ตำนานนักรัก ตอนที่ 18

ตำนานนักรัก ตอนที่ 18

ตำนานนักรัก ตอนที่ 18

“ถ้างั้นที่ลุงท่านไปอยู่ศูนย์ คงเพราะเรื่องนี้ใช่มั๊ยครับ..”

ผมคิดว่าคราวนี้คงเดาถูกแน่ จึงพูดออกไป แต่คุณดากลับอมยิ้มพร้อมส่ายหัว แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา ลุงเสงี่ยมก็เดิน
เข้ามาถึงที่ศาลาเสียก่อน

ผมเลยอดรู้เลยว่าท่าส่ายหัวแล้วอมยิ้มเหมือนมีเลสนับ ของคุณดานั้นมันหมายความว่ากระไร เพราะคุณลุงเสงี่ยมยังเดินเข้ามา
ไม่ถึงศาลาเลย แกก็กวักมือพร้อมส่งเสียงเรียกให้ผมไปหา จนเมื่อผมรีบเดินเข้าไปใกล้ๆ ลุงเสงี่ยมก็พูดกับผมด้วยเสียงเบาๆ
เหมือนไม่อยากให้คุณดารุ้ว่าแกพูดอะไรกับผม

“ลุงจะให้ผมขึ้นไปเอามีดอีโต้ มาทำไมครับ ผมถามด้วยความสงสัย เพราะคิดว่าหูตัวเองไม่ฝาดแน่

“เอาเหอะน่า…ทองดีไปหยิบมา ดูด้วยนะว่ามันคมมั๊ย…หาอันที่คมๆมาให้ลุง…”

ลุงเสงี่ยมยืนยันคำพูดอีกครั้ง ผมก็รีบขึ้นเรือน แล้วเข้าไปในครัว เห็นพี่ชิตกำลังปรุงอาหารอยู่พอดี แกเงยหน้าขึ้นมาทักผม
ผมก็เลยทักตอบแบบรีบเร่ง แล้วมองหามีดอีโต้ตามที่ลุงเสงี่ยมต้องการ

“หาอะไรครับคุณทองดี…” ดูเหมือนเป็นครั้ง
แรกที่พี่ชิตเรียกชื่อผมเต็มๆ คงซาบซึ่งใจกระมังที่ผมยอมให้แกมีความสัมพันธ์
เป็นครั้งสุดท้ายกับคุณดาในคืนนี้

“หามีดอีโต้ครับ..พี่ชิตรู้มั๊ยอยู่ไหน…” ผมพูดอย่างเร่งรีบ กลัวว่าลุงเสงี่ยมแกจะรอนาน แต่พอพี่ชิตได้ยินว่าผมหาอะไรอยู่
แกถึงกับสะดุ้ง หน้าถอดสี คงตกใจว่าผมจะหามีดไปทำอะไร

“ลุงเสงี่ยมแกจะเอาไปทำอะไรไม่รู้ครับ…”

แต่พอได้ยินประโยคต่อมาของผม พี่ชิตค่อยสีหน้าดีขึ้น แกยิ้มแล้วลุกเดินไปเปิดตู้ไม้เล็กๆดึงออกมา ในนั้นบรรจุมีดพร้าหลาย
ขนาดมากมาย แกเลือกหยิบมีดใหญ่หัวตัดอันหนึ่งมาส่งให้ผม ผมก็คว้ามันเดินออกจากครัว หลังจากกล่าวขอบใจแกไป

“ลุงให้ผมเอามีดมาทำไมครับ…”ผมถามลุงเสงี่ยมอีกครั้ง แต่แกอมยิ้มไม่ยอมตอบตรงคำถาม กลับเร่งให้ผมพยุงแกเดินเข้าไป
หลังเรือน

“ทองดี เอามีดอีโต้ เฉือนเนื้อไม้ต้นนั้นเป็นแว่นๆบางๆ สักสองแว่นสิ…”

