ตำนานนักรัก ตอนที่ 45
จวบจนบ่ายแล้ว ผมก็ยังกลัดกลุ้มคิดหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้สักที ว่าจะรับมือแผนร้ายครั้งนี้ได้อย่างไร จนกระทั่งได้ยิน
เสียงร้องเรียกชื่อผม ดังออกมาจากห้องนอนของลุงเสงี่ยม ผมจึงลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้ามาหา
“เอ็งมานี่สิ..ทองดี…” พ่อตาผมเรียกให้เข้าไปยืนใกล้ๆ จนชิดติดเตียง แล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยื่นมือมาเขกหัวผมดังป๊อก
“นี่แน่ะ..ดันพรวดพลาดเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือ คุณวิจะเสร็จพ่ออยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ..อ้าว..อะไรวะ โดนเขกหัวแค่นี้ดันทำหน้าบอก
บุญไม่รับ…”
พ่อตาเรียกผมเข้าไปหาก็เพื่อจะเขกหัวสั่งสอน ที่ผมดันทำให้แกพลาดโอกาสได้เย็ดพยาบาลวิ แต่คำพูดของท่านก็ไม่ได้โกรธ
เคืองอะไร ซ้ำยังหัวเราะขำๆเสียอีก แต่อารมณ์ผมในขณะนั้นไม่ได้ขำไปกับท่านเลย สีหน้าจึงยังคงกังวลกับเรื่องที่คุณเจนใส่
ร้ายอยู่ ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี
“ขอโทษครับพ่อ..ผมกังวลเกี่ยวกับเรื่องคุณเจนอยู่
น่ะครับ…”
“อ่ะ..ไอ้เจนมันทำอะไรอีกล่ะ…อย่าบอกน่ะว่าเอ็งโดนมันเล่นงานเข้าอีกแล้ว..” พ่อตาผมถามด้วยความสงสัย เพราะนับเวลา
แล้ว ร่วมเดือนที่คุณเจนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
“ครับ..คราวนี้ผมแย่แน่เลย..ไม่รู้คุณดาจะเข้าใจหรือเปล่าว่าผมไม่ได้ทำ..”
เสียงตอบของผมคงทั้งเศร้าทั้งกลัดกลุ้มจนพ่อตาเริ่มซักถามเรื่องราว ผมก็เล่าให้ท่านฟังไปตามความจริงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
ท่านฟังจบยังหัวเราะขำๆ เสมือนเรื่องที่ผมกลัดกลุ้มนั้นเป็นเพียงเรื่องสิวๆ สำหรับท่าน
“ว่าแต่ยัยหนูอรเป็นยังไงบ้างล่ะ…” หลังจากหยุดหัวเราะ พ่อตาผมก็ถาม จนผมงงว่ายัยอรเป็นยังไง มันหมายถึงอะไรกันแน่
“ก็ไม่เป็นอะไรนี่ครับ คุณอรไม่ได้ถูกงูกัดจริงๆ แค่หลอกให้ผมเข้าไปช่วยเฉยๆ…” ผมพาซื่อตอบไปตามตรง
“เฮ้ย!…ฮ่าๆๆๆ พ่อไม่ได้ถามเรื่องนั้น..เป็นยังไงนี่หมายถึง หอยอูมๆของยัยเด็กนั่นมันเป็นยังไง ..หน้าเอ็งทิ่มไปโดนเต็มๆแบบนี้..ฮ่าๆๆๆๆ….”
