จิตสัมผัส ตอนที่ 6

จิตสัมผัส ตอนที่ 6

จิตสัมผัส ตอนที่ 6 น้องใหม่ดาวคณะ
Omega19

น้องอีฟสุดเซ็ก

เมื่อพี่ปุ้มออกจากห้องผมไปแล้ว ผมล้มตัวนอนบนเตียงครู่หนึ่ง คิดถึงบทรักที่พึ่งผ่านไปเมื่อตะกี้ มันช่างเหมือนกับขึ้นสวรรค์จริงๆ ภาพความขาวความสวยของพี่ปุ้มที่เปลือยเปล่าตรงหน้า โดนท่อนเอ็นผมกระทุ้งจนร่องสาวปลิ้นเข้าปลิ้นออก ร่องฟิตๆที่ผ่านการใช้งานแค่ครั้งเดียว ช่างสุดยอดจริงๆ แต่แล้วผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้น้องอีฟสาวข้างห้องจะเป็นยังไงบ้างนะ ผมเลยเพ่งสมาธิไปที่ห้องน้องอีฟ

เอะ น้องอีฟกำลังทำอะไรอยู่เหรอ เธอเอาหูแนบชิดกำแพงห้องที่ติดกับห้องของผมเหมือนกำลังจะ
แอบฟังอะไรอยู่ หรือว่าน้องอีฟแอบได้ยินบทร่วมรักของผมกับพี่ปุ้ม แหมก็เราเล่นร้องครางลั่นห้องซะขนาดนั้น มีหวังเสียงดังไปทั้งชั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้

ผมรู้จักน้องอีฟเป็นอย่างดี รู้จักคุ้นเคยกันมาตั้งแต่น้องอีฟย้ายเข้ามาอยู่ข้างห้องผมใหม่ๆ น้องอีฟเรียนปี 3 ที่คณะวิทยาศาสตร์ เกือบจะได้เป็นดาวคณะอยู่แล้ว แต่พลาดได้แค่ที่ 2 ส่วนที่ 1 คือน้องผึ้งพี่สาวน้องผิง น้องอีฟเป็นคนที่เรียบร้อยมาก ออกจะเป็นคนเงียบๆ แต่ก็เข้าได้กับทุกคน

ตัวของน้องอีฟยังคงเปลือยเปล่าอยู่เช่นเดิม แต่ไวเบรเตอร์อันเขืองยังคงชักเข้าชักออกอยู่ไม่ยอมหยุด ผมจึงใช้ญาณสัมผัสเข้าไปในจิตของน้องอีฟ รู้ว่าเธอแอบได้ยินเสียงของผมกับพี่ปุ้มร่วมรักกันจริงๆ และน้องอีฟก็ถึงจุดสุดยอดไปแล้วถึง 3 ครั้ง นี่พึ่งเริ่มเป็นครั้งที่ 4 โหน้องอีฟอะไรจะเซ็กจัดขนาดนั้น ผมคิด

ผมเห็นเธอช่วยตัวเองแบบนี้ น้องหนูถึงแม้ว่าจะฉีดน้ำออกไปแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันพร้อมรบอีกแล้ว ในเมื่อน้องอีฟก็มีความต้องการมากถึงเพียงนี้ ผมก็ยิ่งเป็นคนที่ขี้สงสารคนชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่ด้วย(ถุย) แต่ผมต้องหยั่งเชิงดูก่อนว่าเธอจะเอาด้วยหรือเปล่าถ้าได้คนจริงๆเข้าไปช่วยเธอ ผมเลยส่งญาณสัมผัสไปทำเหมือนกับเป็นพลายกระซิบ เข้าไปในความคิดของเธอ

“อยากได้ใครซักคนมาช่วยไหมหนอ ถ้ามีคนเข้ามาช่วยจะว่ายังไง” ผมแกล้งพูดขึ้นมาลอยๆขึ้นในความคิดของน้องอีฟ
“ซี๊สสส อยากมากกก อู้ยย ใครก็ได้เข้ามาช่วยอีฟที อีฟเงี่ยนไปหมดแล้ว” เสียงน้องอีฟตอบขึ้นมาทันควัน ผมไม่นึกเลยว่าสาวน้อยที่แสนจะเรียบร้อยมาก สมกับที่เป็นกุลสตรีที่ใครๆต่างก็ยกย่องเธอ จะมีความต้องการทางเพศอย่างล้นพ้นแบบนี้

เมื่อเป็นแบบนี้มีหรือที่ผมจะไม่สนองความต้องการของเธอ ผมเดินไปยังหน้าห้องของน้องอีฟและเคาะห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก “น้องอีฟครับอยู่มั๊ยครับ นี่พี่พลเอง” น้องอีฟตกใจมากที่จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ลนลานรีบชักไวเบรเตอร์ออกจากร่องสาวของเธอและทิ้งไว้บนเตียงแล้วเอาผ้าห่มคลุมเอาไว้ แล้วรีบเอาผ้าขนหนูพันกายเอาไว้

“มะ มีอะไรค่ะพี่พล” น้องอีฟแง้มเปิดประตูนิดหนึ่งแล้วยื่นหน้าออกมา
“คือน้ำดื่มของพี่หมดนะครับ เลยมาขอยืมน้ำของน้องอีฟซักถังหนึ่งครับ ตอนเย็นๆเดี๋ยวที่จะซื้อคืนให้” ผมพยายามหาข้ออ้างที่จะเข้าไปในห้องของเธอ เลยใช้มุขยืมของหนักๆเพราะถ้ายืมของเบาๆน้องอีฟจะเป็นคนหยิบออกมาให้แน่ และผมก็นึกขึ้นได้ว่าวันก่อนน้องอีฟขอร้องให้ผมช่วยยกถังน้ำขนาด 20 ลิตรเข้าห้องเธอถึง 3 ถัง ผมเลยใช้มุขขอยืมน้ำดื่มนั่นเอง

“ค่ะๆ แต่พี่พลเข้ามายกออกไปเองนะคะ” เข้าแผน ความจริงตอนแรกผมแอบได้ยินน้องอีฟคิดในใจว่าตอนเย็นค่อยให้ผมมาเอา เพราะเธอยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยโดยนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอยู่ ผมเลยแอบส่งญาณสัมผัสไปที่ความคิดของเธอนะครับแบบว่าเป็นพลายกระซิบนะครับ เพราะอย่าลืมว่าผมสะกดจิตไม่ได้ บอกว่าพี่พลอุตสาห์ช่วยเธอตั้งหลายอย่าง เรื่องน้ำดื่มแค่นี้เรื่องเล็กน้อยควรช่วย และให้เข้ามาตอนนี้เลยจะได้รีบยกรีบออกไป แล้วจะได้ทำกิจกรรมที่ค้างไว้ต่อ

