพยายามลุ้นให้ก้อยบอกว่าไม่ค้าง
“แหม ค้างก็ได้ค่ะที่จริงก้อยว่าจะไม่ค้างนะ แต่ค้างก็ดีก้อยจะได้มีเวลาปรึกษาพี่บีนานๆ”
“เออจ๊ะ ก็ดีจ๊ะ” ผมหละใจแป้วเลย ถ้าก้อยไม่ค้างยังพอลุ้นว่าก้อยจะไม่ส่งสัยเรื่องฟาง แต่ก้อยค้างแบบนี้ผมจะทำไงดีคงต้องให้แนนเอาฟางไปส่งห้องดีกว่า
“พี่บีรีบไปอาบน้ำซิค่ะ วันนี้ก้อยทอดปลาเค็มกับปลาหมึกที่พี่บี
ซื้อมาด้วยนะ”
“อ้าว แล้วไอ้ตัวเล็กกินอะไรหละ มีแต่ของไม่ชอบทั้งนั้นเลยนี่”
“ก้อยซื้อไก่ย่างกับต้มยำมาให้แนนแล้วหละค่ะ”
“อืมดีแล้วไม่งั้นสงสัยบ่นแย่เลยมีแต่ของมีกลิ่นแบบนี้”
“ไม่มั้งค่ะ ก็เห็นว่าฟางชอบ แนนคงไม่บ่นหรอกค่ะ”
ผมได้แต่สะอึกและพยายามเดาว่าแนนบอกก้อยว่ายังไง
“อ้าวยืนนิ่งทำไมหละค่ะ รีบไปอาบน้ำซิ น้องไปซนกันมาทั้งวันคงหิวกันแล้วหละ”
“จ๊ะๆ”
ผมเดินเข้าไปเจอแนนกับฟางกำลังเล่นเกมกันอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แบบนี้เดี๋ยวก้อยก็ต้องสงสัยแน่นอน ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ออกมานั่งรอสาวๆ ที่โต๊ะทานข้าว หงส์ไปตามแนนกับฟางมาที่โต๊ะส่วนก้อยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง พอมากันพร้อมหน้าเราก็เริ่มทานอาหารกัน
ก้อยเอ็นดูฟางเหมือนกับน้องสาวคนนึง เธอชวนฟางคุยตักกับข้าวให้ นี่เป็นส่วนนึงที่ทำให้ผมรักก้อย ตั้งแต่ตอนแนนแล้วทั้งๆ ที่แนนดูเหมือนจะมาแย่งความรักของผมกับเธอ แต่ก้อยก็รักและเอ็นดูแนนเหมือนน้องสาวไม่เคยเลยซักครั้งที่เธอจะแสดงอาการอิจฉาหรือไม่พอใจที่แนนมาแย่งผมกับเธอ แล้วพอมาถึงเจน แล้วมาเป็นหงส์อีก ก้อยก็ทำให้ผมแน่ใจว่าผมเลือกภรรยาคนโตไม่ผิดคน
ทานข้าวเสร็จแนนก็ชวน ก้อย หงส์ ฟาง ไปเล่นเกมกัน ส่วนผมก็นั่งที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดไอแพดดูว่าลินส่งอะไรมาให้ผมบ้างหรือเปล่า ลินส่งข้อสอบที่จะใช้ทดสอบตำแหน่งผู้จัดการของก้อยมาให้ ผมชั่งใจอยู่ประมาณสิบนาทีว่าจะเปิดเมลนี้ดูเพื่อที่จะได้บอกก้อยแล้วก้อยก็จะได้เป็นผู้จัดการแน่ๆ หรือผมควรจะลบมันทิ้งแล้วให้ก้อยทำตามความสามารถของเธอดี
พอถึงเวลาละครสาวๆ ก็พากันนั่งดูละครกันซึ่งปรกติแนนไม่ค่อยชอบดู แต่พอก้อยมาอยู่ด้วยทีไรแนนก็กลายเป็นคนติดละครขึ้นมาบ้างทุกที ผมไม่ได้เปิดเมลข้อสอบของก้อยอ่าน แต่ก็ไม่ได้ลบมันทิ้ง ผมนั่งอ่านรายงานของลินเรื่องอื่นๆ รวมถึงเมลอ้อนให้ผมไปฟังเธอสรุปผลงานของบริษัทต่างๆ ที่ห้องของเธอพรุ่งนี้ ผมแกล้งไม่ตอบกลับลินก็ยิ่งส่งข้อความมาอ้อนให้ผมไปหาจนผมใจอ่อนยอมตกลงไปฟังสรุปของเธอที่ห้องพรุ่งนี้
ละครจบแนนฟางหงส์ก็พากันไปเข้านอน พอไม่มีใครอยู่ก้อยก็เดินมากอดผมจากด้านหลังก่อนจะพูดเสียงหวานที่ข้างๆ หูผม
“เสร็จงานหรือยังค่ะ”
“อ้อเสร็จแล้วจ๊ะ” ผมรีบปิดไอแพดก่อนที่ก้อยจะสนใจอยากดู
“งั้นก็ว่างให้คำปรึกษาก้อยแล้วซินะค่ะ”
“ได้ซิ แต่พี่คิดค่าที่ปรึกษานะ”
“คิดแพงไหมค่ะ ก้อยไม่ค่อยมีเงินนะ มีแต่ตัว พอจะจ่ายแทนเงินได้หรือเปล่าค่ะ”
“เกินพอเลยหละจ๊ะ แต่ว่าต้องจ่ายก่อนให้คำปรึกษานะ”
“แหมเอาเปรียบก้อยอีกและ”
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วหันมากอดจูบก้อย ผมพาเธอไปที่โซฟาแล้วก็เรียกค่าปรึกษาเธอไปหนึ่งครั้ง หลังจากเรียกค่าที่ปรึกษาเสร็จ ผมกับก้อยก็นอนกอดกันโดยที่ก้อยนอนทับอยู่บนตัวผม
“ก้อยไม่ค่อยมั่นใจเลยค่ะพี่บี ก้อยกลัวว่าจะสอบไม่ได้”
