ศึกหมอผี ตอนที่ ๗
มหาเวทย์ข้ามภพ
“พี่ชื่อ…สินหรอ?”
“ใช่…ฉันชื่อสิน…และฉันเพิ่งกลับจากวัดหลังถวายสังฆทาน พอดีสนทนาธรรมกับหลวงพ่อถูกคอเลยกลับมาดึกไปหน่อย แล้วก็มาเจอเธอนี่แหล่ะ”
“อ้อ..โชคดีนะเนี่ย เจอคนหน้าตาดีแถมจิตใจดีเหมือนหน้าตาด้วย” เด็กสาวพึมพำคล้ายพูดกับตัวเอง “นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย อย่างน้อยโชคชะตาก็ไม่ได้โหดร้ายกับเราจนเกินไป”
“เอาละ เรารู้จักชื่อกันแล้ว ก็ไปกันได้อย่ามัวชักช้าอยู่เลย”
“ค่ะๆรีบๆไปกันเลย ตรงนี้ไม่ปลอดภัยจริงๆ”
แต่ยังไม่ทันที่เด็กสาวจะกระโดดขึ้นรถก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงร้องห้ามไว้
“หยุดก่อน!!! เจ้าหญิงจะไปไหนไม่ได้?”เสียงตวาดด้วยนำเสียงเหี้ยมๆดังแทรกขึ้น
“ ไอ้คนเดินทาง เจ้าจงอย่าข้องเกี่ยวกับนาง…”
ทั้งสองหันไปตามเสียงร้องห้าม ร่างชายชุดดำ
ประมาณสิบคนเดินเรียงหน้ากระดานเข้ามา ชายชื่อสินที่แท้จริงคือหมอผีหนุ่มที่บังเอิญขับขี่รถผ่านมาและประสบเหตุนั้นเอง เขาแลมองกลุ่มชายฉกรรจ์ด้วยญาณพิเศษทำให้เขาล่วงรู้ได้ทันทีว่าพวกนี้ไม่ใช่ปุถุชนคนธรรมดาเยี่ยงสามัญชนทั่วไป แต่เขาก็เพ่งมองพวกมันอย่างไม่ตื่นเต้นหวาดกลัวอะไร
“พวกแกเป็นใครกัน?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
“พวกมันคือพวกที่ตามล่าหนูไง มีเยอะแยะไปหมด ฆ่าเท่าไหร่ ตายเท่าไหร่ก็มาเพิ่มตลอด”
“อ้อ…” ชายหนุ่มหน้าคมพยักหน้าเข้าใจ
เจ้าคนชุดดำยืนด้านหน้าของกลุ่มวางมาดผู้นำตะโกนบอกเขาอีกครั้ง
“นี่ไม่ใช่กิจของเจ้า ส่งเด็กคนนั้นมา แล้วจงไปตามทางแล้วเจ้าจะปลอดภัย..”
“หากข้าไม่เชื่อฟังล่ะ?”ชายหนุ่มร้องถามอย่างท้าทาย
มันชูมือกางออก พลันกรงเล็บก็ยื่นยาวออกมาจากปลายนิ้วของมัน
“น่าเสียดายที่ความหวังดีของเจ้าต้องแลกด้วยชีวิต”
“ที่แท้พวกแกก็คือเผ่าสมิงนั่นเอง..”ชายหนุ่มลงมายืนข้างๆรถวิบากของตน
“เจ้าล่วงรู้ได้อย่างไรว่าเราคือพวกไหน?”
“ข้าคือหมอผีสินไง?” ชายหนุ่มประกาศนาม “ และเผ่าสมิงในตำนานก็เก็บตัวเงียบมานานหลายร้อยปีแล้วนี่ เกิดเหตุใดขึ้นหรือ จึงมาแสดงตนที่นี่ และตามล่าเด็กน้อยคนนี้..” หมอผีหนุ่มถามข้อข้องใจ
“ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่เจ้าล่วงรู้ตัวตนของพวกเรา แล้วยังคิดยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง…”
ชายหนุ่มยิ้มไม่สะทบสะท้านในคำขู่ “เพราะข้ามีดีพอตัวจึงหาญกล้าเกี่ยวข้อง…หากพวกแกอยากได้ตัวเด็กคนนี้จากข้า คงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยละ…”
พวกกลุ่มเผ่าสมิงทำท่าลังเล “มันบอกเป็นหมอผี ท่าทางไม่ธรรมดานะ..”
“แต่คงไม่ขนาดหมอผีชาติละม้าง?”เจ้าคนหนึ่งกระซิบบอก
เจ้าอีกคนออกความเห็น “แต่ท่าทางมันไม่หวาดกลัวพวกเราเลยนะ..มันคงมีดีบ้างแหละ..”
“หน้าที่ของเราคือนำตัวเจ้าหญิงกลับไป มันเป็นใครไม่ต้องไปสนใจ ทำตามหน้าที่เถอะ..”
“งั้นก้อราวี!!!”
“ใช่!!..ราวี…”
ปรึกษากันเสร็จพวกมันทั้งหมดก็กางกรงเล็บเข้าจู่โจมหมอผีหนุ่ม แต่ทว่าพวกมันไม่ได้ล่วงรู้ว่าผู้ที่มันเผชิญหน้านี้คือหมอผีสินผู้มีฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหมอผีชาติที่พวกมันรู้จัก หาไม่แล้วมันคงเผ่นหนีไปแต่แรกแล้ว เขาขยับลงจากมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ และเดินอาดๆเข้าหากลุ่มวายร้าย เพียงแค่ไม่กี่อึดใจพวกมันทั้งหมดก็ถูกหมอผีหนุ่มอัดหมอบราบราวเด็กอมมือสู้กับผู้ใหญ่ เมื่อคนสุดท้ายถูกชกล้มลงแน่นนิ่ง พวกที่นอนราบเหลือเรี่ยวแรงก็ออกอาการหวาดเกรงกระเถิบกายถอยหนีเมื่อหมอผีหนุ่มขยับตัวแล้วกวาดสายตามอง
“ไปให้พ้นหน้าของข้า!!!” หมอผีหนุ่มสั่งเสียงเหี้ยม
พวกมันรีบเข้ามาประคองพรรคพวก “คะ..ครับ….”
