จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 11
โดย กระปี่หัก
บ่อเมี้ยหาที่พักแรมเป็นป่าที่มีไม้ใหญ่ล้อมรอบทั้งที่เบญจมาศคัดค้านบอกไม่กันฝนและอาจถูกซุ้มโจมตีจากเหล่านินจาได้บ่อเมี้ยจึงอธิบาย
“เพราะต้องระวังนินจาถ้าอยู่ในถ้ำอาจโดนรมไฟครอกตายได้และ แม่นางซากุระไม่อาจที่จะเคลื่อนไปไกลกว่านี้ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวสามีของเบญจมาศจะวางค่ายกลให้ปลอดภัยคืนนี้”
“เพ้ย หน้าไม่อาย หมอลามก”
**** ข้อความถูกซ่อน ตอบกระทู้เพื่อดูข้อความ *****
ปากว่าแต่หน้าแดงทำให้หน้าเบญจมาศแดงด้วยสีชมพูทำให้น่ารักจนบ่อเมี้ยมองตาค้าง
“มองอะไร รีบ
ไปวางค่ายก….”
ยังไม่ทันพูดจบดีปากน้อยๆถูกปิดด้วยปากของบ่อเมี้ย อืม …ปะ….ปล่อย…เดี๋ยว…เจ้ม่วยเห็น อืม……บ่อเมี้ยปล่อยด้วยความเสียดายเบญจมาศรีบหนีเข้าไปหาเจ้ม่วยที่รออยู่อีกฟากของป่า บ่อเมี้ยได้แต่ส่ายหัวและเดินตามไปรวมกลุ่มสาว ๆ
“เจ้เจ้ ยี่ม่วย ซาม่วย คืนนี้เราจะแบ่งงานกัน ซาม่วยอยู่ดูแลแม่นางซากุระ เจ้เจ้อยู่บนต้นไม้ด้านตะวันออก ยี่เจ้อยู่หลังก้อนหินด้านตะวันตกอย่าออกจากพื้นที่ไม่เกิน สามเชี้ย ผู้ที่เข้าค่ายกลจะมองไม่เห็นเจ้เจ้กับยี่ม่วยให้จัดการตามสมควร”
“ไม่เอาอ่ะให้เจ้เจ้เฝ้าสิท้ออยากไปมั่งอ่ะ”
เอาอีกแล้วบทคุณหนูน้องคนเล็ก
“ซาม่วยหน้าที่นี่เป็นหน้าที่สำคัญที่สุดเพราะซาม่วยมีความรู้ทางแพทย์ที่กอกอถ่ายทอดให้ซ้ำยังต้องระมัดระวังผู้ที่ผ่านด่านมาเป็นคนสุดท้ายหมายถึงต้องหาคนที่มีฝีมือดีมีความรับผิดชอบหรือดอกท้อให้กอกออยู่แทน”
“ไม่เอา”
เป็นเสียงมาจากสามเสียงพร้อมกัน บ่อเมี้ยได้แต่หัวเราะเบาเบา
“อยู่ก็ได้ถ้าหน้าที่นี้สำคัญขนาดนั้นอ่ะ”ยังไม่หายงอนแต่ทำให้โบตั๋นกับเบญจมาศหันมายิ้มให้กันบ่อเมี้ยยังมองปากของเบญจมาศที่ดูเหมือนจะพูดว่าหมอลามกเจ้าเล่ห์โดยไม่ออกเสียง
ดอกท้อแม้จะซุกซนตามประสาแต่ก็มีความรับผิดชอบคอยเช็ดตัวดูแลแผลพอกยาพันแผลได้อย่างชำนาญซากุระรู้สึกตัวมาเห็นดอกท้อพยาบาลตนอยู่จึงสำนึกด้วยความขอบคุณ
“ขอบคุณพวกท่านที่ช่วยเหลือข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่รู้จะตอบแทนพวกท่านอย่างไร อือ และนี่ไปไหนกันหมด”
“อ๋อกอกอเจ้เจ้ ไปวางจุดค่ายกลเพื่อรับมือคืนนี้ กอกอบอกว่าคืนนี้อันตรายที่สุดผ่านพ้นคืนนี้ไปก็ไม่มีอะไรแล้ว”
ระหว่างพันแผลที่น่องขวามือของดอกท้อไปสะกิดเกสรดอกไม้ของซากุระทำให้ซากุระได้แต่ร้อง อูย…ซีด เหมือนดอกท้อยังไม่รู้ตัวก็พันแผลไปเรื่อย ๆมือน้อยของดอกท้อก็โดนเกสรดอกไม้ของซากุระเรื่อยๆเช่นกัน อา…อ….อูย….ซีด…..ดอกท้อรู้แล้วแต่ไม่หยุดคราวนี้ดอกท้อจับไปที่ดอกไม้ตรงตรงพร้อมทั้งนิ้วเขี่ยเริ่มจากช้าๆเบา ๆจนเร็วขึ้นซากุระมองดอกท้อด้วยสายตาหวานฉ่ำมือข้างหนึ่งของซากุระก็เขี่ยไปที่ดอกไม้ของดอกท้อเช่นกันอา….ซีด….อูย…..อา…..อา……อูย……ซีด…..อา…อึย…อูย……ทั้งสองสาวส่งเสียงแข่งกันจนเปียกชุ่มกางเกง
