แฝดอันตราย ตอนที่54

แฝดอันตราย ตอนที่54

แฝดอันตราย ตอนที่54
คุณหมิวกะเล็งที่จะใช้เท้าถีบไปที่ลูกกระเป๋งกล่องดวงใจ อันเป็นจุดอ่อนของผู้ชายทุกคน แต่ปรากฎว่าจากความตื่นเต้นทำให้
เท้าของคุณหมิวพลาดเป้า ไม่โดนจุดสำคัญ เพียงแค่เฉี่ยวๆ แต่แรงถีบนั้นก็ทำให้ไอ้ดาวกระเด็นไปคล่อมร่างของชัดชาย และ
เขาก็ใช้กำลังขารัดร่างของมันไว้แน่น คุณหมิวกระโดดจากเตียงลงมายืนมองผลงานของเธอ เห็นไอ้ดาวทำหน้าเหยเกบิดเบี้ยว
แต่ไม่สลบตามที่เธอตั้งใจ จาก
นั้นสักครู่ พออาการจุกเสียดของมันเริ่มบรรเทาลง ไอ้ดาวก็พยายามดิ้นออกมาจากวงขาของ
ชัดชาย แต่เขาก็รัดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ดิ้นกันขลุกขลักอยู่อย่างนั้นเพียงครู่

คุณหมิวเห็นไอ้ดาวเริ่มระดมประเคนหมัดเนื้อๆใส่ใบหน้าของชัดชาย เสียงดังตุ๊บๆสามสี่หมัดซ้อนๆกัน เธอเห็นได้ชัดว่ามือ
หยาบใหญ่เมื่อกำเป็นหมัดชกใส่ใบหน้าของชัดชายที่ไม่มีโอกาศปกป้องตัวเองเพราะมือยังโดนมัดอยู่นั้น พอมันถอนมืออกมา
ใบหน้าของชัดชายก็ปูดบวมขึ้นมาตามแรงหมัดที่ส่งออกไป บางจุดถึงกับแตกปริเลือดไหลซึมออกมาให้เห็นชัดเจน

คุณหมิวยิ่งระล้าละลัง จะเข้าไปช่วยเหลือแรงกายของเธอก็น้อยนิด หมุนวนหาอาวุธก็ไม่มี แม้ไม้จิ้มฟันสักชิ้นในห้อง นึกไปถึง
อาวุธปืนที่ปรกติไอ้ดาวจะถือติดมือเข้ามาในห้องคุมขังเสมอ แต่คราวนี้มันกลับไม่ได้หยิบติดมือมา

เมื่อนึกได้ถึงตรงนี้คุณหมิวรีบวิ่งถลาออกไปจากห้อง มองเห้นอาวุธปืนวางไว้บนโต๊ะ…แต่คุณหมิวนั้นไม่เคยหัดยิงหัดการใช้
อาวุธชนิดนี้มาก่อน เธอจึงกล้าๆกลัวๆที่จะใช้มัน ด้วยกลัวว่าถ้ายิงพลาดไปถูกชัดชายเธอจะทำเช่นไร แต่คุณหมิวก็คว้าปืน
กระบอกนั้นขึ้นมาถือไว้ในมือ พร้อมหันหลังกลับเตรียมวิ่งเข้าไปในห้อง กะว่าจะใช้อาวุธปืนขู่ให้ไอ้ดาวมันกลัวเกรง แต่พอ
จังหวะที่คุณหมิวหันหลังกลับมานั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นถังดับเพลิงสีแดงวางอยุ่ที่ข้างผนังทางเดินอีกด้านหนึ่ง
เธอจึงเปลี่ยนใจรีบวิ่งไปคว้ามันเอาไว้ น้ำหนักถังดับเพลิงนั้นหนักจนคุณหมิวต้องใช้สองมือจับยกขึ้น แล้วถือมันวิ่งกลับเข้า
มาในห้อง

เธอเห็นไอ้ดาวกำลังประเคนหมัดเนื้อๆใส่ลำตัวชัดชายเสียงดังตุ๊บๆสนั่นห้อง ใบหน้าของชัดชายแตกยับบวมปูด บิดเบี้ยว
เหยเกด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ร้องครวญครางออกมาสักแอะ..ยังคงใช้ลำขาแข็งแรงรัดกลางลำตัวของไอ้ดาวไว้แน่น
แม้จะโดนชกโดนทุบหนักเพียงใด

