น้องผิง ตอนที่ 11
………………………………………….
Assasin008
หลังจากที่ผมได้เปิดซิงประตูหลังน้องผิง ก็เป็นไปตามคาดครับ น้องผิงระบมทั้งรูหน้ารูหลังจนเดินแทบไม่ไหว เธอบอกแม่ว่าไม่สบายเล็กน้อยขอกินยาแล้วนอนที่บ้าน ส่วนผมก็ถือโอกาสลางานมาอยู่เฝ้าน้องผิงจู๋จี๋กันทั้งวัน
ตอนเช้าพอแม่ของเธอออกจากบ้านไป ผมก็เข้าไปอุ้มน้องผิงมานอนที่บ้านผมจะได้ง่ายต่อการดูแล ผมลงมือทำอาหารป้อนข้าวป้อนน้ำให้น้องผิงดูแลอย่างดูในแบบที่ยังไม่เคยทำให้ใคร
ส่วนเรื่องเซ็กส์น่ะ ผมไม่ทำอะไรเลยครับ ผมอยากให้น้องผิงได้พักผ่อนให้เต็มที่จะได้พร้อมใช้งานหนักได้ในวันหลัง อีกอย่างช่วงนี้ผมหักโหมมาพอสมควรจึงอยากพักผ่อนร่างกายบ้าง
วันนี้ทั้งวันผมก็เลยไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านอนกอดกับเธอ อ้อ มีจูบปากนิดหน่อย … อืม แล้วก็ขยำกับดูดนมเธอนิด ๆ … เอาน่า
ใครอยู่ใกล้น้องผิงแล้วไม่อยากขยำนมขาว ๆ อวบ ๆ ของเธอก็คงไม่ใช่ผู้ชายแล้ว
เอาเป็นว่าวันนั้นทั้งวัน ผมให้น้องผิงได้พักผ่อนเต็มที่ รอจนตกเย็นผมถึงค่อยกลับบ้านปล่อยให้เธอนอนคนเดียว แล้วสักพักแม่ของเธอก็กลับมาดูแลต่อโดยที่ไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอมีคนดูแลมาทั้งวันแล้ว
คืนนั้นผมเคลียร์งานนิดหน่อย เห็นมีสายโทรเข้าจากเชอรี่ที่ผมไม่ได้รับเกือบสิบสาย แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าไม่อยากเล่นกับไฟ ก็เลยไม่โทรกลับ แต่หันไปโทรคุยกระหนุงกระหนิงกับน้องผิง สลับกับมิ้งแม่ของเธอแทน
มิ้งพยายามจะนัดเจอผม แต่ผมขอเลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้เย็น แล้วผมก็นอนพักเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องไปทำงาน พอหลังเลิกงานยังมีนัดกับมิ้งด้วย
………………………………………….
“เฮ้ย ไอ้กาย เมื่อวานมึงลาหยุดไปทำอะไรวะ อดดูของดีเลยนะมึง”
เที่ยงวันนั้นตอนที่ผมลงมาหาอะไรกินที่ชั้นล่าง เพื่อนที่ทำงานสองคนก็เดินมาโอบไหล่แล้วส่งเสียงทักใส่ผมทันทีที่เห็นหน้า สองคนนี้ก็คือเพื่อนก๊วนหื่น คนนึงคือเจ้าของห้องพักตอนที่ผมได้เปิดซิงมิ้งแม่ของน้องผิงนั่นล่ะครับ พวกเราไม่ได้อยู่แผนกเดียวกัน แต่สนิทกันเพราะเป็นพวกก๊วนชายนักเที่ยวกลางคืน จัดว่าสนิทสนมกันพอสมควร
“เมื่อวานได้เปิดซิงเด็กว่า อย่างเด็ดเลย เพิ่งอายุสิบห้าสิบหกเอง เด็กสวยน่าเอาจนเพลินไปหน่อย หมดแรงมาทำงานไม่ไหวเลย”
ผมยิ้มกริ่มใส่แล้วเริ่มพูดอวด ซึ่งนี่เป็นเรื่องธรรมดาของพวกเราสามคน ถ้าใครเจออะไรดี ๆ มาก็จะเอามาคุยอวดกันไปตามเรื่องตามราว ใครไปเที่ยวที่ไหน เจอสาวคนไหนน่าสนใจ ส่วนใหญ่เราสามคนก็สนทนากันเรื่องพวกนี้ล่ะครับ
ได้ยินผมอวดแบบนี้ ไอ้หยง กับ ไอ้เม่า ก็หันมามองผมตาโตแวววาว ต่างคนต่างแสดงท่าทีหื่นสนอกสนใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ไม่ต้องพูดออกมาผมก็เดาออกว่าพวกมันอยากเห็นว่าเด็กผมเด็ดดวงแค่ไหน
“ดูเองเลย”
ผมล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหาคลิปที่ผมถ่ายไว้ ผมเลือกเปิดคลิปสั้น ๆ ตอนที่น้องผิงใช้นมกับใช้ปากดูดควยให้ผม แต่ผมเลือกฉากที่ผมใช้มือบังปิดตาของน้องผิงเอาไว้ คนอื่นเห็นจะได้ไม่เห็นหน้าเต็ม ๆ จนเธอฉาวโฉ่
ข้างล่างนี่มีคนเยอะแยะเสียงก็เลยออกจะดังไปหน่อย ผมก็เลยไม่ได้เปิดเสียงออกลำโพง แต่ว่าแค่เห็นภาพหน้าครึ่งล่าง เห็นตอนปากสวย ๆ กับนมขาวอวบรูดไถลไปกับควยใหญ่ของผมแล้ว ไอ้เพื่อนทั้งสองคนก็ยืนนิ่งตาลุกวาวกันไปเลย หึ หึ บอกแล้วว่านมน้องผิงทั้งสวยทั้งใหญ่ ใครเห็นเป็นต้องหื่น นี่ขนาดพวกมันเห็นหน้าแค่ครึ่งเดียวก็เป้าตุงกันแล้ว
“หูยย โคตรขาว ปากแดง นมสวย แถมโคตรใหญ่เลยว่ะ … เชี่ยเอ๊ยเย็ดนมสบายควยเลยนะมึง ถึงว่ายอมลางานหายไปทั้งวัน”
“หุ่นโคตรดีเลยว่ะ ควยลุกเลยกูไอ้กาย มึงไปหาเด็กที่ไหนมาวะ ขอดูหน้าหน่อยดิ๊”
ไอ้สองคนนั้นส่งเสียงโวยวาย ส่วนผมยิ้มกริ่มภูมิใจรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชนะ แต่ผมไม่ยอมให้พวกมันเห็นหน้าน้องผิงหรอก ผมแค่กดเปลี่ยนไปอีกคลิป ตอนนี้ที่ฉายอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นรูปแผ่นหลังขาวเนียน กับสะโพกอวบเด้งของน้องผิง