“ว้าวว.ว…ฝีมือร้ายกาจมาก…”เด็กสาวอุทานตาโตเมื่อเห็นฝีมือของชายหนุ่ม
พวกวายร้ายหนีไปกันหมดแล้ว หมอผีหนุ่มก็หันมาหาเด็กสาว “เอาละ…ที่นี่จะเล่าเรื่องทั้งหลายให้ฟังได้หรือยัง?”
“อู้ว..ว.ว..ท่านเป็นใคร? ทำไมเก่งกาจอย่างนี้?”
หมอผีหนุ่มหน้าเครียด “ฉันให้เธอตอบคำถาม ไม่ใช่มาถามกลับ..”
“ทำไมต้องดุด้วยล่ะ?”เด็กสาวทำท่าหวาดๆตาแดงๆ
หมอผีหนุ่มถอนหายใจ “เฮ้อ….เอาละขอโทษที่ดุ ว่าแต่เธอเป็นใคร? แล้วทำไมพวกเผ่าสมิงนั้นตามล่าเธอ…ตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วคงจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฉันฟังได้แล้วใช่ไหม?”
เด็กสาวจ้องมองตาของเขา “หนูคือพระธิดาของจ้าวพยัคฆราชผู้นำเผ่าสมิงที่ถูกนางพญาสมิงกิตติยาราชินีองค์ปัจจุบันชิงอำนาจไป”
“นี่เธอสูงส่งขนาดนั้นเชียว?”
“ถ้างั้นพวกนั้นจะมาตามล่าหนูทำไม?”
“เออ…ใช่..แล้วถ้าเธอเป็นคนสำคัญขนาดนั้นต้องมีพวกองครักษ์สิ..แล้วนี่หายไปไหนกันหมด?”
เด็กสาวทำหน้าเศร้าๆ “ไม่มีใครเหลือแล้ว…พวกเค้าปกป้องหนูจน..เอ่อ………”
“จะบอกว่าพลีชีพไปหมดแล้วหรอ?”
เด็กสาวก้มหน้า “ฮื่อ.อ.ออ…”
“แล้วนี่จะทำยังไงต่อล่ะ?” หมอผีหนุ่มถาม
เด็กสาวส่ายหัว “หนูก้อม่ายรุ้? ตอนนี้หนูตัวคนเดียวแล้วนี่ คิดอะไรไม่ออก ได้แต่หนีไม่ให้พวกมันจับตัวได้เท่านั้น…”
หมอผีหนุ่มมองเด็กสาวแล้วส่ายหน้าอย่างหนักใจ “ว่าแต่เธอยังมีพรรคพวกที่ภัคดีเหลืออยู่บ้างไหม?”
“ม่ายมีแล้ว….”เด็กสาวส่ายหัวอีก
“แล้วจ้าวพยัคฆราชพ่อของเธออยู่ที่ไหน?”
“เสด็จพ่อหรอ?ทรงถูกจับตัวจองจำอยู่ที่คุกในวัง…” เด็กสาวบอก
“ที่ภพของเผ่าสมิงหรอ…”
“ใช่…หนูถูกพวกองครักษ์พาหนีออกมาก่อนที่เสด็จพ่อจะถูกจับ พวกองครักษ์บอกว่าหนูจะกลับไปช่วยเสด็จพ่อได้ในวันหนึ่ง ให้รักษาชีวิตไว้ให้ได้..”เด็กสาวบอกอย่างซื่อๆ
หมอผีหนุ่มถอนหายใจ “ช่วยตัวเองยังไม่ได้เลย แล้วจะไปช่วยใครได้..”
“ฮะ…ฮือ..ฮือ….”เด็กสาวนั่งลงร้องไห้ “ฮือ..ฮือ…ใช่..หนูมันแย่..เป็นภาระทุกคนเลย…ฮือ..ฮือ…มีคนตายตั้งเยอะ..เพื่อช่วยหนู…แต่หนูช่วยใครไม่ได้เลย…ฮือ..ฮือ….”
หมอผีหนุ่มทำหน้าเสียๆ “โอ๋..โอ๋..อย่าร้องนะ..อย่าร้อง…เธอยังเด็กอยู่…เค้าคงหวังตอนเธอโตแล้วให้กลับไปช่วยน่ะ..”
“แต่กว่าหนูจะโต…จะกลับไปช่วยทันหรอ?..ฮือ…ฮือ…ฮือ…..”
“อื่อ.อ…งั้นไปกับฉัน..ฉันจะช่วยเธอเอง…..”
“พี่จะช่วยหนูหรอ?”
“ก็ช่วยมาตั้งแต่ตอนคุยกันคำแรกแล้วนี่ เมื่อช่วยแล้วก็ต้องช่วยต่อให้ถึงที่สุดซิ..”
“ขอบคุณมากค่ะพี่สิน…”
ชายหนุ่มสตาร์ทรถจนติดอีกครั้ง “มาซ้อนท้ายเร็ว จะได้ไปสักที เดี๋ยวพวกตำรวจมาจะยุ่งยากกว่านี้…”
“..ค่ะ…” เด็กสาวขึ้นซ้อนท้ายรถวิบากคันใหญ่
แล้วหมอผีหนุ่มก็บิดคันเร่งพาเธอขี่หายไปกับเงามืด…
…………………………………………………………………………………
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในเวลาต่อมา
เด็กสาวนั่งกินอาหารอย่างมูนมาน หมอผีหนุ่มนั่งมองหน้าเจื่อนๆ แขกในร้านพากันลอบมองและซุบซิบกัน จานอาหารเปล่าๆวางตั้งกันเกือบๆสิบใบ เด็กสาวยังคงก้มหน้าก้มตากินจนหมอผีหนุ่มต้องเอ่ยทัก
“นี่ๆๆๆเธอ…กินเบาๆหน่อย มารยาทการกินไม่เหมือนเชื้อพระวงษ์เลย?”
เด็กสาวเงยหน้ามองแล้วตอบทั้งที่อาหารยังเต็มปาก “ก็มันหิวนี่…เปิดเรื่องมาก็สู้กันฆ่ากันจนเลือดสาด จากนั้นหนูก็ขับรถหนีแล้วก็ชนกันวินาศ แล้วพี่ก็ยังสู้กับพวกนั้นต่ออีก จนป่านนี้หนูยังไม่ได้กินอะไรเลย….”
