น้องผิง ตอนที่ 2
…………………………………………
Assasin008
ผมใช้เวลากับมิ๊งแม่น้องผิงอย่างคุ้มค่ายิ่งกว่ากับสาวไซด์ไลน์คนใด คงเป็นเพราะมิ๊งเธอก็สวยเซ็กซี่ติดระดับท๊อปของพวกไซด์ไลน์ด้วย และเธอเองก็ยังเครื่องฟิตเนื้อแน่นเพราะไม่ค่อยได้ใช้งาน ผมก็เลยทั้งเล่นทั้งสอนเรื่องเสียว ๆ ให้เธอซะสนุกจนเพลินไปทั้งสองคน สุดท้ายผมก็ต้องลางานหนึ่งวัน มิ๊งก็ต้องลางานเหมือนกัน เพราะเธอเจ็บระบมขับรถไม่ไหว
ทีแรกผมจะปล่อยให้เธอพักที่คอนโด แต่ว่าไอ้สองเพื่อนหื่นมันจ้องมิ๊งตาเป็นมัน เพราะสวยกว่าเด็กที่พวกมันได้เอาเมื่อคืนแบบคนละระดับ ผมก็เลยช่วยพา
มิ๊งไปพักที่โรงแรมใกล้ ๆ ไม่งั้นคงโดนพวกมันสองคนผลัดกันรุมจนขาถ่างแน่ ๆ
ส่วนผมก็ลังเลอยากนอนกอดมิ๊งเหมือนกัน เธอก็ออดอ้อนท่าทางจะติดใจควยผมมากทีเดียว แต่ผมยังจำสัญญาของน้องผิงได้ว่าเธอจะใส่ชุดว่ายน้ำมาเล่นน้ำให้ดู ผมก็เลยต้องอ้างกับมิ๊งว่ามีธุระสำคัญต้องไปทำ แล้วเย็นวันนั้นผมก็กลับบ้าน มานั่งที่ มองดูผ่านหน้าต่างบานเดิม รอคอยเด็กสาวคนเดิมมาปลอบประโลมใจ
ผมนั่งรอด้วยความกระวนกระวายอยู่พักใหญ่น้องผิงก็เดินออกมาหน้าบ้านในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นตามปกติที่เธอใส่เล่นน้ำ เธอหันมาแลบลิ้นให้ผมเหมือนจะรู้ว่าผมมองเธออยู่ จากนั้นก็เข็นสระน้ำออกมาวาง กดเปิดน้ำแล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน
ผมนั่งมองระดับน้ำที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แต่ก็รู้ดีว่าคงต้องรออีกเป็นสิบนาที กว่าน้ำจะถึงระดับที่พอเล่นได้ ผมจึงค่อย ๆ หลับตาพักผ่อนไปครู่ใหญ่ รอจนครบเวลาแล้วค่อยยืนขึ้นพิงหน้าต่างตั้งใจแอบมองอย่างโจ่งแจ้ง เพราะไหน ๆ เธอก็รู้อยู่แล้วว่าผมแอบมองอยู่
ตอนนี้ผมเห็นเธอเดินเชิดหน้าเชิดตาเหมือนตั้งใจจะหยอกผมเล่น เธอยังอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเช่นเคย ผมจึงเริ่มสงสัยแล้วว่ายายเด็กแสบจะทำตามสัญญาหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเธอจะแบกแผ่นป้ายอะไรออกมาด้วย
‘ที่นี่มีคนโรคจิตแอบดูเด็กผู้หญิงอาบน้ำจ้า’
เธอหยิบเอาปากกาสีแดงไปเขียนข้อความบนกระดานแล้วหันมาทางผมแบบตั้งใจแกล้งเต็มที่ ผมก็เลยหลุดขำก๊ากออกมาไม่นึกว่าเธอจะมาไม้นี้ จากนั้นเธอก็ลบข้อความแรกออก แล้วเขียนข้อความใหม่เข้าไป
‘แต่ว่าคนโรคจิตใจดี ให้เงินไปซื้อชุดว่ายน้ำ เด็กผู้หญิงจึงขอขอบคุณด้วยใจจริง’
พอเขียนเสร็จก็หันมายกมือไหว้ขอบคุณ ผมรู้สึกว่าแบบนี้มันตบหัวแล้วลูบหลังชัด ๆ ผมถลึงตามองไป น้องผิงก็แลบลิ้นกลับมาหนึ่งครั้ง แล้วหันไปลบกระดาน แล้วเขียนข้อความใหม่
‘ได้เวลาตอบแทนบุญคุณ’
เมื่อเขียนจบน้องผิงก็ทำท่ายืดเส้นยืดสายจนสองเต้าเด้งขึ้นลงเป็นจังหวะ ส่วนผมก็ลุ้นระทึกว่าเธอจะเปลี่ยนไปใส่ชุดว่ายน้ำตอนไหน แต่เห็นเธอเดินลงไปในสระน้ำทั้งชุดนั้นผมก็ขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่าเธอจะตุกติกหรือเปล่า ยิ่งเห็นเธอเล่นน้ำสบายใจอีกนานพอดูผมก็ยิ่งหงุดหงิดอยากเห็นมากกว่านี้
‘ใจร้อนแล้วล่ะซิ แหม แหม ของดีก็ต้องรอนาน ๆ หน่อย’
ถึงตอนนี้น้องผิงก็ลุกขึ้นทั้งที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เธอหันไปเขียนข้อความใหม่ แล้วหันมามองยกคิ้วให้แบบกวน ๆ จนผมร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก ยายสาวจอมแสบคนนี้ท่าทางจะเป็นพยาธิในตัวผมจริง ๆ เพราะเล่นรู้ไปเสียทุกอย่าง
เธอบอกให้คอย ผมก็คอยเงียบ ๆ น้องผิงก็เล่นน้ำไปตามเรื่องตามราวอีกพักใหญ่ แล้วเธอก็มองซ้ายมองขวา ก่อนจะหันมองมาทางผมแบบนิ่ง ๆ ผมคิดว่าเธอกำลังจะเริ่มแล้ว