“ทำไมหละก้อย เรื่องงานก้อยก็น่าจะรู้หมดทุกอย่างอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”
“เรื่องงานก้อยไม่ห่วงค่ะ แต่ก้อยห่วงเรื่องที่เค้าจะมีทดสอบบุคลิกภาพด้วย ก้อยไม่เคยรู้เลยว่าคนเป็นผู้จัดการเค้าควรทำตัวยังไง หัวหน้าเก่าก็ไม่เคยแสดงอะไรที่ทำให้ก้อยประทับใจจนเอาเป็นแบบอย่างได้เลย”
“ไม่เป็นจะน่ากลัวเลยพี่ว่าก้อยก็ทำตัวเหมือนปรกติของก้อยก็ได้นี่”
“ยังไงค่ะ ทำตัวปรกติ ก้อยไม่เคยมีลูกน้องนะค่ะพี่บี”
“ก้อยก็ทำเหมือนเวลาก้อยอยู่กับ แนน เจน หงส์ หรือน้องคนอื่นๆ ซิ”
“มันไม่เหมือนกันนี่ค่ะ นี่ครอบครัว แต่ก้อยถามเรื่องงานนะพี่บี”
“มันก็เหมือนกันแหละก้อย การเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือหัวหน้างานมันก็ไม่ต่างกันหรอก”
“แต่ก้อยไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวนี่ซะหน่อย พี่บีต่างหากหละที่เป็น”
ผมลูบผมก้อยสองข้างที่ตกมาปิดใบหน้าเธอไปทัดหูไว้ จากนั้นก็ประคองแก้มสองข้างของก้อย
“แต่ก้อยเป็นพี่สาวคนโตของ แนน เจน นะ และยังเป็นพี่สาวให้คนอื่นๆ อีก”
“ก็แค่พี่สาวนี่ค่ะ มันเกี่ยวยังไงกับการเป็นหัวหน้างานหละ”
“เกี่ยวซิ ก็ต่อไปก้อยก็ต้องเป็นพี่สาวของน้องๆ ในแผนก ถ้าก้อยเห็นลูกน้องเหมือนเป็นน้องของก้อย ถ้าพวกเค้าโดนกล่าวหาว่าทำผิดก้อยจะทำยังไง”
“ก็ต้องปกป้องซิค่ะก็น้องก้อยนี่ค่ะ”
“แล้วถ้าเค้าทำผิดจริงแล้วจะต้องโดนผู้ใหญ่ลงโทษก้อยจะทำยังไง”
“ก้อยก็ต้องปกป้องก่อนแหละค่ะ แล้วเรื่องผิดจริงไม่จริงค่อยมาคุยกันเองก่อน ถึงผิดจริงก็ต้องเจตนาด้วย คนเราผิดกันได้จริงไหมค่ะ”
“จ๊ะ แค่นี้พี่ว่าก้อยก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการแล้วหละ”
“ขอบคุณนะค่ะพี่บีที่อธิบายให้ก้อยเข้าใจ”
ก้อยนอนลงซบอกผม
“เรื่องก้อยจบแล้ว แล้วเรื่องน้องฟางพี่บีจะว่าไงค่ะ”
จากที่ผมกำลังดีใจที่ช่วยก้อยได้กลายเป็นรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว
“ว่ายังไงหละค่ะ ถ้าพี่บีจะรับน้องฟางอีกคนก้อยก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่พี่บีก็ต้องรับคนที่เค้ารออยู่ก่อนด้วยนะ ไม่งั้นก้อยไม่ยอมจริงๆ ด้วย”
“อะไรหละจ๊ะก้อย น้องฟางเค้าแค่มาค้างเป็นเพื่อนแนนเอง”
“อย่ามาหลอกก้อยเลยค่ะ สาวๆ ที่มาห้องนี้เนี่ย ทุกคนก็มาเพราะพี่บีทั้งนั้นแหละ แค่มองตาน้องฟาง ก้อยก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร”
“แล้วก้อยไม่โกรธพี่หรอ”
“ทำไงได้หละค่ะ ก็แฟนก้อยน่ารักแล้วก็ช่วยเหลือคนอื่นไปทั่วจนมีแต่คนมาหลงรักแบบนี้ ก้อยก็คงต้องทำใจนะ”
“ไม่เอานะอย่าน้อยใจซิ พี่ไม่มีวันรักใครมากกว่าก้อยหรอก”
“ก้อยเชื่อค่ะ”
“งั้นก็ดีงั้นแต่งงานกันเลยดีไหมก้อยจะได้ไม่ต้องคอยหึงพี่
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะพี่บี แล้วก้อยก็ไม่ได้หึงพี่บีด้วย ว่าไงค่ะถ้าจะรับน้องฟางเพิ่ม พี่บีก็ต้องรับน้องหงส์ด้วยนะ”
“พี่ก็คิดกับน้องฟางเหมือนน้องหงส์แหละ น้องฟางเค้ายังมีอนาคตอีกไกล พอเรียนจบเค้าน่าจะหาคนดูแลได้ดีกว่าพี่”
“เฮอ พี่บีนี่ดื่อมากเลยนะค่ะ ชอบทำอะไรฝืนความรู้สึกจริงๆ ของตัวเอง”
“ไม่นี่ก้อย พี่ก็ไม่ได้ฝืนใจอะไรนะ พี่กลับรู้สึกดีซะอีกที่ยังรักษาสัญญาว่าจะมีเมียแค่สามคนไว้ได้”