ลุงเสงี่ยมร้องบอก พร้อมชี้มือไปยังต้นไม้พุ่มเตี้ยๆที่ปลูกอยู่ในกระถางมังกรใบใหญ่ให้ผมดู ผมก็เดินเข้าไปทำตามคำสั่งของ
ลุงแกด้วยความงุนงง ต้นไม้ที่ปลูกในกระถางใบใหญ่นั้น ดูทรงใบ แล้วมันก็คล้ายๆต้นตะโกดัด ที่ผมเคยเห็นปลูกเป็นไม้
บอนไซในบ้านเศรษฐี แม้เนื้อไม้จะเหนียวจนยากแก่การเฉือนมันออกมาเป็นแผ่น เป็นแว่นบางๆ แต่ที่สุดผมก็ทำได้จนสำเร็จ
จึงยื่นแว่นไม้ขนาดเท่าหัวนิ้วโป้งมือไปให้ลุงเสงี่ยม

“เอ็งเก็บไวให้ดี.คืนนี้ก่อนนอน กินมันเข้าไป เคี้ยวให้ละเอียดก่อนนะ มันขมนิดหน่อย แต่พยายามกินมันเหอะ..เชื่อลุง…”

แม้ลุงเสงี่ยมไม่ได้บอกว่าให้เชื่อลุง ผมก็พร้อมจะเคี้ยวและกินแว่นไม่นั้นเข้าไปตามที่แกบอกอยุ่แล้ว เพราะเชื่อว่าสิ่งที่แกสั่ง
นั้น แกคงหวังดีกับผมแน่ แต่พอจะถามว่าให้กินเพื่ออะไร แกกลับอมยิ้มไม่ยอมตอบ แล้วพาผมเดินกลับไปที่ศาลาที่คุณดานั่ง
อยู่ตามเดิม

“ไปดูอะไรที่หลังเรือนกับคุณพ่อมาคะ…ทองดี….”

พอมาถึงคุณดาก็ร้องถาม แต่ลุงทองดีกลับกระแอมเบาๆขัดขึ้นมาก่อนที่ผมจะตอบ จนผมต้องหันไปมองหน้าแก เห็นว่าลุงแก
ลอบขยิบตาให้ เท่านั้นผมก็รู้แล้วว่าแกคงไม่อยากให้ผมบอกความจริงกับคุณดาแน่

“เอ้อ..คุณลุงพาผมไปดูต้นไม้เก่าๆที่ปลูกอยู่น่ะครับ…”

ผมแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ คุณดาก็ไม่ติดใจสงสัย พอดีกับพี่ชิตมาตะโกนเรียกที่หัวบันได บอกว่าจัดสำรับกับข้าวมือเย็นเรียบร้อย
แล้ว พวกเราสามคนจึงค่อยเดินกลับขึ้นไปบนเรือน ช่วงที่กำลังเดินไปยังเรือนไทยนั้น พอคุณดาเผลอ ลุงเสงี่ยมก็กระซิบ
บอกผมว่าหลังจากทานข้าวเสร็จ ให้เคี้ยวเศษไม้ทั้งสองแว่นนั้นตามไปเลย

พอผมพาลุงเสงี่ยมไปถึงโต๊ะอาหารที่ทำจากปุ่มไม้มะค่าอายุเกือบร้อยปี ที่ลงแชล็คไว้อย่างสวยงาม แต่ทว่าพี่ชิตจัดสำรับ
อาหารไว้เพียงสามที่เท่านั้น

“อ้าว..แล้วเอ็งล่ะ ไอ้ชิต ไม่กินกับชั้นหรอกรึ…” ลุงเสงี่ยมออกปากถามด้วยความแปลกใจ

“ไม่หรอกครับ เชิญคุณท่านทานกันไปก่อน…ก่อนกินข้าวผมขอดวดไอ้นี่ก่อนครับ…”