ภาพซูมไปที่รูก้นกับรูเสียวสีชมพูอ่อนแวบนึง แล้วก็เป็นรูปควยของผมพยายามแทรกเข้าไปในรูก้น ตอนนี้ไอ้เพื่อนจอมหื่นสองคนตาลุกกว่าเดิมจ้องไม่วางตา ผมแอบมองข้างล่างก็เห็นเป้าพวกมันสองคนตุงขึ้นมาแล้ว หึ หึ
พวกมันส่งเสียงอูวเบา ๆ ตอนที่ผมพยายามยัดควยเข้าไปในรูก้นเล็ก ๆ ของน้องผิง แถมยังทำท่าเหมือนจะส่งเสียงเชียร์อะไรแนวนั้นจนผมเกือบหัวเราะก๊าก พวกเรายืนดูกันนานพักใหญ่รอจนควยของผมหลุดผลุบเข้าได้เท่านั้นแหละ ไอ้เพื่อนหื่นทั้งสองคนก็กำหมัดส่งเสียงเยสเหมือนทีมฟุตบอลทีมโปรดเพิ่งทำประตูได้
“สุดยอด … เฮ้ย ไอ้กาย มึงปิดทำไมวะ เฮ้ย กำลังมัน ไอ้เชี่ย”
ผมกดปิดคลิปตอนที่พวกมันกำลังเชียร์เพลิน ๆ ไอ้หยงก็เลยหันมาด่าทอผมเสียยกใหญ่ แต่ผมยิ้มกริ่มไม่สนใจ ผมคิดว่าให้พวกมันดูแค่ไปก่อน เอาไว้ค่อยเอามาให้พวกมันอิจฉาเล่นอีกทีหลัง
“พอก่อนว่ะ กูหิวแล้ว พวกมึงแดกอะไรยัง”
“ไอ้สัด ทำหวงเว้ย เออ ไปหาอะไรแดกก่อนก็ได้ กูกำลังอยากกินอาหารทะเล”
“อาหารทะเลเชี่ยไรตอนมื้อเที่ยง”
“กูอยากกินหอยโว้ย หอยสด ๆ สีแดงแจ๋แบบที่มึงให้ดูนั่นไง”
“ไอ้เหี้ย”
“อะไรวะ ทำหวง แต่มึงนี่แม่งโคตรดวงดีเรื่องผู้หญิงเลยว่ะ น้องแอนเมียมึงนี่ก็อย่างงาม สาวไซด์ไลน์วันก่อนมึงก็ฟาดคนสวยไป ชื่ออะไรนะ มิ้งใช่มั้ย? แล้วนี่แม่งยังได้กินตับเด็กอีก”
“เออ คนมันจะเฮงเว้ย เอา ไปกินอะไรดี”
“ตามใจมึงไอ้กายแต่เดี๋ยวขอแวะร้านตาบั๊กก่อน”
“มึงกินกาแฟด้วยเหรอวะ?”
“กูไม่ได้กิน แต่กูจะแวะไปดูของดีว่ะ ไม่รู้น้องนักศึกษาคนสวยเค้ายังอยู่มั้ย แม่งสวย หุ่นดี โคตรเอ็กซ์ น่าล่อพอ ๆ กับเมียมึงเลย เมื่อวานมึงไม่มาก็เลยไม่เจอ”
“ไอ้เชี่ย ลามปามถึงเมียกูอีก … แล้วเด็กที่ไหนวะ? สวยขนาดนั้นเลย?”
ผมถามด้วยความสงสัย เพราะปกติพวกเราสามคนจะมีเสปคเรื่องสาวสูงพอสมควร เรียกว่าพวกหน้าตากลาง ๆ นี่ตัดทิ้งไปได้เลย ไม่เข้าข่ายเด็ดขาด แต่ที่ไอ้หยงกำลังพูดด้วยท่าทางหื่นแบบนี้น่าจะหมายความว่าเป็นพวกสวยพิเศษ
“เด็กมหาลัยแถวนี้แหละ แต่น้องเค้าไม่ยอมบอกชื่อ บอกแค่ว่ามารอง้อแฟนจนกว่าแฟนจะหายงอน เมื่อวานก็มานั่งตั้งแต่เช้าจนค่ำ พวกกูขอนั่งด้วยก็โดนไล่แบบนิ่ม ๆ ว่ะ น้องเค้าบอกว่ากลัวแฟนโกรธ แม่งโคตรอิจฉาแฟนน้องเค้าเลย นี่ถ้าได้เด็กสวยเด็ดขี้อ้อนน่าเยสขนาดนี้นะมึง กูจับขังลืมไว้ที่บ้านเลย ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด”
“นั่งรอง้อแฟนทั้งวัน? ฮ่า ฮ่า อะไรจะขนาดนั้น นักศึกษาจริงเรอะ ไม่มีเรียนหนังสืออะไรหรือไง กะเทยหรือเปล่า?”
“ไอ้สัดกาย น้องเค้าไม่ใช่กะเทยแน่ ๆ โว้ย สัญชาตญาณกูบอก แต่นักศึกษาหรือเปล่านี่พูดยากว่ะ เอาเป็นว่าสวยเด็ดน่าเยสล่ะกัน มึงคอยดูล่ะกัน ถ้ามึงมีบุญนะ”
“เออ งั้นไปดูให้เสร็จเรื่อง แล้วจะได้ไปหาอะไรแดกซักที”
ผมหัวเราะใส่พวกมัน ในใจคิดว่าจะไปดูสักหน่อยให้หายอยากรู้ เพราะสาว ๆ ที่ทำให้เพื่อนจอมหื่นมันเพ้อได้ขนาดนี้ต้องไม่ธรรมดา อย่างน้อยก็ต้องมีเสน่ห์ระดับน้องแอนเมียผม ผมก็เลยเดินตามพวกมันเข้าไปในร้านกาแฟที่ผมไม่ค่อยนิยมกินเท่าไหร่
วันนี้ร้านกาแฟดูคึกคักแปลก ๆ ทั้งที่ปกติจะไม่แน่นมาก แต่วันนี้ผมเห็นลูกค้าผู้ชายเยอะกว่าเดิม แถมแต่ละคนก็ยังแอบซุบซิบคุยมองไปทางผู้หญิงผมทรงหางม้าในชุดนักศึกษาคนหนึ่งที่นั่งตัวตรงหันหลังให้ผมอยู่ เธอคนนั้นนั่งนิ่งมองผ่านกระจกใสไปข้างนอก เหมือนจะมองไปทางลิฟต์หลักของอาคาร ดูจากด้านหลังแล้วสัญชาติญานของผมบอกว่าน่าจะสวยเด็ดทีเดียว
ถ้าฟังจากที่ไอ้เพื่อนสองตัวนี่พูด เธอก็คงกำลังนั่งรอแฟนของเธอนั่นแหละ เพราะนี่เป็นลิฟต์หลักตัวเดียวในอาคาร อ้อ มียกเว้นลิฟต์สำหรับผู้บริหารที่ขึ้นจากอาคารจอดรถได้เลยอีกหนึ่งแห่ง แต่มีแค่คนส่วนน้อยที่ใช้ลิฟต์นั้นได้ แล้วผมก็เป็นคนนึงที่ได้ใช้ ผมก็เลยแอบคิดขำ ๆ ว่าถ้าเธอคนนี้เป็นเด็กผู้บริหารก็คงจะไม่ได้เจอกัน