น้องอีฟจึงเปิดประตูให้ผมเข้าไปแต่โดยดี ร่างที่เกือบเปลือยเปล่าก็อยู่ตรงหน้าผม
“เออ น้องอีฟกำลังอาบน้ำอยู่เหรอครับ ขอโทษทีครับที่รบกวน” ผมแกล้งถามไปอย่างงั้นเพราะผมก็รู้ดีว่าน้องอีฟกำลังทำอะไรอยู่
“ค่ะๆ อีฟอาบเสร็จพอดี” เธอพยายามดึงชายผ้าขนหนูลงปิดที่โคนขาอ่อนเพราะมันหมิ่นเหม่จนเกือบจะเห็นร่องสาวของเธอ แต่พอดึงลงชายผ้าด้านบนที่แทบจะปิดสองเต้าจะไม่มิดอยู่แล้วก็เลื่อนลงมาอีก จนน้องอีฟต้องเอามือปิดทั้งด้านบนและด้านล่าง

“ถะ…ถังน้ำอยู่ด้านหลังค่ะพี่พล” น้องอีฟชี้ไปที่ระเบียง ผมพยายามทำตัวให้ปรกติที่สุดและคิดแผนต่อว่าจะเอายังไงต่อไป (ชิบหายลืมคิดก่อนว่าถ้าเข้ามาแล้วจะทำยังไงต่อ) เลยเดินไปแบกถังน้ำที่ระเบียง

ผมกลิ้งถังน้ำออกมาจากด้านหลัง กลิ้งมาเรื่อยๆจนถึงเตียงนอนก็เหลือบไปเห็นบางอย่างโผล่ออกมาอยู่ตรงผ้าห่ม มันเป็นส่วนโคนของไวเบรเตอร์นั่นเอง เพราะน้องอีฟรีบร้อนเลยคลุมไม่มิด ได้เรื่องละผมคิดแผนออกแล้ว ผมเลยแกล้งสะดุดโต๊ะล้มตัวปลิวไปนอนบนเตียงเลย

“ต๊ายแล้วพี่พล เป็นอะไรมั้ยค่ะ” ดูน้องอีฟก็ตกใจเหมือนกันที่ผมสะดุดรีบเข้ามาประคองผม
“อู้ยย เจ็บๆ พี่ไม่ทันดูโต๊ะเลยสะดุด ตะกี้พี่ไม่รู้ไปทับอะไรของน้องอีฟบนเตียงหักหรือเปล่าล่ะเนี้ย” ผมเลยรีบเปิดผ้าห่มออก
“อย่าพี่พล อย่าเปิด” น้องอีฟกะจะห้ามแล้วแต่ไม่ทันจริงๆ ผมเปิดพรวดเดียว แท่งไวเบรเตอร์หุ้มถุงยางก็โผล่ออกมา
“เออ…พี่พล…คือว่าอีฟ…มันไม่ใช่อย่างที่พี่พลคิดนะ…เออ…อีฟอธิบายได้…คือ…” น้องอีฟหน้าแดงก่ำไม่รู้จะอธิบายยังไง ที่จู่ๆผมก็ได้เห็นความลับของเธอเข้า
“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องอีฟ พี่เข้าใจ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” ผมหยิบไวเบรเตอร์อันเขืองขึ้นมาดู ขนาดก็พอๆกับของผมจริงด้วย ผมใช้นิ้วแตะๆไปที่ไวเบรเตอร์หุ้มถุงยางนั่น มันเคลือบไปด้วยเมือกเหนียวๆที่เกิดจากน้ำรักของน้องอีฟและสารหล่อลื่นของถุงยาง ผมยื่นมาที่จมูกเอามาดมนิดหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปหาน้องอีฟ ทำเอาน้องอีฟยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก
“พี่พลคะ คือ…พี่พลอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะค่ะ อีฟอาย” น้องอีฟก้มหน้าก้มตา สองแก้มแดงฉาน อับอายที่มีผมเห็นความลับของเธอ
“ได้ครับ พี่ไม่บอกใครแน่นอน พี่สัญญา” ผมพยายามทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ใจดี เพราะถึงแม้ว่าน้องอีฟจะมีความต้องการเพียงใด แต่ที่เธอยังเหนียงอายแบบนี้อยู่ ถ้าขืนผมเร่งรีบไป จากที่ความต้องการจะกลายเป็นความกลัวได้
ผมจึงยื่นไวเบรเตอร์คืนให้น้องอีฟ และกลิ้งถังน้ำไปจนถึงประตูห้องน้องอีฟ แต่ผมก็ไม่วายส่งญาณสัมผัสไปหาน้องอีฟเพื่อรบกวนจิตใจของเธออีกครั้ง

“ให้พี่พลช่วยสิ ให้ช่วยสิ พี่พลช่วยเราได้แน่ๆ” ผมส่งญาณสัมผัสไป ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือช้าๆเพื่อจะเปิดลูกบิดประตู คอยลุ้นว่าถ้าหากน้องอีฟเอ่ยชวนก็สำเร็จ แต่ถ้าน้องอีฟมีความเหนียงอายมากกว่าผมก็จะไม่ฝืนใจน้องอีฟอีก
“พี่พลคะ” น้องอีฟรวบรวมความกล้า แล้วเรียกชื่อผม
“ครับ” ผมรีบหันมาหาน้องอีฟทันที
“คือ…ตะกี้นี้อีฟ…อีฟได้ยินเสียงมาจากห้องพี่พล…คือพี่พลอยู่กับแฟนเหรอคะ” น้องอีฟถึงแม้ว่าจะมีความต้องการเพียงใด แต่ก็ยังอายเกินกว่าจะเอ่ยชวนผู้ชายให้มาช่วยเธอปลดเปรื่องความใคร่นี้
“อ๋อ เปล่าครับ นั่นพี่ปุ้ม เป็นรุ่นพี่ที่ทำงานครับ เค้ามาเยี่ยมพี่ที่ห้อง” ผมตอบ
“รุ่นพี่อะไร มาเยี่ยมกันซะพากันร้องครางดังลั่นขนาดนั้น” น้องอีฟคิดแต่ผมก็ได้ยินด้วยญาณสัมผัส

น้องอีฟนิ่งเงียบไป ผมรู้ครับว่าน้องอีฟอยากให้ผมช่วยเธอมาก แต่ไม่กล้าเนื่องจากความกระดากปากที่จะเป็นคนเอ่ยชวนผู้ชายข้างห้องให้มาร่วมรัก