“ตามใจเถอะค่ะ ก้อยไม่อยากฝืนใจพี่บีแล้ว ที่จริงก้อย แนน และเจน ก็ไม่ว่านะค่ะถ้าพี่บีจะมีคนอื่นเพิ่มมาอีก พวกเราจะได้ไม่ต้องเหนื่อย จะได้มีคนมาแชร์บ้าง อย่างก้อยเนี่ย มาทีไหร่เหนื่อยทุกทีเลย” ก้อยไม่อยากให้ผมเครียดเธอเลยเปลี่ยนเรื่องคุย
“อะไรนะ ก้อยว่าพี่กวนก้อยจนไม่ได้พักผ่อนหรอ”
“ใช่ค่ะ ก้อยมาที่ไรเหนื่อยทุกที่ มีคนอื่นมาอยู่กันเยอะๆ บ้างก็ดี ก้อยจะได้ไม่เหนื่อยมาก”
“แหม ครั้งล่าสุดที่ก้อยมา พี่จำได้ว่าก้อยเป็นคนควบพี่จนเช้านะไม่ใช่พี่ควบก้อยซะหน่อย”
“อุ้ย พี่บีว่าก้อยกวนพี่บีจนไม่ได้นอนหรอ ก้อยไม่เคยนะ ฮึว่าก้อยกวนนัก ก้อยไปนอนในห้องดีกว่างอนแล้ว”
ผมรั้งเอวก้อยไม่ให้เธอลุกขึ้น
“ครั้งก่อนก้อยกวนพี่ไม่ให้นอน ครั้งนี้พี่จะกวนก้อยไม่ให้นอนบ้างดีไหม”
“ไม่เอานะ ก้อยจะไปนอนในห้องแล้ว ว้าย อย่าทะลึงซิพี่บีนี่”
ผมปล้ำก้อยอีกหลายรอบจนเธอหมดแรงหลับไป ตอนเช้าพวกเราต่างคนต่างแยกย้ายกันออกจากห้อง ผมกับหงส์ไปออฟฟิต ก้อยก็ไปทำงาน แนนกับฟางก็ไปเรียน ก้อยจะกลับมาค้างอีกทีวันศุกร์ตามที่สัญญาไว้ว่าจะมาดูแลเด็กๆ ให้ผม ไปออฟฟิต ผมก็เปิดไอแพดแล้วลบเมลข้อสอบของก้อยทิ้ง ผมคิดว่าตอนนี้ก้อยมั่นใจมากพอแล้ว ถึงเธอจะบังเอิญสอบไม่ได้จริงๆ เธอคงไม่เสียใจเพราะเธอได้ทำเต็มที่แล้ว
เช้านี้ผมนั่งทำงานได้ไม่นานลินก็เริ่มส่งข้อความตามให้ผมไปหาเธอที่ห้องจนผมทนลูกตื้อไม่ไหว ผมเลยต้องออกไปหาเธอที่ห้องตามสัญญา แล้วฟางก็สรุปรายงานให้ผมฟังบนเตียง ผมต้องให้รางวัลในผลงานของเธอไปหลายยกกว่าเธอจะยอมปล่อยผมกลับไปทำงานที่ออฟฟิต
พอกลับมาทำงานที่ออฟฟิตพี่ผึ้งก็มาเตือนผมเรื่องงานมิตติ้งพรุ่งนี้
“ห้ามเบี้ยวแล้วนะบี พี่ไม่อยากให้น้องเฟรินกับเชอรี่เค้าเลื่อนงานอีก”
“แหมพี่ผึ้งครับ น้องเค้าคงไม่เลื่อนงานรอผมคนเดียวหรอกครับ ถ้าผมไม่ไปยังไงเสาร์นี้เค้าก็ต้องเริ่มงานมิตติ้งอยู่ดีแหละครับ”
“แต่ฉันว่าสองสาวนี้อาจจะหาเรื่องเลื่อนอีกก็ได้ ไม่รู้เราไปทำอะไรน้องเค้าไว้เค้าถึงได้ติดแจขนาดนี้ นี่น้องเค้าอายุยังไม่ถึง 18 นะ ระวังจะเข้าคุกหละ”
“โหพี่ ผมไม่สนเด็กๆ หรอกครับ ผมชอบแบบรุ่นพี่สาวมากกว่า อายุเกินแล้ว เป็นสาวเต็มตัวแล้ว อย่างพี่ผึ้งนี่ใช่เลย”
“ไม่ต้องมาทะลึงเลย พอแล้วไม่มีอีกแล้วหยะ ฉันไม่หลวมตัวให้เธอหลอกฟันอีกแล้ว”
“ผมนี่นะหลอกฟันพี่ผึ้ง ผมฟันพี่เพราะผมรักพี่จริงๆ นะครับ”
“พอเลยบีไม่ต้องมาปากหวาน สรุปพรุ่งนี้ขนเสื้อผ้ามาเลยนะเดี๋ยวนั่งรถตู้บริษัทไป พี่จะไปด้วยพี่จะได้แน่ใจว่าเราไม่เบี้ยวแอบหนีกลับบ้าน”
“โหพี่ผมไม่ใช่เด็กๆ นะจะได้แอบหนีกลับบ้าน”
“พี่ไม่เชื่อเราหรอก เดี๋ยวมีสาวๆ ตามก็แอบหนีกลับอีก พี่จะไปคุมเราเอง”
วันรุ่งขึ้นพี่ผึ้งก็ให้ลุงชิดขับรถตู้มารับผมที่คอนโด ผมขึ้นไปในรถก็เจอว่าพี่ผึ้งนั่งอยู่ในรถแล้ว ผมกะจะแกล้งพี่ผึ้งเหมือนเมื่อคราวไปถ่ายแบบกันคราวที่แล้ว แต่พี่ผึ้งนั่งที่เบาะแถวหน้าทำให้ผมไม่กล้าทำอะไรลุมล่ามเพราะกลัวลุงชิดจะเห็น และน้องๆ ในแผนกของพี่ผึ้งที่นั่งด้านหลังอีก
“ไม่เจอกันซะนานเลยนะครับคุณบี”
“ครับลุง ผมมันแค่พนักงานธรรมดา เลยไม่ค่อยได้มีโอกาสได้นั่งรถตู้บริษัทแบบนี้ครับ”
“อย่าไปเชื่อตานี่ค่ะลุง ตอนนี้ตาบีเนี่ยเค้าใหญ่กว่าประธานบริษัทแล้วค่ะ ที่เค้าไม่ค่อยมานั่งรถตู้เนี่ย คงเพราะมั่วแต่เอาเวลาไปหาสาวๆ มากกว่า” พี่ผึ้งพูดด้วยน้ำเสียงหึงหวงนิดๆ