เพื่อนผมสองคนออกอาการคึกคักจัดผมเผ้าทำหล่อกันยกใหญ่ พวกมันไม่ใช่ไก่อ่อนที่เอาแต่มองไม่ลองจีบ ผมรู้ว่าพวกมันต้องลงมือจีบแน่ ๆ แต่คราวนี้ผมขี้เกียจจะยุ่ง เพราะมีทั้งน้องผิงทั้งคุณมิ้งอยู่ในสต๊อคแล้ว ขี้เกียจจะหาภาระมาเพิ่มอีก ผมเลยตั้งใจแค่จะมองให้รู้ว่าสวยเด็ดขนาดไหน จะสวยสู้สาว ๆ ของผมได้หรือเปล่า
“ไอ้กาย วันนี้มึงห้ามแย่งจีบนะมึง ให้กูแย่งกับไอ้เม่าสองคนพอ”
ไอ้หยงหันมาขัดคอผมซะก่อน ส่วนไอ้เม่าก็หันมามองกดดันด้วยอีกคน ผมก็เลยหัวเราะหึ ๆ อยากแกล้งพวกมันขึ้นมา แต่พอคิดไปก็ขี้เกียจ ก็เลยยอม ๆ ยกให้พวกมันแย่งกันเอง
“เออ กูไม่แย่งจีบแน่ แต่ถ้าน้องเค้าสนกูเอง กูช่วยไม่ได้นะโว้ย”
“ไอ้สัด แม่งหลงตัวเอง เออ เอาเป็นว่ามึงห้ามลงมือจีบเป็นพอ ไอ้เม่าใครดีใครได้โว้ย ไป”
ไอ้หยงพูดปลุกใจเรียบร้อยก็รีบเดินจ้ำอ้าวไป ไอ้เม่าก็รีบเดินตามไปแบบไม่ยอมแพ้ แล้วพวกมันสองคนก็ถือวิสาสะไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้างนักศึกษาสาวคนนั้นแบบไม่ถามไถ่สักคำ
ผมแอบหัวเราะกวาดตามองสายตาอิจฉาผสมกับสาปแช่งอาฆาตของหนุ่ม ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ บางทีผมก็สงสัยนะ ว่าจะมัวนิ่งกันอยู่ทำไม พอเจอคนน่าสนใจแทนที่จะเข้าไปหาจะได้ทำความรู้จัก ก็ดันกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าเข้า แล้วก็มาแอบฝันลม ๆ แล้ง ๆ ว่าสาวเจ้าจะหันมาสนใจตัวเอง เพราะข้อแตกต่างแบบนี้แหละหนุ่มนักรักอย่างพวกผมถึงได้ฟาดสาวจนนับไม่ถ้วน
ผมเดินเข้าไปช้า ๆ ไม่ได้รีบอะไร แล้วค่อย ๆ มองสาวนักศึกษาคนนั้นทีละนิด ตอนนี้ผมเดินไปจนเห็นด้านข้างของเธอ อืม สวยเชียว ขาว หุ่นอึ๋มมากชุดนักศึกษาก็รัดเปรี๊ยะเปรี้ยวจี๊ด ผมมองแล้วก็นึกถึงยัยจิ้งจอกสาวเชอรี่ขึ้นมาทันที ผู้หญิงคนนี้คล้ายกับเชอรี่มาก ๆ ไม่ว่าจะเรื่องหน้าตาหรือรูปร่าง ต่างกันก็แค่ทรงผม เรียกได้ว่าเห็นแล้วของขึ้นได้เหมือนกัน
ผมแอบมองลอดร่องกระดุมดูความขาวของเนื้อนมแล้วแอบกลืนน้ำลายดังเอื้อก ขาขาว ๆ ของเธอที่โผล่พ้นกระโปรงนักศึกษาสั้นกุดของเธอก็น่าฟัดใช่ย่อย ผมยิ่งมองก็ยิ่งเกิดอารมณ์ รู้สึกได้ว่าไอ้หยงไม่ได้พูดเกินจริง แม่สาวคนนี้มีเสน่ห์ยั่วอารมณ์ผู้ชายได้ดีมากจนผมชักอยากจะลองจีบสักหน่อยแล้วซิ
พอผมเดินไปจนเห็นรูปร่างหน้าตานักศึกษาสาวคนนั้นได้ชัดก็ต้องยืนชะงักขมวดคิ้ว เพราะหน้าตาของเธอคุ้นมาก ตอนนี้เธอกำลังแสดงสีหน้าเหนื่อยใจ เธอพูดขอร้องแบบอ้อม ๆ ให้ไอ้เพื่อนของผมสองคนเลิกตอแยเธอเสียที ผมได้ยินว่าพูดแนวว่ากลัวแฟนเธอเห็นแล้วจะโกรธ
ตอนนี้เธอหันมามองผมแวบนึงแล้วหันกลับไปมองทางลิฟต์ต่อ เธอทำท่าเหมือนไม่สนใจผม แล้วสักพักเธอก็สะดุ้งนั่งนิ่งชะงักเหมือนตกใจ ผมเองก็สะดุ้งโหยงตกใจเหมือนกันเพราะรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้มาหาใคร
เธอค่อย ๆ หันหน้ามามองทางผมช้า ๆ เหมือนกำลังลุ้นอะไรบางอย่าง พอเห็นผมเต็มตาก็น้ำตาคลอเบ้าจนผมต้องอ้าปากค้าง เพื่อนผมสองคนที่กำลังขายขนมจีบให้ก็ชะงักหันมามองผมสลับกับเธอ
“… พี่กายคะ … หนูขอโทษนะคะ … หนูขอโทษจริง ๆ”
เธอพูดเสียงสะอึกสะอื้น แล้วโผมากอดซุกหน้าแนบกับแผงอกของผม คนที่เธอกำลังรอคอยก็คือผมนี่เอง ที่เมื่อวานเธอไม่เจอผมก็เพราะผมไม่ได้มาทำงาน ส่วนวันนี้เธอก็ไม่เห็นผมเพราะผมใช้ลิฟต์ผู้บริหาร นี่ถ้าผมไม่แวะมาร้านกาแฟเธอก็คงไม่เห็นผมอีก
ใช่แล้วครับ น้องนักศึกษาสุดสวยหุ่นเอ็กซ์คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเชอรี่จิ้งจอกสาวที่ผมพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยนั่นแหละ วันนี้เธอไว้ผมทรงหางม้าเป็นระเบียบเรียบร้อยจนผมเกือบจำไม่ได้
เฮ้อ … ผมก็พยายามแล้วนะ แต่ว่าเธอเป็นฝ่ายมาหาผมเอง แถมยังมากอดผมท่ามกลางสายตาประชาชนอีกต่างหาก ผมก็เลยทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งให้เธอกอดร้องไห้สะอึกสะอื้น … ผมรู้สึกแค่ว่าตอนนี้ผู้ชายทุกคนในร้านกาแฟกำลังมองผมด้วยสายตาเปี่ยมรังสีอำมหิต โดยเฉพาะจากไอ้หยงกับไอ้เม่า เพื่อนก๊วนหื่นของผม
………………………………………….
