ก้อย ภาค 2 ตอนที่ 4
“ผมสะดุ้งตื่นลืมตามองดูนาฬิกาเพิ่งจะตีห้ากว่าๆ ก้อยยังนอนกอดผมอยู่ ผมหอมหน้าผากเธอเบาๆ ก้อยสะดุ้งตื่นเธอลืมตามองดูผม
“เช้าแล้วหรอค่ะ” ก้อย
“ยังหรอแต่พอดีพี่ตื่นขึ้นมาเห็นคนสวยนอนกอดพี่อยู่พี่เลยอยากหอม”
“ไม่เอานะนอนต่อเถอะก้อยง่วงค่ะ” ก้อย
“ก้อยง่วงก็หลับไปซิ แต่ว่าระวังจะโดนลักหลับนะ”
“ไม่เอานะ นี่กี่โมงแล้ว” ก้อย
“ตีห้ากว่า”
“ไม่เอานะเดี๋ยวน้องๆ ก็ตื่นกันแล้ว นอนต่ออีกหน่อยเถอะ” ก้อยกอดผมแล้วก็หลับต่อ
ผมกอดก้อยแล้วหลับต่อจนเริ่มมีแสงแดดเข้ามาในห้องเพราะผมเปิดมู่ลี่ทิ้งไว้ ผมเลยลุกขึ้นก้อยก็ตื่นตามขึ้นมาด้วย ผมลุกจากโซฟาไปปิดมู่ลี่เพราะแสงแดดที่เข้ามามันทำ
ผมแสบตา ก้อยก็ลุกขึ้นเดินไปไปอาบน้ำ ผมเองก็เดินไปดูว่าพวกเด็กๆ ตื่นกันหรือยังทำไมวันนี้ดูเงียบๆ ผมเดินไปเจอหงส์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังทำอาหารอยู่
“แล้วเด็กๆ หละ ยังไม่ตื่นกันอีกหรอ”
“ยังค่ะ เห็นว่าวันนี้หยุด หงส์ก็เลยไม่ปลุก” หงส์
“หยุดหรอ”
“ค่ะเห็นแนนบอกนะค่ะ” หงส์
ผมนั่งรอก้อยอาบน้ำซักพักก็คิดได้ว่าไม่ได้อาบน้ำพร้อมกับก้อยนานแล้วพวกตัวเล็กก็ยังหลับอยู่ไม่มีก้างขวางคอด้วย ผมเดินไปที่ห้องน้ำ ผมลองเปิดประตูดูมันไม่ได้ล๊อค ผมเลยค่อยแอบเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่ให้ก้อยได้ยิน ผมรีบถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วค่อยย่องเข้าไปกอดก้อยที่กำลังหลับตาอาบน้ำผักบัวอยู่
“ว้ายพี่บี เข้ามาทำไมเนี่ย” ก้อย
“อ้าวทำไมพูดแบบนี้หละ ผัวเมียอาบน้ำด้วยกันไม่เห็นจะแปลกเลย”
“ไม่เอาค่ะอายน้องๆ บ้างซิ” ก้อย
“อายทำไม ตัวเล็กกับเจนยังหลับปุ๋ยอยู่เลยเมื่อคืนคงซนกันจนเหนื่อย”
“อย่าค่ะพี่บี เดี๋ยวไปทำงานสายนะ” ก้อย
“อะไรกันแค่อาบน้ำทำไมไปทำงานสายหละ นี่แอบคิดอะไรอยู่หรือเปล่า” ผมแกล้งแซวก้อยพร้อมกับเริ่มจับโน้นจับนี่
“พี่บีก็ แค่อาบน้ำเฉยๆ นะ” ก้อย
“ไม่ได้แล้วหละ ก็ก้อยคิดพี่ก็จะทำให้แล้วกัน”
“ว้ายไม่เอาค่ะเมื่อคืนยังไม่พออีกหรอ” ก้อย
“เมื่อคืนมันมืดพี่ยังไม่ได้สำรวจเลยว่ามีอะไรสึกหรอบ้าง”
แล้วผมกับก้อยก็อาบน้ำกันจนถึงเจ็ดโมงเช้าถึงจะออกมาจากห้องน้ำก้อยก็บ่นว่าไปทำงานสายแล้วแต่เธอก็อดแอบยิ้มกับสิ่งที่ผมทำให้ไม่ได้
ผมกับก้อยแต่งตัวเสร็จก็มานั่งกินข้าวพร้อมกับหงส์
“นี่แล้วพวกนั้นเค้าไม่ตื่นมากินข้าวกันก่อนหรอ”
“ให้เค้านอนไปเถอะพี่บี คงเหนื่อยกันแล้วก็ไม่ต้องไปไหนด้วยนี่” ก้อย
“หงส์ทำกับข้าวเผื่อไว้แล้วค่ะเดี๋ยวแนนกับเจนตื่นมาคงอุ่นกินกันเอง” หงส์
“อืมๆ อยู่กันสองคนไม่รู้จะชวนกันซนอะไรบ้าง”
“แหมพี่บีก็น้องเค้าเป็นสาวกันแล้วนะค่ะจะซนอะไรได้” ก้อย
“เป็นสาวแล้วนี่แหละ พี่เห็นยังชวนก้อยซนอยู่เลยเวลาอยู่ด้วยกัน”
“ไม่เอาแล้วรีบกินข้าวเถอะก้อยสายแล้วนะ” ก้อยนึกถึงเรื่องที่เคยซนกับแนนแล้วก็อายจนหน้าแดง
เราสามคนทานข้าวกันเสร็จหงส์กับก้อยก็ช่วยกันเก็บจาน ส่วนผมก็เดินเข้าไปดูในห้องนอนว่าตัวเล็กกับเจนยังหลับกันอยู่หรือเปล่า ผมเข้าไปในห้องก็เห็นแนนกับเจนกอดกันกลม ผมก้มลงไปหอมแก้มเจน เจนยิ้ม ไม่รู้ว่าตื่นหรือว่าละเมอกันแน่ ผมก้มไปหอมแก้มแนนบ้าง แนนเอามือมาตีหน้าผมแล้วทำหน้ายุ่งๆ ผมเลยแกล้งหยิกแก้มแนน แนนก็ละเมอเอามือมาตีมือผมอีก แก้มพวกเธอเย็นมากคงเพราะแอร์ที่เปิดและพวกเธอก็ใส่แค่ชุดนอนบางๆ กันด้วย ผมเลยเอาผ้าห่มมาห่มพวกเธอทั้งสองคน ก้อยเข้ามาตามผมพอดี
“ยังไม่ตื่นกันอีกหรอค่ะ” ก้อย
“ยังนะแกล้งแล้วยังไม่ยอมตื่นเลย”
“พี่บีก็ไปแกล้งน้อง” ก้อย
“ดูซิกอดกันกลมเลย”
“นั่นซิค่ะเหมือนเด็กๆ เลย แบบนี้เราไม่ต้องมีลูกกันก็ได้นะค่ะ ตอนนี้ก็มีอยู่แล้วตั้งสองคน” ก้อย
“ได้ไงหละ ต้องมีซิ อืม วันนี้เราลางานมาทำลูกกันไหมก้อย”
“ว้ายไม่เอาค่ะ ก้อยไปทำงานแล้ว” ก้อยวิ่งหนีผมออกไปนอกห้องนอน
ผมมองดูเจนและแนนอีกครั้งก่อนจะตามเธอออกไปเพื่อไปทำงานกัน ผมไปส่งก้อยก่อน วันนี้ก้อยขอตัวกลับบ้านและจะมาค้างอีกวันศุกร์ หลังจากส่งก้อยผมก็ขับรถมาที่ออฟฟิต หลังจากชีวิตที่มีแต่ความสุข ผมก็นึกได้ว่าวันนี้ต้องเครียดอีกแล้ว ไม่รู้ว่าวิธีที่ผมคิดมันจะได้เรื่องไหม
มาถึงออฟฟิตผมก็เรียกให้น้องๆ เข้ามาหาผมที่ห้องทุกคน
“แคทไหนที่ให้จดคะแนนเมื่อวานเอามาให้ดูหน่อยซิ”
“ค่ะ” แคทส่งกระดาษมาให้ผม
ผมดูแล้วแค่จดหักคะแนนพวกน้องๆ แค่คนละ 2-3 คะแนน ทั้งๆ ที่เมื่อวานแค่ครึ่งเช้าหงส์บอกผมว่าน้องแต่ละคนทำผิดกฎกันเกิน 10 ครั้ง
“นี่แคทแกแน่ใจนะที่แกจดมาถูกต้อง”
“แน่ใจค่ะ” แคท
“อืมก็ดีงั้นไหนพวกที่เหลือเอาคะแนนมาให้ดูหน่อยซิ”
พวกสาวๆ ก็เอากระดาษที่จดคะแนนมาให้ผมดูจอยกับหมวยนี่หักคะแนนแคทมาคนละ 20 คะแนน พวกน้องๆ ก็หักคะแนนแคทมาคนละ 5-6 คะแนน คงเพราะจอยกับหมวยไปบังคับแน่ๆ ยกเว้นหงส์ที่ไม่ได้หักคะแนนแคทมาเลยแต่ผมก็ให้เธอแกล้งยืนกระดาษให้ผมด้วยเพื่อที่คนอื่นๆ จะได้ไม่สงสัย
“เอาหละพี่จะไม่ตรวจสอบถือว่าพวกเธอโตๆ กันแล้ว มีความรับผิดชอบกันแล้วคงไม่ส่งคะแนนมั่วๆ ให้พี่นะ”
สาวๆ ทำสีหน้าไม่ดี
“เอาหละทุกคนออกไปก่อนยกเว้นแคท”
สาวๆ ทุกคนออกจากห้องเหลือแค่แคทนั่งอยู่คนเดียว
“แคทแกแน่ใจนะว่าแกจะหักคะแนนพวกนั้นแค่นี้”
“แน่ใจค่ะพี่บี” แคท
“ก็ดี เมื่อวานนี้ฉันแอบยืนดูแค่ช่วงเช้า พี่เห็นจอยกับหมวย ทั้งคุยเล่นทั้งแอบกินขนม 10 กว่าครั้ง และยังน้องๆ คนอื่นอีก และพี่ก็เชื่อว่าตอนบ่ายที่พี่ไม่อยู่ที่นี่คงจะเละเทะแน่นอนใช่ไหม”
“ค่ะพี่” แคท
“แต่แกก็ยังยืนยันที่จะหักคะแนนพวกนั้นเท่าที่แกส่งให้พี่ใช่ไหม”
“ค่ะพี่” แคท
“งั้นก็ดี งั้นพี่จะเอาคะแนนที่พี่หักคนอื่นมาหักแกแทนนะ”
“ได้ค่ะพี่” แคทเริ่มทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้
“เดี๋ยวนะไหนดูซิ รวมๆ แล้วตอนนี้แกโดนหักคะแนนจากน้องๆ 50 คะแนน แล้วบวกกับที่พี่หักเพิ่ม โห ติดลบเลยนี่หว่า แต่เอาเถอะช่วงบ่ายพี่จะถือว่าไม่เห็นแล้วกันแต่ถึงอย่างนั้นพี่ก็ต้องหักคะแนนแก 80 คะแนนตกลงไหม”
“ตกลงค่ะ” แคท
“แคทแกรู้ใช่ไหมตามกฎบริษัท คนที่คะแนนประเมิณต่ำกว่า 50 จะโดนพิจารณาให้ออกจากงาน”
“รู้ค่ะ” แคท
“แล้วตอนนี้แกมีคะแนนติดลบอยู่ 80 ต่อให้แกได้ทำคะแนนประเมิณได้ 100 เต็มแกก็โดนไล่ออกอยู่ดี แกรู้ใช่ไหม”
