น้องผิง ตอนที่ 1

น้องผิง ตอนที่ 1

น้องผิง ตอนที่ 1 – สัญญา
……………………………………….
Assasin008

 ดอกไม้งามเติบใหญ่จากเมล็ดอ่อนที่ไม่ได้สวยงามน่าดูฉันท์ใด … เด็กสาวสวยน่ารักหุ่นอวบอัดคนนี้ก็เติบใหญ่มาจากเด็กน้อยผมเปียขี้แงน้ำมูกย้อยฉันท์นั้น …

ขณะนั่งอยู่บนระเบียงบ้านชั้นสองในยามเย็น อารมณ์เจ้าบทเจ้ากลอนของผมพรั่งพรูออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะปกติแล้วเรื่องกลอนกวีทั้งหลายแหล่นี่ผมแทบจะไม่เอาอ่าวเอาทะเลเสียเลย ตอนเรียนถึงจะได้เกรดสี่พวกวิทย์คณิตมาตลอด แต่ว่าภาษาไทยยังไม่เคยได้เกรดสี่แม้แต่ครั้งเดียว แต่ว่าวันนี้ก็คงเพราะเธอคนนี้ ที่ทำให้คนอ่อนภาษาไทยอย่างผมอยากระบายความรู้สึกออกมาเป็นบทกลอนกวีบ้าง … เธอคนนั้นชื่อว่าน้องผิงครับ

ตั้งแต่ผม
ย้ายมาอยู่บ้านใหม่หลังนี้ ผมก็เห็นน้องผิงมาตลอด น้องผิงเป็นเด็กสาวขี้แยอยู่บ้านตรงข้าม จุดเด่นของเธอคือ มีนิสัยร่าเริง ชอบไว้ผมเปีย และชอบเล่นน้ำในสระหน้าบ้านตอนเย็นทุกวัน ซึ่งความจริงแล้วบ้านเธอก็มีรั้ว มีต้นไม้ มีหลังคาบดบังอยู่ระดับหนึ่งจึงไม่มีคนอื่นมองเห็นได้ นอกจากมองลงไปจากชั้นสองบ้านผมเท่านั้น

ตอนเย็นหลังเลิกงาน เมื่ออยู่บ้าน ผมมักจะนั่งบนระเบียงเล่นคอมพิวเตอร์ไป และนั่งมองดูเด็กสาวอายุสิบขวบเล่นน้ำส่งเสียงหัวเราะเฮฮาอย่างสนุกสนาน และชักชวนให้ผมไปเล่นด้วยบ่อยครั้ง ผมมองโดยไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่เกิดความรู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับไปเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง

กระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปหกปี เด็กน้อยอายุสิบขวบเติบใหญ่กลายเป็นสาวสิบหก รูปร่างอ้วนกลมของเด็กน้อยเริ่มกลับกลายเป็นผอมเพรียวเต็มไปด้วยส่วนโค้งเว้า ใบหน้าเปื้อนขี้มูกกลายเป็นขาวผ่องเรียบเนียนเหมือนดาราบนหน้าจอทีวี เธอยังคงไว้ผมเปียเช่นเดิม และยังคงเล่นน้ำหน้าบ้านอย่างสนุกสนานยามเย็นเช่นเดิม … แต่ว่าผมกลับไม่สามารถนั่งมองดูเธอด้วยความรู้สึกเอ็นดูแบบเดิมได้อีกแล้ว

ผมย้ายโต๊ะทำงานเข้ามาด้านในบ้านเล็กน้อย เพราะเกรงว่าจะโดนคนอื่นครหาเรื่องแอบดูสาวรุ่นอาบน้ำ แต่นั่นก็แค่หน้าฉากที่แสดงออกต่อคนภายนอก เพราะผมยังคงเฝ้ามองดูเธออยู่จากโต๊ะทำงาน เพียงแต่มองผ่านหน้าต่างที่มิดชิดจากด้านนอกสักหน่อย … ผมยังคงเฝ้ามองเธอเช่นเดิม แต่ว่ามองดูด้วยอารมณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม

เด็กสาวคล้ายดอกบัวที่กำลังผลิบานเปล่งความสวยงาม เธอผิวขาวเหมือนแม่ แต่หน้าตาสวยกว่าแม่ที่เป็นอดีตนางงามไปไกลลิบ รูปร่างไม่อ้วนไม่ผอม แต่หน้าอกกับสะโพกนั้นออกจะโตเกินวัยสักหน่อย มันจึงล้นออกมาจากเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่เธอชอบใส่เล่นน้ำให้ผมตื่นเต้นอยู่บ่อยครั้ง

วันนี้ก็เช่นกัน ผมยังคงนั่งมองดูเธออยู่ที่เดิม วันนี้เธอใส่เสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงขาสั้นสีดำลงไปเล่นน้ำ ผมกลืนน้ำลายดังอึกเมื่อมองดูเธอนอนยืดแขนยืดขาจนสองเต้าตั้งตรงเหมือนภูเขาอยู่ในสระน้ำ ผมเดาว่านั่นไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบห้าหรือสามสิบหกนิ้ว

ผมมองต่ำลงไปที่หน้าท้องเรียบเนียนและสะดือกลมสวยเพราะชายเสื้อร่นขึ้นไปด้านบน ผมมองลงไปที่ท่อนขาขาวเนียนของเด็กสาววัยสิบหก ก่อนจะหยุดชะงักกลืนน้ำลายดังอึกเมื่อมองเห็นความอวบอูมที่ตรงกลางหว่างขาของเธอ เนื่องจากเนื้อผ้ากางเกงมันเปียกจนแนบลงไปให้เห็นเป็นร่อง จากนั้นผมก็กระทำสิ่งที่ผมไม่เคยคิดจะทำมาก่อน ผมล้วงมือลงไปขยำที่เป้ากางเกงของตัวเอง มันกำลังพองตัวเต็มที่ด้วยอารมณ์กลัดมัน

จินตนาการวาบหวามเริ่มลุกโชนจนควบคุมไม่ได้ ผมมองเขม็งไปที่ร่างงามของเด็กสาวแสนสวย แล้วนึกไปว่าหากได้แหย่นิ้วเข้าไปลากเข้าลากออกในร่องรูฟิตรัดของเด็กสาวแล้วเธอจะดิ้นพราดจนใบหน้าสวยนั้นบิดเบี้ยวอย่างไร ผมคิดจินตนาการไปว่าหากได้กระเด้าใส่ร่องนมคัพใหญ่ของเด็กสาวแล้วจะมันสะใจเพียงใด และแล้วผมก็ควักเอาดุ้นเอ็นขึ้นมาซอยยิกขณะมองดูเรือนร่างของเด็กสาว

“น้องผิง น่าเย็ดอะไรขนาดนี้ … อูยยยสสส … อย่าให้มีโอกาสนะ จะเอาให้ร้องเสียงหลงเชียว”

ผมส่งเสียงหื่นกามกระตุ้นความคิดชั่วช้า ขณะที่มือขวายังคงสาวว่าวให้ตัวเองอย่างเมามัน จวบจนกระทั่งเมื่อผมละสายตาจากโคกอูมไปดูใบหน้าของน้องผิง การช่วยตัวเองของผมก็ชะงักลงไปชั่วคราว เพราะว่าน้องผิงกำลังมองมาทางนี้แล้วทำตาแป๋ว เธอยกมือทักทายเหมือนจะเห็นว่าผมมองเธออยู่จากหลังมุ้งลวด ผมจึงยกมือทักทาย แล้วเดินถอยห่างออกจากหน้าต่างด้วยความละอายใจ … ชายวัยสามสิบกว่าที่มีครอบครัวแล้วอย่างผม กำลังคิดลามกอยากรังแกเด็กสาวอายุสิบหกหรือนี่?

