แฝดอันตราย ตอนที่49

แฝดอันตราย ตอนที่49

แฝดอันตราย ตอนที่49
หลังจากที่ฉัตรชัยพาภรรยาทั้งสองคนไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาลแล้วก็เห็นอาการของมารดาดีขึ้นมากจนหมดความ
กังวล คุณนายแจ่มจรัสได้พบเห็นหน้าลูกสะใภ้คนเล็กคือหวาน ก็นึกรักใคร่เอ็นดูชอบตั้งแต่แรกเห็น กับความใสซื่อของ
หวาน เพียงแค่ยังไม่รู้ว่าหวานนั้นเป็นเมียของบุตรชายแฝดคนโตของหล่อนไปแล้วเหมือนกัน ในระหว่างที่ทั้งสามคนยัง
อยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ได้มีโทรศัพท์เข้ามาหาคุณหมิวจากมรว.จักรภพ แจ้งให้รู้ว่าตนเองได้ไปพบและปรึกษาผู้การอภิสิทธิ์
เพื่อหาทางช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว

“ลูกหมิว…ทางผุ้การต้องการให้คู่หมั้นของลูกหลบตัวออกไปจากกรุงเทพเป็นการชั่วคราวน่ะ
ลูก…เพื่อความปลอดภัย และ
เหตุผลทางการสืบสวน..” ก่อนจะวางสายไปมรว.จักรภพได้แจ้งให้บุตรสาวของตนเองรับรู้

ทั้งสามคนจึงเดินออกมาจากห้องพักฟื้นของมารดาพร้อมปรึกษาเรื่องนี้กัน ได้ผลสรุปตรงกันว่าจะให้ฉัตรชัยหลบไปอยู่ที่บ้าน
ของหวานเป็นการชั่วคราว ส่วนหวานจะอยุ่ดูแลลูแม่สามีแทน เพราะไม่มีใครรู้จักเธอ ส่วนคุณหมิวนั้นฉัตรชัยเกรงว่าจะได้
รับอันตรายจากเรื่องนี้ จึงเดินทางไปขออนุญาติมรว.จักภพกับคุณหญิงพรรณราย เพื่อให้เธอหลบไปอยู่กับเขาที่บ้านของ
หวานพร้อมกันเพื่อความปลอดภัย ซึ่งบิดาและมารดาของคุณหมิวก็เห็นดีด้วย ฉัตรชัยกับคุณหมิวจึงเดินทางกลับมาที่
ชัยนาทบ้านของน้องชายฝาแฝดชัดชายอีกครั้ง ทิ้งให้หวานคอยอยู่ปรนนิบัติแม่สามีเพียงลำพัง โดยพักอยู่ที่บ้านของ
ตนเองแทน
………………………………..
ผ่านไปอีกสามวันที่บริษัทของฉัตรชัยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง นายเทวัญเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่าย
โลจิสติค ส่วนผู้จัดการคนก่อนที่ถูกย้ายไปอยู่ตำแหน่งอื่นนั้นถูกปลดออกโดยได้รับเงินชดเชยไปตามกฎหมาย จากนั้น
การลองของครั้งแรกก็ถูกวางแผนกันขึ้น ระหว่างนายเทวัญกับนายพลเดช ในการทดลองขนไม้พยูงจำนวน1ตุ้คอนเทรนเนอร์
ส่งออกไปประเทศจีน โดยในใบกำกับขนส่งสินค้าแจ้งว่าเป็นเปลือกไม้ยูคา โดยที่ชัดชายไม่ได้สงสัยแต่อย่างใด เพราะ
ตนเองไม่มีความรุ้ด้านนี้ เพียงแค่โทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวให้พี่ชายฟัง ซึ่งฉัตรชัยนั้นล่วงรู้ได้ทันทีว่าสินค้าส่งออกล็อตนี้
ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน จึงได้ติดต่อไปทางผู้การอภิสิทธิ์แจ้งให้ทราบความเคลื่อนไหว