“รู้ค่ะ” แคท
“เอาหละแกออกไปตามคนอื่นๆ เข้ามาให้หมดส่วนแกนั่งรอพี่อยู่หน้าห้องก่อนห้ามไปไหนเด็ดขาด”
“ค่ะพี่บี” แคทเริ่มน้ำตาซึม
แคทออกไปตามพวกน้องๆ เข้ามาในห้องผมก็แจ้งว่าแต่ละคนมีคะแนนติดลบกันเท่าไหร่บ้าง ทุกคนต่างแปลกใจว่าทำไมตนเองถึงติดลบแค่ 2-3 คะแนน แต่พวกน้องๆ ก็ไม่ได้ถามว่าทำไม
“เอาหละที่นี่ก็มาถึงคะแนนของแคทบ้าง พี่ให้แคทติดลบ 80 คะแนน”
“อ้าวทำไมมากแบบนั้นหละค่ะพี่บี” จอย
“ก็คะแนนที่พวกเธอส่งมา”
“ที่พวกหนูส่งให้พี่รวมกันแล้วก็ไม่น่าเกิน 50 คะแนนนี่ค่ะ” หมวย
“ใช่ที่พวกเธอส่งมา 50 คะแนน บวกกับส่วนที่พี่หักเองอีก 30”
“พี่หักคะแนนอะไรแคทค่ะทำไมเยอะจัง” จอย
“เยอะหรอนี่พี่ลดให้แล้วนะถ้าหักจริงๆ แคทติดลบไม่ต้องประเมิณสิ้นปีแล้ว”
“คะแนนอะไรค่ะพี่บี” หมวย
“คะแนนที่พวกเธอทำผิดแต่แคทไม่หักคะแนนไง พี่เห็นนะว่าพวกเธอทำอะไรบ้าง พี่ขอให้ช่วยกันทำตามระเบียบแค่วันเดี๋ยวก็ไม่ยอมทำกันเล่นกันสนุกเลยซิ แล้วยิ่งช่วงบ่ายพี่ไม่อยู่ ฝ่ายอื่นเค้าโทรมาว่าพี่กันใหญ่รู้ไหมเรื่องที่พวกเราเล่นกันจนเสียงดังไปรบกวนเค้า” อันนี้ผมแกล้งอำน้องๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
“พวกหนูขอโทษค่ะ แต่ว่าแบบนี้แคทจะเป็นยังไงบ้างค่ะ” จอย
“ก็ตามกฎ คนคะแนนต่ำกว่า 50 ก็โดนไล่ออก”
“ไล่ออกเลยหรอค่ะ” หมวย
น้องเริ่มหันหน้าคุยกันด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“เอองั้นพวกหนูขอยกเลิกคะแนนที่หักแคทได้ไหมค่ะ” จอย
“ได้แต่ว่าพวกเธอต้องโดนหักคะแนนกันคนละ 35 คะแนนนะซึ่งแปลว่าต่อให้เธอทำคะแนนประเมิณได้ 100 เต็มปีนี้พวกเธอก็หมดสิทธิเลื่อนขั้น ขึ้นเงินเดือนและก็อดโบนัสด้วยตามกฎบริษัทที่คนทำคะแนนได้ต่ำกว่า 70 คะแนน”
“โหพี่” หมวย
สาวๆ คุยกันดูเหมือนจะตกลงกันไม่ได้
“ตกลงเอาไง ไม่เอาแบบนี้ใช่ไหม”
“มันก็ไม่ไหวค่ะพี่บี แบบนี้พวกหนูก็แย่เหมือนกัน” จอย
“งั้นหรอ แล้วพวกเธอทำแบบนี้กันทำไมพี่แค่ขอความร่วมมือแค่วันเดียวแค่นี้พวกเธอกลับทำไม่ได้”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอค่ะพี่บี ก็หนูกับหมวยรู้ว่าพี่บีได้เลื่อนต่ำแหน่ง แล้วที่พี่ตั้งให้แคทเป็นหัวหน้าดูแลเรื่องนี้ก็คงเพราะคิดจะเลื่อนให้แคทขึ้นมาแทนพี่แน่ๆ พวกหนูเลยน้อยใจ หนูกับหมวยทำงานมาพร้อมๆ กับแคทแต่กลับไม่ได้เลื่อนต่ำแหน่งบ้าง” จอย
“นี่เธอคิดว่าพี่เลือกคนไม่ถูกต้องหละซิ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอค่ะแต่พวกหนูก็น่าจะมีโอกาสได้ลองทำบ้าง นี่ได้แต่แคทคนเดียว” จอย
“งั้นหรอ แล้วพวกเธอคิดว่าการเป็นหัวหน้าต้องทำยังไงบ้าง”
“ก็ต้องทำให้ลูกน้องทำตามคำสั่งได้ค่ะ” จอย
“อืม แล้วถ้าลูกน้องไม่ทำตามที่สั่งหละจะทำยังไง”
“ก็ต้องลงโทษค่ะ เพื่อให้หลาบจำจะได้ไม่ขัดขืนคำสั่งอีก” หมวย
“แล้วการเป็นหัวหน้าที่ดีหละต้องทำยังไง”
“ก็เหมือนกับที่จอยกับหมวยตอบแหละค่ะ ก็ต้องทำให้ลูกน้องปฏิบัติตามคำสั่ง ใครไม่ทำตามก็ต้องลงโทษ” จอย
“ที่พวกเธอพูดมามันก็ถูกนะ แต่ถูกสำหรับพวกหัวหน้าผู้คุมนักโทษ”
“ทำไมหละค่ะไม่เห็นมันจะผิดตรงไหนเลยนี่ค่ะ” จอย
“เป็นเธอ เธอชอบหรอที่ต้องมีคนมาบังคับให้ทำตามกฎหรือทำงานตามที่สั่ง”
“ก็ไม่ชอบค่ะ” จอย
“นั่นซิแล้วถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเธอทำตามด้วยความสมัครใจเองหละ แบบนี้ดีกว่าหรือเปล่า”
“ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าจะรู้สึกดีกว่าค่ะ” จอย
“แล้วแบบนี้เธอพอจะเข้าใจหรือยังว่าหัวหน้าที่ดีควรเป็นยังไง”
“เออ ก็คงต้องสามารถทำให้ลูกน้องทำตามคำสั่งได้ด้วยความสมัครใจใช่ไหมค่ะ” จอย
“ใช่ถูกต้อง แต่ว่าทำยังไงหละถึงจะทำให้ลูกน้องทำตามด้วยความสมัครใจได้”
“เออคือ” จอย
“คำถามนี้มีคำตอบมากมายแต่สำหรับพี่การที่จะทำให้ลูกน้องยอมทำตามด้วยความสมัครใจได้ก็ต้องเริ่มจากทำให้ลูกน้องยอมรับได้ก่อน ใช่ไหมหมวย”
“ค่ะ” หมวย
“สมัยพี่กว่าที่พวกเราจะยอมรับได้ใช้เวลานานไหม คิดว่าพี่ต้องทนมากแค่ไหนที่พวกเราแอนตี้ไม่ทำงานตามที่พี่บอกให้ทำ จอย”
“ค่ะก็นานค่ะและ ก็คงต้องทนมากด้วยค่ะ แต่ว่ามันก็ผ่านไปแล้วนี่ค่ะ ตอนนี้พวกเราก็ยอมรับพี่เป็นหัวหน้าแล้ว” จอย
“ใช่นะแต่พี่อยากให้เราสองคนนึกดูว่าช่วงนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง น้องๆ ที่เพิ่งเข้ามาก็ฟังเอาไว้ สถานการณ์แบบนี้มันอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต อืมว่าไงมันเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนนั้น”
“ก็เราสามคนแคทด้วย ไม่ตามงานตามที่พี่บอกจนวัตถุดิบขาดทำให้โรงงานผลิตสินค้าไม่ได้” จอย
“อืมแล้วพี่ทำไง”
“พี่บีก็แก้ไขเอง” จอย
“นั่นคือที่พวกเธอรู้ แล้ว เธอรู้ไหมว่าพี่โดนผู้ใหญ่เรียกไปหา”
“รู้ค่ะแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร” หมวย
“ผู้ใหญ่รู้ว่าเรื่องมันเกิดจากพวกเธอไม่ยอมทำงานจะให้พี่ระบุรายชื่อว่าใครที่ทำให้บริษัทเสียหาย เพื่อพิจารณาไล่ออก”
“จริงหรอค่ะ” จอย
“พวกเธอคิดว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น”
“พี่บีก็คงยอมรับผิดเอง พวกหนูถึงได้ยังทำงานอยู่ที่นี่โดยไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย” จอย
“ใช่ ที่พี่เอาเรื่องนี้มาเล่าไม่ใช่เพราะอยากให้พวกเรามาสำนึกบุญคุณอะไรพี่หรอกนะ แต่พี่อยากให้พวกเรารู้ว่าการเป็นหัวหน้าคนมันง่าย แต่การเป็นหัวหน้าที่ดีมันยาก มันต้องเสียสละมากมาย ถ้าตอนนั้นผู้ใหญ่ไม่ยอมเข้าใจพี่ก็คงโดนให้ออกไปแล้ว ซึ่งถ้าพวกเธอลองกลับมาดูครั้งนี้ ที่จอยกับหมวยบอกพี่ว่าพี่ไม่ให้โอกาสเหมือนกับที่แคทได้ ที่จริงพี่ให้โอกาสพวกเธอแล้วนะ พวกเธอได้โจทย์ที่ง่ายกว่ามากด้วยซ้ำ”
“ยังไงค่ะหนูไม่เข้าใจ” หมวย
“โจทย์ของเธอสองคนแค่เสียสละไม่ได้ปรับเงินเดือนกับโบนัสแค่ปีเดียวแลกกับเพื่อนได้อยู่ทำงานต่อ แต่แคทมันต้องยอมโดนตัดคะแนนจนต้องออกเพื่อให้พวกเธอทุกคนได้ปรับเงินเดือนได้โบนัส ถ้าเธอเป็นพี่เธอจะคิดว่าใครที่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นหัวหน้าแทนพี่มากกว่ากัน”
“ก็คงเป็นแคทค่ะ” หมวยพูดเสียงอ่อยๆ