“ว้าว มีห้องทำงานส่วนตัวด้วย แถมตกแต่งซะหรูหราเลย มีทีวีจอใหญ่ มีตู้เย็น แถมมีโซฟาเบาะหนังอีกต่างหาก”
เชอรี่นักศึกษาสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ส่งเสียงโอ้โหตอนเดินเข้ามาในห้องทำงานของผม เธอมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาวิบวับตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อยเพิ่งเผชิญโลกกว้าง แต่จะว่าไปห้องทำงานของระดับผู้บริหารมันก็ใหญ่จริง ๆ อย่างที่เธอว่านั่นแหละ
“ถ้าเป็นห้องทำงานของระดับบอร์ดนะใหญ่กว่านี้สองเท่า อยากรู้จักใครมั้ยจะพาไปแนะนำให้”
ผมตีหน้านิ่งเหมือนไม่ค่อยพอใจ แถมด้วยการพูดเสียดสีเชอรี่ด้วยความหมายว่า หากเธออยากจับพวกรวย ๆ ผมก็พอจะแนะนำให้เธอได้ และผมก็เพิ่งรู้จากปากของเธอว่าเธอถามที่ทำงานผมจากเสี่ยอ้วน
ภายนอกผมเหมือนอารมณ์ไม่ดี แต่ว่าภายในนั้นผมรู้ดีว่ากำลังอมยิ้ม เพราะรู้สึกขำกับการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของเชอรี่ จากเมื่อครู่ที่อยู่ในร้านกาแฟเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กน้อยจนผมสงสาร
กระทั่งตอนที่ไปนั่งกินข้าวเที่ยงกับพวกไอ้หยงไอ้เม่า เชอรี่ก็แปลงร่างไปเป็นสาวร้อนเปรี้ยวจี๊ดที่พูดจาหยอกล้อสองแง่สามง่ามกับพวกมันได้อย่างสนุกสนาน แถมยังแอบยั่วแบบเนียน ๆ จนพวกมันเป้าตุงไปตามกัน
เมื่อกินข้าวเรียบร้อย ไอ้เพื่อนก๊วนหื่นก็ทำท่าจะไม่ยอมแยกจากเชอรี่ แต่ผมติดงานก็เลยบอกว่าถ้าอยากคุยกับเชอรี่ต่อก็ตามสบาย แต่ผมต้องขอแยกตัวมาทำงานก่อน อารมณ์ประมาณจะผลักไสให้ไอ้พวกนั้นดูแลเชอรี่นั่นแหละครับ
พอผมพูดแบบนี้พวกมันก็เนื้อเต้นดีใจกันยกใหญ่ แต่เชอรี่หันมามองผมทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ผมก็เลยชะงักเริ่มทำตัวไม่ถูก สุดท้ายไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นว่าผมหิ้วเชอรี่เข้ามาในที่ทำงานทั้งที่ตัวเองกำลังงง ๆ ว่าทำไมตัดสินใจแบบนี้
“ไม่เอาหรอก ตอนนี้หนูมีผู้ชายที่หนูหลงรักแล้ว หนูจะเลิกเป็นเด็กเสี่ย เรื่องเงินไว้ค่อยทำงานหาเอาก็ได้ ออกงานพริตตี้บ่อย ๆ ก็เหลือใช้แล้ว”
โดนผมพูดเสียดสีไป แทนที่เชอรี่จะโกรธหรือหน้าเสีย เธอกลับหันมามองผมแล้วส่งสายตาวิบวับ จากนั้นก็ล้มตัวลงไปนั่งบนโซฟาจนกระโปรงนักศึกษาร่นขึ้นไปด้านบนเปิดให้เห็นกางเกงในสีชมพูสวย
ผมมองขาขาว ๆ กับกางเกงในของเธอแล้วก็ต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอ เธอเหมือนจะรู้ว่าผมกำลังมอง จึงตบมือลงบนเบาะโซฟาเหมือนจะสื่อให้ผมลงไปนั่งด้วยกัน
“หลงรัก หรือว่าเห็นที่เกาะกินระยะยาว?”
ผมฟังเธอพูดแล้วใจสั่นหวิว ๆ รู้ดีว่าเธอตั้งใจพูดถึงผม แต่ผมก็ยังพยายามบ่ายเบี่ยงทำเป็นไม่รับรู้ ผมยอมรับว่าเชอรี่มีเสน่ห์มากจริง ๆ แต่เพราะผมไม่อยากเล่นกับไฟ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนไหนที่เธอหลอกลวง และตอนไหนที่เธอพูดความจริง
“หลงรักก็หลงรักซิคะ … พี่กายคะหนูมีอะไรอยากบอก”
ผมพูดแรงอยู่บ้าง แต่สีหน้าของเธอยังไม่เปลี่ยนสักนิด เธอยิ้มยั่วยวนพูดยืนยันคำเดิม แถมด้วยการดึงชายเสื้อให้ตึงกว่าเดิมเสริมเน้นความอวบอิ่มของสองเต้าจนผมชะงักไปวูบใหญ่ ในใจผมได้แต่แอบบอกตัวเองว่าผมมีน้องแอน มีมิ้ง มีน้องผิงแล้วตั้งสามคน ผมไม่ควรจะหาภาระมาเพิ่มอีก
“หนูขอสาบานว่าหนูจะไม่โกหกพี่กายอีก ต่อให้หนูโกหกคนทั้งโลก แต่หนูจะไม่โกหกพี่กายเลยสักคำเดียว ถ้าหนูผิดคำสาบานขอให้หนูกลายเป็นยายแก่อัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัวไม่มีใครอยากมอง”
เธอพูดสาบานแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่ผมว่านี่ถือเป็นอะไรที่ร้ายแรงมากสำหรับเธอ ผมจึงต้องมองหน้าเธอด้วยความแปลกใจ ผมพยายามบอกตัวเองว่าจะเชื่ออะไรกับคำสาบานไร้สาระ แต่ยิ่งมองตาเธอผมก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอจริงจัง ผมมองไม่เห็นความไม่จริงใจเลยสักนิดในแววตาคู่สวยคู่นั้น ผมก็เลยยิ่งรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา
“หนูสาบานว่าจะไม่คิดร้ายกับพี่กายอีก หนูจะไม่คิดร้ายกับผู้หญิงของพี่กายด้วย อย่างพี่มิ้งหนูก็จะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรอีก หนูสาบานว่าจะเลิกทำตัวเป็นสาวไซด์ไลน์ หนูสาบานว่าจะไม่ยุ่งกับผู้ชายคนไหนอีก ผู้หญิงก็ด้วย หนูเลิกกับทอมแล้ว”
“… แล้วจะสาบานทำไม”
“หนูสาบานไว้ก่อน จะได้ยื่นข้อแลกเปลี่ยนกับพี่กายได้”
“… ข้อแลกเปลี่ยนอะไร?”
