จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 30 จบภาค1

จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 30 จบภาค1

จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 30 ถึงคราวออกเดินทาง จบภาค1  
โดย ท่านกระปี่หัก

 ตูม…………..ฟ้าว……….ภาพที่ปรากฏบ่อเมี้ยอยู่กลางอากาศโดยมีสามจอมมารร้ายแห่งยุคถูกดูดติดกับร่างของบ่อเมี้ย นางพญาเซี่ยงหวี่สองมืออยู่บนหัว ชายผ้าแพรคลุมหน้าเสื้อหนังกลับพัดดูดติดที่หน้าอก และสองมือของเจ้าสำนักนินจาสองมือถูกติดที่ด้านหลัง ทั้งหมดหมุนวนเป็นลูกข่างในขณะที่บ่อเมี้ยพนมมือร่างกายมีไฟพวยพุ่งสลับไอเย็น เนื่องจากบ่อเมี้ยรีบเร่งทำลายคัมภีร์ส่งผลให้กระแสร้อนพุ่งขึ้นสูงสุดทำให้ร่างกายติดไฟพลังความเย็นของนางพญาเซี่ยงหวีกระแทก
**** ข้อความถูกซ่อน ตอบกระทู้เพื่อดูข้อความ *****
มากลางกระหม่อม พลังกระแสความร้อนของชายคลุมหน้าอัดที่หน้าอก พลังกระแสความเย็นของเจ้าสำนักนินจาจากด้านหลัง ต่างมีพลังแตกต่างแต่สมดุลในกระแสพลังเกิด
การหมุนวนระหว่างกระแสร้อนเย็น หยินและหยาง ในร่างกายบ่อเมี้ยเกิดระเบิดออกมาไม่หยุดยั้ง ทำให้เกิดสภาพที่น่าอัศจรรย์ ลอยอยู่กลางอากาศหมุนวนเร็วจี๋ดั่งลูกข่าง ทั้งสามจอมมารร้ายเองก็ตระหนกเช่นกันเพราะไม่คาดคิดว่าการร่วมมือทำร้ายบ่อเมี้ยด้วยพลังลมปราณกับต้องมีสภาพเช่นนี้และไม่สามารถถอนตัวได้ดั่งร่างกายบ่อเมี้ยมีแม่เหล็กที่ดูดร่างของมันให้สนิทแนบแน่นในสภาพนี้ การหมุนวนของสี่ยอดฝีมือในยุทธภพคาดว่าไม่เคยเกิดและคิดว่าคงไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต ทำให้เหล่าจอมยุทธ์ทั้งธรรมะและอธรรมต่างยืนมองตาค้างโดยเฉพาะสี่ดอกไม้ โบตั๋น เบญจมาศ ดอกท้อ ซากุระ สองนก ขมิ้น หงส์หยก ต่างร้องไห้น้ำตาไหลร้องเรียกบ่อเมี้ยอยู่เป็นระยะๆ แม้แต่แม่ชีที่มีขันติหนักแน่นตามองค้างปากก็พึมพำสวดมนตร์อยู่ตลอดเวลา ลูกข่างมนุษย์เริ่มหมุนวนเร็วขึ้นรังสีความร้อนสลับเย็นแผ่กระจายเข้ารอบบริเวณทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ต้องถอยห่างออกมาต่างคนต่างมองมายืนรวมกลุ่ม