“เรื่องนี้มันเรื่องเสียวบวกเรื่องบู้ผสมเวทย์มนต์นะ มันก็ต้องสู้กันใช้เวทย์มนต์และต้องเสียวด้วยน่ะสิ คนอ่านเค้าอยากอ่านกันตรงนั้น ไม่มีใครเขาอยากมาอ่านตอนเธอกินข้าวกันหรอก?”
“งั้นหนูต้องกินเยอะๆ เดี๋ยวไม่มีฉากกินข้าวอีกละก้อ หิวแย่เลย…”
หมอผีหนุ่มถอนหายใจ “อื่ม.ม.ม..งั้นก็กินเข้าไปเยอะๆเลย..กินเผื่อให้ถึงตอนจบเลยนะ…”
“ขอบคุณที่เห็นใจ”
“แต่ฉันแปลกใจอย่างหนึ่งนะ?”
“แปลกใจอะไรหรอ?”เด็กสาวถาม
“ก็แปลกใจที่เผ่าพันธุ์ของเธอเป็นเสือแต่ทำไมกินข้าวล่ะ?ทำไมไม่กินเนื้อสัตว์?”
เด็กสาวยิ้มแล้วตอบอย่างซื่อๆ “พวกเรากินข้าวตามนโยบายของเสด็จพ่อ ไม่กินเนื้อหรอก เพราะเสด็จพ่อต้องการให้พวกเรามีจิตใจที่บริสุทธิ์และจะบรรลุญาณชั้นสูง หากกินเนื้อสัตว์แล้วจิตใจพวกเราจะโหดร้ายและคิดแบบสัตว์เดรัชฉาน จะไม่มีวันสำเร็จญาณได้ แต่ก็มีบางพวกแอบกินเนื้อสัตว์อย่างพวกราชินีไง พวกนี้โหดร้ายมากและตอนนี้ก็ยึดอำนาจของเสด็จพ่อไปแล้ว..”
“นี่ฝ่ายเธอเป็นพวกมังสาวิรัชหรอ?”
“เรียกอย่างนั้นก็ได้..”
หมอผีหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก “สรุปสงครามภายในของเผ่าเธอเป็นการสู้กันระหว่างพวกกินเนื้อกับพวกไม่กินเนื้อ…”
“จะเรียกว่าอย่างนั้นก้อด้าย…ง่ำ..ง่ำ..”เด็กสาวยังกินไม่หยุด
“อืม.ม.ม..เป็นไปได้..เสือสมิงมังสาวิรัชก้อมีด้วย..”หมอผีหนุ่มรำพึงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ว่าแต่พี่จะช่วยหนูอย่างไงล่ะ?”เด็กสาวถามหลังกินข้าวหมดจาน
หมอผีหนุ่มนิ่งคิด “ก็คงให้เธอพักอาศัยที่บ้านฉันชั่วคราวแหละ..”
“ชั่วคราว?ช่วย แค่นั้นเองหรอ?”เด็กสาวถามอย่างผิดหวัง
“ฉันก็ช่วยได้แค่นั้นแหละ มากกว่านั้นคงไม่ได้…”
“หนูนึกว่าพี่จะพาหนูไปช่วยเสด็จพ่อนะนี่…”เด็กสาวก้มหน้าพูด
หมอผีหนุ่มจ้องหน้าเด็กสาวงงๆ “นี่เธอคิดว่าฉันเป็นใคร? ฉันไม่เก่งกล้าขนาดบุกไปภพสมิง แล้วสู้กับพวกกองทหารเป็นพันๆหมื่นๆช่วยเสด็จพ่อของเธอกู้บัลลังก์ได้หรอก ท่าทางจะดูหนังดูละครมากไปละม้างนี่..”
“ก็หนูนึกว่าพี่จะเก่งเท่าหมอผีที่พวกมันจ้างวานมานะสิ เห็นอัดพวกนั้นกระเจิงเหมือนที่หมอผีคนนั้นทำเลย…”
หมอผีหนุ่มขมวดคิ้ว “หมอผีที่พวกมันจ้างวาน หมายถึงฝั่งตรงข้ามของเธอจ้างหมอผีชาวมนุษย์ให้ช่วยหรอ?”
“ใช่แล้วพี่..หมอผีคนนี้เก่งมาก จัดการสางเขียว องครักษ์ที่เก่งกล้าของเสด็จพ่อแค่พริบตาเดียวเอง…เห็นพวกมันเรียกว่าหมอผีชาติ!..” เด็กสาวบอก หมอผีหนุ่มหน้าเครียดทันทีที่ได้ยินชื่อหมอผีชาติ
“นี่ไอ้หมอผีชาติมันชั่วข้ามภพเลยหรอ?”
“พี่รู้จักด้วยหรอ? เรียกเสียสนิทเลย..”
หมอผีหนุ่มเม้มปาก “ยิ่งกว่ารู้จักอีก ไม่นึกเลยว่ามันรอดไปจากคราวที่แล้วยังจะไปก่อเรื่องเลวๆอีก ถ้าหากมันร่วมมือกับพวกศัตรูเธอและตามล่าเธอจริงๆ โชคดีมากที่เธอยังปลอดภัยมาถึงตอนนี้…”
“นี่หมอผีคนนั้นร้ายขนาดนั้นเลยหรือ…”
“ร้ายจนเธอคิดไม่ถึงเลยหล่ะ..เอาละอิ่มหรือยัง?”
“อิ่มแล้ว…ทำไมหรอ?”
หมอผีหนุ่มเรียกพนักมาเก็บเงิน “ เราต้องรีบไปกันแล้ว ถ้าไอ้หมอผีชาติมันตามมาทันตอนนี้ ฉันจะสู้มันไม่ได้เพราะไม่ได้เตรียมตัวมา ไปกันเถอะ..อย่าช้าอยู่เลย..”
หมอผีหนุ่มพาเด็กสาวมาที่รถวิบากของตนอย่างเร่งรีบ แต่ทว่าขณะกำลังจะสตาร์ทรถ ชายชุดดำกว่าสิบคนกรูเข้ามาล้อมรถไว้ และแสงสางก็เดินออกมายืนทิ้งระยะห่างจากตรงเขาและเธอ สี่ – ห้าก้าว มันยืนนิ่งมองหมอผีหนุ่มและเด็กสาว ยามนั้นก็ดึกมากแล้วผู้คนและรถราที่สัญจรผ่านไปมาค่อนข้างจะเงียบเหงา และที่ตรงทั้งสองถูกล้อมกรอบนั้นเป็นบริเวณซอยหลังร้านที่หมอผีหนุ่มเอารถมอเตอร์ไซค์วิบากคู่ใจมาแอบจอดไว้
“คนนี้นะหรือที่ให้ความช่วยเหลือเจ้าหญิง ท่าทางไม่น่ากลัวเหมือนที่มึงบอกกูเลย..”มันหันไปถามลูกน้อง
เจ้าลูกน้องมีท่าทีสั่นๆ “ใช่มันนี่แหละ ฝีมือต่อสู้ร้ายกาจมาก พวกเราไม่ใช่คู่มือของมันเลย..”
