แฝดอันตราย ตอนที่13
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้ายังดังต่อเนื่อง ในขณะที่ชัดชายจ้องมองภาพถ่ายของ มล.ลาวัลย์ที่โชร์ขึ้นมาที่หน้าจอโทรศัพท์ อย่าง
ชื่นชมหลงไหล มุมปากปรากฎรอยยิ้มอย่างมีเลสนัย ดวงตาวาวโรจน์ ไม่มีใครจะล่วงรู้ได้ว่าชัดชายกำลังคิดอะไรกับว่าที่พี่
สะใภ้ของตนเอง
“สวัสดีครับน้องหมิว…” ชัดชายกรอกเสียงลงไปหลังจากที่กดรับ
“คุณพี่คะ….กลับมาแล้วทำไมไม่โทรหาหมิวเลยอ่ะ…ไปเที่ยวสนุกมั๊ยคะ…”
เสียงหวานไพเราะติดแววน่ารักคิกขุ ของคุณหมิวถามมาเป็นชุด พร้อมเสียงหัวเราะสดใสด้วยความดีใจที่
คู่หมั้นหนุ่มกลับมา
จากไปเที่ยวที่ต่างประเทศ
“ไม่ค่อยสนุกเลยครับ พี่เหงาที่น้องหมิวไม่ได้ไปด้วย…” ชัดชายหยอดไปด้วยคำหวาน สองฝาแฝดสร้างเรื่องหลอกมล.ลาวัลย์
ว่าฉัตรชัยไปธุระที่ต่างประเทศ
“ไม่หนุกจริงหรอคะ…ไม่ใช่แอบไปเที่ยวกะสาวๆผมทองนะคะคุณพี่…” คุณหมิวแซวกลับมาน้ำเสียงไม่ได้จริงจังซีเรียส
“วันนี้น้องหมิวว่างมั๊ยครับ….พี่อยากเจอใจจะขาด..” ชัดชายหยอดด้วยน้ำเสียงกระเส่า ทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับหน้าแดงกล่ำ
ตัดพ้อเบาๆกลับมาว่า
“ไม่ต้องมาอ้อนเลย…หมิวโกรธคุณพี่แล้ว…กลับมาแล้วไม่ยอมโทรหา ต้องให้หมิวโทรตาม…” เสียวออกหวานขนาดนั้น เป็น
ใครๆก็ฟังออกว่าผู้พูดหาได้โกรธตามคำขู่แม้สักนิด
“นะครับ…พี่ไปหาน้องหมิวนะ…ยอดรัก…จุ๊บๆ”
ชัดชายยังพยายามออดอ้อนไม่เลิก แม้คำพูดหลายคำของคุ่หมั้นหนุ่มดูแปลกๆเช่นยอดรัก…ปรกติฉัตรชัยจะพูดว่าที่รัก แต่
คุณหมิวกลับไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตุ จะพูดอย่างไรจะเรียกอย่างไรก็ตาม ตอนนี้คุณหมิวกลับรู้สึกตื่นเต้นและเอียงอายจนมือที่ถือ
โทรศัพท์นั้นชื้นเต็มไปด้วยเหงื่อ
“วันนี้คงไม่ได้หรอกค่ะคุณพี่…ตอนเย็นๆหมิวต้องไปออกไปงานกับคุณพ่อคุณแม่…นะค๊า…อย่าถอนหายใจแบบนี้สิคะ…หมิวก็
คิดถึงคุณพี่เหมือนกันแหละ…หมิววางสายก่อนนะคะ..เดี๋ยวโดนรังแก อิอิ….”