แล้วน้องผิงก็เริ่มจริง ๆ เธอแลบลิ้นปลิ้นตาให้ผมอีกครั้ง แล้วลุกขึ้นถอดเสื้อยืดออกจากร่างอย่างช้า ๆ จนผมแทบจะหัวใจวายตาย พอเสื้อเปียกหลุดออกไปเท่านั้นแหละของผมก็ลุกโด่ขึ้นมาทันที เพราะเธอสวยกว่าแม่ของเธออีก ผิวขาวเปล่งประกายมากกว่า หน้าอกก็ดูอวบอัดใหญ่โตกว่าทั้งที่ยังตัวแค่นี้ ส่วนบิกินี้ทูพีซสีแดงสดชิ้นบนที่รัดรั้งสองเต้าอยู่นั้นผมรู้สึกว่ามันเล็กไปสักหน่อย
“อูยยสสส นมใหญ่อะไรขนาดนี้หนอน้องผิง”
ผมรูดกางเกงลงไปเล็กน้อยแล้วควักดุ้นออกมารูดเบา ๆ เพื่อระบายความเสียว ผมมองดูเธอด้วยสายตากลัดมันกว่าที่เคย มองดูสองเต้าในบิกินี่ที่เปียกปอนไปด้วยน้ำ ผมมองดูมันเด้งกระเพื่อมไปมาเมื่อยามที่เธอเคลื่อนไหว มันจะใหญ่โตอะไรขนาดนั้นหนอ
น้องผิงก็ใช่ย่อย เธอแกล้งยั่วผมชัด ๆ เพราะเล่นหยิบเอาฟองน้ำถูตัวมาบีบน้ำใส่หน้าอกให้น้ำไหลเป็นสายลมไปตามร่องนม แล้วเธอก็ใช้ฟองน้ำถูซับไปตามทรวงอกเบา ๆ แต่อารมณ์ของผมไม่เบาเลย ยิ่งมองก็ยิ่งต้องรูดควยเร็วขึ้น นี่ขนาดเมื่อคืนได้ระบายใส่แม่ของเธอไปแล้วผมยังหื่นได้หื่นดีขนาดนี้
เธอนั่งอวดนมอีกประมาณห้านาทีก็เอนหลังนอนพิงกับขอบอ่างน้ำ เธอมองมาทางผมทำตาวิบวับ แล้วเธอก็เริ่มขยับแขนขารูดกางเกงขาสั้นออกไปจากร่างทั้งที่เอนนอนอยู่แบบนั้น กระทั่งเมื่อบิกินี่สีแดงสดชิ้นล่างปรากฎให้เห็น ผมก็ชะงักไปวูบหนึ่ง กลืนน้ำลายดังอึก แล้วเริ่มรูดควยด้วยความหื่นกามกว่าเดิม
ผมยังไม่เคยเห็นลึกขนาดนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ผมเห็นเธอใส่แค่บิกินี่ตัวเล็กจิ๋วสองตัว ด้านล่างผมเห็นท่อนขาขาวเรียว มองเห็นหน้าท้องคอดกิ่ว มองเห็นโคกสวาทที่ดันบิกินี่ออกมาเป็นเนินนูน ผมกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง เธอสืบทอดจุดเด่นของแม่เธอมาหมด แถมยังสวยงามกว่าไปอีกขั้น จนผมแทบอยากกระโดดลงไปปลุกปล้ำเธอเสียตอนนี้เลย
“ซี้ดดดสสส ขาวน่าเย็ดอะไรขนาดนี้น้องผิงจ๋า ถ้าได้เย็ดจริง ๆ คงมันน่าดู”
ผมพูดเสียงหื่นบอกตัวเอง ขณะที่สองตายังคงมองเธอแทบไม่กระพริบ เธอก็เอนหลังมองมาทางผมตาไม่กระพริบเหมือนกัน เพียงแต่ผมโผล่ให้เห็นเฉพาะท่อนบน ส่วนท่อนล่างที่สาวว่าวอยู่นั้นโดนผนังห้องบังไว้
น้องผิงเอนหลังนอนอวดเนื้อหนังอยู่แบบนั้นนานพอดู ก่อนจะเริ่มหยิบเอาฟองน้ำสีเหลืองส้มมาถูไปตามแขนและลำตัว ที่เด็ดสุดก็คือตอนที่เธอใช้ฟองน้ำถูฉวัดเฉวียนไปตามท่อนขาแล้วลากผ่านโหนกนูนจนเธอสะดุ้งโหยง รอบแรกเธอเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจทำจึงทำหน้าตาตื่นเล็ก ๆ แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มเห็นเธอลากฟองน้ำผ่านโหนกนูนบ่อยครั้งขึ้น และก็เริ่มกระตุกเบา ๆ ถี่ขึ้น เธอคงเริ่มรู้แล้วล่ะว่าทำแบบนี้มันเสียวน่าดู
ภาพที่เห็นทำให้ผมยิ่งอดใจไม่อยู่สาวว่าวมือเป็นระวิง ในหัวก็มัวแต่คิดจินตนาการฉากวาบหวามกับสาวมัธยมปลายน่าฟันคนนี้ และแล้วผมก็พาตัวเองไปถึงฝั่งฝัน ผมตัวกระตุกเฮือกเบา ๆ ดุ้นเอ็นก็กระตุกหงึกฉีดพุ่งน้ำเงี่ยนออกมาเหมือนท่อแตก น้ำเงี่ยนจึงพุ่งไปเกาะอยู่บนมุ้งลวดของหน้าต่างเป็นหย่อมใหญ่ แล้วก็ทะลุทะลวงผ่านรูเล็ก ๆ ออกไปด้านนอกส่วนหนึ่ง
ผมยืนหอบเหงื่อซึมไปทั้งตัว มองดูน้องผิงด้วยสายตาปราถนา ตอนนี้เธอนอนนิ่งมองมาตาแป๋ว ผมไม่รู้ว่าเธอเห็นมั้ยว่าผมทำอะไรบ้าง แต่เธอก็หยุดจากนั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบปากกาเขียนบนกระดานให้ผมเห็นว่า
‘ชักว่าวเสร็จหรือยังคะ?’
เขียนเสร็จก็หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมหนึ่งรอบ แล้วเธอก็รีบลบข้อความ หยิบฉวยคว้าเอาผ้าขนหนูเดินหายเข้าไปในบ้าน ส่วนผมได้แต่ยืนเกาหัวแกรก ๆ นึกว่าเธอไม่รู้ ที่ไหนได้ยายตัวแสบสุดเซี้ยวคนนี้รู้จักผมดียังกับเป็นเมียกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ผมยืนมองอีกครู่หนึ่ง แล้วก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างตัว … ผมอยากเย็ดยายตัวแสบคนนี้ขึ้นมาจริงจังแล้วซิ
……………………………………….
ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ต้องเดินลงไปเปิดประตูรั้วตามเสียงกริ่งที่ดังขึ้น ผมเดาได้ตั้งแต่แรกว่าใครเป็นคนกด แล้วก็ใช่เธอจริง ๆ น้องผิงจอมเซี้ยวยืนเชิดหน้าเชิดตาอยู่หน้ารั้วในชุดเสื้อยืดกระโปรงสั้นสวยหวานสมหญิง
“เจ้ามันนี่มันหายไปอีกแล้ว ขอเข้าไปหาหน่อยนะคะพี่กาย”
เธอพูดราวกับท่องจำประโยคจากหนังสือมา ผมจึงแอบยิ้มขำนิด ๆ เพราะเห็นเจ้าเหมียวจอมซ่านอนหาวเกลือกกลิ้งอยู่หน้าบ้านของเธอ แต่น้องผิงก็ยังไม่วายเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างให้ผมขำเล่น … เอาซิอยากเข้าก็เข้ามา เดี๋ยวมีโอกาสจะปล้ำเข้าให้
“อ้าว ทำไมยังไม่เข้ามา?”
ผมหันไปถามทำหน้างง ๆ เพราะเห็นเธอยืนยิ้มกริ่มอยู่ตรงนั้นไม่ยอมเดินเข้ามา ทั้งที่ผมเปิดประตูให้เธอเรียบร้อยแล้ว
“พี่กายต้องสัญญาก่อน ว่าจะไม่ปล้ำบังคับขืนใจหนู แล้วก็ห้ามแตะเนื้อต้องตัวด้วย แม้แต่ปลายก้อยก็ไม่ได้”
เธอหันมายิ้มกวน ๆ แล้วพูดดักทางราวกับจะอ่านใจผมได้อีกแล้ว ผมจึงยกมือขึ้นเกาคอแก้เก้อ ตอบแถไปตามเรื่องตามราวอีกตามเคย
“อะไร ไม่ได้จะทำอะไรซักหน่อย ตกลงจะเข้ามาหาแมวมั้ยเนี่ย?”
“ไม่เข้า ถ้าพี่กายไม่สัญญาก่อน”
“เอ๋า คิดอะไรมากไปแล้ว พี่ไม่ได้หลอกผิงเข้ามานะ ผิงเป็นคนขอเข้าบ้านเองด้วยซ้ำ”
“ไม่ค่ะ พี่กายก็เห็นอยู่ว่าเจ้ามันนี่นอนกลิ้งอยู่หน้าบ้านหนู แต่ยังจะให้หนูเข้าไปหาแมว ทำแบบนี้ถือว่ามีเจตนาไม่ดี ต้องมีแผนอะไรไม่ดีแน่ ๆ ถ้าไม่สัญญาแสดงว่าคิดจะหลอกเด็ก”
น้องผิงพูดย้อนใส่ผมหน้าตาเฉย จนผมเริ่มงงว่าตกลงผมเป็นคนใช้เรื่องแมวมาหลอกให้เธอเข้าบ้าน หรือว่าเธอกันแน่ที่อ้างเรื่องแมวเพื่อเข้าบ้านผม
“โอเค ๆ สัญญาก็ได้ … แล้ว … จะเข้ามาทำไม ถ้าแมวไม่อยู่ในบ้าน?”
“ก็มาดูก่อนซิคะว่ามันจะมาหลบตรงไหนได้บ้าง วันหลังจะได้มาหาง่าย ๆ … สรุปว่าสัญญานะคะ?”
“เอ่อ ฟังดูแปลก ๆ นะ แต่ก็ได้ พี่สัญญา”
เธอพูดย้อนไปย้อนมาจนผมเริ่มงงได้แต่ตกลงสัญญากับเธอไปก่อน เพราะคงไม่ดีเท่าไหร่หากผมยืนคุยกับเธอที่หน้าบ้านนานจนมีเพื่อนบ้านมาเห็นเข้า แล้วพอผมตอบตกลงแค่นั้นแหละ แม่สาวจอมเซี้ยวก็เดินฉับ ๆ เข้าไปในบ้าน แล้วขึ้นบันไดไปชั้นสองหน้าตาเฉย เดือดร้อนผมต้องรีบปิดประตูรั้วแล้ววิ่งตามขึ้นไปข้างบนอีก
“เดี๋ยว ๆ ขึ้นมาทำอะไรอีกเนี่ย นี่มันห้องนอนพี่นะ เป็นเด็กเป็นเล็กเข้าห้องนอนผู้ชายได้ไง”
“ชุดว่ายน้ำหนูสวยป่าว?”
เธอไม่สนคำสอนไร้สาระของผม แถมยังหันมาถามผมด้วยรอยยิ้มคาดหวัง ผมจึงตอบกลับไปแบบกวน ๆ บ้าง
“ก็งั้น ๆ แหละ”
“งั้น ๆ นี่มันสวยหรือไม่สวยล่ะคะ?”
เธอขมวดคิ้วหันมาคาดคั้น แล้วก็หันไปมองสำรวจแถว ๆ หน้าต่างเหมือนกำลังค้นหาอะไรอยู่
“แล้วแต่จะคิด … ผิงหาอะไรอยู่?”
“หาหลักฐานจับโจรค่ะ”
น้องผิงตอบแบบไม่หันมามอง แถมยังเริ่มก้มหน้าทำเสียงฟุดฟิดแถว ๆ หน้าต่างและโต๊ะทำงานของผม ผมก็เลยแอบงง ๆ ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ จนกระทั่งจมูกของเธอไปหยุดอยู่บนมุ้งลวดแล้วหันมายิ้มกริ่มให้ผมนั่นแหละ ผมถึงค่อยได้รู้ว่าเด็กสาวแก่นเซี้ยวคนนี้มองหาอะไร
“เจอหลักฐานคาหนังคาเขา สรุปว่าพี่กายมองหนูไปด้วย แล้วก็ชักว่าวไปด้วยใช่มั้ยคะ เลอะมุ้งลวดเลย คิก คิก”
“เฮ้ย อะไร นั่นมันเจลแต่งผม”
“ขนาดหลักฐานคาหนังคาเขาโจรก็ยังไม่ยอมรับผิดอีก หนูไม่เคยเห็นน้ำว่าวของจริง แต่เพื่อนเล่าให้ฟังว่ากลิ่นมันจะคาว ๆ สีขาวข้น แล้วเจลแต่งผมที่ไหนมันจะกลิ่นคาว ๆ คะพี่กายขา? หนูไม่ชอบคนโกหกนะ”
ผมพยายามแถและนึกได้ว่าตัวเองพลาดไป ผมลืมเช็ดคราบน้ำเงี่ยนที่เลอะบนมุ้งลวดตอนช่วยตัวเอง ตอนนี้น้องผิงจึงเจอหลักฐานกันจะ ๆ แถมยังยื่นนิ้วไปแตะมาดมพิสูจน์หลักฐานเสียด้วย พอโดนต้อนขนาดนี้ผมก็ยอมรับไป แต่ยังไม่วายแอบแถอีกเล็กน้อย
“เอ้า ยอมรับก็ได้ แต่เพราะว่าพี่ดูหนังโป๊ต่างหาก”
“ค่า จะแถยังไงก็ได้ค่ะ แต่พี่ยอมรับว่าชักว่าวก็พอแล้ว คิก คิก … สรุปว่าเห็นชุดว่ายน้ำหนูแล้วมีอารมณ์ใช่มั้ยล่ะ?”
