แฝดอันตราย ตอนที่40
“คุณพี่สองคนยังกลับไม่ได้ค่ะ…”..
เสียงคุณหมิวแทรกเข้ามา เมื่อเห็นว่าสองพี่น้องฝาแฝดพูดคุยตกลงกันรุ้เรื่อง แต่เป็นเรื่องของเขาทั้งสองคน หาใช่เรื่อง
ที่เกี่ยวกับตนเองแม้สักนิด ทั้งสองพี่น้องฝาแฝดต่างสงบนิ่งเมื่อได้ยินคำสั่ง เสียงเฉียบขาดของมล.ลาวัลย์ จนฉัตรชัย
รุ้สึกแปลกใจ ที่แต่ก่อนนั้นไม่เคยได้ยินเสียงเฉียบขาดเฉกเช่นนี้มาจากคุ่หมั้นลูกคุณหนู ผู้เรียบร้อยคนนี้มาก่อนเลย
“เอ่อ….น้องหมิวมีเรื่องอะไรอีกหรอครับ…”
ขนาดฉัตรชัยซึ่งเป็นคุ่หมั้นยังรู้สึกถึงความปรกติในน้ำเสียงของคุ๋หมั้น เสียงที่
ถามออกไปจึงทั้งหวาดหวั่นทั้งกังวล ด้าน
ชัดชายนักเลงบ้านนอกนั้น เมื่อเจอเสียงเข้มมีอำนาจดุจนางพญา จากคุณหมิวเข้าก็ไม่กล้าเงยหน้าสบตา ทรุดตัวลงนั่ง
กับเก้าอี้ดั่งเดิม
“เรื่องของคุณพี่กับคุณชัดชาย เคลียร์กันได้แล้วใช่มั๊ยคะ…” เสียงเข้มเหมือนคุณครูกำลังดุทำโทษนักเรียนที่ทำความผิด
“ครับใช่….”ฉัตรชัยตอบเสียงเบาหวิว ใจเต้นโครมคราม ไม่รุ้ว่าคุณหมิวจะมาไม้ไหน
“แต่เรื่องของหมิวกับคุณหวาน….คุณพี่สองคนยังไม่เคลียร์กันเลยนี่คะ…ว่าจะทำอย่างไร…คุณพี่เล่นสลับตัวกันแต่คนที่
ได้ผลกระทบคือหมิวกับคุณหวาน…แล้วคุณพี่จะจัดการอย่างไร…ฉนั้นเราสามคนกลับไปหาคุณหวานที่พี่พาเธอไปพัก
เพื่อเคลียร์เรื่องนี้กันให้รู้เรื่องก่อน ไม่งั้นหมิวไม่ยอมค่ะ…”
ทั้งสองฝาแฝดต่างนิ่งอึ้ง โดยที่ต่างคนต่างคิดไปคนละทาง ฉัตรชัยกลืนน้ำลายลงคอแบบฝืดๆ ถ้าไปเจอหวานเรื่องที่
เขามีความสัมพันธ์กับหวานคงต้องเปิดเผยออกมาคราวนี้แน่
ส่วนชัดชายกลับคิดไปถึงเรื่องที่ตนเองฉวยโอกาสลวนลามคุณหมิว คราวนี้พี่ชายฝาแฝดตนเองคงรู้ในคราวนี้เช่นกัน
สองชายหนุ่มฝาแฝดต่างหันหน้ามามองกันเหมือนนัดหมายกันไว้ สองตาที่แลสบกันต่างบ่งบอกความรุ้สึกอึดอัดใจจน
ยากจะบรรบายได้ ส่วนคุณหมิวสังเกตุใบหน้าแววตาของผู้ชายสองคนที่ใบหน้าเหมือนกันอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นทั้งคุ่
ต่างทำหน้าเจื่อนๆ เธอยิ่งรุ้สึกสะใจ เพราะเธอเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับผลจากการสลับตัวของทั้งคู่ไปเต็มๆ
ซึ่งคุณหมิวก็คาดการณ์ว่าหวานนั้นก็คงเหมือนกับเธอที่โดนผลการสลับตัวครั้งนี้เล่นงานเอาด้วยเช่นกัน จากการที่เธอ
เห็นหวานกับคุ่หมั้นของเธอที่โรงพยาบาลในช่วงเช้า เธอก็สามารถสรุปได้อย่างไม่กลัวผิดพลาดเลยว่า หวานกับคู่หมั้น
คุณพี่ฉัตรชัยของเธอนั้น ต่างต้องทำอะไรผิดกันมาทั้งคู่ เพราะหวานไม่กล้าสบตากับเธอตลอดที่เจอกันเลยแม้แต่
แว๊บเดียว
“คุณพี่ลุก….ไปสิคะคุณพี่….”