โบตั๋นอยู่บนต้นไม้ทิศตะวันออก คอยสังเกตุสิ่งรอบตัวในความมืดโรยราเช่นนี้ทำให้โบตั๋นแม้ได้ชื่อว่าเป็นจอมยุทธ์หญิงที่ไม่กลัวอะไรแต่ความเงียบการสะท้อนของเงาจันทร์เสียงลมพัดไหวทำให้เกิดจินตนาการต่าง ๆทำให้โบตั๋นรู้สึกหวาด ๆอยู่ไม่ใช่น้อย โบตั๋นรู้สึกตัวในทันทีมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาแต่โบตั๋นไม่สามารถเห็นตัวเจ้าสิ่งแปลกปลอมเคลื่อนไหวด้วยความเร็วโยกซ้ายขวาเดี๋ยวหายสาบสูญเดี๋ยวโผล่ข้างหน้าและหลัง โบตั๋นมือกำดาบแน่นไม่กล้าที่จะชักออกมากลัวประกายดาบทำให้สิ่งแปลกปลอมนั้นรู้ตัวระหว่างที่โบตั๋นคอยฟังเสียงอยู่นั้น หมับเจ้าสิ่งแปลกปลอมจับที่ปทุมถันทั้งสองข้างของนางนางได้แต่หันและร้อง.กรี๊……อุ้บ อืมสิ่งแปลกปลอมใช้ปากอุดไว้ไม่ให้โบตั๋นร้องโบตั๋นจึงเห็นว่าเป็นใคร
“ตี๋ตี๋”
บ่อเมี้ยเปิดผ้าคลุมหน้าออกยิ้มทักทายนาง
“ตี๋ตี๋ทำอย่างนี้เจ้โกรธด้วย ยังไม่ปล่อยมืออีก”
โบตั๋นงอนเป็นภาพที่เย้ายวนใจแก่บ่อเมี้ยมากที่สุดแต่บ่อเมี้ยก็ไม่ปล่อยที่ปทุมถันกับบีบเค้นจนล้วงเข้าไปในเสื้อของโบตั๋นบีบที่หัวปทุมถันอย่างเบามือพร้อมขยี้อีกเล็กน้อย
“เจ้เจ้จะโกรธตี๋ตี๋จริงเหรอตี๋ตี๋กลัวเจ้เหงาเลยมาอยู่เป็นเพื่อนถ้าอย่างนั้นตี๋ไปนะ”
ในขณะพูดมืออีกข้างหนึ่งก็จู่โจมล้วงเข้าไปในกางเกงผ้าเขี่ยไปที่ดอกไม้ของโบตั๋น
“ตี๋..ตี๋..อย่า…ร..รัง…แก..เจ้….อูย….อา…..ตะ….ตี๋…..อย่า….อา….ซีด”
“เจ้ยังไม่ได้บอกตี๋เลยโกรธตี๋เปล่า”
“อูย…..ถ….ถ้า….ไ….ไป….โกรธ อา….ซีด…..อา…….อูย…….พออออแล้ววววว ….อูย”
บ่อเมี้ยจึงจับนางแก้กางเกงเผยให้เห็นดอกไม้ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำค้างยกตัวนางเข้าสวมแท่งหยกที่แข็งตั้งโด่อย่างช้า ๆ
“อูยดอกไม้เจ้สวยจริง ๆคับ ไม่มีเปลี่ยนเลย”
“โอยตี๋บะ..เบา..คะ..ค่อย”
โบตั๋นสูดปากมือหนึ่งจับยึดต้นไม้อีกมือหนึ่งจับไปที่ไหล่ของบ่อเมี้ย ปล่อยให้เข้าจนสุดแต่ไม่เห็นบ่อเมี้ยขยับจึงมองเห็นบ่อเมี้ยมองดอกไม้ที่บวมเปล่งรับแท่งหยกจนหมดอันแบบไม่วางตา
“ตี๋ตี๋เจ้อายนะ”
“เจ้ที่รักดอกไม้ของเจ้งดงามที่สุด”
บ่อเมี้ยก็เริ่มซอยอย่างช้าๆจนเร่งเร็วขึ้นต้นไม้ใหญ่ทั้งต้นเริ่มสั่นเหมือนมีใครมาเขย่า ซีด….อูย….ซี…ซีด….อา….อา…..อา….อูย…..อา…..ระ…..แรง…….แรง……อูย……ถึง……แล้ว…อาห์โบตั๋นได้แต่ซบอกบ่อเมี้ยด้วยหมดแรง “เจ้ไม่ต้องกลัวนะบ่อเมี้ยจะเข้ามาดูบ่อย ๆ”……..