“อะแฮ่ม เซี้ยวเกินไปแล้วนะเรา … แต่ว่านะ …”
ผมพูดแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหยุดพักหนึ่ง แล้วเดินไปหยิบเงินมายื่นให้เธออีกห้าร้อย เธอจึงมองผมงง ๆ ว่าเป็นค่าอะไร
“ไปหาซื้อชุดอื่น หาแบบวันพีซไม่โป๊ ห้ามใส่ชุดนั่นไปเรียนว่ายน้ำที่โรงเรียนเด็ดขาด”
“ที่แท้ก็หวงก้าง อยากเก็บไว้ดูคนเดียวใช่มั้ยคะ?”
“ยังไงก็เหอะ ห้ามใส่ชุดนั้นให้คนอื่นเห็นเด็ดขาด ไม่งั้นพี่ฟ้องแม่ของผิงแน่ ถ้าจะแต่งก็แต่งที่บ้านห้ามให้คนอื่นดู”
“ฟ้องไปแม่ผิงก็ไม่สนหรอก แต่ก็ได้ ไว้ผิงจะไปหาชุดว่ายน้ำตัวใหม่มาใส่ ไม่งั้นผู้ใหญ่บางคนจะหวงก้างจนอกแตกตายไปซะก่อน”
เธอเชิดหน้าพูดแบบกวน ๆ ตามปกติ แต่คราวนี้เธอมองผมแล้วยิ้มจนแก้มแทบปริเหมือนพออกพอใจอะไรบางอย่าง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะดีใจเรื่องที่ผมห้ามเธอใส่ชุดวับแวบต่อหน้าคนอื่นทำไม
ตอนเธอยิ้มกริ่ม ผมก็ฉวยโอกาสแทรกตัวเข้าไปใช้กระดาษทิชชู่เช็ดคราบบนมุ้งลวดเพื่อทำลายหลักฐาน น้องผิงเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอเดินหันซ้ายหันขวาสำรวจห้องนอนของผมตาวิบวับ แล้วถามด้วยคำถามสุดเซี้ยวออกมาให้ผมคันหัวใจเล่นอีก
“พี่ชักว่าวบ่อยมั้ยคะ ตอนที่พี่แอนไม่อยู่บ้าน”
“ถามอะไรลามปาม”
ผมปฏิเสธไม่ตอบ แอนคือเมียผมที่เป็นแอร์โฮสเตสและไม่ค่อยอยู่บ้าน น้องผิงไม่รู้คิดอะไรอยู่จึงเอาเรื่องนี้มาถามหน้าตาเฉย
“เพื่อนผิงเล่าให้ฟังว่า ผู้ชายต้องได้ระบายน้ำทุกวัน ไม่งั้นจะฝันเปียกเลอะเต็มที่นอน เรื่องนี้จริงป่าวคะ?”
“จะว่าจริงก็จริง จะว่าไม่จริงก็ไม่จริง”
ผมเห็นเลยตามเลยก็ตอบไปบ้างตามสมควร น้องผิงคงอยู่ในวัยอยากเรียนรู้เรื่องทางเพศ และคงไม่มีใครให้ถาม ก็เลยหันมาถามผมแทน
“แล้วสรุปว่ามันจริงหรือไม่จริงล่ะคะ”
“ขึ้นกับคนน่ะซิ ผู้ชายบางคนฮอร์โมนน้อย ไม่หื่นมาก นาน ๆ ชักว่าวทีก็ได้ แต่บางคนอารมณ์เยอะหน่อย ต้องระบายออกทุกวัน หรือวันละสองสามครั้งก็มี”
“อ๋อ … แล้วพี่กายหื่นเยอะ หรือหื่นน้อยคะ?”
“เฮ้ย อันนี้เริ่มลามปามล่ะ”
“ลามปามที่ไหน เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องสอนเด็ก เป็นวิทยาทานซิ เด็กจะได้รู้ หรือจะให้หนูไปถามเพื่อนรุ่นเดียวกันที่โรงเรียนล่ะคะ”
ผมร้องโวยวายแต่ว่าน้องผิงก็ยังมองผมตาแป๋วแล้วถามต่อ แถมยังพูดซะจนผมสะดุ้งโหยง เริ่มห่วงว่าเธอจะไปถามเพื่อนชายคนอื่นเข้าจริง ๆ จนเสียท่า … เอาวะตอบก็ได้
“… ถ้ารู้แล้วจะไม่ถามคนอื่นแล้วใช่มั้ย?”
“อื้อ …”
เธอพยักหน้าตอบแล้วทำท่าคิกขุเล็ก ๆ จนผมอยากจับมาจูบปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“อะแฮ่ม ของพี่ ก็แล้วแต่ตัวกระตุ้นนะ วันไหนไม่เจอสาวสวยก็ไม่มีอะไร แต่ถ้ามีของดีให้ดูก็ต้องหาที่ระบาย”
“อ๋อ พี่ก็เลยชอบแอบดูผิงอาบน้ำ แล้วชักว่าวใช่มั้ยคะ?”
