จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 8

จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 8

จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 8 ผลไม้ร้อนเย็น
โดย ท่านกระปี่หัก

 บ่อเมี้ยกระโดดพรวดพราดแวบเดียวถึงหน้าดอกท้อแย่งผลไม้ในมือของนางพร้อมตะโกนเสียงดัง
“ม่วยม่วยไม่ได้ ผลไม้สีแดงนี้มีพิษ”
**** ข้อความถูกซ่อน ตอบกระทู้เพื่อดูข้อความ *****
สืบเนื่องบ่อเมี้ยอยู่ในป่าเขาเรียนวิชาแพทย์ทำให้ทราบว่าผลไม้ชนิดไหนกินได้ชนิดไหนกินไม่ได้ บ่อเมี้ยรีบให้ยาระงับพิษแก่ดอกท้อที่ตอนนี้ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มของนางเสมอมาได้มีสีหน้าหวาดวิตกรีบกินยาที่บ่อเมี้ยให้ “ม่วยม่วย ไปอยู่ข้างกองไฟอย่าให้ไฟดับเจ้เจ้ยี่ม่วย (น้องคนที่สอง) ไม่ต้องกังวลพักรักษาตัวที่นี่แหละ
เดี๋ยวบ่อเมี้ยดูแลเองอ้อผลไม้สีเขียวน่ะกินได้สีแดงห้าม……ภาวนาอย่าให้ฝนตก”
พูดเสร็จก็รีบออกไปจากถ้ำด้วยวิชาตัวเบาล้ำเลิศ
“เจ้เจ้ ท้อแย่แล้วทำไงดีท้อไม่รู้เห็นมันสวยดีน่ากินท้อเก็บไปกินไปหลายลูกทั้งเขียวทั้งแดงท้อไม่รู้ ฮือ…ฮือ”
ดวงหน้าอันงดงามที่มีรอยยิ้มเสมอดวงตากลมโตมีน้ำตาดอกท้อคลานไปหาพี่สาวทั้งสองที่คอยอ้าแขนคอยปลอบโยนอย่างใจเย็น
“ไม่ต้องกลัวนะท้อดอกท้อคนเก่งดอกท้อคนสวยเดี๋ยวให้บ่อเมี้ยรักษาให้นะ”
สารพัดจะปลอดโยนแต่ด้วยความกลัวจึงไม่หยุดร้องไห้จนเบญจมาศบอกว่า
“ไปนั่งข้างกองไฟได้แล้วเดี๋ยวพิษจะกำเริบตาหมอลามกก็ชักช้าเสียจริงทำอะไรอยู่นะ”
นั้นแหละดอกท้อถึงขยับออกมานั่งหน้าถ้ำพร้อมเร่งไฟแต่ดวงหน้าของนางยังเต็มไปด้วยร่องรอยของน้ำตา เสียงครืนครันท้องฟ้าดังมาไกลแต่ดอกท้อมัวคิดสนใจในคำพูดของพี่สาวทั้งสองที่เรียกหมอด้วยความสนิทสนม อืม เกิดอะไรขึ้นนะเจ้เจ้ทั้งสองจึงเรียกเกินขอบเขตของคนรู้จักหรือวิธีรักษาสามารถเปลี่ยนนิสัยได้เอแล้วเราจะเปลี่ยนนิสัยเป็นอย่างไรนะ ดอกท้อเป็นสาวแต่เพิ่งพ้นวัยเด็กไม่นานได้รับการเอาใจจากพี่ทั้งสองทุกอย่างพี่รับหน้าหมดจึงมองโลกช่างสวยงามเหลือเกินดอกท้อมัวแต่นั่งคิดอะไรเรื่อเปื่อยจนไม่รู้ฝนได้ตกทำให้ฟืนที่เตรียมมาตลอดคืนเปียกและกองไฟได้เริ่มมอดทีละน้อย ๆ
บ่อเมี้ยไปขุดรากไม้ที่ใช้ทำยาค่อนข้างที่จะไกลจากที่พักมากนักเมื่อกลับมาถึงดอกท้อลงไปกองร่างกายสั่นระริกกองฟืนดับเปียกน้ำจุดใหม่ต้องใช้น้ำมันซึ่งบ่อเมี้ยไม่เตรียมมาด้วยรีบป้อนยาฟันของดอกท้อกัดแน่นไม่ยอมให้สิ่งใดเข้าไปบ่อเมี้ยจึงบีบปากดอกท้ออ้าปากน้อยตามแรงมือแต่ก็หากลืนยาไม่บ่อเมี้ยจึงประกบปากใช้ลิ้นเขี่ยตัวยาให้เข้าไปให้ลึกที่สุดจึงกรอกน้ำตามแต่ร่างกายของดอกท้อเปียกชุ่มจากฝนและเหงื่อจากพิษไข้บ่อเมี้ยไม่มีเวลาถอดเสื้อผ้าของดอกท้อและของบ่อเมี้ยพร้อมอาศัยไออุ่นของร่างกายกันและกันแต่ร่างกายกับเริ่มเย็นลงบ่อเมี้ยจึงถูแขนขาท้องจนบ่อเบี้ยไม่สนใจเรื่องใด ๆจึงถูไปที่อกอันเล็กกะทัดรัดพอกับซาลาเปายอดปทุมถันสีแดงบ่อเมี้ยเพื่อช่วย