คุณหมิวค่อยๆย่องเข้าไปจนได้ระยะ ก่อนยกถังดับเพลิงสีแดงขึ้นเหนือหัว ไอ้ดาวก็ไม่ทันสังเกตุเพราะกำลังต่อสู้ติดพันอยุ่
กับชัดชาย แล้วคุณหมิวก็ทุ่มถังดับเพลิงสีแดงลงมาที่ท้ายทอยของไอ้ดาวโดนจังๆ จนมีเสียงดังโพล๊ะ พร้อมกับเลือดสีแดง
เข้มคาวคลุ้งฉีดออกมาจากบาดแผลด้านหลังหัวของไอ้ดาวที่เปิดอ้า ดั่งท่อประปาแตก ร่างหนาทึบล่ำเตี้ยเหมือนมะขามข้อ
เดียวของไอ้ดาวทรุดฮวบ ก่อนจะกระตุกดิ้นงึกๆเฮือกๆ แล้วแน่นิ่งไป พร้อมวิญญาณบัดซบของมันก็ปลิวออกไปจากร่าง

พอไอ้ดาวแน่นิ่งไปแล้ว ชัดชายค่อยๆคลายลำขาออกมาอย่างเหนื่อยล้าหมดแรง ส่วนคุณหมิวก็ไม่กล้ามองร่างไอ้ดาวที่นอน
แน่นิ่ง พร้อมเลือดที่ค่อยๆไหลรินออกมาจนนองพื้นห้อง

“คุณหมิว..ช่วยมาตัดเชือกแก้มัดให้ผมก่อน..”

เสียงชัดชายร้องบอกอย่างอ่อนล้าหมดแรง จนคุณหมิวได้สติรีบอ้อมไปด้านหลังของเขา แล้วก้มลงไปมอง เห้นข้อมือของ
ชัดชายเปียกโชกเต็มไปด้วยเลือดสดๆสีแดงจนชุ่มฉ่ำ

“อุ๊ย..นายชัด…เลือดออกมาที่ข้อมือเต็มไปหมดเลย..” คุณหมิวร้องบอกด้วยความตกใจ คาดการว่าชัดชายคงเร่งรีบเอามีด
เฉือนเชือกจนโดนบาดเป็นแผลลึกหลายแห่ง

“ช่างมันเถอะครับคุณหมิว…ไกลหัวใจ แผลเล้กน้อยแค่นี้..รีบแกะเชือกแก้มัดผมเร็วๆ เราต้องรีบหนีครับ…”

ชัดชายร้องเร่ง คุณหมิวตอบรับค่ะๆ พร้อมแกะเชือกที่พันธนาการข้อมือของชัดชายอย่างเร่งรีบ สักครุ่ก็แกะเชือกได้หมด
ชัดชายจึงค่อยๆผลักร่างไร้ชีวิตของไอ้ดาวลงจากตัว จากนั้นคุณหมิวก็รีบเข้ามาประคองยกตัวชัดชายขึ้นยืน แต่เขากับ
ครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าบิดเบี้ยวเต้มไปด้วยเหงือผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก

“คุณชัด..เป็นอะไรคะ..เจ้บตรงไหน…”

คุณหมิวรีบสอบถามด้วยความเป็นห่วง จับแขนของชัดชายเข้าคล้องวางบนบ่าเล็กบางๆของเธอ แล้วใช้สองมือโอบลำตัว
ของชัดชายแน่น แล้วออกแรงพยุงให้เขาลุกขึ้นยืน แต่ชัดชายก็ร้องครางออกมาด้วยความเจ้บปวดอีกครั้ง

“คุณหมิวเดี๋ยวครับ..ผมเจ็บซี่โครง สงสัยว่าอาจจะหักน่ะครับ..ตอนที่โดนไอ้ดาวมันทุบ” ชัดชายพูดกระท่อนกระแท่นใบหน้า
แสดงความเจ็บปวดออกมาชัดเจนไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ

“เจ็บมากมั๊ยคะ…” คุณหมิวเริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นใบหน้าของชัดชายที่แตกยับเยิน แสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างมากมาย

“พอทนไหวครับ…เราต้องรีบไปกันครับ..”