“แหมพี่ผึ้งก็ ผมก็แค่ลูกจ้างคนนึงเหมือนกันแหละครับ แล้วที่ผมไม่ค่อยได้มานั่งรถลุงชิดเนี่ยเพราะผมทำงานนะ ผมไม่ได้ไปนอกใจพี่ผึ้งอย่างที่พี่บอกซะหน่อย”
“นี่พูดให้ดีๆ นะยะ ฉันมีแฟนแล้ว พูดแบบนี้ลูกน้องฉันเข้าใจผิดหมดนะยะ”
แต่ผมก็ไม่ยอมหยุดแซวพี่ผึ้ง ก็มีสาวสวยอยู่คนเดียวในรถนี่ครับ เปิ้ลก็ไม่มาคนที่มากับพี่ผึ้งก็ผู้ชายทั้งนั้น เนื่องจากสถานที่ที่เราจะไปกันนั้นไกลมากคาดว่าคงไปถึงช่วงใกล้มืด หลังจากแวะกินข้าวเที่ยงกันช่วงบ่ายผมก็แกล้งหลับแล้วนอนไปซบพี่ผึ้ง แรกๆ พี่ผึ้งก็พยายามดันหัวผมให้นอนไปทางอื่น แต่ผมก็แกล้งทำเป็นซบกลับมาที่เดิมตลอดจนพี่ผึ้งคงถอดใจปล่อยให้ผมนอนซบไปจนถึงค่าย
ค่าย ฟังดูแปลก แต่มันเป็นค่ายจริงๆ เป็นรีสอร์ทบนเขามีค่ายผจญภัยอยู่ด้วย วันนี้สองสาวเฟรินเชอรี่ยังไม่มาพวกเธอจะมาถึงพรุ่งนี้ตอนเช้าเพราะติดโชว์ตัวอยู่คงเดินทางมาคืนนี้ พอลงจากรถผมก็เจอว่ารถทัวร์ที่ขนแฟนคลับมาถึงก่อนแล้ว พี่ผึ้งบอกว่าวันนี้คงมีแค่การทานข้าวร่วมกับของบรรดาแฟนคลับ พรุ่งนี้ถึงจะเริ่มมีกิจกรรม
เราแยกย้ายกันไปตามห้องพัก มันเป็นเหมือนบ้านเห็ดแบ่งกลุ่มกันเป็น หก ห้องบ้าง แปดห้องบ้าง แต่แต่ละห้องก็มีทางเข้าเป็นของตัวเองเพื่อความเป็นส่วนตัว พี่ผึ้งอยู่บ้านหลังอื่นรวมกับพวกเด็กสาวๆ ส่วนผมอยู่บ้านที่มีแต่ผู้ชายอยู่ ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอนพักผ่อนจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มที่พี่ผึ้งนัดไว้ผมก็ออกจากห้องไปยังลานกว้างที่ตอนนี้มีโต๊ะวางเป็นวงกลมอยู่หลายสิบตัว
ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีคนมามากนัก แต่เท่าที่ผมเห็นรู้สึกแฟนคลับจะมีแต่เด็กสาวๆ อายุประมาณ 14-15 ซะส่วนใหญ่ ผมเดินไปนั่งโต๊ะที่มีป้ายชื่อบริษัทของผมตั้งอยู่ ซักพักพี่ผึ้งและลูกของของเธอก็ค่อยทยอยมานั่ง บรรดาแฟนคลับก็เริ่มมานั่งกันจนแน่นไปหมด
มีเด็กบางคนคงจำผมได้จาก MV พวกเธอหันมามองแล้วซุบซิบ และในที่สุดกลุ่มแรกก็พากันวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับสมุดและปากกาเพื่อขอลายเซ็นต์ พอกลุ่มแรกไปพวกที่เหลือก็มั่นใจว่าผมคือพระเอกใน MV จริงๆ ที่นี่ก็มีเด็กต่อคิดให้ผมเซ็นต์ลายเซ็นต์จนเมื้อยมือ มีเด็กสาวน่ารักๆ หลายคน แต่พอผมถามว่าเรียนชั้นอะไรแล้วผมก็ต้องแอบท่องว่า คุก คุก คก อยู่ในใจ เพราะแต่ละคนยังไม่มีใครจบมัธยมปลายเลย แถมบางคนยังเรียนแค่มัธยมต้นด้วยซ้ำ
กว่าที่ผมจะแจกลายเซ็นต์ให้บรรดาเด็กสาวเสร็จผมก็แทบจะยกมือขวาไม่ขึ้น
“ไงพ่อพระเอกคนดัง นี่ไม่ต้องแจกเบอร์น้องๆ เค้าเลยนะ คงยังไม่มีใครเกิน 18 ซักคน ถ้าไม่เชื่อระวังจะได้ไปเที่ยวฮ่องกงนะ”
“ผมบอกแล้วผมไม่ชอบเด็ก ผมชอบ…..” พี่ผึ้งรีบทำตาดุเพราะกลัวผมจะพูดทะลึงให้ลูกน้องเธอได้ยิน
มีการเล่นกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนกิจกรรมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทุกงานพิธีกรก็จะต้องเรียกผมขึ้นไปเล่นบนเวทีด้วยเหมือนเอาผมไปเป็นตัวเอนเตอร์เทน ซึ่งทุกครั้งผมก็จะกลับมานั่งบ่นที่โต๊ะโดยมีพี่ผึ้งคอยให้กำลังใจผมด้วยคำว่า “สมน้ำหน้า”
เวลาผ่านไปจนห้าทุ่มก็มีการจับรางวัลกันโดยมีของรางวัลที่ทางค่ายเพลงเตรียมมาจนกระทั้งรางวัลสุดท้ายเป็นรางวัลพิเศษคือคนที่ได้รับจะขออะไรก็ได้หนึ่งอย่าง แล้วพิธีกรก็ขานหมายเลขที่ได้รับรางวัล มีเด็กสาวคนนึงเดินไปที่เวที ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจเท่าไรนักจนกระทั้งได้ยินเสียงและคำขอของเธอ