“โธ่พ่อ…ผมซีเลียสนะครับ..พ่อยังถามเรื่องอะไรไม่เข้าเรื่อง…” ผมหมั่นไส้พ่อตาตัวเองเหลือเกิน ที่ท่านทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน
นอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ดันมาขำผมเสียอีก
“ทองดี เอ็งเดินไปหยิบโทรศัพท์ให้พ่อที…”
จู่ๆพ่อตาผมก็เปลี่ยนเรื่องคุยกระทันหัน จนผมงงว่าแกจะเรียกหาโทรศัพท์ไปทำไม ทั้งๆที่ร้อยวันพันปี ผมเห็นว่ามันวางอยู่แต่ใน
ที่ชาร์ตแบ๊ต ไม่เคยได้หยิบไปใช้เลยสักครั้ง จึงเดินไปหยิบ แล้วยื่นส่งให้ด้วยความสงสัยว่าแกจะโทรหาใครในเวลานี้
“กดเบอร์โทรหาแม่ดาให้พ่อทีสิ…”
พ่อตาผมร้องสั่ง ผมก็ทำตามทันที พอคุณดารับสาย ผมก็ยื่นโทรศัพท์คืนให้พ่อตาทันที แล้วรอฟังว่าท่านจะพูดเรื่องอะไรกับ
คุณดา หรือจะเป็นเรื่องผมที่โดนคุณเจนใส่ร้าย
“แม่ดา นี่พ่อนะ..เออแม่ดาช่วยทำอะไรให้พ่อสักอย่างสิ…”
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
“เออน่ะ..ไม่ต้องถามเหตุผลหรอก แค่เรียกไอ้เจนกับเพื่อนมันไปหาที่ออฟฟิสก็พอ…เดี๋ยวนี้เลยนะ ไวๆด้วย…”
พ่อตาผมพูดสั้นๆ จากนั้นก็วางสาย แล้วยื่นโทรศัพท์มาบอกให้ผมติดต่อหาชื่อช่างวิชัย แล้วโทรตืดต่อ พอฝั่งนั้นรับสาย ผมก็
ยื่นโทรศัพท์คืนให้แกด้วยยังงุนงงสงสัยยิ่งกว่าเดิม ว่าพ่อตาผมกำลังทำอะไร
“วิชัยหรอ นี่ผมลุงเสงี่ยม จำได้มั๊ย…”
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
“อืม ผมต้องการให้วิชัยเอากล้องมาติดตั้งที่บ้านผมตอนนี้โดยด่วนเลยได้มั๊ย เอาแบบธรรมดาๆน่ะ ผมไม่ซีเลียส แต่ต้องด่วน
เลย..คิดค่าใช้จ่ายมาได้เต็มที่….”
xxxxxxxxxxxxxx
“เออ..ขอบใจๆ..แล้วผมจะรอนะ….”
พ่อตาผมพูดโทรศัพท์จบ แกก็ยื่นคืนให้ผม ผมพอจะเดาได้แหละว่าพ่อตาคงให้ช่างมาติดกล้องที่สระน้ำ แต่จะทำไปตอนนี้
หลังจากเรื่องมันเกิดไปแล้ว มันจะได้ผลหรือ ผมละงงกับความคิดของแกจริงๆ
“เอ็งไปตามสาลี่มาหาพ่อที..คนเดียวพอนะ…” พ่อตาผมร้องสั่งอีกครั้ง ผมจึงเดินออกไปตามสาลีมาให้แกทันทีพอสาลี่เดินตาม
ผมเข้ามาในห้อง
“สาลี่..เอ็งช่วยลุงทีเถอะวะ..วันนี้ลุงอึดอัดเหลือเกิน….”
ทั้งผมและสาลีต่างงุนงงว่าพ่อตาผมจะให้สาลีช่วยอะไร แล้วต่างก้ร้องอ๋อ เมื่อพ่อตาผมชี้มือไปที่กลางลำตัวของแก สาลีก็เดิน
อมยิ้มเข้าไปหา แล้ววางมือไปที่ท่อนลำของพ่อตาผมอย่างรู้งาน
“คุณท่านมีอารมณ์หรือคะ..มาค่ะสาลีจะช่วยให้…”
สาลีพูดพร้อมกับขยับมือลูบไล้จนผมเห็นหว่างขาของพ่อตาผมเริ่มตุงขึ้นมาทันที โอ๊ยผมอยากจะบ้าตาย หน้าสิ่วหน้าขวาน
ขนาดนี้ พ่อตาผมยังดันมามีอารมณ์ คงค้างเติ่งตั้งแต่ผมทะลึ่งเข้ามาขวางท่านกับคุณวิเป็นแน่ แต่สาลีก็ตั้งใจทำให้อย่างนุ่ม
นวล จนหว่างขาพ่อตาผมตุงโด่แข็งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็จับท่านถอดกางเกงรวมทั้งผ้าอ้อมของผู้ใหญ่ จนร่างท่าน
เปลือยท่อนล่าง ควยยาวใหญ่ตั้งแข็งโงนเงนไปมา แล้วก็ถูกสาลี่อ้าปากลงไปงับเลียก่อนจะอมดูดเข้าไปเต็มปากเต็มคำ
ผมไม่มีอารมณ์เสียวสยิวจนอยากมองเท่าไหร่นักจึงเดินออกไปรอที่ห้องรับแขก จนครู่ใหญ่คุณเจนกับคุณอรก็พากันเดินลงจาก