โดยไม่แยกมิตรแยกศัตรูนับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดยิ่งนัก ลูกข่างมนุษย์เริ่มหมุนช้าแต่เปลวไฟสีครามลุกโชติช่วงรอบๆลูกข่างนั้นทำให้เห็นข้างในอย่างชัดเจน ตอนนี้บ่อเมี้ยเองเสื้อผ้าขาดเหลือเพียงกางเกงที่ไม่มีสภาพเป็นกางเกง เจ้าสำนักนินจาผ้าคลุมหน้าเสื้อเหลือแต่กางเกงพบว่ามันคือชายวัยกลางคนมีเค้าหน้าตาเหี้ยมโหดมีรอยแผลเป็นพาดผ่านหน้า นางพญาเซี่ยงหวี่ก็มีสภาพที่ไม่แตกต่างภาพอดีตที่สวยงามไม่เหลืออยู่เป็นเพียงนางเฒ่าที่เหี่ยวย่นนมห้อยยานเนื้อตัวเหี่ยวย่น ส่วนชายคลุมหน้าเมื่อเผยออกมาผู้คนทั้งหลายต่างอุทาน กงซุนเป่ย มือพิฆาตได้แต่ถอนใจมันเคยชื่นชมจอมยุทธ์หนุ่มผู้นี้ว่ามีอนาคตไกล และเห็นว่ามาติดพันหงส์หยกอยู่เหมือนกันเพียงแต่หงส์หยกหาได้สนไม่มิฉะนั้นก็คงยกลูกสาวไปแล้ว เห็นหน้าไม่รู้ใจจริงๆ ทั้งสามจอมมารร้ายแห่งยุคต่างหน้าตาบิดเบี้ยวต่างจากบ่อเมี้ยหน้าตาสงบนิ่งดั่งเข้าฌาน ร่างกายของบ่อเมี้ยเองก็เปลี่ยนแปลงหน้าที่แดงเริ่มค่อยๆเปลี่ยนสีชมพูและขาวร่างกายที่ขาวนวลก็มีสีชมพูและกลายเป็นแดงสลับกันไปอย่างนั้นไม่หยุดยั้ง ส่วนร่างกายนางพญาเริ่มเหี่ยวเหมือนพลังทั่วร่างถูกดูดไป ส่วนเจ้าสำนักนินจากลับมีคราบสีขาวประกายน้ำแข็งปกคลุมทั่วร่าง แตกต่างกับกงซุนเป่ยที่ทั้งร่างมีคราบดำเหมือนถูกไหม้กลิ่นเหม็นไหม้โชยมาไม่ขาดระยะ……..ตูม…………..
ทั้งสี่กระจัดกระจายตกลงมา ประมงเบ็ดเดียวรีบมาอุ้มนางพญาเซี่ยงหวีที่ตอนนี้มีสภาพเหี่ยวย่นหายใจรวยริน หัวหน้านินจาพร้อมลูกน้องคนสนิทรีบมาแบกเจ้าสำนักที่แข็งเหมือนก้อนน้ำแข็งจากไปกันคนละทิศอย่างรวดเร็ว สงครามหน้าป้อมปราการนับได้ว่ายุติอย่างสิ้นเชิงเหล่าจอมยุทธ์ฝ่ายธรรมะค่อยสำรวจตัวเองและพวกพ้องที่บาดเจ็บล้มตาย สาวสาวทั้งหกต่างมารุมล้อมบ่อเมี้ยที่นอนสลบอยู่กลางลาน หน้าที่แดงบัดนี้เป็นเพียงผิวขาวเผยให้เห็นหน้าที่หล่อเหลาปานเทพบุตรพวกนางได้แต่ยืนตะลึงถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
“นี่พวกเจ้าจะมุงอีกนานไหมรีบพาบ่อเมี้ยเข้าไปที่พักข้างในก่อน”