“ก่อนจะบอกข้อแลกเปลี่ยน หนูต้องให้พี่กายยกโทษให้ก่อน … ขอโทษนะคะ”
ผมถามสีหน้างง ๆ ส่วนเชอรี่นั้นยังยิ้มจริงใจเหมือนเดิม จากนั้นเธอก็ทำสิ่งที่ผมต้องตกใจ เพราะเธอลุกขึ้นมาจากโซฟา นั่งคุกเข่าที่ข้างหน้าผม แล้วประนมมือก้มลงกราบแทบเท้าผมอย่างสวยงามอ่อนช้อย
“ที่แล้วมาหนูรู้ว่าทำไม่ถูก หนูอยากขอโทษ ขอให้พี่กายอภัยให้หนูด้วยค่ะ”
เธอพูดเสียงอ่อนหวานทั้งที่ยังกราบนิ่งแทบเท้าอยู่แบบนั้น ผมเลยได้แต่ยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก จากปกติผมอ่านผู้หญิงออกเกือบหมด แต่ขอบอกตามตรงว่ายังไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ก็เลยนึกไม่ออกว่าควรตอบสนองยังไง
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าถ้าจะยืนกรานโกรธเชอรี่ต่อไป ก็ออกจะใจแคบเกินไป เพราะจริง ๆ แล้วผมก็เข้าใจเธออยู่บ้าง ผู้หญิงที่ต้องอยู่ในวังวนเรื่องแบบนี้ จะยังไงก็ต้องพยายามหาทางเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองก่อน แต่จะให้ผมเชื่อใจเธอเลยก็คงทำไม่ได้เหมือนกัน
“เอาเถอะ ลุกได้แล้ว เอาเป็นว่าที่ผ่านมาหายกัน ยังไงพี่ก็ผิดเหมือนกันที่ปล้ำเชอรี่”
สุดท้ายผมก็ใจอ่อน ก้มลงไปประคองเชอรี่ขึ้นมายืน เธอยิ้มหวานให้ผมจนผมเบลอไปชั่วขณะ ยิ่งได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ กับเห็นเต้าอวบ ๆ ที่ดันเสื้อนักศึกษาออกมาเป็นก้อนกลมในระยะประชิดผมก็ยิ่งรู้สึกตื่นตัว
“ขอบคุณค่ะ พี่กายของหนูน่ารักที่สุดในโลกเลยล่ะ แต่หนูไม่เคยโกรธเลยนะที่พี่กายเป็นคนแรกของหนูน่ะ”
เชอรี่โน้มหน้ามาจูบปากผมเบา ๆ หนึ่งครั้ง แล้วก็พูดพลางหัวเราะคิกคักด้วยท่าทางร่าเริงสดใสจนผมรู้สึกจั๊กกะจี้หัวใจ
“ไม่โกรธแน่เหรอ”
“ไม่ค่ะ ตอนโดนปล้ำหนูกลัวมากก็จริง … แต่พี่ไม่ตบตีทำร้ายร่างกายหนูเลยทั้งที่หนูกัดพี่จนเลือดออก … แถมพี่ยังพูดแสดงความจริงใจจนหนูใจอ่อน ตอนนั้นพี่ก็รู้นี่นาว่าหนูมีอารมณ์ร่วมไปด้วย … หนูยังจำได้เลย พี่พูดว่ากัดให้แขนขาดไปเลยก็ได้ แค่ขอให้ได้เย็ดหนูก็พอ”
เชอรี่ตอบหน้าแดงเล็กน้อย เธอแสดงท่าทีปลาบปลื้มกับเขินอายจนผมตะลึง เธอหมายถึงตอนที่ผมพูดเล่น ๆ ว่าขอแค่ให้ได้อึ๊บเธอ ต่อให้แลกกับแขนขาดก็คุ้ม … อันนั้นผมแค่พูดเล่นไปตามอารมณ์จริง ๆ นะ ผมไม่ได้คิดว่าปากเล็ก ๆ ของเธอจะกัดแขนผมขาดได้หรอก
“เอ่อ อาจจะมีการเข้าใจผิดนะ บางทีพี่ก็พูดไปตามอารมณ์ไม่ได้รู้ตัวหรอก”
“แบบนั้นล่ะค่ะยิ่งจริงใจ เพราะมันออกมาจากก้นบึ้งของพี่เอง … เอาล่ะคะ คราวนี้หนูขอยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนนะคะ”
“… อืม ข้อแลกเปลี่ยนอะไร?”
ผมพยายามบอกแล้วว่าเธอเข้าใจผิด แต่ดูเหมือนว่าเชอรี่จะปักใจเชื่อแบบนั้นโดยไม่สนใจอะไรอีก แถมเธอยังพูดถึงเรื่องข้อเสนอ ซึ่งผมเดาว่าเธออาจจะอยากเป็นเด็กผม แล้วต้องการตกลงพวกเงิน ๆ ทอง ๆ ผมก็เลยแอบคิดหนักว่าควรรับเธอมาเป็นเด็กผมดีหรือเปล่า
“ค่ะ หนูอยากจ้างให้พี่มาเป็นกิ๊กหนูค่ะ”
“… จ้างเป็นกิ๊ก? เดี๋ยวนะ ใครจ้างใคร?”
“หนูเป็นฝ่ายให้เงินพี่ค่ะ หนูออกงานอีเว้นพริตตี้ได้เดือนละสี่ห้าหมื่น หนูจะจ้างให้พี่เป็นกิ๊กหนูเดือนละสองหมื่นห้า เงินอาจจะไม่เยอะสำหรับพี่ แต่หนูทุ่มเต็มที่แล้วนะเงินขนาดนี้”
“… หา?”
ผมฟังแล้วก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ผมนึกว่าเธอจะอยากเป็นเด็กผม แต่กลายเป็นว่าเธอจะจ่ายเงินให้ผมแทน เพื่อให้ผมเป็นเด็กของเธอ!!!
“ไม่ต้องงงหรอกค่ะ หนูจ้างให้พี่เป็นกิ๊กหนู แต่ไม่มีข้อผูกมัดอะไรสำหรับพี่ค่ะ พี่ไม่ต้องจ่ายเงินเลี้ยงค่าข้าว ค่าซื้อของอะไรให้หนูเลยสักบาท หนูแค่อยากให้พี่ทำตัวเป็นแฟนหนูบางเวลาเท่าที่พี่สะดวก พี่อยู่กับเมีย หรือกับผู้หญิงคนอื่นตามปกติ แต่เชอรี่จะมีพี่กายคนเดียว ถ้าพี่กายต้องการเมื่อไหร่หนูจะรีบไปหาทันที ไม่ไปยุ่งกับผู้ชายหรือผู้หญิงที่ไหนอีก … ยกเว้นแต่ถ้าพี่กายอยากให้ทำเรื่องตื่นเต้นก็อีกเรื่องนึง หนูขอแค่พี่อย่าเย็นชากับหนูก็พอ”
“…”
ตอนนี้ผมกำลังพูดอะไรไม่ออก ผู้หญิงคนนี้มีอะไรแหวกแนวจนผมคาดเดาไม่ถูกหลายอย่าง สิ่งที่เธอพูดมันดูบ้าบอพิลึก แต่ผมกลับรู้สึกว่าเธอดูจริงจังจริงใจแปลก ๆ
“พี่อาจจะสงสัยว่าหนูจะทำแบบนี้ไปทำไม หนูรู้ค่ะว่าเงินแค่นี้สำหรับพี่มันน้อยมาก แต่หนูแค่อยากแสดงให้เห็นว่าหนูไม่ได้ทำเพื่อเงิน หนูแค่อยากทำที่ใจอยากทำ หนูแค่อยากใกล้ชิดกับพี่บ้าง แค่อยากเป็นคนรักของพี่บ้างบางเวลา หนูหวังแค่นั้นแหละค่ะ ให้หนูได้มั้ยคะ?”