“น้องอีฟมีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมแกล้งถามเพื่อหาเรื่องอยู่ในห้องนี้ต่อ
“ปะ เปล่าค่ะ คืออีฟแปลกใจที่ตะกี้…อีฟได้ยินเสียงแปลกๆมาจากห้องพี่พล” น้องอีฟเริ่มรวบรวมความกล้าแต่ก็พูดแบบอ้อมค้อม
“เสียงแปลกๆจากห้องของพี่เหรอ อื้มม แล้วน้องอีฟอยากรู้มั้ยว่าเป็นเสียงอะไร” คำถามผมทำเอาน้องอีฟหน้าแดง เธอก็รู้ว่าคือเสียงสวรรค์นั่นเอง เธอมองหน้าผมส่งสายตาหวานเยิ้มให้พร้อมกับพยักหน้า เท่านั้นแหละผมก็เดินตรงมาหาน้องอีฟประกบจูบเธอ ตอนแรกเหมือนน้องอีฟจะตกใจนิดหน่อยแต่พออารมณ์เงี่ยนที่ค้างคาเมื่อตะกี้ถูกกระตุ้นอีกครั้ง เธอจึงตอบสนองรสจูบอย่างเร้าร้อน จนผมรู้สึกว่าน้องอีฟจะมีไฟรักที่ร้อนแรงเสียเหลือเกิน เหมือนกับว่าความเก็บกดถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว

ผมรีบกระตุกผ้าขนหนูของเธอออกไปกองอยู่ที่พื้นห้อง แล้วพาร่างอันบอบบางของเธอมานั่งบนเตียง ผมรีบถอดเสื้อยืดของผมอย่างลนลาน โดนที่น้องอีฟก็ช่วยผมถอดกางเกงและกางเกงในออกด้วย ท่อนเอ็นที่แข็งเต็มที่ดีดผึงออกมาโผล่ตรงหน้าของน้องอีฟ น้องอีฟไม่รอช้าอ้าอมมันอย่างไม่รังเกียจ เธอทั้งดูดทั้งเลียมันด้วยความหื่นกระหาย หัวผงกรูดลำเนื้อเข้าออกโพรงปากของเธออย่างรวดเร็วจนผมต้องสูดปากด้วยความเสียว

จนน้องชายผมเริ่มแข็งตัวเต็มที่คับปากของน้องอีฟ น้องอีฟจึงถอนปากออกแล้วค่อยๆล้มตัวนอนลงบนเตียงโดยที่มือของน้องอีฟก็ฉุดตัวผมให้นอนทับร่างของเธอ ร่องสาวที่เปียกชุ่มอยู่แล้วทำให้ผมไม่ต้องกระตุ้นอารมณ์ของเธออีก ผมจึงจับท่อนเนื้อของผมจ่อๆไปที่ปากร่องสาว ผมจึงค่อยๆออกแรงกดท่อนเอ็นของเข้าไป เนื่องจากมันชุ่มไปด้วยน้ำลายของน้องอีฟ และร่องสาวของเธอก็ชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่น ผมจึงกดเข้าไปทีเดียวสุดลำ

“อ๊าาาาซี๊สสสสส” เสียงน้องอีฟครางออกมา ถึงร่องสาวของน้องอีฟไม่ฟิตเท่าของพี่ปุ้ม แต่ลีลาของเธอจัดว่าเป็นสาวร่านไวไฟคนหนึ่งที่เดียว ซึ่งผมดูขัดกับภาพลักษณ์สาวเรียบร้อยเป็นกุลสตรีของน้องอีฟชนิดหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
“อ๊า ซี๊สส พี่พลลลล แรงอีกกก อีฟเสียววว ซี๊สส แรงอีกก” พลังกายสัมผัสของผมทำให้ผมมีเรียวแรงเหนือคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ผมสามารถสู้แรงของน้องอีฟได้ ตอบสนองความร้อนแรงของเธออย่างถึงอกถึงใจ

ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น้องอีฟถึงจุดสุดยอดคาท่อนเอ็นของผมไปแล้วหนึ่งครั้ง แต่ผมยังเนื่องจากผมหลั่งน้ำกามออกมาก่อนหน้านี้แล้วถึง 2 ครั้ง การร่วมรักครั้งนี้จึงอยู่ได้นานกว่าปรกติ

ผมจับน้องอีฟหันหลังเล่นท่า Doggy ทำเอาน้องอีฟอ้าปากค้างร้องเสียงหลงเพราะท่านี้ปลายท่อนเอ็นของผมมันกระทุ้งไปชนปากมดลูกของน้องอีฟเต็มๆ

“อะ อะ ๆๆๆๆ ซี๊สสสสส พี่พลลล ซี๊สสส” ผมตั้งหน้าตั้งตาใส่แรงที่มีอัดเข้าไปเต็มแรงทุกๆครั้ง ท่อนเอ็นอวบผลุบเข้าพลุบจากร่องสาวของน้องอีฟชนิดเข้าสุดออกสุด จนปากร่องปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามแรงกระแทก

ผมเองก็ใกล้จะถึงจุดสุดยอด รีบจับน้องอีฟให้นอนหงาย มือบีบสองเต้าของน้องอีฟจนแทบจะแหลกคามือ กระเด้าเอวขึ้นลงอย่างสุดแรงและน้องอีฟก็เช่นกันเธอทั้งส่ายรับ ทั้งเด้ง ทั้งสูดปาก เมื่อวาระสุดท้ายของผมใกล้มาถึง ผมกะจะชักออกแตกข้างนอก แต่น้องอีฟกลับเอาเท้าทั้งสองข้างเกี่ยวที่เอวผมเอาไว้แน่น มือก็กอดแผ่นหลังไว้ร้องคราง

“อู้ยย น้องอีฟครับ พี่จะแตกแล้ว ซี๊สสเอาเท้าออก เดี๋ยวพี่แตกใน” ผมร้องห้ามพยายามแกะเท้าของน้องอีฟที่เกี่ยวเอวออก แต่เอวยังคงกระเด้าไม่หยุด มันหยุดไม่อยู่จริงๆครับ