เสียงแม่ชีตันหยงเรียกทำให้ทั้งหกสะดุ้งจึงช่วยกันค่อยๆกันพยุงบ่อเมี้ยเข้าไปข้างในจะมีแต่ซากุระเดินเข้าหากงซุนเป่ย ที่ไม่มีใครสนใจร่างกายไหม้หมดทั้งร่างกายหาเค้าโครงรูปร่างหล่อไม่ได้อีก จมูกแหว่ง ปากฉีกขาดถึงใบหูเผยให้เห็นฟันบิดเบี้ยว นับว่าอัปลักษณ์สุดขั้วจริงๆ แต่มันยังมีลมหายใจลืมตามองซากุระที่เดินเข้าหามัน
“ผลกรรมที่ท่านทำไว้มันส่งผลถึงท่านแล้ว”
นางมองมันแล้วพูดกับมันด้วยน้ำเสียงเย็นชากว่าน้ำแข็งว่า
“ข้าพเจ้าจำไม่ได้จริงแต่ข้าพเจ้าไม่ลืม”
จากนั้นนางเหยียบไปที่ระหว่างขาของมันเต็มแรง กงซุนเป่ยได้แต่สะดุ้งสุดแรงแต่ร่างกายไม่สามารถดิ้นรน ได้แต่ใช้ดวงตาทออาฆาตอย่างลึกล้ำ
“ประสกโปรดเมตตา สิ่งที่กงซุนทำได้ตอบสนองแล้วอย่าให้เวรกรรมมีกันต่อไป”
หลวงจีนหนึ่งในสหพันธ์เดินเข้ามาเพื่อพากงซุนเป่ยรักษาและไปควบคุมในสหพันธ์ต่อไปพอดีเห็นซากุระต้องทราบว่ามีความแค้นลึกล้ำแน่นอนแต่ตัวเองเป็นเพศบรรพชิตไม่สะดวกสอบถามสาเหตุ
“ถ้าไต้ซือขอข้าพเจ้าก็ให้”
พูดจบซากุระเดินจากไปโดยไม่มองมันอีก ตอนนี้บ่อเมี้ยนอนสลบในห้องพักรุมล้อมไปด้วยสหายจนแน่นห้องไปหมด มือพิฆาตมังกรจับที่จุดเพื่อดูอาการ สีหน้าของมือพิฆาตมังกรแปรเปลี่ยนไม่หยุดยั้งเป็นสีหน้าที่ทั้งไม่แน่ใจ ประหลาดใจ ตกใจ และอื่นๆอีกมากมาย
“เกิดอะไรขึ้นเจ้าเฒ่าขี้โมโหลูกเขยเจ้าเป็นยังไง”
พวกนางทั้งหกได้ยินจอมขโมยกล่าวแต่หาได้สนใจไม่เพียงสนแต่อาการของบ่อเมี้ยเท่านั้น
“แปลก แปลก แปลกมาก”
“เอ่อ ท่านผู้อาวุโสอาการบ่อเมี้ยเป็นยังไง”
เบญจมาศอดไม่ได้ด้วยความอยากรู้อาการ
“กระแสลมปราณมีพลังมากมายหมุนเวียนเหนือกว่าอายุของมันเผลอๆมันจะมากกว่าเราเหล่าอาวุโสทั้งหลายในที่นี้รวมกันเสียอีก บางครั้งมันก็มีกระแสร้อนจนลวกมือ บางครั้งก็เย็นเยียบกว่าน้ำแข็ง ไม่น่าเชื่อว่าอายุน้อยแค่นี้แต่พลังลมปราณมากมายเหลือเกินมันหมุนรอบโคจรแรงยิ่งกว่าน้ำตก
“ท่านยังไม่ทราบบ่อเมี้ยมีกระแสพลังสองสายในร่างกาย และตั้งแต่เกิดมันมีจุดที่คั่งค้างในร่างกายควบคุมพลังของมันสิบสองจุดและเมื่อผ่านไปไม่นานมันเองคลายจุดด้วยความบังเอิญได้หกจุด มันจึงสามารถใช้วิทยายุทธ์ได้ มิฉะนั้นได้แต่วิชาตัวเบาอย่างเดียว”
