แฝดอันตราย ตอนที่9
หลังจากคืนที่มล.ลาวัลย์ได้ค้นพบความสุขจากการกระทำของคู่หมั้นหนุ่ม มันก็เหมือนเขาได้ใช้ฆ้อนทำลายกำแพงความ
รู้สึกของคุณหมิวจนพังทะลาย เซ็กส์หาได้น่ากลัวหรือเป็นเรื่องบัดสีตามที่พ่อแม่ ปู่ย่าตายยายของเธอเคยสอนเคยสั่งตั้ง
แต่เธอยังเป็นเด็กน้อย จนมันฝังรากลึกเข้าไปในสมอง จนเธอคิดว่ามันคงลามก คงน่ากลัว จนไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะ
ใช้มือจับต้องของสงวน นอกเสียจากจับเพื่อล้างทำความสอาดเท่านั้น เธอค้นพบว่าถ้าจับมันเล่นไปนานๆ มันก็สร้างความ
เสียวซ่าน จนเธอพบความสุขได้อย่างประหลาด เฉกเช่นในคืนวันนั้น
หลังจากคืนนั้น ต่อมาอีกสองสามคืนติดๆกันที่คุ่หมั้นหนุ่มมารับ
เธอกลับบ้าน ก่อนจะถึงหน้าบ้านของคุณหมิวจะต้องผ่านที่ดิน
รกร้างว่างเปล่า มีไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกครึ้ม ฉัตรชัยมักจอดรถชิดขอบทาง แล้วพร่ำสอนให้เธอรุ้จักความเสียวซ่าน จนกว่าคุณ
หมิวจะกลับเข้าบ้านก็เมื่อเธอรู้สึกว่าตรงส่วนนั้นของเธอฉ่ำชื้นแฉะได้ด้วยเมือกแห่งความเสียวซ่าน เช่นนี้ทุกครั้งไป
…………………………………………………..
พอถึงวันศุกร์ที่13 เป็นวันที่ฉัตรชัยตั้งใจจะไปค้นหาคุ่แฝดของตนอีกครั้ง จึงแต่งตัวลงมาจากห้องแต่เช้า เขาพบว่ามารดา
นั่งรออยุ่ที่ห้องรับแขก คุณแจ่มจรัสรีบเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของฝาแฝดคนโตเดินลงบรรไดมา
“วันนี้ลูกฉัตรจะออกไปตามหาน้องใช่มั๊ยจ๊ะ….” หญิงชรารีบร้องสอบถาม ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง หวังว่าเย็นนี้ตนน่าจะ
ได้รับข่าวดีจากบุตรชายคนโต
“ครับแม่…เลยกะว่าจะไปแต่เช้า…” ฉัตรชัยตอบยิ้มๆ เหมือนให้กำลังใจกับมารดา เขามองจากดวงตาของผู้เป็นแม่ก็รู้ว่า แม่
ฝากความหวังทั้งหมดอยุ่ที่ตัวเขา
“ทานอาหารเช้าก่อนมั๊ยลูก…แม่ทำข้าวต้มหมูทรงเครื่องไว้ให้แล้วจ๊ะ….”
“ไม่ดีกว่าครับแม่..ผมขอกาแฟแก้วเดียวพอ…” มารดารีบร้องบอกให้สาวรับใช้วัยกลางคนไปจัดการให้กับบุตรชายทันที
“เอ่อแม่ครับ…ผมมีเรื่องสงสัยบางอย่างน่ะครับ…แม่พอจะบอกได้มั๊ยครับว่า ..ทำไมคนนั้นเขาถึงได้เอาน้องไปล่ะครับ..”
