จิตสัมผัส ตอนที่ 8
Omega19
หลังจากส่งน้องผิงไปคณะเสร็จแล้วผมก็เดินกลับหอ วันนี้เป็นวันซวยอะไรของผมหนอ รอดจากตดพี่ปุ้มก็เจอตดน้องผิง ไหนลุงสัปเหร่อถึงได้บอกว่าพอผมขึ้นวัยเบญจเพสแล้วจะหมดเคราะห์และมีแต่ผลบุญส่งผลมาให้นับจากนี้ แต่ไหงกลับยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย นอกจากได้ร่วมรักกับผู้หญิง ซึ่งมันทำเอาผมแข้งขาอ่อนทุกวัน แบบนี้เรียกว่าผลบุญเปล่าล่ะ
“รางวัลเลขท้ายสามตัวครั้งที่หนึ่งเลขที่ออก 069” เสียงวิทยุดังขึ้นตรงแผงขายล๊อตเตอร์รี่
“วันนี้หวยยังไม่ออกนิ พึ่งวันที่ 14 เอง มันน่าจะวันพรุ่งนี้ต่างหาก หรือว่า~” ผมคิดใจในมันต้องใช่แน่ๆ เลขของงวดวันพรุ่งนี้ผลบุญส่งผลแล้ว 555
“ป้า มีเลยท้าย 069 ป่าวครับ” ผมถามป้าขายหวย
“มีจ๊ะ นี่ๆ” ป้าขายหวยค้นอยู่ครู่หนึ่งก็ยื่นปึกเลขท้าย 069 ให้ชุด
หนึ่ง
“ผมเอาหมดชุดเลยครับป้า” ผมเปิดกระเป๋ามามีเงินเหลือแค่4พันกว่าๆ เอาวะเพื่อรวยวันพรุ่งนี้ 555 หนึ่งชุดมี30ใบ ขายใบละร้อยก็ 3000 บาท ผมจ่ายเงินให้โดยป้าขายหวยเหลือเงินติดกระเป๋าพันกว่าบาท แต่พรุ่งนี้รวยๆๆๆ 555 ผมเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีไปทำงาน
วันนี้ทั้งวันผมเป็นกังวลเรื่องขอการแข่งในวันพรุ่งนี้จริงๆ เพราะจากที่เคยเป็นแชมป์เมื่อปีก่อน แต่ผลงานตั้งแต่เริ่มซี่ซั่นใหม่มานี้ ทีมเราแพ้รวดมา 5 นัดจนต้องปลดโค้ชคนเก่าออกไปแล้วและมีโค้ชคนใหม่รู้สึกว่าจะเป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติไทย เป็นศิษย์เก่าที่นี่แหละมั่ง แต่อันนั้นผมยังไม่กังวลเท่าการที่น้องผิงจะเห็นผมนั่งเป็นตัวสำรองนั่งอยู่แต่ข้างสนามไม่มีส่วนร่วมกับเกมส์ต่างหาก เฮ้ย…กลุ้ม
“พี่พลคะ…พี่พล…พี่โพนนนค้าาาา” เสียงน้องอีฟดังลั่นทำเอาผมสะดุ้งเฮือก ก่อนจะมองเธอหิ้วของพะรุงพะรังมากองไว้ตรงหน้าเค้าเตอร์
“คิดอะไรอยู่หรอคะพี่พลอีฟเรียกตั้งนาน สงสัยต้องเป็นเรื่องลามกแน่ๆเลย อิอิ” น้องอีฟแซว
“ปะ เปล่าครับ พี่ก็คิดเรื่อยเปื่อยนะครับ” ว่าแล้วก็หยิบของมากดบาร์โค้ชไปเรื่อยๆ
“รับอะไรเพิ่มไหมครับน้องอีฟ” ผมถามอย่างที่เคยเป็นประจำ น้องอีฟหันซ้ายหันขวา ก็ไม่เห็นใครอยู่ใกล้แถวนั้นก็ชะโงกหน้ามาหาผมแล้วกระซิบเบาๆ
“ตอนแรกอีฟว่าจะซื้อถุงยางใช้กับไอ้นั้นช่วยตัวเองซะหน่อย แต่พอเห็นพี่พลอีฟว่าให้พี่พลช่วยดีกว่าอิอิ คืนนี้นะคะพี่พล” รอยยิ้มสยองของน้องอีฟทำเอาผมขนลุกซู่ และไม่ใช่แค่ขนเท่านั้นที่ลุกยังมีน้องชายของผมที่พองโตจนเต็มคับเป้าเช่นกัน ความจริงผมก็ชอบนะครับกับการมีเซ็ก แต่ถ้าเจอสาวที่มีอารมณ์เร้าร้อนอารมณ์เปลี่ยวโหยหาแต่เรื่องเซ็กอยู่ตลอดเวลาแบบน้องอีฟก็ไม่ไหวนะ เพราะบางวันผมเหนื่อยมากๆไม่มีอามรณ์เท่าไหร่แต่ก็ต้องมาปรนนิบัติเธอทุกวันแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ
กว่าจะหมดกะก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว พอกลับถึงหออาบน้ำอาบท่าเสร็จใจก็ขอภาวนาว่าน้องอีฟนอนหลับแล้วที่เถอะ ไม่กล้าใช้ตาสัมผัสดูเล๊ยยย ไปเสี่ยงดวงเอาดีกว่า
ก๊อก ๆ ๆ ผมเคาะประตูห้องแต่เคาะเบาๆนะครับ
“น้องอีฟนอนละยังครับ นอนแล้วใช่มั๊ย งั้นพี่ไม่กวนนะ” พูดเสร็จก็ค่อยๆย่องจะกลับห้อง
“ยังคะพี่พล รีบเข้ามาเร็วๆเลยพี่พล อีฟไม่ไหวแล้ว” กรรม ดึกป่านนี้ยังไม่หลับไม่นอนอีก เฮ้ยยยย ผมถอนหายใจยาวๆ ก่อนเปิดประตูเข้าไป
ทันที่ที่เปิดประตู ผมก็เห็นน้องอีฟเปลือยเปล่านอนคว่ำหน้า โก่งตูดหันมาทางผม นิ้วมือบี้ไปมาที่ร่องเสียวของตัวเองจนเปียกเยิ้มไปหมดแล้ว ทำเอาไอ้น้องชายผมพองคับเป้าเตรียมออกปฏิบัติหน้าที่ทันที
“ใส่มาเลยค่ะพี่พล อีฟอยากจะแย่อยู่แล้ว” น้องอีฟส่งสายตาเย้ายวนหวานเยิ้มมาให้ ผมรู้เลยครับว่าเธอคงอยากมาก เพราะจิตสัมผัสผมบอกว่าเธอมีอารมณ์เงี่ยนสุดๆแต่ก็ไม่ยอมใช้ไวเบรเตอร์เลย ใช้เพียงนิ้วมือบี้ร่องสาวไปเรื่อยๆแต่เมื่อใกล้จะเสร็จก็หยุดพักครู่หนึ่งก็เริ่มใหม่ ทำแบบนี้เรื่อยๆมาเกือบชั่วโมงแล้วเพราะเธออยากจะปลดปล่อยมันกับผมเพียงคนเดียว
ผมปิดประตูถอดเสื้อผ้าออกจนหมด พาน้องชายที่พร้อมรบเต็มที่แล้วก้าวขึ้นเตียงนั่งคุกเข่าตรงระหว่างขาจับสะโพกยกขึ้นเล็กน้อยแล้วจับลำเนื้อบรรจงจ่อไปที่ปากร่องเสียวของน้องอีฟ แล้วค่อยๆกดเข้าไปช้าๆ ร่องสาวที่มีน้ำหล่อลื่นอยู่ก่อนแล้วทำให้สามารถส่งท่อนเอ็นของผมเข้าไปจนสุดลำได้อย่างไม่ยากนัก
“ซี๊ดดด อ๊าาาา ดีจังพี่พล อู้ยยย”น้องอีฟหลับตาพริ้มรับความเสียวอย่างพึงพอใจ เธอคงชอบท่อนเนื้อที่อุ่นๆมากกว่าของปลอมไร้ชีวิตเป็นแน่แท้ และคืนนี้อีกเช่นเคย น้องอีฟตักตวงความสุขจากเนื้ออุ่นของผมจนเต็มอิ่ม
ณ. คฤหาสน์ลังใหญ่ของนักการเมืองชื่อดัง
“มึงไปทำตามแผนที่กูบอกเมื่อกี้เลยนะไอ้เคน” ไอ้อาร์ทสั่งงานบางอย่างกับไอ้เคนลูกสมุนมือขวาของมัน
“คราวนี้จะได้ผลแน่หรอไอ้อาร์ท คราวนี้มันไม่เหมือนกับคราวก่อนนะ ดูแล้วน้องผิงจะไม่ค่อยชอบมึงเท่าไหร่นะ น้องเค้าจะยอมมีงเรอะ” ไอ้เคนแย้ง