“งั้นเรอะ..หึ..หึ..หึ..”แสงสางมองหมอผีหนุ่มแล้วหัวเราะ
หมอผีหนุ่มหันไปถามเด็กสาว “ไอ้หน้าบากคนนี้ใครกันหล่ะ?”
“มันชื่อแสงสาง เคยเป็นทหารองครักษ์ล้อมวังของเสด็จพ่อ แต่ทรยศไปเข้ากับพวกนางพญาสมิง ตอนนี้มันมีหน้าที่ไล่จับหนู..”
หมอผีหนุ่มหรี่ตามองใบหน้าเหี้ยมๆที่มีรอยแผลบากเด่นชัด “อื่ม.ม.ม..ท่าทางร้ายกาจไม่เบาเลยนะ..”
แสงสางจ้องหน้าหมอผีหนุ่ม “เรื่องนี้เป็นเรื่องของภพเรา ไม่จำเป็นเราไม่อยากให้คนของภพเจ้ามายุ่งเกี่ยวจนต้องตกตาย หากเจ้าไม่อยากเดือดร้อนจนส่งตัวเจ้าหญิงมา แล้วเราสัญญาว่าเจ้าจะไร้อันตรายใดๆจากพวกเรา…”
“ข้าคงทำตามที่เจ้าบอกไม่ได้ เพราะข้ารับปากไปแล้วว่าจะช่วยนาง..”หมอผีหนุ่มบอก
แสงสางหัวเราะขำๆ “หึ..หึ..หึ..เจ้าจะเอาปัญญาอะไรมาช่วย…”
“ปัญญาเดียวกับหมอผีชาติที่เจ้าจ้างวานมันไปร่วมมือนั่นแหละ..”
ฟังคำตอบหมอผีหนุ่มแสงสางหน้าเครียดทันที “นี่เจ้ารู้จักหมอผีมีชื่อคนนั้นด้วยเรอะ?”
“ยิ่งกว่ารู้จักอีก…และขอบอกว่าข้ากับมันฝีมือพอกัน…”
แสงสางแค่นหัวเราะ “เหอ..เหอ..เหอ..นี่เจ้าขู่ข้าเรอะ?”
“ทดสอบดูได้..”หมอผีหนุ่มท้าให้ลองพร้อมรอยยิ้ม
ลูกน้องมันคนหนึ่งกระซิบถาม “เอาไงดีท่านแสงสาง?”
“ท่าทางมันจะมีดีพอตัวอย่างเจ้าว่า ดูมันไม่หวาดกลัวพวกเราเลยทั้งที่มีเยอะขนาดนี้..” แสงสางบอกลูกน้อง
“ท่านจะถอยก่อนหรอขอรับ?”
“บ้าเรอะ!!..ถึงมันจะเก่งกล้า แต่ข้าก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะเก่งกว่าหมอผีชาติ ข้าจะขอลองฝีมือของมันดูสักหน่อย ว่าจะเก่งกล้าสมกับที่มันโอ้อวดหรือไม่!?..”
“ตะ…แต่ว่า..ท่านแสงสาง….”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!!! นี่เจ้าหวาดกลัวมนุษย์ไปแล้วหรือ หมอผีชาติเราแค่ยืมมือมันมาช่วย หมดประโยชน์เราก็จะสังหารมัน พวกมนุษย์พวกนี้น่ะ มันอ่อนแอและโฉดเขลาไม่ปราดเปรื่องเรืองเดชเท่าพวกเราหรอก…”
“ท่านแน่ใจนะว่าจะเอาอยู่?”
“แน่ใจสิวะ..เอาละเตรียมต่อสู้ได้..”แสงสางสั่งสมุนขยับตั้งท่าเตรียมพร้อมจู่โจม
หมอผีหนุ่มมองรอบๆกายแล้วยิ้ม “คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วหล่ะ?”
“พี่สินคราวนี้จะไหวหรอ?พวกมันเยอะนะ..” เด็กสาวถามอย่างห่วงใย
“ก็ต้องลองดูก่อน..”หมอผีหนุ่มขยับตั้งท่าแล้วหันไปบอกเด็กสาว “พอเห็นช่องแล้วหลบไปหาที่ปลอดภัยก่อนนะ ฉันจะได้สู้กับพวกมันถนัดๆ”
“ไหวแน่นะ?”เด็กสาวถามย้ำ
หมอผีหนุ่มชักหงุดหงิด “ไม่เชื่อมือก็ไปกับพวกมันเลย…ไป!”
“แค่ถามทำไมต้องโกรธด้วย..”เด็กสาวบ่น
พวกเผ่าสมิงฝ่ายทรยศกางกรงเล็บออก พวกมันเดินวนหาช่องเข้าจู่โจม หมอผีหนุ่มยืนนิ่งไม่หวั่นไหว ต่อเมื่อมันคนหนึ่งถลาเข้ามาก็ถูกชกหมัดเดียวหงายท้องลงไปนอนนิ่ง ช่างเป็นการข่มขวัญที่น่าหวั่นเกรง พวกคนอื่นๆยืนมองแล้วอ้าปากคาง แม้นแต่แสงสางเองก็แทบไม่เชื่อสายตา หางตาของมันใต้รอยบากบนใบหน้ากระตุกแรงๆหลายที ทำท่าจะเข้าจู่โจมเองแต่ก็ฉากหลบออกมาทุกครั้งที่หมอผีหนุ่มขยับ ฝ่ายเด็กสาววิ่งไปหลบหลังเสาใหญ่โผล่หน้ามามองอย่างลุ้นระทึก
“ว่าไงเล่า?…จะเข้าไม่เข้า ถ้ากลัวก็หลีกทางข้าไป..” หมอผีหนุ่มบอก
แสงสางหันไปมองลูกสมุนพวกมันมีสายตาไม่เชื่อถือตนก็ข่มใจกลั้นความกลัว “นึกว่าข้าไม่กล้าหรอ!!!!”