พี่ชิตตอบพร้อมกับยกขวดบรั่นดีเฮ็นเนสซี่ขึ้นมาวางบนโต๊ะให้ดู ผมถึงกับอึ้งว่าคนบ้านนอกแบบพี่ชิตนั้น มีรสนิยมกินเหล้า
ขนาดนี้เชียวหรือ แต่พอแกรินเหล้าที่เหลืออยู่เพียงครึ่งขวดออกมา ผมถึงกับงงเมื่อได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ระเหยออกมา มัน
เหมือนเหล้าโรงเหล้าขาวที่เคยเห็นเคยได้กลิ่น แต่ทว่าสีของเหล้ากับแดงคล้ำต่างกันออกไป

“เหล้าอะไรน่ะครับพี่ชิต..” ผมร้องถามด้วยความแปลกใจ

“อ๋อ..เหล้ายาดองน่ะครับคุณทองดี พี่กินบำรุงร่างกาย แก้ปวดเมื่อย วันละเป๊กสองเป๊กทุกวัน…” พี่ชิตตอบยิ้มๆ แล้วร้องถาม
ผมว่าจะลองดูสักเป๊กมัย

“ขอทานข้าวก่อนดีกว่าครับ…” ผมรีบตอบ แล้วหายสงสัยไปเลยว่าทำไมพี่ชิตที่มีอายุ50กว่าปีแล้ว ถึงยังได้คล่องแคล่วแข็ง
แรงไม่ต่างไปจากหนุ่มๆ คงเป็นเพราะไอ้เหล้ายาดองที่แกกินเป็นประจำแน่

ผมตอบเสร็จก็ลงมือทานข้าวปลาอาหารที่พี่ชิตจัดเตรียมให้ มีทั้งปลาช่อนนาต้มข่าใส่หัวปลี ทั้งผัดผักบุ้งไฟแดง ทั้งไข่เจียว
หมูสับ ดูน่าตาน่าทานจริงๆ พอตักใส่ปาก ผมก็ยอมรับเลยว่าพี่ชิตมีฝีมือ ไม่ต่างกับพ่อครัวมือดีตามร้านอาหารใหญ่ๆ ใน
กรุงเทพเลยแม้นิด จนลุงเสงี่ยมออกปากชม

“ขอบใจนะเอ็ง..รสมือไม่ตกเลยว่ะ…” ลุงเสงี่ยมพูดพร้อมตักน้ำแกงต้มข่าใส่ปาก ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

“ไม่ต้องขอบใจผมหรอกครับท่าน..ผมต่างหากที่ต้องขอบพระคุณท่าน ที่ให้ที่อยู่ที่ทำกินกับผมมาตั้งแต่เยาว์…”

พี่ชิตตอบกลับด้วยเสียงนอบน้อม ลุงเสงี่ยมได้ฟังก็หัวเราะอย่างมีความสุข แล้วชวนผมและคุณดากับพี่ชิตคุยเรื่องต่างๆไป
จนทานข้าวอิ่ม ในขณะที่พี่ชิตก็ดื่มเกินกว่าสองเป๊กไปแล้ว

“ไอ้ชิต…แกอย่าคิดอะไรมากเลยวะ…บ้านหลังนี้ ชั้นตั้งใจไว้แล้วว่า จะยกให้แกด้วยซ้ำ เพราะแกเป็นคนดูแลรักษา พวกชั้น
แค่ขอมาอาศัยพักผ่อนเป็นครั้งคราวเท่านั้น..เข้าใจมั๊ย..”

ผมแทบไม่อยากเชื่อ ที่จู่ๆลุงเสงี่ยมประกาศจะยกบ้านเรือนไทยที่แกสร้างขึ้นมาในที่ดินมรกดเก่า ที่เหลืออยู่เพียงแปลงเดียว
ให้กับพี่ชิตหน้าตาเฉย เพราะคำนวณดูแล้ว ทั้งบ้านและที่ดิน มันไม่น่าจะต่ำกว่าหลักสองสามล้านบาททีเดียว พี่ชิตถึงกับ
ก้มลงไปกราบที่ตักลุงเสงี่ยมด้วยความซาบซึ้ง