“พี่ไม่ได้แต่งตั้งแคทเพราะมันสนิทกับพี่หรือทำงานนอกให้พี่บ่อยๆ หรอกนะ แต่ที่พี่คิดจะให้มันมาแทนพี่ก็เพราะแคทมันทำให้พี่เห็นว่ามันทำงานแทนพี่ได้ ให้มันทำอะไรมันก็ทำได้สำเร็จลุร่วง นี่คือคุณสมบัติส่วนนึงที่พี่เลือกแคท และพอพี่มาทดสอบพวกเธอด้วยโจทย์เรื่องตัดคะแนน พี่ก็ยิ่งเชื่อว่าพี่เลือกคนไม่ผิด หรือยังไม่ใครคิดว่าแคทไม่เหมาะสมอีก”
“ไม่มีแล้วหละค่ะ แต่ว่ายังไงหนูกับหมวยก็ทำงานมาพร้อมๆ กัน พวกหนูก็ยังรู้สึกว่าพวกหนูน่าจะได้ก้าวหน้าบ้าง” จอย
“พี่เองก็คิดเรื่องนี้อยู่ ไม่ได้ทิ้งพวกเราสองคนหรอก รวมทั้งน้องๆ ที่เข้ามาใหม่ด้วย ว่าแต่ตอนนี้เรายอมรับแคทเป็นหัวหน้าได้หรือยัง พี่ขอให้พูดจากใจจริงนะ เพราะถ้าไม่ยอมรับด้วยใจจริงเดี๋ยวจะมีปัญหากันที่หลัง ใครคิดว่ารับไม่ได้ให้บอกพี่มาตอนนี้เลยพี่จะเสนอเรื่องย้ายฝ่ายให้ อยากไปไหนก็แจ้งมา”
“ไม่มีใครไม่ยอมรับแล้วหละค่ะพวกเราเข้าใจที่พี่สอนแล้ว” หมวย
“แน่ใจนะพี่ให้โอกาสตัดสินใจอีกครั้ง เพราะถ้าพี่มาเจอที่หลังว่ามีคนฝืนอยู่ทั้งๆ ที่ไม่ยอมรับ พี่จะจับย้ายหรือไม่ก็ให้ออกเลยนะ”
“ไม่มีค่ะ ยังไงแคทก็ยังเป็นเพื่อนหนู หนูอยากทำงานฝ่ายนี้ต่อค่ะ” จอย
“หมวยหละ”
“แคทก็เป็นเพื่อนหนูเหมือนกันค่ะ และหนูก็เข้าใจถึงความทุกข์ที่แคทกำลังได้รับอยู่แล้วค่ะ” หมวย
“ดีแล้ว แล้วพวกเธอหละใครมีปัญหาบ้างไหม” ผมถามพวกเด็กใหม่
แป้ง พลอย นก หงส์ ส่ายหน้า
“ดีแล้วเอาหละ ในเมื่อจอยกับหมวยแสดงให้พี่เห็นแล้วว่าพวกเธอก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะแบกความรับผิดชอบได้มากขึ้น พี่ก็จะขอประกาศแผนปรับปรุงฝ่ายให้พวกเธอรับรู้นะ พี่ไปคิดมาแล้วงานฝ่ายเราเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึงสองเท่า ดังนั้นพี่คิดว่าจะแบ่งออกเป็น 2 แผนกในฝ่ายจัดซื้อ คือ ส่วนต่างประเทศ กับส่วนในประเทศโดยมีผู้จัดการแผนกเป็นคนดูแล”
“แล้วใครจะมาเป็นผู้จัดการแผนกสองแผนกนี้ค่ะ” จอย
“ก็เธอกับหมวยหนะซิ จะมีใครอีกหละ”
“จริงๆ หรอค่ะ” หมวย
“จริงหรอค่ะพี่บี” จอย
“พี่จะให้จอยเป็นผู้จัดการแผนกจัดซื้อต่างประเทศ หมวยเป็นผู้จัดการแผนกจัดซื้อในประเทศ ทั้งคู่อันเดอร์ฝ่ายจัดซื้อซึ่งแคทจะขึ้นเป็นผู้จัดการฝ่าย”
“ขอบคุณค่ะพี่บี หนูนึกว่าพี่จะไม่เอ็นดูพวกหนูแล้ว” จอย
“ส่วนนึงก็ต้องขอบใจตัวเองกันด้วยนะ ที่พวกเธอบอกว่ายอมรับแคทได้ ไม่งั้นพี่คงต้องหาคนอื่นมาเป็นผู้จัดการแผนกแทน”
“เหมือนแกล้งกันเลยนะค่ะพี่บี นี่ถ้าหนูน้อยใจแล้วขอย้ายหนูก็อดเลื่อนต่ำแหน่งหนะซิ” จอย
“อันนั้นพี่ก็ช่วยไม่ได้นะ พี่ไม่ใช่แฟนเรานี่จะได้ต้องมาค่อยเอาใจกัน”
จอยกับหมวยมองหน้าผมแล้วอมยิ้มเพราะถึงผมจะไม่ใช่แฟนพวกเธอแต่ผมก็เคยได้พวกเธอแล้วทั้งคู่
“ส่วนน้องๆใครอยากอยู่ฝ่ายไหนก็บอกนะ หรือว่าอยากจะกลับไปทำตรวจสอบภายในก็ได้เพราะพี่จะย้ายไปนั่งห้องตรงนั้น”
“อ้าวพี่บีจะย้ายไปนั่งห้องใหญ่หรอค่ะ” จอย
“ใช่ซิโดนบังคับมา ใจจริงพี่ก็อยากอยู่ตรงนี้นานๆ นะจะได้จองต่ำแหน่งนี้ไว้นานๆ จะได้ไม่ต้องมีใครเลื่อนต่ำแหน่งกัน”
“จะย้ายเลยไหมค่ะเดี๋ยวพวกหนูช่วยเก็บของ” จอย
“แหมกลัวพี่ไม่ยอมย้ายแล้วจะอดเลื่อนต่ำแหน่งกันขนาดนี้เลยหรอ พี่คงย้ายประมาณอาทิตย์หน้านะตอนนี้อดใจรอกันก่อน ส่วนที่นั่งเดี๋ยวจะให้เขามาจัดใหม่ ให้เขากันพาทิชั่นสำหรับผู้จัดการแผนกจะได้ดูเป็นส่วนตัวกันหน่อย”
“แล้วตกลงว่ายังไงค่ะเรื่องตัดคะแนน” หงส์ถามด้วยความเป็นห่วงแคท
“อ้าวพูดตั้งนานนี่ยังไม่รู้หรือหรอว่าพี่กุเรื่องขึ้นมาเอง”
สาวๆ คนอื่นหัวเราะที่หงส์ยังไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดผมสร้างขึ้นมาเองไม่มีใครมาให้ตัดคะแนนจริงๆ แต่มันก็ยิ่งทำให้หงส์ดูน่ารักขึ้นทั้งความที่เป็นคนซื่อๆ ทั้งที่คอยเป็นห่วงคนอื่น
“เอาหละเข้าใจกันแล้วนะ ไปทำงานกันได้แล้ว แล้วก็ตามแคทเข้ามาทีไม่รู้ไปผูกคอตาไปแล้วหรือยัง อ้ออย่าเพิ่งให้แคทรู้นะว่าเรื่องทั้งหมดพี่กุขึ้นมา”
“ค่ะ” สาวๆ ตอบพร้อมกัน
แคทเข้ามาในห้องผมพร้อมใบหน้าที่เปื้อนด้วยคราบน้ำตา ผมสงสารอยู่เหมือนกันแต่ผมก็ต้องทำเพื่อให้น้องเข้าใจถึงสิ่งที่ตนจะต้องรับผิดชอบต่อจากนี้ไป
“พี่คุยกับพวกนั้นแล้วนะ เขาขอยกเลิกคะแนนที่ส่งมา แต่พี่มีข้อแม้ว่าพวกนั้นต้องโดนพี่หักคนละ 30 คะแนนแทน ปรากฏว่าไม่มีใครยอม สรุปแกก็ยังติดลบ 80 เหมือนเดิม”
“ค่ะ” แคท
“แกมีอะไรจะพูดไหม หรือว่าจะเปลี่ยนใจเรื่องคะแนนของพวกน้องๆ”
“ไม่มีค่ะ” แคท
“ตอนนี้แกรู้สึกยังไง รู้สึกว่าการเป็นหัวหน้ามันเท่มันดีหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ มันลำบากกว่าตอนแคทเป็นลูกน้องเยอะเลย” แคท
“ตอนนี้แกคงเข้าใจแล้วซินะว่า การเป็นหัวหน้าคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องสนุก ยิ่งการทำให้คนอื่นยอมรับยิ่งยากใหญ่ บ้างทีตอนนี้แกอาจจะคิดว่าที่จริงน่าจะใส่คะแนนตามจริงดีกว่าตัวเองจะได้ไม่ต้องลำบาก แต่พี่จะบอกให้นะเป็นหัวหน้าแบบนั้นใครๆ ก็ทำได้ แต่ทำแล้วเป็นยังไง ไม่นานลูกน้องก็ออกหมด แกก็น่าจะเห็นตัวอย่างของฝ่ายอื่นบ้างนะ”
“เห็นค่ะ” แคท
“ที่พี่ให้แกเป็นคนตัดคะแนนคนอื่นนี่ก็เพื่ออยากให้ได้รับรู้ว่าการเป็นหัวหน้าคนมันมีเรื่องกดดันมากแค่ไหน แล้วยิ่งการที่จะเป็นหัวหน้าที่ดีมันต้องแลกด้วยอะไรบ้าง ซึ่งแกก็ทำให้พี่ไม่ผิดหวัง นี่ถ้าแกเปลี่ยนใจมาหักคะแนนพวกน้องๆ ตามจริง พี่คงต้องจำใจหาคนอื่นเข้ามาเป็นผู้จัดการแทนแกนะ”
“หมายความว่ายังไงค่ะ” แคท
“ก็หมายความว่าเรื่องทั้งหมดพี่สร้างขึ้นเองไม่มีใครใช้ให้มาตัดคะแนนหรอก”
“พี่บีหลอกหนูหรอ” แคทกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ไหลออกมาอาบแก้ม
“ใช่แต่ก็เพื่อพิสูจน์ว่าพี่เลือกคนไม่ผิด นี่แกจะร้องไห้ทำไม ตกลงไม่เอาใช่ไหนตำแหน่งเนี่ยจะได้หาคนอื่นมาแทน”
“เอาค่ะ แต่พี่บีรู้ไหมหนูเคียดแค่ไหน หนูแทบอยากจะไปโดดตึกตาย” แคท
“อ้อหรอ แล้วตอนแกทำกับพี่หละ จำได้ไหมไม่ใช่แค่จะโดนไล่ออกนะเผลอๆ พี่ต้องใช้หนี้บริษัทฯ ด้วยซ้ำ พี่น่าจะไปโดดตึกตายมากกว่าแกอีก”
“ขอโทษค่ะก็ตอนนั้นแคทไม่ได้คิดให้ดี คิดแค่แคทน่าจะมีสิทธิได้เลื่อนขั้นเหมือนกันก็เลยทำเรื่องจนพี่บีต้องลำบาก” แคท