ฉัตรชัยรอให้สาวรับใช้กลับเข้าไปที่ครัวแล้วจึงสอบถามมารดา ขณะที่กำลังจิบกาแฟช้าๆ แต่มารดาพอได้ยินคำถามกลับ
อึกอักๆ เหมือนไม่อยากตอบ
“เอ่อ..คือ…ว่า…แม่ไม่อยากพูดเลยลูก…เพราะถึงเขาจะไม่ใช่คนดี….แต่เขาก็เป็นผู้ให้กำเนิดนะลูก…เพราะถ้าแม่พูดไปแล้ว
ลูกของแม่คงเกลียดเขามากกว่านี้อย่างแน่นอน…”
“บอกเถอะครับแม่….ถึงอย่างไรผมก็ไม่นับคนที่ทำร้าย…”
ฉัตรชัยเผลอหลุดปากออกมา แล้วรีบหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เมือมองเห็นใบหน้าของมารดาซีดเผือด เธอคงอยากลืมเรื่องที่เคย
โดนอดีตสามีทำร้ายร่างกาย แต่พอโดนลูกชายพูด เหมือนไปสะกิดโดนแผลที่ตกสะเก็ดไปแล้วให้มีเลือดไหลซิปๆออกมา
อีกครั้ง
“ขอโทษครับแม่…ผมไม่นับเขาคนนั้นเป็นพ่ออยู่แล้ว….” ฉัตรชัยพูดเบาๆ เสียงเข้มเครียด
“จ๊ะลูก….แม่เล่าให้ฟังก็ได้ว่าสาเหตุที่เขาเอาน้องไปด้วยนั้น ไม่ใช่เพราะเขารักน้องมากกว่าฉัตรหรืออย่างไรหรอก เขาตั้งใจ
คว้าเอาตัวลูกไปจะเป็นคนไหนเขาก็คงไม่ได้ใส่ใจ เป็นเพราะว่าเขาเอาไปเพื่อต้องการเอามาเป็นข้อต่อรองเพื่อจะรีดทรัพย์
จากคุณตาน่ะลูก….เพราะหลังจากคืนนั้นอีกสักเดือนนึง เขาก็โทรศัพท์มาหาแม่ บอกให้คุณตาเอาเงินไปแลกกับน้องห้า
แสนบาท แล้วจึงจะคืนน้องให้….ลูกคงแปลกใจว่าทำไมคุณตาถึงไม่แจ้งตำรวจใช่มั๊ยจ๊ะ…” มารดาของฉัตรชัยหยุดเล่าพร้อม
ใช้ปลายผ้าเช็ดน้ำซับน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาสักครู่
“แล้วคุณตาให้เงินไปมั๊ยครับ”
“มันกระทันหันน่ะลูก..คุณตาหาเงินได้สักสามแสนมั้ง ก็เอาไปให้ตามที่นัด แต่พอเค้าเห้นว่าไม่ได้ตามที่เรียกร้อง เค้าก็เลย
เอาเงินไป แต่ไม่คืนน้อง” มารดาของฉัตรชัยเล่ามาถึงตรงนี้ก็สะอื้นไห้ น้ำตาไหลพราก
“ลูกก็รู้นี่จ๊ะว่าคุณตารักษาหน้า รักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลแค่ไหน การที่มีลูกสาวท้องคาบ้านทั้งที่ยังเรียนไม่จบ ก็ทำให้
คุณตาเสียใจ เสียหน้าไปมากเท่าใดแล้ว ครั้นจะไปแจ้งตำรวจจับ คงได้มีการสืบสาวเรื่องราว ว่าเขาคนนั้นเป็นพ่อของลูก
แฝด เขาคนนั้นคืออดีตคนขับรถในบ้าน ลูกลองคิดดูสิจ๊ะว่า…คุณตาจะแบกหน้าอยู่สู้หน้าใครๆได้อีก…”
พอมารดาเล่าเรื่องจบ ก้ทำให้ความสงสัยทั้งหมดที่ฉัตรชัยครุ่นคิดมาตลอด ปราศจากหายไปทันที เขารู้อยู่ภายในใจคน
เดียวว่าเขาควรจะจัดการเรื่องของน้องฝาแฝดอย่างใด หลังจากดื่มกาแฟไปได้เพียงครึ่งแก้ว ฉัตรชัยก็ลุกขึ้นลาแม่แล้ว