………………………………………………………..

หลังจากแอบมองเด็กสาว ผมก็ต้องเข้าห้องน้ำไปปลดเปลื้องอารมณ์เสียสองยกกว่าจะสงบลงได้ เพราะว่าผมเองก็ไม่ได้มีอะไรกับเมียมาสองสามวันแล้ว อ้อ ผมลืมบอกไป ผมชื่อกาย ตอนนี้อายุสามสิบห้า มีแฟนแล้วแถมยังสวยเสียด้วย แต่ว่าแฟนผมเป็นแอร์โฮสเตส เธอต้องบินไปต่างประเทศบ่อย ๆ ไปทีก็หายไปสามสี่วัน สรุปก็คืออยู่บ้านสัปดาห์ละแค่สองหรือสามวันเป็นอย่างมาก

ผมเองก็เป็นพวกมีอารมณ์ทางเพศสูงพอสมควร พอห่างเหินสักวันก็จะเริ่มทนไม่ได้ต้องหาทางระบายออก และส่วนใหญ่แล้วผมก็มักจะไประบายออกกับพวกสาวไซด์ไลน์นั่นล่ะครับ จ่ายเงินซื้อเอา ไม่ต้องมีพันธะภาระ พอน้ำแตกก็แยกทางง่ายดี

ผมอาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดหล่อพอสมควรนัดหมายกับเพื่อนเรียบร้อยเพื่อไปที่เดิม แต่พอเดินออกไปหน้าบ้านก็เจอน้องผิงเด็กสาวนมโตบ้านตรงข้ามยืนยิ้มแฉ่งจนเห็นไรฟันอยู่ตรงรั้วบ้านเสียแล้ว

“อ้าว … มายืนทำอะไรตรงนี้ล่ะน้องผิง?”

“หนูมาหาเจ้ามันนี่ค่ะ พี่กายเห็นมั้ยคะ ไม่รู้เจ้าแมวนิสัยเสียหายไปไหนอีกแล้ว?”

เธอตอบเสียงหวานจนผมใจสั่น อดไม่ได้ต้องมองสำรวจเนื้อตัวของเธอ ตอนนี้น้องผิงใส่เสื้อยืดสีขาวแบบหลวม ๆ จึงไม่สมควรจะเห็นรูปร่างทรวดทรง แต่เพราะหน้าอกเธอมันใหญ่ล้ำหน้าไปสักหน่อย เสื้อจึงโดนดันออกมาด้านหน้าจนชายเสื้อลอยขึ้นกระตุ้นให้อารมณ์ผมปั่นป่วนเล็ก ๆ

“อืม ไม่รู้ซิ ไม่ได้ดูนะ ลองเข้ามาหาดูซิ”

ผมแอบกลืนน้ำลายแล้วเปิดประตูรั้วให้น้องผิงเดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งนี่เป็นเรื่องปกติที่เธอมักจะต้องไล่ตามเจ้าแมวชอบเที่ยว เพราะใครไปจับมันมั่ว ๆ ไม่ได้ ไม่งั้นจะโดนมันข่วนเอา มีก็แต่น้องผิงนี่แหละที่มันยอมให้จับ จึงลำบากให้เธอต้องเดินตระเวณพามันกลับบ้านตอนกลางคืนบ่อยครั้ง

น้องผิงเดินเข้ามาตาเป็นประกายแปลก ๆ แต่เดินรอบบ้านแล้วก็ยังไม่เจอ เธอจึงลองก้มลงไปดูใต้ท้องรถ จนผมมีโอกาสได้เห็นสะโพกงอนสวยน่าตีลอยไหวไปมา เธอค้างอยู่ในท่านั้นนานผิดปกติจนผมเริ่มแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอจงใจยั่วผมหรือไม่ แต่สักครู่หนึ่งเด็กสาวก้นสวยก็ลุกขึ้นปัดเศษดินที่เกาะบนหัวเข่าและข้อศอก เธอหันมามองผมด้วยสายตาแปลก ๆ อีกครั้ง เหมือนกำลังค้นหาความลับอะไรอยู่

“อ๊ะ นั่นมันเจ้ามันนี่นี่นา อยู่บนหน้าต่างนั่นไง”

น้องผิงส่งเสียงร้องโพล่งออกมาแล้วชี้มือไปทางหน้าต่างบนชั้นสอง และนั่นคือหน้าต่างที่ผมใช้แอบดูน้องผิงอยู่ทุกวัน แต่ผมหันไปดูแล้วไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าเหมียวจอมซ่า กระนั้นเธอก็ไม่สนใจ เธอเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านหน้าตาเฉยจนผมห้ามไม่ทัน เพราะปกตินั้นผมอาจจะให้เธอเข้ามาในรั้วบ้าน แต่ยังไม่กล้าให้เข้าบ้านเพราะเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องข่าวคาวให้เพื่อนบ้านนินทา ผมจึงรีบวิ่งตามเข้าไป

“ไม่มีหรอกน้องผิง เจ้าเหมียวจอมซ่ามันจะเข้ามาได้ไง พี่ไม่ได้เปิดประตูให้มันเข้าบ้านหรอกนะ แล้วนี่มันก็ชั้นสองด้วย”

ผมวิ่งตามเธอขึ้นบันไดไปชั้นสองแล้วพยายามพูดให้เธอเข้าใจ แต่พอเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ที่หน้าต่างบานประจำของผม แล้วมองลงไปที่สระน้ำหน้าบ้านของเธอ ผมก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้มาตามหาเจ้าเหมียวอย่างที่อ้างไว้

“พี่กายแอบดูหนูเล่นน้ำทุกวันตั้งแต่เด็กไม่เบื่อบ้างเหรอคะ?”

น้องผิงหันมาส่งสายตาเป็นประกายวิบวับเหมือนเด็กน้อยที่กำความลับอะไรบางอย่างไว้ในใจ ผู้ใหญ่ที่มีชะงักติดหลังอย่างผมจึงสะดุ้งโหยงไม่ทราบว่าเธอจะมาไม้ไหน เธอจะเอาเรื่องผมที่แอบดูเธอหรือไม่ แต่ผมก็เลือกที่จะบ่ายเบี่ยงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไว้ก่อน

“เป็นเด็กเป็นเล็กพูดอะไร พี่ไม่ได้แอบดูซะหน่อย ก็แค่นั่งทำงานเฉย ๆ ถ้าไม่อยากให้คนดูก็ย้ายสระน้ำไปที่อื่นซิ”

ผมพูดโพล่งหลุดออกไปเพื่อแก้ตัว แล้วค่อยรู้สึกว่าผมพูดเกินเลยไปสักหน่อย เพราะหากเธอย้ายที่เล่นน้ำจริง ๆ ผมคงจะอดดูของดีทันที

“ไม่ย้ายหรอก ถ้าย้ายแล้วใครจะช่วยดูแลหนูล่ะ พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ หนูตั้งใจเล่นตรงนั้นให้พี่กายช่วยดูแลหนูนั่นแหละ เผื่อมีเรื่องอะไร … ส่วนพี่น่ะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว อย่าพูดโกหกเด็กซิคะ แอบดูก็ยอมรับมาดีกว่า ไม่เห็นต้องมาทำเป็นแก้ตัวเลย”

น้องผิงพูดออกมาหน้าตาเฉยว่าเธอเจตนาตั้งสระเป่าลมไว้ตรงตำแหน่งนั้น ตำแหน่งที่ผมมองเห็น ผมจึงแอบคิดอกุศลขึ้นมา แต่พอนึกอีกทีเธอก็พูดถูกในแง่ของความปลอดภัย เพราะพ่อกับแม่ของเธอไม่ค่อยอยู่บ้าน ผมไม่ค่อยได้คุยกับพวกเขานัก รู้แค่ว่าพ่อเธอต้องทำงานต่างประเทศ ส่วนคุณแม่ยังสาวของเธอก็ไม่ค่อยอยู่บ้านมากนัก เธอเป็นเซลส์ขายรถยนต์ที่มักจะกลับดึกและออกตั้งแต่เช้า