“ซี๊สส พี่พลลล อย่าเอาออก ซี๊สส อ๊าาา แตกมาเลย แตกในเลยพี่พล อีฟอยากได้น้ำพี่พล ซี๊สสแตกในเลย” ผมก็หน้ามืดไปหมดแล้ว เอาวะแตกในก็แตกใน ผมโหมกระเด้าอีกไม่ถึงนาทีผมจึงกดท่อนเอ็นเข้าไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉีดน้ำกามขาวข้นเข้าไปในมดลูกของน้องอีฟอย่างแรงจนน้องอีฟสูดปากด้วยความเสียว น้องอีฟจึงถึงสวรรค์พร้อมๆกับผม
เรากอดกันแน่น ครู่หนึ่งจึงหายเกร็ง ผมจึงค่อยๆถอนท่อนเอ็นออกแล้วนอนแผ่อยู่ข้างๆน้องอีฟ น้องอีฟก็คงเหนื่อยไม่แพ้กัน หลับตาปี๋นอนเหนื่อยหอบหายใจถี่ๆ ผมพักได้เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่าน้องอีฟกำลังขึ้นคร่อมบนตัวผม

“เรามาต่ออีกนะคะพี่พล” น้องอีฟยิ้มหวาน ส่งสายตายั่วยวน

นี่ผมคิดผิดหรือคิดถูกกันนะที่ไปจุดไฟสวาทของน้องอีฟ ผมโดนน้องอีฟร่วมรักตั้งแต่ตอนเย็นจนเกือบจะถึงเช้า พอน้องชายผมอ่อนแรงก็จะถูกน้องอีฟปั่นจนกลับมาแข็งทุกครั้ง ผมน้ำแตกถึง 4 ครั้งกับน้องอีฟ ไฟปรารถนาของน้องอีฟช่างรุนแรงเสียจริงๆ กลับห้องด้วยความอ่อนแรงแข้งขาอ่อนหมด แต่ก่อนกลับน้องอีฟยังให้ผมสัญญาอีกว่าวันหลังต้องมาช่วยเธออีก แต่น้องอีฟก็รับปากผมว่าถ้าวันไหนพี่ปุ้มมาน้องอีฟจะไม่รวบกวนผม

การที่ได้ร่วมรักกับน้องอีฟ ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงภาพในอดีตของน้องอีฟ รู้ถึงสาเหตุที่ทำไมเธอถึงได้มีความต้องการถึงเพียงนี้ น้องอีฟในตอนแรกเธอเป็นคนที่เรียบร้อยทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เพราะเป็นคนที่หัวอ่อนเกินไปเชื่อคนง่าย น้องอีฟจึงหลงคารมของคนๆหนึ่ง นั่นก็คือไอ้อาร์ตนั่นเอง มันเข้ามาจีบเธอ พูดจาหวานๆ มาพูดมาคุยกับน้องอีฟทุกวัน จนน้องอีฟเผลอใจเผลอกายให้ไอ้อาร์ต และนี่คือจุดเริ่มต้นของไฟปรารถนา ไอ้อาร์ตสอนการร่วมรักให้น้องอีฟ เธอทั้งลุ่มหลงในกามรมย์ที่ไอ้อาร์ตป้อนให้กับเธอ จนเธอยากที่จะหลุดพ้นจากห่วงกามได้

แต่แล้ววันหนึ่งความชั่วของไอ้อาร์ตก็ปรากฏ มันให้พวกเพื่อนๆของมันรุมโทรมน้องอีฟและทอดทิ้งเธอไป ก่อนที่มันจะไปมันทิ้งไวเบรเตอร์อันเขืองนี้ให้กับน้องอีฟ บอกว่านี่คือของขวัญให้เธอ และนั่นเองที่ทำให้น้องอีฟต้องเปลี่ยนไป ยามที่เธออยู่ข้างนอก น้องอีฟจะทำตัวปรกติเหมือนที่เป็นมา แต่เมื่ออยู่เพียงลำพังคนเดียว น้องอีฟจะกลายเป็นคนเร้าร้อนอยากระบายความต้องการทางเพศนี้อย่างมาก จนครั้งหนึ่งน้องอีฟเองก็เผลอไปมีอะไรกับพี่โหดช่างปะยาง แต่นั่นก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะคราวนั้นเกือบจะมีคนเห็นเธอกำลังร่วมรักกับพี่โหด น้องอีฟจึงไม่กล้าไปอีกเลยและได้แต่ใช้ไวเบรเตอร์ระบายความเงี่ยนมาจนถึงปัจจุบัน

ผมรู้สึกแค้นใจไอ้อาร์ตไม่น้อยที่มันทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องมามีสภาพแบบนี้ แค้นที่มันไม่มีความรับผิดชอบ แค้นที่มันให้เพื่อนๆมันรุมโทรมน้องอีฟ ทำเอาผมอดเป็นห่วงน้องผิงไม่ได้ เพราะผมเห็นอนาคตที่ไอ้อาร์ตกับน้องผิงต้อง… ถ้ามันได้น้องผิงไปมันจะทิ้งน้องผิงหรือเปล่า ผมจะทำอย่างไรดี ผมจะขัดขวางมันไม่ให้มันทำแบบนั้นกับน้องผิง ใช่แล้วผมต้องขัดขวางมันให้ได้แม้ว่าลุงสัปเหร่อจะบอกว่าอนาคตที่ผมเห็นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ผมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้สิ่งนั้นเกิดกับน้องผิง แม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิตของผมก็ตาม

ผมกลับห้องพักนอนได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมงก็ต้องไปทำงาน แข้งขาผมอ่อนแรงไปหมดเพราะโดนน้องอีฟรีดพิษทั้งคืน คืนแรกที่เสียซิง ผมต้องรับศึกหนักถึง 2 คน พี่ปุ้มไม่เท่าไหร่ แต่น้องอีฟนี่สิทำเอาฟ้าเหลืองเลย ผมไปทำงานด้วยความอ่อนเพลียจนพี่ปุ้มต้องทัก

“พลเป็นอะไรเหรอ ดูเพลียๆนะ” พี่ปุ้มถามเพราะความเป็นห่วงจริงๆ
“สงสัยจะเหนื่อยจากเมื่อวานครับ” ผมตอบ
“พลบ้า ไม่เอาละ พี่ไปทำงานก่อนนะ” พี่ปุ้มอมยิ้มหน้าแดงอาย ก่อนจะรีบหันหลังไปทำงานต่อ

ผมกับพี่ปุ้มเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น แต่เราก็พยายามทำตัวให้เป็นปรกติที่สุด แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพี่ปุ้มถึงเปลี่ยนไปเพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วันพี่ปุ้มยังโหดอยู่ ด่ากราดไม่เลี้ยง พี่ปุ้มก็บอกว่าวันก่อนไปไหว้พระมา พระท่านก็เทศนาว่าให้ปล่อยวางเรื่องในอดีต มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมา ในเมื่อเรายึดติดในอดีตแล้วมันทำให้เราทุกข์ใจ ใยเราไม่ปล่อยวาง อดีตแก้ไขไม่ได้แล้ว เราต้องทำปัจจุบันให้ดี แล้วเราจะมีความสุขไม่ทุกข์ใจนั่นเอง นั่นแหละที่ทำให้พี่ปุ้มทำใจได้หยุดปิดกั้น ปรับปรุงตัวเองและเปิดรับให้คนอื่นเข้ามา และนั่นเองทำให้พี่ปุ้มเผลอใจไปมีอะไรกับผม