“เอาไว้กลับกรุงเทพก่อน จะให้ทนายทำเอกสารให้เรียบร้อย แต่ขอไว้อย่างนึงนะ..แกห้ามขายให้ใคร จนกว่าชั้นจะตายเสีย
ก่อน..” ลุงเสงี่ยมพูดจบก็หันไปมองรอบๆบ้านอีกครั้ง แกคงมีความหลังกับบ้านหลังนี้พอสมควรทีเดียว

“ผมสัญญาครับ..ผมจะเก็บรักษาบ้านหลังนี้จนวันตายเช่นกัน…”

“เออ..ทองดี..พาลุงไปพักผ่อนได้แล้ว..แม่ดาอยู่คุยกับเศรษฐีใหม่ไปก่อนนะ พ่อขอตัว…ฮ่าๆๆ ”

ลุงเสงี่ยมพูดเสร็จก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี แม้ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมแกทิ้งให้คุณดาอยู่กับพี่ชิตเพียงสองต่อสอง ในขณะที่
พี่ชิตกำลังกินเหล้ายาดองแบบนั้น แต่ก็คิดว่าคนอย่างลุงแกคงวางแผนอะไรไว้แน่ จึงไม่อยากซักถาม พอผมลุกขึ้นยืนเตรียม
เข้าไปพยุงแขนลุงแกพากลับห้อง พี่ชิตก็รินเหล้าใส่แก้วใสๆใบเล็กๆ แล้วยื่นมาให้

“สักเป๊กก่อนค่อยไปนะครับคุณทองดี…”

[post]
คราวนี้ผมปฏิเสธไม่ออก เพราะทานข้าวอิ่มแล้ว ตามข้ออ้างที่บอกไปก่อนหน้านี้ จึงยื่นมือไปรับ แล้วกระดกเข้าปากทันที ก็รุ้สึก
ร้อนวาบตั้งแต่ลำคอจนลงๆไปในท้อง ด้วยดีกรีที่ร้อนแรงของเหล้ายาดองที่พี่ชิตยื่นมาให้ จากนั้นก็พาลุงเสงี่ยมเดินออกมา
จนใกล้จะถึงห้องนอน ลุงแกก็เตือนให้ผมกินแว่นไม้ที่ถากออกมาเมื่อครู่ ผมจึงหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วใส่ปากเคี้ยว
จนได้รสขมๆฝาดๆ ก่อนจะกลืนมันลงไป

“ทองดี..เอ็งรู้มั๊ยว่าแม่หนูยิ้มของลุงน่ะ..สวยกว่าแม่ดาตอนนี้ขนาดไหน…”

จู่ๆลุงเสงี่ยมก็รำลึกถึงความหลัง และทำท่าจะเล่าเรื่องของป้าหนูยิ้มให้ผมฟังอีก แต่บอกตามตรงว่าขณะนั้นผมไม่มีอารมณ์
อยากรู้เรื่องป้าหนูยิ้มเลย เพราะใจมันคอยพะวงเป็นห่วงคุณดาต่างหาก จึงกระสับกระส่าย นั่งไม่ติด

“เป็นห่วงเมียละสิ…”

อากัปกิริยาของผม ไม่รอดสายตาลุงเสงี่ยมจนได้ แกร้องถามออกมากลั้วเสียงขำๆ เมื่อผมยอมรับว่าจริง แกก็ไล่ผมให้กลับ
มาก่อนเลยทั้งๆที่ยังไม่ทันล้มตัวลงนอน

“ไปดูเมียเอ็งไป..เดี๋ยวลุงนอนเองได้…ก่อนออกไป เปิดหน้าต่างให้ลุงดูวิววัดป่าโมกอีกครั้งก่อนนะ…”

ลุงเสงี่ยมพูดเสร็จก็ทิ้งตัวลง ค่อยๆนั่งบนเก้าอี้โยก จากนั้นหันหน้าไปทางหน้าต่างบานเล็กๆ ที่ผมเปิดออกไปทางด้านหลัง
เรือน จึงได้เห็นยอดศาลาของวัดป่าโมกจริงตามที่ลุงแกบอก พร้อมกับบึงบ่อขุดนาดใหญ่ แล้วจึงค่อยเปิดประตูเดินกลับไป
ที่โต๊ะอาหาร แต่พบว่ามีเพียงพี่ชิตคนเดียวเท่านั้น ที่กำลังนั่งดื่มเหล้ายาดองเพียงลำพัง