“อุ๊ บร๊ะ มันต้องได้ผลดิ ขนาดอีอีฟที่ว่าจีบยากมันยังโดนดูเย็ดมาแล้ว รับรองพรุ่งนี้น้องผิงไม่รอดควยกูแน่นอน” ไอ้อาร์ทตอบแบบมั่นใจ
“เออ ก็ได้ แต่ไอ้สองคนก่อนมันโดนจับเข้าคุกไปแล้ว แม่งเล่นขายยาไม่ดูตามาตาเรือ ดันไปขายให้สายตำรวจ” ไอ้เคนบอก
“มึงก็ไปหาคนใหม่สิวะ โง่ชิบหาย เริ่มพรุ่งนี้เลยนะมึง หลังแข่งบาสเสร็จกูจะไปฉลองชัยชนะด้วยการเปิดซิงน้องผิง ฮ่าๆๆ” ดูไอ้อาร์ทจะมั่นใจในแผนการชั่วร้ายของมันมาก มันฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรหาใครซักคนหนึ่ง
“ฮัลโหล น้องแป้งหรือจ๊ะ วันนี้มาหาพี่ที่บ้านหน่อยสิจ๊ะ…อะไรนะจะไม่มาเหรอ อย่าลืมสิว่าพี่มีคลิบของน้องอยู่น๊าาา ถ้าไม่มากละก็ หึหึ…อื้มต้องอย่างนั้นสิ แล้วพี่จะรอจ๊ะ” แล้วไอ้อาร์ทก็วางสายไป
“น้องแป้งไหนอีกวะไอ้อาร์ท” ไอ้เคนถามด้วยความแปลกใจ แต่ก็คิดว่าคงเป็นสาวคนใหม่ของมันอีกแน่ๆ
“ก็น้องแป้งเด็กม.4 น้องไอ้เบิ้มไง หีแม่งโคตรฟิตเลยวะ กว่าจะหลอกเย็ดได้ตั้งนาน สนใจล่ะสิ ไว้กูเบื่อเมื่อไหร่กูจะยกให้พวกมึงเองไม่ต้องห่วง” ความชั่วของไอ้อาร์ทแม้แต่น้องสาวเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาลมันก็ยังทำได้ลง
“เฮ้ย พรุ่งนี้มึงจะแข่งบาสนะโว้ย มึงจะไหวเหรอ ไหนจะตอนแข่งเสร็จมึงก็จะไปจัดการน้องผิงต่ออีกไม่ใช่เหรอ แล้วมึงจะมีแรงเหรอวะไอ้อาร์ท” ไอ้เคนทักท้วงเพราะเห็นว่าพรุ่งนี้มันจะต้องมีงานหนักรอมันอยู่
“กูมียาดี แค่นี้สบายมาก 555” คำตอบไอ้อาร์ททำเอาไอ้เคนส่ายหน้าอีกรอบ
“ขนาดน้องสาวของเพื่อนที่เรียนกันมาตั้งแต่อนุบาลแม่งก็ยังทำไอ้นะ แม่งชั่วไอ้ยันโคตรเลยนะ” ไอ้เคนได้แต่คิดในใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“แล้วนี่กูจะไปหาคนมาจากไหนวะเนี้ย เฮ้ยยกลุ้ม” ไอ้อาร์ทบ่นพึมพำแต่ก็ต้องทำตามคำสั่งของหัวหน้ามันด้วยความจำใจ
…………………….
ปรี๊ดดดด “เอาล่ะครับ หมดควอเตอร์ที่สามแล้ว VV Expensive University ยังตามมหาลัย AV อยู่ถึง 20 แต้มโอกาสที่ทีมแชมป์เก่าจะแพ้คาบ้านค่อนข้างสูง เกิดอะไรกับทีมแชมป์เก่าของเรากันล่ะนี้ นี่ถ้าแพ้นัดนี้อีกโอกาสได้แชมป์ก็คงยากเต็มทีแล้ว” เสียงโฆษกสนามดังขึ้นหลังจากการแข่งของควอเตอร์ที่ 3 จบลง
และอีกเช่นเคยผมก็ได้แต่นั่งข้างสนามไม่มีส่วนร่วมในเกมอีกครั้ง แต่ที่พิเศษก็คือวันนี้น้องผิงเข้ามาดูการแข่งขันนัดนี้ด้วย แม้ผมจะไม่ได้แสดงฝีมือ แต่น้องผิงก็โบกไม้โบกมือเป็นกำลังใจให้ผมตลอดเวลา
“ทำไมมึงไม่ส่งบอลมาให้กูเมื่อตะกี้ ฮึ กูบอกให้มึงส่ง มึงก็ต้องสงมาให้กู กูเป็นกัปตันทีมนะ” เสียงไอ้อาร์ทโวยลั่นห้องพักนักกีฬา
“ก็กูเห็นมึงโดนประกบอยู่ตั้ง 2 คนจะให้กูส่งให้มึงไอ้ยังไงเล่า” เสียงเพื่อนร่วมทีมบอก
“แค่ 2 คนประกบมึงคิดว่ากูเอาไม่อยู่เหรอวะ มึงดูถูกฝีมือกูมากไปหน่อยแล้วนะ” พูดจบมันก็ตรงไปกระชากคอเสื้อง้างหมัดเตรียมจะต่อยใส่อยู่แล้วแต่โชคดีที่โค้ชและคนอื่นๆรีบเข้าไปแยกมันออกมา
“สงบสติอารมณ์กันหน่อยสิ นี่เราทีมเดียวกันนะ จะมาทะเลาะกันทำไม แต่ครูก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอนะเบิ้มที่ไม่ส่งให้” โค้ชปรีชาพูดยังไม่ทันจบไอ้อาร์ทก็ดูไม่พอใจพูดแทรกขึ้นมา
“อ้าวโค้ช ไหงพูดหมาๆแบบนี้ล่ะ หรือว่าโค้ชดูถูกฝีมือผม ฮึ” พูดจบมันก็ทำท่าจะตรงเข้าไปเอาเรื่องโค้ชอีกคน จนเพื่อนๆพากันมาห้ามไว้
“ถ้าโค้ชคิดว่าผมไม่มีฝีมือก็หาคนอื่นมาแทนละกัน ไม่ลงไม่เล่นมันละ” แล้วไอ้อาร์ทก็เดินออกจากห้องไป แต่ก็ไม่วายไล่ทุบโน่นเตะนี่ไปเรื่อยๆ ทำเอาทุกคนเอือมระอาไปกับพฤติกรรมของมัน
“ไอ้อาร์ทมันไปแล้ว แล้วนี่ใครจะแข่งแทนมันครับโค้ช” เสียงผู้เล่นคนหนึ่งเอ๋ยถาม ทำเอาโค้ชปรีชาคิดหนักเหมือนกัน ความจริงไอ้อาร์ทก็เป็นคนเล่นบาสเก่งมากคนหนึ่ง มันมีพรสวรรค์ทางด้านนี้เป็นอย่างมากจนซึ่งโค้ชปรีชาเองก็ยอมรับมันในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ทีมอื่นต่างก็รู้กิติศัพท์มันดีเลยส่งคนตามประกบมันตลอดและคอยแหย่ให้มันทำฟาล์วอยู่บ่อยครั้ง ผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็น
โค้ชปรีชาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจบางอย่างออกมา
“นายปัญจพล นายลงเล่นแทนแล้วกัน” การตัดสินใจของโค้ชทำเอาทุกคนออกมาทักท้วง เพราะทุกคนไม่เคยเห็นผมได้ลงเล่นเลยแม้แต่นัดเดียว ซึ่งก็รวมทั้งตัวผมเองด้วยที่ไม่มั่นใจว่าจะสามารถเล่นได้ดีหรือเปล่า
“จะไหวเหรอครับโค้ช” “แพ้แน่ๆ” “เวรกรรม” เสียงบ่นพึมพำจนโค้ชบอกให้ทุกคนต้องอยู่ในความสงบ
“ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนิ ทีมเราก็ใกล้จะแพ้แล้ว ให้เค้าลองดูก็ไม่เสียหายอะไร แต่ผมเชื่อว่านายปัญจพลต้องทำได้นะ เพราะครูเห็นเธอซุ้มซ้อมหนักตอนเช้าแทบทุกวันเลย” โค้ชบอกพร้อมกันตบไหล่ผมเบาๆ
“แสดงฝีมืออกมาให้เต็มที่เลยนะ เอาล่ะทุกคนลืมเรื่องสกอร์ให้หมดแล้วมาเริ่มกันใหม่ในควอเตอร์สุดท้ายนี้ สู้ๆ” เราประสานมือกันเพื่อร่วมใจสู้ในควอเตอร์สุดท้าย
“สู้ ๆ เฮ้”
………………………………..