ผมไม่ได้ไปงานศพพี่สาวของน้องผิงอย่างที่ไอ้อาร์ตบอกไว้ และผมก็ไม่ได้เจอน้องผิงอีกเลยตลอดปิดเทอมนี้ แต่ในระหว่างนี้ ผมต้องเจอน้องอีฟทุกวัน เธอจะมาเคาะห้องผมตอนเย็นๆ เพื่อรีดน้ำกามจากผม จนผมเกือบเหี่ยวแห้งแทบทุกวัน ส่วนพี่ปุ้มไม่ได้มาหาผมอีกแต่เราก็คุยกันตามปรกติตอนที่อยู่ที่ร้าน ซึ่งผมอยากให้พี่ปุ้มมาหาบ้างครับจะได้ไม่ต้องหมดเรี่ยวแรงจากน้องอีฟที่ตอดมาหาผมทุกวันแบบนี้

จนกระทั่ง 1 สัปดาห์ต่อมาก็ถึงวันเปิดเทอมวันแรก ผมเข้าคณะตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้เป็นวันลงทะเบียนของนักศึกษาเก่า เงินเก็บตั้งหลายเดือนของผม ถูกใช้แทบจะหมดภายในวันนี้วันเดียว เฮ้ยยย ค่าเรียนอะไรมันจะแพงขนาดนี้วะ รู้งี้รอสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐในปีต่อไปดีกว่า หลวมตัวมาเรียนที่นี้ เงินที่จ่ายไปตลอดที่เรียนอยู่ที่นี่แทบจะซื้อรถเก๋งคันงามป้ายแดงได้เลย เดือนนี้ทั้งเดือนคงต้องพึ่งมาม่าอีกแล้วสิเรา

เมื่อลงทะเบียนเสร็จผมก็นั่งอยู่ม้าหินอ่อนใต้ต้นมะขามหน้าคณะ ดูนู่นดูนี่ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ต้องแอบมองนักศึกษาสาวๆที่นุ่งกระโปรงสั้นๆที่ใครๆต่างก็นิยมใส่กัน โชว์ขาขาวๆเดินสลับขาซ้ายขวาชวนให้นึกลอดไประหว่างขา พอมองขึ้นไปอีกนิดก็เห็นสองเต้าอวบๆเบียดรัดอยู่ในเสื้อนักศึกษาที่กระดุมแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ผมมองเพลินไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งอยู่ข้างหลังผม

“แอบมองสาวๆอยู่เหรอค่ะพี่พล” ผมตกใจหมด ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างหู เธอยื่นหน้ามาใกล้ผม ผมรีบหันไปทางเสียง แต่พอหันไปเท่านั้นแหละปากผมก็ดันไปจุ๊บแก้มเธอซะงั้น

ซึ่งหญิงสาวคนนี้ก็คือน้องผิงนั่นเอง ผมตะลึงค้าง น้องผิงก็ตกใจตัวแข็งทื่อเลยโดยที่ปากของผมยังคงติดกับแก้มของน้องผิงอยู่ครู่หนึ่ง ผมก็หายตกใจ รีบลุกขึ้นทันที

“ส..สวัสดีคะพี่พล” น้องผิงยกมือไหวผม ผมก็รีบยกมือไหว้ตอบ
“ขะ ขอโทษครับน้องผิง พี่เออ พี่ไม่ตั้งใจ” ผมรีบขอโทษขอโพยน้องผิงใหญ่เพราะกลัวว่าเธอจะโกรธผม
“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ พี่พลไม่ได้ตั้งใจ คือผิงผิดเองที่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง” น้องผิงดูเธอจะหน้าแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก้มหน้าก้มตา มือทั้งสองข้างบีบขยี้ไปที่หนังสือที่เธอถืออยู่จนแทบจะฉีกด้วยความอาย เพราะนี่คือครั้งแรกของน้องผิงที่ถูกผู้ชายหอมแก้ม เธอช่างดูไร้เดียงสาจริงๆครับ

“น้องผิงมาปฐมนิเทศที่คณะหรือครับ” ผมถามแก้เก้อเพราะผมก็รู้สึกเขินเหมือนกัน
“ค…ค่ะ คือผิงไม่รู้ว่าต้องไปที่ห้องไหน พอดีผิงเห็นพี่พลนั่งอยู่ตรงนี้ผิงเลย…เลยจะเข้ามาถามน่ะค่ะ” น้องผิงยังคงหน้าแดงก่ำด้วยความอายอยู่
“อ๋อ แล้วเค้านัดให้ไปพบที่ไหนเหรอครับ นั่นหนังสือคู่มือปฐมนิเทศใช่ไหมครับ ขอพี่ดูหน่อยสิ” แล้วน้องผิงก็ยื่นให้ผม ตอนนี้มันยับยู่ยี่ไปหมดเพราะโดนน้องผิงบีบขยำ
“อ๋อ ห้องประชุมคณะชั้น 1 ถ้าน้องผิงเข้าไปที่คณะนะครับก็เลี้ยวซ้าย ห้องจะอยู่ตรงนั้นแหละครับ” ผมยิ้มให้น้องผิงและยื่นหนังสือคืน น้องผิงก็ยิ้มตอบ
“เค้านัดตอน 8 โมงครึ่ง แต่นี่พึ่ง 8 โมงเอง งั้นผิงขอนั่งคุยกับพี่พลได้มั้ยคะ” น้องผิงส่งยิ้มหวานให้
“ค…ครับได้ครับ เชิญครับ” แล้วน้องผิงก็มานั่งม้าหินอ่อน ข้างๆผม
“แล้วตะกี้พี่พลมัวแต่มองอะไรอยู่เหรอคะ จิตใจถึงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย หรือว่ามองสาวๆอยู่นะ” น้องผิงหันหน้าไปมองตรงสาวๆที่ผมจ้องอยู่
“อ๋อ ดูสาวๆนั่นเอง พี่พลชอบสาวๆที่นุ่งรัดๆสั้นๆแบบนั้นหรือคะ” น้องผิงหันมาถามแถมยังทำหน้าจริงจังอีก
“ครับ เอ้ย เปล่าครับ พี่ก็มองอะไรเรื่อยเปื่อยแหละ แหะๆ” ผมแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน
“พี่พลลามก” น้องผิงทำหน้าบูดใส่ผม ทำเอาผมหัวเราะไม่ออกเลย
“อิอิ ผิงล้อเล่นน่า พี่พลออกจะใจดีขนาดนี้ คงไม่ใช่คนลามกใช่ปะคะ” น้องผิงกลับยิ้มหวานมาให้ผมอีกครั้ง แต่ผมสิยิ้มแห้งๆ แต่แล้วจู่ๆผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังอีก เป็นเสียงที่ทำให้ผมแทบหมดแรง
“อ้าว พี่พล สวัสดีค๊าาาา” ชิบหายเสียงน้องอีฟจอมเซ็ก ตั้งแต่ที่เธอปลดปล่อยอารมณ์เรื่องเพศออกมา ดูเธอจะเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น จากที่ดูเรียบร้อยตอนนี้เธอเปลี่ยนเป็นสาวเปรี้ยวเต็มตัวไปแล้ว น้องอีฟใส่ชุดนักศึกษากระโปรงสั้นจู๊ด ผ่ากลางอีกจนโชว์ขาขาวๆเกือบจะเห็นกางเกงในอยู่แล้ว เสื้อที่ใส่ก็รัดมากจนกระดุมแทบจะปริ เสื้อนักศึกษาที่แสนจะบอบบางทำเอาเห็นเสื้อในสีดำที่เธอใส่อยู่ น้องอีฟหันหน้าส่งยิ้มหวานๆแต่ดูร้อนแรงมาให้ผม โดยที่น้องอีฟไม่ได้สังเกตว่าผมนั่งอยู่กับน้องผิงเลย