ชีวิตจึงถูทั้งร่างกายจึงถูถึงดอกไม้เล็กกระทัดสมกับรูปร่างไพรไหมมีเพียงเบาบางแต่มีเกสรโผล่ออกมาเล็กน้อยจากการที่บ่อเมี้ยถูไปทั้งร่างกายทุกสัดส่วนช่วยเรียกความร้อนและเรียกสติของดอกท้อคืนมาบ้างและรู้ว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าของบ่อเมี้ยก็เช่นกันจึงกล่าวด้วยเสียงที่แทบไม่มีว่า
“เซี่ยวกอ(พี่ชาย)ทำอะไรท้อ ท้อหนาวจัง”
“ทำไมดอกท้อถึงดื้อให้ก่อไฟทำไมปล่อยให้ดับ”
“ท้อขอโทษ ท้อไม่ตั้งใจ เซี่ยวกอกอดท้อแน่นแน่นท้อหนาว”
แต่มือดอกท้อกับกระชากผ้าคลุมหน้าของบ่อเมี้ยออก
“ท้อขอเห็นหน้าเซี่ยวกอชัดๆก่อนตายนะ”
“ไม่หรอกอยู่กับเซี่ยวกอท้อคนน่ารักไม่ตายหรอก”
บ่อเบี้ยยิ้มน้อย ๆพอดอกท้อเห็นก็ทำให้ร่างกายร้อนสูบฉีด ประกอบกับตอนนี้อยู่ในสภาพเปลือยกายทำให้ร่างกายหยุดหนาว ความปั่นป่วนในใจก่อกำเนิด หน้าแดงร่างที่เย็นเปลี่ยนเป็นสลับร้อน บ่อเมี้ยรู้นี้คือผลร้อนเย็นผู้ที่กินได้โดยไม่เป็นไรก็คือคนที่กระแสพลังสองสายเช่นบ่อเมี้ยนี่เองดอกท้อไม่รู้รวบรวมความกล้ามาจากไหนเธอเงยหน้าและจุมพิตเบาๆที่ปากของบ่อเมี้ย
…ดอกท้อมีกระแสพลังแห่งร้อนเมื่อกินผลร้อนเย็นกระแสพลังจะปั่นป่วนเหมือนกับบ่อเมี้ยประสบนั้นเอง บ่อเมี้ยจากการทำสัมผัสร่างกายตัวดอกท้อแก่นกายก็แข็งตัวอยู่แล้วเมื่อได้รับการสัมผัสปานปีกแมลงปอทำให้บ่อเมี้ยไม่ต้องควบคุมอารมณ์ที่ก่อเกิดอีกแล้ว
“ที่รักพร้อมจะรับการรักษาหรือยังพิษร้อนเย็นต้องแก้ที่พลังร้อนเย็น”
ไม่รอดอกท้ออนุญาตยกตัวของนางมาสวมแก่นกายอย่างช้า ๆอือ….อูย…..จะ…..เจ็บ….เซี่…..เซี่ยว…….กอ……อา…….จนมิดแท่นหยกบ่อเมี้ยจึงก้มดูดปทุมอันน่ารักโดยการใช้ลิ้นเลียรอบยอดปทุมถันเพื่อให้นางลืมความเจ็บปวดไล่จูบจนถึงซอกคอ ขบที่ติ่งหู อ้า…ซีด……มือของบ่อเมี้ยจับที่เอวอันเรียวเล็กยกขึ้นยกลงอย่างช้า ๆ โอย……อูย ……อา……ซีด…..กะ…กอ…..กอ……อา……บ่อเมี้ยเริ่มเร่งความเร็วโดยที่ไม่ลืมดมดอมปทุมถันทั้งสอง อ้า…..ซีด……แรง…อ้า..ท้อ…..ท้อ….ระ……ระ….รัก……กอ…….กอ……..อ้า….ถึงแล้ว แต่บ่อเมี้ยยังซอยอีกอย่างเร็วและแรงซีด….อูย…..กอ……กอ…….พ……พอ…….แ…….แล้วอูย…..ถึง…..อีก…..แล้ว ดอกท้อก็ฟุบอยู่กับอกของบ่อเมี้ย บ่อเมี้ยจับนางออกดัง พล๊อก พร้อมเลือดและน้ำค้างของทั้งสองคนไหลออกมาเต็มหน้าขาของดอกท้อบ่อเมี้ยจับนางหันหลังและค่อย ๆสอดแก่นกายกับดอกไม้อย่างช้า
“ไม่…กอ….กอ….ท้อไม่…..ไหวแล้ว”
“ใจเย็นดอกท้อพิษเย็นของท้อไม่หมด”
พูดไปก็ซอยไปเรื่อยอย่างช้าจนเร่งความเร็วตามลำดับ
“กอ ..กอ…อ้า…ต้อง…..อ้า…..กี่……อ้า……คระ…..ครั้ง”
บ่อเมี้ยตอบอย่างอารมณ์ดี
“แล้วม่วยม่วยซีด…อูย……กินไปกี่ลูก” อูย………10……ลูก………………….