“เอาล่ะครับทางทีมมหาวิทยาลัย VV Expensive University มีการปรับแผนเปลี่ยนตัวเอานายอิทธิพลออกแล้วผู้เล่นสำรองออกมาเล่นแทนครับ นี่โค้ชปรีชาคิดอะไรอยู่เหรอครับ สงสัยหัวสมองกระทบกระเทือนแน่ๆ ฆ่าตัวตายชัดๆ” เสียงนักพากย์คนแรกบอก
“แล้วผู้เล่นสำรองคนนี้คือใครกันนะ ชื่อปัญจพล ผู้เล่นสำรองที่ไม่เคยลงแข่งมาก่อน แล้วอย่างนี้จะไหวเหรอครับทีม VVE” เสียงนักพากย์คนที่สองกล่าวเสริมออกมา ทำเอาฮือฮาทั้งสนาม
หน้าสนามแข่งบาส ไอ้อาร์ทเดินออกจากประตูด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่เมื่อได้ยินโฆษกสนามประกาศก็ต้องหยุดเดินและฟังโฆษกประกาศ
“หึ เอาไอ้พลลงสนามเหรอ ลงจนได้นะ กูอุสส่าห์จ้างโค้ชคนก่อนบอกไม่ให้มันลงแข่ง ไอ้โค้ชปรีชาเอ้ยย แต่ก็ช่างแม่งเถอะ ฝีมือกระจอกๆอย่างมัน ออกมาก็ขายชี้หน้าหมด 555” ไอ้อาร์ทหัวเราะดังลั่นก่อนจะเดินออกมาหน้าโรงยิมแข่งขันก็เห็นไอ้เคนยืนรออยู่แล้ว
“พร้อมยังไอ้เคน” ไอ้อาร์ทถามมันทันทีที่เจอหน้ามัน
“พร้อมแล้ว” ไอ้เคนตอบ
“หึหึหึ น้องผิงจ๊ะเตรียมตัวมีผัวได้แล้วนะ” ไอ้อาร์ทคิดอย่างย่ามใจ
ผมเดินลงสนามด้วยความประหม่า เพราะตั้งแต่เข้าทีมมานี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลงแข่งจริงๆกับเค้า หัวใจผมเต้นแรงมากและความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนกับว่าทุกคนจ้องมาที่ผมเพียงคนเดียว ทำเอาแข่งขาผมแทบไม่มีแรงเอาเสียเลย
ปรี๊ดดด กรรมการเป่านกหวีดเริ่มแข่งขันทีมของผมเริ่มบุก ผมก็เริ่มวิ่งตรงไปยังฝั่งของฝ่ายตรงข้ามหาที่ว่างวิ่งซอกแซกไปเรื่อยๆ แต่จู่ๆเพื่อนร่วมทีมของผมก็โยนส่งลูกบาสมาให้ผม
“เฮ้ย! ลูกบาสมาแล้วทำไงดี ทำไงดี” ผมรับลูกบาสได้ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
“ชู๊ตเลยๆ” ผมร้อนรนเลยรีบกระโดดชู๊ดบาสทันที ทำเอาทุกคนลุ้นว่ามันจะลงหาไม่ แต่….ปังง โดนขอบห่วงเต็มๆ ฝ่ายตรงข้ามรีบาวได้และบุกคืนแถมทำแต้มนำเพิ่มไปอีก และนั่นเองทำเอาผมท้อทันที
ฝ่ายผมเริ่มบุกใหม่ ผมเลี้ยงบอลมาเรื่อยๆกะว่าจะส่งต่อให้กับเพื่อนที่วิ่งหาช่องว่าง แต่ก็โดนตัดได้และบุกคืน ผมพยายามป้องกันแต่ไม่สำเร็จ โดนไปอีก 2 แต้ม ทุกคนรวมทั้งตัวผมเองหมดหวังกับฝีมือของผม แต่แล้วจู่ๆผมก็แว่วเสียงน่ารักๆของน้องผิงตะโกนแข่งกับเสียงเชียร์ขึ้นมา
“พี่พล สู้ๆนะค๊าาาาา ไม่เป็นไร เอาใหม่ๆ สู้ๆๆ” เสียงของน้องผิงที่ลุกขึ้นเชียร์โบกไม้โบกมือให้ทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาดังลั่นสนาม ใช่แล้วผมต้องแสดงฝีมือให้น้องผิงได้เห็นสิ ผมเริ่มตั้งสมาธิกับเกมส์มากขึ้นประกอบกับกายสัมผัสเริ่มทำงานเต็มที่ ทำให้ร่างกายผมวิ่งเร็วกว่าคนอื่น ขยับตัวเร็วกว่าคนอื่น ผลก็คือผมเริ่มทำแต้มได้เรื่อยๆ หลบหลีกการสกัดบอลของคู่แข่งได้พริ้วไหว การชู๊ตที่แม่นเหมือนจับวาง ทำเอาคนทั้งสนามต่างตกตะลึงไปตามกัน ส่งเสียงเชียร์ไม่ขาดสายและก็ทำคะแนนตีตื้นขึ้นเรื่อยๆจนคะแน่นห่างกันแค่แต้มเดียว
“ฮัลโหล น้องผิงครับลงมาได้แล้วพี่จะไปส่งน้องผิงกลับบ้าน” ไอ้อาร์ทโทรหาน้องผิง
“แต่บาสยังแข่งไม่จบนะคะพี่พล แข่งกำลังสนุกเลย ทีมเรากำลังจะเสมอกันแล้วนะคะพี่อาร์ท รออีกแป๊บเดียวนะคะใกล้จะหมดเวลาอยู่แล้ว” ตอนนี้น้องผิงยังไม่อยากกลับเลย ใจจริงอยากดูจนจบและเข้าไปหาพี่พลอีกเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดที่ตอนแรกแม่ของน้องผิงไม่อนุญาตให้มาดูเธอจึงบอกว่าพี่อาร์ทมาแข่งด้วย คุณแม่ของเธอจึงอนุญาตแต่มีข้อแม้ว่าต้องให้ไอ้อาร์ทมาส่ง เธอจึงได้มาดูการแข่งในวันนี้
“พี่จะกลับแล้ว น้องผิงต้องลงมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นพี่จะโทรหาคุณแม่ของน้องผิงบอกว่าน้องผิงดื้อไม่ยอมกลับนะครับ คงรู้นะครับว่าคราวหน้าน้องผิงอาจไม่ได้ออกมาข้างนอกแบบนี้อีก” ไอ้อาร์ทขู่น้องผิง
“ค่ะ ก็ได้ค่ะ ผิงจะกลับเดี๋ยวนี้ก็ได้ค่ะ” น้องผิงจำยอมลุกขึ้นและเดินออกจากสนามทั้งๆอีกไม่กี่วินาทีนี้เวลาการแข่งขันก็จะหมดลง
ผมเลี้ยงลูกมาหลบหลีกผู้เล่นอื่นได้แล้วแต่ก็เจอคนมาสกัดอีกถึงสองคน และเวลาเหลืออีกแค่ 5 วินาที ทีมเราตามอยู่แค่แต้มเดียว ไม่มีทางเลือกผมต้องชูตลูกนี้แล้ว แต่ขณะที่ผมกำลังกระโดดผมก็ชำเลืองไปเห็นน้องผิงเดินออกจากประตูไปเสียแล้ว อ้าวน้องผิงกลับแล้วเหรอยังไม่ได้ดูลูกสำคัญนี้เลย ผมเสียสมาธิครู่หนึ่งก่อนจะชูตลูกบาส มันค่อยๆลอยไปหาแป้นบาส ทุกคนต่างก็ลุ้นใจระทึกว่าจะลงหรือไม่…แต่แล้วปังงงง เสียงลูกบาสกระทบกับขอบห่วงแล้วกระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย แล้วนกหวีดก็เป่าหมดเวลา
