แฝดอันตราย ตอนที่33
ฉัตรชัยพาหวานลงมาหาอาหารทานกันในร้านอาหารที่อยู่ภายในโรงพยาบาล จนกระทั่งใกล้จะกินกันเสร็จแล้ว ก็ได้ยิน
เสียงผู้หญิงสูงอายุทักขึ้นทางด้านหลัง
“สวัสดีค่ะคุณฉัตร…”
“สวัสดีป้าแจ่ม…”
สติของฉัตรชัยกำลังล่องลอยด้วยคิดถึงเรื่องของมารดา พอโดนเสียงทักชื่อ แล้วหันกลับไปมองก็เลยเผลอตัวตอบออกมา
แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าในขณะนี้ตนเองอยู่ในคราบของน้องชายฝาแฝด แต่คงแก้ไขอะไรไม่ทันเสียแล้ว เพราะคนที่มาทักนั้น
คือป้าแจ่ม คนรับใช้เก่าแก่ของบ้าน อยู่มาตั้งแต่คุณแม่ของฉัตรชัยยัง
เป็นสาว
ส่วนทางด้านป้าแจ่มมองหน้านายน้อยของตนที่ช่วยกันเลี้ยงมากับมือด้วยความรุ้สึกขัดหูขัดตา พร้อมกับความแปลกใจที่
ไม่เคยเห็นพฤฒิกรรมแบบนี้จากเจ้านายหนุ่มมาก่อน ที่เช้าควงสาวไฮโซอีกคน พอตกบ่ายกลับนั่งกินข้าวกับสาวบ้านๆ
แต่งตัวมอซออีกคน
“นั่งก่อนสิป้าแจ่ม…มาเยี่ยมแม่หรอครับ…”
ฉัตรชัยถามเพราะนอกจากแม่บังเกิดเหล้าแล้ว ชีวิตของตนเองในวัยเด็ก ก็ได้รับการเลี้ยงดูป้อนข้าวป้อนน้ำมาจากหญิง
ชราที่นั่งอยู่เบื้องหน้าคนนี้เหมือนกัน
“คุณคะ…มาถึงนานแล้วหรือคะ..แล้วคุณท่านเป็นยังไงบ้าง…” ป้าแจ่มถามพร้อมจ้องหน้าฉัตรชัยเขม็ง สองคิ้วขมวดมุ่น
เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างขบคิดอยู่
“มาแต่เช้าแล้วครับ คุณแม่ยังไม่ฟื้นเลย..” ฉัตรชัยตอบไปตามความจริง แต่ป้าแจ่มถึงกับเบิกตาโพลงยกมือทาบอก
“โอ๊ยยย…อกอีแจ่มจะแตก…ถ้างั้นเมื่อตอนสายๆที่บ้านก็ไม่ใช่คุณฉัตรน่ะสิคะ….” ป้าแจ่มพูดเสร็จก็แทบจะลมใส่ ด้วย
ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้พบหน้ากับฝาแฝดของอีกคนของคุณแจ่มจรัส ที่โดนพ่อพรากไปตั้งแต่เล็กๆ
“ป้าแจ่มเจอนายชัดแล้วหรอครับ…”
ฉัตรชัยไม่รู้ว่าจะปฎิเสธไปได้อย่างไรต่อไป เพราะในโลกใบนี้เหลือผู้ที่ล่วงรู้ความลับว่าแม่ของตนมีลูกชายฝาแฝด นอก
จากแม่แล้วก็คงเหลือป้าแจ่มอีกเพียงคนเดียว เพียงแต่ช่วงที่มีการสลับตัวกัน ป้าแจ่มได้ขอลาไปเยี่ยมลูกหลานของแกที่
ต่างจังหวัดร่วมเดือน จึงไม่รู้เรื่องว่าคุณนายแจ่มจรัสพบลูกชายแฝดอีกคนหนึ่งแล้ว และมีการสลับตัวกันเพื่อเหนี่ยวรั้งให้