“แพรขอเต้นรำกับพี่บีหนึ่งเพลงค่ะ”
ผมรีบหันไปมองเพราะชื่อและน้ำเสียงของเธอ แพรจริงๆ ด้วยเจ้าของเจ้าจีจี้ที่แนนเคยเก็บมาเลี้ยง พิธีกรเรียกผมขึ้นไปบนเวที แล้วก็ให้ผมกับแพรคุยกัน
“แพรมาด้วยหรอ ทำไมพี่ไม่เห็นแพรตอนแจกลายเซ็นต์เลย”
“แพรไม่กล้าไปขอลายเซ็นต์พี่ค่ะ แพรกลัวพี่บีจำแพรไม่ได้”
พิธีกรให้ผมจับมือขวาแพรและใช้มืออีกข้างโอบเอวเธอ แล้วเพลงก็เปิดขึ้น ผมขยับเท้าช้าๆ ไปตามจังหวะโดยที่มีแพรก้าวตามผม แพรจ้องมองผมตาแป้วพร้อมกับยิ้ม
“ไม่เจอกันนานเลยนะ จีจี้เป็นไงบ้างหละไม่หลุดหายอีกนะ”
“สบายดีค่ะ ไม่หลุดแล้วค่ะ เวลาไปข้างนอกแพรจะอุ้มไว้ไม่ก็ใส่สายจูงค่ะ”
“น้องแพรเป็นแฟนคลับเฟรินกับเชอรี่หรอ”
“ไม่ได้เป็นหรอกค่ะ แค่ชอบๆ เฉยๆ”
“อ้าวหรอ แล้วทำไมมางานนี้ได้หละ”
“ก็เพราะเฟรินกับเชอรี่บอกว่าจะมีแขกพิเศษมาด้วย แพรคิดว่าต้องเป็นพี่บีแน่ๆ แพรเลยมาค่ะ”
“จริงๆ หรอที่จริงอยากเจอพี่โทรหาพี่ก็ได้นี่ ได้เจอแน่ๆ ดีกว่ามาเสี่ยงเอาแบบนี้นะ เกิดพี่ไม่มาหละ”
“ก็แพรเกรงใจพี่นี่ค่ะ แพรไม่กล้าโทรหาพี่” แพรหน้าแดงแล้วเริ่มไม่กล้าสบตา
ผมรู้แล้วว่าแพรชอบผม แต่แพรเพิ่งอายุ 16 เองมั้ง เธอก็สวยนะ โตขึ้นคงสวยมากๆ เลย แต่ตอนนี้เธอยังไม่มีอะไรเลย หน้าอก็ไม่มีสะโพกก็ไม่มีหุ่นแบบเด็กอยู่เลย ที่สำคัญอายุน้อยอยู่ด้วยเกิดยุ่งแล้วมีปัญหาผมได้เข้าคุกแน่ๆ
“แหมไม่กล้าโทรหาพี่ก็โทรหาพี่แนนก็ได้ บอกเค้าว่าจะเอาจีจี้ไปหารับรองขานั้นเขารีบไปรับแพรมาเจอพี่แน่ๆ”
“พี่บีกับพี่แนน เป็นแฟนกันไม่ใช่พี่น้องใช่ไหมค่ะ”
“แพรรู้ได้ไง”
“ก็แพรรู้สึกค่ะ ดูจากสายตาที่พี่มองกันมันมากกว่าแค่พี่น้อง”
“จ๊ะพี่แนนเป็นแฟนพี่” ผมถือโอกาสพูดให้แพรตัดใจ
“ค่ะ แพรก็ว่า พี่บีคงไม่ชอบเด็กกะโปโล พี่บีน่าจะชอบสาวมหาลัยแบบพี่แนนมากกว่า”
“แหมน้องแพรก็สวยนะอีกสองสามปีพออยู่มหาลัย น้องแพรคงได้เป็นดาวเลยนะ พี่ดูไม่ผิดหรอก”
“แต่แพรอยากสวยตอนนี้เลยค่ะ พี่บีจะได้สนใจแพรบ้าง”
“ตอนนี้แพรก็เป็นน้องสาวพี่คนนึงนะ แพรโทรมาคุยหรือเจอพี่ได้นะ”
“แต่แพรอยากเป็นมากกว่านั้นค่ะ”
“ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้นะเรื่องนี้ แพรไม่ต้องรีบร้อนหรอก เดี๋ยวพอแพรโตกว่านี้ แพรก็จะเจอคนอื่นเยอะ ถึงตอนนั้นแพรอาจจะลืมพี่ไปเลยก็ได้”
“แพรไม่มีทางลืมพี่ได้หรอกค่ะ” แพรซบมาที่อกผม
ผมต้องรีบหันเอาหลังบังไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็น ผมพยายามปลอบให้แพรทำใจแต่ดูเธอจะไม่ยอมฟังเลย นี่แหละนะเด็กคงไม่เคยมีแฟนพอได้เจอผมคุยกับผมก็เลยเกิดหลงขึ้นมา แต่ผมคงช่วยอะไรเธอไม่ได้เธอยังเด็กเกินไป พอเพลงจบเราก็แยกกัน แพรดูเหมือนฝืนยิ้มก่อนจะลงจากเวทีไป ส่วนผมก็กลับมาที่โต๊ะ
“แหมเนื้อหอมจังนะขนาดเด็กก็ยังไม่เว้นนะ” พี่ผึ้งพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“โถพี่ ผมก็คิดแค่เป็นน้องสาวแหละครับ”
“เชอะ พี่น้องท้องชนกันหละไม่ว่า”
“พี่ผึ้งหึงหรอ” ผมแอบพูดเบาๆ ไม่ให้คนอื่นได้ยิน
พี่ผึ้งทำหน้างอใส่ก่อนจะลุกขึ้น
“งานจบแล้ว ไปนอนกันได้แล้วพรุ่งนี้ต้องมาเป็นตัวเอนเตอร์เทนให้เค้าอีกนะ”
พวกผมแยกย้ายกันกลับห้อง พวกเด็กๆ ก็เหมือนกัน กลับไปถึงห้องแพรก็โทรมาหาผมทันที
“พี่บี แพรรักพี่นะค่ะ พี่ไม่รักแพรบ้างเลยหรอ”