แม่ชีร่ายยาวตามที่บ่อเมี้ยเล่าประวัติและประสบการณ์ที่บ่อเมี้ยมักจะมาปรับลมปราณกับนางทุกครั้งที่ร่างกายเปลี่ยนแปลง นางคิดถึงวิธีการปรับลมปราณเผลอหน้าแดงไม่รู้ตัว
“อือเจ้าเฒ่าเจ้าเล่ห์มันฝึกลูกศิษย์ของมันอย่างไงนะ”
“ซือแป๋เอาแต่พูดอยู่ได้หาวิธีให้บ่อเมี้ยฟื้นมาก่อนดิ”
ขมิ้นโวยกับจอมขโมยไม่รู้เป็นดาวข่มมาแต่ไหนจอมขโมยไม่เคยกลัวใครกับต้องยอมให้ศิษย์ตัวเองเสมอมา
“ว่าไงเฒ่าขี้โมโหมีวิธีไหม”
“นี่แหละข้อที่แปลกอีกข้อเราตรวจจากชีพจรไม่มีจุดคั่งค้างแต่อย่างใด แม้แต่แหมะจั้บหนอ(จุดที่สิบสอง)ที่เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายใฝ่ฝันทะลวงจุด เจ้าบ่อเมี้ยของเราก็ทะลวงจุดเรียบร้อยแล้ว”
“โอ้เซียนบนสวรรค์ปราณี เป็นไปไม่ได้……………….”
มือพิฆาตมังกรจอมขโมยและเหล่าสหพันธ์ต่างกลับเขาเหลียงซานเพื่อดูแลฮูหยินที่พึ่งทุเลาบวกกับการสะสางเหล่าจอมยุทธ์ฝ่ายอธรรมที่จับได้ ที่อยู่ในป้อมปราการของสำนักนินจาก็มีเพียงสำนักดอกไม้ หงส์หยก ขมิ้น ส่วนซากุระนำกลุ่มนินจาที่ภักดีเข้าทำการชำระสำนัก ทั้งนินจาที่หลงผิดและจงใจกระทำผิดก็จะเป็นไปตามกฎของสำนักที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้ ในห้องของบ่อเมี้ยจึงประกอบไปด้วย แม่ชีตันหยง โบตั๋น เบญจมาศ ดอกท้อ หงส์หยก ขมิ้น บ่อเมี้ยเองก็ยังสลบไสลไม่ฟื้น เพียงแต่ดูเหมือนหลับใหลธรรมดาลมหายใจสม่ำเสมอทั่วร่างกายเปลี่ยนเป็นสีขาวอมชมพูดั่งบุคคลทั่วไป จนเวรยามตีเคาะบอกว่ายามสอง แม่ชีจึงบอกให้ทุกคนไปพักผ่อนพรุ่งนี้ค่อยมาดูอาการกันใหม่ มีเพียงเบญจมาศเท่านั้นบอกคืนนี้จะนอนนี่ให้พวกนางไปพักผ่อนกันก่อน สาวสาวก็ต่างบอกจะนอนนี่ แม่ชีได้แต่ถอนหายใจออกจากห้องไปโดยลำพัง เบญจมาศจึงบอกว่า แบ่งกันดูแลเถอะ คืนนี้ขอเป็นเรากับเจ้โบตั๋นก่อน ส่วนกลางวันก็แบ่งกัน มิฉะนั้นเดี๋ยวคนดูแลจะล้มป่วยกันหมด พวกนางที่เหลือได้จำใจยอมเดินออกจากห้องไป เบญจมาศมองหน้าอันหล่อเหลาคมคายยิ่งสีแดงบนใบหน้าจางลงยิ่งเป็นใบหน้าของเทพบุตร นางมองด้วยความหลงใหลเหม่อลอยทันใดเบญจมาศก็สะดุ้งสุดตัว
“เจ้เจ้ ท่านจำตอนที่บ่อเมี้ยรักษาแป๊ะบ่อได้ไหม”