ลูกชายแฝดคนเล็กไม่ทิ้งนางไป
“มิน่าล่ะ…เมื่อเช้าป้าก็รุ้สึกแปลกๆว่าทำไมคุณฉัตรของป้าถึงพูดจากับป้าแบบนั้น…แต่คุณคะ..ถ้าจะเกิดเรื่องไม่ดีแล้วละค่ะ”
ป้าแจ่มรีบบอกเจ้านายหนุ่มที่เลี้ยงมากับมืออย่างเป็นห่วง
“เรื่องอะไรหรอครับป้า…” ฉัตรชัยถามอย่างร้อนรน
“ก็เมื่อตอนสายๆ คุณชัดพาผู้หญิงคนหนึ่งไปที่บ้านแล้วก็ขนข้าวของออกไปหมดเลยค่ะ..เอารถเบ็นซ์ไปด้วยนะคะ…พอ
ไปแล้วป้าเลยขึ้นไปตรวจดูในห้องเห็นเสื้อผ้าของคุณฉัตรถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย…”
ป้าแจ่มก็เล่าไปเรื่อยๆ ในขณะที่หวานที่นั่งอยู่ข้างๆฉัตรชัยหน้าเริ่มซีดเผือด ถึงแม้ตนเองจะไม่ได้รักสามีแล้วก็ตาม แต่มัน
ก็ยังมีเยื่อใยต่อกัน เมื่อได้ทราบว่าสามีตนเองพาผู้หญิงเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินของพี่ชายแล้วพากันไปกับผู้หญิงอื่น ก็วิตก
ว่าสามีตนเองคงก่อเรื่องเดือดร้อนขึ้นอีกแล้ว
“เรื่องทรัพย์สินเงินทองของนอกกาย ช่างมันเถอะป้า..เราขึ้นไปเยี่ยมคุณแม่กันก่อน ส่วนเรื่องที่ผมกับน้องสลับตัวกันอย่าง
ไร ไว้จะเล่าให้ป้าฟังทีหลังนะครับ..”
ฉัตรชัยรีบตัดบท เพราะป้าแจ่มกำลังเล่าถึงลักษณะท่าทางของผู้หญิงคนที่น้องชายพากลับมาให้ฟัง ซึ่งฉัตรชัยไม่อยาก
ให้หวานรับรู้เรื่องมากไปกว่านี้ เพราะเพียงแค่นี้ ใบหน้าของหวานก็ซีดขาว จนไม่หลงเหลือร่องลอยของความสวยเลย
สักนิด
“แล้วผู้หญิงคนนี้ใครคะคุณหนู…” ป้าแจ่มลุกขึ้นยืนพร้อมกับกระซิบถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ..” ฉัตรชัยอ้ำๆอึ้งๆ ไม่รู้จะตอบอย่างไร
“หนูชื่อหวานค่ะป้า..เป็นเมียของพี่ชัดคนที่ป้าเจอที่บ้านแหละค่ะ”
หวานตอบเรียบๆเสียงเบาจนเหมือนกระซิบ ป้าแจ่มพอได้ทราบฐานะของหวานซึ่งก็คือลูกสะใภ้ของเจ้านายตนเองอีก
คนหนึ่ง ถึงกับยกมือทาบอก พิจารณามองหวานด้วยสายตาของผู้ผ่านโลกมามากกว่า ก็สรุปได้ทันทีว่าสาวหน้าหวาน
เหมือนชื่อนี้ไม่ได้ร้ายกาจแบบสามีเป็นแน่ สายตาที่มองจึงอ่อนโยนลง
“ป้าขอโทษนะคะ…อย่าไปคิดมากเลย ผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นแค่เพื่อนของคุณชัดสามีหนูหวานก็ได้…” ป้าแจ่มพูดอ่อยๆ