“น่าเสียดายจริงๆครับที่ทีม VV Expensive University แพ้ไปอย่างฉิวเฉียด” เสียงโฆษกดังขั้นมาทำเอาไอ้อาร์ทยิ้มที่มุมปากด้วยความสะใจ
“มาครับน้องผิง กลับบ้านกัน” น้องผิงเดินออกมาจากสนามกีฬาสีหน้าบูดบึ้ง เธอไม่อยากกลับบ้านกับไอ้อาร์ทเลยแต่ก็จำเป็นเพราะรับปากแม่ของเธอว่าจะกลับพร้อมกับไอ้อาร์ทเพื่อแลกกับการที่จะได้มาดูผมแข่งบาสวันนี้
ไอ้อาร์ทเดินนำน้องผิงมาที่ลานจอดรถข้างหลังสนามบาส ที่ตรงนี้ค่อนข้างเปลี่ยวและไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ก่อนจะขอตัวไปเรารถโดยที่ให้เธอยืนรออยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง
“ไงจ๊ะน้องสาว มายืนทำอะไรคนเดียวตรงนี้จ๊ะ ไม่กลัวคนมาทำมิดีร้ายเหรอ ให้พวกพี่ๆอยู่เป็นเพื่อนมั๊ยจ๊ะ” น้องผิงตกใจสุดขีดที่อยู่ๆก็ได้ยินเสียงคนอยู่ข้างหลัง รีบหันหน้ามาก็ต้องเผชิญอยู่กับชายถึงสองคนท่าทางน่ากลัว
“ไม่ ไม่เป็นไรคะ มีคนมารับแล้ว” น้องผิงพยายามใจดีสู้เสือ และค่อยๆเดินถอยห่างจากพวกมันทั้งสอง
“โห โคตรสวยเลยพี่เหี้ยม” ชายอีกคนรูปร่างผอมบอก
“จริงของมึงไอ้จ๋อย ตั้งแต่ออกจากคุกมา ก็พึ่งได้เห็นของสวยๆงามๆจริงๆก็วันนี้แหละ ชักถูกใจน้องแล้วดิว่ะ พี่ว่าเราออกไปเที่ยวที่อื่นกันดีกว่ามั๊ยจ๊ะคนสวย” พูดจบไม่ทันที่น้องผิงจะตั้งตัว ไอ้เหี้ยมก็ฉุดแขนน้องผิง ดึงกระชากเพื่อให้เธอตามมันมา
“ไม่ ไม่ ชั้นไม่ไป ปล่อยนะ ปล่อยชั้นนะ” น้องผิงพยายามดิ้นสุดแรงและพยายามดึงแขนของเธอเพื่อให้หลุดจากการฉุดของไอ้ร่างยักษ์
“น่าน้องคนสวย เราไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า รับรองน้องจะติดใจ 555” ไอ้จ๋อยเข้าไปช่วยจับแขนอีกข้างของน้องผิง
“ไม่ไป ปล่อยนะ ไม่งั้นชั้นจะร้องให้คนช่วย” น้องผิงออกแรงดิ้นอย่างสุดแรงเพื่อหวังว่าจะหลุดพ้นจากพวกมัน แต่ยิ่งดิ้นแรง มันก็ยิ่งล๊อกมือแน่นยิ่งขึ้นจนน้องผิงเริ่มเจ็บที่ข้อแขนตรงที่โดนพวกมันจับเอาไว้
“ชะ..ช่วย อุ๊บบบ” ขณะที่น้องผิงกำลังจะร้องให้คนช่วย ไอ้เหี้ยมเดนคุกร่างโตก็รีบรวบร่างของน้องผิงจากด้านหลังพร้อมกับเอามือปิดปากทันที แล้วไอ้ผอมก็ชักมีดออกมาจากเอวพร้อมกับยกขึ้นมาขู่
“ถ้าไม่อยากให้หน้าเสียโฉม ตามกูมาดีๆ ไม่อยากเจ็บตัว อย่าขัดขืน” ซึ่งได้ผล คำขู่ของน้องผิงทำเอาเธอหน้าซีดหยุดดิ้นอย่างสิ้นเชิง เนื้อตัวสั่นเทาไปหมด
“พี่คะ อย่าทำอะไรผิงเลยนะคะ ผิงมีเงินนะ ผิงให้หมดเลย แต่อย่าทำร้ายผิงนะ” น้องผิงลนลานรีบยื่นกระเป๋าหลุยสุดหรูยืนให้มันทันที ไอ้จ๋อยเดนคุกร่างผอมรับกระเป๋าและพอมันเปิดดูก็มีเงินอยู่ในนั้นหลายพันบาท
“ขอบใจนะน้องคนสวย เงินน่ะพวกพี่ก็อยากได้ แต่ตัวน้องคนสวยพี่ก็อยากได้เหมือนกัน หึหึหึ” คำตอบของไอ้จ๋อยทำเอาน้องผิงใจเสีย เธอจึงคิดหนีตะโกนให้คนมาช่วยอีกครั้ง แต่ไอ้จ๋อยรู้ทันชูมีดขึ้นมาขู่อีกครั้ง
“จุ๊ จุุ๊ บอกแล้วไงว่าอย่าสงเสียงร้อง” น้องผิงไม่สนใจคำขู่ของมันอีกแล้ว ตายตรงนี้ยังดีกว่าต้องไปกับพวกมัน เธอจึงดิ้นสุดแรงพร้อมกับตะโกนให้คนช่วย
“ช่วยด้วยยย อุ๊บบบ” ไอ้เดนนรกร่างยักรีบเอามือปิดปากน้องผิงกึ่งดึงกึ่งลากตัวน้องผิงฉุดให้ขึ้นนั่งในรถด้านหลังคนขับได้สำเร็จโดยให้ไอ้ผอมนั่งประกบเธออยู่ข้างๆ แต่น้องผิงก็ยังดิ้นรนปัดป้องพยายามเปิดประตูออกมาแต่ก็ถูกไอ้จ๋อยรวบเอวดึงเข้ามาอีกครั้ง
“แรงเยอะจริงๆนะมึง นี่แนะ” เพี๊ยะ ไอ้ผอมตบหน้าน้องผิงอย่างแรงหนึ่งที จนแก้มขาวผองของเธอเป็นรอยแดงของผ่ามือมัน แรงตบทำให้น้องผิงหยุดดิ้นเพราะความเจ็บปวดที่ใบหน้าจนน้ำตาไหลอาบสองแก้ม เธอจึงยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนมันอีกครั้ง
“ฮือๆ พี่ปล่อยผิงไปเถอะนะ ผิงขอร้อง ฮือๆ แล้วผิงจะไม่บอกใครนะคะ พี่ปล่อยผิงไปเถอะ” แม้จะดูน่าสงสารเพียงใดแต่ไอ้เดนนรกสองคนก็ไม่คิดจะปล่อยเธอแม้แต่น้อย
“ปล่อยน่ะปล่อยแน่ แต่ขอพี่เล่นสนุกๆกับน้องซักคืนก่อนนะ 555” เมื่อเห็นว่ามันไม่ปล่อยเธอแน่ๆแล้วเธอจึงฮึดสู้ดิ้นรนพยายามเปิดประตูอีกครั้ง แต่ไอ้จ๋อยไวกว่าออกแรกต่อยไปที่หน้าท้องเต็มแรง ทำเอาน้องผิงต้องเอามือกุมหน้าท้องตัวงอด้วยความจุก
“บอกดีๆไม่ชอบ ชอบให้เจ็บตัวก่อนหรือไง” แล้วรถกระบะสีดำทึบก็ขับออกไปจากลานจอดรถมุ่งขับตรงออกไปนอกเมืองโดยที่มีน้องผิงนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ข้างใน
