ตำนานนักรัก ตอนที่ 12

ตำนานนักรัก ตอนที่ 12

ตำนานนักรัก ตอนที่ 12

“สวัสดีค่ะพี่ชิด..คุณพ่ออยู่ข้างหลังค่ะ…”

ผมได้ยินเสียงคุณดาทักตอบอย่างสนืทสนม ซ้ำยังเรียกชายสุงอายุคนนั้นว่าพี่ชิต จากนั้นก็เห็นเขาเดินไปเปิดประตูรถตู้อัลพาร์ด ของคุณดาออกกว้างอย่างถือวิสาสะ

“สวัสดีครับคุณท่าน…” นายชิตเปิดประตุรถด้านที่ลุงเสงี่ยมนอนอยู่ แล้วยกมือไหว้สวัสดีทันที

“เออ..ว่าไงไอ้ชิต..ไม่ได้เจอกันเสียนาน ทำไมเอ็งแก่ขนาดนี้วะ..ฮ่าๆๆๆ..”

ผมได้ยินเสียงลุงเสงี่ยมทักตอบมาแล้วถึงกับสะดุ้ง ไม่ได้สะดุ้งตกใจแปลกใจว่าลุงเสงี่ยมดูสนิทสนมกับนายชิตหรอกครับ ที่สะดุ้งคือ
ว่า ลุงเสงี่ยมแกตื่นมาตั้งแต่ตอนไหนต่างหาก ทำไมผมถึงไม่รุ้ตัวเลย แม้แต่รถแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าบ้าน ก่อนจะดับเครื่องยนต์ยังได้ยินเสียงแกนอนกรนอยู่เลยด้วยซ้ำ

“จะไม่แก่ได้ไงครับคุณท่าน ก็ไม่ได้เจอ
กันกว่าสิบปีแล้วฮ่าๆๆๆ..”

นายชิตตอบเสร็จก็หัวเราะอย่างดีใจ กับการมาเยือนบ้านพักแห่งนี้ของลุงเสงี่ยมและคุณดา ส่วนผมก็ยืนเก้กังทำอะไรไม่ถูก ในเมื่อยังไม่มีใครแนะนำให้รู้จักกับนายชิตว่าเป็นใคร จนคุณดาเดินมากระซิบบอกว่านายชิต หรือพี่ชิตนั้นเป็นลูกชายของลุงโชตื พี่ชายบุญธรรมของลุงเสงี่ยมนั่นเอง

“ทองดี..มาพยุงลุงลงจากรถหน่อยเร้ว…” ผมได้ยินเสียงลุงเสงี่ยมร้องบอกจึงรีบเดินเข้าไปหาแล้วช่วยพยุงแขนพาแกลงมาจากรถ ด้วยมีพี่ชิตช่วยอีกแรง

“เออ..ทองดีรู้จักไว้สิ..ไอ้นี่มันชื่อชิต เป็นลูกพี่โชติ..อยู่ดูแลบ้านนี้ให้ลุง…ส่วนนี่ทองดี มันเป็นคนคอยดูแลชั้น..” ลุงเสงี่ยมแนะนำเมื่อแกลงมาจากรถเรียบร้อยแล้ว ผมรีบยกมือไหว้ เมื่อรู้ความจริงว่าพี่ชิตนั้นเป็นหลานคนหนึ่งของลุงแก[/post]”อื้อ..ไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ คุณทองดี..ฮ่าๆๆ…แล้วนี่คุณท่านกับคุณกานดาจะมาพักกี่วันครับ…”

“สักสองวันค่ะพี่ชิต…”

เสียงหวานๆของคุณดาที่ร้องตอบ ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ถึงความสนิทสนมของทั้งคู่ แต่แล้วผมก็แอบยิ้มกับตัวเองด้วยความอายและ
ขบขัน ที่ดันรู้สึกหึงหวงอย่างไร้เหตุผล ทั้งสองเป็นญาติพี่น้องกันแท้ๆ ท่าจะบ้าแล้วแน่เรา

“ดีเลยครับ…คูณดาไม่มาเสียนาน มาคราวนี้อยู่หลายๆวันสิครับ…”

“ไม่ได้หรอกค่ะ..ดาทิ้งงานนานๆ ไม่ได้..”