ชัดชายพยายามกัดฟันจนกรามนูนเป็นสัน แล้วค่อยๆขยับก้าวเดินโดยมีคุณหมิวประคองพยุงปีกออกไปอย่างทุลักทุเล พอ
ก้าวเดินไปได้เพียงสองสามก้าว เขาก็เริ่มทนความเจ็บปวดไม่ไหว เสียงครางแผ่วดังรอดออกมาจากปาก

“คุณหมิวช่วย…ช่วยหยิบเสื้อของไอ้ดาวมันขึ้นมาทีครับ…..”

ชัดชายกัดฟันร้องบอกให้คุณหมิวหยิบเสื้อแขนยาวลายสก็อตของไอ้ดาวที่ถอดไว้กับพื้นขึ้นมา จากนั้นคุณหมิวก็ค่อยๆพยุง
ร่างหนาสุงใหญ่ของชัดชายออกมาจากห้อง ชัดชายมองเห็นปืนที่ตกกับพื้นจึงบอกให้คุณหมิวก้มลงเก็บเอาไว้ จากนั้นก็พยุง
ปีกกันเดินออกมาจากอาคารร้างที่เป็นเซฟเฮ้าส์คุมขัง

“คุณหมิวครับพักก่อนผมเดินต่อไปไม่ไหวจริงๆครับ….” ชัดชายกัดฟันกรอดร้องบอกคุณหมิวให้ทราบ

“แล้วเราจะทำไงดีคะ…” คุณหมิวสอบถามด้วยความเป็นห่วง ค่อยๆพยุงชัดชายลงนั่งกับพื้น

“คุณหมิวไปหาไม้ชิ้นเล็กๆ แข็งๆมาให้ผมหน่อยได้มั๊ยครับ…สักสองสามชิ้นก็พอ “ชัดชายร้องบอกพอสิ้นเสียง

คุณหมิวก็วิ่งออกไปหาไม้ตามที่ชัดชายต้องการโดยไม่ได้ซักถามอะไร ณ.เวลานั้น ไม่ว่าชัดชายจะพูดสิ่งใดออกมา ดูเหมือน
คุณหมิวจะเชื่อฟังคำพูดของเขาทุกเรื่อง หลังจากเดินหาสักพักคุณหมิวก็วิ่งกลับมาหาชัดชาย ในมือของเธอได้ลำไผ่ท่อน
ยาวเกือบเมตรมาหนึ่งท่อน

“ใช้ได้มั๊ยคะ..คุณชัด..”

ชัดชายไม่มีแรงตอบ แต่เขาร้องบอกให้คุณหมิวใช้มีดสปริงคมๆเล่มนั้นผ่าลำไผ่ออกเป็นซี่เล็กๆ แล้วหักมันออกเป็นสองท่อน
ก่อนจะวางแนบกับสีข้างลำตัวของตนเอง

“คุณหมิวครับ..เอาเสื้อของไอ้ดาวมัดตัวผมไว้ ดึงให้แน่นๆสุดชีวิตเลยนะครับ ไม่ต้องกลัวผมเจ็บ…”

คุณหมิวพยักหน้าตอบรับแล้วจัดการตามที่ชัดชายบอก แม้เขาจะร้องโอ๊ยออกมาตอนที่คุณหมิวดึงเสื้อจนกระชับรัดแน่น
แต่เธอก็ดึงแล้วมัดเสื้อกับลำตัวของชัดชายจนสำเร็จ

“เก่งมากครับคุณหมิว..เอาละ ผมดามซี่โครงไว้แล้ว..น่าจะพอไปไหว..เราไปเถอะครับ..”