หลังจากการแข่งขันจบลง ขณะที่กำลังเก็บข้าวของเพื่อจะกลับหอ ผมครุ่นคิดถึงน้องผิงที่รีบกลับบ้านก่อนที่การแข่งขันจะจบโดยที่ไม่ได้มีโอกาสได้คุยกันเลยแม้แต่คำเดียว คำถามเกิดขึ้นในใจว่าทำไมถึงรีบกลับนะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า และในระหว่างที่ผมคิดหาเหตุผลอยู่นั้นเอง ญาณสัมผัสของผมก็นิมิตเห็นภาพของรถกระบะสี่ประตูสีดำสนิทคันหนึ่งกำลังเลี้ยวเข้าม่านรูดซึ่งอยู่นอกตัวเมือง พอจอดรถเสร็จก็มีชายสองคนกำลังฉุดกระชากลากร่างอันบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งดึงเธอให้เข้าห้อง แต่เธอพยายามขัดขืนสุดชีวิตก็ถูกชายร่างผอมต่อยที่หน้าท้องของหญิงสาวเต็มแรงจนเธอฟุบลงกับพื้น จากนั้นพวกมันก็พากันหิ้วปีกพยุงเธอเข้าห้องสำเร็จ ผมพยายามเพ่งจิตเข้าไปดูใกล้ๆเพราะรู้สึกคุ้นหญิงสาวคนนั้นเสียเหลือเกิน ผมเพ่งมองอย่างตั้งใจและแล้วผมก็เห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นอย่างชัดเจน
“เฮ้ย นั่นน้องผิงนิ เธอกำลังมีอันตราย” ทันทีที่ผมรู้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือน้องผิง ญาณสัมผัสทำให้ผมรู้ว่าสถานที่นั้นอยู่ม่านรูดนอกเมือง ผมรีบวิ่งออกจากห้องพักนักกีฬาทันทีโดยไม่ลังเล จุดมุ่งหมายคือต้องรีบไปช่วยน้องผิงให้จงได้
ห้องพักในม่านรูด ไอ้สองเดนคุกประคองร่างน้องผิงให้นอนบนเตียง น้องผิงนอนขดตัวเอามือกุมหน้าท้องเพราะยังคงจุกเสียดจากที่โดนไอ้ผอมต่อยที่หน้าท้องของเธอ
ร่างของหญิงสาววัยใสในชุดนักศึกษาสีขาวกระโปรงจีบสีดำ ใบหน้างามพริ้งสวยหยดย้อยนอนอยู่บนเตียง ความสวยสดงดงามของเธอทำเอาไอ้จ๋อยที่ออกจากคุกได้ไม่นานนักถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ความหื่นกระหายบ้ากามแล่นเข้าสมอง ความหอมกรุ่นของกลิ่นกายหญิงสาวแสนสวยลอยแตะจมูก มันค่อยๆลูบไล้ท่อนแขนน้องผิงอย่างแผ่วเบาแต่น้องผิงก็พยายามสะบัดแขนหนี ไอ้จ๋อยไม่ลดละคลานขึ้นบนเตียงหมายจะเชยชมสาวสวยปานนางฟ้านางสวรรค์คนนี้ให้เต็มคราบ
“มึงจะทำอะไรไอ้จ๋อย” ไอ้เหี้ยมดึงแขนมันเอาไว้
“โธ่พี่เหี้ยม เกิดมาผมไม่เคยเห็นใครสวยเท่านี้มาก่อนเลย ขอผมเย็ดซักครั้งนะครับ ตายไปจะไม่เสียชาติเกิดเลย” ไอ้จ๋อยตอบพร้อมกับพยายามคลานไปหาน้องผิงต่อ แต่ไอ้เหี้ยมยังดึงแขนมันอีกครั้ง
“ไอ้จ๋อย มึงอย่าลืมสิว่าเรารับงานเค้าเอาไว้ อย่าทำให้เสียแผนสิ”
“โหพี่ เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางได้ค่าจ้างแค่พันกว่าเนี้ยนะ โคตรคุ้มเลยพี่ เงินที่ปล้นตะกี้ยังได้เยอะกว่าอีก พี่เหี้ยม ผมว่า เงินเราก็ได้มาแล้ว เรามาหาความสุขกับนางฟ้าคนนี้ดีกว่านะพี่นะ” คำพูดของไอ้จ๋อยทำให้ไอ้เหี้ยมลังเล เพราะมันก็อยากได้นางฟ้าคนนี้เหมือนกัน แต่ด้วยศักดิ์ศรีของเสือมันค้ำคอของมันอยู่ งานของผู้ว่าจ้างต้องทำให้สำเร็จ
“ไม่ เราต้องทำตามแผน” ไอ้เหี้ยมบอก ไอ้จ๋อยสุดแสนเสียดายนางฟ้าอยู่ในมือแท้ๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่มันก็ไม่ลดละความพยายามงั้นมันก็คงต้องทำอย่างอื่นแทนก็ยังดี
“ถ้าไม่ให้เย็ดงั้นทำอย่างอื่นได้ใช่ไหมล่ะ” ไอ้จ๋อยสะบัดมือของไอ้เหี้ยมที่จับแขนมันอยู่ แล้วคลานขึ้นไปนอนข้างตัวน้องผิงที่นอนคุดคู้หันหลังให้มัน
“มึงจะทำอะไรไอ้จ๋อย” ไอ้เหี้ยมถาม
“ผมไม่เย็ดมันหรอกน่าพี่ ถ้าแค่แตะเนื้อต้องตัวก็คงไม่มีปัญหาใช่ปะ” พูดจบได้จ๋อยก็ใช้มือของมันโอบกอดรวบเอวน้องผิงดึงร่างของเธอมาสวมกอดทางด้านหลังอย่างแนบแน่น เอวมันส่ายยิกๆไปตรงก้นของเธอจมูกก็ดอมดมกลิ่นน้ำหอมที่เธอพรมตรงซอกคอ
“ซู๊ดดด อ้า…หอมจริงๆน้องสาว” ไอ้จ๋อยสูดดมจนเต็มปอด ด้วยความพอใจ แต่น้องผิงสิ ตอนนี้น้ำตาอาบสองแก้ม เธอไม่อาจทำอะไรได้อีก เรี่ยวแรงแทบจะไม่เหลือ แถมยังคงจุกเสียดที่หน้าท้องอีก ได้แต่ปล่อยให้มันลวนลามตัวเธอโดยที่เธอทำอะไรไม่ได้เลย
ไอ้จ๋อยพยายามล้วงเข้าไปที่หน้าอกของน้องผิง แต่น้องผิงก็ใช้มือของเธอกอดอกแน่นไม่ยอมให้มันล้วงได้ ไอ้จ๋อยจึงเปลี่ยนมารูดกางเกงพร้อมกับกางเกงในลงเล็กน้อยแล้วใช้ลำเนื้อที่แข็งเต็มที่ถูไถไปตรงสะโพกของน้องผิงที่มีเพียงแค่กระโปรงและกางเกงในของน้องผิงเองปิดกั้นอยู่ แต่เธอเองก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งแข็งๆกำลังทิ่มตรงสะโพกของเธอ น้องผิงกัดฟันแน่น เธอแค้นใจที่เธอไม่อาจทำอะไรได้ ปล่อยให้มันเอาลำเนื้อซอยยิกๆที่ก้นของเธอ
“อู้ยย ก้นนิ้มดีจริงๆ ซี๊ด ไม่ไหวแล้ว เย็ดหีไม่ได้เย็ดมือก็ได้วะ” ไอ้จ๋อยพยายามดึงข้อมือของน้องผิงเพื่อที่จะให้เธอจับอวัยวะเพศของมันแต่น้องผิงขัดขืนกำมือแน่น พยายามดึงมือกลับ ขัดขืนไม่ยอมจับท่อนเอ็นของมันเป็นอันขาด ทำให้ไอ้จ๋อยเริ่มหงุดหงิด