ส่วนประโยคหลังที่เธอย้อนใส่ผมนั้นทำเอาผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เพราะโดนดักขนาดนี้แล้ว หากจะให้แถแก้ตัวอีกก็คงไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่ แต่ยังดีที่น้องผิงก็ไม่ได้คาดคั้นคำตอบเหมือนเธอปักใจเชื่ออยู่แล้วว่าผมแอบดูเธอ และตอนนี้เธอกำลังมองสำรวจไปรอบห้องผมด้วยความสนอกสนใจ ผมจึงค่อยนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ตามลำพังในห้องนอนกับเด็กสาวน่าฟัดคนนี้ … และหากว่าผมปลุกปล้ำเธอให้สมอยากอย่างที่ฝันไว้ เด็กสาวอย่างเธอคงไม่มีทางรอดมือผมไปแน่นอน

“แน่ะ คิดเรื่องลามกอีกแล้ว บอกเลยนะถ้าจะทำอะไรผิงล่ะก็ ผิงร้องบ้านแตกเลยคอยดูเถอะ”

พอคิดอกุศลนิดนึงเด็กสาวแสนรู้ก็หันมาพูดดักทางอีกรอบ ผมจึงชะงักไปไม่เป็น ได้แต่แอบแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่น ๆ

“พูดอะไรอีกแล้ว คิดลามกอะไร?”

“ไม่ได้คิดลามกแล้วทำไมตรงนั้นมันบวมขึ้นมาล่ะคะพี่กายขา”

น้องผิงเชิดปากพูดอย่างมั่นใจ แล้วชี้นิ้วไปที่เป้ากางเกงซึ่งกำลังพองตัวออกมาเป็นลำจนผมต้องรีบยกมือไปปิด เด็กคนนี้ชักจะร้ายกาจมากขึ้นทุกวันแล้ว

“อะแฮ่ม นี่มันเรื่องธรรมดาของผู้ใหญ่ เอาล่ะไปได้แล้วไปชิ้ว ๆ ผู้ใหญ่จะออกไปทำธุระข้างนอก”

“ทำธุระหรือว่าไปเที่ยวคะ แต่งซะหล่อแถมใส่น้ำหอมเหม็นหึ่งเลย หนูว่าไปเที่ยวกินเหล้ากับเพื่อนมากกว่ามั้ง”

เด็กสาวพูดดักทางเสร็จสรรพทำตัวเหมือนกับพยาธิที่รู้ทุกอย่างของผม ซึ่งคงเป็นเพราะเธอคุยกับผมมากกว่าพ่อแม่ของเธอกระมัง เธอจึงเข้าใจผมมากกว่าเมียของผมเองเสียอีก เรียกได้ว่าผมคิดอะไร แม่คุณเป็นต้องดักทางได้ตลอด

“โอเค ไปกินเหล้ากับเพื่อนนั่นแหละ ไม่ได้ทำธุระ จะสายแล้วเนี่ย ออกไปได้แล้วไป”

“ผิงไม่ใช่แมวนะ อยากไล่ก็ไล่แบบนี้ อยากให้ผิงไปก็ได้ค่ะ จ่ายมาก่อนเลย 500”

เธอเชิดปากใส่ผมอีกรอบ แล้วเดินแบมือเข้ามาหาจนผมงง ว่าอยู่ดี ๆ ทำไมเธอมาขอเงินผม

“ค่าอะไร?”

“ค่าแอบดูหนูว่ายน้ำวันนี้ ของวันก่อนหน้ายกให้เป็นประโยชน์ของจำเลย แต่ถ้าไม่ให้ พรุ่งนี้หนูจะย้ายไปเล่นน้ำที่อื่น”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงยียวนจนผมปั่นป่วน จะให้ก็รู้สึกเหมือนจำเลยที่ยอมสารภาพรับผิดในศาล แต่ถ้าไม่ให้ผมก็คงเสียดายไปตลอดชีวิต สุดท้ายผมจึงยอมหยิบเอาแบงค์สีม่วงให้เธอ เด็กสาวคนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว

“อ่ะ เอาไป 500”

“ขอบคุณค่ะพี่กายสุดหล่อ … แล้วก็ขออีกห้าร้อยค่ะ”

“ห๊ะ ค่าอะไรอีกห้าร้อย?”

“หนูจะลงเรียนว่ายน้ำที่โรงเรียน แต่ยังไม่มีเงินค่าลงทะเบียน เมื่อกี้เพิ่งได้ค่าลงทะเบียนไปห้าร้อย ส่วนอีกห้าร้อยเป็นค่าชุดว่ายน้ำค่ะ”

เธอพูดพลางทำตาปริบ ๆ เหมือนลูกแมวไร้เดียงสาที่น่ารักน่าใคร่ ผมจึงแทบอยากยื่นเงินให้เธอไปเลย แต่พอนึกไปว่านี่ไม่ใช่เรื่องของผมเสียหน่อย นั่นควรจะเป็นเรื่องของพ่อแม่เธอต่างหาก

“เดี๋ยว ๆ ค่าเรียนก็ต้องขอพ่อขอแม่ซิ มาขอพี่ทำไมเนี่ย”

“ขอแล้วค่ะ แต่แม่บอกว่าตอนนี้ที่บ้านถังแตก พ่อก็โดนเบี้ยวค่าแรงเลยส่งเงินมาไม่ได้ แม่บอกว่าต้องต้องประหยัดกันไว้”

“งั้นก็ไม่ต้องเรียนซิ จะได้ไม่ต้องจ่าย”

“งั้นถ้าพี่กายให้อีกห้าร้อย พรุ่งนี้หนูจะใส่ชุดว่ายน้ำมาเล่นน้ำหน้าบ้านให้พี่ดูดีมั้ยคะ เอาแบบทูพีซก็ได้”

ผมพยายามบ่ายเบี่ยงแต่เธอก็เล่นยื่นข้อเสนอที่ผมไม่มีทางปฏิเสธได้มาดักทางอีกตามเคย ผมจึงแอบจินตนาการวาบหวิวตอนเธอใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซนอนเล่นน้ำหน้าบ้าน แล้วกระดูกสันหลังของผมก็สั่งการให้มือขยับไปหยิบเอาแบงค์ห้าร้อยยื่นให้เธอเองโดยที่สมองไม่ได้ทำงานเลยสักนิด

“ขอบคุณค่ะ พี่กายของหนูใจดีที่สุดเลย … เสียก็แต่ลามกมากไปสักหน่อย”

น้องผิงรับเงินไปแล้วยกมือไหว้ขอบคุณอย่างสวยงาม ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยประโยคแดกดันแล้ววิ่งแจ้นออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันตอบโต้

“เดี๋ยวเถอะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่แต่งทูพีซตามสัญญาล่ะก็น่าดูแน่ ยายเด็กแสบ”

………………………………………….