“แนวนั้น … เฮ้ย พูดไปเรื่อยแล้ว”
“เอาน่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย ที่โรงเรียนผิง พวกเด็กผู้ชาย หรือพวกคุณครูก็ชอบแอบมองผิง แล้วไปชักว่าวในห้องน้ำ หรือไม่ก็ที่บ้านกันทั้งนั้น พวกผู้ชายก็งี้แหละ”
เด็กมัธยมปลายอย่างเธอพูดเรื่องนี้ด้วยหน้าตาราบเรียบธรรมดา เป็นผู้ใหญ่อย่างผมเสียอีกที่แตกตื่นไม่นึกว่าเด็กสมัยนี้จะไปไกลกันขนาดนี้แล้ว ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าน้องผิงเธอเสน่ห์แรง สวยอึ๋มน่าฟัด แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเสน่ห์มากขนาดนี้
“เดี๋ยว ๆ แล้วผิงไปรู้ได้ไงว่าใครช่วยตัวเองที่ไหนยังไง ไปเห็นตอนไหน”
“หนูไม่เคยเห็นของจริงซะหน่อย ก็พวกผู้ชายนั่นแหละที่แฉกันเอง บางทีก็อัดคลิปมาให้ดูตอนชักว่าวกัน ส่วนใหญ่ก็เรียกชื่อผิงกันใหญ่ แล้วก็สาวมือยิกซะมันเลย ช่วงนั้นหนูโดนเรียกว่าอีผิงดาวยั่วมั่วผู้ชายจนเกือบไม่กล้าไปโรงเรียนแน่ะ … ยังดีนะมีคนช่วยปลอบหนูก็เลยกล้าไปเรียนเหมือนเดิม”
น้องผิงพูดพลางส่งสายตาวิบวับแปลก ๆ ให้ผม ผมถึงค่อยนึกขึ้นได้ว่าเมื่อหลายเดือนก่อน ผิงไม่ยอมไปโรงเรียนอยู่สองสามวัน พ่อกับแม่ของเธอก็เหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้ ผมเห็นผิดสังเกตก็เลยไปชวนคุย แต่ว่าตอนนั้นผมเหมือนจะเมากรึ่ม ๆ นิดหน่อย เลยจำไม่ได้ว่าพูดปลอบอีท่าไหน เธอถึงยอมไปโรงเรียน
“อ๋อ … นึกออกแล้ว”
“ตอนนั้นพี่ยังบอกเลยว่าผู้ชายชักว่าวเป็นเรื่องธรรมดา ใครก็ทำกัน จะไปเก็บมาสนใจทำไม เราต้องภูมิใจต่างหากที่ทำให้พวกผู้ชายคลั่งได้ขนาดนั้น”
“อ๋อ ๆ เหรอ บอกงี้นี่เอง”
“ถ้าเป็นเรื่องธรรมดา พี่กายก็ช่วยmeให้หนูดูหน่อยซิ หนูอยากเห็นชัด ๆ ว่าผู้ชายเขาทำกันยังไง”
“… ห๊ะ … เดี๋ยว ๆ เป็นเด็กเป็นเล็กอยู่ ๆ จะไปขอให้คนอื่นทำให้ดูเนี่ยนะ”
“ค่ะ ผิงอยากดู”
เธอพยักหน้ายืนยันด้วยดวงตาเป็นประกายเหมือนมั่นใจมากว่ายังไงผมก็จะทำให้เธอดู แต่เรื่องอะไรผมจะทำให้เธอดู นั่นมันน่าอายอยู่นะ
“ไม่เอา มาขออะไรเรื่องลามกแบบนี้”
“อ้าว ก็พี่กายบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา”
“ช่วยตัวเองมันเรื่องธรรมดา แต่ว่าช่วยตัวเองต่อหน้าคนอื่นมันไม่ธรรมดานี่คร้าบบบ”
“… ถ้าพี่ไม่ช่วย เดี๋ยวหนูไปขอเพื่อนผู้ชายในห้องให้ทำให้ดูก็ได้”
ผมพยายามปฏิเสธยืนกรานเสียงแข็งไม่ทำ แต่พอได้ยินเธอพูดเบา ๆ ว่าจะไปขอให้เพื่อนผู้ชายทำให้ดู ผมก็สะดุ้งโหยงรีบหันไปมองหน้าเธอว่าเธอจะเอาจริงหรือเปล่า พอเห็นเธอทำหน้าเอาจริง ผมก็เริ่มเสียงอ่อน … เรื่องอะไรจะปล่อยให้เธอไปเสี่ยงกับคนอื่น
“… มาไม้นี้อีกแล้ว … งั้นถ้าพี่ทำให้ดู จะไม่ไปขอดูคนอื่นอีกใช่มั้ย”
ผมตอบเสียงอ่อน น้องผิงจึงพยักหน้าแล้วจ้องผมด้วยสายตาเป็นประกายเหมือนเพิ่งเอาชนะผมได้ไปหนึ่งยก ผมจึงแยกเขี้ยวใส่เล็กน้อย แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเรื่องอะไรต้องให้เธอได้เปรียบคนเดียว
“แต่เดี๋ยวก่อน ทำให้ดูก็ได้ แต่ว่าเรื่องแบบนี้มันต้องมีตัวกระตุ้น ถ้าอยากดูผิงก็ต้องช่วยกระตุ้นอารมณ์ด้วยไม่งั้นทำไม่ออก”
“ให้หนูช่วยยังไงคะ? อย่าคิดจะหลอกให้หนูทำให้เชียว พี่จะตะล่อมให้หนูใช้มือทำให้ก่อนใช่มั้ยล่ะ สักพักก็จะให้ใช้ปาก พอหนูเริ่มมีอารมณ์พี่ก็จะปล้ำ หนูเคยเห็นนะในหนังน่ะ พี่สัญญาแล้วว่าจะไม่แตะตัวหนู อย่ามาผิดคำสัญญาซิคะ”
เธอพูดแล้วยิ้มเพราะรู้ทันผมเช่นเคย ผมกะจะให้เธอช่วยใช้มือช่วยทำให้ หรือถ้าสบโอกาสก็อาจจะให้ใช้ปาก ดีไม่ดีก็เปิดซิงไปซะเลย แต่ยายเด็กแสบก็พูดดักทางผมอีกแล้ว
“… อะไรเล่า ไม่ได้คิดขนาดนั้นซะหน่อย … เอ่อ … ก็ถ้าจะทำมันก็ต้องมีอะไรยั่วให้เกิดอารมณ์กันบ้าง แล้วแถวนี้ก็มีผู้หญิงคนเดียว ผิงนั่นแหละต้องช่วยยั่วให้เกิดอารมณ์”
“ไม่เอา ผิงยั่วไม่เป็น”
“ไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่เฉย ๆ ก็ได้ แค่แก้ผ้าก็พอ หรืออย่างน้อยก็ถอดให้เหลือยกทรงกับกางเกงในก็ยังดี ทำมั้ย ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องดู”
เมื่อไปทางนั้นไม่ได้ผมก็หาทางใหม่ให้ตัวเองได้ประโยชน์สูงสุด แล้วผมก็ยื่นข้อเสนอแบบที่เธอน่าจะไม่ยอมทำ ผมจะได้มีข้ออ้าง หรือถ้าเธอทำขึ้นมาผมก็ได้กำไรเน้น ๆ แล้วก็กลายเป็นว่าน้องผิงมองหน้าผมตาแป๋ว ก่อนจะพยักหน้าตกลงหน้าตาเฉย!!!
………………………………………..