ชัดชายพุดกระตุ้นเตือนคุณหมิวก็รีบลุกขึ้นยืนสอดสองมือโอบร่างหนาของชัดชายไว้แน่น แล้วค่อยๆพยุงเขาลุกขึ้นยืนช้า ๆ
ณ.เวลานั้น คุณหมิวเธอไม่ได้หวงเนื้อตัวเลยว่าอกอวบกลมของเธอจะแนบกับลำตัวสีข้างของชัดชายขนาดไหน เธอหวัง
เพียงต้องการช่วยให้ชัดชายยืนและเดินต่อไปได้ จากนั้นทั้งสองคนก้ค่อยๆพยุงกันก้าวเดินต่อไปช้าๆ จนพ้นอาณาเขตรอบ
รั้วของตึกร้างที่คุมขัง

“คุณชัดคะ..เราจะไปทางไหนกันดี…”

บรรยากาศรอบข้างเงียบและมืดสนิทในคืนข้างแรม สองข้างทางเดินมีแต่ทิวของไร่มันสัมปะหรังที่สูงท่วมหัว ชัดชายมองไป
ตามทางรถสีดำสลับกับลุกรังสีแดงเป็นช่วงๆ คดเคียวจนสุดลูกหูลูกตาก็ยังไม่เห็นแสงไฟแม้สักนิด แสดงว่าอาคารร้างหลัง
นี้อยู่ห่างจากถนนใหญ่มากพอสมควรจนมองไม่เห็นแสงไฟจากถนน

“คุณหมิวลองหันไปมองรอบๆตัวสิครับว่าเห้นแสงไฟจากด้านใดบ้าง…” ชัดชายไม่สามารถทำได้เองจึงร้องบอกให้คุณหมิว
ทำแทนเขา

“ทางโน้นค่ะ..หมิวมองเห็นลิบๆแว๊บๆ…” คุณหมิวชี้มือไปทางด้านตรงข้ามกับถนนที่มันสิ้นสุดลงที่ตึกร้างหลังนี้ เสมือนว่า
การตัดถนนเข้ามานั้น ทำมาที่ตึกร้างหลังนี้โดยเฉพาะ

จากนั้นทั้งสองคนก็ค่อยๆเดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่เป็นพื้นดินแห้งๆ ฝุนเกอระกรังยามที่ย่ำเท้าลงไป ฝุ่นดินก็กระจายฟุ้ง
แสดงว่าเส้นทางนี้ไม่เคยมีผู้ใดเดินผ่านเข้ามาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว สองร่างค่อยๆพยุงเดินกันไปช้าๆ พอเหน็ดเหนื่อย
ก็นั่งลงพัก หายเหนื่อยก็เดินกันต่อ จนคุณหมิวรุ้สึกว่าร่างของชัดชายที่แนบชิดติดร่างเธอนั้นเริ่มร้อนผ่าว จึงยกหลังมือขึ้นอิง
ที่หน้าผากของเขา แล้วคุณหมิวก็สะดุ้งเมื่อสัมผัสได้ว่าหน้าผากของชัดชายนั้นร้อนเหมือนเหล็กเผาไฟ

“แข็งใจหน่อยนะคะคุณชัด..แสงไฟใกล้เข้ามาแล้วค่ะ…”

คุณหมิวกระซิบบอก ให้กำลังใจแก่เขา แม้เธอจะเมื่อยขาเหนื่อยล้าขนาดไหน คุณหมิวก็อดทนสู้ หวังเพียงพาร่างของชัดชาย
ให้พ้นจากอันตรายเพียงเท่านั้น

หลังจากทั้งสองพยุงร่างพากันเดินต่อไปช้าๆ คุณหมิวเริ่มรุ้สึกเสมือนว่าตัวของชัดชายหนุกขึ้นทุกทีๆ เนื่องด้วยชัดชายแทบ
จะวางน้ำหนักทั้งหมดของเขาพักไว้กับบ่าและไหล่บอบบางของคุณหมิว

“คุณหมิวครับ…ผะ..ผมไม่ไหวแล้วครับ….” ชัดชายค่อยทรุดร่างลงคุกเข่า จนคุณหมิวต้องทรุดตัวลงตาม

“คุณชัด…คุณชัดคะ…ยะ..อย่าเป็นไรไปนะคะ…ฮือๆ…” ชัดชายไม่ขานตอบรับ ร่างกายดูอ่อนปวกเปียกตาหลับสนิทเสมือน
คนตาย มีเพียงลมหายใจอ่อนๆที่รวยรินเป็นเพียงสัญญาณชีพที่ยังคงเหลืออยู่