มันกางกรงเล็บพุ่งเข้าหาหมอผีหนุ่มแต่ก็เจอกำปั้นสวนมาเต็มๆปากครึ่งจมูกครึ่ง แสงสางผงะถอยมาด้วยท่าทางมึนงงเดินเซ เลือดสดๆไหลออกมาทางจมูกและปาก พวกสมุนวิ่งเข้าไปประคอง แสงสางสลัดศีรษะไล่ความมึนงงแล้วเอามือเช็ดเลือดมาดู สีหน้าของมันดุดันอารมณ์เดือดดาลสุดขีด มันตวาดลั่น..
“มะ..มึง..ไอ้มนุษย์หูสั้นไร้เขี้ยวไร้ขน..มึงทำเลือดของกูหลั่ง..มึง….โฮก.ก.กก.ก..ก์”
ลูกน้องของมันรีบห้าม “อย่านะ..ท่านแสงสาง..ท่านจะมากลายร่างที่นี่ไม่ได้..ไม่งั้น..มันผิกกฎนะ..”
“ช่างหัวกฎมันเหอะ!! กูไม่สนแล้ว..กูจะฆ่ามัน….”แสงสางคำรามลั่น
“แต่ท่านก็รู้ว่าถ้ากลายร่างที่ภพนี้…จะคืนร่างไม่ได้อีกจนกว่าจะบำเพ็ญญาณไม่กินอะไร ๙๙ ราตรีเชียวนะ..”
“ไม่เป็นไรกูทำได้..ขอแค่ฆ่ามันได้ก็พอ!!!…”
“ระงับใจหน่อยท่านแสงสาง…มันอาจจะไม่คุ้ม..”
“กูไม่ระงับแล้ว.ว.ว.ว…โฮก.ก.ก.ก.ก.ก…”แสงสางคำรามก่อนสะบัดลูกสมุนกระเด็นแล้วเดินมาหาหมอผีหนุ่ม
หมอผีหนุ่มยิ้ม “ถึงขนาดจะคืนร่างสู้กับข้าเลยเรอะ?”
“เพื่อฆ่ามึงกูทำได้ทุกอย่าง..มึงหยามกูมากเกินไปแล้ว กล้าทำร้ายจนกูเลือดตก…”
หมอผีหนุ่มยังยิ้มยั่ว “อ่อนเองนี่…มิน่าถึงต้องจ้างไอ้หมอผีชาติมาช่วย…คงไม่มีปัญญาทำเอง…”
“ปัญญาของกูนะมี..แต่ที่จ้างไอ้หมอผีชาติเพราะราชินีเป็นคนสั่ง ลำพังไม่ต้องอาศัยไหว้วานมนุษย์ชั้นต่ำอย่างพวกมึง พวกกูก็ทำเองได้โว้ย!!” แสงสางคำรามด่า
หมอผีหนุ่มยิ้มแล้วส่ายหัว “มนุษย์ชั้นต่ำที่เอ็งดูแครนนี่ไง ที่เพิ่งเอาเลือดของเอ็งออกมาได้..”
“มึง..งง..ง..กูไม่เอามึงไว้แน่..ไอ้มนุษย์หูสั้น!!!” แสงสางสบถออกมาแล้วถลึงตาเป็นประกายน่ากลัว
หมอผีหนุ่มมองแล้วเปลี่ยนสีหน้า “มนต์กลายร่างสมิงอาฆาต?”
“รู้จักเรอะ..เพราะมึงทำให้กูต้องกลายร่างชั้นนี้เพื่อฆ่ามึงให้หายแค้น..”
“ไม่ได้การแล้ว…มันไม่ใช่เสือสมิงชั้นธรรมดา..”หมอผีหนุ่มรีบขึ้นรถวิบากคู่ใจแล้วสตาร์ทเครื่อง
ร่างของแสงสางกำลังเปลี่ยนอย่างช้าๆ “มึงจะหนีไปไหน?”
หมอผีหนุ่มขับขี่รถมอเตอร์ไซค์วิบากฝ่าวงล้อมไปหาเด็กสาว “ขึ้นมาเร็ว!!!”
“ทำไม?” เด็กสาวถามงงๆ
หมอผีหนุ่มบอกอย่างร้อนรน “หนีนะสิ!!”
“หนีทำไม?”
“มันกำลังจะกลายร่าง ไม่เห็นเรอะ!!”
“พี่สู้มันไม่ได้หรอ?”
“ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาสู้กับวิชากลายร่างขั้นนี้ อย่าถามและอย่าสงสัยอีก ขึ้นรถมาเร็วๆ”
เด็กสาวกระโดดขึ้นซ้อนท้ายทันที ก่อนที่ร่างของแสงสางจะกลายเป็นเสือสมิงอาฆาตโดยสมบูรณ์มันตะโกนไล่หลังไป
“พวกมึงจะหนีกูไปไหน!?”
แล้วร่างของแสงสางก็กลายเป็นเสือลายพาดกลอนตัวขนาดใหญ่ร้องคำรามลั่น จากนั้นมันก็กระโจนวิ่งตามรถมอเตอร์ไซค์วิบากที่หมอผีหนุ่มและเด็กสาวนั่งไป พวกสมุนมันมองตามอย่างตื่นตะลึง…
“ท่านแสงสางกลายร่างเป็นเสือตามพวกมันไปแล้ว เอาไงดีวะ?”
“ก็รีบตามไปเสริมกำลังท่านสิ..”
“แล้วที่ท่านกลายร่างนี่เรื่องใหญ่เลยนะ..”
“เราแค่ทหารเลว คงไม่ได้รับโทษเรื่องนี้หรอก แต่ถ้าจับตัวเจ้าหญิงไม่ได้นี่โทษหนักแน่ อย่าไปกังวลเรื่องอื่นเลย”
“อื่มมม์..งั้นก็ตามกันไปเหอะ..”