คุณหมิวลุกขึ้นไปคล้องแขนควงกับคุ่หมั้นตัวจริงของเธอพร้อมฉุดดึงเขาลุกขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างยากลำบาก เพราะฉัตรชัย
นั้นยังนึกหาวิธีการที่จะรับมือกับสถานการณ์ ที่จะต้องพาทั้งสองคนไปเผชิญหน้ากับหวานไม่ออก ส่วนชัดชายก็เหมือนคน
ก้นหนัก ทำท่าทางลุกลำบากไม่ต่างกับพี่ชายเท่าใดนัก แต่ในที่สุดทุกคนก็เดินมาพร้อมกันที่ลานจอดรถ คุณหมิวขับรถ
สปอร์ตสีแดงของฉัตรชัยมา จึงยื่นส่งพวงกุญแจคืนให้กับเขา พอคุ่หมั้นกดรีโหมดเปิดประตุรถ เธอก็ก้าวเท้าเดินขึ้นไปนั่ง
ด้านข้างคนขับ
“คุณชัดชายคะ….ขับรถตามมานะคะ..ห้ามหนีเป็นอันขาด…”
คุณหมิวหันไปร้องบอกให้ชัดชายขับรถเบ็นซ์ของฉัตรชัยตามมา พร้อมกำชับว่าห้ามหนี ด้วยเธอเกรงว่าชัดชายจะชิ่งขับ
รถหนีไปเสียก่อน แต่เมื่อฉัตรชัยเคลื่อนรถสปอร์ตออกมาจากลานจอดรถของโรงพยาบาล รถเบ็นซ์ที่ชัดชายขับอยู่ก็
เคลื่อนตามออกไล่หลังกันไปจนถึงโรงแรมระดับสามดาว ที่ฉัตรชัยเปิดห้องพักค้างคืนกับหวานน้องสะใภ้อดีตเทพี
สงกรานต์บ้านนา
“สวัสดีค่ะคุณแม่ หมิวนะคะ…อยู่ที่โรงพยาบาลกับคุณพี่ค่ะ..คืนนี้คงจะกลับดึกนะคะ…ค่ะ…ไม่ต้องห่วงค่ะ…”
ทันที่ที่รถสปอร์ตที่ฉัตรชัยขับมาจอดหน้าโรงแรม คุณหมิวรีบกดสายโทรไปหามารดาตนเองแล้วบอกกับท่านว่าเธอคง
กลับดึก จากนั้นพอวางสายเธอก็จัดการตัดสัญญาณปิดโทรศัพท์ทันที ฉัตรชัยมองการกระทำของคุ่หมั้นสาวด้วยใจ
เต้นระทึก ยังไม่สามารถล่วงรุ้เลยว่าคุณหมิวจะทำอย่างไร แต่ทีท่ากับน้ำเสียงเข้มๆนั้น ก็ทำให้ใจของฉัตรชัยหล่นไป
กองอยูที่ตาตุ่มได้แล้วเหมือนกัน
………………………………………………
ทางด้านของหวานหลังจากที่ฉัตรชัยออกไปธุระข้างนอกแล้ว เธอก็จัดการซักเสื้อผ้าชุดที่เดินทางมาเพียงชุดเดียวเรียบ
ร้อย พร้อมตากไว้ที่ระเบียงด้านหลังห้อง ทั้งเนื้อตัวเปลือยเปล่าขาวผ่องถูกห่อหุ้มไว้ด้วยผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่ของทาง
โรงแรมเพียงผืนเดียว
หวานนั่งรอการกลับมาของฉัตรชัยอยู่บนเตียง อย่างเงียบๆ ทีวีอะไรเธอก็เปิดไม่เป็น ทั่วทั้งห้องจึงเงียบสงบ มีเพียงเสียง
รถยนต์จากถนนที่ดังแว่วเข้ามาเป็นระยะๆ จนหวานใกล้เคลิ้มหลับ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูสองสามครั้ง เธอแนบตาลงที่
ช่องตาแมว ตามที่ฉัตรชัยสั่งไว้ก่อนออกจากห้อง เมื่อแลเห็นว่าคนที่มาเคาะประตุนั้นคือฉัตรชัย หวานก็รีบเปิดประตุด้วย
ความดีใจ ไม่แม้จะสังเกตุว่าด้านข้างของประตุนั้นยังมีบุคคลอื่นอีกสองคน เมื่อหวานเปิดประตูก็โผลเข้ากอดฉัตรชัยไว้
แน่น ด้วยความรักความคิดถึง แม้เพียงแค่การจากกันไปเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ
ทางด้านฉัตรชัยนั้นก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าพอหวานเปิดประตุรับแล้วจะโผร่างเพรียวบางแต่เต็มไปด้วยสัดส่วนงดงาม
โถมตัวเข้ามากอดเช่นนั้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หวานอยู่ในชุดผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียว แม้เขาจะอ้าแขนออกรับร่าง
ที่โถมเข้ามาแบบอัตโนมัติ แต่ก็ยังเซด้วยน้ำหนักที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกับตกใจ แต่ไม่เท่ากับชายหญิงสองคนที่ยืนอยู่
ด้านข้างนั้น ที่มองเห็นว่าหวานโถมตัวกอดฉัตรชัยแบบนั้น มันแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“อุ๊ย…ว๊าย….”