“เอาเถอะเรื่องนั้นช่างมัน แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม พี่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องยอมแบบนี้ตลอดไปนะ แต่พี่เชื่อว่าคนธรรมดาทั่วไปพอเราแสดงความจริงใจให้เค้าเห็น เค้าก็จะยอมรับเราในที่สุด แต่ก็อาจจะมีบางพวกที่ไม่เป็นแบบนั้นแกก็ต้องตัดสินใจเอาเอง พี่คงมานั่งสอนทั้งหมดไม่ได้ เอาหละไปตามพวกข้างนอกเข้ามาอีกทีซิ จะได้ประกาศเรื่องเลื่อนต่ำแหน่งกันอย่างเป็นทางการซะที วันนี้แค่ช่วงเช้าพี่ก็ปวดหัวแล้ว ช่วงบ่ายไปหาลูกค้าดีกว่ามีคนดูแลฝ่ายแทนแล้วนี่”
“ไปหาลูกค้าหรือไปหาลูกสาวคนอื่นค่ะ” แคทกลับมายิ้มแย้มเป็นปรกติ
“ลูกค้าซิ ไปตามพวกข้างนอกมาได้แล้วเร็ว เดี๋ยวพี่ต้องขึ้นไปหาพี่คมอีก”
“ค่ะ” แคท
แคทออกไปตามน้องๆ ทั้งหมดเข้ามาในห้องอีกรอบ ผมประกาศเรื่องที่จะให้แคทเลื่อนต่ำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่าย จอยกับหมวยและน้องคนอื่นๆ ก็เข้ามาแสดงความยินดีกับแคท ไม่มีปฏิกิริยาเหมือนก่อนหน้านี้ แล้วผมก็ประกาศเรื่องต่ำแหน่งผู้จัดการแผนกอีกรอบให้แคทรับรู้ด้วย แคทคงโล่งใจอย่างน้อยเพื่อนก็ได้เลื่อนต่ำแหน่งด้วย
“แบบนี้เที่ยงนี้ก็ต้องเลี้ยงซิค่ะ” แคท
“ก็เลี้ยงซิ แกเลื่อนต่ำแหน่งนี่จะเลี้ยงอะไรพี่หละ”
“ไม่ใช่ซิแหมพี่บีก็ พี่บีเองก็เลื่อนต่ำแหน่ง พี่บีก็เลี้ยงรวบยอดให้พวกหนูด้วยเลยไง” แคท
“เรื่องกินฉลาดนะ ที่โดนพี่หลอกดันไม่รู้ ดีนะสั่งว่าไม่ให้ไปไหนไม่งั้นสงสัยไปแขวนคอตายในห้องน้ำแล้วมั้ง”
“พี่บีอะ หนูว่าจะเอาสายเมาส์ผูกกับพาทิชั่นแขวนคอตายอยู่แล้ว แต่พอดีเมาส์มันเป็น ไวเลสไม่มีสายเลยผูกคอตายไม่ได้” แคท
สาวๆ หัวเราะแคทกันใหญ่
“ไม่เอาสายแลนหละเส้นใหญ่ดีเหนียวด้วยไม่ขาดง่ายๆ”
“ไม่เอาแล้วหละค่ะพี่ แหมได้ทีว่าน้องใหญ่เลยนะ” แคท
“ไปออกไปทำงานกันได้แล้ว แล้วเที่ยงจะกินร้านไหนกันเลือกแล้วบอกพี่ด้วย”
“ค่ะพี่เลี้ยงใช่ไหมค่ะ” แคท
“เออ ไม่อยากแย่งเงินน้องที่เก็บเอาไว้เลี้ยงผู้ชาย”
“โหพี่ ไม่ใช่เลี้ยงแค่อุปการะเฉยๆ” แคท
“พอๆ พี่จะไปหาพี่คมแล้ว ออกไปทำงานกันได้แล้ว ใกล้ๆ เที่ยงพี่คงลงมา”
“ค่ะ” แคท
สาวๆ เดินออกจากห้องทำงานผม ผมเองก็หยิบลิสเฟอนิเจอร์แล้วขึ้นไปหาพี่คมที่ห้องทำงาน
“ว่าไงเราต่ำแหน่งขึ้นหรอ แหมไม่รีบขึ้นเร็วกว่านี้พี่จะได้จับเราแต่งงานด้วยแทนพี่คม” พี่นุ่น
“โหพี่นุ่น หางานให้ผมแล้ว เกิดพี่คมได้ยินหรือคนอื่นได้ยินแล้วมาบอกแก ผมตายแน่ๆ”
“แหมแซวเล่นนะ พี่ไม่ใจกว้างเหมือนเมียๆ เราหรอกยอมให้เรามีเมียหลายคนได้หนะ” พี่นุ่น
“ตอนแรกผมก็คิดแบบพี่นะ แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าใครใจกว้างกันแน่”
“ทำไมหละเมียๆ เราชอบกันเองหรอ” พี่นุ่น
“ประมาณนั้นอะพี่ ตอนนี้ผมแทบจะเป็นคนนอกโดนไล่ออกมานอนนอกห้องด้วย”
“ฮ่า ฮ่า ไม่น่าเชื่อนะว่าบีจะแพ้ผู้หญิงขนาดนี้ เสียชื่อหมด” พี่นุ่น
“คงต้องยอมแหละครับสำหรับ 3 คนนี้”
“ตกลงเรามีเมีย 3 คนจริงๆ หรอพี่นึกว่าอำพี่เล่นซะอีก” พี่นุ่น
“จริงๆ ครับ พี่เจอแล้วสองคน ก้อยที่มางานแต่งพี่กับน้องฝึกงานฝ่ายผมที่ชื่อแนนครับ”
“อ้อ แหมสวยทั้งคู่เลยนะแล้วอีกคนหละ” พี่นุ่น
“ชื่อเจนครับ แล้วผมจะหาโอกาสพามาไว้พี่สะใภ้ครับ”
“อย่าเรียกแบบนี้ได้ไหมมันจักกะจี้ยังไงไม่รู้ ว่าแต่แบบนี้เราจะจัดงานแต่กี่ครั้งเนี่ย” พี่นุ่น
“3 ครั้งครับ”
“โห พี่ก็ขาดทุนแย่ซิ งานพี่จัดครั้งเดียวแต่เราจัดตั้งสามแบบนี้ต้องแบ่งซองแล้ว” พี่นุ่น
“ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับซอง แต่ยังไงขอจองพี่กับพี่คมมาเป็นผู้ใหญ่ของผมทั้งสามงานเลยนะครับ”
“แล้วพี่กับพี่คมจะทำหน้ายังไงดีหละเนี่ยตอนพ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวถามเรื่องบี พี่ไม่อยากโกหกเลย” พี่นุ่น
“ถึงวันนั้นผมคิดว่าผมคงบอกความจริงกับพ่อแม่พวกเธอทั้งหมดแล้วหละครับ”
“เรื่องใหญ่เลยนะนั่น ขอให้ทำให้สำเร็จแล้วกันนะ จะได้สบายใจกันทุกฝ่ายไม่ต้องกลัวเค้าจะมารู้ที่หลัง” พี่นุ่น
“ขอบคุณครับพี่นุ่น”
“เข้าไปหาพี่คมไป พี่จะทำงานต่อแล้ว” พี่นุ่น
“ครับพี่”
ผมเข้าไปเสนอโครงสร้างฝ่ายใหม่และเฟอนิเจอร์ที่ผมไปดูมากับพี่คม
“เอาแบบนี้ก็ได้นะ เรื่องโครงสร้างไม่น่ามีปัญหา แต่ว่าไอ้จอ LCD นี่อะไรวะ” พี่คม
“เอาไว้ดูหุ้นกับเอาไว้คอนเพอร์เรนไงพี่”
“แหมกูยังไม่มีเลยนะ พี่ไพศาลเองยังดูหุ้นจากจอคอมธรรมดาอยู่เลย” พี่คม
“อันนี้ผมก็ลองขอดู เห็นห้องมันกว้างเอามาไว้ประชุมข้ามประเทศก็ได้ ผมไม่ถือหรอก”
“แหม เออเดี๋ยวกูจะเสนอให้ คงไม่ติดอะไรหรอก ยังไงมันก็ซื้อมาเป็นทรัพย์สินบริษัทฯ” พี่คม
“งั้นก็หมดเรื่องแล้วนะครับพี่ผมขอตัวหละ”
“เดี๋ยวๆ เฮ้ย เดี๋ยวนี้หายหน้าหายตาเลยนะไม่มีเวลาให้พี่เชื้อแล้วหรอ” พี่คม
“มีซิพี่ ว่าแต่พี่อยากได้ซักกี่คนหละ”
“ไอ้บ้า อย่าพูดแบบนี้นะ กูเลิกแล้ว เดี๋ยวพี่นุ่นมึงได้ยินโกรธกูอีก” พี่คม
“ผมล้อเล่นนะพี่ ก็ผมเห็นพี่ไม่สนเรื่องนี้แล้วเลยไม่ได้ขึ้นมาเสนอสาวๆ ให้เหมือนเมื่อก่อน”
“เออๆ มึงนี่ชวนกูออกนอกเรื่องจนกูเกือบลืมเรื่องสำคัญเลย” พี่คม
“เรื่องอะไรครับพี่”
“วันนี้มึงไปเป็นตัวแทนบริษัทฯ เป็นเจ้าภาพงานศพที” พี่คม
“งานศพบิ๊กหนะหรอครับ”
“ใช่ มึงคงไม่ติดใจอะไรกับคนที่ตายไปแล้วหรอกนะ” พี่คม
“ไม่หรอกครับผมหนะอโหสิให้หมดตั้งแต่วันนั้นแล้ว”
“งั้นดีแล้วเอาน้องๆ ไปด้วยเดี๋ยวญาติๆ เค้าจะได้ไม่หาว่าบริษัทเราใจดำให้มึงไปคนเดียว” พี่คม
“ได้ครับ แต่ไม่รู้นะครับว่าใครจะไปบ้างเพราะเท่าที่เห็นใส่สีดำกันมาแค่ไม่กี่คนเอง”
“เอาเหอะ ไปกันสองสามคนก็ได้อย่าให้มันน่าเกลียดก็พอ” พี่คม
“แล้วตกลงบริษัทฯ จะไม่เอาเรื่องที่บิ๊กทำไว้หรอครับ”
“อืมก็คงแบบนั้นแหละ จะเอาอะไรกับคนตายไปแล้ววะ ตอนนี้ผลคดีจะเป็นยังไงก็คงมีแจ้งแค่ผู้บริหารกับผู้ถือหุ้นเท่านั้นแหละ” พี่คม
“ก็ดีแล้วหละครับ ถ้าให้เรื่องแพร่ออกไปมันจะเสียชื่อบริษัทฯ และก็เสียชื่อคุณไพศาลด้วย”
“นั่นแหละ เฮอ ถ้าคนอื่นรู้ว่าแฟนลูกสาวประธานโกงบริษัทฯ ใครเค้าจะเชื่อใจรวมงานกับเราจริงไหม” พี่คม
“ครับ ถ้าพี่ไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้วผมไปนะครับ นัดน้องๆ ไว้ว่าจะเลี้ยงข้าวนี่ก็จะเที่ยงแล้ว”
“เออไปเถอะ เดี๋ยวได้เรื่องยังไงกูจะให้พี่นุ่นโทรไปบอก” พี่คม
“ขอบคุณครับ”