แล้วพวกลูกสมุนก็รีบขึ้นรถขับตามไป…
หมอผีหนุ่มบิดรถเต็มที่เพื่อหนี ขณะแสงสางในร่างเสือก็วิ่งตามมาติดๆ มองจากกระจกมองข้างระยะไล่กวดของเสือสมิงแสงสางใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หมอผีหนุ่มพยายามบิดและเทิร์นเกีร์ยเร่งรอบเพื่อความเร็ว แต่ก็ดูจะทิ้งห่างเจ้าเสือร้ายไม่ได้ และไล่หลังมาไม่ไกลพวกสมุนก็ขับรถยนต์ยี่ห้อดังสมรรถนะสูงตามติดๆมาเป็นพรวน หมอผีหนุ่มคิดแล้วให้หนักใจเพราะเขาไม่คาดคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์อย่างนี้ จึงไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ต่อสู้มาเลย ยามนี้ทำได้แค่หนีอย่างเดียวเท่านั้น
“มันใกล้เข้ามาแล้วนะ…จะหนีอย่างนี้อย่างเดียวไม่สู้เลยหรอ?”เด็กสาวถาม
“นั่นเสือสมิงอาฆาตนะ..ฉันมามือเปล่าไม่ได้เตรียมตัวมาปราบมัน..เจอกันอย่างนี้ก็ต้องหนีอย่างเดียวแหละ”หมอผีหนุ่มบอก
“แล้วจะรอดไหมนี่?”
หมอผีหนุ่มกัดฟัน “จะพยายาม..เอาละจับแน่นๆนะ..”
แล้วหมอผีหนุ่มก็ขับรถมอเตอร์ไซค์วิบากซิกแซกหลบหลีกการไล่กระโจนตะปบใส่ของเสือจำแลงแสงสางที่วิ่งตีคู่ตามมาทันแล้ว รถส่ายไปมาน่าอย่างน่าหวาดเสียว เด็กสาวเกาะเอวหมอผีหนุ่มแน่นหลับตากรีดร้องด้วยความตกใจทุกครั้ง จนกระทั่งหมอผีหนุ่มหักเลี้ยวขึ้นสะพานทางด่วน เสือสมิงแสงสางวิ่งเลยไปแล้ววกกลับวิ่งตามไล่มาติดๆ หมอผีหนุ่มบิดคันเร่งหนีเต็มที่แต่แล้วเขาต้องอ้าปากตาเหลือกค้าง เพราะว่าเบื้องหน้าสะพานนั้นเป็นทางขาด และระยะก็ห่างมากๆจนเกินจะบิดคันเร่งส่งเพื่อยกล้อให้รถเหิรข้ามไปได้ และที่สำคัญความเร็วที่เขาขับขี่มานั้นมันเร็วมากๆจนเบรกไว้ไม่ทันเสียด้วย….
แต่หมอผีหนุ่มก็ตัดสินใจหักรถมอเตอร์ไซค์วิบากให้เอียงคว่ำลง และกอดร่างของเด็กสาวดีดตัวออกมาปล่อยให้รถมอเตอร์ไซค์วิบากไถลไปจนตกสุดถนน ขณะเจ้าเสือสมิงแสงสางพุ่งเข้าตะปบรถเปล่าๆและตกไปด้วยกันยังเบื้องล่างที่สูงประมาณตึก ๓ – ๔ ชั้น ส่วนหมอผีหนุ่มและเด็กสาวตัวไถลมาหยุดเกือบๆขอบทางสะพานต่างระดับที่ขาดช่วง ทั้งสองถอนหายใจเฮือกแต่ทว่าทั้งคู่ก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจอีกครั้ง เมื่อรถยนต์อีกหลายคันที่วิ่งตามมาพุ่งตรงมาโดยเบรกไม่ทันเช่นกัน…
หมอผีหนุ่มกอดร่างเด็กสาวแน่น แล้วพากลิ้งหลบรถที่เหิรตกลงไปอย่างจวนเจียนหวาดเสียว เสียงรถยนต์ตกสะพานต่างระดับดังติดๆกันสนั่น บางคันก็เกิดแรงกระแทกจนถังน้ำมันแตกและระเบิดไฟลุกท่วม จนกระทั่งคันสุดท้ายตกตามลงไปและเสียงระเบิดเสียงกระแทกก็สงบลง หมอผีหนุ่มคลายอ้อมกอดออกจากร่างเด็กสาวเมื่อเห็นว่าปลอดภัย ทั้งคูนั่งแผ่ถอนหายใจอย่างโล่งอก และค่อยๆลุกขึ้นมาดูเหตุการณ์เบื้องล่าง จึงได้เห็นรถยนต์กองระเนระนาดบางคันไฟลุกท่วม
“อู้ว.ว.ว…ยังกับในหนังที่พวกนางพี่เลี้ยงเคยเปิดให้ดูเลย…”เด็กสาวบอก
หมอผีหนุ่มถอนหายใจแล้วมองซากรถที่กำลังลุกไหม้เบื้องล่างถนนขาดอย่างอาลัยอาวรณ์
“โอ้..เจ้า SUZUKI DR 650 SE ตัวจี๊ดทางวิบากแสนรักของฉันด้วย..ไม่น่าเลย…”
“แล้วนี่เราจะไปกันอย่างไงต่อหล่ะ?” เด็กสาวถามแทรกขึ้นขณะชายหนุ่มกำลังใจสะเทือนใจในความสูญเสีย
“ก็ต้องเดินไปกันนะสิ..”
“แล้วเราจะไปไหนกันต่อล่ะ?” เด็กสาวหันมาถาม
“บ้านของฉัน..ถ้าไปถึงบ้านฉันแล้วเราจะปลอดภัย..”
โฮกก.ก..ก.ก.ก.ก.ก…
.เสียงคำรามนั่นทำเอาทั้งสองหยุดพูดคุยปรึกษาและหันไปมองต้นเสียง
เมื่อทั้งสองหันไปมองก็เห็นเสือตัวใหญ่ขนาดม้ากำลังอ้าปากแยกเขี้ยวยืนอยู่ไม่ห่าง
สายตาของมันแดงก่ำส่อแววอาฆาตชัดเจน
“นี่มันยังอยู่อีกหรอ?” หมอผีหนุ่มมองอย่างหน่ายๆ
เด็กสาวตัวสั่น “ทำอย่างไงดีหล่ะ? ..”