“พี่รักแพรนะ แต่แพรยังเด็กเกินกว่าจะมีความรักแบบผู้ใหญ่นะ ตอนนี้พี่คงรักแพรได้แค่แบบน้องสาว”
“แต่แพรพร้อมแล้วนะค่ะ แพร 16 แล้ว แพรพร้อมทุกอย่างขอแค่พี่บีรักแพรเหมือนรักพี่แนน แพรยอมเป็นแค่กิ๊กก็ได้ค่ะ”
“แพรรู้หรือว่ากิ๊กหมายความว่ายังไง แพรยังไม่เคยมีแฟนเลยนะ”
“ก็ ก็มีอะไรกันแต่ไม่ผูกมัด แต่ก็รักกัน แต่ถ้าแพรไม่รู้พี่บีก็สอนได้นี่ค่ะ”
“พี่ว่าแพรรออีกซักสองปีแล้วค่อยมาคุยเรื่องนี้กับพี่อีกทีดีไหม บางที่ตอนนั้นแพรอาจจะไม่อยากทำแบบนี้แล้วก็ได้”
แพรไม่ยอมฟังเอาแต่ร้องไห้ ไม่ว่าผมจะพยายามพูดยังไงเธอก็ไม่ยอมเข้าใจจนสุดท้ายเธอก็ใช้ไพ่ตายกับผม
“ถ้าพี่บีไม่มาหาแพรที่ห้องตอนนี้ พี่จะฆ่าตัวตาย” แล้วแพรก็กดวางสาย
ผมตกใจมากรีบใส่รองเท้าแล้ววิ่งไปที่ห้องแพร ประตูห้องไม่ได้ล๊อคผมรีบเปิดเข้าไปด้านใน ผมเจอแพรนั่งร้องไห้บนเตียงโดยไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายอย่างที่เธอบอก ผมไม่รู้สึกโกรธแพรที่เธอโกหก เพราะมันดีกว่าที่เธอทำจริงๆ แล้วไม่บอกผมรอให้ผมรู้ตอนที่สายไปแล้ว
ผมกอดแพรไว้แล้วลูบหัวเธอพร้อมกับพูดปลอบใจ
“ไม่เอานะที่หลังอย่าคิดแบบนี้อีกนะ ทำแบบนี้ไม่ใช่แค่พี่เสียใจนะ พ่อแม่แพรก็จะต้องเสียใจด้วยนะ”
“ก็แพรรักพี่บีนี่ค่ะ แพรไม่รู้จะทำยังไงให้พี่บีรักแพรตอบ”
“น้องแพรทำแบบนี้ ก็เท่ากับน้องแพรบังคับให้พี่รักน้องแพรนะ น้องแพรชอบหรอที่มีคนแกล้งทำเป็นรักน้องแพร”
“แพรน่าเกลียดจนพี่บีต้องแกล้งรักเลยหรอค่ะ”
แพรพูดแทงใจดำผมอีก เธอสวยพอให้ผมรักเธอได้ ติดแค่เธอยังเด็กเกินไปกว่าจะมีความรักแบบผู้ใหญ่หรือพูดง่ายๆ คือมีเซ็กส์
“ไม่หรอกจ๊ะ น้องแพรน่ารักมากเลย”
“น่ารักทำไมไม่รักหละค่ะ”
“รักซิ มาขอพี่กอดหน่อย”
ผมกอดแพรไว้ แต่มันก็ยังรู้สึกเหมือนกอดน้องสาวนั่นแหละ กอดแพรได้ซักพักผมก็ปล่อยเธอ
“เป็นแฟนกันเค้าทำกันแค่นี้หรอค่ะ”
ฟังดูแล้วเหมือนคำถามยี่ยวน แต่พอเห็นแววตาใสซื่อของแพรแล้วทำให้ผมรู้ว่าเธอกำลังสงสัยจริงๆ
“ก็มีหอม พี่หอมแก้มแพรได้ไหม”
แพรผยักหน้า ผมก็ก้มไปหอมแก้มแพรข้างละที
“พี่บีไม่จูบแพรหรอค่ะ”
“แพรจูบเป็นด้วยหรอ”
“ไม่เป็นค่ะ แต่เคยเห็นในทีวี ก็แค่เอาปากแตะกัน”
“แพรอยากให้พี่จูบหรอ”
“ก็แฟนกันเค้าก็ต้องจูบกันไม่ใช่หรอค่ะ”
“งั้นพี่ก็ต้องจูบแพรซินะ”
ที่แรกผมก็กะแกล้งๆ เอาปากแตะกับปากแพรเพื่อให้จบๆ ไป แต่ริมฝีปากที่บางนุ่ม รสสัมผัสมันช่างแตกต่างจากผู้หญิงที่เป็นสาวเต็มตัวอย่างสิ้นเชิง จากที่คิดแค่จะเอาปากแตะๆ ผมก็เริ่มงับริมฝีปากนิ่มๆ ของแพรไปทั่ว ตอนแรกแพรก็ดูจะตกใจเหมือนจะผละปากหนี แต่แค่โดนผมงับริมฝีปากไปไม่กี่ครั้งแพรก็ตาเยิ้มปล่อยให้ผมเล่นกับริมฝีปากน้อยๆ ของเธอ
ผมรู้สึกเริ่มมีอารมณ์ อาวุธผมเริ่มแข็งตัว ทั้งๆ ที่ผมพยายามคิดว่าแพรยังเด็กนะ แพรยังเด็กนะ แต่ผมก็เริ่มอดใจไม่ไหว แค่แพรแล๊ปลิ้นออกมาแตะปากผม ผมก็ประกบปากเธอดูดทันที แพรหลับตาพริ้มรอให้ผมสอนวิธีแลกลิ้นให้เธอ ไม่นานแพรก็เริ่มจูบเป็น รสหวานในปากแพรทำเอาผมหยุดจูบเธอไม่ได้
ไม่นานแพรก็เริ่มหน้าแดงหายใจแรงขึ้น ใบหน้าเธอเริ่มร้อน แพรปายมือเปะปะไปทั่วจนผมต้องจับมือเธอให้มาเกาะแขนผมไว้ ผมเริ่มดูดปากแพรแรงๆ จนแพรใช้มือจิกแขนผมแน่นเธอเกร็งไปทั้งตัว ผมเลยหยุดดูดลิ้นเธอ แล้วผละปากออก แพรพยายามยืนปากให้ผมจูบต่อ พอเธอรู้สึกว่าผมไม่ยอมจูบเธอต่อ แพรก็ลืมตาดูแล้วมองผมด้วยสายตาเหมือนเด็กที่กำลังโหยหาไออุ่น