“เชิญคุณท่านกับคุณดาบนเรือนก่อนเลยครับ..เอ้อ..เชิญคุณทองดีด้วยครับ…”

พี่ชิตพูดจบก็ตรงมาช่วยผมพยุงแขนลุงเสงี่ยมพาเดินขึ้นบันไดไปบนเรือนไทยร่วมสมัยทันที ผมเลยกระซิบบอกแกไปว่าเรียกชื่อผมว่าทองดีเฉยๆดีกว่า อย่าเรียกคุณเลย แกได้ยินก็หัวเราะฮาๆ อย่างคนอารมณ์ดี

พอขึ้นไปบนเรือนไทย ก็อดประหลาดใจไม่ได้เมื่อพบว่ามันยังถูกดูแลทำความสอาดจนไม้กระดานปูพื้นแผ่นใหญ่ๆเป็นมันเงางามด้วยการเช็ดถูดูแลอย่างดี ไม่เหมือนบ้านพักที่ถูกทิ้งร้างเป็นปีๆแบบนี้ แสดงว่าพี่ชิตแกดูแลเอาใจใส่อย่างดีเป็นแน่ สักครู่พี่ชิตก็นำน้ำเย็น
ใส่ขันเงินใบใหญ่มาเชื้อเชิญให้เราดื่มแก้กระหายกัน

“พักตามสบายนะครับคุณท่าน ..เดี๋ยวผมขอออกไปซื้ออาหารมาไว้ทำทานกันก่อน…” พี่ชิตพูดจบก็ผุดลุกขึ้นยืน ตั้งท่าจะเดินลงจากเรือนไปทันที

“แล้วพี่ชิตจะไปยังไงคะ..ตลาดอยู่ตั้งไกล…” คุณดารีบร้องถามเสียงอ่อนๆหวานๆ

“ขี่รถเครื่องไปน่ะครับคุณดา…” พี่ชิตตอบ พร้อมลอบมองคุณดาด้วยสายตาแปลกๆ แบบดีใจจนออกนอกหน้า

“เอารถดาขับไปดีกว่าค่ะ…จะได้บรรทุกของได้เยอะ…ดามีข้าวของที่ต้องวานให้พี่ชิตช่วยซื้อมาด้วยค่ะ…” คุณดาตอบกลับยิ้มๆ

“แต่ผมขับรถไม่เป็นนะครับ…นอกจากจะวานให้ทองดี ช่วยขับไปให้..” พี่ชิตพูดพร้อมหันมามองผม แต่ผมยังไม่ทันตอบอะไรออกไปเลย คุณดากลับพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

“ทองดีต้องดูแลคุณพ่อ..ดาขับรถไปเองละกัน..ไปเถอะค่ะ…”

คราวนี้ผมก็เงิบสิครับ…เล่นพูดตัดทางที่ผมจะอาสาไปเสียแล้ว แม้ผมจะรุ้สึกไม่ชอบใจเลยที่จะปล่อยให้คุณดาไปกับพี่ชิตตามลำพัง แม้ว่าพี่ชิตแกจะดูแก่ ผมดำแซมผมหงอกเต็มหัว แต่ที่จริงแล้วแกยังดูทะมัดทะแมงแข็งแรง เหมือนหนุ่มๆคนหนึ่ง แต่เมื่อคุณดาพูดออกมาแบบนี้ ผมก็จำต้องสงบหุบปาก เพราะคำพูดของคุณดายังดังก้องหู ว่าไม่ให้ผมแสดตนว่าเป็นเจ้าของตัวเธอ

“คิดอะไรอยู่วะ..ทองดี..”