“พี่ถอดก่อนซิ”
เธอพูดแล้วทำหน้านิ่ง ผมมองตอบเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะเอาจริง พอเธอเห็นทำท่าเอาจริงผมก็จัดการรูดกางเกงขาสั้นลงไปกองบนพื้นก่อนเป็นชิ้นแรก เหลือก็แต่กางเกงบ๊อกเซอร์ที่ปิดอาวุธลับเอาไว้
“พี่ถอดแล้วหนึ่งชิ้น เธอก็ต้องถอดด้วย”
ผมยืนให้เธอมองแล้วเริ่มออกคำสั่งให้เธอทำ น้องผิงก็มองของผมตาแป๋วแล้วค่อย ๆ รูดกระโปรงของเธอออกไปกองบนพื้น เปิดให้เห็นความขาวเนียนของเรียวขา และกางเกงในสีขาวสะอาด แต่แค่แวบเดียวเธอก็รั้งชายเสื้อลงไปปิดที่กางเกงในด้วยใบหน้าแดงซ่าน แล้วหันมาทวงผม
“ตาพี่แล้ว”
ผมยืนมองของดีจนไอ้หนูเริ่มตื่นขึ้นมาเล็กน้อย คิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ขอจัดเต็มหน่อย ก็เลยถอดเสื้ออวดหุ่นล่ำ ๆ ให้เธอเห็นเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยรูดกางเกงในบ๊อกเซอร์ลงไป ปล่อยอาวุธลับเด้งผึงออกมาชูคอขู่ใส่น้องผิงที่เบิกตากว้างมองแบบไม่กระพริบ
“เอ้า ถอดเสื้อเร็ว ๆ เลยน้องผิง”
ผมต้องออกคำสั่งอีกรอบ เพราะว่าน้องผิงมัวแต่ยืนจ้องเอาจ้องเอาจนผมเริ่มเขิน เธอก็หันมามองผมแวบหนึ่งแล้วก้มลงไปมองของผมต่อ จากนั้นเธอก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกไปจากร่าง
‘อื้อหือ แอบดูตอนเล่นน้ำว่าหุ่นดีแล้ว พอได้ดูใกล้ ๆ แล้วมันสวยน่าบีบน่าขย้ำอะไรขนาดนี้วะเนี่ย’
ได้เห็นความขาวเนียนเต็มตาในระยะใกล้แบบนี้ผมก็ยืนตาค้างไปเลย ผิวเธอขาวมาก ขาววิ้ง ๆ สะท้อนแสงไฟเลย สองเต้าก็ใหญ่ซะจนเกือบล้นออกมาจากยกทรงสีขาว เห็นแล้วเกือบควบคุมตัวเองไม่อยู่
“อุ๊ยยย … มันใหญ่กว่าเดิมอีก”
น้องผิงส่งเสียงอุทานแล้วยกมือขึ้นปิดปาก ในขณะที่ผมกำลังจ้องเธอ เธอก็จ้องของผม แล้วผมก็เริ่มตื่นตัวแข็งปั๋งเต็มที่จนเธอตื่นเต้นตกใจ
“นี่ยังไม่สุดนะ จะบอกให้”
ผมเชิดหน้าตั้งใจอวดของดีที่สาวหลงมาแล้วหลายคน น้องผิงที่มีแค่ยกทรงกับกางเกงในเหมือนจะเริ่มอายขึ้นมาจึงยกมือขวาของเธอไปกอดแนบอกปิดบังสองเต้าเอาไว้ ส่วนมือซ้ายนั้นขยับลงมาวางแหมะตรงโคกสวาท ผมจึงได้แต่ยืนมองแล้วกลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก เพราะว่าเธอสวยชะมัด
ผมมองดูเธอ เธอมองดูผม เราต่างก็เก็บเกี่ยวประทับภาพเรือนร่างของอีกฝ่ายไว้ในใจ จากนั้นผมก็รู้ว่าผมต้องทำยังไง ผมเดินช้า ๆ เข้าไปหาน้องผิงด้วยสายตาหื่นกลัดมัน
“เดี๋ยวค่ะ พี่กายสัญญาแล้วนะ ว่าจะไม่ทำอะไรผิง …”
เธอสะดุ้งรีบส่งเสียงร้องห้ามตามที่ผมสัญญาไว้ ผมจึงชะงักไม่นึกว่าเธอทอดสะพานเสริมใยเหล็กขนาดนี้แล้วยังจะบอกให้ผมรักษาสัญญา แต่ก็ไม่ว่ากัน ผมไม่ชอบฝืนใจใคร ผมจะค่อย ๆ กระตุ้นให้เธอมีอารมณ์จนหยุดไม่อยู่ก็ยังได้
“พี่ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย พี่รักษาสัญญาน่า”
ผมตอบแล้วเดินวนรอบตัวน้องผิงมองสำรวจเรือนร่างของเธอให้มากที่สุด และที่น่าขำก็คือ เมื่อผมเดินไปด้านหลังมองก้นเธอ น้องผิงก็จะสะบัดมือซ้ายที่ปิดโคกสวาทไว้มาปิดก้นแทน และเมื่อผมเดินไปด้านหน้าเธอก็ค่อยสลับมาปิดด้านหน้า
ผมเดินมองจนพอใจก็คิดแผนการต่อว่าจะกระตุ้นอย่างไรดี แล้วผมก็ลองสั่งให้เธอทำอะไรที่มันน่าลุ้นสักหน่อย
“ขึ้นไปนอนบนเตียงนะครับคนสวย”
น้องผิงมองผมเหมือนจะชั่งน้ำหนักว่าผมต้องการอะไร เธอทำท่าเหมือนจะอ่านผมไม่ออกเหมือนตอนปกติ ผมจึงยิ้มสะใจ และสะใจยิ่งกว่าเมื่อเธอยอมขยับขึ้นไปนอนหงายบนเตียง โดยที่สองมือยังคงปิดบังเนื้อตัวของเธอเองเอาไว้
ผมขยับขึ้นไปนั่งคร่อมที่บริเวณหน้าท้องของเธอทันที และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้แตะโดนเนื้อตัวของเธอตามคำสัญญา จากนั้นผมก็ก้มลงมองเธอ แล้วเริ่มใช้มือขวารูดถอกดุ้นเอ็นช้า ๆ ให้เธอดูในระยะประชิด
ตอนนี้ไม่มีเสียงพูดคุยอะไร เธอนอนนิ่งเงียบมองดูของผมโดยแทบไม่กระพริบตา ผมเองก็พยายามจ้องมองตาของเธอ เพื่อสื่อความเร่าร้อนในใจ เพียงหวังว่าเธอจะยอมให้ผมฉีกสัญญาทิ้ง
ส่วนปลายที่บานร่าเริ่มเปียกเล็กน้อยเพราะมีน้ำหล่อลื่นไหลซึมออกมา ผมเริ่มรูดถอกเร็วขึ้นทีละน้อย ๆ ค่อย ๆ ให้เด็กสาวหุ่นอึ๋มได้ดูชมอย่างเต็มที่ ผมลองแกล้งเธอเล่น ๆ ด้วยการโน้มตัวลงไปจนปลายดุ้นไปอยู่เหนือปากและจมูกของเธอแค่ไม่กี่เซนติเมตร
เธอไม่หลับตาปี๋อย่างที่ผมคิด แต่ยังคงจับจ้องนิ่งเงียบ ผมได้ยินเสียงเธอกลืนน้ำลายลงคอ รับรู้ได้ถึงลมหายใจของเธอที่พวยพุ่งใส่ส่วนปลายของผม
ผมเริ่มรูดถอกอีกครั้งจากตำแหน่งนั้น ผมมองดูเธอด้วยสายตากลัดมัน แล้วระบายความเสียวด้วยการรูดถอกเร็วขึ้น น้ำหล่อลื่นเริ่มหลั่งไหลออกมามากขึ้นและมากขึ้นจนไหลย้อยลงไปตามแรงโน้มถ่วง และตอนนี้เริ่มมีบางส่วนหยดยืดจากส่วนปลายลงไปที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนของน้องผิงแล้ว
เมื่อหยดน้ำหล่นแหมะลงไป น้องผิงก็เริ่มหอบหายใจหนักหน่วง ริมฝีปากของเธอเริ่มสั่นระริกเล็กน้อยขณะที่หยดน้ำเริ่มไหลผ่านริมฝีปากเข้าสัมผัสกับไรฟันขาวสะอาด แล้วกลืนหายเข้าไปในปากของเธอ ตอนนี้ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอมีอารมณ์แล้ว เพียงแต่พยายามไม่ยอมแสดงออกมาเท่านั้น
“อยากจับมั้ย?”