ขับรถตรงไปยังปั้มน้ำมันแห่งนั้นทันที
ใช้เวลาไปเพียงชั่วโมงเศษ รถเบ็นซ์คันหรูของฉัตรชัยก็ถึงปั้มน้ำมันแห่งนั้น เขาหยุดลงตรงหัวจ่ายน้ำมัน สองสาวพนักงาน
ของปั้มก็รีบวิ่งเข้ามาหาเพราะจำได้ว่าหนุ่มใหญ่ผุ้นี้คือใคร ฉัตรชัยเตรียมหยิบกระเป๋าสตางค์มาถือไว้ในมือ พอกดปุ่มกระจก
รถเลื่อนลงจนสุด สองสาวก็ชิงกันทักทาย
“สวัสดีค่ะเสี่ย…วันนี้ป้าสมแกมาขายล็อตตอรี่แล้วค่ะ…”
รีบชิงกันบอก เพราะรุ้ว่าเธออาจได้ลาภอีกครั้งเหมือนกับคราวที่แล้วที่เสี่ยหนุ่มผู้นี้สอบถามเรื่องราวของเฮียชัด ก่อนกลับก็
แจกเงินให้เธอกันคนละห้าร้อบบาท
“ขอบใจมากจ๊ะ….เออ…ผมมีคำถามอยู่คำถามหนึ่งนะ…ใครตอบถูกจะได้รางวัล…” ฉัตรชัยค้างคำพูดไว้แล้วหยิบธนบัตรฉบับ
ละพันบาทขึ้นมา
“ผมอยากจะรุ้ว่า…นู๋สองคนเคยเห็นผมมาที่นี่บ้างมั๊ย แล้วมาสอบถามเรื่องใครรึเปล่า…”
สองสาวชะงักกับถามที่แสนแปลกพิสดาร ก็เห็นๆกันอยุ่ว่าเสี่ยหนุ่มคนนี้มาถามหาใคร…ขณะที่กำลังอำอึ่งไม่รุ้ว่าจะตอบ
อย่างไร เด็กสาวชื่อสาที่ดุจะมีไหวพริบมากกว่ากิ๊กของน้องชาย รีบตอบขึ้นมาว่า
“ไม่ค่ะ..นู่ไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อนเลยสักครั้ง…เมื่อไม่เห็นก็เลยไม่รู้เรื่องอะไรทั้งหมด…”
เด็กสาตอบพร้อมกับทำหน้าซื่อใส จนฉัตรชัยยิ้มแล้วส่งธนบัตรใบละพันไปยัดใส่มือของเธอ อีกสาวหนึ่งจึงรีบตอบตาม
เพื่อน แล้วก็ได้รับลาภเช่นเดียวกัน
“ดีมากนู๋…จำคำตอบนี้ไว้นะ…ถ้าเรื่องนี้มีคนรู้มากกว่าอีกหนึ่งคน ก็คงมาจากปากของนู๋สองคน…”
ท้ายเสียงฉัตรชัยทำเสียงเข้มหน้าเข้ม เหมือนเป็นการข่มขู่ สองสาวรีบพยักหน้าพร้อมเพรียงกันแล้วพับเงินใส่กระเป๋าเดิน
เลี่ยงออกไปทันที เหตุที่ทำให้ฉัตรชัยจำเป็นต้องทำหน้าทำเสียงข่มขู่สองสาวก็เพราะไม่อยากให้มีใครไปพูดจนเรื่องนี้
กระจายออกไป
ฉัตรชัยเคลื่อนรถไปจอดใกล้ๆแผงขายล็อตตอรี่ของป้าสม พอเปิดประตุลงจากรถ ป้าสมคนขายล็อตตอรี่ก็เงยหน้าขึ้นมอง
มา เธอตาค้างเมื่อเห็นว่าคุณชัดของเธอขับรถเบ้นซ์คนโตมาทีเดียว
“อูยยยยยคุณชัด…ไปถูกหวยรวยเบอร์มาจากไหนคะนี่…มิน่าล่ะวันนั้นถึงไม่อุดหนุนหวยของป้า เพราะรวยแล้วนี่เอง”
เหตุที่ป้าสมตกใจ เพราะครั้งนั้นเธอเห็นฉัตรชัยเดินมาจนใกล้ตัวเธอแล้วจึงไม่รุ้ว่าชายผู้ที่เธอคิดว่าเป็นนายชัดนั้นขับรถ
เบ็นซ์คันหรูมา
“ป้าครับ…ผมไม่ใช่นายชัดหรอกครับ…ผมชื่อฉัตรชัย…เด็กสองคนนั้น บอกกับผมว่าป้ารู้จักนายชัดดีใช่มั๊ยครับ….”