คุณหมิวค่อยๆทรุดตัวลงนั่ง พร้อมพยุงให้ชัดชายนอนหงายใช้ลำขาเรียวตักนุ่มๆของเธอต่างหมอนให้ชัดชายหนุนหัว มือเล็กๆ
นุ่มนิ่มลุบไล้เรือนผมของชัดชายเบาๆ ปากขมุบขมิบกระซิบบอกเขาเสียงแผ่วหวาน

“คุณชัดขา…แข็งใจอีกนิดนะคะ…ใกล้จะถึงแสงไฟแล้ว…ยะ..อย่าทิ้งหมิวไปแบบนี้นะคะ…..”

คุณหมิวลูบไล้เรือนผมและใบหน้าของชัดชายที่บวมปูดและมีรอยแตกตามคิ้วสองข้างและมุมปากที่แห้งผากอย่างแผ่วเบา จน
ชัดชายค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาเงยหน้าจ้องมองใบหน้าสวยหวานของคุณหมิวด้วยความรุ้สึกซาบซึ้ง

“คุณหมิวครับ…คุณหมิวไปที่แสงไฟคนเดียวได้มั๊ยครับ ทิ้งผมไว้ที่ตรงนี้ดีกว่า..ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงครับ…”
ชัดชายพูดกระท่อนกระแท่นพร้อมแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งแตกเกรอะกรังด้วยความกระหายน้ำ

“ไม่ค่ะ..คุณชัดอย่าพูดแบบนี้…หมิวทิ้งคุณไปไหนไม่ได้ทั้งสิ้น..ถ้าเราจะหนีไม่รอด ก็ขอให้เราไปไม่รอดทั้งคุ่..หมิวไม่มีวัน
ทิ้งคุณไปไหนเพียงลำพัง…เชื่อหมิวนะคะ…หมิวไม่มีวันทิ้งคุณ…”

คุณหมิวเน้นคำพูดทุกคำ พร้อมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของชัดชาย ยิ้มให้กำลังใจแก่เขา จากนั้นเธอก็ค่อยๆก้มหน้าลงทำสิ่ง
ที่ชัดชายแทบไม่อยากจะเชื่อนั่นคือแนบริมฝีปากบางเฉียบลงมาประกบกับปากหนาแตกยับของเขา แล้วคุณหมิวก้ค่อยแลบ
ลิ้นที่ชุ่มน้ำลายของเธอแตะไล้ไปบนริมฝีปากแห้งกรังของชัดชายช้าๆ จนริมฝีปากชัดชายชุ่มชื้นเขาค่อยๆแลบลิ้นออกมา
เลียริมฝีปากของตนเองที่เปียกชุ่มน้ำลายของคุณหมิวแล้วกลืนมันลงคอด้วยความรุ้สึกที่แสนอบอุ่นใจ ดุเหมือนเป็นสิ่งประหลาด
เพียงครุ่ใหญ่ ชัดชายก็เหมือนมีกำลังวังชาขึ้น เขาค่อยๆขยับตัวทำท่าลุกขึ้น จนคุณหมิวต้องรีบสอดมือเข้าไปช้อนรีษะจากนั้น
ช่วยพยุงยก จนชัดชายลุกขึ้นมานั่ง คุณหมิวก็ผวาร่างเข้ากอด ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

“ไปต่อได้แล้วครับ…”

ชัดชายพูดจบก็พยายามลุกขึ้นยืนโดยมีสองมือของคุณหมิวสอดเข้าใต้รักแร้พยุงช่วย พอเขายืนได้ตรงคุณหมิวก็คว้าแขนข้าง
หนึ่งของชัดชายมาวางพาดบนบ่าบนไหล่เล็กๆของเธอ แล้วสอดลำแขนโอบลำตัวของชัดชายไว้ นมอวบกลมเต้าเต่ง กดแนบ
กับสีข้างลำตัว แล้วค่อยสาวเท้าก้าวเดินกันต่อไปช้าๆ จนกระทั่งถึงเพิงพักแสงไฟวับๆแวมๆที่มองเห้นแต่ไกลนั้นหาใช่แสงจาก
ไฟฟ้า เป็นเพียงแสงจากตะเกียงโป๊ะหลอดแก้วที่จุดสว่างด้วยน้ำมันเบนซิน ที่ชาวไร่มันจุดพรางเอาไว้ป้องกันหัวขโมยมาลัก
ลอบขุดมันสัมปะหรังของตนไปขาย