“อ่ะ..คุณดาไปไหนครับพี่ชิต…” ผมร้องถามด้วยความแปลกใจ แล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับพี่ชิต

“เห็นบอกว่าร้อนจะไปอาบน้ำก่อนน่ะ คงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยุ่ในห้องมั้ง…มากินยาดองกับพี่ดีกว่า…” พี่ชิตบอกเสร็จก็ยก
ขวดเหล้าเทน้ำสีแดงเข้มๆคล้ำๆ ลงในแก้วใสๆอีกใบ แล้วเลื่อนมาวางตรงหน้าผม

“อ่ะ..ดื่มเพื่อสุขภาพและความสุขในคืนนี้…ฮ่าๆ”

พี่ชิตยื่นแก้วของแก มาชนแก้วกับผมเสียงดังกริ๊ก แล้วต่างคนต่างกระดกใส่ปาก แล้วผมก็แปลกใจว่าคราวนี้ทำไมดีกรีร้อน
แรงของเหล้า มันไม่ทำให้ผมรู้สึกร้อนวาบเหมือนครั้งแรก รสชาติเหล้ามันไม่บาดคอ กลับนุ่มน่าดื่มไปอย่างประหลาด คง
เพราะไอ้แว่นไม้ที่ลุงเสงี่ยมให้ผมกินไปแน่ๆ ที่ทำให้เป็นแบบนี้ หลังจากที่พี่ชิตรินเหล้ายาดองให้ผมดื่มไปอีกเป็ก แกก็อ้ำๆ
อึ้งๆ เลียบเคียงถามออกมา

“แล้วคืนนี้..คุณทองดีจะให้พี่..ทำยังไงครับ..” แม้พี่ชิตจะไม่กล้าพูดออกมาตรงๆว่า ผมจะให้แกเย็ดคุณดายังไงก็ตาม แต่ผม
ก็เข้าใจว่าแกหมายถึงอะไร

“อ้อ..ผมจะแกล้งทำเมา แล้วให้คุณดาพาผมไปนอนก่อน..สักครู่พี่ชิตค่อยเข้าไปนะครับ..คุณดาแกจะได้ไม่อาย เพราะนึกว่า
ผมเมาหลับไม่รู้เรื่อง…”

ผมตอบออกไปตามตรง พี่ชิตได้ยินแล้วถึงกับยิ้มปากบาน พร้อมขอบอกขอบใจผม ที่ให้โอกาศแกอีกครั้ง พร้อมสัญญาเป็น
มั่นเหมาะว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆที่แกจะทำแบบนี้กับคุณดา จากนั้นก็คุยกันถึงเรื่องอื่นๆ จนกระทั้งคุณดาแต่งตัวเดินออก
มาจากห้องนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็แสร้งทำเป็นเริ่มเมา เหล้ายาดองขวดนั้นถูกดื่มกันไปจนเกลี้ยง พี่ชิตก็นำขวดใหม่
เข้ามาเพิ่ม คราวนี้มันบรรจุอยู่ในขวดแบล็คเรเบิ้ล

“ทองดี..เดี๋ยวก็เมาจริงๆหรอก…” คุณดารีบสอบถามผมทันที เมื่อพี่ชิตเดินออกจากวงไปหยิบเหล้ามาเพิ่ม

“ม่ายมาวหรอกที่รัก…” ผมแสร้งพูดเสียงยานคาง แล้วคว้าไหล่คุณดาดึงมากอด ในขณะที่พี่ชิตเดินกลับมาถึงโต๊ะพอดี

“มาพี่ชิต..รินมาอีก..พี่อย่ามาวก่อนน๊า…” ผมยื่นแก้วเหล้าไปให้พี่ชิตรินเติมใหม่ แล้วยื่นมืออกไปชนแก้วกับพี่ชิตค่อนข้าง
แรงจนเหล้ากระฉอก..