โบตั๋นอยู่กับน้องสาวคนนี้มานานมักมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าใครเมื่อฟังก็นึกขึ้นได้
“ม่วยหมายความว่าบ่อเมี้ย ต้องอาศัยพวกเราปรับลมปราณ”
“อาจเป็นไปได้ เพราะตอนนี้บ่อเมี้ยต่อสู้เพียงลำพังอาจกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากพวกเราอยู่ เจ้ทดลองดูเถอะ”
โบตั๋นและเบญจมาศต่างถอดเสื้อผ้าของบ่อเมี้ยและของตนโบตั๋นก้มจูบที่ใบหน้าไล่เลียลงมากที่ทรวงอกดูดและเลียที่หัวนมของบ่อเมี้ย ในขณะที่เบญจมาศใช้ลิ้นไล่เลียงจากปลายเท้าค่อยไล่เลียน่องขาพับจนถึงไข่เบญจมาศค่อยเลียรอบๆแท่งหยกอย่างช้าให้ทรวงอกอันอวบอิ่มใหญ่โตของนางเสียดสีที่น่องของบ่อเมี้ย โบตั๋นก็เลียจนถึงแท่งหยกโดยให้ดอกไม้ของนางเสียดสีที่หน้าของบ่อเมี้ย เรื่องประหลาดเกิดขึ้นแท่งหยกที่นอนสลบเหมือนเจ้าของก็ลุกตั้งเด่ชูชัน โบตั๋นที่ใช้ดอกไม้เสียดสีกับหน้าของบ่อเมี้ยจนน้ำหล่อลื่นเต็มดอกไม้จึงลุกขึ้นนำดอกไม้สวมเข้าอย่างช้าๆ
“ซีด…อูย…. ดู…เหมือนจะใหญ่ขึ้นนะ…..ซีด…”
ส่วนเบญจมาศหันไปนั่งทับให้ดอกไม้เสียดสีจมูกและปากแทนมือบีบนมไปที่โบตั๋น โบตั๋นได้แต่คราง อา…ซีด…..อูยนางค่อยๆยกก้นขึ้นลงจนแท่งกับดอกไม้เข้าที่นางก็เร่งความเร็ว ปากก็ร้อง อา อา อา อา อา อา เบญจมาศมือนึงก็ลูบไปที่หัวนมของบ่อเมี้ยบิดคลึงเบาอีกมือก็บีบปทุมถันของตนเอง ก้นก็สายสะโพกเสียดสีจมูกกับปากของบ่อเมี้ยจนน้ำชุ่มเต็มดอกไม้ไปหมด โบตั๋นเร่งความเร็วร้อง อา อา อา อา อา อย่างไม่กลัวพังจนซักพักนางร้องอ๋ากระตุกร่างกายแต่ก็รีบถอนออกมาให้เห็นแท่งหยกมันแผ๊บเบญจมาศสวมต่ออย่างช้าด้วยมีน้ำหล่อลื่นช่วยจึงเข้าไปแต่โดยดีแม้จะคับจนนางร้องอูย
“เจ้มันใหญ่กว่าเดิมจริง จริง ซีด…. อูย…”
เมื่อเข้ามิดนางก็ซอยอีกครั้งปทุมถันอันงดงามอวบอิ่มเด้งขึ้นลงตามจังหวะนางเองได้แต่ครางอา อา อา อา อาเร่งความเร็ว เมื่อถูกสิ่งบีบรัดตอดถึงสองดอกไม้ร่างกายที่นอนหลับกลับมีน้ำพุ่งพร้อมกับการถึงของเบญจมาศเอง ปัง