จนคุณดาแลพี่ชิตเดินลงจากเรือนไปสตาร์ทรถ แล้วขับแล่นออกไปจากรั้วบ้านแล้วนั่นแหละ ลุงเสงี่ยมจึงร้องถามผม เมื่อเห็นว่าผมนั่งเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ

“ป่ะ..เปล่าครับ..” ผมรีบปฏิเสธเสียงอึกอัก แต่ลุงเสงี่ยมแกกลับหัวเราะเมื่อได้ยิน

“หวงล่ะสิ…” ลุงเสงี่ยมแกพูดลอยๆขึ้นมา แต่ผมได้ยินแล้วถึงกับสะดุ้ง

“ลุง..ว่าไรนะครับ…”

“เอ็ง..หวงแม่ดามันใช่มั๊ยล่ะ…ฮ่าๆๆๆ..”

คราวนี้ลุงเสงี่ยมพูดตรงๆ จนผมหน้าชา ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะขำๆของแก..ผมยิ่งรุ้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่าลุงแกรู้ความลับของผมกับ
คุณกานดายังงั้นเลย

“ทำไมลุงพูดแบบนี้ครับ..ใครได้ยินเข้า คุณกานดาจะเสียหายนะครับ…..” ผมพยายามปฏิเสธไม่ยอมรับ แม้สิ่งที่ลุงเสงี่ยมแกเข้าใจ
มันจะถูกต้องก็ตามที

“ฮ่าๆๆๆ..ไอ้ดาน่ะมันคงไม่เสียหายอะไรมากไปกว่าที่ทำกับเอ็งในรถหรอกว่ะ…ยอมรับมาเหอะ.”

คราวนี้คำพูดของลุงเสงี่ยมมันชัดเจนจนผมสะอึกอึ้งด้วยความละอาย มันบอกมาโต้งๆว่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเธอนั้น ลุงเสงี่ยมแกรู้ตลอดเวลา

“ลุง..! ..”

ผมพูดไม่ออก ได้แต่ก้มลงไปกราบลุงเสงี่ยมที่พื้น อย่างยอมจำนนในหลักฐาน ที่ทำตัวเหมือนกินบนเรือน แต่ขี้รดบนหลังคา ลุงเสงี่ยม
ก็ยื่นมือมาลูบหัวผมแล้วพูดปลอบเสียงเบาๆออกมา

“อีกไม่กี่ปีลุงก็ตายแล้ว ได้ไปอยู่กับแม่หนูยิ้มเสียที…สิ่งที่ยังห่วงอยู่ก็คือแม่ดานี่แหละ..ดีแล้วที่เธอได้คนดีๆอย่างเอ็งคอยดูแล..ใช่มั๊ยวะ..”

ลุงเสงี่ยมแกพูดเหมือนรำพึงออกมา ก่อนที่ประโยคท้ายจะคาดคั้นเอากับผม เล่นเอาผมพูดไม่ออก มันรู้สึกซาบซึ้งตื้นตันใจ ที่นอกจากลุงแกจะไม่โกรธเกลียดผมแล้ว แกยังเมตตากับผมยิ่งกว่าญาติผู้ใหญ่ของผมเสียอีก จึงรับปากตอบออกไปว่าผมจะคอยดูและคุณดาเท่าที่ชีวิตผมจะสามารถทำได้

“กว่าแม่ดากับไอ้ชิตจะกลับมาคงอีกนาน เอ็งอยากฟังเรื่องแม่หนูยิ้มกับลุงอีกมั๊ยล่ะ…”

แม้ใจผมจะไม่อยากรู้เรื่องนี้อีกแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่อยากจัดใจแก ถ้าลุงแกมีอารมณ์อยากจะเล่า มันก็คงดีเหมือนกัน จะได้ไม่หมกมุ่นคิดถึงคุณดา จึงตอบรับ ลุงแกก็เริ่มเล่าเรื่องราวของตนเองออกมาอีกครั้ง

“พอลุงเข้าเรียนมอ1 แม่หนูยิ้มก็เข้าเรียนเหมือนกัน แม้จะอยู่กันคนละโรงเรียน แต่ลุงก็ขี่จักรยานไปส่งแม่หนูยิ้มที่โรงเรียนเสมอ มีบางครั้งระหว่างที่นั่งซ้อนกันไป มือแม่หนูยิ้มที่กอดเอวลุงจะตกลงมาที่เป้า แม่หนูยิ้มก็ไม่ยกกลับ คงปล่อยมือกุมเป้ากางเกงลุงไว้แบบนั้น จนมันลุกแข็งแทบทุกเช้า…ฮ่าๆๆๆ.”