เชอรี่พูดเสียงเว้าวอน พลางขยับเข้ามาใกล้ผมจนเต้านมหยุ่นนุ่มชนเบียดกับแผงอกของผม เธอกรีดนิ้วลากไปบนแผงอกของผมไปด้วยพร้อมกัน
ผมก้มลงมองเชอรี่ด้วยความรู้สึกว้าวุ่น กลิ่นหอมกำลังมอมให้ผมงุ่นง่าน ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเธอจะทำไปเพื่ออะไร เธอวางแผนหลอกลวงผมอีกหรือเปล่า
“ยังต้องคิดอีกเหรอคะ พี่ได้เปรียบทุกอย่างเลยนะ อยากเอาเชอรี่เมื่อไหร่ก็ได้ทุกเวลา แต่ถ้าเชอรี่อยากเจอก็ต้องดูว่าพี่สะดวกหรือเปล่าก่อน รับรองค่ะว่าไม่มีงอแงวุ่นวาย แถมยังรับได้ทุกที่ทุกท่าทุกเวลาด้วย”
เชอรี่เห็นผมงงก็เริ่มเลื่อนมือต่ำลงไปด้านล่าง เธอลูบเบา ๆ ไปที่เป้ากางเกงซึ่งพองตัวเต็มที่ของผมด้วยท่าทางเหมือนนางแมวยั่วสวาท ให้ตายเถอะ ถ้านับเฉพาะเรื่องยั่วราคะล่ะก็ ผมว่าเชอรี่ทำได้ดีกว่าน้องแอนเมียผมเสียอีก
มาถึงระดับนี้แล้วผมจะยังมีอะไรให้พูดอีก ผมไม่เห็นว่าข้อเสนอนี้จะไม่ดีตรงไหน เป็นผมเสียอีกที่ได้ประโยชน์เต็ม ๆ ได้สาวสวยวัยเอ๊าะแบบเชอรี่มาแบบไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท
ผมตอบรับข้อเสนอด้วยการโอบแขนกอดเชอรี่เอาไว้ ผมก้มหน้าลงไปพยายามจะจูบปากเธอ แต่ว่าเชอรี่ยกมือขึ้นปิดปากผมไว้ แล้วส่งเสียงหัวเราะคิกคักร้องห้ามผมเสียก่อน
“คิก คิก … อย่าเพิ่งใจร้อนซิคะ เอาเป็นว่าตกลงนะ แต่พี่บอกว่าพี่ต้องโทรศัพท์ประชุมทางไกลไม่ใช่เหรอ”
“จริงด้วย ลืมไปเลย!!!”
เชอรี่ทักจนผมสะดุ้งโหยงรีบหันไปมองนาฬิกา ดีที่ยังมีเวลาอีกสองนาทีก่อนถึงเวลานัดประชุมกับลูกค้าต่างประเทศ ตอนนี้ผมก็เลยละเว้นเธอไปก่อน ผมรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานเปิดหน้าจอคอมดูเอกสารข้อมูล แล้วกดโทรศัพท์โทรออกไปหาลูกค้าต่างประเทศแบบให้เสียงออกลำโพงอย่างรวดเร็ว
พอเสียงตรู๊ดของโทรศัพท์เริ่มดัง เชอรี่ก็เดินเยื้องย่างด้วยมาดนางแบบมาหาผม เธอเบียดเข้ามานั่งอยู่บนโต๊ะทำงานข้างจอคอมพิวเตอร์ กระโปรงนักศึกษาร่นขึ้นไปด้านบนอวดท่อนขาขาวโพลนจนเห็นกางเกงในสีชมพูสวย เธอกำลังทำให้ผมไม่มีสมาธิทำงาน
“Hello, Mr. Smith, How are you doing? …”
ผมพูดทักทายด้วยภาษาอังกฤษทันทีที่อีกฝ่ายรับสายและพูดตอบมา แต่ตอนนี้สายตาของผมกำลังจับจ้องมองดูเชอรี่แบบไม่วางตา เธอยิ้มยั่วแอ่นอวดเรือนร่างอยู่บนโต๊ะทำงาน เหมือนอยากจะทดสอบผมว่าระหว่างงานกับตัวเธอ ผมสนใจอะไรมากกว่ากัน
เชอรี่มองผมแล้วแลบลิ้นเลียรอบปากตัวเอง สองมือของเธอวางแหมะลงบนท่อนขาขาวอวบทั้งสองข้าง แล้วลากไล้วนไปมา เธอยั่วเสียจนผมปวดหนึบลืมฟังเสียงโทรศัพท์จนต้องบอกให้ลูกค้าพูดใหม่อยู่หลายครั้ง
“Sorry sir, please open page 5 then you will see the cash balance and cost sharing for this fiscal year, which are in better position than last fiscal year …”
ผมพยายามตั้งสมาธิหันไปมองหน้าจอเพื่อรายงานตัวเลขสถิติกับลูกค้าสำคัญ แต่พอผมเริ่มตั้งสติได้ เชอรี่ก็เริ่มรุกหนักขึ้น เธอลากมือขึ้นไปถลกชายเสื้อนักศึกษาขึ้น จากนั้นเธอก็ปลดกระดุมเสื้อสองเม็ดล่างแล้วแบะอ้าออกกว้างจนเห็นหน้าท้องและสะดือขาวโพลน
ผมอดใจไม่ได้ต้องหันไปมองเชอรี่อีกรอบ เธอก็ทำตาวิบวับเม้มปากยั่วยวนกว่าเดิม จากนั้นก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาด้านบนออก เหลือที่ยังติดอยู่แค่เม็ดเดียวตรงกลางทรวงอก ผมก็เลยเห็นร่องนมขาวอวบของเธอแบบวับ ๆ แวม ๆ
ผมส่งเสียงกระแอมทำหน้าดุใส่ แต่เชอรี่ไม่สนใจ เธอลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งคร่อมบนตักผม แล้วโน้มตัวมากระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหูของผม
“เก่งจังเลยค่ะ พูดอังกฤษคล่องเชียว เก่งแบบนี้หนูรักตายเลยค่ะ”
เธอพูดจบก็อ้าปากงับใบหูแล้วแหย่ลิ้นเลียเข้ามาจนผมขนลุกซู่ แต่ก็ยังกัดฟันฝืนพูดสนทนากับลูกค้าไปเรื่อย ๆ ได้อยู่ จนกระทั่งตอนที่เชอรี่จับหน้าของผมกดซุกเข้าหาร่องนมของเธอนั่นแหละ ผมถึงได้เงียบพูดอะไรไม่ออก เพราะโดนความหอมนุ่มนิ่มสะกดจนงงไปพักใหญ่
ผมรีบผลักเชอรี่ออกเบา ๆ ตอนที่ลูกค้าถามว่าทำไมผมเงียบไป แล้วรีบพูดตอบแก้ตัวไปว่าผมกำลังวิเคราะห์ตัวเลขอะไรนิดหน่อย
เชอรี่ยิ้มพรายเหมือนดีใจที่แกล้งผมได้สำเร็จ แล้วเธอก็โน้มหน้ามาหอมแก้มผม เธอจูบฟอดซ้ายขวาแล้วเริ่มมุดต่ำลงไปไซร้ซอกคอ ผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นระทึกที่ทำเรื่องแบบนี้ในที่ทำงานโดยที่ลูกค้าไม่รู้ตัว