ชั้นบน แต่งตัวที่บ่งบอกว่าจะออกไปข้างนอก คงไปหาคุณดาตามที่พ่อตาผมสั่งเป็นแน่ พอเธอเดินลงมาเห็นผมนั่งอยู่ที่ห้อง
รับแขก คุณเจนก็ส่งสายตาเยาะเย้ยมาให้ ส่วนคุณอรเดินก้มหน้าไม่กล้าสบตาผม
“นายเสร็จแน่วันนี้..ฮิอิ”
คุณเจนเดินเข้ามาลอยหน้าลอยตาเยาะเย้ยถากถางผมอีกครั้ง พร้อมหัวเราะเสียงใสๆอย่างมีความสุข แต่ผมได้ยินแล้วมันขัด
ใจยิ่งนัก อยากตรงเข้าไปจับตัวเธอเขย่าแรงๆสักที
“คุณเจนทำแบบนี้ไปทำไมครับ..คุณก็ทราบดีว่า ผมไม่เคยละลานอะไรคุณเลย…” ผมร้องถามเสียงอ่อนๆอย่างใจเย็นๆอีกครั้ง
หวังว่าเธอจะเปลี่ยนใจ
“เอ้อ…ยังไงชั้นก็ไม่ชอบนาย…เครมั๊ย…”
คุณเจนอึกอักหาคำตอบไม่ได้ว่าทำแบบนี้แล้วเธอจะได้อะไร อย่างมากคุณดาก็คงตำหนิผมถ้าเธอเชื่อตามภาพที่เห็นจากคลิป
ร้ายแรงที่สุดก็อาจจะเลิกกับผม แต่ผมก็ยังคงต้องดูแลคุณตาของเธอต่อไปอยู่ดี ไม่มีทางที่จะทำให้ผมกระเด็นออกไปจากบ้าน
หลังนี้ได้แน่
“หรือว่าคุณเจนยังโกรธผมอยู่ ที่ผมเคยจูบคุณ…ทั้งๆที่คุณเป็นทอม…”
เมื่อคุณเจนตอบเพียงว่าไม่ชอบผม มันก็ควรมีสาเหตุ เท่าที่ผมนึกขึ้นได้ ก็มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้น แล้วก็คงเป็นจริง เพราะพอผม
พูดจบ คุณเจนก็ร้องเพ้ย..สั่งให้ผมหยุดพูดด้วยวงหน้าที่แดงก่ำ ทั้งอายทั้งโกรธ จากนั้นก็ลากแขนคุณอรเพื่อนเลสเบี้ยนออก
จากบ้านไปทันที ผมเลยนั่งรีรออยู่ในห้องรับแขกต่อไป เพราะไม่อยากเข้าไปขัดขวางความสุขของพ่อตากับสาลีในห้อง จน
กระทั่งมะลิเดินออกมาจากห้องครัว
“คุณทองดีเป็นอะไรคะ..หน้าตาไม่สบายใจเลย..ทะเลาะกับคุณเจนอีกหรือคะ…เผอิญมะลิได้ยินเสียงแว่วๆค่ะ…”
มะลิเดินตรงเข้ามาคุกเข่าใกล้ๆเก้าอี้ตัวที่ผมนั่งแล้วร้องถามเสียงอ่อนๆหวานๆ ตาจับจ้องมองหน้าผมด้วยประกายตาขี้เล่นซุกซน
พร้อมรอยยิ้มแสดงความเห็นอกเห็นใจ จนผมอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มตอบเธอไป แม้ยังไม่มีอารมณ์อยากคุยกับใคร แต่ให้นั่งรอนิ่งๆ
เงียบๆ มันก็อึดอัด
“เรื่องปรกติน่ะมะลิ..ไม่มีอะไรทำอีกแล้วหรือ…” เมื่อมะลิได้ยินเสียงผมถาม เธอก็ส่ายหน้าแล้วบอกว่าไม่มี ผมเลยชวนเธอคุยเพื่อ
ฆ่าเวลารอให้พ่อตาผมเสร็จธุระกับสาลี่ผู้พี่มะลิเสียก่อน
“เออมะลิ..ผมถามอะไรตรงๆได้ม๊ยครับ” ผมหยุดรอจังหวะจนมะลิพยักหน้าอีกครั้ง จึงร้องถามไปด้วยความอยากรู้
“ที่สาลี่กับมะลิ..ทำเอ้อ..ทำให้คุณท่านแบบนั้น..ทำด้วยความเต็มใจหรือเปล่าครับ..หรือถูกใครบังคับให้ทำ..”
ผมอยากรู้จริงๆในเรื่องนี้ เพราะสาวใช้ทั้งสองก็หาใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด เรียกว่าถ้าได้แต่งองค์ทรงเครื่องเสียใหม่ สวยพอ
จะพาเดินควงได้สบายๆ ไม่อายผู้คน แต่เหตุไฉน เธอทั้งสองจึงยอมตัวตกเป็นทาสสวาทให้กับพ่อตาผม
“เต็มใจสิคะ…คุณท่านไม่เคยบังคับเราเลย..เราสองคนพี่น้องทำให้คุณท่านแบบนั้น ด้วยความเต็มใจค่ะ…”
“ละ..แล้ว..เอ้อ..ไม่คิดจะมีครอบครัวเป็นตัวตน ของตัวเองบ้างหรือครับ…เราทั้งสองคนยังเป็นสาวอยู่น่ะ..”