คืนนั้นผมกับเพื่อนสมาคมหื่นอีกสองคนไปเที่ยวกันตามปกติ วันนี้สถานที่คือคอนโดหรูหราของเพื่อนผมที่มีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะพูล อ่างอาบน้ำ บาร์เหล้า หรือทีวีจอใหญ่ และที่ขาดไม่ได้ก็คือมีห้องนอนสามห้องให้แยกกันไปขึ้นสวรรค์ได้ตามอัธยาศัย

ตอนนี้พวกเราสามคนกำลังนั่งดื่มกับสาวสวยระดับพริตตี้อีกสองคน พวกเธอโดนพวกผมเช่าเหมาซื้อเวลาทั้งคืน หรือก็คือพวกเธอจะไปไหนไม่ได้จนกว่าจะเช้า ไม่เช่นนั้นจะผิดข้อตกลง และนั่นเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย เพราะผมกับพวกทั้งสามคนจัดได้ว่าเป็นเศรษฐีในระดับหนึ่ง

แน่นอนว่าพวกเราจะติดต่อนายหน้าคัดหาเฉพาะที่จัดว่าสวยและสภาพดี โดยแลกกับจำนวนเงินที่สมน้ำสมเนื้อ และสองคนที่นั่งอยู่ในห้องตอนนี้ก็ไม่เลวเลย พวกเธอเป็นพริตตี้ออกงานของค่ายรถยนต์แห่งหนึ่ง แต่ที่มีกันแค่สองคนก็เพราะนายหน้าโทรมาบอกว่าคนที่สามรถติดยังมาไม่ถึง และผมมัวแต่นั่งเหม่อคิดเรื่องน้องผิงจนโดนไอ้เพื่อนสองคนนั้นคว้าสองสาวไปล้วงกันเสียก่อนแล้ว

“คิก คิก น่าสงสารพี่กายนะคะ ต้องนั่งคนเดียว ให้หนูไปนั่งด้วยมั้ยคะ ไม่รู้ว่ายัยเด็กใหม่นั่นจะเบี้ยวอีกหรือเปล่า รอบที่แล้วก็เบี้ยวไปรอบนึงแล้ว แม่เล้าบ่นใหญ่เลย”

พริตตี้คนหนึ่งหันมาส่งเสียงหัวเราะคิกคักแสดงสีหน้าเชิญชวนทำท่าเหมือนอยากจะควบสอง ซึ่งเธอก็อาจจะอยากทำแบบนั้น เพราะหากขาดตัวหารไป เธอก็จะได้รับส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น โดยแลกกับการรับศึกหนักขึ้นสองเท่า

“กล้าเบี้ยวด้วยเหรอ แม่เลี้ยงที่นี่โหดนี่นา เดี๋ยวก็โดนจับไปเผานั่งยางหรอก”

ผมส่งเสียงหัวเราะร่วนถามแบบขำ ๆ เพราะรู้กิตติศัพท์ของวงการนี้ดี หสกใครคิดหาเงินก็ได้เงิน แต่ต้องทำงานแลกเงิน หากใครอยากได้เงิน แต่ไม่ทำงาน หากไม่โดนลูกปืนก็ต้องโดนจับเผานั่งยาง

“รอบที่แล้วก็โดนเจ๊กระทืบท้องไปรอบนึงแล้วล่ะค่ะ เห็นบอกว่าไม่อยากให้เสียโฉม นี่ถ้าคราวนี้เบี้ยวลูกค้า VIP อย่างพวกพี่อีก มีหวังไม่รอด”

“จะทำอาชีพแบบนี้แล้วทำไมยังกล้าเบี้ยวอีก?”

“หนูก็ไม่รู้ค่ะ ไม่ค่อยได้คุยกับมัน ยัยนั่นมันหยิ่ง ถือว่าสวยด้วยมั้ง มองพวกเราเหมือนพวกคุณหญิงไฮโซมอง สงสัยว่าจะไม่เคยทำ แต่ต้องทำเพราะถังแตกอะไรแนวนั้นมั้ง ได้ข่าวว่าเป็นเซลล์ขายรถ แต่ช่วงนี้รถขายไม่ออก ก็เลยต้องเบิกเงินล่วงหน้าไปเป็นค่าเทอมลูกอะไรนี่แหละ”

ผมรับฟังแล้วก็ส่งเสียงอืม ติดใจคำว่าสวยมากกว่าเรื่องอื่น เพราะหากพริตตี้คนนี้กล้าใช้คำว่าสวยในการบรรยาย ก็คงแปลว่าผู้หญิงคนนั้นสวยกว่าเธอ ส่วนเรื่องอื่นนั้นผมขี้คร้านจะสนใจ เพราะพวกสาวไซด์ไลน์ทุกคนมีประวัติน่าสงสารทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะเวลาที่พวกเธอต้องการเอาเงินจากใคร

เราคุยกันแค่นั้นแล้วก็เฮฮากันต่ออีกเกือบชั่วโมง ไอ้เพื่อนสองคนก็เริ่มลากสองพริตตี้ไประบายอารมณ์ใคร่แบบห้องใครห้องมัน ผมจึงได้แต่นั่งแกร่วดื่มเหล้าอยู่คนเดียวด้วยความเซ็ง พอกะจะโทรไปต่อว่านายหน้าเสียหน่อย ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเสียก่อน ผมจึงรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูเพราะควยแข็งอยากระบายเต็มที

“ขอโทษด้วยนะคะคุณ คือทางเรามีปัญหานิดหน่อย แต่เคลียร์เรียบร้อยแล้ว น้องเค้าติดธุระนิดหน่อยเลยมาช้า หนูก็เลยจะแถมเวลาให้เป็นสามวันนะคะ พี่สั่งสอนได้เต็มที่เลย ถ้ามีปัญหาอะไรบอกเลยนะคะ หนูจะเคลียร์ให้เรียบร้อยเอง”

แม่เล้าวัยสามสิบต้น ๆ โผล่มาก้มหัวกล่าวขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่ แถมยังมีบวกเวลาให้ ผมก็แอบขำ ๆ ว่าใครจะไปเอากะหรี่ติดต่อกันหลายวัน แต่ก็เดาได้ว่าแม่เล้าคงไม่ยอมคืนเงิน แต่ใช้วิธีให้เด็กเสียตัวฟรีแทน

ผมมองไปด้านหลังแม่เล้าก็เห็นผู้หญิงใส่ชุดยูนิฟอร์มทำงานเรียบร้อยเหมือนเซลส์ทั่วไป เธอผิวขาว ผมยาว รูปร่างดีทีเดียว แต่ว่าเธอเอาแต่ก้มหน้าเอามือปิดเอาไว้เหมือนเกรงว่าจะมีใครเอากล้องมาถ่ายรูปเธอไป … นี่มันไซด์ไลน์มือใหม่หน้าบางชัด ๆ

“เอ้า แม่คุณ จะก้มหน้าหาสวรรค์วิมานอะไร รีบเงยหน้าให้พี่เค้าดูก่อนว่าพอใจมั้ย แล้วก็อย่าลืมนะ แกก่อเรื่องมามากแล้ว ถ้ามีอีกครั้งเดียวล่ะก็ แกโดนแน่ แล้วลูกสาวแกก็ต้องมาทำงานใช้หนี้แทน”

แม่เล้าหันไปขู่จนสาวไซด์ไลน์คนนั้นสะดุ้งตัวสั่นตกใจกลัว ผมเลยเดาออกว่าเธอคงจะก่อหนี้ไว้พอสมควร แถมยังมีลูกสาวให้ทวงหนี้อีกด้วย เธอคนนั้นจึงค่อย ๆ เอามือออกจากใบหน้า แล้วเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่ายังไม่กล้ามองหน้าผม … และหากเธอจะมองผมสักหน่อยล่ะก็ เธอคงจะต้องแสดงสีหน้าตื่นตกใจเหมือนผมตอนนี้แน่ ๆ

“คนนี้ชื่อมิ๊งค่ะ เป็นเด็กใหม่ยังไม่ค่อยประสา ก็ต้องอบรมกันไป ถ้าไม่ชอบใจก็เปลี่ยนคนอื่นได้นะคะ แต่คนนี้สวยระดับท๊อปในเล้าแล้ว หุ่นก็ดี ถึงจะมีลูกแล้ว แต่สภาพเครื่องยังฟิตเปรี๊ยะ เพราะผัวไม่ค่อยทำการบ้าน สนมั้ยคะ?”