ผมไม่ได้พูดอะไรแค่โน้นตัวพร้อมกับดันตัวแพรให้นอนลงบนเตียง พอตัวผมทาบตัวแพรเธอก็รีบกอดขอผมไว้เหมือนกลัวผมจะหนีเธอไปอีก ผมก้มลงจูบปากแพรอย่างดูดดื่มอีกครั้ง คราวนี้มือผมเริ่มลูบไล้ไปทั่วร่างของแพร ตัวเธอนิ่มไปหมดไม่ว่าจะส่วนไหน ผมลูบไล้ไปทั่วจนมาหยุดที่หน้าอกน้อยๆ ของแพร ผมสอดมือเข้าไปใต้บราของเธอแล้วควานหาปลายถัน
แพรปิดตัวไปมาพร้อมกับครางเสียวในลำคอ ผมหาปลายถันแพรไม่เจอ หัวนมแพรยังไม่แตกพานเลยมันยังบอดอยู่เลย ผมเลยบีบเล่นเบาๆ แพรเสียวจนแอ่นอกเร่าๆ ผมชักจะอยากเห็นว่าหน้าอกแพรมันจะน่ารักขนาดไหน ผมเลยผละปากจากเธอแล้วเริ่มซุกไซด์ไปตามซอกคอ แพร่ร้อง โอ้ยย โอ้ยย ไม่หยุด
แล้วผมก็ถลกเสื้อยืดแพรขึ้นเผยให้เห็นหน้าอกน้อยๆ สองข้างที่มีปานสีชมพูอยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง มันดูแปลกตาสำหรับผม ผมเคยเจอผู้หญิงหัวนมบอดมาบ้างแต่ไม่เคยเจอหัวนมยังไม่แตกพานแบบนี้ ผมเริ่มงับไปตามก้อนเนื้อนิ่มๆ ของแพร ตอนนี้แพรร้องครางไม่หยุด มือเธอกดหัวผมไว้แน่น ผมงับไปทั่วทั้งสองเต้าก่อนจะไปหยุดที่ปลายข้างซ้าย
ผมลองเม้มปากดูดนมที่ยังไม่แตกพานของแพรดูด แพรแอ่นอกร้องอู้ยยยยลั่น ผมดูดข้างซ้ายทีขวาทีอย่างทนุทนอมเพราะเท่าที่ผมดูถ้านมแพรแตกพานมันคงสวยน่าดูดมาก ผมเลยต้องถนอมมันไว้ก่อนไม่อยากให้เสียรูปไป ผมดูดหน้าอกแพรจนหนำใจผมก็เริ่มลากลิ้นลงมาที่หน้าท้องแพร แพรหัวเราะคิกคักเธอคงรู้สึกจั๊กกะจี้
ระหว่างที่แพรกำลังทั้งเสียวทั้งจั๊กกะจี้ผมก็เริ่มปลดกระดุมกางเกงขาสั้นของเธอออกจนเห็นกางเกงในลายการ์ตูนอยู่ด้านใน ผมค่อยๆ รูดกางเกงขาสั้นของแพรออก ดูเธอจะเพลินกับความเสียวโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัวเลย พอกางเกงขาสั้นแพรหลุดออก ผมก็สังเกตเห็นว่าแพรยังไม่มีขนเลย แต่มันจะใช่อย่างที่ผมเห็นหรือเปล่าเพราะตอนนี้ยังมีกางเกงในลายการ์ตูนปกปิดของสงวนของเธออยู่
ผมเลยค่อยๆ รูดกางเกงในแพรออก แพรตกใจรีบมาคว้ามือผมให้หยุด ผมหยุดตามที่มือแพรจับมือผมไว้ แต่ผมก็ยังคงดูดงับหน้าท้องแพรและต่ำลงมาจนถึงขอบกางเกงในด้านบน แล้วแพรก็ทนความต้องการของตัวเองไม่ไหว แพรเป็นฝ่ายดันมือผมให้ถอดกางเกงในเธอออกเอง
เป็นอย่างที่ผมเห็นแพรยังไม่มีขนเลยซักเส้นเนินเนื้อเลยขาวอูมน่างับมากๆ ผมเลยงับซะแพรร้องกรี๊ดลั่น แคมสองข้างสีชมพูปิดสนิท มันสนิทมากกว่าสาวบริสุทธิ์มันสนิทจนเหมือนไม่มีรอยแยกอยู่ตรงนั้นเลยด้วยซ้ำ ผมต้องใช้มือแหวกแคมนอกแพรออกผมถึงจะเห็นแคมในเธอได้เพราะแคมในเธอเล็กมาจนโดนแคมนอกปิดไว้หมด
หลังจากงับเนินเนื้อเล่นจนพอใจผมก็เริ่มอยากลิ้มรสน้ำรักของแพรดู เด็กๆ แบบนี้น้ำรักคงจะหอมหวานกว่าสาวๆ ที่ผมเคยเจอมา ผมแหวกแคมแพรแล้วเริ่มลากลิ้นเลียสวนขึ้น แพรแอ่นเอวร้อง อ้า อ้า ตาม ผมเลียทั้งแคมในแคมนอกดูดเม็ดแตดที่แทบจะยังไม่ขึ้นของเธออยู่นาน แต่แพรกลับไม่มีน้ำรักไหลออกมาเลย
มีแค่น้ำเหนียวๆ ไหลออกมาบ้างแต่มันคงไม่เพียงพอให้เธอรับอาวุธของผมที่ใหญ่เกินที่เด็กสาวอย่างเธอจะรับไหวมุดเข้าไปได้ ผมเลียจนแพรทนไม่ไหวเธอเริ่มทนไม่ไหว แพรร้องขอให้ผมตีตราจองเธอ ผมเองก็แข็งจนน้ำจะไหลออกมาแล้วเหมือนกัน ผมรีบแก้กางเกงจับเอาอาวุธประจำกายออกมา