“หูยไม่เอาหรอกค่ะ.มะลิอยู่ที่นี่ก็สุขสบายดีแล้ว พวกคุณๆก็ใจดี เมตตากับเราสองพี่น้อง อีกทั้งทำ..เอ้อ..แบบนั้นกับคุณท่าน พวก
เราก็มีความสุข….นี่ถ้า..เอ้อ..ถ้าของคุณท่านไม่น่ากลัวขนาดนั้น มะลิคงทำแบบพี่สาลี่ไปแล้ว..อิอิ” ท้ายเสียงมะลิแทบจะพูดเป็นเสียงกระซิบ พร้อมนั่งหน้าแดงด้วยความอายที่ยอมเปิดเผยความในใจ
“อีกอย่างคุณท่านก็ไม่ได้เอาเปรียบพวกเรานะคะ..นอกจากเงินเดือนที่ได้รับจากการรับใช้แล้ว..คุณท่านยังโอนเงินใส่
ไว้ในธนาคารให้พวกเราทุกๆเดือน ทั้งได้เงิน ทั้งได้ความสุขจากคุณท่านแบบนี้..ชาตินี้มะลิคงหาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว…”
“อืมมมมมก็จริงนะ..แล้วมะลิไม่คิดจะรักจะชอบใครบ้างหรอ..ผมก็เห็นว่ามะลิกับสาลี่ ใช่ว่าจะอยู่แต่เพียงในบ้าน ยังได้ออกไปพบ
ปะผู้คนข้างนอกเหมือนกัน…” ผมถามไปอย่างเรื่อยเปื่อย ไม่ได้หวังคำตอบจริงจังเสียเท่าไหร่นัก เมื่อรู้ว่าทั้งสองพี่น้องทำให้
พ่อตาผมด้วยความเต็มใจก็พอแล้ว
“ก็มีค่ะ..มะลิเริ่มชอบๆแล้วคนหนึ่ง..ตะ..แต่เค้ามีเจ้าของแล้ว และอยุ่สูงเกินกว่ามะลิจะเอื้อมถึง….”
มะลิพูดพร้อมขยับตัวเข้ามาจนใกล้ผมอีกคืบ แล้วเงยหน้าส่งสายตาหวานเชื่อม ที่ผมพอดูออกว่าเธอหมายถึงใคร จนตัวเองถึง
กับชงักพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง
“พี่สาลี่ไปไหนคุณทองดีพอทราบบ้างมั๊ยคะ…”
เมื่อผมอึ้งไม่กล้าพูดไม่กล้าถามต่อ มะลิก็หาเรื่องถามถึงพี่สาวทันที และเมื่อผมตอบตามตรงว่าสาลี่อยู่ในห้องของ่พอตาผม มะลิ
ก็ยิ้มอย่างรู้ทันว่าพี่สาวตัวเองเข้าไปทำอะไรตามลำพัง ยิ่งเห็นผมออกมานั่งอยู่ที่ห้องรับแขกอีกด้วย
“แล้วคุณทองดี ไม่อยากเข้าไปดูพี่สาลีกับคุณท่านแล้วหรือคะ…” มะลิถามเสียงสั่นๆ หน้าแดงๆ พร้อมส่งสายตามาให้ผม ที่ผม
ไม่อยากรู้เลยว่ามันสื่อ มันหมายถึงอย่างไร จึงอึ้งไมตอบคำถามของมะลิ
“ให้มะลิช่วยมั๊ยคะ…”
[post]จู่ๆมะลิก็ส่งเสียงสั่นๆร้องถาม พร้อมเอื้อมมือมาลูบขาผมเบาๆ แล้วเงยหน้าจ้องตาหวานหยาดเยิ้มใส่ เล่นเอาผมนิ่งตะลึงไปชั่วครู่เหมือนถูกมนต์สะกด
แล้วมันก็คงนานเพียงพอ ที่จะทำให้มะลิลูบฝ่ามือนุ่มๆจากหัวเขาผ่านลำขาของผม ขึ้นสูงจนมาถึงเป้ากางเกงได้ แล้วบีบคลึง
เล่นเบาๆ พร้อมส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาให้ เธอช่างไม่กลัวเลยว่าใครจะเห็น และก็คงมั่นใจแล้วด้วยว่า นอกจากพี่สาลีของเธอ
ที่อยุ่ในห้องกับคุณท่าน ก็คงมีเพียงมะลิกับผมเท่านั้นที่อยู่ในห้องรับแขกตามลำพัง