“แล้วเธอทำอะไรได้บ้างล่ะนี่?”หมอผีหนุ่มถาม
เด็กสาวส่ายหัว “หนูยังเด็กนอกจากเรียนมารยาทแล้วอย่างอื่น..เอ่อ…”
“อย่างงั้น…ตอนนี้ก็ต้อง….วิ่.ง.ง..งง..ง.ง.ง……”
ตะโกนบอกเสร็จหมอผีหนุ่มก็ฉุดมือเด็กสาวให้วิ่งตามโดยมีเสือสมิงแสงสางตัวใหญ่วิ่งตามไปติดๆ แต่เจ้าเสือสมิงตัวร้ายวิ่งมาดักหน้าอ้าปากคำรามขวางทางเอาไว้ ทั้งสองต้องหยุดกึก เสือสมิงเดินย่างทำท่าจะกระโจนใส่ หมอผีหนุ่มตอนนี้ไม่รู้จะหาวิธีไหนสู้ได้แต่คิดหาทางเอาตัวรอดก่อน เขาดึงร่างเด็กสาวให้ลงท่อที่เปิดอยู่ใกล้ๆ ขนาดของมันพอดีตัวคนรอดลงไปทีละคน แต่เบื้องล่างน้ำนั้นเหม็นเน่าจนแทบอาเจียน ทว่าทั้งสองไม่มีเวลาสนใจ มุดน้ำเน่าหนีเอาชีวิตรอดกันก่อน เจ้าเสือสมิงตามมามองแล้วมันก็มุดตามไปไม่หยุดแม้นกายจะใหญ่โตแต่มันก็รอดตามไปได้อย่างประหลาด…
ทั้งสองคลานหนีมาจนกระทั่งถึงท่อใหญ่ที่กว้างขนาดอุโมงค์ให้รถไฟฟ้าผ่านได้ พอลงมาถึงไหล่ทางระบายน้ำก็แว่วเสียงเจ้าสมิงกำลังวิ่งลุยย่ำน้ำไล่ตามมาไม่ห่าง ทั้งสองรู้ทันทีว่าไม่มีเวลาพักหรือสำรวจอาการบาดเจ็บ ออกวิ่งหนีไปเรื่อยๆ เสือสมิงกระโจนตามออกมา ทั้งสองหนีไปจนถึงทางระบายน้ำออกแม่น้ำ แต่ทว่ามันมีตะแกรงเหล็กปิดทางออกเอาไว้ และแข็งแรงจนทั้งสองผ่านไปไม่ได้ เจ้าเสือร้ายคำรามลั่นใกล้เข้ามา หมอผีหนุ่มมองไปบนเพดานเห็นท่อเหล็กมากมายจึงอุ้มร่างเด็กสาวให้ปีนขึ้นไป
“ทำอะไร?” เด็กสาวถาม
หมอผีหนุ่มส่งร่างเด็กสาวขึ้นไปแล้วจึงบอก “หลบอยู่บนนั้นก่อน เดี๋ยวฉันจะจัดการไอ้เสือตัวนี้ก่อน…”
“ทำได้หรอ?”
“ไม่รู้สิ..มันจวนตัวแล้วนี่…”
‘โฮก.ก.ก.ก.ก…’ .เสียงเสือร้ายคำรามจนแก้วหูสะท้านเมื่อมันใกล้เข้ามา และทอดเงาข่มขวัญก่อนจะเดินออกมาจากมุมมืดเผชิญหน้ากับหมอผีหนุ่ม
หมอผีหนุ่มถอดตะกรุดออกมาจากเอว เขาคลี่แผ่นตะกรุดออกมีว่านชิ้นเล็กๆบรรจุอยู่ข้างใน เขาอมว่านนั่นแล้วเคี้ยวจนละเอียดก่อนพ่นใส่ตัว พลางพนมมือว่าพระคาถาอันเชิญเทพมาสิงสู่ร่างตน เมื่อร่ายคาถาครบสามคาบก็เป่าไปตามร่างกาย ฉับพลันแววตาคมของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นแววตาซุกซนสนุกสนาน อีกทั้งท่วงท่าของเขาเองก็กลายเป็นหลุกหลิกเกายุกยิกไปทั่วกายคล้ายๆลิง เด็กสาวมองอยู่ข้างบนงงงันเป็นหนักหนาว่าหมอผีหนุ่มทำอะไร
เสือร้ายกระโจนเข้าใส่ แต่ชายหนุ่มกลับฉากหลบแล้วปีนป่ายไปทำท่าหลอกล้อราวกับลิง เขากระโจนไปมาตามมุมต่างๆห้อยโหนโจนทะยานอย่างน่าเวียนหัว บางครั้งก็ลงมาขี่หลังเสือแล้วตีลังกาไปดึงหาง หรือไม่ก็ตบหัวของมันเล่นอย่างหยอกล้อ เจ้าเสือสมิงคำรามอย่างแค้นเคืองที่ถูกหยอกเย้ย แต่มันก็ไม่สามใช้คมเขี้ยวคมวาวหรือกรงเล็บคมกริบาแตะต้องร่างกายของหมอผีหนุ่มได้เลย ยามนี้มันงุ่นง่ามกางกรงเล็บตะปบและอ้าปากงับอากาศวืดวาดไปหมด
“โฮ้กกกกกกกกกกก………….” เสือสมิงคำรามอย่างขุ่นเคือง
แกรกก…หนุ่มหมอผีหยิบเหล็กแหลมขนาดไม้พลองยาวขึ้นสนิมมาถือเป็นอาวุธ
“ฉันขี้เกียจเล่นกับแกแล้วนะ ไม่สนุกเลยว่ะ”
“โฮ้กกกกกกกกกกก……….” เจ้าเสือสมิงอาฆาตกระโจนเข้าหาชายหนุ่ม เขากระโดดตีลังลอยตัวขึ้นสูง
ฉึก!
โฮ๊กกกกกกกกกกก
เจ้าเสือร้ายถูกหมอผีหนุ่มเอาเหล็กเส้นแทงเข้าจุดสำคัญจนเกิดแผลเหวอะหวะเลือดสาด
มันเดินซวนเซกลายเป็นเสือลำบาก แต่ดวงตาอาฆาตยังไม่ลดละลงสักนิด
“คราวนี้ จะเผด็จศึกละนะ..!!!..”