น้องอีฟเดินมานั่งตรงข้างๆผมซึ่งอยู่ตรงข้ามกับน้องผิง น้องผิงจ้องมองการมาน้องอีฟรุ่นพี่ปี 3 เธอมองดูกระโปรงของตัวเองเหมือนกับกำลังเปรียบเทียบอะไรอยู่ น้องผิงใส่ชุดนักศึกษากระโปรงเป็นจีบยาว สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาด เสื้อนักศึกษาก็ไม่ได้รัดติ้วแต่อย่างใด มันดูสมส่วนกับเธอมาก ก่อนจะหันค้อนมาทางผม

“ผิงไม่รบกวนพี่พลละ ผิงไปห้องประชุมก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” ผิงยกมือไหว้ผมพร้อมกันรีบลุกขึ้นเดินออกไปทันที ทำเอาผมใจเสียไปเลย
“ใครกันคะพี่พล แฟนพี่พลเหรอ น่ารักดีนะ สงสัยจะหึงพี่พลนะ อีฟขอโทษคะที่ทำให้แฟนพี่พลเข้าใจผิด” ผมมองตามไปน้องผิงจนน้องผิงหายไปในคณะ
“เปล่าครับ เค้าไม่ใช่แฟนพี่หรอก” ผมตอบแบบเศร้าๆ
“ถึงไม่ใช่แฟน แต่พี่พลก็ชอบน้องเค้าใช่ไหมล่ะ” ผมรีบหันหน้ามาหาน้องอีฟเพราะไม่รู้ว่าน้องอีฟจะพูดอะไรอีก
“ใช่จริงๆด้วย อีฟว่าน้องเค้าก็คงชอบพี่พลเหมือนกันแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่งอนเดินตูดสะบัดหนีไปแบบนี้หรอก” น้องอีฟพูดแล้วยังทำหน้าทะเล้นใส่ผมอีก
“มันเป็นไปไม่ได้หรอก คนจนอย่างพี่น่ะ มีเหรอที่น้องผิงเค้าจะมาชอบ คนรวยๆก็ต้องคู่กับคนรวยๆอยู่แล้ว” ผมไม่อยากเชื่อที่น้องอีฟพูดเท่าไหร่แต่น้องอีฟก็พูดต่อ
“เอาน่า อีฟเป็นผู้หญิงเหมือนกัน อีฟดูออก เชื่ออีฟสิ” ดูน้องอีฟยืนยันหนักแน่น แต่ผมก็อดคิดถึงเรื่องไอ้อาร์ตกับน้องผิงไม่ได้
“อีกหน่อยพี่พลก็รู้เอง เอาเป็นว่าเรื่องของเราสองคน อีฟรับรองว่าน้องผิงคนนั้นจะไม่มีทางรู้แน่นอนค่ะ เราก็แค่สนุกๆกันแค่นั้นเอง แต่ว่าตอนนี้พี่พลต้องไม่ทิ้งอีฟนะคะ มาหาอีฟบ่อยๆจนกว่าพี่พลกับน้องผิงเป็นแฟนกัน อีฟถึงจะปล่อยพี่พล” ผมจำต้องพยักหน้ารับปากไป น้องอีฟฉีกยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว

“งั้นคืนนี้อีฟไปหาพี่พลนะคะ” ผมขนลุกซู่ เหนื่อยอีกแล้วกู ผมคิด

แล้วน้องอีฟก็ขอตัวไปลงทะเบียนบ้าง ผมไม่รู้จะทำอะไรก็เข้าห้องสมุดหาอ่านหนังสือเข้าสมอง เพราะผมรู้สึกว่าตอนนี้หัวสมองผมมันกำลังแล่นดีเป็นพิเศษ อ่านอะไรก็จำเข้าสมองจดจำทุกรายละเอียด ผมจึงอ่านหนังสือไปเรื่อยๆจนตกเย็นก็ไปทำงานที่ร้าน

เช้าวันต่อมาวันแรกของการเข้าเรียน หัวสมองของผมรับกับเนื้อหาต่างๆที่อาจารย์สอน เข้าใจสิ่งต่างๆอย่างง่ายดาย นี่กายสัมผัสช่วยได้มากขนาดนี้เลยหรือนี่ งั้นปีนี้คงสอบผ่านฉลุยแน่ๆ

วันนี้ผมมีเรียนแค่ตอนบ่าย กะว่าจะไปหาหนังสืออ่านที่ห้องสมุดอยู่ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงอยู่ข้างหลังอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ พี่พล” พอผมหันไปทางเสียง ทำเอาผมตะลึงค้าง เป็นน้องผิงนั่นเอง เธอตอนนี้เปลี่ยนไป ใส่ชุดนักศึกษากระโปรงสั้นจู๊ด เสื้อนักศึกษาบางก็รัดติ้วโชว์ความใหญ่โตของสองเต้าอวบภายในเสื้อยกทรงสีดำ กระดุมแทบจะเกาะไว้ไม่อยู่ แต่งหน้าทาปากเหมือนกับน้องอีฟเมื่อวานไม่มีผิด จากสาวหวานกลายเป็นสาวเปรี้ยวภายในเวลาเพียงข้ามคืน