“พี่ชิตพอแล้ว..เดี๋ยวทองดีเมาจริงๆหรอก…” คุณดาร้องบอกพี่ชิตด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าผมจะเมาจริงๆ แล้วไม่สารถปก
ป้องเธอได้
“นิดหน่อยนะครับน้องดา…คุณทองดีคงไม่เมาหรอก…” พี่ชิตพูดพร้อมกับรินใหม่อีกแก้ว

“ช่ายผมไม่มาวหรอกที่ร๊ากกก..”

เสียงผมยานคางลากยาวขึ้น พูดพร้อมกับก้มหน้าลงไปจูบแก้มจูบเนินอกคุณดาต่อหน้าพี่ชิต เหมือนคนที่กินเหล้าเมาจน
ขาดสติควบคุม คุณดาก็ปกป้องทั้งมือทั้งหน้าของผม แต่สักพักเธอก็ถอนหายใจดังเฮือก เพราะปกป้องไม่ไหว เมื่อผมรุกเร้า
เธอหนักขึ้นแรงขึ้น โดยมีพี่ชิตนั่งมองจ้องตาแป๋ว

“สักเป๊กมั๊ยครับน้องดา บำรุงเลือดลมดี…”

พี่ชิตยื่นแก้วเหล้าตนเองส่งมาให้คุณดา เธออ้ำอึ้งตัดสินใจอยู่ครู่ใหญ่ ก็เอื้อมมือไปรับ แล้วกระดกมันเข้าปาก ก่อนทำท่าขน
ลุกขนชัน เสียงพี่ชิตก็หัวเราะฮาๆ ทาทางสนุกรื่นเริง ที่เห็นคุณดายอมดื่ม ส่วนผมก็รุกเร้าคุณดาหนักขึ้น ทั้งเบื้องบนและ
เบื้องล่าง จนเธอทำท่าอ่อนระทวย รีบขอเหล้าจากพี่ชิตมาดื่มย้อมใจอีกเป๊ก จนหน้าที่ตกแต่งเครืองสำอางค์เพียงบางๆเริ่ม
แดงปลั่ง ทั้งจากฤทธิ์เหล้ายาดอง และจากความกำหนัดที่ผมปลุกเร้า จนผ่านไปครู่ใหญ่ คุณดาก็เริ่มทนไม่ไหว นั่งก้นไม่
ติดพื้น ขยับส่ายยึกๆเมื่อโดนนิ้วผมกรีดผ่านกระโปรงยาวๆเข้าไปที่ร่องหี ซึ่งผมสัมผัสแล้วรุ้เลยว่าคุณดาไม่ได้ใส่อะไรไว้
ข้างใน

“อืยยย..ทองดี..ดาไม่ไหวแล้ว..พาดาไปนอนเหอะ…” คุณดาก้มปากมากระซิบที่หูผมเสียงกระเส่าๆ อ่อนระทวยทั้งหงี่เงี่ยน
และขวยเขิน เมื่อพี่ชิตคงได้ยิน จึงร้องบอกับผมอย่างใจร้อน

“คุณทองดี..พาน้องดาไปนอนก่อนเถอะ..เดี๋ยวทางนี้พี่จัดการเอง” พี่ชิตร้องบอกเสียงสั่นๆหื่นๆ ไม่แพ้กัน

“ด้ายพี่…โผมไปก่อนน๊า..”

ผมพูดจบก็ขยับลุกขึ้นยืนเซๆ โดยมีคุณดาเข้ามาประคอง นมอวบหยุ่นแนบสนิทกับสีข้างลำตัวผม แล้วพากันเดินโซเซ
ออกจากวงเหล้า โดยมีพี่ชิตมองตามด้วยสายตาหื่นๆวาวๆ จนออกมาพ้นวงเหล้า ใกล้ถึงประตูห้องนอน คุณดาจึงกระซิบถาม

“ทองดี..เมาจริงหรือแกล้งคะ…”คุณดาคงจะเริ่มสับสนจริงๆ เพราะในตอนแรกผมบอกว่าจะแกล้งเมา แต่ดูอาการตอนนี้
เหมือนผมเมาไปจริงๆ

“ม่ายมาวคร๊าบบบ..เอิ๊ก..”