“ผมทราบเรื่องทั้งหมดจากสายสืบแล้วครับคุณฉัตร..แต่ล็อตนี้ผมจะปล่อยไปก่อนเพื่อให้กลุ่มนายพลตายใจ…เพราะที่ผม
ทราบว่าครั้งนี้แค่เป็นการลองเชิงกัน แม้จับได้ก็ไม่สามารถสืบสาวเรื่องไปถึงนายพลเดชได้ คุณฉัตรใจเย็นๆครับ บอก
น้องชายคุณด้วยว่าทำตามน้ำไปเรื่อยๆก่อน อย่าเพิ่งกระโตกกระตากให้ไก่ตื่นครับ…”

“แล้วนายชัดจะไม่โดนพ่วงเข้าไปด้วยหรือครับท่านผู้การ…” ฉัตรชัยสอบถามด้วยความเป็นห่วงน้องชายฝาแฝด

“ไม่หรอกครับ เราจะกันน้องชายคุณไว้ในฐานะพยาน..ทางคุณฉัตรก็ต้องหลบซ่อนตัวให้ดีๆนะครับ อย่าให้นายพลเดชรู้เรื่อง
ว่าคนที่อยู่กับเขานั้นหาใช่ตัวคุณฉัตรจริงๆ…”

ผู้การอภิสิทธิ์กำชับมาอีกครั้ง แล้วก็วางสายการติดต่อ…แต่ฉัตรชัยกลับเป็นกังวลกลัวว่าชัดชายจะวู่วามแล้วทำให้แผนของ
ผู้การในการกวาดล้างอิทธิพลของนายพลเดชแตก จึงโทรศัพท์ไปกำชับเรื่องกับชัดชายอีกครั้ง

“ครับพี่…ผมไม่วู่วามหรอก..วางใจได้ แต่ผมว่าทางแอนนี่กับพ่อเขาเริ่มสงสัยแล้วนะพี่ว่าคุณหมิวหายตัวไปไหน…เคยเรียก
ผมมาสอบถาม แต่ผมปฎิเสธไปว่าไม่ได้พบกันเลยหลังจากที่คุณหมิวทราบเรื่องว่าผมจดทะเบียนสมรสกับแอนนี่แล้ว..ยังไง
พี่ดูแลคุณหมิวกับหวานให้ดีๆนะครับ…ฝากบอกแม่ด้วยว่าผมขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด..เสร้จเรื่องนี้แล้วจะไปกราบ
เท้าขอขมาท่าน…”

ฉัตรชัยได้ยินน้องชายฝาแฝดตอบมาเช่นนี้ ก้รุ้สึกดีใจว่าน้องฝาแฝดของตนคงสำนึกผิดกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้เสียที
พร้อมกับนึกถึงเรื่องในอนาคตว่า ถ้าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ตนเองจะยกบริษัทให้กับน้อง เพราะฉัตรชัยเองเริ่มติดใจกับ
การใช้ชีวิตในชนบท กับสาวคนรักทั้งสอง ชีวิตเขาคงมีความสุขที่ไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้ในเชิงธุรกิจอีกต่อไป ใช้ชีวิตเรียบง่าย
ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรัสของในหลวง

เพียงแค่นี้สำหรับชีวิตคนเราจะต้องการอะไรมากไปกว่าความสุข ความสงบ แบบนี้อีก ความยากจนหรือร่ำรวยหาใช่สิ่งที่
ตนเองปรารถนา ขอเพียงมีความพอ มีเงินหลักหมื่นหลักพันตนเองก็อยู่ได้อย่างมีความสุข ถ้าไม่เพียงพอต่อให้มีหลักล้าน
สิบล้านหรือร้อยล้านพันล้าน ชีวิตก็จะมีแต่ความทุกข์

ทางด้านนายพลเดชและพรรคพวกหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการลักลอบส่งไม้ต้องห้ามออกไปประเทศที่สามได้เรียบ
ร้อยต่างก็ยินดีในผลงานครั้งนี้ แสดงว่าสิ่งที่ตนเองวางแผนไว้ในการใช้แอนนี่บุตรสาวเข้าควบคุมกิจการของนายฉัตรชัย
เป็นความคิดที่ถูกต้อง เพราะจากแบล็คกราวด์ของบริษัทนายฉัตรชัยว่าที่ลูกเขยของมรว.จักรภพ ที่มีตำแหน่งเป็นวุฒิสภานั้น
จึงเป็นที่ไว้วางใจจากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นบริษัทที่ขาวสะอาดไม่เคยทำสิ่งผิดกฎหมาย อีกทั้งเครดิตของว่าที่พ่อตาที่เป็นถึง
วุฒิสภานั้นย่อมการันตีในตัวในบริษัทของฉัตรชัยได้เป็นอย่างดี