แล้วหวานก้ร้องออกมาด้วยความตกใจ หลังจากที่ร่างเพรียวบางของเธอถาโถมสู่อ้อมกอดของฉัตรชัยได้แล้ว หางตา
เธอก็แลเห็นว่าเขาหาได้มาเพียงลำพัง ด้านข้างที่ยืนอยู่ติดกันนั้นคือคุณหมิวคุ่หมั้นสาวของฉัตรชัยนั่นเอง แต่ที่ทำให้
หวานตกใจจนหน้าซีดขาวนั้นคือบุรุษอีกคนที่หน้าตาเหมือนกับฉัตรชัยนั่นเอง ซึ่งจะเป็นใครไปเสียได้นอกเสียจาก
ชัดชายสามีของหวานนั่นเอง
“พี่ชัด….”
หวานร้องเรียกชื่อสามีด้วยความตกใจ แววตาตื่นตระหนกจนกลัวลนลาน เมื่อแลเห็นใบหน้าของสามีดูตึงเครียด เขายืน
นิ่งกัดฟัน จนกรามสองข้างโป่งนูนออกมา ในแววตาของชัดชายนั้นแสนปวดร้าว นี่เขาโดนผุ้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย
ของเขาสองคน กระทำย่ำยีหัวใจเขาซ้ำซ้อนกันถึงสองครั้งภายในวันเดียวกันเชียวรึ หรือว่านี่คงกงกรรมกงเกวียน กรรม
ที่เขาเคยก่อไว้กับผู้ชายคนอื่น บัดนี้มันย้อนกลับมาเล่นงานเขาเข้าให้แล้ว
ส่วนทางด้านคุณหมิวนั้น เธอทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วหลังจากได้ยินคำสารภาพจากป้าแจ่มว่า ผู้ชายที่อยู่กับหวานนั้นคือ
คุ่หมั้นของเธอ หาใช่สามีของหวานแต่ประการใด เธอก็ลำดับเรื่องราวได้เหมือนกับตาเห็นว่าหวานกับคู่หมั้นของเธอนั้น
มีเรื่องผิดปรกติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เธอจึงเสนอที่จะให้ทั้งสี่คนมาพบกัน แล้วร่างเกือบเปลือยของหวานที่อยู่ในอ้อม
กอดของคุ่หมั้นเธอนั้นก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าคนทั้งสองเป็นอะไรกัน มากกว่าพี่ชายสามีกับน้องสะใภ้เสียแล้ว คุณ
หมิวจึงยืนมองด้วยสายตาด้วยใจที่เป็นปรกติ กลับคิดว่าดีเสียอีกที่จะได้ไม่ต้องซักถามกันให้มากความ ในเมื่อภาพที่
เห็นมันสารภาพตัวของมันออกมาหมดแล้ว
“เข้ามากันก่อนครับ…”
ฉัตรชัยดุนร่างของหวานกลับเข้าห้องพัก คุณหมิวกับชัดชายก้ตามเข้ามา ส่วนหวานนั้นกลับรีบเดินหนีไปซุกตัวอยู่ข้าง
เตียงด้วยความหวาดกลัว ร่างเพรียวบอบบางนั้นสั่นสะท้าน เธอหวาดกลัวทั้งสามีและคุณหมิวด้วยรุ้อยู่แก่ใจดีว่าเธอนั้น
เป็นฝ่ายผิด
ฉัตรชัยมองเห็นร่างสั่นสะท้านของหวานที่ซุกขดตัวนั่งกับพื้นด้านในของเตียงนอนก็รู้สึกสงสารเห็นใจเธอยิ่งนัก ถ้าผิด
เขาก็มีส่วนที่กระทำผิดไปด้วยเช่นกัน เขาจึงเดินตรงไปทรุดตัวนั่งบนเตียงข้างตัวของหวาน แล้วยื่นมือลูบหัว ลูบผมดำ
ยาวสลวยอย่างปลอบโยน ส่วนคุณหมิวกับชัดชายนั้นก็หาเก้าอี้มานั่งกันคนละตัว บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบ
ตึงเครียด
“เอ่อ….”
ฉัตรชัยพยายามจะพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศที่แสนตึงเครียดอึดอัดนั้น แต่คุณหมิวชิงยกมือห้ามแล้วพูดขึ้นมาก่อนว่า
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกค่ะคุณพี่…หมิวไม่ได้โกรธทั้งคุณพี่และพี่หวาน..เพราะหมิวกับคุณชัดชายก็ทำผิดกับคุณพี่และ
พี่หวานเช่นกัน…”