พลังมหาศาลพุ่งตามเข้าสู่ร่างกายของเบญจมาศ นางสะดุ้งสุดตัวปากร้องครางคราวนี้นางต้องวนในกระแสจุดต่างๆกว่าสามสิบรอบเพราะเป็นพลังที่มหาศาลเหลือเกินค่อยนำพลังสมดุลคืนสู่ร่างกายบ่อเมี้ย ร่างนั้นสะดุ้งพรวดกระเด้งอย่างแรงค่อยๆลืมตา รอยยิ้มที่สร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็นปรากฏบนใบหน้านั้น
“ที่รักพวกท่านสมแล้วที่เป็นคนรักของข้าพเจ้าถ้าข้าพเจ้าไม่ได้พวกท่านข้าพเจ้าไม่รู้จะฟื้นเมื่อไร”
เบญจมาศฟุบที่ตัวบ่อเมี้ยดวงตามีหยดน้ำตาหลั่งไหลแต่นางหมดแรงที่จะกล่าววาจา โบตั๋นได้แต่ร้องบ่อเมี้ย บ่อเมี้ยน้ำตาไหลไม่พูดอะไรอีก บ่อเมี้ยค่อยๆจับเบญจมาศมานอนข้าง พลิกค่อมตัวไปหาโบตั๋นนำแท่งหยกสอดเข้าไปคราวนี้หลังจากผ่านศึกมามันเข้าง่ายกว่าเดิมเมื่อเข้าไปจนสุดบ่อเมี้ยเริ่มซอยจากช้า ไปเร็ว เร็วขึ้น เร็วขึ้น โบตั๋นได้แต่ร้อง อา อา อา อา อา อา อา อา อ้าห์ห์ห์ห์ห์ห์ บ่อเมี้ยเองก็ถึงพุ่งน้ำจากแท่งหยกพร้อมพลังที่อัดแน่นนางสะท้านจนต้องเผลอกอดบ่อเมี้ยแนบแน่นและนางก็ทำเช่นเบญจมาศหลังจากโคจรลมปราณหลายสิบรอบค่อยส่งคืนที่บ่อเมี้ยตอนนี้ทั้งสองสาวหมดแรงที่จะรับศึกใดใดอีกแล้ว หงส์หยก ดอกท้อ ขมิ้น นอนห้องข้างๆได้ยินเสียงแปลกๆพร้อมเสียงร้องของพี่สาว จึงวิ่งมาดู เมื่อเห็นบ่อเมี่ยฟื้นขึ้นมาก็ดีใจทั้งน้ำตาแต่นางก็ต้องผวาเมื่อบ่อเมี้ยยิ้มในขณะแท่งหยกผงกศีรษะมันแผ๊บพวกนางรู้ชะตากรรมแต่ก็น้อมรับอย่างยินดีต่างรีบถอดเสื้อผ้าของตนเอง หงส์หยกถึงกับบอก
“มาเถอะคิดว่ากลัวเหรอ……………………………….”
พวกนางไม่กลัวจริงแต่ตอนนี้นอนสลบไสลดอกไม้อ้าหมดสภาพแทบทุกคนในขณะที่บ่อเมี้ยยืนจับขมิ้นที่เหมือนตุ๊กตาซอยจากด้านหลัง ขานางลอยจากพื้นด้วยมือแกว่งไกวหน้าเหยเกเงยหน้าร้อง อา อา อา ตามจังหวะการซอยความคับแน่นของดอกไม้ที่ยังไม่โตเต็มที่ครูดกับแท่งหยกจนมันแผ๊บเสียงดังเจ๊าะแจ๊ะตลอดสุดท้ายบ่อเมี้ยจับเอวนางกระแทกแรงๆพลังจึงหมุนเวียนไปที่ขมิ้นอีกครั้งนางเองก็กระตุกร้องอาและโคจรลมปราณตามที่พวกเจ้เจ้สอนเมื่อคืนกลับไปที่บ่อเมี้ยก็สลบคาแท่งหยกบ่อเมี้ยจึงวางนางไว้บนเตียงหอมแก้มพวกนางทุกคนแล้วห่มผ้าให้อย่างแผ่วเบา ตอนนี้บ่อเมี้ยรับพลังจาก นางพญาเซี่ยงหวี่ เจ้าสำนักนินจา รวมทั้งกงซุนเป่ยเข้าไปในร่างกาย