เจ้าหน้าบ้านเมืองจึงไม่ติดใจสงสัยตรวจสอบแต่อย่างใด ในเมื่องานแรกสำเร็จไปได้ด้วยดี นายพลเดชจึงวางแผนงานที่
สองอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะขนทั้งไม้พยูงและยาบ้าอีกล็อตใหญ่ ชนิดที่เรียกว่าถ้าทำสำเร็จ ตนเองจะกลายเป็นเศรษฐีระดับหมื่น
ล้านเลยทีเดียว จากนั้นก็จะผันตัวเองไปเล่นการเมือง ใช้เงินที่ได้มาซื้อเสียง ถ้าได้เป็นสส.สำเร็จ คราวนี้ก็ไม่จำเป็นต้อง
ใช้งานฉัตรชัยแล้ว เพราะตนเองจะมีทั้งเงินและบารมีตำแหน่งไว้คอยคุ้มครองธุรกิจผิดกฎหมายต่อไปอย่างถาวร

ผ่านไปอีกร่วมสิบวันที่ฉัตรชัยกับคุณหมิวมาใช้ชีวิตอยู่ในชนบท จนคุณหมิวเริ่มคิดถึงบิดาและมารดาของตนเอง จึงรบเร้าขอ
ให้ฉัตรชัยพาไปเยี่ยม แม้ฉัตรชัยจะรุ้ว่าการทำเยี่ยงนี้มันเป็นเรื่องเสี่ยงที่อาจถูกคนของนายพลเดชจับได้ แต่ก็ไม่สามรถขัด
ความตั้งใจความต้องการของเมียสาวได้ เพราะตนเองเข้าใจว่าคุณหมิวมาลำบากกับตนในชนบทนั้น เพราะเรื่องของตนกับ
น้องชายเป็นสาเหตุสำคัญ จึงพาคุณหมิวกลับมาเยี่ยมบิดามารดาของเธอ พร้อมกับที่ฉัตรชัยก็คิดถึงมารดาของตนและหวาน
ด้วยเช่นกัน

ในระหว่างที่ฉัตรชับขับรถกระบะบุโรทั่งของน้องชายเข้ากรุงเทพมาจนถึงรังสิต ประกฎว่ารถยางแตกจึงได้แวะเข้าสถานนี
บริการน้ำมันเพื่อทำการปะยาง แต่ลูกค้าในร้านนั้นมีจำนวนมากทำให้ทั้งสองต้องเสียเวลารอคอยไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง

“พี่คะ…รอในร้านนี่ร้อนมากเลยค่ะ..หมิวว่าเราไปเดินห้างใกล้ๆนี้ฆ่าเวลาก่อนได้มั๊ยคะ..”

คุณหมิวสอบถามฉัตรชัย พร้อมขออนุญาติ แม้ฉัตรชัยจะไม่อยากไปปรากฎตัวตามที่สาธารณธพร้อมคุณหมิว แต่พอเห็น
ใบหน้าแดงกล่ำ พร้อมเม็ดเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าสวยหวานของเมียก็อดใจอ่อนยอมทำตามที่เธอประสงค์ไม่ได้ ครั้นจะปล่อย
ให้เมียสาวไปตามลำพังตนเองก็เป็นห่วง จึ่งทิ้งรถไว้ในปั้มน้ำมันพร้อมกับนั่งรถรับจ้างไปที่ห้างใกล้ๆเดินเล่นฆ่าเวลารอจน
ปะยางเสร็จค่อยกลับมารับ

แต่ก็เหมือนคราวเคราะห์กำลังมาเยือนขณะที่ฉัตรชัยกับคุณหมิวกำลังเดินดูข้าวของกันอยู่ในห้างนั้น สมุนบริวารคนหนึ่งของ
นายเทวัญพบทั้งสองคนเข้า จึงรีบโทรศัพท์ไปหานายเทวัญเพื่อแจ้งข่าวให้ทราบทันที