น้ำเสียงของฉัตรชัยดูจริงจัง จนป้าสมชักเอะใจหรือว่าเธอจำคนผิดไปจริงๆ แต่ไม่น่าจะใช่ เพราะหน้าตายังงี้มันคือนายชัด
จริงๆ เธอไม่ได้ตาฝาดไปแน่ แม้จะแก่เฒ่าแล้วก็ตามเถอะ….
“เอ่อ..นี่คุณชัด..เอ๊ยคุณฉัตรพูดจริงๆหรือคะ..ไม่ได้มาล้อป้าเล่นน๊า…….”
ป้ามสมมองหน้าฉัตรชัยไล่สายตาไปจนทั่วร่าง แล้วเธอก็เชื่อคำพูดของฉัตรชัย เพราะแม้ว่าจะหน้าตาเหมือนกันก็จริง แต่
ผิวพรรณนั้นต่างกันมาก ชายผุ้ยืนตรงหน้าเธอนี้ดูขาวกว่า มีสง่าราศีกว่านายชัดคนที่เธอรุ้จักจริงๆ
“ผมไม่ได้ล้อเล่นครับป้า….ว่าแต่ป้ารุ้จักบ้านช่องของนายชัดจริงมั๊ยครับ…”
ป้าสมยังไม่ทันตอบคำถาม ก็มีหญิงกลางคนจุงเด็กเล็กๆเข้ามาเลือกล็อตตอรี่ของแกในกระบะ ป้าสมจึงหันไปสนใจขาย
ของๆเธอ แต่เลือกไปเลือกมาหญิงคนนั้นก็ไม่ซื้อจุงมือเด็กเข้าไปในร้านเซเว่นเสียแทน
“เอายังงี้ดีมั๊ยครับป้า…ผมเหมาหวยป้าหมดเลย…เพียงแค่ป้าเล่าเรื่องนายชัดให้ผมทราบ ป้าเสียเวลาเล่า แต่ก็ไม่ได้เสีย
เวลาขายหวย เราได้กันทั้งคู่ดีมั๊ยครับ…”
ฉัตรชัยตัดสินใจเหมาซื้อหวยของป้าสม ด้วยไม่อยากให้มีใครมาขัดจังหวะการสนทนาอีกทั้งเขาอยากพาป้าสมไปถามเรื่อง
ราวของน้องชายในที่รโหฐานมากกว่าจะเป็นที่เปิดเผยหน้าเซเว่นแบบนี้ จับพลัดจับผลูอาจมีคนที่รู้จักน้องชายแฝดของตน
มาพบเห็นก็ได้ ยิ่งรุ้มากคนก้คงยิ่งวุ่นวาย[/post]
ครั้นป้าสมได้ยินว่าหนุ่มใหญ่ผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าคนนี้จะเหมาซื้อหวยของแก ป้าสมก็แทบไม่อยากเชื่อหูตนเอง ย้อนถามไปอีก
ครั้งเพื่อความแน่ใจ พอฉัตรชัยพยักหน้ายืนยันพร้อมควักกระเป๋าเงินดึงธนบัตรสีเทาออกมาปึกใหญ่ ป้าสมก็รีบนับจำนวน
หวยที่มีอยู่ทันที
“เอ้อ..ฉลากเลขเดียวมี80คู่ ป้าขายอยุ่คู่ละร้อย…เลขชุด10คุ่ป้าขายชุดละ1200 มี5คู่…รวมเป็นเงิน..เอ่อ…”