เปรียบเสมือนแก้วใบน้อยแต่ต้องรองรับน้ำทั้งมหาสมุทร ทำให้พลังทั้งหมดหาทางไปเจอสิ่งใดขวางก็กระแทกกระทั้นจนทะลุทะลวงส่งผลทำให้ไปกระแทกจุดที่มีปัญหาของบ่อเมี้ย แต่เมื่อทะลวงจุดผ่านไปมันก็หมุนรอบร่างกายเป็นร้อยเป็นพันรอบยังไม่ประสานเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นถ้าไม่ได้พวกโบตั๋น เบญจมาศ บ่อเมี้ยเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องใช้เวลากี่วันถึงจะฟื้นขึ้นมา ตอนนี้บ่อเมี้ยมีความรู้สึกว่าตนโชคดีเดิมตนเป็นเด็กไร้พ่อแม่ก็มีซือแป๋คอยอุ้มชู ตัวเองมีข้อจำกัดพลังฝีมือก็ได้พ้นเคราะห์ในขณะเดียวกันก็มีคนที่รักตนเป็นห่วงตน อยู่เป็นครอบครัว ครอบครัวอือจริงซินะถ้าตนหาพ่อและแม่เจอทุกสิ่งก็คงสมปรารถนาไม่ปรารถนาสิ่งใดอีก บ่อเมี้ยคิดเพียงแค่นี้ก็นั่งขัดสมาธิเดินลมปราณพักผ่อนที่ผ่านศึกหนักมาตลอดทั้งคืนจนสงบไป………….
“ไม่ได้………..เราไม่อนุญาตให้พวกเจ้าไป”
“แต่…..ซือแป๋”
“เรารู้ว่าพวกเจ้าเป็นเมียมัน แต่พลังฝีมือของเจ้ากับลมปราณของเจ้าต้องได้รับการฝึกฝนจริงอยู่บ่อเมี้ยแนะนำวิชาฝีมือและถ่ายทอดพลังวัตรให้เจ้าแต่มันต้องอาศัยเวลาพวกเจ้าต้องไปฝึกที่สำนักให้ชำนาญก่อน รวมทั้งเจ้าด้วยขมิ้นอาจารย์เจ้าฝากไว้กับเราแล้ว บ่อเมี้ยมันมีภาระที่ต้องทำตามชะตาลิขิต ส่วนหงส์หยกแป๊ะแป๊ะของท่านให้ท่านต้องกลับไปดูแลซือบ้อของเจ้าที่ยังไม่หายดี พวกเจ้าเข้าใจรึไม่”
แม่ชีตันหยงร่ายยาวสาวสาวได้แต่ทำหน้าไม่พอใจที่อาจารย์ไม่ยอดให้พวกนางติดตามบ่อเมี้ยสืบหาพ่อแม่ บ่อเมี้ยก็ได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยนๆ หันไปทางซากุระมองด้วยสายตาคาดหวัง
“เมี้ยซัง…..ข้าพเจ้า…ก็ไปไม่ได้”
“ข้าพเจ้าเข้าใจท่านมีภาระในการกอบกู้สำนักของท่าน”
บ่อเมี้ยตอบแทนได้แต่ทำหน้าเซ็งที่สุดท้ายมันก็เหลือคนเดียว
“บ่อเมี้ย เราไม่ได้กลั่นแกล้งเจ้าแต่เพื่อเป็นกำลังสำคัญของเจ้าในอนาคตต้องฝึกฝนพวกนาง และเจ้าก็สามารถขึ้นไปเยี่ยมพวกนางเมื่อไรก็ได้ เอ๊ะไม่ได้เดี๋ยวพวกนางไม่มีกระใจฝึกกัน กลางเดือนยี่เจ้าต้องขึ้นเขาไปหา ระ(เรา)..เอ่อ……พวกนาง”