เหมือนสำนึกผิดที่พูดไปจนภรรยาของแฝดผู้น้องทำหน้าเศร้าเสียใจแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอค่ะป้า…พี่ชัดเค้านิสัยแบบนี้แหละค่ะ…หวานรู้ดี…” หวานตอบพร้อมกับฝืนยิ้มให้หญิงชราเบื้องหน้าเพื่อให้
เธอสบายใจ
หลังจากนั้นฉัตรชัยกับหวานพร้อมป้าแจ่มก็พากันขึ้นไปเยี่ยมคุณนายแจ่มจรัส พอเปิดประตูห้องเข้าไปป้าแจ่มก็ถลาเข้า
ไปยืนประชิดขอบเตียงยื่นมือเหี่ยวชราไปจับมือมารดาของฉัตรชัยไว้พร้อมร้องไห้ด้วยความสงสารเวทนากับความเคราะห์
ร้ายของเจ้านายสาว
“คุณท่านขา…อย่าเป็นอะไรไปนะคะ…ฮือๆๆๆๆ” ป้าแจ่มพูดพร่ำเสียอกเสียใจพร้อมร้องไห้กระซิกๆเบาๆ จนฉัตรชัยต้อง
เดินไปโอบไหล่ปลอบประโลม นางจึงหยุดร้องไห้
ฉัตรชัยโอบไหล่พาหญิงชรามานั่งรอดูอาการของมารดาที่มุมโซฟาพร้อมเริ่มเล่าเรื่องการเจอน้องชายฝาแฝด พร้อมกับ
สาเหตุที่สลับตัวกันให้ป้าแจ่มฟังช้าๆ จนจบ
“แล้วหนูหวานรุ้ว่าเป็นคุณฉัตรปลอมตัวมาตอนไหนคะ…” ป้าแจ่มถามเรื่อยๆไม่ได้คิดอะไร แต่คำถามนั้นถึงกับทำให้
หวานสะดุ้ง หน้าซีดขาวเมื่อครู่กลับแดงกล่ำ เธอหรือจะกล้าบอกออกไปว่ารู้ได้อย่างไร
..
“ป้าก็…เอ่อ…รู้ว่าผมไม่เคยอยู่บ้านนอก เรื่องราวต่างๆในชีวิตบ้านนอกก็ไม่รุ้จัก พอน้องหวานใช้ให้ผมหาเครื่องแกงมาทำ
อาหารเย็นผมก็เสร้จแล้ว….ฮึๆๆๆ” ฉัตรชัยพยายามเล่าให้เหมือนเป็นเรื่องขำขัน พอป้าแจ่มได้ยินก็พลอยขำไปด้วย
“แต่พ่อชัดสิคะ…เลียนแบบคุณฉัตรได้เหมือนมากจนป้าที่เลี้ยงคุณของป้ามากับมือยังจำไม่ได้เลย..แล้วคุณหมิวเธอจะ
จำได้หรือเปล่านี่…”
ป้าแจ่มก็พูดไปเรื่อยๆตามแบบนิสัยของเธอ แต่คำพูดแต่ละคำที่ออกมา ทำเอาฉัตรชัยสะอึก…ใช่สิ ถ้าคุณหมิวเธอยังไม่รุ้
แล้วถ้าเจอกันแล้ว ด้วยนิสัยของน้องชายมีหรือที่จะปล่อยคุณหมิวไปแบบง่ายๆ พอคิดมาถึงจุดนี้ฉัตรชัยก็ไม่กล้าที่จะคิด
ต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุ่หมั้นของเขาบ้าง และสาเหตุที่แม่ประสพอุบัติเหตุพลัดตกบรรไดนี้ มาจากการที่ทั้งสองคนพบ
กันด้วยหรือไม่ ฉัตรชัยจำเป็นที่จะต้องได้รับคำตอบ..แต่จากใครเท่านั้นเอง จากแม่ที่นอนป่วยไร้สติ หรือจากคู่หมั้นที่เจอ
กันเมื่อตอนเช้า….