คุณหมิวพาชัดชายเข้าไปในเพิ่งพักที่ปลุกติดกับพื้นดินเรียบๆแข็งๆ มีเพียงแคร่ไม้ยกสูงพร้อมเสื่อจันทบูรเก่าๆผืนเดียวปูวางไว้
ภายในกระท่อมไม่มีสิ่งใดเลยแม้กระทั่งห้องน้ำ แต่เมื่อคุณหมิววางร่างของชัดชายลงบนแคร่ไม้ได้แล้ว เธอก็ก้มมองใต้แคร่ไม้
เห็นถังน้ำสีขาวขุ่นขนาด20แกลลอนอยู่2ถัง ใบหนึ่งถูกเปิดใช้แล้วแต่ยังหลงเหลืออยู่เกือบครึ่งถัง แต่อีกใบยังมีพลาสติคซีล
ปิดฝาถังไว้ คุณหมิวดีใจคิดว่ารอดตายแน่แล้ว เพราะน้ำคือชีวิตสิ่งที่คุณหมิวและชัดชายต้องการมากที่สุดในเวลานี้คือน้ำ

จากนั้นเธอค่อยมุดหัวเข้าไปใต้แคร่ไม้ ลากถังน้ำใบที่ใช้แล้วออกมาค่อยเทลงมาที่ฝ่ามือ ยกขึ้นดมพอเห็นว่ากลิ่นสะอาดดี เธอ
ค่อยๆพยุงยกมันขึ้นมาวางบนแคร่ ค่อยๆเอียงถังลงให้ปากถึงตรงกับปากของชัดชาย แล้วร้องบอกให้เขาอ้าปาก แต่ชัดชาย
สลึมสลือด้วยบาดแผลและพิษไข้ จึงไม่สามารถทำตามที่คุณหมิวบอกได้ เมื่อคุณหมิวเทน้ำลงไปจึงหกเลอะเต้มหน้าเต็มตา
จนชัดชายสำลัก คุณหมิวรีบจับถังน้ำตั้งขึ้นแล้วกล่าวขอโทษเขาเบาๆ จากนั้นเธอก็เปลี่ยนวิธีใหม่โดยการรินน้ำใส่ปากตนเอง
ช้าๆ แม้มันจะกระฉอกรดหน้ารดตา แต่เธอก็ไม่ถึงกับสำลัก พออมน้ำได้เต็มปาก คุณหมิวก็นำน้ำในปากนั้นไปป้อนให้ชัดชาย
ดื่มจากปากของเธอเอง

สามอึกแรกชัดชายเพียงอ้าปากรอน้ำจากปากคุณหมิวเพื่อดื่มกินดับความกระหาย แต่อึกที่สี่นั้นขณะที่คุณหมิวประกบปากลง
มาแล้วเผยอริมฝีปากปล่อยให้น้ำสะอาดไหลรินเข้าสู้ปากของชัดชายนั้น พอหยดสุดท้ายสิ้นสุดลงไป ชัดชายกับจุ๊บริมฝีปาก
คุณหมิวเบา ๆ จนหญิงสาวเบิกตาโต แล้วเธอก็ตัดสินใจยื่นปากไปจุ๊บปากของชัดชายคืน พร้อมนึกอยุ่ในใจของเธอว่า

“พี่ฉัตรคะ..อย่าโกรธเมียเลยนะคะ..ที่เมียให้จูบกับเขา เป็นรางวัลสำหรับคนทำดีค่ะ…”