ผมกลับลงมาที่ฝ่าย แคทบอกว่าจองร้านอาหารใกล้ๆ บริษัทฯ ไว้แล้ว ผมเลยให้พวกน้องๆ เดินไปกันก่อน ผมเข้าไปในห้องดูงานว่ามีเรื่องด่วนหรือเปล่าก่อนจะกลับออกมาเจอหงส์ยืนรออยู่ที่หน้าห้องพอดี
“อ้าวนี่ยังไม่ไปกันหรอ”
“ไม่กันหมดแล้วค่ะ หงส์เก็บของอยู่เห็นพี่บียังไม่ไปเลยมารอ” หงส์
“อืมงั้นไปกันเถอะ”
ระหว่างทางที่ไปร้านอาหารผมก็บอกหงส์ว่าวันนี้ผมคงกลับดึก
“วันนี้พี่ต้องไปงานศพนะว่าจะให้น้องๆ ไปกันด้วย”
“ให้หงส์ไปด้วยไหมค่ะ” หงส์
“ไม่ดีกว่า พี่อยากให้หงส์กลับไปดูสองคนที่ห้อง เดี๋ยวไม่มีใครหาข้าวให้กินก็จะรอพี่อีก”
“ค่ะ” หงส์
“วันนี้หงส์กลับเองนะ ลำบากซักวันนะ”
“ไม่ลำบากหรอกค่ะ แค่นี้เอง” หงส์
“พี่คงออกไปงานประมาณ 4 โมงคงต้องไปดูว่าฝ่ายบุคคลเค้าเตรียมอะไรพร้อมไหม อืมยังไงรบกวนหงส์โทรไปถามตัวเล็กกับเจนทีว่าอยากกินอะไรกัน หงส์จะได้ซื้อเข้าไปเลยไม่ต้องไปทำอีก”
“แล้วพี่บีหละค่ะ” หงส์
“พี่คงไปกินเองนะไม่ต้องทำเผื่อ อ้อแล้วก็ไม่ต้องรอพี่กลับด้วยนะ ง่วงก็นอนไปก่อน”
“ค่ะ” หงส์
หลังกินอาหารเที่ยงเสร็จผมก็บอกกับน้องๆ เรื่องงานศพตอนเย็น คนที่น่าจะไปได้เพราะใส่ชุดสีขาวดำมาพอดีก็มี แคท กับ จอย ส่วนหมวยบอกว่าจะกลับไปบ้านก่อนแล้วจะมาพร้อมกับแฟน ส่วนคนอื่นๆ ไม่แน่อาจจะมาตอนพระสวด
ทานอาหารเสร็จผมก็กลับมาทำงานจนใกล้ 4 โมงเย็น นกก็เข้ามาหาผมในห้อง
“พี่บีค่ะ นกไม่ไปได้ไหมค่ะงานเย็นนี้” นก
“ทำไมหละ”
“ก็เค้าทำกับพี่นกกับนกไว้มากนะค่ะ” นก
“แต่เค้าก็ชดใช้กรรมแล้วนะ อีกอย่างเค้าก็เคยเป็นหัวหน้าเรานะ”
“แต่นกทำใจไม่ได้ค่ะ” นก
“พี่ว่านะนกควรจะอโหสิกรรมให้เค้าซะ นกจะได้หมดทุกข์ซะที ถ้านกยังเป็นแบบนี้นกก็จะต้องอยู่กับความทุกข์ตลอดไปนะ”
“ค่ะ นกจะลองคิดดูนะค่ะ” นก
“อืม ยังไม่ต้องรีบก็ได้แต่ยังไงพี่อยากให้นกทำใจเรื่องนี้ให้ได้ก่อนที่จะถึงวันเผานะ เพราะหลังจากนั้นมันอาจจะสายเกินไป”
“ค่ะ ขอคุณนะค่ะพี่บี งั้นนกขอกลับไปทำงานต่อนะค่ะ” นก
“อืมไปเถอะ นี่พี่ก็จะไปงานแล้วเหมือนกัน”
ผมเก็บของออกจากห้อง แคทเห็นรีบเก็บของบ้าง
“งั้นแคทกับจอยไปพร้อมกับพี่นะ คนที่เหลือใครว่างค่อยตามไปตอนทุ่มนึงก็ได้”
“ค่ะ เดี๋ยวจอยคงเดินมาค่ะกำลังเก็บของอยู่” แคท
“แคทจะนั่งรถไปกับพี่หรือว่าจะไปรถจอยหละ”
“จอยเอารถไปเข้าศูนย์ค่ะ คงไปกับพี่ด้วย” แคท
“งั้นหรอ อืมๆ”
ผมไปที่วัดพร้อมกับแคทและจอย ทั้งคู่ก็ช่วยกันดูเรื่องน้ำดื่มอาหารกับฝ่ายบุคคล ทำให้ผมไม่ต้องดูแลเอง ผมเห็นคุณป้าคนนึงนั่งมองรูปบิ๊กแล้วร้องไห้อยู่ผมเลยถามน้องฝ่ายบุคคลว่าคุณป้าคนนั้นเป็นญาติฝ่ายไหนของบิ๊ก น้องบอกว่าคุณป้าคนนั้นคือคุณแม่ของบิ๊กผมเลยเข้าไปแนะนำตัวในฐานะที่มาเป็นตัวแทนบริษัทฯเป็นเจ้าภาพในวันนี้
“สวัสดีครับคุณป้า ผมชื่อบีนะครับ ผมมาเป็นตัวแทนบริษัทฯ เป็นเจ้าภาพในวันนี้”
“ขอบคุณมากนะค่ะ ขนาดบิ๊กมันทำไม่ดีกับบริษัทฯ ยังมาช่วยจัดงานให้” แม่ของบิ๊ก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คนก็เสียไปแล้วผู้ใหญ่เค้าก็ไม่มีใครถือสาหาความครับ”
“ป้าฝากขอบคุณพวกผู้ใหญ่ในบริษัทฯ คุณด้วยนะ ถ้าไม่ได้พวกคุณช่วยป้าคงไม่มีปัญญาจัดงานศพแบบนี้” แม่ของบิ๊ก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แล้ทำไมคุณป้าถึงจัดงานไม่ได้หละครับ คุณป้าติดขัดอะไรบอกผมได้นะครับ เผื่อบริษัทฯ จะพอช่วยได้บ้าง”
“ป้าไม่กล้ารบกวนหรอกค่ะ หลังจากคุณพ่อบิ๊กเสียพร้อมกับทิ้งหนี้สินเอาไว้ ก็มีแต่บิ๊กที่หาเงินเข้าบ้าง คงเพราะแบบนี้ทำให้เค้าเลือกหาเงินในทางที่ผิด” แม่ของบิ๊ก
“แล้วตอนนี้คุณป้าอยู่คนเดียวหรอครับ”
“ก็มีน้องของบิ๊ก ชื่อบอลอยู่ด้วยอีกคน แต่บอลเป็นคนซื่อ ไม่ค่อยทันคนไม่เหมือนบิ๊ก ทำงานก็โดนคนอื่นแย่งผลงานไปหมด ตัวเองเลยไม่เคยได้เลื่อนขั้นหรือขึ้นเงินเดือนกับใครเค้า” แม่ของบิ๊ก
“ครับ นี่นามบัตรผมนะครับคุณป้า ยังไงให้บอลมาคุยกับผมดูเผื่อมีงานดีๆ ให้ทำบ้าง”
“ขอบคุณมากนะค่ะ คุณใจดีกับป้ามาก” แม่ของบิ๊ก
“ไม่เป็นไรครับคุณป้า บิ๊กเองก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยของผม”
คุณแม่ของบิ๊กจับมือคุณแม่ของบิ๊กจับมือผมขอบคุณแล้วก็ร้องไห้ไปด้วยทำเอาผมเองน้ำตาเอ่อตามไปด้วย จากนั้นผมก็ขอตัวไปจุดธุปบอกอโหสิกรรมกับบิ๊ก
“เรื่อง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นส่วนนึงมันก็เป็นเพราะกูมันมีทิฐิมากเกินไป ถ้าตอนนั้นกูไม่มีทิฐิกับมึง ตอนนี้เราก็คงไม่ต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ กูอยากขอให้มึงอโหสิในเรื่องต่างๆ ที่กูเคยทำกับมึงไว้ และกูเองก็ขออโหสิให้กับเรื่องที่มึงเคยทำไว้กับกูทั้งหมด ไปที่ชอบที่ชอบนะบิ๊ก น้องกับแม่มึงกูจะคอยช่วยเหลือเอง”
จุด ธูปบอกบิ๊กเสร็จผมก็กลับมานั่งที่เก้าอี้ที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้เพราะนี่ก็ หกโมงกว่าแล้วแขกเริ่มมากันเยอะ ผมนั่งอยู่ซักพักก็มีผู้ชายหน้าคล้ายบิ๊กแต่อายุน้อยกว่าและท่าทางแตกต่าง กันมากเดินเข้ามาไหว้
“บอลหรอ”
“ครับ” บอล
“อืมเราจบอะไรมา”
“บริหารครับ” บอล
“สนใจจะมาทำงานกับพี่ไหม อยู่ฝ่ายตรวจสอบภายในนะ”
“คือ” บอลอำๆ อึ้งๆ
ผม รู้ว่าบอลอยากมาทำแต่คงอยากรู้เรื่องเงินเดินแต่ไม่กล้าถาม นิสัยต่างกับบิ๊กจริงๆ ดูท่าทางจะเป็นคนซื่อๆ จนไม่ทันคนอื่นอย่างที่คุณป้าบอกจริงๆ นั่นแหละ
“เรื่องเงินเดือนจะให้เยอะกว่าที่เก่าแน่ๆ แต่ลองมาคุยกันดูก่อนว่า ok ไหม”
“จริงหรอครับ” บอลทำหน้าดีใจ
“อืมที่แม่บอลบอกมาพี่คงให้เพิ่มได้อีกซัก 50% นะ” คุณป้าบอกผมว่าเงินเดือนบอล หมื่นเดียวโดนหักโน้นหักนี่ก็เหลือไม่ถึงหมื่นแล้ว
“ขอบคุณมากนะครับพี่” บอล
“ถ้าสนใจพรุ่งนี้ไปพบพี่ที่ออฟฟิตนะ ตามนามบัตรที่พี่ให้คุณแม่เราไว้”
“ครับพรุ่งนี้ผมจะไปหาพี่แต่เช้าเลย” บอล
“อืม งั้นเราไปดูแม่เถอะ บอกแม่ด้วยแม่จะได้หมดห่วง”
“ขอบคุณมากครับพี่” บอล
บอลเดินกลับไปนั่งข้างๆ แม่ แคทกับจอยกลับเดินมานั่งข้างผมคนละข้าง
“เป็นไงเรียบร้อยนะ”
“ค่ะเรียบร้อยทุกอย่าง” แคท
“น้องๆ มากันบ้างหรือยัง”
“หมวยมาแล้วค่ะนั่งกับแฟนอยู่ด้านหลัง แป้งกับพลอยก็มาแล้ว” จอย
“นกหละ”
“ยังไม่เห็นเลยค่ะพี่บี” จอย
“งั้นหรอ อืม”
นกยังทำใจไม่ได้หรอ แต่ยิ่งทำใจไม่ได้ก็ยิ่งจะจมอยู่ในความทุกข์นะ ผมนั่งคุยกับแคทและจอยซักพักก็มีเสียงทักผมดังขึ้น