“พอตกกลางคืน ลุงก็จะระบายน้ำออกด้วยการชักว่าวเองบ้าง แล้วเอาไปแตกใส่หีแม่หนูยิ้ม แต่ถ้าคืนไหนแม่หนูยิ้มตื่น ก็จะมาชักว่าวให้ลุง แล้วเอาไปจ่อให้แตกที่หีแม่หนูยิ้มเอง..ตอนนั้นกระจู๋ของลุงเริ่มมีขนละ..มันใหญ่ยาวขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จนไม่น่าเรียกมันว่ากระจู๋อีกแล้ว…แต่ลุงก็ยังไม่ได้เอามันใส่เข้าไปในหีแม่หนูยิ้มเลย…ทั้งๆที่ใจอยาก รู้แล้วว่าเย็ดกันมันทำยังไง..”

“ทำไมล่ะครับ..แล้วลุงรู้จักเย็ดแล้วหรือตอนนั้น…”

แม้ทีแรกผมจะไม่ค่อยอยากฟัง แต่พอลุงเสงี่ยมแกเล่าอย่างออกรสชาต มันก็ทำให้ผมกลับมาสนใจฟังอีกครั้ง แล้วถามแทรกขึ้นบางจังหวะที่อยากรู้

“ก็เพื่อนๆลุงมันบอกสิวะ…ว่ามันเห็นพ่อแม่มันเย็ดกัน แล้วทำยังไง…ส่วนที่ลุงยังไม่กล้าเย็ดแม่หนูยิ้มในตอนนั้นเพราะกลัวเธอเจ็บ เพราะคืนหนึ่งขณะที่แม่หนูยิ้มชักว่าวให้ลุงอยู่ มือลุงก็ล้วงลงไปลูบหีแม่หนูยิ้ม ทั้งบี้ทั้งแหวกแคมเล็กๆออกดู จนมองเห็นว่ามันมีรูเล็กๆ ครั้นเอานิ้วชี้แหย่เข้าไป แม่หนูยิ้มก็ร้องบอกลุง ว่าน้า..เหงี่ยม..หนูยิ้มเจ็บปิ๊..นั่นแหละ..ลุงเลยยังไม่กล้าเย็ด ได้แต่ลูบหีบี้แตดไปทุกคืน จนแม่หนูยิ้มบอกปิ๊หนูยิ้มหายคันแล้ว..นั่นแหละลุงก็จะรีบชักว่าวจนน้ำแตก..แล้วนอนกอดกันไปจนหลับ….”

“ทำไมป้าหนูยิ้มบอกงั้นล่ะครับ…”ผมก็ไม่วายสงสัย จึงร้องถาม ลุงเสงี่ยมจึงหัวเราะฮาๆๆเสียงดังแล้วบอก

“เอ็งลืมละสิ..ที่ลุงบอกว่าจะไล่มดออกจากปิ๊แม่หนูยิ้ม..มดมันเข้าไปข้างในปิ๊ แม่เลยคัน พอแม่บอกว่าหายคันนั่นมันแสดงว่า แม่ไม่อยากให้ลุงเล่นปิ๊อีกแล้ว..เข้าใจละยังวะไอ้ทองดี..”ผมร้องอ้อ..เสียงดัง แสดงว่าเข้าใจดีแล้ว ลุงเสงี่ยมก็เล่าเรื่องต่อ