แม่เล้ามองหน้าผมแล้วยิ้ม เธอคงคิดว่าผมพอใจในตัวเด็ก ซึ่งความจริงผมก็พอใจนั่นแหละ เธอคนนี้สวย หุ่นดีกว่าสองคนก่อนพอสมควร แต่ที่ผมตกใจก็คือต่อให้เธอแต่งหน้าเข้มกว่าปกติเล็กน้อย แต่ผมก็ยังจำได้แม่นยำว่าผู้หญิงชื่อมิ๊งคนนี้คือแม่ของน้องผิงที่อยู่บ้านตรงข้ามกับผม

ผมเกิดอาการลังเลเล็ก ๆ ไม่อยากมีสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน แต่ความหื่นก็มากกว่า ผมจึงพยักหน้าให้แม่เล้าแล้วจูงมือมิ๊งเข้าไปในห้อง โดยที่เธอเอาแต่ก้มหน้างุดจึงไม่เห็นหน้าเพื่อนบ้านอย่างผม

ตอนนี้ผมค่อยนึกได้ว่าบ้านของน้องผิงมีปัญหาเรื่องเงิน พ่อของเธอโดนเบี้ยวค่าแรงที่ต่างประเทศ แม่ของเธอโดนพิษเศรษฐกิจจนย่ำแย่ แต่ว่าที่บ้านต้องกินต้องใช้ แม่ของผิงจึงตัดสินใจขายเรือนร่างที่ดูดีมีเสน่ห์เหมือนพวกไซด์ไลน์ทั่วไป เพียงแต่เธอคงรับเรื่องพวกนี้ไม่ค่อยได้จึงอายจนไม่กล้ามองหน้าใคร

เท่าที่ผมรู้จากการนินทาของเพื่อนบ้านจอมเผือก มิ๊งเคยเป็นพวกลูกผู้ดีตกยาก เป็นนางงามเวทีด้วยซ้ำ เธอแต่งงานในวัยแค่สิบห้าสิบหกด้วยเหตผลเรื่องการเงิน ซึ่งช่วงแรกก็ดูดี สามีที่แก่กว่าเกือบยี่สิบปีสามารถหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเธอได้ แต่ช่วงหลังนี้คงเจอวิกฤตบางอย่างจนย่ำแย่

“ปิดไฟได้มั้ยคะ?”

มิ๊งก้มหน้างุดพยายามขอร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้ และคงอยากจะให้ผมปิดไฟจะได้ไม่อายเกินไป หรือดีไม่ดีก็คงอยากให้ผมรีบ ๆ ทำให้จบเรื่อง แล้วเธอจะได้เสร็จงานเสียที … แต่เรื่องอะไรผมจะทำแบบนั้นล่ะ?

“ไม่ปิด ผมอยากเห็นคนสวยว่าจะหุ่นดีขนาดไหน … ถ้าอยากปิด ก็ปิดตาตัวเองเอาแล้วกัน”

ผมตอบด้วยน้ำเสียงนึกสนุก แล้วหันไปหยิบเอาแถบผ้าสีดำมาคาดปิดตาให้เธอ เพราะไม่อยากให้เธอรู้ตัวว่ากำลังจะเสร็จหนุ่มเพื่อนบ้านอย่างผม ไม่งั้นผมก็เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าเธอจะงอแงไม่ยอมหรือเปล่า

เธอสะดุ้งเล็กน้อยตอนผมปิดตาให้ แต่พอปิดเรียบร้อยเธอก็ดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย คงคิดว่าไม่ได้มองความบัดสีของตัวเองก็ยังดีมั้ง แต่คิดแบบนี้มันก็เหมือนพวกปิดหูโขมยกระดิ่งนั่นแหละ ตัวเองไม่ได้ยิน แต่คนอื่นก็ได้ยิน

“แนะนำตัวหน่อยซิครับคนสวย ชื่อ อายุ มหาลัย ที่ทำงาน”

ผมถามเสียงนุ่มขณะจูงเธอลงไปนั่งที่ขอบเตียง พยายามสนทนาให้เธอหายกลัวก่อน

“ชื่อมิ๊งค่ะ … อายุ 33 … มหาลัย … เอ่อ มิ๊งไม่ได้เรียนมหาลัยค่ะ อาชีพแม่บ้าน”

เธอยังคงตอบเสียงสั่นและโกหกเรื่องอาชีพของตัวเอง แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคงไม่มีใครอยากแฉข้อมูลตัวเองมากเกินไป

“สัดส่วนล่ะ”

“… เอ่อ … 36 … 24 … 36 ค่ะ”

“หุ่นดีนี่นา ผิวสวย หน้าสวย ดูเหมือนคุณหนูไฮโซเลย ถ้าไม่บอกล่ะก็ผมไม่เชื่อเด็ดขาด ว่าสาวสวยดูดีเหมือนเจ้าหญิงแบบคุณจะมาทำงานแบบนี้ … เกิดอะไรขึ้นครับคนสวยเล่าให้ฟังหน่อย”

ผมพยายามคุยต่อ แล้วพูดชมจนเธอเริ่มเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เหมือนกลัวผมน้อยลงไปหนึ่งส่วน แต่ก็ยังตอบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นสั่นเครือสักหน่อย

“… มิ๊ง ต้องการใช้เงินค่ะ … ที่บ้านมีปัญหา”

“ค่าอะไร? ต้องใช้เท่าไหร่?”

“ก็มากพอดูค่ะคุณ”

มิ๊งตอบเสียงอ้อมแอ้มแบบไม่เต็มใจนักซึ่งก็ยังเข้าใจได้ ผมจึงจับมือของเธอ เธอสะดุ้งพยายามดึงมือออกเล็กน้อย แต่เหมือนจะนึกได้ว่าไม่ควรขัดขืนจึงปล่อยให้ผมจับแบบเกร็ง ๆ

“มิ๊งฟังผมนะ … ทำงานแบบนี้น่ะ เราต้องหวังเงิน ถ้ามิ๊งทำแบบไม่เต็มใจ ต่อให้สวยเหมือนนางฟ้ายังไง ก็ได้เงินน้อย พอได้เงินน้อยก็ต้องทำหลายครั้ง โดนหลายคน … ถ้ามิ๊งทำดี ๆ ให้ผมพอใจ ไม่แน่ว่าผมอาจจะช่วยแก้ปัญหาของมิ๊งได้บ้าง”

ผมพยายามพูดชม และพูดให้ความหวัง พร้อมกับยกมือเธอขึ้นมาจูบแผ่วเบาจนเธอสะท้าน ซึ่งความจริงผมก็ไม่ได้คิดจะช่วยจริงจังอะไรหรอก แค่อยากพูดให้เธอตั้งใจทำงานคุ้มค่าเงินมากกว่านี้สักหน่อย

คำพูดของผมดูจะได้ผลไม่น้อย มิ๊งเริ่มนิ่งครุ่นคิด เธอไม่ฝืนที่ผมจูบมือเธอซ้ำ ๆ อีกต่อไป ทั้งยังยอมพูดคุยกับผมดีกว่าเดิมด้วยสักหน่อย

“ถ้าพูดตรง ๆ ก็คือ ตอนนี้มิ๊งกับสามีไม่มีรายได้ค่ะ … ยังดีที่บ้านไม่ต้องผ่อน แต่ก็ต้องผ่อนรถ หาค่ากินค่าใช้ ยังต้องหาค่าเทอมลูกด้วย … ตอนนี้ที่ต้องรีบหาเลยก็คือค่าเทอมของลูกสาวหมื่นกว่าบาท มิ๊งเลยไปขอเบิกเงินจากเจ๊มาก่อนห้าหมื่น … แล้วค่อยมาทำงานใช้หนี้”