การสนทนายังคงเดินไปเรื่อย ๆ ส่วนเชอรี่ก็เริ่มรุกหนักขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกัน เธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของผมออกทีละเม็ด แล้วก้มหน้าลงไปจูบเลียด้วยลีลายั่วยวน เธออ้าปากงับหัวนมของผมเบา ๆ สลับกับใช้นิ้วบีบคลึง ตอนนี้ผมถึงกับพูดตะกุกตะกักเป็นจังหวะ
เชอรี่หัวเราะคิกอีกครั้งเหมือนกับเป็นผู้ชนะ คราวนี้เธอค่อย ๆ ไถลร่างต่ำลงไปทีละน้อย เลียวนไปที่สะดือบนหน้าท้องซิกแพคของผม แล้วเริ่มปลดเข็มขัด ปลดตะขอกางเกงออก
ใจหนึ่งผมก็อยากจะร้องห้าม แต่อีกใจผมก็อยากลองลิ้มรสความตื่นเต้นแบบนี้ สุดท้ายก็เลยปล่อยเลยตามเลย จนกางเกงแสล็คขายาวหลุดออกไปกองบนพื้นพร้อมกับกางเกงใน
เชอรี่นั่งคุกเข่ามองควยดุ้นใหญ่ของผมตาเป็นประกาย เธอใช้สองมือบีบนวดสลับกับรูดเข้ารูดออกเบา ๆ จนผมเริ่มตัวเกร็งเกือบส่งเสียงร้องซี้ดออกมา ยังดีที่ตอนนี้เป็นช่วงที่ลูกค้ากำลังบอกบทวิเคราะห์ของเขาออกมา ผมก็เลยสามารถเม้มปากเก็บเสียงเงียบ ๆ เอาไว้ได้
“ซี้ดดดสสส”
รอจนเชอรี่อ้าปากงับเอาดุ้นของผมเข้าไปจนเต็มปาก แล้วเริ่มผงกหัวดูดดังบ๊วบนั่นแหละ ผมถึงค่อยหลุดเสียงครางออกมา แต่ยังดีที่ลูกค้าเหมือนจะยังไม่ได้ยินเสียง
ผมขยุ้มมือซ้ายลงไปบนผมของเชอรี่ ส่วนมือขวารีบยื่นไปปิดเสียงลำโพง แล้วหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมาพูดแนบหูแทน เพราะทำแบบนี้จะควบคุมเสียงได้ง่ายกว่า อย่างน้อยก็น่าจะไม่ได้ยินเสียงดังบ๊วบบ๊วบผ่านโทรศัพท์
ลีลาดูดควยของเชอรี่นั้นเรียกได้ว่าเด็ดดวงอย่างที่เธอเคยโฆษณาไว้ ผมว่าน่าจะดูดได้เสียวไม่แพ้น้องแอนเมียผม เพียงแต่ตอนนี้ผมอยู่ในสภาวะตื่นเต้นมากกว่าปกติสักหน่อย
เธอผงกหัวยุกยิกสักพักก็อ้าปากปล่อยควยผมออก แล้วมุดเข้ามาอ้าปากงับพวงไข่ของผมเข้าไปในปากด้วย ตอนนี้ผมที่ได้แต่เป็นฝ่ายรับนั่งเกร็งแล้วเกร็งอีกอยู่บนเก้าอี้ทำงาน
เชอรี่ดูดดมอมเลียได้พักใหญ่ก็ขยับตัวจับควยของผมสอดเข้าไปในร่องนม ตอนนี้เธอยังไม่ได้ถอดเสื้อนักศึกษาออก ยกทรงก็ยังใส่อยู่ พอมองไปก็เลยยิ่งเร้าใจที่ได้เย็ดนมเธอในชุดนักศึกษา
เธอยิ้มยั่วให้ผม ใช้สองมือบีบเต้าให้หนีบใส่ควยผม พร้อมกับขยับตัวขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วก้มหน้าอ้าปากดูดเลียส่วนปลายควยเข้าไปด้วยความคล่องแคล่วชำนาญ
“อูยยยสสสส เชอรี่ … ซี้ดดสสส”
ลีลาของเธอทำให้ผมเดือดร้อนจนต้องรีบคว้ามือไปกดปิดเสียงทางฝั่งผมก่อนชั่วคราว และยังดีที่ปิดทันไม่งั้นเสียงครางของผมได้ดังข้ามประเทศไปเข้าหูลูกค้าแน่ ๆ แต่ปัญหาของผมยังไม่จบเพราะว่าเชอรี่ยังคงทำหน้าที่ของเธออย่างดีเยี่ยมจนผมตัวเกร็งได้ตลอดเวลา
สมองของผมหมุนติ้วสับสนจนคิดอะไรไม่ออก สุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจคว้ามือไปกดยกเลิกการโทรออกแบบดื้อ ๆ ไปก่อนทั้งที่ยังคุยกันไม่จบ เพราะผมรู้แล้วว่าเป็นแบบนี้ต่อไปคงต้องหลุดแน่ ๆ
เชอรี่เหมือนจะยังไม่รู้ว่าผมกดปิดสายโทรศัพท์ไปแล้ว เธอยังคงเร่งใช้ปากใช้นมทำให้ผมอย่างสุดฝีมือ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลามากนัก ผมตั้งใจว่าจะจัดการฝั่งนี้ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยโทรไปบอกลูกค้าว่าสัญญาณโทรศัพท์มีปัญหานิดหน่อย
ผมอุ้มประคองเชอรี่ที่นั่งคุกเข่าอยู่ให้ลุกขึ้นมา เธอทำหน้างงเล็กน้อย แต่ผมไม่สนใจผลักเธอลงไปนั่งบนโต๊ะทำงาน แล้วใช้มือกวาดเอาเอกสารที่วางบนโต๊ะจนบางส่วนหล่นลงไปบนพื้น จากนั้นก็ผลักเชอรี่ลงไปนอนหงายบนโต๊ะ
“ถ้าอยากได้ ก็ต้องใช้กำลังหน่อยนะคะ หนูไม่ยอมให้ทำง่าย ๆ หรอก คิก คิก แน่จริงก็ข่มขืนหนูอีกรอบซิ”
เธอคงรู้แล้วว่าผมกำลังจะทำอะไร แต่แทนที่เธอจะร่วมมือกับผมดี ๆ เธอกลับพยายามดิ้นแล้วผลักผมออก เธอทำท่าเหมือนไม่ยินยอมให้ผมทำ แต่อีกทางก็พูดยั่วให้ผมลงมือปล้ำเธอ … ตกลงมันยังไงกันแน่
ผมชะงักด้วยความงงไปวูบหนึ่ง แต่ความหื่นกำลังเต็มเปี่ยมผมจึงไม่มีเหตุผลจะหยุด ตอนนี้ผมคิดว่าเชอรี่อาจจะมีรสนิยมแปลก ๆ ประมาณว่าชอบความตื่นเต้นตอนโดนข่มขืน ผมก็เลยช่วยจัดให้ไปตามที่เธอต้องการ
ผมเริ่มด้วยการคว้าสองมือของเธอมารวบไว้ พยายามไม่ให้เธอผลักผมอีก แต่จังหวะไม่ดีเธอดิ้นจนหลุดได้แล้วพลิกตัวกลิ้งออกจากโต๊ะ