“สะ สวัสดีครับน้องผิง” ผมมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า จากรองเท้าผ้าใบกลายเป็นรองเท้าส้นสูง จากกระโปรงขายาวกลายเป็นกระโปรงสั้น จากเสื้อธรรมดากลายเป็นเสื้อรัดติ้ว จากทรงผมที่รวบเป็นระเบียบตอนนี้ปล่อยให้ยาวสลวยปกหลัง จากหน้าตาที่แต่งพอดีงามตอนนี้แต่งหน้าเข้มอย่างเห็นได้ชัด

น้องผิงรู้สึกเขินที่ผมเอาแต่จ้องเธอและรู้สึกอายๆที่ต้องแต่งตัวสั้นจู๊ด แถมเสื้อก็รัดติ้วจนแทบจะหายใจไม่ออก น้องผิงเอาสมุดมาปิดตรงหน้าอกของเธอด้วยความอาย ผมคิดแปลกใจเหมือนกันครับว่าทำไมน้องผิงถึงได้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ถึงขนาดนี้นะ

“เป็นไงคะพี่พล ผิงแต่งตัวสวยมั้ย” น้องผิงยิ้มหวานถามผม ทำเอาผมหายตกตะลึง แต่การที่น้องผิงแต่งตัวแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกกังวลเรื่องกฎของคณะ กฎที่รุ่นพี่รุ่นก่อนๆตั้งขึ้นมา

“เออ น้องผิงครับ คือน้องผิงยังแต่งชุดนี้ยังไม่ได้นะครับ เพราะน้องผิงยังไม่ได้ผ่านพิธีรับน้องเลย มันเป็นกฎที่รุ่นพี่เค้าตั้งเอาไว้นานแล้ว” น้องผิงทำหน้าตกในเหมือนกันที่เธอไม่รู้กฎนี้เลย

“จริงหรือคะพี่พล ผิง…ผิงไม่รู้เลย” น้องผิงเริ่มแสดงสีหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด จนผมเริ่มรู้สึกไม่ดีกะวาจะปลอบใจแต่จู่ๆก็มีเสียงแทรกขึ้นมา

“ไอ้พล มึงนี่นะแทนที่จะชมน้องผิง มึงกลับพูดถึงเรื่องกฎเก่าๆบ้าๆบอๆนั้น” เสียงไอ้อาร์ตนั่นเอง
“น้องผิงไม่ต้องไปสนใจคำพูดของไอ้พลมันหรอก มันเป็นพวกบ้ากฎบ้าระเบียบ เอะอะอะไรก็กฎ น้องผิงสวยมากครับ เซ๊กซี่สุดๆ” ไอ้อาร์ตไม่รู้จู่ๆโผล่มาจากไหน เดินเข้ามายืนข้างน้องผิง
“เรื่องกฎงี่เง่านี้ชั่งหัวมัน เพราะว่าพี่มายินดีกับน้องผิงที่ได้รับเลือกให้เป็นดาวคณะนะครับ” ไอ้อาร์ตพูดพร้อมกับมอบดอกไม้ช่อโตให้กับน้องผิง

“ดาวคณะ” ผมอุทานออกมา
“เออ ก็ดาวคณะไง เมื่อวานเค้าโหวตกันน้องผิงได้เป็นดาวคณะ ว่าแต่มึงเถอะหายหัวไปไหนวะ ไม่มาโหวตเลย” กรรมผมมัวแต่เข้าห้องสมุดเลยลืมไปเลยว่าเค้าโหวตเลือกดาวคณะกันตอนบ่าย แต่ถึงผมอยู่ผมก็เลือกน้องผิงแน่นอนครับ

“น้องผิงไม่มีเรียนแล้วนิครับ เรากลับบ้านกันเถอะ” ไอ้อาร์ตจับมือน้องผิงจะพาน้องผิงไปขึ้นรถของมันที่จอดอยู่ใกล้ๆ
“แต่ผิงอยากคุยกับพี่พลก่อนนะคะ” น้องผิงพยายามบ่ายเบี่ยง
“น้องผิงมีเรื่องอะไรคุยกับมันอีกเล่า คุยกับพี่ก็ได้ พี่รับปากคุณแม่ของน้องผิงนะว่าจะไปส่งน้องผิงกลับบ้าน” ไอ้อาร์ตฉุดน้องผิงแรงขึ้น
“แต่ผิง…” น้องผิงโดนดึงมาจนถึงตรงรถสปอร์ตสีแดงคันงามของมันจนได้
“หรือจะให้พี่บอกกับคุณแม่ของน้องผิงว่าน้องผิงขัดพี่เพราะไอ้พล น้องผิงก็น่าจะรู้นะว่าถ้าคุณแม่ของน้องผิงรู้เรื่องนี้เข้าจะเป็นยังไง” ไอ้อาร์ตขู่จ้องน้องผิง น้องผิงจำต้องเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตของไอ้อาร์ตด้วยความจำใจ

น้องผิงส่งสายตาเศร้ามาหาผม ผมทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ปล่อยน้องผิงขึ้นรถไปกับไอ้อาร์ต โดยที่ไอ้อาร์ตหันมายิ้มเยาะเย้ยผมก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป ผมได้แต่ยืนมองท้ายรถของไอ้อาร์ตค่อยๆแล่นออกไปจากคณะ

ณ.ห้อง 1790 เสียงครวญครางของชายและหญิงดังออกมาจากห้องนอนภายใน ไอ้อาร์ตกำลังกระเด้าเอวใส่ร่างของหญิงสาวแสนสวยอย่างเร้าใจ ส่งท่อนเอ็นอวบของมันเข้าออกร่องอันบริสุทธิ์ครั้งแล้วครั้งเล่า จนเลือดบริสุทธิ์ไหลรินออกมาจนเลอะผ้าปูที่นอน จนมันทนกับร่องฟิตรัดไม่ไหว กดท่อนเอ็นอวบเป็นครั้งสุดท้ายเข้าไปจนสุดร่องสาว หัวบานของมันไปชนกับปากมดลูกและฉีดน้ำกามร้อนผ่าวเข้าไป