“ผมก็บอกตรง ๆ นะครับ ผมเคยเลี้ยงดูเด็กนักศึกษา ผมเคยให้เดือนละสามหมื่น … ถ้าสวยเหมือนนางฟ้าแบบมิ๊ง แล้วทำให้ผมพอใจได้ เดือนละสองสามหมื่นผมให้ได้สบาย ๆ”

“คุณพูดชมเกินไปแล้วค่ะ … มิ๊งไม่ได้สวยขนาดนั้นหรอก นางฟ้าอะไรกัน”

“ไม่เกินไปหรอก ใช้คำว่านางฟ้านั่นแหละถูกแล้ว นะครับนางฟ้าของผม”

ผมพยายามตอกย้ำด้วยยุทธการโปรยคำชม และก็เริ่มได้ผล ผู้หญิงทุกคนชอบคำชม มิ๊งจึงเริ่มผ่อนคลายและหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะยอมถอดผ้าปิดตาออก ซึ่งผมก็คิดว่าดีแล้ว

“คุยตั้งนาน ยังไม่รู้เลย คุณชื่ออะไรคะ?”

“คืนนี้เรียกผมว่าผัวไปก่อน ส่วนคุณผมก็จะเรียกว่าเมียแทน”

“… แต่ … เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะ”

“ก็กำลังจะเป็นผัวเมียกันอยู่นี่ไง”

ผมพูดตะล่อมแล้วขยับไปนั่งข้างเธอ ใช้มือซ้ายโอบประคองรอบเอว ในขณะที่มือขวาวางแหมะลงบนท่อนขาแล้วลูบไล้เบา ๆ จนเธอสะดุ้งโหยง แต่ก็ไม่กล้ากระดุกกระดิกขัดขืน เธอยังตัวเกร็งอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้รีบร้อนเผด็จศึก แค่จัดการลูบ ๆ คลำ ๆ ที่ด้านนอกกระตุ้นเธอไปก่อน

“มีอะไรกับสามีบ่อยมั้ย?”

“… เอ่อ … มิ๊งไม่ได้เจอหน้าเค้ามาจะห้าปีแล้วค่ะ เค้าต้องทำงานต่างประเทศ”

“ห้าปี? บ้าไปแล้ว เมียสวยเซ็กส์ซี่ขนาดนี้มันอดใจไม่มาเจอหน้าตั้งห้าปีได้ยังไงกัน? ถ้าเป็นผมนะรับรองว่าจับปล้ำเช้าเที่ยงเย็น”

ผมหยอกจนเธอหน้าแดงซ่าน ขาของเธอไม่สั่นแล้ว ปล่อยให้ผมลูบได้โดยไม่เกร็งเหมือนก่อนหน้านี้ และเธอยังเริ่มพูดจาล้อเล่นกลับ กว่าเธอจะรู้ว่าเผลอหลุดปากด้วยถ้อยคำที่ไม่ดีก็ไม่ทันการแล้ว

“ถ้ามิ๊งเป็นเมียคุณคงไม่ได้ทำงานทำการอะไรแน่เลยค่ะ … อุ๊ย”

“ก็คงงั้นแหละ เพราะว่าผมจะจับเมียปล้ำเช้าเที่ยงเย็นจริง ๆ … เมียจ๋า … มีอะไรกับสามีครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?”

ผมเริ่มกอดเธอแน่นขึ้นเพราะตื่นเต้นที่จะได้จัดการเธอแทนสามีไร้น้ำยา ผมขยับเบียดเข้าไปพูดกระซิบที่ข้างหู ฉวยโอกาสพ่นลมใส่เนื้อสาวกระตุ้นอารมณ์ดิบของเธอให้ตื่นขึ้นมา เธอตัวสั่นสยิวเล็กน้อยแต่ไม่มีท่าทีต่อต้านแล้ว

“… ลืมไปแล้วค่ะ … น่าจะมีอะไรกันแค่ปีแรกที่แต่งงาน พอคลอดลูกก็ไม่ได้มีอะไรกันเลย … เขาแก่แล้ว”

“มิ๊งคงจะเหงาแย่ … วันนี้ผัวคนนี้จะทำให้มิ๊งมีความสุขชดเชยกับที่ผ่านมาหลายปีนะ รับรองว่าเมียจะลืมสามีเก่าไปเลย”

ผมพูดกระซิบเสียงหวานแล้วเริ่มรุกหนัก จูบลงไปที่ใบหูและปรางแก้ม ผิวพรรณของเธอเนียนดีทีเดียว สมกับที่เป็นลูกผู้ดีเก่า และดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มตอบสนองสักหน่อยแล้ว เธอจึงเริ่มเอียงคอเปิดทางให้ผมจูบไซร้มากกว่าเดิม

“ตัวหอมจังเลยเมียจ๋า แก้มก็นุ่มเหมือนเด็กวัยรุ่นเลย ถ้าบอกว่าอายุสิบแปดผัวก็เชื่อนะเนี่ย”

ผมพร่ำพูดหวานฉ่ำไปเรื่อย ๆ และรุกเร้าไปเรื่อย ๆ สาวสวยลูกหนึ่งที่ยังไม่เคยเจอความสุขที่แท้จริงจึงเริ่มหอบกระเส่า ปล่อยให้ผมเสพความหอมหวานของผิวพรรณเรียบลื่นได้อย่างสบายอารมณ์

เสื้อสูทสีดำของเธอโดนผมปลดออกอย่างรวดเร็ว เหลือเสื้อยืดสีขาวและยกทรงที่ขวางกั้นเต้าอวบคู่นั้นเอาไว้ ผมไม่รีบตะปบอย่างตะกละตะกลาม แต่เริ่มด้วยแตะสัมผัสเบา ๆ ที่หน้าอกแล้วค่อย ๆ บีบ ค่อย ๆ ขยำอย่างช้า ๆ ส่วนที่ด้านล่างก็เริ่มลูบมือลึกเข้าไปที่โคนขาแตะฉวัดเฉวียนผ่านจุดยุทธศาสตร์ไปมาให้เธอหวาดเสียวเล่น

เจอมือดีแบบผมเล้าโลมเข้าไป แม่ของน้องผิงก็ตัวอ่อนระทวย ผมเลยปล่อยให้เธอลงไปนอนหงายบนเตียง แล้วขยับขึ้นไปล้วงมือตะปบที่โคกสวาทของเธอแบบเต็มไม้เต็มมือจนเธอสะดุ้งโหยง

“หม้อใหญ่แบบนี้คงเย็ดมันน่าดู รับควยใหญ่ ๆ ของผมได้สบายเลยเชื่อมั้ย?”