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสิงห์โตที่เหยื่อหลุดจากปากไปได้ ผมเกิดอารมณ์ดิบเถื่อนแปลก ๆ ขึ้นมา ผมคว้ามือไปจับผมของเธอจนเธอร้องวี้ดแล้วหงายหลังล้มลงไปบนพื้น จากนั้นผมก็ขยับไปขึ้นคร่อมทับจนเธอขยับไม่ได้
เชอรี่ยังคงพยายามผลักไสดิ้นรนแสดงบทบาทของการโดนปลุกปล้ำได้แนบเนียนเหมือนเดิม ผมจึงรู้สึกเหมือนครั้งแรกที่ผมปล้ำเธอ คราวนี้ผมรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้วกดขึ้นไปเหนือหัว
มืออีกข้างของผมจับที่สาบเสื้อนักศึกษาแล้วออกแรงกระชากจนกระดุมเสื้อปลิวกระเด็น จากนั้นยกทรงก็โดนกระชากออกมาติด ๆ กัน
แม้จะแสดงออกว่าต้องการขัดขืน แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องห้ามออกมาเลยสักคำ ผมมองตาของเธอแล้วก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังตื่นเต้นระทึกไปกับบทข่มขืนอย่างเต็มที่ ยิ่งโดนผมกระชากเสื้อจนขาดเธอก็ยิ่งหน้าแดงก่ำแสดงออกถึงความเงี่ยนออกมา
ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังพยายามสวมบทดิ้นรนขัดขืนต่อไป เธอหนีบขาเข้าหากันแน่น ตอนที่ผมพยายามแทรกตัวเข้าไป แรงเธอเยอะพอควรจนผมต้องตะปบมือลงไปขยำที่เนินเสียวแล้วบดบี้อีกพักใหญ่กว่าที่เธอจะตัวอ่อนลง
กางเกงในโดนกระชากขาดเป็นลำดับถัดไป เพราะมันสะดวกกว่าถอด แล้วก็ได้อารมณ์ดี พอกางเกงหลุดผมก็เริ่มจับขาเธออ้าออกพร้อมกับเบียดแทรกตัวเข้าไป
ผลุบ!!! ไม่นานนักดุ้นยาวใหญ่ของผมก็มุดทะลวงผ่านกลีบเสียวของเชอรี่เข้าไปแบบพรวดเดียวครึ่งลำ ร่องของเธอยังคงคับแน่นเหมือนไม่ค่อยใช้งานเหมือนครั้งก่อนหน้า ก็นะเพิ่งโดนควยใหญ่ ๆ ของผมทะลวงเข้าไปครั้งเดียวเองนี่
“อื๊ออออออออออ”
เชอรี่หยุดการเคลื่อนไหวโดยสิ้นเชิง เธอหลับตาปี๋ตัวเกร็งกอดผมแน่น พอได้แหย่เข้ารูอะไร ๆ มันก็ง่ายขึ้นเยอะ ผมชักออกมาจนเกือบหลุด แล้วกระแทกเอวกลับเข้าไปดังปั้กจนเธอสะดุ้งเฮือกร้องครางออกมา และคราวนี้ควยใหญ่ ๆ ของผมเจาะทะลวงเข้าไปในรูเสียวของเชอรี่ได้แบบมิดลำโดยสมบูรณ์อีกครั้งแล้ว
เชอรี่มองผมตาหวานเยิ้ม สองมือของเธอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของผม ขณะที่ผมเริ่มกระเด้าใส่รูเสียวของเธอเร็วขึ้นทีละน้อย
ปั้ก ปั้ก ปั้ก เสียงกระแทกเริ่มดังขึ้นทีละน้อย ร่างอวบของสาวมหาลัยแสนสวยเด้งไปเด้งมาบนพื้นพรมของห้องทำงาน เธอเริ่มส่งเสียงครางซี้ดซ้าดสะใจในความเสียว ยิ่งได้ยินผมก็ยิ่งออกแรงกระเด้าด้วยความสะใจเหมือนสัตว์ป่าที่ได้ปลุกปล้ำข่มขืนตัวเมีย
“อ๊ออยยยย ซี้ดดดสสสส อูยยยย … ซี้ดดดสสส โอยยยย”
ตอนนี้เธอเริ่มเด้งสะโพกรับการกระแทกของผม ส่วนผมเริ่มดันตัวขึ้นนั่ง แล้วเอื้อมสองมือลงไปตะปบขยำขยี้สองเต้าอวบของเชอรี่ พร้อกมับออกแรงกระแทกเอวใส่ป้าบป้าบแบบไม่มียั้ง
“อ๊อยยย อ๊อยยยย พี่กาย … ซี้ดดดสสส … เสียว … อูยยยยสสส พี่กาย”
รูเสียวของเชอรี่ตอดรัดของผมหนุบหนับ สองเต้าของเธอก็เด้งสู้มือของผมไม่หยุด ได้มีอะไรกับผู้หญิงที่สวยเอ็กซ์ขนาดนี้ยังไงก็เป็นความรู้สึกที่เสียวสุดยอด ผมขย้ำนมของเธอแรงขึ้น กระแทกเธอแรงขึ้น เชอรี่ดิ้นพล่านไปมาทั้งที่ยังใส่เสื้อกับกระโปรงนักศึกษาอยู่
ผมออกแรงกระแทกใส่อีกพักใหญ่ ก็อดทนไม่ไหวอีก ผมเกร็งหน้าท้องกระแทกใส่เธอแรง ๆ เป็นการปิดท้ายสองสามครั้งแล้วน้ำแตกกระฉูดเข้าไปรูเสียวของเธอ ส่วนเชอรี่เองก็ส่งเสียงหวีดร้องตัวกระตุกเกร็งเสร็จคาควยของผมไปพร้อมกัน
“หนูรักพี่กายนะคะ”
เชอรี่พูดเสียงหวานตอนที่ผมฟุบตัวลงไปนอนกอด เธอใช้แขนขากอดรัดผมไว้แน่นเหมือนกับจะไม่ยอมปล่อยให้ผมไปที่ไหนอีก
ผมนอนกอดเธออีกพักใหญ่โดยไม่ได้บอกรักเธออย่างที่ผมเคยทำกับผู้หญิงคนอื่น แล้วผมก็ค่อย ๆ ขยับลุกขึ้นแต่งตัวแบบลวก ๆ ผมหยิบกล่องกระดาษชำระไปวางให้เชอรี่ ตอนนี้เธอยังคงนอนขาถ่างอยู่บนพื้นพรม ในรูเสียวมีแต่น้ำเงี่ยนเอ่อจนล้นไหลย้อยลงไปละเลงบนกระโปรงนักศึกษาสีดำ
ผมนั่งพักเหนื่อยครู่หนึ่ง แล้วก็เริ่มกดโทรศัพท์หาลูกค้าใหม่ เพื่อโกหกว่าสัญญาณโทรศัพท์มีปัญหา และคุยต่อให้จบ โดยที่ในหัวผมกำลังเอาแต่คิดว่าหลังคุยจบ ผมจะจัดการกับนักศึกษาสาวสวยที่หน้าต่างห้องทำงานสักรอบน่าจะดี
เอ๊ะ … เดี๋ยวนะ จะว่าไป แบบนี้ผมกลายเป็นหนุ่มไซด์ไลน์ไปแล้วใช่หรือเปล่าเนี่ย?
…………………….