“คุณบี” หมวดป๊อบ
“อ้าวหมวดมาด้วยหรอครับ”
“พอดีนกเค้าอยากมาแต่ไม่กล้ามาคนเดียวเลยชวนป๊อบมาด้วย” หมวดป๊อบ
“สวัสดีค่ะพี่บี” นก
“อืมงั้นก็ไปจุดธูปกันก่อนซิ ใกล้เวลาสวดแล้วเดี๋ยวไม่ได้จุดนะ”
“ค่ะ” นก
หมวดป๊อบกับนกไปจุดธูปไว้ศพบิ๊ก ผมเห็นนกยืนอยู่นานเธอคงทำใจอโหสิกรรมให้บิ๊กได้แล้ว เสร็จแล้วนกกับหมวดป๊อบก็มานั่งด้านหลังผม
“ขอบคุณมากนะค่ะ” นก
“ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ ดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก รู้สึกโล่งใจมากเลยค่ะ” นก
“ดีแล้วหละ”
แค ทกับจอยสงสัยว่าผมกับนกคุยอะไรกันแต่ผมไม่ยอมบอกพวกเธอ หลังเลิกงานแคทบอกให้ผมพาไปเลี้ยงข้าว นกขอตัวกลับกับหมวดป๊อบ หมวยเองก็กลับพร้อมกับแฟน ก็เลยเหลือแค่ ผม แคท จอย แป้ง และพลอย
แค ทขอให้ผมไปเลี้ยงที่ร้านเดิมที่มีผับอยู่ด้านบน ทานข้าวเสร็จพลอยก็ขอตัวกลับ ส่วนแคทกับจอยขอให้ผมพาขึ้นไปกินเหล้าในผับด้านบนต่อ แต่ที่น่าแปลกคือแป้งไม่ขอตัวกลับบ้าน แต่กลับขออยู่ต่อด้วย
“นี่เราที่บ้านไม่เป็นห่วงหรอ มาใจแตกตามพี่ๆ สาวแก่พวกนี้ได้ยังไง”
“พี่บี ว่าใครสาวแก่ค่ะ ถึงแก่แต่ก็เด้งอยู่นะ” แคทเริ่มเมาได้ที
“ใช่ ว่าแบบนี้ คืนนี้พี่ลองพิสูจน์อีกซักครั้งไหมค่ะว่าหนูยังสาวอยู่หรือเปล่า” จอยพูดแบบไม่อายเพราะเธอเองก็กินเหล้าเข้าไปหลายแก้ว
“นี่ๆ น้องยังเด็กพูดอะไรกันเดี๋ยวน้องเข้าใจผิดหมด”
“โอ๊ยพี่คนฝ่ายอื่นเค้าก็ว่าพวกหนูเสร็จพี่กันหมดแล้วทั้งนั้นแหละ จะกลัวเสียชื่อทำไม” แคท
“เฮ้ยๆ นี่เมาแล้วก็กลับดีไหม พูดอะไรน้องเค้าเข้าใจพี่ผิดหมด”
“ใช่แคทแก พี่บียังได้ไม่หมดซะหน่อย น้องใหม่ๆ 3 คนยังไม่ได้ใครเลยนี่ใช่ไหมจ๊ะแป้ง” จอย
แป้งอายจนหน้าแดงทั้งๆ ที่เพิ่งกินเหล้าไปได้ครึ่งแก้ว
“แป้งอย่าไปฟังพวกนี้นะ ดูซิโตแล้วกินเหล้าซะเมาเต้นยั่วจนโต๊ะข้างๆ น้ำลายหกแล้ว เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับน้อง”
“ที่เต้นเนี่ยไม่ได้ยั่วคนอื่นเลย ยั่วคนโต๊ะนี้แหละ” จอยยิ้มทำปากเซ็กซี่
ผม เองก็คิดอยู่เหมือนกันว่าพวกนี้เต้นยั่วผมแน่ๆ แคทก็ไม่เลวหุ่นก็ดี ลีลาคราวที่แล้วก็ใช้ได้แต่ยังพอห้ามใจไหว แต่จอยนี่ซิ ผมยังติดใจเธอจากคราวที่แล้วอยู่เลย ยิ่งมาเห็นเธอเธอเต้นโชว์หุ่นแบบนี้ ผมเองแข็งจนต้องเอาเอวชิดกับโต๊ะกลัวเธอเห็นจริงๆ หรือว่าจะควบสองคนดี แบบนี้สงสัยต้องพาแป้งไปส่งบ้านก่อนแล้วดูปฏิกิริยาแคทกับจอยว่าใครจะอยู่ กับผมต่อ หรือว่าทั้งคู่
“นี่พี่ให้กินถึงแค่ 4 ทุ่มนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำงานอีก”
“กำลังจะบอกอยู่พอดีเลยค่ะว่า 4 ทุ่มเราไปต่อกันที่อื่นสองคนนะค่ะ” แคท
“นี่ฉันด้วยซิ” จอย
“แกจะลุมพี่บีหรอ” แคท
“เออ จะให้แกได้คนเดียวได้ไง” จอย
“พอๆ พูดอะไรกันเมาแล้วก็เต้นเงียบๆ ปะ”
แคทกับจอยมองผมด้วยสายตาที่บงบอกว่คืนนี้ผมไม่รอดแน่ๆ ทำเอาผมแข็งจนแน่นกางเกงไปหมด พอสี่ทุ่มพวกเราก็ออกมาจากผับมาขึ้นรถผม
“มาพี่ไปส่งแป้งก่อนแล้วกันนะ” ผมกะฟันคู่แน่ๆ คืนนี้เลยรีบไปส่งแป้งก่อน
“เออคือ แป้งบอกที่บ้านว่าจะค้างบ้านเพื่อนค่ะ” แป้ง
“อ้าวหรอแล้วบ้านเพื่อนอยู่ที่ไหนหละพี่จะไปส่ง”
“คือ เออ แป้งจะไปค้างกับแนนค่ะ” แป้ง
อ้าว งานเข้าแล้วไง ผมแคทจอยมองหน้ากันเหมือนสวรรค์มันล่มลงตรงหน้า ผมที่แข็งๆ มาตลอดนี่หดทันที แบบนี้แห้วแน่ๆ แคทแอบกระซิบบอกให้ผมไปส่งแป้งก่อนแล้วอ้างแนนว่ากลัวแป้งง่วงแล้วค่อยไปส่ง เธอกับจอย ซึ่งจริงๆ ก็คือไปเข้าโรงแรมกับพวกเธอสองคน แต่ผมกลัวแนนจะรู้ทันจริงๆ ลูกไม้ตื้นๆ แค่นี้ มีหวังแนนโทรเช็คผมตลอดทางจนไม่มีโอกาสได้แซนวิสแน่ๆ
“อืมงั้นไปส่งแป้งก่อนก็ได้แล้วค่อยไปส่งแคทกับจอย”
“ไม่เป็นไรค่ะไปส่งพี่ก่อนก็ได้” แป้ง
แคทกับจอยทำคิ้วขมวดกับคำตอบของแป้ง
“ไม่เป็นไรส่งแป้งก่อนแหละไปกันเถอะ”
แป้ง ดูทำหน้าเสียดายแบบแปลกๆ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ขับรถไปได้แค่นิดเดี๋ยวแป้งก็หลับ แคทกับจอยรีบแย่งกันบอกผมให้หาโรงแรมเข้ากันก่อน
“เฮ้ยไม่ดีมั้งเดี๋ยวแป้งตื่นมาเห็นหละ”
“ก็ปล่อยให้แป้งนอนในรถซิเราก็เข้าไปในห้องกัน” แคท
“บ้าแล้ว เกิดมีคนมาอุ้มแป้งไปทำอะไร พี่ซวยเลยนะนั่น”
“งั้นก็อุ้มไปในห้องด้วย หลับแบบนี้คงไม่ตื่นง่ายๆ มั้งค่ะ เด็กไม่เคยกินเหล้าด้วยนี่” จอย
“แล้วถ้าเกิดตื่นหละเสียผู้ใหญ่กันสามคนเลยนะ”
“แหมมานี่ทดสอบดูว่าตื่นง่ายไหม” แคท
แคทก้มลงไปเอาลิ้นแหย่หูแป้ง แป้งแค่บิดตัวไปมาเล็กน้อยแต่ไม่ยอมตื่น
“แบบนี้ต่อให้โดนข่มขืนก็ไม่ตื่นแน่ๆ ขนาดหนูว่าตื่นยากๆ เจอเลียหูแบบนี้ก็สะดุ้งตื่นแล้ว” แคท
“แต่มันไม่ดีมั้ง ที่จริงพี่ก็บอกเราสองคนแล้วนี่ว่าไม่มีอีกครั้ง จำไม่ได้หรอ”
“พี่บี” แคทกับจอยพูดพร้อมๆ กัน
แค ทกับจอยกระซิบอะไรกันไม่รู้แล้วอยู่ทั้งคู่ก็ช่วยกันแก้กางเกงผมแล้วจับน้อง ชายผมออกมา จอยที่นั่งเบาะหน้าก้มลงไปดูน้องชายผมอย่างเมามันส์ แคทเองก็มานัวเนียที่หน้าผม ทำเอาผมไม่มีสมาธิที่จะขับรถได้
“ยอมแล้วๆ พอก่อน เข้าก็เข้า แต่นี่ครั้งสุดท้ายจริงๆ นะ ห้ามมาขอแบบนี้อีกนะ”
“ค่ะ” จอยกับแคทตอบพร้อมกัน
“อ้อแล้วครั้งนี้พี่ขอใส่ถงนะ” ผมไม่อยากปล่อยใส่พวกเธอแล้วเดียวพลาด
“แหมไม่พลาดหรอกค่ะ หนูไม่ชอบค่ะ พี่บีปล่อยนอกแล้วกันนะ พลาดป่องขึ้นมาหนูให้แฟนหนูรับผิดชอบเอง” แคท
“บ้าเปล่าเนี่ยแก”
“จอยก็ไม่ชอบค่ะ วันนี้จะหน้าจะหลังจอยยอมหมดแต่ว่าขอสดนะค่ะ พี่จะปล่อยใส่หน้า ใส่นม ใส่ก้น เลือกเอาเลย” จอย
“นี่แก ร่านเกินไปแล้วนะ พี่บีหนูขอหน้าหลังด้วยนะ” แคท
“มาว่าฉันร่านแกก็อยากโดนสองรูเหมือนกันแหละ” จอย
ผม ฟังสองสาวทะเลาะกันเรื่องนี้แล้วยิ่งแข็งจริงๆ นี่คงจะกินกันจนเมาไม่ได้สติแน่ๆ ถึงได้กล้าพูดกันขนาดนี้ ผมขับรถเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมแห่งนึงซึ่งค่อนข้างเกรดดีหน่อย เพราะวันนี้พาสาวมา 3 คนกลับเข้าโรงแรมม่านรูดทั่วไปเดี๋ยวเขาจะไม่ให้เข้า
ผมจอดรถเสร็จก็รีบออกมาให้ทิปเด็กรับรถและไล่มันไป มันจะได้ไม่ทันสังเกตุว่าผมพาสาวมา 3 คน พอเด็กรูดม่านปิดจอยกับแคทก็ลงจากรถ
“พี่บีอุ้มแป้งเองนะแคทอุ้มไม่ไหว” แคท
“เออภาระกูอีกนะ”