ผมขยำหม้อเธอพลางโน้มตัวขึ้นไปพูดเสียงหื่นแล้วเริ่มจูบไซร้ไปตามซอกคอ พอได้โอกาสเหมาะก็ประกบปากจูบแหย่ลิ้นเข้าไปละเลงใส่ ดูเหมือนว่าเธอจะยังจูบไม่ค่อยเป็นด้วยซ้ำ แต่ผมก็เต็มใจสอนให้ทีละน้อยจนเธอเริ่มใช้ลิ้นตอบโต้กลับ

ระหว่างที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับรสจูบ ผมก็ใช้นิ้วมือขวาเขี่ย ๆ กด ๆ จนกางเกงในเธอเปียกชุ่ม จากนั้นผมก็ผละออกปล่อยให้เธอผวาหน้าตามเหมือนอยากจะจูบต่อ แต่ผมอยากเล่นอย่างอื่นบ้างแล้ว จึงขยับต่ำลงมา ถลกเสื้อยึดขึ้นไปด้านบนพร้อมกับยกทรง

ผมนั่งมองดูสองเต้าที่สวยกลมได้รูป มองดูป้านหัวนมสีน้ำตาลอ่อน แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าของน้องผิงจะสวยกว่าแม่หรือเปล่า ของเด็กสาวอย่างเธอน่าจะเป็นสีชมพูอ่อนกระมัง

มิ๊งผวารีบยกสองมือมาปิดหน้าอกตัวเอง แต่ว่าผมจับแกะสองมือเธอออก ก้มหน้าลงไปอ้าปากงับดูดเลียจนเธอสะดุ้งโหยงตัวสั่นอีกรอบ ส่วนด้านล่างตอนนี้กางเกงในโดนถลกลงไปนิดหน่อย แค่พอเปิดทางให้ผมแหย่นิ้วเข้าไปชักเข้าชักออกได้

“อูยยสสส … คุณขา … เสียว … อูยสสสส มิ๊งเสียว … ผัวขา … ซี้ดดสสส … ผัวขา … อย่าหยุดนะคะ … อ๊ะ อ๊ายยยย”

เธอตัวกระตุกส่งเสียงครางอ่อนหวาน สลับกับหอบกระเส่าหนักหน่วง มือไม้ของเธอขยับป่ายเปะปะไปมาอยู่ไม่สุข ก่อนจะบิดเกร็งด้วยความสุขเสียวถึงจุดสุดยอดคานิ้วมือของผมไปแล้วหนึ่งรอบ … เธอเผลอเปิดใจจนเรียกผมว่าผัวไปเรียบร้อยแล้ว

ผมนั่งมองดูร่างอวบสวยของมิ๊ง ดูเธอกระตุกเด้งเพราะความเสียวพักใหญ่ แล้วเริ่มมุดลงไปข้างล่าง จับสองขาของเธอถ่างออก ก่อนจะจัดการมอบความสุขให้เป็นพิเศษด้วยการก้มหน้าลงไปเลียหม้อขาว ๆ ของเธอให้ ปกติผมไม่ทำแบบนี้ให้ใครหรอกนะ กลัวติดโรค แต่ว่าของมิ๊งดูแล้วน่าจะไม่มีปัญหา

“ว้าย อย่าค่ะ มันสกปรก … อ๊ายยย … ซี้ดดสสส … อย่า … อูยยสสสส … มันเสียวนะ … อูยยสส ผัวจ๋า … เมียเสียว …”

สาวหน้าบางอย่างเธอย่อมพยายามร้องห้าม แต่ผมไม่สนใจจับล๊อคไว้แน่นจนเธอดิ้นไม่ออก สุดท้ายเสียงห้ามก็เริ่มกลายเป็นเสียงคราง เธอเริ่มเรียกผมเป็นผัว และเรียกตัวเองเป็นเมีย นี่ถ้าได้เย็ดให้เสร็จเรียบร้อยล่ะก็ เธอมีหวังติดควยผมแจแน่

ผมใช้ปากเลียให้จนเธอตัวกระตุกเร่า ๆ เสร็จไปอีกรอบหนึ่ง คราวนี้ผมก็ถึงรอบของผมเสียที ผมจัดการถอดเสื้อผ้าที่ค้างอยู่บนตัวของมิ๊งออกจนหมด เธอรีบยกมือขึ้นปิดบนปิดล่างตามจริตหญิง ซึ่งผมก็ชอบอยู่หรอก แต่ผมอัดอั้นเต็มทนแล้วจึงรีบถอดเสื้อผ้าตัวเอง แล้วจับมือเธอออก จัดให้เธอนอนถ่างขา ยัดหมอนรองใต้สะโพกเธอหนึ่งใบ แล้วก็เริ่มเดินหน้า

“ขอเย็ดล่ะนะเมียจ๋า”

ผมเริ่มขยับกดเอวเข้าไปทีละน้อย แม้เธอจะมีลูกแล้วหนึ่งคน แต่มันก็ยังคับแน่นพอสมควร เพราะไม่ค่อยได้ใช้งาน กว่าจะทำให้ส่วนปลายหัวบานมุดเข้าไปได้ก็ทำเอาเธอเกร็งแล้วเกร็งอีก ส่วนผมก็เหงื่อตกเหมือนกัน

ไม่รู้ว่าทำไมตอนเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ผมก็ดันนึกถึงหน้าน้องผิงขึ้นมา ผมรู้เลยว่าผมหลงเสน่ห์เด็กสาวตัวแสบเข้าให้จนอยากเย็ดเธอเสียแล้ว พอนึกถึงตอนนี้ควยที่บวมเป่งอยู่แล้วก็ยิ่งพองตัวขึ้นมาอีก ผมเลยใช้มือแหวกรูเสียวของมิ๊งให้อ้าออกเล็กน้อยจนเห็นกลีบสีแดงแจ๋ พอเธอเริ่มร่อนสะโพกผมก็กดพรวดเดียวมุดเข้าไปในสุดลำ

“อ๊ออยย อ๊อยยยย … ซี้ดดสสสส … อ๊ะ อีะ อ๊ะ … เสียว เมียเสียว … อ๊ะ อ๊ะ อ๊ายยย”

มิ๊งทำหน้าบิดเบี้ยวเหยเกส่งเสียงครางดังลั่น เพราะผมเริ่มโยกบั้นเอวทันที่ที่เข้าไปได้จนสุด ผมเอื้อมมือลงไปขยำสองเต้าของเธอแบบแรง ๆ แล้วก็เดินเกมกระเด้าต่อไปไม่หยุด แต่ในหัวของผมเอาแต่คิดว่ากำลังเย็ดน้องผิงอยู่เต็มไปหมด ร่องเสียวของมิ๊งก็คับเหมือนผู้หญิงไม่เคยโดนมาก่อนด้วย ผมก็เลยยิ่งเอายิ่งมัน ยิ่งกระแทกก็ยิ่งหื่นจัดอยากระเบิดน้ำเงี่ยนใส่ร่องของมิ๊งตอนนี้ไปเลยให้จบเรื่องจบราว

“เมียจ๋า หีตอดดีอะไรขนาดนี้ ยิ่งเย็ดก็ยิ่งมัน นึกว่าเมียยังซิงนะเนี่ย”

ผมพูดชมแล้วเร่งกระแทกเอวแรงขึ้น ตอนนี้สองเต้าของมิ๊งแดงจ้ำเป็นรอยมือเต็มไปหมด แต่พอผมปล่อยมือมันก็จะสั่นเด้งเพราะแรงกระแทกจนอดใจไม่ไหวต้องขยำค้างเอาไว้แบบนั้น

“ซี้ดดสสส … ผัวจ๋า … ไม่ไหวแล้ว … เมียเสียว ไม่เคยเสียวขนาดนี้เลย … อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ … แรงอีก แรงอีก .. อ๊ะ … อ๊ายยยยยยยย”

กระแทกกันไปอีกครู่ใหญ่มิ๊งก็กรีดร้องลั่นห้องเสร็จไปอีกเป็นรอบที่สาม ส่วนผมก็โดนร่องของเธอตอดตุบ ๆ อย่างแรงจนเสียวแปล๊บทนไม่ไหวเหมือนกัน ผมเลยได้แต่กัดฟันกรอดกระแทกแรง ๆ อีกสี่ห้าครั้ง แล้วค่อยกระฉูดน้ำเงี่ยนใส่รูเสียวที่แห้งแล้งมานานของเธอ

พอได้ระบายผมก็นอนลงไปทับร่างอวบของเธอ ผมจูบปากเธอก็เริ่มจูบตอบ จากนั้นผมก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ เธอกำลังมองผมตาแป๋ว … ผ้าปิดตาของเธอหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

ผมใช้มือยันตัวลุกขึ้นเล็กน้อย มองหน้าเธอด้วยความไม่แน่ใจว่าเธอจะคิดยังไง แต่ว่าเธอไม่ได้มีท่าทีแตกตื่นอย่างที่คิด เธอแค่มองหน้าผมด้วยแววตาหวานฉ่ำเหมือนเด็กสาวหลงรักผู้ชาย เธอยกมือขึ้นมาลูบหน้าผมเบา ๆ แล้วพูดเหมือนเสียงกระซิบออกมาว่า

“… ดีจัง”

“หือ? อะไรดี?”