“เล่นตัวจริงนะมึง ดีล่ะงั้นกูเย็ดปากมึงก็แล้วกัน” ไอ้จ๋อยถอดกางเกงพร้อมกับกางเกงในออกเสร็จมันจะเข้าไปหาน้องผิงแต่ไอ้เหี้ยมดึงมันแขนเอาไว้ก่อน
“พอแล้วไอ้จ๋อย เดี๋ยวเสียแผนหมด” ไอ้เหี้ยมบอก
“โธ่พี่เหี้ยม” ไอ้จ๋อยสุดแสนเสียดาย สาวสวยอยู่ตรงหน้าแท้ๆแต่ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อลูกพี่มันสั่งมาแล้วก็จำเป็นต้องพอแค่นี้ มันจึงเดินไปเก็บกางเกงของมันด้วยความหัวเสีย แต่ยังไม่ทันได้ใส่กางเกง เสียงยันประตูก็ดังขึ้นมา
ตึง ๆ ๆ โครมมมม เสียงยันประตูดังขึ้น สองสามครั้ง ประตูที่ล๊อกอยู่ก็เปิดออกจนได้
“น้องผิงพี่มาช่วยแล้ว” เสียงชายหนุ่มผู้ที่ยันประตูห้องรีบกระโจนเข้ามาในทันที
“ชะ ช่วยด้วย พ.พี่อาร์ท” เสียงน้องผิงนอนขดตัวอยู่บนเตียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างแผ่วเบา ชายที่บุกเข้ามาในห้องคือไอ้อาร์ทนั่นเอง
เมื่อเข้ามาในห้องได้ ไอ้อาร์ทเห็นน้องผิงนอนขดตัวอยู่บนเตียงนอน และไอ้จ๋อยตอนนี้ท่อนล่างเปลือยเปล่า ทำให้มันโมโหจัด รีบวิ่งตรงไปกระโดดถีบไอ้จ๋อยทันทีจนมันกระเด็นลอยไปชนกับผนังห้อง แล้วก็รัวหมัดใส่ไอ้เหี้ยมไม่ยั้งโดยที่มันทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่ไอ้อาร์ทจะซัดหมัดสุดท้ายเข้าโหนกแก้มไอ้เหี้ยมจนมันเซถลาไปกองบนโซฟา
จากนั้นไอ้อาร์ทก็ตรงไปกระทืบไอ้จ๋อยที่ยังคงนอนจุกอยู่ด้วยความโมโห โดยที่ไอ้จ๋อยได้แต่ใช้มือปกป้องที่หัวของมันเอาไว้แค่นั้น แต่แล้วเมื่อไอ้เหี้ยมตั้งตัวได้แล้วมันก็ตรงไปหาที่ไอ้อาร์ทกระชากคอของมันแล้วผลักให้ลงไปนอนกองกับพื้น
“ไอ้สัส มึงเอาจริงเหรอวะ” ไอ้เหี้ยมตะโกนด่าไอ้อาร์ท และเมื่อไอ้จ๋อยยันกายลุกขึ้นมาได้ก็ตรงไปเตะที่ปลายคางของไอ้อาร์ทจนมันสลบไปในทันที แต่ไอ้จ่อยก็ยังไม่หนำใจยังคงเตะมันอีกสองสามทีจนไอ้เหี้ยมมาห้ามมันเอาไว้
“พอแล้วไอ้จ๋อย มันสลบไปแล้ว” ไอ้เหี้ยมปรามไอ้จ๋อย
“ห้ามทำไมพี่ เอามันให้ตายเลย ไอ้เหี้ยเนี้ย” ไอ้จ๋อยยังคงแค้นไอ้อาร์ทอยู่พยายามพุ่งไปหาร่างที่สลบเหมือดของไอ้อาร์ทอีกครั้ง แต่ไอ้เหี้ยมก็ห้ามอีกครั้ง
“กูบอกว่าพอแล้วไง มันคงโมโหมึงนั่นแหละที่จะข่มขืนแฟนมัน ก็ดูสภาพมึงดิ เป็นกูๆก็โกรธ” ไอ้เหี้ยมบอก
“แล้วพี่ไม่แค้นมันเหรอ มันก็ต่อยพี่ตั้งหลายหมัดนะ” ไอ้จ๋อยถามด้วยความโมโห
“เออ กูก็แค้น แต่เก็บแรงเอาไว้แก้แค้นแบบอื่นดีกว่า นั่นไงแฟนมัน หึหึ” ไอ้เหี้ยมหันไปทางน้องผิง ไอ้สองเดนคุกมองหน้ากันอย่างรู้ใจ
“ไอ้จ๋อยกูขอก่อนนะ ส่วนมึงเฝ้าไอ้นี่ไว้นะ เผื่อว่ามันฟื้นขึ้นมาแล้วจะแผลงฤทธิ์อีก” พูดจบมันก็ค่อยๆก้าวขึ้นไปบนเตียง ตอนนี้น้องผิงยังพอมีเรี่ยวแรงบ้างก็เขยิบตัวหนีไปจนสุดหัวเตียง เธอมองไอ้อาร์ทความหวังสุดท้ายที่ตอนนี้นอนสลบไสลอยู่อย่างหมดหวัง
“หึหึ อีหน้าสวย กูจะบอกมึงให้เอาบุญนะ คนที่จ้างกูมาฉุดมึงก็คือไอ้เหี้ยนี่แหละ มันจะเล่นบทพระเอกช่วยมึง ความจริงกูเป็นคนพูดจริงทำจริง รับงานใครแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ แต่ไอ้เหี้ยนี่แม่งจ้างโคตรถูกแต่เสือกต่อยจริงอีก สภาพมันเลยเป็นแบบที่เห็นนี่แหละ มึงเลยจะต้องมารับกรรมแทนมัน หึหึหึ” ไอ้เหี้ยมบอกน้องผิงพร้อมๆกับค่อยๆคลานเข้ามาหาน้องผิงเรื่อยๆ
“พี่ งั้นหนูให้เงินพี่อีกนะ แต่พี่อย่าทำอะไรหนูเลยนะ ปล่อยหนูไปเถอะพี่ หนูขอร้อง” น้องผิงยกมือไหว้ขอร้อง แต่ดูเหมือนว่าไอ้เหี้ยมจะไม่สนแล้ว
“เงินกูก็จะเอา ตัวมึงกูก็จะเอา” พูดจบ ไอ้เหี้ยมก็จับข้อเท้าของน้องผิงแล้วดึงลงมาพรวดเดียวร่างของเธอไถลลงมาตามแรงดึงแล้วไอ้เหี้ยมก็คลานขึ้นไปคร่อมตัวน้องผิงอย่างง่ายดาย
น้องผิงอ่อนแรงเกินกว่าที่จะปัดป้องอะไรแล้ว ความหวังเลือนราง ได้แต่ทำใจยอมรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมรีบวิ่งออกมาจากโรงยิมอย่างเร็วจี๋ เป้าหมายคือต้องไปช่วยน้องผิงให้ได้ ผมสับขาวิ่งอย่างเร็วไว ฉับๆๆๆ แต่ก็ได้ไม่นานความเร็วก็ค่อยๆลดลงๆและก็มาหยุดกึกเพราะผมหายใจไม่ทัน
แฮกๆๆๆๆ ผมออกวิ่งได้แค่ 2 โลกว่าๆก็หอบแล้ว นั่งทรุดไปกองกับพื้น อะไรวะ ผมเปิดกายสัมผัสแล้วนะทำไมมันได้แค่นี้เองเหรอมันไม่ต่างกับตอนไม่มีเลยซักนิด อ้าวลืมไปกายสัมผัสมันเอาไว้สู้กับคนนิหว่าไม่มีประโยชน์เอาซะเลยจริงๆ และที่น่าเขกหัวตัวเองก็คือผมลืมไปว่าผมเอาไอ้เก๋ามาด้วย แต่จอดไว้ที่ลานจอดรถใกล้โรงยิม แต่ผมดันวิ่งพรวดออกมาเสียนี่ ผมได้แต่ด่าตัวเองเพราะความโง่ของตัวเอง
แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะที่นี้ วิ่งต่อก็อีกนานกว่าจะถึง วิ่งกลับไปเอาไอ้เก๋าอย่างเดียวผมคิด เฮ้ย….. ถ้าได้รักยมแบบพี่เอกก็น่าจะดีเพิ่มพลังให้ตัวเองแล้ววิ่งไปช่วยนางเอกแปบเดียวก็ทันเวลาแล้ว กายสัมผัสฉันทำไมมันอ่อนแบบนี้นะ ไร้ประโยชน์สิ้นดี
(ปล.รักยมจากเรื่องรักยม แต่งโดยท่าน assassin007)
ผมไม่มีเวลาคิดมากอีกแล้ว ผมต้องกลับไปเอาไอ้เก๋ แต่แล้วผมก็เห็นชายเสื้อส้มขับมอเตอร์ไซด์ผ่านมา ข้างหลังมีเบอร์69 สกรีตแปะอยู่ ผมไม่รอช้ารีบโบกโดยทันใด และเมื่อพี่เสื้อส้มจอดอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมรีบขึ้นนั่งคร่อมรถข้างหลังพี่เสื้อส้มนั่นทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยขออนุญาตใดๆจากพี่เขาเลย
“พี่ ไปโรงแรมสมสุข69ด่วนครับ“
“ได้ครับ” พี่เสื้อส้มวินมอเตอร์ไซด์ประจำซอยแถวนั้นออกรถล้อจนล้อฟรีบิดคันเร่งจนมิดมุ่งหน้าไปยังม่านรูดที่น้องผิงกำลังรอความช่วยเหลืออยู่
“มึงนี่สวยจนน่าเย็ดจริงๆเลยนะ” ไอ้เหี้ยมชมน้องผิงในขณะที่มันคร่อมตัวเธออยู่ น้องผิงได้แต่เอียงหน้าหนีน้ำตาเริ่มไหลออกมาอาบสองแก้ม เธอไม่อาจหลบหนีจากเหตุการณ์นี้ได้เลยเพราะไอ้เหี้ยมนั้นมีแรงมหาศาลเกินกว่าที่เธอจะสู้ได้ แถมยังมีไอ้จ๋อยคุมเชิงเป็นกำลังเสริมอยู่
ไอ้เหี้ยมจ้องมองสองเต้าอวบที่เบียดแน่นอยู่ในเสื้อนักศึกษาแล้วกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ มันอดใจไม่ไหวค่อยๆใช้มือลูบไล้ไปตามเรือนร่างของน้องผิงแล้วมาหยุดตรงที่หน้าอกของน้องผิง มันบีบขยำหน้าอกของน้องผิงอย่างมันมือแม้ว่าจะอยู่แค่ภายนอกเสื้อนักศึกษา
น้องผิงน้ำตาไหลพรากเพราะถูกไอ้เหี้ยมลวนลาม ดูเหมือนว่าไอ้เหี้ยมจะไม่สงสารเธอเลยซักนิด แต่กลับยิ้มอย่างสะใจมากกว่า ไอ้เหี้ยมไม่รอช้าอีกแล้ว มันจึงเริ่มแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของน้องผิง
ไอ้เหี้ยมใช้เวลาอยู่พอสมควรก็แกะไม่ออก นั่นอาจจะเพราะความฟิตของเสื้อนักศึกษาที่น้องผิงใส่อยู่ มันทำให้ไอ้เหี้ยมหงุดหงิด
“แกะยากชิบหาย ดึงแม่งเลย”
“แคร็ก” พูดจบไอ้เหี้ยมก็กระชากเสื้อนักศึกษาของน้องผิงจนกระดุมหลุดกระเด็นไปคนละทิศละทาง
“แคร๊ก” ไอ้เหี้ยมกระชากอีกครั้ง ทำให้กระดุมหลุดออกทั้งหมด
“นมมึงใหญ่ดีจริงๆอีหน้าสวย” ไอ้เหี้ยมชมเธอ แต่นั่นไม่ทำให้น้องผิงภูมิใจเลยซักนิด เธอได้แต่เอียงหน้าหลับตาเพราะไม่อยากเห็นการกระทำของไอ้เหี้ยม
ไอ้เหี้ยมมองดูน้องผิงไม่ขัดขืนแล้วก็ได้ใจ มันจึงค่อยๆเลิกชายกระโปรงนักศึกษาของน้องผิงขึ้นช้าๆจนเรียวขาขาวเนียนของน้องผิงค่อยๆโผล่ขึ้นทีละนิดๆ
“หูยขาวชิบ” ไอ้เหี้ยมชมและยังคงเลิกชายกระโปรงขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดกางเกงในสีดำที่ปกปิดอวัยวะสำคัญก็ปรากฏต่อหน้าไอ้เหี้ยม มันกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ก่อนจะเงยมองหน้าน้องผิงซึ่งตอนนี้น้ำตาเริ่มไหลพรากออกมาจนอาบสองแก้มเธอแล้ว
“หึหึ” ไอ้เหี้ยมหัวเราะในลำคอ ก่อนจะใช้นิ้วมือเกี่ยวที่ขอบกางเกงในของน้องผิงและดึงพรวดลงมาตามเรียวขาของเธอจนหลุดออกจากปลายเท้าแล้วโยนทิ้งไป
ด้วยความตกใจ ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มือของน้องผิงก็รีบดึงชายกระโปรงกลับมาคลุมท่อนล่างของเธอทันทีโดยอัตโนมัติ สองมือกุมตรงระหว่างขาของตนเอาและหนีบขาแน่น นี้คือการดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายของเธอแล้ว ทั้งไอ้เหี้ยมและไอ้จ๋อยจึงไม่ทันได้เห็นของสงวนของเธอ
แม้ว่าไอ้เหี้ยมจะไม่ทันได้เห็นของสงวนของน้องผิงก็ไม่เป็นไร มันลุกขึ้นยืนแล้วปลดเข็มขัด รูดซิบกางเกงและถอดออกพร้อมกับกางเกงในออกในพรวดเดียว ทำให้ท่อนเอ็นขนาดราวๆข้อมือเด็กของไอ้เหี้ยมก็โผล่ออกมา น้องผิงที่เคยเห็นอวัยวะเพศชายเป็นครั้งแรก ก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ตะลึงมองท่อนเนื้อที่แข็งเต็มที่นั่น และเมื่อไอ้เหี้ยมทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงปลายเท้าของเธอ น้องผิงรู้สึกกลัวมากขึ้นจึงเอ่ยปากขอร้องมันอีกครั้ง
“พี่ หนูขอร้อง ปล่อยหนูไปเถอะนะพี่ อย่าทำอะไรหนูเลย” ไม่มีคำพูดจากปากไอ้เหี้ยม มีแต่รอยยิ้มที่ดูหื่นกระหายออกมาจากมุมปาก จากนั้นมันก็ใช้มือจับไปที่หัวเข่าของน้องผิงและออกแรงกางขาออก
“อย่า..” เสียงน้องผิงร้องออกมาได้แค่นั้น เธอไม่อาจสู้แรงไอ้เหี้ยมได้ ขาทั้งสองข้างจึงกางออกแล้วไอ้เหี้ยมก็แทรกเข้ามาตรงระหว่างขาของน้องผิงได้สำเร็จ