“จนคืนหนึ่งลุงอยากเย็ดแม่หนูยิ้มเหลือเกิน แต่ก็เกรงว่าแกจะเจ็บปิ๊…ทั้งๆที่ล้วงหีปี้แตดกันจนปิ๊แม่หนูยิ้มมีน้ำเงี่ยนลื่นๆออกมาแล้ว…ลุงเลยบอกแม่หนูยิ้มไปตามตรงว่า จะเอาควยลุงไปไล่มดในรูหีแม่แล้วนะ..จะว่ายังไง…” ผมเริ่มตื่นเต้นเต็มที่ เมื่อรู้ว่าเวลาที่ลุงเสงี่ยมจะได้เย็ดแม่หนูยิ้มใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

“แม่หนูยิ้มก็ตอบตกลง ลุงก็เอาเลย จับแม่หนูยิ้มกางขา..เอานิ้วแหวกแคมปิ๊จนอ้า แล้วจับควยลุงดันเข้าไปตรงๆ.เท่านั้นละแม่หนูยิ้มร้องจ๊ากดังลั่น ลุงต้องรีบเอามือปิดปากแล้วเอาควยออกมา พร้อมร้องปลอบจนแม่หยุดร้องไห้ แต่ก้ยังงอนลุงอยู่ จนไม่ให้ลุงจับปิ๊แม่เล่นไปสามสี่วัน ลุงต้องขอเงินแม่ไปซื้อจักรยานเอามาปลอบแม่หนูยิ้ม แล้วสอนให้เธอขี่เล่น จนแม่หนูยิ้มหายงอน…ฮ่าๆๆๆ..” ผมตั้งใจฟังมาตั้งนาน สรุปว่าลุงเสงี่ยมก็ยังเย็ดป้าหนูยิ้มไม่ได้สักที จึงหัวเราะขำๆไปกับแก

“แล้วเมื่อไหร่ลุงจะได้เย็ดป้าหนูยิ้มครับ…”

“หลังจากนั้นอีกสองเดือนว่ะ…” คำบอกของลุงเสงี่ยมทำให้ผมตื่นเต้นขึ้นมาทันที จึงเร่งให้แกเล่าเรื่องต่อ

“พอแม่หนูยิ้มหายโกรธ เธอก็ให้ลุงเล่นปิ๊ของเธอใหม่..แต่คราวนี้ลุงรู้แล้วว่าถ้าเย็ดไปตรงๆ รูปิ๊แม่หนูยิ้มรับควยลุงไม่ได้แน่..ลุงก็เลยไม่เย็ตรงๆเข้าไปในรู ลุงเย็ดเฉียดๆถากๆ ให้แม่หนูยิ้มเสียวหี ส่วนนิ้วมือก็พยายามเขี่ยๆดุนๆไปตรงรู จนมันเริ่มเข้าไปได้โดยที่แม่หนูยิ้มไม่ร้องเจ็บ จากเข้าไปตอนแรกแค่ครึ่งข้อนิ้ว หลังๆก็ลึกเข้าไปจนถึงครึ่งลำนิ้ว..ลุงถึงได้รู้ว่า แม่หนูยิ้มเสียวจนเสร็จเป็นแล้ว…เพราะพอลุงแยงนิ้วเข้าไปนานๆ ตัวแม่หนูยิ้มก็จะสั่นและกระตุก..บางทีก็ขึ้นมานอนคล่อมตัวลุงเอาปิ๊มาถูควยลุง แล้วสั่นกระตุกแรงๆ หายใจเฮือกๆ มันบ่งบอกว่าแม่หนูยิ้มเสียวจนเสร็จเป็นแล้ว…”

โอ๊ย..ผมอยากจะบ้าตาย นั่งฟังจนตัวเกร็งควยตุง ลุงเสงี่ยมแกก็เล่าอย่างเชื่องช้า ไม่ได้เย็ดกันสักที จนเวลาผ่านไปนาน เกรงว่าคุณดาจะกลับมาเสียก่อน แล้วพอตัดสินใจถาม