ผมลากเสียงตอบยานๆ พร้อมทำท่าขย้อน ให้สมจริง คุณดาจึงรีบพากลับไปนอนบนเตียง ผมก็ทิ้งตัวลงนอนหงายแบบหมด
สภาพ ขาแขนกาง โดยมีคุณดายืนมองตาปริบๆ คราวนี้เธอคงคิดว่าผมเมาจริงๆ จึงเดินหายออกไปจากห้องนอน ผมก็นอน
อมยิ้ม ครู่ใหญ่เธอจึงเดินกลับมา แต่คราวนี้ไม่ได้เดินมาตัวเปล่า ในมือถือผ้าชุบน้ำเย็นๆมาเช็ดถูตามใบหน้าผม แล้วเพียง
ครู่เดียว พี่ชิตก็โผล่หัวเข้ามาในห้อง ผมรีบปรือตาหลับ

[/post]”ดาบอกให้รออยุ่นอกห้องก่อนไงคะพี่…”

คุณดาหันกลับไปร้องบอกเสียงแหลม ผมก็เดาเหตุการณ์ได้ทะลุปรุโปร่ง ตอนที่คุณดาเดินออกจากห้องเพื่อไปหาผ้า
ชุบน้ำมาเช็ดให้ผมนั้น คงโดนพี่ชิตดักรออยู่ แล้วคงเหมือนเดิม คงโดนพี่ชิตจู่โจมลวนลาม แต่เธอคงบอกว่าให้รอก่อน แล้ว
รีบเข้ามาดูอาการของผม แต่พี่ชิตใจร้อน ดันโผล่หัวเข้ามาเสียก่อน

“คุณทองดีคงเมาหลับไปไม่รู้เรื่องแล้วละ..ให้พี่นะครับน้องดา.” พี่ชิตไม่ฟังเสียงห้าม กลับผลุดผ่านประตูเข้ามาทั้งตัว

Share the Post:

Related Posts

แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู

เรื่องเสียว แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู เอิร์นนะคร้า เป็นสาวมหาลัยในเชียงใหม่นี้เองค่า เอิร์นเป็นสาวมหาลัยปีสองแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้ชายเลย ยุคนี้แล้วเนอะ ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะคะที่ล่าแต้ม เอิร์นเองก็กินมาเยอะเหมือนกันค่ะ สูงยาว ลำอวบ ใหญ่ยาว กินมาหมดแล้วค่า ชีวิตครั้งนึงเนอะ เรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องมีบ้างอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ และแน่นอนว่าเอิร์นเลยกินแต่วัยเดียวกัน รู้ตัวอีกทีได้แอบกินรุ่นใหญ่พี่แท็กซี่ซะอย่างนั้นเลยค่ะ ที่สำคัญไม่เคยเจอมังกรที่ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มาก่อน มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยความที่อยู่เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะ

Read More

จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว

เรื่องเสียว จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว “ตั้งกล้องเรียบร้อยแล้ว มึงพร้อมยังจะได้กดเริ่ม” วันนี้เรามีถ่ายคลิปวิดีโอทำอาหารที่คอนโดของพวกเราสองคนที่เป็นเพื่อนกัน เรามองเม็กที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดจนเห็นแผงอกที่เป็นมัดกล้าม กางเกงขาขั้นสั้นสบาย ๆ แต่พอมาอยู่บนร่างกายของเม็กแล้วมันดูดีไม่น้อยเลย ถึงแม้เราทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่พอมาเจอมันในลุคนี้ก็ทำให้เราใจสั่นไม่น้อย “มึงกูสวยยัง” “สวยแล้ว” พอได้รับคำตอบที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว เราก็พยักหน้าให้มันเริ่มกดบันทึกภาพวิดีโอทันที การถ่ายทำดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นตอนการชิมอาหาร “อะ

Read More