มล.ลาวัลย์พูดจบก็ชิงวางสายก่อน แต่คำพูดสุดท้ายที่บอกว่าเดี๋ยวโดนรังแก ทำให้ชัดชายถึงกับอึ้ง คิดไปไกลถึงความสัม
พันธ์ของคุณหมิวกับพี่ชายฝาแฝดของตนเองว่า ก้าวหน้าไปถึงขั้นใดแล้ว จึงกดโทรศัพท์กลับไปหาคุณหมิวอีกครั้ง รอสักครุ่
ปลายสายฝั่งนั้นก็รับ
“อย่าเพิ่งวางสายสิจ๊ะยอดรัก…พี่ยังไม่หายคิดถึงเลย…” ชัดชายอ้อนไปตามสาย รู้สึกตื่นเต้นซู่ซ่าจนเป้ากางเกงเริ่มตุงขึ้นมา
เป็นก้อน
“ค่า….คุณพี่อ้อนเก่งเหลือเกินนะคะ…ผิดปรกตินะนี่…สงสัยจะทำอะไรผิดมา…อิอิ” ชัดชายได้ยินเสียงตอบจากคุณหมิวตอน
แรกถึงกับชะงัก กลัวแผนจะแตก แต่พอได้ยินคำพูดสุดท้ายถึงรู้ว่าคู่หมั้นของพี่ชายพูดเล่นๆ
“พี่ยอมรับผิดครับ….ผิดที่คิดถึงน้องหมิว อยากใกล้ชิดน้องหมิวจนอดใจรอไม่ไหวแล้ว…”
ชัดชายทำสุ้มเสียงกระเส่าเต็มไปด้วยไฟปรารถนา และก็ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อได้ยินเสียงของคุณหมิวตอบกลับมาด้วยสุ่ม
เสียงกระเส่าไม่ต่างกัน
“ค่า…หมิวก็คิดถึงคุณพี่…อยากอยู่ใกล้ๆคุณพี่เหมือนกัน…”ใจสาวหวั่นไหว ความรู้สึกวูบวาบเหมือนกับคืนโน้นไม่มีผิดจนเผลอ
ไผลเอามือข้างที่ว่างอยู่ลูบไล้เบาๆที่ลำขาเรียว จนขนลุกซู่
“ยอดรักของพี่…ตอนเย็นไม่ใช่หรอที่จะออกไปงานกับคุณพ่อคุณแม่..นี่เพิ่งบ่ายเองน๊า…พี่ไปหาพาออกมานั่งรถเล่นดีมั๊ย…”
ชัดชายพูดชวนพร้อมกับลุ้นสุดตัวว่าคุ๋หมั้นของพี่ชายจะใจอ่อนยอมออกมาพบหรือไม่
“อ่า…คุณพี่ขา…หมิวไม่สดวกจริงๆค่ะ….เอาไว้พรุ่งนี้นะคะ…วันหยุดหมิวจะไปเที่ยวกับคุณพี่ทั้งวันเลย…ค่ะ…สัญญาค่ะ…ค่า…
รักคุณพี่มาก…”
กว่ามล.ลาวัลย์จะวางสายได้อีกครั้ง ก็โดนคุ่หมั้นหนุ่มออดอ้อนด้วยคำหวาน ด้วยน้ำเสียงสั่นกระเส่า จนรุ้สึกวาบหวิวซู่ซ่า
ร่องสาวชื้นแฉะเหมือนครั้งโน้นไม่มีผิด
…………………………………………………………………………..
ด้านฉัตรชัยที่อยู่บ้านของน้องชายนั้น หลังจากกลับมาถึงบ้านก็โดนหวานเมียของน้องชายกอดรัดแขนด้วยความรักและคิดถึง
จนตัวเองรุ้สึกกระดากอาย ที่ลำแขนแกร่งโดนนมอวบอูมของหวานเบียดกระชับ แม้จะพยายามเบี่ยงตัวออกไม่ให้ดูผิดสังเกตุ
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวูบวาบตามสัญชาติญาณของผู้ชายคนหนึ่ง ครั้นขึ้นไปบนเรือน หวานก็ซักไซ้สอบถามว่าไปทำงาน
พิเศษอะไรมาจนฉัตรชัยอึกอัก จึงแสร้งตวาดไล่ให้นางออกไปอย่ามาเซ้าซี้
“แกนี่ยังไงวะ คนกลับมาเหนื่อยๆ ดันมาเซ้าซี้อยู่ได้ มีอะไรทำก็ทำไป ชั้นจะพักผ่อน…”
เมื่อหวานโดนสามีดุเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกใจ เพราะปรกติเวลาห่างกันหลายๆวันแบบนี้ สามีมักจะมาออดอ้อนวอแวเพื่อจะร่วม
รักกับเธอก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้กลับมาแปลก หรืออาจจะเป็นเพราะที่สามีหายไปด้วยการอ้างว่าไปทำงานพิเศษมานั้นหาได้
เป็นจริง น่าจะไปติดสาวๆแล้วใช้พลังงานไปหมดตัวเสียมากกว่า จนไม่ได้สนใจใยดีเธอ แต่หวานกลับคิดไปว่าดีเหมือนกัน
ยังกลางวันแสกๆ แสงแดดสว่างโล่งแจ้ง ขืนมาวอแวคงได้อายผีสางเทวดากันเป็นแน่ นางจึงเลี่ยงเดินลงเรือนไปดูแปลง
ปลูกผักสวนครัวของเธอเงียบๆ ปล่อยให้สามีนั่งเหยียดขาเหม่อมองรอบๆตัว เหมือนกับว่าไม่เคยเห็นสิ่งของเหล่านี้มาก่อน
จนผ่านไปสักพักฉัตรชัยก็เดินลงมาเรือน มองเห็นหวานน้องสะใภ้กำลังก้มๆเงยๆอยุ่ที่เล้าเป็ด
“ทำอะไรน่ะหวาน…” ฉัตรชัยร้องถามออกไปน้องสะใภ้ก็ตอบกลับ
“เก็บไข่น่ะพี่….” นางพูดจบก็หยิบไข่เป็ดสีขาวมอๆด้วยขี้เป็ดยกให้ฉัตรชัยดู
“เสร้จแล้วมาหาพี่หน่อยนะ….”
ฉัตรชัยเผลอตัวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนสุภาพ ต่างกับชัดชาย…แม้หวานจะรุ้สึกแปลกใจกับคำพูดท่าทีของสามี แต่ก็ไม่ได้คิด
อะไร นอกเสียจากแอบดีใจด้วยซ้ำที่สามีพูดจาดีๆกับเธอ หลังจากเก็บไข่เป็ดมาได้เกือบสิบฟองก็เดินมาหาสามีที่นั่งรออยู่
ตรงแคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนเรือนไทย มองหน้าสามีด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่บ่ายที่กลับมาจนเกือบจะเย็นอยู่แล้วนางยังไม่
เห็นสามีหยิบยามาสูบแม้แต่สักมวนเลย ยิ่งพอเดินมายืนใกล้ ๆ ตรงหน้า กลิ่นกายของสามีที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาสูบกลับไม่
ได้กลิ่นแม้แต่นิด
“เอ่อ…พี่…เลิกสูบยาแล้วหรอ…”
หวานถามสามีด้วยน้ำเสียงซื่อๆ เจือปนกับกับความดีใจ นางอยากให้สามีเลิกสูบยามานานแล้ว
“เอ่อ..อืม….ดีมั๊ยล่ะ…” ฉัตรชัยรู้สึกว่าพลาดไปอีกครั้ง แต่ก็แก้สถานการณ์ได้ รับสมอ้างไปเลยว่าเลิกสูบยา
“ดีสิจ๊ะ….ฉันละดีใจที่พี่เลิกสูบมัน…” หวานพูดพร้อมกับทรุดนั่งลงข้างๆสามีของเธอ จ้องหน้ามองใบหน้าสามีอย่างรักใคร่
ยินดี กับข่าวดีในครั้งนี้
“พี่เรียกฉันมา..มีอะไรจ๊ะ…”
“ไม่มีอะไรหรอก..เอ้า…”
ฉัตรชัยพูดจบก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตรปึหนึ่งส่งให้หวาน เมียน้องชายยื่นมือมารับแบบงุนงง ๆ เพราะ
ปรกติสามีของเธอไม่เคยหยิบยื่นเงินจำนวนมากขนาดนี้ให้กับเธอมาก่อน
“เอาเงินไว้ใช้ เงินที่พี่ไปทำงานได้มาน่ะ”
หวานรับเงินมาถือในมืออย่างงุนงง แต่ก็รู้สึกดีใจอย่างที่สุด หาใช่ดีใจเพราะสามียื่นเงินมาให้ แต่เธอดีใจที่สามีไปทำงานมา
ครั้งนี้ กลับมาด้วยการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีๆหลายอย่างที่เธอสัมผัสได้ เริ่มจากเลิกสูบยา อีกทั้งยังพูดจาได้นุ่มนวลมากกว่าเก่า
แถมยังให้เงินหวานไว้ใช้โดยที่นางไม่ต้องออกปากขอ
“พี่….ฉันดีใจ…”
หวานพูดได้แค่นั้นก็โผกอดร่างฉัตรชัยแน่น น้ำตาคลอเบ้าตาดวงกลมสวยด้วยความรุ้สึกตื้นตัน ด้านฉัตรชัยโดนหวานกอด
แบบไม่ทันตั้งตัว ถึงกับเอนร่างหงายหลัง มือดึงร่างบอบบางแต่เนื้อแน่นแกร่งของหวานล้มตามลงไปทับทาบ