ผม เปิดประตูรถแล้วอุ้มแป้งออกมา ตัวเธอนิ่มและหอมมาก มีกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากริมฝีปากสีชมพูของเธอ ผมบอกตรงๆ ว่านี่ถ้าไม่มีแคทกับจอยมาคืนนี้แป้งโดนผมแน่ ผมอุ้มเธอมาที่หน้าห้องกลิ่นหอมของแก้มเธอมันกวนใจผมจนทนไม่ไหว ผมก้มลงไปสูดกลิ่นมันเบาๆ จนจมูกชนกับแก้มแป้ง พอได้สูดกลิ่มสมใจอยากน้องชายผมมันก็แข็งปั้งขึ้นมา ผมเลยต้องรีบอุ้มเธอเข้าไปในห้องก่อนจะคิดอะไรไม่ดีเกินไปกว่านี้
“พี่บีให้แป้งนอนที่โซฟาดีไหม แล้วเรามาทำกันบนเตียง” แคทพูดเหมือนการมีอะไรกันมันเป็นเรื่องปรกติ “สงสารน้องเค้า ให้แป้งนอนบนเตียงแล้วเรามาบนโซฟากันดีกว่า”
“ได้ตื่นเต้นดีอะไรที่มันลำบากๆ เนี่ย” แคท
ผมวางแป้งลงบนเตียงแล้วห่มผ้าห่มให้ แคทกับจอยรีบเข้ามารุมจูบผม
“เดี๋ยวๆ คนเก็บเงินยังไม่มาเลย”
“งั้นจอยกับแคทไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ” จอย
ทั้ง คู่ถอดเสื้อผ้าออกเหมือนไม่สนใจว่าผมยืนดูอยู่ ผมยืนมองหุ่นจอยกับแคทถึงเคยได้ลิ้มลองมาแล้วแต่รสชาติมันก็ยังติดอยู่จน อยากจะชิมอีก เด็กเก็บเงินมาเคาะประตูผมเลยต้องออกไปจ่ายเงินก่อน
พอ ผมกลับมาที่โซฟาสองสาวก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำกันแล้วผมได้แต่ดูเงาพวกเธอ ที่ปรากฏอยู่บนกระจกฝ้า ตอนแรกผมนึกว่าพวกเธอจะอาบน้ำในอ่างขนาดใหญ่ด้านนอกซะอีก ผมเลยอดดูหุ่นพวกเธอเลย ผมเห็นว่าแคทกับจอยคงอาบน้ำกันอีกนาน ผมเลยออกไปที่รถหยิบเอากระเป๋าใส่เครื่องมือวิเศษมา เพราะวันนี้แคทกับจอยอยากประตูหลังด้วย ผมเลยกะเอาเจลในกระเป๋ามาทาจะได้ลื่นขึ้น
ผม หยิบกระเป๋าเสร็จสาวๆ ก็ยังอาบน้ำไม่เสร็จ ผมเลยเปิดน้ำในอ่างแล้วแก้ผ้าลงไปแช่กระจกห้องน้ำมันเป็นแบบเลื่อนได้ แคทคงเห็นเงาผมเลยเลื่อนเปิดกระจกห้องน้ำดู
“อ้าวมีอ่างน้ำด้วยหรอเนี่ย” แคท
“นี่เมาจนมองไม่เห็นอ่างอันเบอเล่อ”
แค ทก้าวข้ามบานหน้าต่างลงมาในอ่าง จอยเองก็ตามมาด้วยแต่เธอก้าวมาใกล้ผมผมเลยดึงจอยมากอด จอยหันหลังให้ผม ก้นเธอโดนเอ็นผมที่กำลังแข็งอยู่พอดี จอยร้องโอ๊ะแล้วเหลียวหลังมายิ้มหวานก่อนจะเริ่มขยับก้นไปมาถูกับเอ็นผม
“เดี๋ยวซิแก ฉันก่อนซิ” แคท
“ไม่ทันแล้วแก พี่บียัดเข้ามาแล้ว โอ้วววว” จอยซูดปากร้องคราง
ผมยัดเอ็นเข้าไปในร่องจอยแล้วอย่างที่จอยบอกแคท ผม เริ่มเสยเอ็นเข้าไปในร่องจอยจนสุดลำแล้วก็ถอนออกมา จอยเสียวจนซูดปากไม่หยุด แคทเห็นเพื่อนได้เสียวแล้วเลยเอาร่องมาคล่อมท่อนขาแล้วแล้วเริ่มเอามันถูไป มาแล้วร้องเสียวบ้าง ร่องแคทขมิบจนผมรู้สึกได้เลยทีเดียว ร่องจอยเองก็บีบรัดเอ็นผมแน่นจนผมเสียวไปทั้งลำแท่ง ผมเลยเอื่อมมือไปขย้ำหน้าอกคู่เสวยของเธอทั้งสองข้าง จอยครางเสียวแอ่นตัวช่วยขย่มร่องสวนเอ็นผมไปด้วย ผมกับจอยกระแทกใส่กันแรงขึ้นเรื่อยๆ
“พี่บีค่ะ โอ้วววว จอยเสียวจัง โอ้ยยยยยย เสียวหีไปหมดแล้ว” จอย
“แหมคับหีเลยซิแก ผัวแกไม่ใหญ่เท่านี้ซิ” แคท
“โอ้วววว ไม่ใช่แค่คับหีนะแก ยาวจนชดมดลูกจนเจ็บไปหมดแล้ว โอ้ยยยย” จอย
“เจ็บก็หยุดไหมฉันขอโดนกระแทกจนถึงมดลูกบ้าง” แคท
“บ้าหรอ เจ็บแล้วฉันจะครางทำไมหละ โอ้ววววว” จอย
“หีจอยนี่ยังแน่นอยู่เลยนะ เย็ดมันดีจัง” ผมตามน้ำพูดหยาบๆ ตามแคทกับจอยเพื่อกระตุ้นอารมณ์พวกเธอให้เพิ่มขึ้นอีก
“ไม่แน่นได้ไงพี่บี ผัวมันเล็กจะตาย ยัดไปได้ถึงครึ่งหีมันหรือเปล่าไม่รู้” แคทหัวเราะ
“โอ้ววว บ้าแคทพูดอะไร โอ้ววววว พี่บีมดลูกอีกแล้ว จอยเสียวว” จอย
“เสียวหรอจ๊ะ งั้นพี่ยัดไม่สุดนะจะได้ไม่โดน”
“ไม่เอาค่ะ โอ้ววว ยัดมาให้ถึงโคนเลย โอ้วววววว นั่นแหละ โอ้ยยยยยย” จอย
ผม เสยควยจนชนมดลูกจอยติดต่อกัน จอยหยุดคุยได้แต่แหง่นหน้าร้องคราง แคทมองผมตาเยิ้มเหมือนจะบอกว่าถึงตาเธอต้องเอาให้ได้แบบนี้เหมือนกัน
“เป็นไงแกโดนมดลูกจนอ้าปากค้างเลยหรอ มาฉันช่วยให้มันลึกขึ้น” แคท
แค ทเข้ามาจับเอวจอยแล้วช่วยดันเวลาจอยกดเอวลงใส่ควยผม มันทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าหัวบานผมชนมดลูกจอยดังกึกๆ จอยเสียวจนสะบัดหัวไปมา เร่งขย่มควยผมเร็วขึ้น ผมเองก็เสยควยใส่หีเธอเร็วขึ้นเหมือนกันจนในที่สุดจอยก็ร้อง โอ้วววววววววว แอ่นตัวกระตุกหลายครั้ง
“อ้าวเป็นไงสวรรค์รำไรเลยซิแก” แคท
จอยไม่ได้ตอบอะไร พอตัวจอยหยุดกระตุกผมก็รีบจับเธอหันหน้ากลับมาจูบ จอยจูบปากตอบผมอย่างดูดดื่ม แต่ก็ได้ไม่นานแคทก็มาดึงตัวจอยออก
“แกเสร็จแล้วขอฉันบ้าง แล้วค่อยจูบกันที่หลัง” แคท
แค ทจับเอวจอยแล้วยกออกจากตัวผม จากนั้นเธอก็ขึ้นคล่อมผมแบบหน้าชนหน้า แคทจับควยผมจ่อหีตัวเองแล้วกดมันลงมาเต็มที่ ผมกับแคทร้อง โอ้วววว พร้อมๆ กัน
“แคทเบาๆ ซิ เดี๋ยวก็แหกหรอกของแกมันคับเหมือนกันนะ”
“ฮึ ผัวมันก็เล็กเหมือนกันแหละพี่” จอยพูดขณะกำลังเอามือถูหีเพื่อทำความสะอาด
“เออ ผัวฉันมันเล็ก ฉันถึงอยากโดนแบบเต็มอย่างนี้บ้างไง โอ้ยยยย” แคทเริ่มขย่มเอวเด้งไปมา
แค ททำเหมือนที่เคยทำ เธอขย่มเอวใส่ควยผมไม่หยุด เราทั้งคู่ครางลั่นห้อง จอยเองยังทำท่าจะเริ่มมีอารมณ์ไปด้วย ผมเห็นจอยเริ่มเอานิ้วถูหีตัวเองเล่นตามไปด้วย แคทขย่มจนผมน้ำแทบแตกออกไปหลายครั้ง แคทคงรู้เพราะเวลาใกล้แตกผมจะกลั้นน้ำกามเอาไว้จนแสดงออกทางสีหน้า
“โอ้ววววว อู้ยยยยยยยย เป็นไงค่ะ จะแตกหรือยังใครแตกก่อนแพ้นะ” แคท
ผม เห็นแคทท้าทายแบบนี้ยังไงต้องทำให้แคทแตกแบบสุดๆ ก่อนผมให้ได้ แคทเริ่มควงเอวไปมาเป็นวงกลมเร็วๆ มันเหมือนเป็นการบีบควยผมเพื่อรีบเอาน้ำกามออกจริงๆ ผมต้องทำให้แคทเสียวเพิ่มขึ้น ผมเลยก้มหน้าไปดูดหัวนมแคทที่กำลังตั้งชี้หน้าผม อีกข้างที่ว่างผมก็เอานิ้วคลึงปลายถันเล่นทำเอาแคทกอดผมแน่นร้องครางไม่หยุด ไม่นานหีแคทก็เริ่มตอดเหมือนใกล้จะแตก ผมไม่ยอมแคทแตกง่ายๆ ผมรีบจับแคทกลับด้านกันเป็นผมเป็นฝ่ายขึ้นคล่อมบ้าง จากนั้นก็ดันหลังแคทไปติดกับขอบอ่าง แคทไม่พูดอะไรเพราะคงเสียวจนใกล้เสร็จแล้ว
ผมเริ่มซอยควยเข้าไปจนกระแทกมดลูกแคทเต็มๆ แค ทอ้าปากค้างแหง่นหน้า ผมเร่งซอยควยใส่หีแคทไม่ยั้ง แคทเองก็พยายามถ่างขอออกเพื่อลดความเสียว แต่มันกลายเป็นทำให้ผมเย็ดได้ลึกมากขึ้นแทน ผมเร่งเย็ดจนในที่สุดแคทก็ร้องกรี๊ดหีบีบรัดควยผมแน่น แต่ผมไม่ยอมหยุดยังคงตั้งหน้าตั้งตาเย็ดแคทต่อ แคทเสียวจนต้องร้องขอให้ผมหยุดเย็ดเธอ
“พี่บีพอแล้วแคทยอมแล้วโอ้วววววว หีแคท โอ้ววววพี่บีพอค่ะ” แคท