“ไม่จับ”
ผมถามยั่วเธอ แต่เธอไม่หลงกล รีบปฏิเสธเสียงแข็งทันทีทันใด เธอคงรู้ว่าถ้าเอามือออกผมก็จะเห็นนมหรือเห็นหอยของเธอได้ แถมยังได้กำไรจากการให้เธอใช้มือทำให้ด้วย ผมจึงยิ้ม ๆ แล้วสาวว่าวต่อไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้น้ำหล่อลื่นค่อย ๆ หยดลงไปที่ริมฝีปากของเธอทีละเล็กทีละน้อยเหมือนเปลวเทียน
จากประสบการณ์ทำให้ผมทราบว่าแววตาของน้องผิงกำลังฉ่ำมีอารมณ์เต็มที่ หากผมผิดสัญญาแล้วใช้กำลังสักเล็กน้อย รับรองได้ว่าเด็กสาวนมโตบ้านตรงข้ามคนนี้คงไม่พ้นมือผมแน่ แต่ว่าเมื่อวานผมเพิ่งได้จัดหนักกับคุณมิ๊งแม่ของน้องผิงไปจนอิ่มเอม แถมยังได้ชักว่าวระบายอารมณ์ตอนดูเธอเล่นน้ำไปแล้วอีกรอบ อารมณ์หื่นก็เลยไม่มากเท่าไหร่ สัญญาลมปากที่ให้ไว้จึงยังพอมีผลอยู่บ้าง … แต่ว่าผมอยากแกล้งยายตัวแสบคนนี้อยู่ดี
ผมหยุดชักว่าวชั่วคราว แล้วลุกขึ้นทำท่าลงไปนอนแนบกับน้องผิง เธอจึงรีบส่งเสียงร้องโวยวายกลัวว่าผมจะปล้ำเธอจริง ๆ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรนอกจากก้มลงไปใช้มือยันกับเบาะนอนโดยไม่แตะต้องโดนตัวเธอเลยสักนิด
“โวยวายทำไม ไม่ได้โดนตัวตรงไหนสักหน่อย”
ผมพูดจบแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ก้มหน้าลงที่แก้มของเธอแล้วเป่าลมหายใจราดรดใส่จนเธอตัวสั่นสะท้านเผลอครางออกมาเบา ๆ จากนั้นผมก็เริ่มไล่ไปเป่าลมหายใจกระตุ้นเธอที่ใบหูและซอกคออย่างช้า ๆ
“อย่าค่ะพี่กาย … ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรไงคะ”
“ก็ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย โดนตัวเหรอก็เปล่า แค่เป่าลมใส่แค่นั้นเอง”
ผมตอบด้วยน้ำเสียงของคนถือไพ่เหนือกว่า น้องผิงก็คงคาดไม่ถึงว่าจะโดนผมทำแบบนี้ ผมเลยได้ยิ่งรุกไล่เป่าลมใส่เนื้อสาวจนเธอเริ่มกระสับกระส่าย พอผมไล่ลงไปที่เหนือทรวงอก แขนขวาของเธอที่ปิดไว้ก็ร่วงหล่นลงไปด้านล่างโดยไม่ทราบว่าตั้งใจหรือไม่ แต่นั่นก็ทำให้เต้าในฝันที่ผมแอบคลั่งลอยเด่นอยู่แค่ปลายจมูก
ผมไม่รอช้ารีบซุกหน้าเข้าไปที่ร่องนมแล้วเป่าลมฟู่เบา ๆ แต่ลมหายใจเบา ๆ นั้นทำเอาน้องผิงตัวกระตุกแอ่นหน้าอกขึ้นมาเล็กน้อยจนชนสัมผัสกับหน้าของผมอย่างจัง นมของเธอนุ่มและหอมมาก
“ขี้โกง … อืออ … อืมมม … อืออออ”
น้องผิงส่งเสียงประท้วงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน เธอแหงนหน้าเริ่ดเด้งแอ่นหน้าอกขึ้นมาหาหน้าของผมเป็นระยะ แต่ไม่ทราบว่านี่เป็นเพราะปฏิกิริยาทางร่างกายตอนโดนเป่าลมใส่ หรือว่าเธอตั้งใจทำด้วยตัวเอง
ผมเป่าลมใส่นมจนเธอจิกมือลงบนเบาะ แล้วผมก็เริ่มทำเนียน เอื้อมมือมาดึงยกทรงของเธอเบา ๆ จนสองเต้าเด้งหลุดผึงออกมาให้ได้ชม เธอเหมือนจะยังไม่รู้ตัวเพราะกำลังหลับตาพริ้มเพลิดเลินไปกับลมหายใจร้อนผ่าว ผมก็ไม่บอกเธอเพราะกำลังรู้สึกหิวอยากอ้าปากงับหัวนมสีชมพูอ่อนบนยอดของเต้าภูเขาไฟ
“อ๊ะ … อ๊ะ … อืออออ … อืมมมม … พี่กายขี้โกง … อ๊อยยย .. อูยยย”
เธอเริ่มส่งเสียงร้องดังขึ้น เมื่อไม่มียกทรงคอยขวางกั้นลมหายใจของผม ผมก้มลงไปจนจมูกและปากเกือบแตะโดนหัวนม แล้วเป่าลมใส่สลับไปมาทั้งสองข้างจนมันแข็งเป็นเม็ดเต่งขึ้นมา มีบ้างบางครั้งที่เธอทนเสียวไม่ไหวแอ่นเด้งหน้าอกขึ้นมาจนเต้าของเธอลอยขึ้นมากระทบกับหน้าและจมูกของผม
ตอนนี้เธอก้มหน้าลงมาเห็นแล้วว่าสองเต้าหลุดออกจากยกทรง แต่ก็ไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนป้องกันตัวเอง นอกจากทักท้วงบอกว่าผมขี้โกง แล้วเธอก็ลงไปนอนแหงนหน้าส่งเสียงครางต่อ