ป้าสมหยิบเครื่องคิดเลขมากด ๆ แต่ฉัตรชัยชิงบอกจำนวนเงินขึ้นมาเสียก่อนที่ป้าสมจะคิดเสร้จ แล้วนับเงินส่งให้แกไป
ป้าสมก็ดึงฉลากกินแบ่งของทั้งหมดยื่นส่งให้ ฉัตรชัยรับมาพร้อมกับยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงแบบไม่ใส่ใจนัก จากนั้นก็พา
ป้าสมไปนั่งที่ร้านกาแฟ…ที่เป็นเฟรนไชร์ ของปั้มน้ำมันแห่งนั้นทันที
“เอาละครับ…ป้าเล่าเรื่องนายชัดมาให้ผมรุ้ ได้แล้วใช่มั๊ยครับ…” หลังจากสั่งเครื่องดื่มกันมาคนละแก้วแล้วฉัตรชัยรีบถาม
เข้าเรื่องด้วยความอยากรู้….
“แล้วคุณเอ่อ….”
“ผมฉัตรครับ…”
“ค่ะ…คุณฉัตรอยากรู้เรื่องอะไรของนายชัดเล่าค่ะ..ถามป้ามาเลย…”
“เอ่อ….ผมอยากรู้ว่านายชัดคนนี้เป็นลุกเต้าเหล่าใคร บ้านอยู่ที่ไหน แล้วมีอะไรป้ารู้ก็เล่าๆมาทั้งหมดแหละครับ…” ฉัตรชัยก็
ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะซักไซ้เรื่องราวอันใดกับป้าสม
“ป้ากับนายชัดน่ะเคยอยู่หมู่บ้านเดียวกันค่ะ…แต่ตอนนี้ป้ามาอยู่ในตัวอำเภอแล้วนะ…ป้าเห็นนายชัดตั้งแต่ยังเด็กๆเพิ่งคลาน
ได้อยู่เลย…พ่อของนายชัดน่ะ ชื่อเดช…ป้าไม่รู้หรอกว่าเป็นใครมาจากไหน แต่จู่ๆก็หอบลูกชายมาอาศัยอยู่กับกำนันสิน..ได้
สัก10ปีมั้ง แล้วก็หายหน้าไปไหนไม่มีใครรู้ ทิ้งนายชัดไว้กับกำนันสิน แกก็ไม่มีลูก เลยรับนายชัดเป็นลูกบุญธรรม…”
ป้าสมหยุดเล่าเหมือนกำลังนึกเรื่องราวแต่หนหลัง
“แล้วนายชัดนี่เป็นคนยังไงครับป้า…”
“โอ๊ยยยยยยจุ๊ๆๆๆ…เอาเรื่องเชียวละคุณ…” ป้าสมลดเสียงเบาจนแทบจะเป็นกระซิบกระซาบ
“ยิ่งเป็นลูกของกำนันด้วยละ พ่อชัดนี่ใหญ่คับหมู่บ้านเลยนะพ่อคุณ….เกเร นักเลง เจ้าชู้ ขนาดเมียแม่หวานที่อยู่กันทุกวันนี้
ยังพาพรรคพวกไปดักฉุดมาจากเวทีประกวดนางสงกราต์เลยพ่อคุ๊ณ…..” ฉัตรชัยได้ยินชื่อเสียงทางด้านไม่ดีของน้องชาย
ฝาแฝดถึงกลับกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอดังเอื๊อก…