“เอ่อแต่ซือแป๋ข้าพเจ้าไม่ให้ข้าพเจ้าพบหน้าถ้าไม่สามารถสืบหาพ่อและแม่”
“นั่นเป็นเรื่องซือแป๋เจ้าเกี่ยวข้องอันใดกับเราเจ้าขึ้นไปหาพวกนางไม่ได้ไปหาซือแป๋เจ้าถ้าเจ้าไม่ไปพวกนางจะออกตามล่าเจ้าแล้วจะหาเราไม่เตือน”
พวกนางได้แต่หัวเราะคิกคิก บ่อเมี้ยก็ได้แต่พยักหน้ารับคำอย่างงมงาย
“เมี้ยซังข้าพเจ้าก็จะพยายามหาร่องรอยให้ท่านแต่กลางเดือนยี่ข้าพเจ้ากับหงส์หยกจะไปที่สำนักดอกไม้เช่นกัน แต่ถ้าท่านไม่ไปท่านเตรียมรับมือคนของสหพันธ์และสำนักนินจาทั้งสำนักก็แล้วกัน”
“ข้าพเจ้าจะกลับมา”
บ่อเมี้ยยิ้มให้ทั้งหมดจึงสวมหมวกกุ๊ยปิดหน้าตามคำสั่งของเมียทั้งหลายให้ใส่ตลอดเวลาแล้วออกเดินทางโดยลำพังพร้อมพูดเบาๆแต่ด้วยพลังวัตรสูงสุดทำให้ทุกคนได้ยินทั่วหน้า
“ข้าพเจ้าจะกลับมา เพราะทุกคนคือครอบครัวข้าพเจ้า……………………………………………………….

Share the Post:

Related Posts

คาวสวาทกามโลกีย์

คาวสวาทกามโลกีย์

เรื่องเสียว คาวสวาทกามโลกีย์ ณ ตึกระฟ้า อันเป็นที่ตั้งของบริษัทธุรกิจ หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เริงชัยหนุ่มใหญ่วัยใกล้ห้าสิบ ประธานบริษัท นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จนได้รับการนับหน้าถือตาจากคนในสังคม กำลังนั่งพิจารณาเอกสารตรงหน้า ขณะที่เสียงอินเตอร์คอมดังขึ้นพร้อมกับเสียงใสๆ ของ เรณูเลขาหน้าห้องดังขึ้นมา “ท่านคะ คุณพนมที่นัดไว้มาแล้วค่ะ” เริงชัยผงกศีรษะ กดปุ่มสัญญาณ แล้วกล่าวตอบ “ขอบคุณมาก

Read More
โดนบนรถเมล

โดนบนรถเมล

เรื่องเสียว โดนบนรถเมล สวัสดีค่ะ ไม่รู้จำเราได้รึป่าว ที่เราเคยเล่าเรื่องเอากับพ่อเลี้ยงน่ะค่ะ สำหรับ คนที่ไม่เคยอ่านเรื่องเก่าตอนนั้นเราอยู่ ม.สอง นะคะ แล้วโดนพ่อเลี้ยงข่มขืน แต่แม่เราไม่รู้นะคะ หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงก็เอาเราตลอดค่ะ ส่วนใหญ่ตอนเราหลับพ่อเลี้ยงก็จะไขกุญแจเข้ามาเย็ดเราค่ะ แต่ต่อหน้าแม่เขาจะทำเป็นคนดีมากๆ นะคะ ตอนนี้เรามอสามแล้ว ทีนี้เราโดนแม่ห้ามมีแฟนค่ะ ห้ามไปไหนตอนกลางคืนด้วย ไม่รู้พ่อเลี้ยงไปเป่าหูแม่เรายังไง ห้ามเรามีแฟนแต่ตัวเองเข้ามาอึ๊บเราตลอด

Read More