ผมเชื่อว่าหากผมอ้าปากงับนมของเธอเสียตอนนี้ น้องผิงก็คงไม่มีแรงขัดขืน แต่ว่าผมอยากแกล้งเธอ และอยากรักษาสัญญาด้วยจึงได้แต่ฝืนใจไม่ทำ ผมค่อย ๆ ใช้ลมหายใจปลุกกระตุ้นอารมณ์ของเธอไปอย่างใจเย็น และอาจจะมีบ้างที่ทำเนียนใช้จมูกชนกับหัวนมของเธอ
ผมละเล่นกับเต้าอวบได้พอสมควรก็เริ่มไล่ต่ำลงไป ผมเป่าลมใส่สะดือและหน้าท้องของเธอ แล้วไล่ต่ำลงไปที่กางเกงในสีขาวสะอาด กลิ่นหอมอ่อนจางที่โชยออกมาจากความโหนกนูนทำให้ผมซุกจมูกเข้าไปใกล้แล้วหายใจรดใส่จนเธอสะท้านเกร็งไปทั้งตัว
ผมทดลองรุกล้ำเพิ่มด้วยการใช้นิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในของเธอแล้วดึงออกช้า ๆ ทีแรกน้องผิงมองผมด้วยสายตาสับสน แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืน สุดท้ายกางเกงในตัวน้อยจึงหลุดลุ่ยออกมาทางข้อเท้า เปิดให้เห็นโคกสวาทที่ขาวสะอาดเกลี้ยงเกลาและปิดสนิทแน่น
“แยกขาออกหน่อยนะครับคนดี”
ผมพูดบอกเธอตรงไปตรงมา น้องผิงก็ตอบสนองแบบตรงไปตรงมา เธอค่อย ๆ เปิดแยกสองขาออกจากกัน กลีบเสียวของเด็กสาวที่น่าเย็ดที่สุดในโลกสำหรับผมจึงลอยเด่นอยู่ตรงหน้า
ผมมองชื่นชมความงามของเธอพักใหญ่ แล้วค่อย ๆ ก้มหน้าลงไปใช้ลมหายใจและลมปากราดรดกระตุ้นความวาบหวิวที่ร่องเสียว เธอตัวกระตุกแรงขึ้น หอบหายใจแรงขึ้น น้ำรักเริ่มเอ่อออกมาจากปากร่องเหมือนบ่อน้ำชุ่มฉ่ำน่าดื่มกิน แต่ว่าตอนนี้ผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลาจึงอดใจไว้ ผมต้องการให้เธอยอมศิโรราบเอ่ยปากขอร้องผมด้วยตัวเอง
ผมเป่าจนสะโพกของเธอเริ่มอยู่ไม่สุข โคกสวาทเริ่มลอยเด้งขึ้นแล้วเด้งลง เธอคงอยากโดนเลียใจจะขาด แต่ในเมื่อเธอยังไม่เอ่ยปาก ผมก็จะยังไม่ทำ ผมแค่ค่อย ๆ พยายามกระตุ้นไปเรื่อย ๆ ตั้งใจจะกระตุ้นให้เธออยากจนคลั่งไปเลย
ผมกระตุ้นจนน้องผิงเริ่มดิ้นพล่านทำท่าเหมือนใกล้จะเสร็จ ผมจึงรีบหยุดแล้วลุกขึ้นนั่งมองดูเธอ น้องผิงก้มลงมามองดูผมด้วยใบหน้าแดงก่ำแฝงความงุนงงสงสัยว่าทำไมผมจึงหยุด ผมจึงยิ้มให้เธอ ขยับไปนั่งที่ตรงกลางหว่างขาของเด็กสาว แล้วจับเอาดุ้นเอ็นออกมาจ่อใกล้ ๆ ปากร่องเพื่อรูดถอกด้วยมือโดยไม่ใส่เข้าไป
น้องผิงเริ่มมองผมด้วยสายตาเว้าวอน แต่ผมทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจ เพียงชักว่าวไปพลางส่งเสียงครางไปพลางอย่างอดทน เธอเองก็อดทนน่าดูที่ไม่เอ่ยปากขอ พวกเราจึงกลายเป็นแข่งความอดทนกันอยู่แบบเงียบ ๆ
“ถ้าจะทำ … ก็ได้นะคะ …”
“หมายถึงให้เย็ดได้ใช่มั้ย?”
แล้วเธอก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน พอผมถามย้ำ เธอก็มองผมตาหวานฉ่ำ แล้วพยักหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเงี่ยนเต็มที่ไม่ต่างจากผม ความจริงผมเองก็อยากแกล้งเธอให้มากกว่านี้ แต่เห็นเธอยอมให้ขนาดนี้แล้ว แถมผมเองก็เงี่ยนเต็มทีจึงไม่อยากรออีก
ผมขยับไปนั่งใกล้กว่าเดิม จับเอาดุ้นเอ็นของผมไปจ่อที่ปากร่องเตรียมเปิดซิงเด็กสาวที่ผมเอาไปช่วยตัวเองบ่อยครั้ง ผมเริ่มเดินหน้ากดแหวกเข้าไปในร่องของเธอเล็กน้อยก็บุกตะลุยไปต่อไม่ได้เพราะมันคับมาก เธอเองก็เพิ่งจะอายุแค่สิบหกยังไม่โตเต็มที่ แต่ความหื่นย่อมไม่เข้าใครออกใคร ผมนึกได้ว่ามีเจลหล่อลื่นอยู่ในลิ้นชักจึงลุกขึ้นไปหยิบ
แต่พอลุกขึ้นไป ผมก็ชะงักเพราะได้ยินเสียงเหมือนเสียงประตูรั้วบ้านโดนเปิดออก ผมยืนฟังนิ่งไปไปพักใหญ่ แล้วก็ได้ยินเสียงไขกุญแจเปิดประตูมาจากชั้นล่าง ตอนนี้ผมจึงสะดุ้งโหยง รีบหันไปบอกน้องผิงว่า
“ซวยแล้ว เมียมา!!!”
……………………………………….