แม้ใจคุณหมิวจะพยายามหาเหตุผลเพื่อรองรับการกระทำของเธอ แต่อีกใจหนึ่งกับรุ้สึกวูบวาบเมื่อได้รสสัมผัสนั้น พอคุณหมิว
ถอนปากขึ้นมาได้หน่อย เธอก็ก้มลงไปจูบชัดชายอีกครั้งเร็วๆตามใจตนเองอีกด้านหนึ่งที่รู้สึกวูบวาบ แล้วรีบถอนปากออกมา
ทันทีก่อนที่ชัดชายจะจูบตอบกลับ จากนั้นเธอก็จ้องมองหน้าของเขาด้วยความรุ้สึกเขินอายจนใบหน้าแดงกล่ำ ยื่นหลังมือ
มาอิงที่หน้าผาก เมื่อเห็นว่ามันยังร้อนลุ่มอุณหภูมิยังไม่ยอมลดลงมาเลย คุณหมิวก็หันรีหันขวางต้องการหาผ้ามาซับน้ำเช็ด
ตัวให้ชัดชาย

แต่ทว่าทั่วทั้งเพิงพักนั้นนอกจากถังบรรจุน้ำสองใบ หาได้มีอะไรอยู่อีกเลย คุณหมิวจึงตัดสินใจค่อยๆถอดเสื้อชั้นนอกของเธอ
ออกช้าๆ จนเหลือเพียงบราสีดำซีทรูเพียงตัวเดียวที่ห่อหุ้มร่างกายส่วนบนของตัวเธอ จากนั้นค่อยๆรินน้ำจากถังลงบนเสื้อจน
เปียกชุ่ม แล้วบิดน้ำทิ้งพอหมาดๆ แล้วนำมาเช็ดตามใบหน้าของชัดชายอย่างแผ่วเบา โชคดีที่ชัดชายยังหลับตาพริ้มเสมือน
กำลังนอนหลับด้วยความอ่อนล้า จึงไม่ได้เห็นเต้าตูมอวบเต่งที่ซ่อนตัวอยุ่ในบราซีทรูสีดำตัวนั้นที่กำลังกวัดแกว่งลอยอยุ่ใกล้
หน้าใกล้ปากของเขาแค่เอื้อม

Share the Post:

Related Posts

โดนกระเทยเย็ด จน…แทบฉีก

โดนกระเทยเย็ด จน…แทบฉีก

เรื่องเสียว โดนกระเทยเย็ด จน…แทบฉีก ประสบการณ์เสียวที่ส้มจะเล่าให้อ่าน เรื่องเสียวมันเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ แล้วก็ไม่เคยที่จะปริปากบอกใคร เมื่อครั้งที่ลูกสาวส้มอายุได้ประมาณ 4-5 เดือน ส้มเหนื่อยมากในการดูแลทารก พี่แดงที่เป็นแม่บ้านเลยแนะนำหลานคนหนึ่งที่ชื่อ“แชมป์” ให้เข้ามาช่วยส้มเลี้ยงลูก แชมป์เป็นกระเทยที่รูปร่างค่อนข้างจะใหญ่ ผิวดำแต่หน้าหวานมาก ตาคม นมพุ่งแต่ก็ไม่เหมือนของหญิงแท้อย่างส้มนะ เวลาเดินไม่กระเพื่อม แข่งโป๊กอายุ 30 กว่า

Read More

เมียผมกับเจ้าแม็ค “โอวววว…แม็ค…หลานอา…อาเสียวหีจังเลย…”

เรื่องเสียว เมียผมกับเจ้าแม็ค “โอวววว…แม็ค…หลานอา…อาเสียวหีจังเลย…” เมียผมชื่อ “ปู” นั้น เป็นคนสวยรูปร่างดี และดูเรียบร้อย น่ารักมากจนใครๆ เห็นก็อยากให้เธอมาเป็นเมีย นั้นรวมถึงตัวผมด้วย แต่พอได้แต่งงานกันแล้ว ผมจึงได้เห็นอีกด้านของเธอ คือเมียผม… เธอชอบเรื่องเย็ดมาก แต่มันก็ทำให้ผมกับยิ่งลักษณ์เมียผมมากขึ้นไปอีก เพราะเธอตอบสนองรสนิยมและความต้องการของผมได้เป็นอย่างดี จนทำให้ชีวิตคู่ของเรา…ไม่มีเรื่องน่าเบื่อเลย…วันหยุดส่วนมาก ผมจะชวนเมียขับรถหาที่เหมาะๆ แล้วเย็ดกันตามป่า

Read More