“ลุงเล่าข้ามๆไปถึงตอนเย็ดป้ายิ้มเลยได้มั๊ยครับ…” เสียงรถอัลพาร์ทของคุณดาก็กลับเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

Share the Post:

Related Posts

แอบเย็ดพี่สะใภ้เสียวสุดๆ ไปเลย

เรื่องเสียว แอบเย็ดพี่สะใภ้เสียวสุดๆ ไปเลย ประสบการณ์เย็ดหีของผมจริงๆ แล้วมีหลายเรื่องที่เสียวแบบสุดๆ และได้อารมณ์เป็นอย่างมาก แต่ไม่เคยมีเรื่องไหนที่จะเสียวเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของผมกับพี่สะใภ้ที่แอบเย็ดกัน เวลาที่ผมได้อ่านเรื่องเสียวในเว็บไซต์บอกเลยนะครับว่าอยากจะมาแชร์ประสบการณ์สุดเสียวมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่อยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ผมพึ่งมาทำงานที่กรุงเทพฯ ในตอนนั้นผมพึ่งได้งานทำจึงไม่มีที่พัก เลยมาอาศัยอยู่บ้านพี่ชายของผมไปก่อนซึ่งพี่ชายของผมก็อยู่กับเมียเขา 2 คน เมียพี่ชายผมชื่อว่าพี่ดุ๊ เธอเป็นคนที่ดูสาวมากเลยครับ

Read More

หนุ่มขี้เหงา สั่งสวิงกิ้งไซล์ไลน์

เรื่องเสียว หนุ่มขี้เหงา สั่งสวิงกิ้งไซล์ไลน์ หลังจากที่ผมเพิ่งเรียนจบในชีวิตมหาลัยผมก็มุ่งหน้าทำแต่งานจนแทบไม่มีเวลาที่จะหาคนรู้ใจเอาไว้เย็ดกันในวันที่ร่างกายต้องการพลัง เมื่อไหร่ที่รู้สึกเงี่ยนอย่างมากก็ได้แต่นอนชักว่าวอยู่ที่บ้าน ตอนนี้อายุของผมเริ่มเข้าใกล้ 30 แล้ว แต่ความเงี่ยนยังคงไม่ลดละลงเลย มีครั้งหนึ่งที่พอได้เย็ดเพื่อนร่วมงานบ้างแต่ก็เป็นเพราะความเมาจากงานเลี้ยงของบริษัทซึ่งเราเองหลังตื่นขึ้นมาเห็นสภาพตัวเองก็ต่างคุยตกลงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วแยกย้าย เพราะเขาเองก็มีลูกมีสามีอยู่แล้ว เราได้เย็ดแค่ครั้งเดียวถือว่าเป็นความผิดพลาดแต่ก็ยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันได้ แม้ว่าชีวิตจะผ่านการเย็ดมาแล้วหลังครั้งแต่ครั้งหนึ่งที่ผมอยากจะเล่าประสบการณ์เสี่ยวนี้ก็คือการได้เย็ดผู้หญิงทีเดียวพร้อมกันถึงสองคน โดยเธอทั้งคู่นั้นเป็นสาวขายบริการที่ยังคงเล่นอยู่ในมหาลัย เป็นความมันเกินจะบรรยายและทุกครั้งที่รู้สึกเงี่ยนขึ้นมาผมมักจะนึกถึงเรื่องราวในวันนั้นเสมอ ในอนาคตหากมีเวลาและเงินมากกว่านี้ก็ยังจะเช่าเมียมาอีกสักครั้ง ในวันนั้นเป็นวันเกิดของผม ซึ่งโดยปกติแล้วผมก็ไม่ได้มีเพื่อนสนิทที่อยู่ใกล้กันมากนัก จะมีก็แต่คนที่ดทรมาอวยพรและส่งข้อความผ่านเฟสบุ๊ค จนกระทั่งเลื่อนไปเห็นคนเขามีคู่ก็รู้สึกอิจฉาและพรางคิดไปว่า

Read More