“เห้ยไอ้เด่นมึงแน่ใจนะว่าเป็นคุณหมิวกับนายฉัตรชัย…” นายเทวัญถามย้ำไปตามสาย

“แน่สิครับนาย…เป็นบอสของคุณแอนนี่กับคู่หมั้นของเขาจริงๆ ผมยังเอารุปถ่ายที่นายให้ไว้มาดูเปรียบเทียบตั้งหลายครั้ง จึง
มั่นใจมากครับ”

สมุนของนายเทวัญยืนยันอย่างมั่นคง ทำให้เทวัญแปลกใจในเมื่อ สักครุ่ตนเองเพิ่งเจอกับบอสของแอนนี่ในห้องทำงานของ
เขา ผ่านมาไม่ถึง30นาที บอสของแอนนี่ไม่มีทางไปปรากฎตัวที่ห้างแถวรังสิตได้อย่างแน่นอน แต่เพื่อความไม่ประมาทเทวัญ
จึงเดินไปเมียงมองผ่านช่องกระจกเล็กๆหน้าห้องทำงานของฉัตรชัยอีกครั้ง ก็เห็นเขากำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน โดยมีแอนนี่
นั่งซ้อนตักอยุ่ พร้อมหยิบผลไม้ป้อนใส่ปาก มันน่าจะมีอะไรลับลมคมในกับเรื่องนี้แน่

นายเทวัญจึงรีบโทรไปแจ้งให้นายพลเดชรับทราบ จากนั้นก็เริ่มสงสัยตั้งสมมุติฐานว่านายฉัตรชัยอาจจะมีฝาแฝด นายพลเดช
จึงทำการสืบประวัติของครอบครัวฉัตรชัยอย่างลับๆ ถึงการกำเนิด และเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งวัน นายพลเดชก็รุ้ว่าคุณนายแจ่มจรัส
นั้นคลอดบุตรออกมาเป็นฝาแฝดจริงๆ แต่ทั้งสองคนพลัดพรากจากกัน แต่การที่ไอ้เด่นสมุนของเทวัญไปพบแฝดอีกคนหนึ่ง
ของฉัตรชัยเดินห้างกับคุณหมิวคู่หมั้นนั้น ทำให้นายพลมือปราบเริ่มสงสัยว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น หรือว่านายฉัตรชัยคนที่อยู่
กับตนเองนี้ หาใช่นายฉัตรชัยตัวจริง

Share the Post:

Related Posts

แอบดูเมียเย็ดกับชู้ควยใหญ่

เรื่องเสียว แอบดูเมียเย็ดกับชู้ควยใหญ่ ผมกับเมียแต่งงานกันมาแล้ว 4ปี ผมอายุ 36 เมียผม 32 เราทั้งคู่ยังไม่อยากมีลูกเพราะต้องการสร้างฐานะให้มั่นคง ก่อน ผมกับเมียถือว่าเกิดมาจากครอบครัวที่มีฐานะพอสมควร และอาชีพการงานของผมก็ค่อนข้างมีหน้มีตาและราย ไต้ถือว่าสูงมากพอที่จะทำงานคนเดียวโดยให้เมียทำงานบนอย่างเดียว โดยไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง เมียผมเป็นคนน่ารัก ผิวขาวอย่างคนจีน อกไม่ใหญ่มาก สะโพกงอนสวยมาก โดกของเธออวบอูม มีขนประปราย

Read More

วันไหลสงกรานต์ มันส์ขนาดไหน แตกในเลยคิดดูสิคะ

เรื่องเสียว วันไหลสงกรานต์ มันส์ขนาดไหน แตกในเลยคิดดูสิคะ แถว ๆ บ้านฉัน มีคนใหญ่คนโตจัดงานวันไหลสงกรานต์ให้หนึ่งวัน คือวันที่ 20 เมษายน ซึ่งฉันเองก็มาไปร่วมงานด้วย แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้เจอเรื่องเสียวในสถานที่แบบนี้ จุดเริ่มต้นอาจจะเพราะว่าการแต่งตัวของฉันก็ได้ ฉันคงไม่ปฏิเสธหรอก ว่าฉันนั้นแต่งตัวน้อยชิ้นไปเอง แต่ก็เพราะว่ายังไงก็ต้องเปียกอยู่ดี ฉันเลยไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ จนกระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งมาทักทายฉันแล้วขอปะแป้ง เขาถามฉันว่ามากับใคร

Read More