“… ก็คุณ … เอ่อ ตอนแรกมิ๊งนึกว่าคนแรกของมิ๊งจะเป็นพวกตาแก่หน้าตาน่าเกลียด … ก็เลยไม่กล้ามอง … ถ้ารู้ว่ายังหนุ่มแล้วก็หล่อแบบนี้ คงไม่ต้องปิดตา”

เธอพูดแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนอายที่พูดความในใจออกมา ผมก็เลยมองเธองง ๆ ไม่เข้าใจว่าเธอจำเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอย่างผมไม่ได้หรืออย่างไร แต่เมื่อนึกไปแล้วก็สมเหตสมผล เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันโดยตรง ผมมักจะเห็นเธอออกไปทำงานและกลับเข้าบ้านผ่านทางหน้าต่าง เธอก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ก็คงไม่แปลกหากจะจำผมไม่ได้

“ได้ผัวหล่อ แถมเย็ดเก่ง แบบนี้ดีใจเลยล่ะซิ”

ผมไม่อยากให้เธอตะขิดตะขวงใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ก็เลยทำเนียนเสียเลย หากรู้กันภายหลัง ผมก็แค่ตีหน้าซื่อว่าจำเธอไม่ได้ก็สิ้นเรื่อง

“… นี่ … ผัวจ๋า … เมียขอร้องอะไรได้มั้ยจ๊ะ …”

เธอมองผมแล้วทำท่าทางน่าสงสาร และผมว่าผมเดาออกว่าเธอต้องการอะไร ซึ่งเดาได้ว่าไม่พ้นเรื่องเงิน ซึ่งผมก็พอจะช่วยได้อยู่หรอก เพียงแต่อาจจะง่ายเกินไปสักหน่อย ยังไงตอนนี้ผมก็เชื่อว่าเธอติดใจผมอยู่พอสมควรแล้ว ต่อให้ผมไม่ช่วยเธอก็คงเกลียดผมไม่ลง

“เรื่องเงินใช่มั้ย?”

“… ค่ะ … ช่วยเมียหน่อยนะคะ ได้โปรด มิ้งไม่อยากโดนคนอื่นทำแบบนี้อีก มิ้งอยากให้คุณทำคนเดียว”

เธอพูดเสียงหวานพร้อมกับมองผมด้วยดวงตาเป็นประกายวิบวับ ซึ่งผมเองก็แพ้สายตาแบบนี้อยู่ด้วย เธอดูจะเรียนรู้วิธีอ้อนคนได้เร็วมาก แต่พอคิดอีกที ผมว่านี่เป็นใจจริงของเธอมากกว่า เธอติดใจผมแล้ว แต่ก็ยังละอายไม่อยากมั่วเซ็กส์ เธอจึงหวังว่าผัวคนที่สองของเธออย่างผมจะยอมช่วย

“พูดกันตรง ๆ นะครับ เงินน่ะผมจ่ายได้ไม่ยาก ไม่เยอะอะไร … แต่ผมจะได้อะไรจากการจ่ายนี้ล่ะ นั่นมันไม่น้อยเลยนะ”

“มิ๊งจะชดใช้ให้ แล้วแต่ว่าคุณต้องการอะไร จะให้ชดใช้แบบไหนก็ได้ค่ะ”

“เอาล่ะ ให้ผมทำอะไรก็ได้ใช่มั้ย แล้วให้ทำนานแค่ไหนล่ะ สามวัน สิบวัน หนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี?”

“ก็ …”

มิ๊งเริ่มลังเลเพราะเธอเองก็คงไม่ทันคิดเรื่องนี้ แต่เธอก็เริ่มได้คิด จำนวนเงินที่เธอต้องเอาไปใช้หนี้นั้นพอให้ผมซื้อพริตตี้สวย ๆ ได้อีกหลายครั้ง ดังนั้นการลงทุนที่เธอคนเดียวย่อมเป็นความเสี่ยง เธออาจจะหนีไปตอนไหนก็ได้

“งั้นเอาวิธีผมก็แล้วกัน … ผมจะจ่ายหนี้ให้พร้อมดอกเบี้ย มิ๊งก็จะเป็นอิสระจากที่นี่ แต่ว่ามิ๊งต้องเซ็นสัญญากู้ยืมเงินกับผมเท่ากับจำนวนนั้น ไม่มีดอกเบี้ย แล้วผมจะหักออกให้เดือนละสามหมื่น บวกค่าขนมนิดหน่อย … แล้วอีกอย่าง ผมต้องการอะไรที่ทำให้มิ๊งไม่กล้าทำผิดสัญญา ผมจะถ่ายคลิปตอนเย็ดกับมิ๊งเอาไว้ แล้วจะลบออกตอนจ่ายหนี้หมด”

ผมยื่นข้อเสนอที่ดูจะเอาเปรียบอยู่สักหน่อย แต่ถือว่าข้อเสนอนี้ดีกว่าให้เธอไปเร่ขายตัวให้คนไม่ซ้ำหน้าพอดู มิ๊งจึงทำหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีกพักใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าตกลง ผมจึงหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายคลิป แล้วเริ่มกระเด้าเอวพร้อมกับบันทึกภาพใบหน้าอันบิดเบี้ยวเหยเกมีความสุขของแม่น้องผิงจนหน่วยความจำเกือบเต็ม

Share the Post:

Related Posts

ก็รปภ. เขาควยใหญ่นี่คะ

เรื่องเสียว ก็รปภ. เขาควยใหญ่นี่คะ ทักทายทุกคนค่ะ ชื่อ นุ่น นะคะ วันนี้ก็มีประสบการณ์เซ็กที่อยากจะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังค่ะ เป็นเรื่องราวของตัวนุ่นเอง กับยามประจำคอนโดที่นุ่นอาศัยอยู่ค่ะ ตัวของนุ่นเอง เป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองพัทยาค่ะ ที่คอนโดของนุ่นเป็นคอนโดที่อยู่ลึกมาก กลางคืนจึงค่อนข้างดูอันตรายค่ะ ถึงอย่างนั้นแล้วก็ไม่เป็นปัญหากับนุ่นเท่าไหร่ เพราะแถวนั้นก็พอมีชาวบ้านอาศัยอยู่ ด้วยความที่ตัวของนุ่นทำอาชีพเป็นเด็กเอ็นน่ะค่ะ เลยทำให้ในทุก

Read More

รสสวาทหนุ่มโรงงานสุดเงี่ยน

เรื่องเสียว รสสวาทหนุ่มโรงงานสุดเงี่ยน ฉันชื่อ “มะนาว” ค่ะ เด็กบ้านนอกที่หมายมั่นอยากมาเห็นเมืองกรุงฯ ที่แสนศิวิไลซ์ ดังนั้น พอจบ ม.6 ที่บ้านนอกแล้ว เลยไม่ได้เรียนต่อ ประกอบกับ ป้าของฉันที่เปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่แถวๆ สามโคกที่ปทุมก็อยากให้มาขายของด้วย เพราะที่นี่มีโรงงานและค่อนข้างขายดีมากๆ จนบางครั้งแกก็ขายไม่ทัน เลยอยากให้ฉันมาขายก๋วยเตี๋ยว โดยให้เงินลงทุน ที่หลับที่นอน

Read More