Share the Post:

Related Posts

แอบเย็ดพี่สะใภ้เสียวสุดๆ ไปเลย

เรื่องเสียว แอบเย็ดพี่สะใภ้เสียวสุดๆ ไปเลย ประสบการณ์เย็ดหีของผมจริงๆ แล้วมีหลายเรื่องที่เสียวแบบสุดๆ และได้อารมณ์เป็นอย่างมาก แต่ไม่เคยมีเรื่องไหนที่จะเสียวเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของผมกับพี่สะใภ้ที่แอบเย็ดกัน เวลาที่ผมได้อ่านเรื่องเสียวในเว็บไซต์บอกเลยนะครับว่าอยากจะมาแชร์ประสบการณ์สุดเสียวมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่อยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ผมพึ่งมาทำงานที่กรุงเทพฯ ในตอนนั้นผมพึ่งได้งานทำจึงไม่มีที่พัก เลยมาอาศัยอยู่บ้านพี่ชายของผมไปก่อนซึ่งพี่ชายของผมก็อยู่กับเมียเขา 2 คน เมียพี่ชายผมชื่อว่าพี่ดุ๊ เธอเป็นคนที่ดูสาวมากเลยครับ

Read More

หนุ่มขี้เหงา สั่งสวิงกิ้งไซล์ไลน์

เรื่องเสียว หนุ่มขี้เหงา สั่งสวิงกิ้งไซล์ไลน์ หลังจากที่ผมเพิ่งเรียนจบในชีวิตมหาลัยผมก็มุ่งหน้าทำแต่งานจนแทบไม่มีเวลาที่จะหาคนรู้ใจเอาไว้เย็ดกันในวันที่ร่างกายต้องการพลัง เมื่อไหร่ที่รู้สึกเงี่ยนอย่างมากก็ได้แต่นอนชักว่าวอยู่ที่บ้าน ตอนนี้อายุของผมเริ่มเข้าใกล้ 30 แล้ว แต่ความเงี่ยนยังคงไม่ลดละลงเลย มีครั้งหนึ่งที่พอได้เย็ดเพื่อนร่วมงานบ้างแต่ก็เป็นเพราะความเมาจากงานเลี้ยงของบริษัทซึ่งเราเองหลังตื่นขึ้นมาเห็นสภาพตัวเองก็ต่างคุยตกลงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วแยกย้าย เพราะเขาเองก็มีลูกมีสามีอยู่แล้ว เราได้เย็ดแค่ครั้งเดียวถือว่าเป็นความผิดพลาดแต่ก็ยังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันได้ แม้ว่าชีวิตจะผ่านการเย็ดมาแล้วหลังครั้งแต่ครั้งหนึ่งที่ผมอยากจะเล่าประสบการณ์เสี่ยวนี้ก็คือการได้เย็ดผู้หญิงทีเดียวพร้อมกันถึงสองคน โดยเธอทั้งคู่นั้นเป็นสาวขายบริการที่ยังคงเล่นอยู่ในมหาลัย เป็นความมันเกินจะบรรยายและทุกครั้งที่รู้สึกเงี่ยนขึ้นมาผมมักจะนึกถึงเรื่องราวในวันนั้นเสมอ ในอนาคตหากมีเวลาและเงินมากกว่านี้ก็ยังจะเช่าเมียมาอีกสักครั้ง ในวันนั้นเป็นวันเกิดของผม ซึ่งโดยปกติแล้วผมก็ไม่ได้มีเพื่อนสนิทที่อยู่ใกล้กันมากนัก จะมีก็แต่คนที่ดทรมาอวยพรและส่งข้อความผ่านเฟสบุ๊ค จนกระทั่งเลื่อนไปเห็นคนเขามีคู่ก็รู้สึกอิจฉาและพรางคิดไปว่า

Read More