เมื่อถูกน้ำกามแรกในชีวิตสาวฉีดใส่มดลูก เธอเกร็งกระตุก ในหัวขาวโพลงไปหมด ถึงจุดสุดยอดในชีวิต ผวากอดไอ้อาร์ตแน่น ทั้งคู่กอดกันแน่นแทบจะเรียกเป็นเนื้อเดียวกัน มดลูกซึมซับน้ำกามที่ไอ้อาร์ตหลั่งออกมาจนหมด ส่งเชื้ออสุจินับล้านพุ่งเข้าหาไข่สุกที่มีเพียงแค่หนึ่งใบภายในมดลูกและมีอสุจิที่โชคดีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นสามารถผสมกับไข่สุกนี้ได้ แต่ทั้งสองอย่างถูกประกบจับคู่กันแล้ว ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วก็ฝังตัวอยู่ในมดลูกของหญิงสาวเจ้าของร่าง นี่คือจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์

เมื่อความเสียวเริ่มคลายตัว ทั้งคู่ต่างจ้องมองกัน หญิงสาวส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับไอ้อาร์ตก่อนที่ทั้งคู่จะประกบจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มเนิ่นนาน

ไอ้อาร์ตพักอยู่ครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นแต่งตัว มันมองร่างของหญิงสาวที่มันได้เปิดซิงเมื่อตะกี้อย่างสะใจ เธอนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง เหนื่อยอ่อนหลับตาพริ้ม หายใจรวยริน หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจที่เข้าออก ก่อนจะเปิดประตูห้องนอนออกไปยังห้องรับแขกข้างนอก

“ไงอาร์ต มันมั้ย” เสียงของไอ้ รูมึงตัน เพื่อนลูกครึ่งเกาหลีของมันเอ่ยแซว
“เออ ก็ของมันสดนิหว่า” ไอ้อาร์ตตอบ
“แหม ก็ขาวสาว ไฮโซขนาดนั้นจะไม่ให้มันได้ไงล่ะ 555 คิดแล้วอยากเหมือนกันนะ” ไอ้เคนบอก ก็ตั้งแต่ที่มันเห็นหญิงสาวคนนี้เข้ามาในห้องพร้อมกับไอ้อาร์ต มันถึงกับตกตะลึงในความสวยของหญิงสาวคนนี้ ความขาวใสน่ารักของหญิงสาวคนนี้ช่างสมบูรณ์แบบเสียเหลือเกิน มันไม่เคยเห็นใครสวยเท่านี้มาก่อนเลย

“ถ้าพวกมึงอยากก็เข้าไปเอาสิ กูยกให้” ไอ้อาร์ตยกให้แบบง่ายๆ ทำเอาพวกเพื่อนๆของมันดีใจกันใหญ่
“จริงเหรอไอ้อาร์ตที่มึงจะให้พวกกูเย็ดน้องเค้าได้น่ะ แล้วจะไม่เป็นเรื่องเหรอ เพราะกูพอรู้อยู่บ้างว่าพ่อของน้องเค้าน่ะรวยมาก หวงลูกสาวอีก นี้ถ้ารู้ว่าพวกกูไปรุมโทรมน้องเค้าจะไม่ตามฆ่าพวกกูเหรอ” ไอ้เคนถามย้ำด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วง กูมีนี้” ไอ้อาร์ตหยิบกล้องวีดีโอHD ความคมชัดสูงออกมาโชว์
“ถ้ามีนี้อยู่ ไม่ต้องห่วงหรอกว่าเรื่องจะไปถึงตำรวจ มึงสามารถเรียกอีนี่มาใช้บริการพวกมึงเมื่อไหร่ก็ได้” ที่แท้ไอ้อาร์ตได้ถ่ายวีดีโอไว้ตั้งแต่แรกแล้วนี้เอง
“มึงแน่ใจนะว่าจะให้กูเย็ดต่อจากมึง มึงไม่เสียดายเหรอ ขาวสวยขนาดนี้” ไอ้เคนถามเพื่อความแน่ในเพราะกลัวว่ามันจะหวงสาวคนนี้
“เออ กูเบื่ออีนี่แล้ว” ไอ้อาร์ตตอบน้ำเสียงเรียบเฉย
“ดีๆ งั้นพวกกูก็ขอไปมีความสุขกับน้องคนสวยก่อนนะ” ว่าแล้วทั้ง 3 คนก็รีบเข้าไปในห้องนอนข้างในทันที

“อย่านะ พวกพี่เข้ามาทำไม ออกไป พี่อาร์ตช่วยด้วย อย่า…” เสียงหญิงสาวดังลอดออกมาจากห้องนอน แต่ไอ้อาร์ตก็ไม่มีท่าทีจะสนใจอะไร มันหยิบสายโหลดต่อกล้องวีดีโอเข้ากับโน๊ตบุ๊คของ มันโหลดไฟร์ที่มันบันทึกไว้เมื่อตะกี้ก่อนจะเซฟชื่อว่า “เปิดซิง น้องผิงดาวคณะ”

Share the Post:

Related Posts

แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู

เรื่องเสียว แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู เอิร์นนะคร้า เป็นสาวมหาลัยในเชียงใหม่นี้เองค่า เอิร์นเป็นสาวมหาลัยปีสองแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้ชายเลย ยุคนี้แล้วเนอะ ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะคะที่ล่าแต้ม เอิร์นเองก็กินมาเยอะเหมือนกันค่ะ สูงยาว ลำอวบ ใหญ่ยาว กินมาหมดแล้วค่า ชีวิตครั้งนึงเนอะ เรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องมีบ้างอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ และแน่นอนว่าเอิร์นเลยกินแต่วัยเดียวกัน รู้ตัวอีกทีได้แอบกินรุ่นใหญ่พี่แท็กซี่ซะอย่างนั้นเลยค่ะ ที่สำคัญไม่เคยเจอมังกรที่ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มาก่อน มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยความที่อยู่เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะ

Read More

จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว

เรื่องเสียว จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว “ตั้งกล้องเรียบร้อยแล้ว มึงพร้อมยังจะได้กดเริ่ม” วันนี้เรามีถ่ายคลิปวิดีโอทำอาหารที่คอนโดของพวกเราสองคนที่เป็นเพื่อนกัน เรามองเม็กที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดจนเห็นแผงอกที่เป็นมัดกล้าม กางเกงขาขั้นสั้นสบาย ๆ แต่พอมาอยู่บนร่างกายของเม็กแล้วมันดูดีไม่น้อยเลย ถึงแม้เราทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่พอมาเจอมันในลุคนี้ก็ทำให้เราใจสั่นไม่น้อย “มึงกูสวยยัง” “สวยแล้ว” พอได้รับคำตอบที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว เราก็พยักหน้าให้มันเริ่มกดบันทึกภาพวิดีโอทันที การถ่ายทำดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นตอนการชิมอาหาร “อะ

Read More