ผม ไม่หยุดยังคงซอยต่อไปเรื่อยๆ จนหีแคทเริ่มตอดควยผมอีกครั้ง ผมก็เร่งกระเด้าสุดตัวจนน้ำในอ่างกระเด็น แคทร้องลั่นก่อนจะถึงอีกรอบ พอแคทถึงอีกรอบผมก็หยุดกระแทกเอวแต่ยังคงเอาควยควานไปมาในหีเธอ
“พอแล้วค่ะ แคทยอมแล้วค่ะพี่ อืมมมมมม” แคท
แคทยื่นหน้ามาจูบผม จอยเห็นแคทเสร็จก็เข้ามาแยกผมกับแคทบ้าง
“ไหนว่าไม่ต้องจูบจะเย็ดอย่างเดียวไงตาฉันบ้างซิ” จอย
ขณะที่จอยกับแคทแย่งเอ็นผมกันอยู่นั้นผมก็เหลือบไปเห็นแป้งนั่งผมพวกผมตาแป้วอยู่บนเตียง
“เฮ้ยๆ พอแล้ว แป้งตื่นแล้ว”
“อ้าว ทำไงดีหละเนี่ย แคทแกอะร้องซะดังโดยเย็ดแค่นี้ทำเอาแป้งตื่นเลย” จอย
“แกลองบ้างไหมท่านี้ ฉันแตกแล้วพี่บียังเย็ดต่ออะ เป็นแกก็คงร้องแบบฉันแหละ” แคท
“ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ไปแต่งตัวดีกว่า วันนี้คงได้แค่นี้แหละ”
“เสียดายจัง ยังไม่โดนประตูหลังเลย” จอย
“พรุ่งนี้พี่บีพาหนูมาต่อให้จบตามสัญญานะ” แคท
“แกมาฉันก็ต้องมาด้วยซิ ฉันก็ยังไม่ครบเลย” จอย
“พอเหอะ ยังจะพูดกันอีก ไปน้องตกใจแย่แล้ว”
แคทกับจอยข้ามกลับไปในห้องน้ำแล้วนุ่งผ้าขนหนูออกมา ผมไม่กล้าลุกขึ้นเพราะกลัวแป้งจะตกใจ แคทเข้าไปนั่งข้างๆ แป้ง
“เป็นอะไรนั่งเงียบเชียว อย่าตกใจนะ พี่ก็แค่สนุกกันไม่มีอะไรหรอก กลับไปก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม” แคท
“กินเบียร์หน่อยไหมจะได้หาตกใจ” จอยไปเปิดเบียร์ในตู้เย็นมากิน
แป้งรับไว้แล้วดื่มเข้าไปหลายอึกจนหน้าแดง
“นี่ไม่พูดไม่จา คงอยากรู้ใช่ไหมว่าที่พวกพี่ทำกันมันเป็นยังไง” แคท
แป้งไม่ตอบแค่พยักหน้าช้าๆ แคทหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มเหมือนหาทางปิดปากแป้งได้สำเร็จแล้ว
“งั้นกินให้หมดแก้วจะได้กล้าๆ แล้วก็ช่วยให้ไม่เจ็บด้วย ครั้งแรกใช่ไหม” จอย
แป้งพยักหน้าแล้วรีบกินเบียร์จนหมดแก้ว
“จอยรินมาอีกแค่นี้ยังไม่ชาเท่าไหร แล้วยิ่งเจอครั้งแรกก็เป็นพี่บีของเราด้วย สงสัยจะฉีก” แคท
จอยรินเบียร์ให้แป้งอีกแล้ว แป้งรีบดื่มเข้าไปจนหน้าแดง
“จอยในตู้เย็นมีเบียร์อีกหลายขวดไหม” แคท
“หลายขวดแก” จอย
“งั้นแกเอาออกมาเลยเราไปกินเบียร์รอพี่บีให้ห้องน้ำเถอะ” แคท
“อ้าวทำไมหละ” จอย
“แกจะดูพี่บีเปิดซิงแป้งหรอไง แกไม่อิจฉาหรอ” แคท
“เออๆ ใช่ให้เค้าอยู่กันสองคนดีกว่าครั้งแรกด้วยนี่นะ” จอย
“พี่บีอย่ารุนแรงแบบทำกับหนูหละเดี๋ยวพรุ่งนี้น้องเค้าเดินไม่ได้ความจะแตกเอานะ” แคท
“เออ รู้น่าว่าต้องทำยังไง” ผมรับแผนแคทอย่างเต็มใจเพราะผมเองอยากเย็ดแป้งตั้งแต่ตอนได้หอมแก้มเธอแล้ว
แค ทกับจอยหอบเบียร์เข้าไปในห้องน้ำ แต่ผมก็รู้ว่าเดี๋ยวสองคนนี้ต้องแง้มกระจกมาแอบดูแน่ๆ ทำเป็นพูดดี ผมเอาผ้าเช็ดตัวที่จอยเอามาให้นุ่งเพื่อไม่แป้งตกใจจนเกินไป ผมมานั่งข้างๆ แป้ง
“แอบดูนานหรือยังเนี่ย”
“นานแล้วค่ะ” แป้งตอบอายๆ
“อยากให้พี่ทำให้จริงๆ หรอ”
แป้งพยักหน้า
“พี่เองอยากทำกับแป้งนะ แก้มแป้งหอมมากรู้ไหม”
“ค่ะ” แป้งตอบอายๆ
“ตกลงแกล้งหลับใช่ไหมเนี่ย งั้นตอนพี่หอมก็รู้ตัวซิ”
แป้งพยักหน้าอีก
“แต่ว่าพี่รู้นะว่าวันนั้นแป้งทำอะไรกับแนนใช่ไหม” ผมเดาเอา แต่คิดว่าไม่น่ารอดแนนแน่ๆ น่ารักขนาดนี้
แป้งก้มหน้าอายหน้าแดงกว่าเดิม
“งั้นก็ต้องสัญญาอะไรกับพี่ก่อนนะ”
“อะไรค่ะ” แป้ง
“แนน คงบอกแล้วนะว่าแนนเป็นเมียพี่แล้วพี่ก็มีเมียอีกสองคน แป้งคงรู้แล้วว่าเป็นใคร เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าให้พี่ทำแล้วจะหลงรักพี่อยากให้พี่รักเหมือนเมียๆ พี่ พี่คงทำให้ไม่ได้นะ จะว่าพี่เลวก็ได้ แต่ว่าอย่างพี่จอยพี่แคทเค้าก็มีแฟนแล้ว เราก็แค่สนุกกัน”
แป้ง ดูอึ้งๆ ไปคงทำใจลำบาก ผมเองก็อยากเย็ดแป้งมากแต่ก็กลัวว่ามันจะกลายเป็นตราบาปกับแป้งซะมากกว่า ผู้ชายคนแรกเป็นผู้ชายที่รักเธอไม่ได้มันคงเป็นเรื่องที่เธอไม่มีวันลืมแน่ๆ
“ไม่ เป็นไรนะ ไม่อยากก็ไม่เป็นไร แต่พี่ขอเวลาอีก 30 นาทีแล้วกันนะ พี่จะเข้าไปทำที่สัญญากับพี่จอยพี่แคทในห้องน้ำให้เสร็จแล้วเราจะกลับบ้าน กัน”
ผมลุกขึ้นแต่แป้งจับมือผมไว้
“พี่บีมาทำกันบนเตียงได้ไหมค่ะ” แป้ง
“ทำไมหละอยากเห็นหรอ”
แป้งพยักหน้า
“ก็ได้แต่ไม่รู้พี่ๆ เราเค้าจะอายหรือเปล่านะ”
ผมเข้าไปในห้องน้ำเห็นแคทกับจอยกินเบียร์กันไปแล้วสองขวด
“เฮ้ยๆ นี่กินเบียร์ประชดผัวกันหรือไงแป๊บเดียวกินไปสองขวดแล้ว”
“ใช่พี่บี ผัวหนูกำลังจะได้เด็กใหม่อีกหน่อยคงเบื่อสาวแก่แบบพวกหนูแล้ว” แคท
“เอ้าไอ้นี่ไหนว่าไม่คิดมากไง”
“แคทมันล้อเล่นหนะพี่แต่มันก็น่าน้อยใจนะ อีกหน่อยพวกหนูคงแก่สำหรับพี่แล้ว เด็กรุ่นใหม่คงมาแทน” จอย
“เป็นไปอีกคน นี่ถ้าทำใจไม่ได้แบบนี้งั้นกลับบ้านกันดีกว่านึกว่าจะมาช่วยทำประตูหลังให้ตามสัญญาซะหน่อย”
“เอ้าพี่แล้วแป้งหละทำไปแล้วหรอ น้องเค้าเจ็บหรอถึงได้เร็วแบบนี้ หรือว่าเจอของซิงแล้วน้ำแตกเร็วกว่าเจอของหลวมแบบหนู” แคท
“แคทแกเมามากแล้วพี่ไม่ทำให้แล้วดีกว่ากลับกันดีกว่านะ”
“ทำซิพี่หนูยังไหวนะ แคทมันเมาแล้วช่างมันเถอะ” จอย
“ก็เมาทั้งคู่นั้นแหละหมดสภาพเลยดูซิ”
“ไม่เมาพี่มาหนูปลุกให้ก่อนนะ” แคท
แค ทดึงผ้าขนหนูผมออกแล้วจับควยผมอมเข้าไปในปาก จอยเห็นแบบนั้นก็มาแย่งแคทอมด้วย ผมเสียวสะท้านไปทั้งตัวเพราะจอยกับแคทดูดกันแบบไม่ยังเลยคงเพราะเมาแล้วเลย คุมแรงไม่ได้ ผมยืนเสียวอยู่ก็หันไปเห็นแป้งมาแอบยืนดูอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ
“เดี๋ยวๆ ถ้าจะให้ทำให้ต้องไปทำบนเตียงนะ”
“อ้าวทำไมหละพี่ ไม่กลัวแป้งเค้าตกใจหรอ” จอย
“แป้งเค้าอยากเห็น เค้าอยากรู้ว่าเค้าทำกันยังไง”
“ได้ซิพี่เดี๋ยวหนูทำตัวอย่างให้แป้งดูเอง เวลามีผัวจะได้ทำเป็น” แคท
“แต่ก่อนอื่นพี่คงต้องทำให้เราสองคนมีสติกว่านี้ดีกว่านะ”
ผมเปิดฝักบัวปรับน้ำให้เย็นที่สุดแล้วฉีดแคทกับจอย ทั้งคู่ร้องกรี๊ดกันใหญ่ก่อนจะค่อยๆ สร่างเมาขึ้นมาบ้าง ผมก็พาพวกเธอไปที่เตียง
“ฉันก่อนบ้างเมื่อกี่แกก่อนแล้ว” แคท
“อะไรแกก็ได้สองครั้งติดซิ” จอย
“ก็แกจะได้จูบกันฟัดกันได้เต็มที่ไงไม่ต้องกลัวฉันจะไปแยกอีก” แคท
“งั้นก็ได้” จอย
จอยเดินไปนั่งที่โซฟาข้างแป้งที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
จบตอนดีกว่าครับ ไม่งั้นยาวแน่ๆ อ่านต่อกันตอนหน้าแล้วกันนะครับ อิอิ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้กำลังใจและติดตามตลอด