ตอนนี้มีเพียงมือทั้งสองข้างที่จับชายกระโปรงปิดตรงระหว่างขาของเธอเท่านั้นที่เป็นปราการสุดท้าย แต่นั้นก็ปกป้องความสาวของเธอได้เพียงครู่เดียว เมื่อไอ้เหี้ยมดึงมือของเธอให้กางออกแล้วจับกดไว้ที่ข้างลำตัวทั้งสองข้าง พร้อมกับดันตัวเข้ามาอีกจนขาของน้องผิงพาดตรงหน้าขาของไอ้เหี้ยม ทำให้ชายกระโปรงที่ปิดระหว่างขาของน้องผิงร่นสูงขึ้นเรื่อยๆ
อีกแค่ไม่กี่มิลเท่านั้นไอ้เหี้ยมก็จะเห็นความสาวที่ไม่เคยมีชายใดได้เห็นมาก่อนก็จะโผล่ออกมาให้เห็นอยู่แล้ว แต่จู่ๆ ประตูที่ไอ้อาร์ททำตัวล็อกพังเมื่อตะกี้ ก็มีใครบางคนเปิดออกมาอีกครั้ง
“น้องผิง พี่มาช่วยแล้ว” เสียงของผมตะโกนดังลั่นห้อง ทำให้ไอ้เหี้ยมหยุดการกระทำของมันทันทีแล้วหันมามองผมด้วยความตกใจ
“พี่พล ช่วยด้วย ช่วยผิงด้วย” น้องผิงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งผมไม่รอช้าพุ่งตัวไปหาไอ้เหี้ยมแล้วกระโดดถีบมันทันที จนร่างของมันกลิ้งตกไปข้างเตียงนอนทันที จากนั้นผมก็รีบประคองน้องผิงให้ลุกขึ้น
“ไปน้องผิง รีบหนีเร็ว” ผมรีบฉุดมือน้องผิงเตรียมวิ่งหนีออกจากห้อง แต่ไอ้จ๋อยไวกว่าโดดเข้ามาขวางประตูเอาไว้
“มึงจะหนีไปไหน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้จ๋อยปิดประตูห้องอีกครั้งพร้อมกับยืนขวางประตูเอาไว้ และตอนนี้ไอ้เหี้ยมก็ยันกายลุกขึ้นมาได้แล้ว
“ไอ้สัด มึงถีบกูเหรอ” ไอ้เหี้ยมพุ่งตัวมาทางผมและน้องผิง พร้อมกับง้างหมัดมา ความไวของผมเนื่องจากกายสัมผัส ทำให้ผมผลักน้องผิงให้หลบไปได้แต่ตัวเธอก็ล้มลงบนเตียง ไอ้เหี้ยมรัวหมัดต่อ ทำให้ตัวผมหลบไม่ทันเนื่องจากเสียหลักจากที่ผลักน้องผิงเมื่อตะกี้ ถูกไอ้เหี้ยมต่อยเข้าที่เบ้าตาเต็มๆ ล้มไปกองกับพื้นอีกคน
ไอ้จ๋อยเห็นว่าผมพลาดท่าแล้ว จึงพุ่งไปจับตัวน้องผิงเอาไว้ ส่วนไอ้เหี้ยมก็สาวหมัดต่อยผมรัวๆได้สี่ห้าหมัด แต่พอผมตั้งตัวได้ก็กำหมัดสวนไปที่ปลายคางของไอ้เหี้ยมแบบเต็มๆ จนไอ้เหี้ยมถึงกับหน้าหงายเซถอยหลังออกมา ผมอาศัยจังหวะนี้รัวหมัดใส่ไอ้เหี้ยมไม่ยั้ง ทั้งเตะทั้งต่อย โดยที่ไอ้เหี้ยมได้แต่ตั้งการ์ดป้องกันเท่านั้น
“ไอ้จ๋อย มึงมาช่วยกูหน่อยสิโว้ย ยืนดูอยู่นั้นแหละ” เสียงไอ้เหี้ยมตะโกนสั่งไอ้จ๋อย ซึ่งไอ้จ๋อยก็ไม่รอช้าผลักน้องผิงไปที่เตียงแล้วกระโจนเข้าใส่ผมทันที ก็อย่างที่รู้กันครับว่ากายสัมผัสจะทำให้ร่างกายผมแข็งแรงขึ้นกว่าศัตรูก็จริง แต่ถ้าเจอรุมแบบนี้ก็แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย
ไอ้จ๋อยจับผมล๊อคจากด้านหลัง ผมพยายามดิ้นอยู่จนเกือบจะหลุดอยู่แล้ว ก็ถูกไอ้เหี้ยมต่อยที่หน้าทันที คราวนี้ไอ้เหี้ยมเอาคืนผมแล้ว มันต่อยซ้ายต่อยขวาเข้าที่หน้าผม จนเลือดกลบปาก หางคิวแตก ตาบวมปิดทั้งสองข้าง มันต่อยผมจนผมเกือบจะสลบอยู่แล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงน้องผิงตะโกนเรียกชื่อผมซะก่อน ผมคงนอนกองกับพื้นไปแล้ว
“พี่พล พี่พล อย่าทำอะไรพี่พลนะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที” เสียงน้องผิงทำให้ผมตัวยังคงสติ
“นะ…น้องผิง..นะ…หนีไป หนีไปเร็ว” ผมรวบรวมแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมด ใช้ท้ายทอยโขกไปที่หน้าของไอ้จ๋อยเต็มแรง จนมือที่จับผมอยู่หลุดออก ผมจึงรีบพุ่งตัวล๊อกคอไอ้เหี้ยมเอาไว้
“วิ่งน้องผิง รีบหนีไปเร็ว” ผมตะโกนบอกน้องผิงอีกครั้ง
“แต่…” น้องผิงลังเลไม่กล้าทิ้งผมเอาไว้ ไอ้จ๋อยเอามือกุมที่จมูกเอาไว้เพราะโดนหัวผมโขกเต็มๆ แต่มันก็คงไม่ปล่อยให้น้องผิงออกจากห้องนี้ไปแน่ มันจึงทำท่าจะไปจับตัวน้องผิง แต่ผมไวกว่ารีบใช้มืออีกข้างคว้าตัวไอ้จ่อยรั้งเอาไว้ กลายเป็นว่ามือข้างหนึ่งผมรัดคอไอ้เหี้ยม ส่วนอีกข้างจับตัวไอ้จ๋อยเอาไว้
“เร็วน้องผิง ไม่ต้องห่วงพี่ รีบหนีไปก่อน พี่จะรั้งมันไม่อยู่แล้ว เร็ว” แรงผมแทบจะหมดแล้วเพราะตั้งยันทั้งสองคนนี้เอาไว้ให้ถึงที่สุด
น้องผิงน้ำตาไหลพรากที่เห็นสภาพอันสะบักสบอมของผมพยายามยื้อยุด ไอ้โจรหื่นทั้งสองคนไม่ให้ทำร้ายเธอ แต่สิ่งที่เธอสามารถทำได้ตอนนี้คือ หนีออกจากที่นี่ก่อน
“ผิงจะตามคนมาช่วยพี่พล” พูดจบน้องผิงก็รีบวิ่งออกไปนอกห้องพร้อมกับตะโกนร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย
ในที่สุดผมก็หมดห่วงเสียที
ผมหมดแรงที่จะรั้งพวกนี้แล้ว แขนที่จับพวกมันล๊อกอยู่ก็ค่อยๆคลายออก และทันที่ที่พวกมันหลุดออกมาได้ ผมโดนพวกมันรุมสะกรัมอย่างหนัก ทั้งเตะ ต่อย ถีบ กระทืบ และสิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้คือผมโดนของแข็งๆซึ่งน่าจะเป็นโต๊ะไม้ฟาดที่หัวเต็มแรงจนผมสลบเหมือดไม่รู้สึกตัวอีกเลย