และแล้วอวสานของมันก็มาถึงเมื่อเจอหมอผีหนุ่มกระโดดเอาเหล็กเส้นแทงเข้าที่ต้นคอ มันร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดแล้วดิ้นสะบัดอย่างสุดแรง และที่สุดก็หมดฤทธิ์หลับตานอนนิ่ง หมอผีหนุ่มมองอยู่ครู่พอแน่ใจว่ามันตายสนิทก็ละมือกระโดดลงมาเกาตัวหลุกหลิกอยู่ข้างๆ ร่างเจ้าเสือสมิงตัวร้ายค่อยๆกลายกลับเป็นร่างของแสงสางที่มีเหล็กปักคอทะลุตาเหลือกสิ้นลมหายใจ ตามร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์เหมือนร่างเสือร้าย
ข้างฝ่ายหมอผีหนุ่ม หลังจากเผด็จศึกได้ก็ยังผาดโผนตีลังกาไปมาน่าเวียนหัว ทำท่าทางดีใจราวตัวละครในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ และท่าทางของเขาเหมือนฝืนๆพยายามจะหยุดการกระทำเอาไว้ กระทั่งเขาขืนร่างตนเองเอามือสองข้างตบกับบ้องหูตัวเองแล้วสะดุ้งเฮือกร่างกายหยุดนิ่ง พร้อมกับทรุดลงนั่งหอบแฮ่กๆ ลักษณะเหนื่อยแทบขาดใจ
เด็กสาวพอเห็นปลอดภัยก็กระโดดลงมาจากเพดานและเดินมาดูอาการของหมอผีหนุ่มที่ยังหอบอยู่
“เอ่อ…เป็นไงบ้าง…” เด็กสาวถาม
หมอผีหนุ่มทรุดลงนั่ง “เหนื่อยนะสิ..วิชานี้ไม่จำเป็นไม่อยากใช้เลย..”
“วิชาอะไรหรอ?”
“เชิญวิญญาณลิงลมเข้าสิง..โอ้ยเหนื่อยจริงๆ ถ้านานกว่านี้หัวใจวายแน่…”
“ก็น่าอยู่หรอก กระโดดโลดเต้นไม่หยุดเลยนี่”
“อื่อ..ก็ลิงนี่นะ จะให้อยุ่เฉยได้ยังไง แฮ่กๆๆ”
“ แล้วนี่…มันตายแล้วหรอ?” เด็กสาวมองซากของแสงสาง
หมอผีหนุ่มมองซากของมันที่กำลังสลาย “อย่างนี้ไม่ตายจะเรียกอะไรหล่ะ?”
ร่างของแสงสางค่อยๆสลายกลายเป็นผงและเหลือเพียงเหล็กเส้นที่เสียบคอตกลงกระทบพื้นเสียงดังกังวาน…
…
บนพื้นถนนแห่งหนึ่ง
ฝาท่อถูกเปิดจากด้านล่าง หมอผีหนุ่มโผล่ขึ้นมาแล้วดึงร่างเด็กให้ตามขึ้นมา ทั้งสองอยู่ในสภาพมอมแมมเลอะเทอะและที่สำคัญเหม็นสุดขีด ทั้งสองพยายามโบกรถแท็กซี่แต่พอจอดรับเห็นสภาพอันเลอะเทอะและได้กลิ่นเหม็นเน่าสารพัดก็รีบขับหนีกันไปจนหมด หมอผีหนุ่มชักอารมณ์เสีย
“ทำไมมันไม่จอดรับเราวะ?”
“สภาพก็น่ารับอยู่หรอก…” เด็กสาวพูดปลงๆ
“สงสัยต้องเดินกลับแล้ว..ดึกขนาดนี้รถเมถ์ก็ไม่มี..”หมอผีหนุ่มบอก
เด็กสาวมองไปที่แห่งหนึ่งแล้วตาววาวราวคิดอะไรออก “หนูว่าเราไปอาบน้ำล้างตัวกัน แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนคงจะดีกว่านะ เพราะสารรูปของเราตอนนี้มันแย่และเหม็นสุดๆจริงๆ….”
“แล้วจะไปอาบไปเปลี่ยนที่ไหนล่ะ?”
เด็กสาวชี้ไปที่ม่านรูด “ที่นั่นไง?”
“หา!!!!…ที่นั่นนะหรอ?”
“ใช่..ไปกันเถอะ…” พูดจบเด็กสาวก็จูงมือเขาวิ่งข้ามถนนเข้าไปในม่านรูด
เด็กสาวเป็นคนจ่ายเงินให้พนักงาน และจ้างให้ไปชื้อเสื้อผ้าใหม่มาด้วย เด็กปิดม่านไม่ถามอะไรมากมายทำตามหน้าที่และเงียบสนิทไม่ซักถามอะไรเมื่อได้รับเงินพิเศษ พอเข้าไปข้างในหมอผีหนุ่มก็รีบเข้าไปห้องน้ำก่อนเลย เขาถอดเสื้ออกและเปิดน้ำล้างตัวสระผมเผ้าเพื่อล้างกลิ่นอาจมทั้งหลาย เขาล้างเนื้อล้างตัวอยู่นานแต่กลิ่นมันก็ทนจริงๆ จนกระทั่งเด็กสาวร้องเรียกให้เขาออกมา
“พี่ๆๆๆๆ ออกมาได้แล้ว หนูก็อยากจะอาบน้ำเหมือนกันนะ ตั้งชั่วโมงแล้วยังล้างไม่เสร็จอีกหรอ?”
หมอผีหนุ่มรู้สึกตัวจึงรีบหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันกาย “ขอโทษทีนะ..อาบนานไปหน่อย..”
“ไม่นานไปหน่อยหรอก..นานมากๆเลย..”เด็กสาวบ่น
เมื่อเปิดประตูออกมา เด็กสาวตัวเล็กๆอายุราวๆ 12 ยืนอยู่ในสภาพกระโจมอก ทรวดทรงสัดส่วนทำเอาหมอผีหนุ่มสะดุ้งยืนมองตะลึงอยู่พัก แม้นเขาจะสัมผัสหญิงสาวมาหลากหลายทั้งคนและผี แต่เขาไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ และที่สำคัญเขาไม่เคยชอบเด็กๆ แต่ครั้งนี้ทำไม..มันรู้สึกแปลกๆ
“หลบซิ…หนูจะรีบเข้าไปอาบ..แมนโคตรเลยนะพี่..แย่งเด็กอาบก่อน..”เด็กสาวพูดดุๆ
“อะ..เอ่อ..ขะ..ขอโทษ…เข้าไปเลย…”หมอผีหนุ่มหลบทางให้
เด็กสาวเดินเข้าไปแล้วปิดประตู เสียงเปิดน้ำดังซู่ๆ หมอผีหนุ่มยืน