แพรจ้องมันตาไม่กระพริบ ผมค่อยๆ เอาปลายหัวบานจ่อที่ร่องของแพร แค่นั้นผมก็รู้แล้วว่าของแพรมันเล็กเกินไปแน่ๆ แต่ผมก็ลองพยายามดันหัวบานเข้าไปดู แพรร้องโอ้ยยยย ลั่นพร้อมกับบอกว่าเจ็บมาก ผมเริ่มอ่อนใจเพราะร่องแพรเล็กมากน้ำรักที่จะช่วยหล่อลื่นก็ยังไม่เยอะถ้าผมฝืนดันหัวบานต่อ ร่องเธอฉีกแน่ แล้วถ้าเกิดมันร้ายแรงจนต้องส่งโรงบาลให้หมอเย็บมันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ถึงแพรจะเป็นฝ่ายอยากให้ผมทำ แต่ด้วยอายุเธอผมคงได้นอนในคุกอย่างไม่ต้องสงสัย
“แพรยังเด็กเกินไปจริงๆ นั่นแหละ ของพี่ยังใส่เข้าไปไม่ได้”
“ทำไมหละค่ะ” แพรพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเสียดายและกำลังอารมณ์ค้าง
“ก็ถ้าฝืนของน้องแพรจะฉีกนะ”
“ก็ลองดูก่อนก็ได้นี่ค่ะ ถ้าฉีกจริงๆ พี่บีค่อยหยุด”
“ไม่ได้ซิ เกิดของแพรฉีกขึ้นมา แล้วต้องไปหาหมอ พี่มีหวังได้ไปนอนในคุกแน่ๆเลย เพราะน้องแพรเพิ่ง 16 เองนะ”
“แต่แพร”
ผมมั่นใจแล้วว่าแพรอิดออดเพราะเธฮกำลังอารมณ์ค้าง
“งั้นเอางี้แล้วกัน ตอนนี้พี่ยังสอดใส่แพรไม่ได้ แต่พี่จะขอเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้แพรมีความสุขดีไหม”
“ทำไงค่ะ”
ผมไม่ตอบแต่เลื่อนตัวลงดูดหน้าอกแพรอีกครั้ง มือผมข้างนึงก็บีบหน้าอกเธอเบาๆ มืออีกข้างก็ใช้นิ้วกลางลากไปตามรอยแยกที่หว่างขาเธอ แพรครางซีดซาดไม่หยุดจากความเสียวที่ผมมอบให้ ผมเร่งเร้าจนแพรทนไม่ไหวอีกครั้ง
“พี่บีค่ะ โอ้ยยย แพรไม่ไหวแล้ว ช่วยแพรด้วย อู้ยยยย”
พอแพรอยากจะเสร็จสมผมก็เลื่อนตัวลงแหวกแคมนอกแคมในแพรออกแล้วกระดกลิ้นเลียใส่ด้านในสีชมพูของแพร แพรแอ่นเอวอัดปากอัดหน้าผมพร้อมกับร้องครางไม่หยุด ผมเองก็เร่งกระกดลิ้นถี่ขึ้นถี่ขึ้น จนในที่สุดแพรก็เกร็งตัวร้องโอ้ยยยยย แล้วทิ้งตัวลงนอนเหมือนคนหมดแรก ผมค่อยๆ ผ่อนจังหวะลากลิ้นใส่ร่องแพรลงเรื่อยๆ จนหยุดแล้วเลื่อนตัวขึ้นเท่าตัวแพรแล้วหอมแก้มเธอ
“เสร็จแล้วนะ”
แพรผยักหน้าพร้อมกับยิ้มเอียงอาย
“ที่นี้ก็ไม่น้อยใจแล้วนะ”
“ค่ะ”
“ต่อไปแพรห้ามคิดทำอะไรโง่ๆ อีกนะ”
“ก็แพรน้อยใจที่พี่บีไม่ยอมรักแพรนี่ค่ะ”
“แล้วตอนนี้พอใจหรือยัง”
“ก็…..แต่แพรยังไม่ได้ให้พี่บีเลย”
“ก็แพรยังเด็กเกินไป พี่ดันไม่เข้า”
“แล้วเมื่อไหร่จะทำได้ค่ะ”
“อืม ก็เอาไว้แพรมีหัวนม มีอืม ขนขึ้นตรงนี้ก่อนดีไหม” ผมจับไปที่เนินเนื้อของแพร
“ตอนนั้นพี่บีจะทำได้หรอค่ะ”
“ใช่จ๊ะ แล้วตอนนั้นพี่คงไม่ต้องกลัวของน้องแพรจะฉีกด้วย”
“ค่ะ แล้วหลังจากวันนี้พี่บีจะทำให้แพรอีกหรือเปล่า”
“ทำให้ซิ แต่ทำแค่เหมือนเมื่อกี่นะ จนกว่าแพรจะพร้อมพี่ถึงจะทำแบบแฟนเค้าทำกัน”
“ค่ะ งั้น ถ้าแพรคิดถึงพี่บี แพรจะโทรให้พี่บีมารับ แล้วทำให้แพรแบบวันนี้ได้ใช่ไหมค่ะ”
“ก็ได้นะ แต่พี่ก็ยุ่งๆ นะ เอาเป็นพี่สัญญาว่าจะไปรับน้องแพรแล้วพาไปกอดซักอาทิตย์ละครั้งพอไหม”
“ค่ะ” แพรยิ้มพร้อมกับทำเขินอาย
แพรอ้อนให้ผมทำให้อีกครั้ง ผมตามใจเธอทำให้เธอจนเสร็จโดยแลกกับพรุ่งนี้เธอต้องทำตัวเป็นเด็กดีและไม่ตามให้ผมมาหาที่ห้องแบบนี้อีกเพราะเดี๋ยวจะมีคนเห็น แพรไม่ค่อยเต็มใจนักแต่พอผมบอกว่างั้นวันนี้จะทำให้อีกจนแพรพอใจเธอถึงได้ยอม
ผมทำแพรเสร็จไปห้าครั้งจนเธอหมดแรงหลับไป แต่ผมสิมันอัดอั้นจนอยากจะระเบิด จะระบายใส่แพรก็ไม่ได้ ผมลองให้เธอพยายามอมดู ปากแพรก็เล็กเกินไป ให้เธอใช้ให้เธอก็ทำแบบไม่ค่อยแข็งแรงมันเลยไม่ถึงซะที สงสัยวันนี้จะเป็นอีกวันในรอบปีที่ผมต้องช่