ยามต้นผ่านไปเบญจมาศได้แต่นั่งเฝ้าตามจุดที่ตกลงกันไว้โดยหลังพิงก้อนหินนั่งฟังเสียงแมลง ดูหิ่งห้อย ฟังเสียงกบหาคู่ เบญจมาศจึงปล่อยให้คิดคำนึงถึงหลายวันที่ผ่านมาครั้งแรกที่เจอบ่อเมี้ยนางมีความรู้สึกไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย แต่สวรรค์ก็เล่นตลกทำให้นางพลาดท่าตกเป็นของเขาแต่ตาหมอลามกก็แสดงความรักนางอย่างเห็นได้ชัด นางเองก็รู้สึกแปลก ๆไม่มีใครที่เหมือนและสร้างความทรงจำได้อย่างหมอลามก หมอลามกชอบไปอาบน้ำกับนางทำให้นางต้องคิดถึงทุกครั้งเวลาที่ต้องอาบน้ำคนเดียวหรืออาบกับเจ้ม่วยน่าอายก็น่าอายรู้สึกดีก็ใช่ไม่วางอำนาจเป็นเจ้าของพร้อมฟังความคิดเห็นร่วมทางไปด้วยกัน เพียงแต่นางรู้สึกเศร้าบ้างที่ไม่อาจเป็นเจ้าของคนเดียวแต่ไม่เสียใจเจ้และม่วยก็เป็นสิ่งที่นางรักด้วยเช่นกัน
“ยี่ม่วยที่รักคิดถึงสามีเหรอเหงาไหม”
ตาหมอบ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยตัวเบาอย่างกับ….
“ใครจะไปคิดถึงหมอลามกเล่านี่คงไปรักษาซากุระอยู่ละซีถึงหายไปเลย”
“โอโหน่าสนใจแฮะ….”
บ่อเมี้ยต้องเงียบเพราะเบญมาศมองตาเขียวกับมา บ่อเมี้ยนั่งลงข้างโอบกอดไปที่ไหล่ดึงตัวมาจูบที่แก้มของเบญจมาศอย่างแผ่วเบาเลื่อนลงมาที่ไซ้ที่ซอกคอมืออีกข้างล้วงเข้าไปในเสื้อ เอี้ยม พบปทุมถันที่ใหญ่เต็มไม้เต็มมือบี้ที่ปลายยอดปทุมเบา
“นี่…..ซีด….ที่…นี่…..ไ…ม่…ได้…….”
บ่อเมี้ยเลยเลิกเสื้อทั้งเอี้ยมขึ้นเผยให้เห็นปทุมถันชั้นดีมีขนาดใหญ่กว่าใครในสามดอกไม้แข็งเป็นไตและนิ่มมือที่สุดบ่อเมี้ยก้มลงไปดูดปลายยอดพร้อมใช้ลิ้นชิมรสชาติอีกมือก็ขยำอย่างเบา ๆบางครั้งขยี้ปลายดอกบัวจนหนำใจมือก็ลูบไล้ลงข้างล่างมุดเข้ากางเกงผ้าเบญจมาศรีบคว้ามือนั้นไว้ไม่ทันแล้วมือของจอมเจ้าเล่ห์ยึดที่หมายได้แล้วเบญจมาศได้แต่ร้องเสร็จกัน อย่….อย่า….อืย…..อูย…บ่…..บ่อ…เม….เมี้ย….อา….แรง..แรง……อา..อ..อูย…..อ้าพอออแล้ววว
เบญจมาศใช้สองมือดึงมือของจอมเจ้าเล่ห์ออกพร้อมหอบหายใจแรงบ่อเมี้ยยิ้มแก้กางเกงของเบญจมาศออกเผยให้เห็นดอกไม้ที่พร้อมรองรับแท่นหยกจึงจับเบญจมาศนอนหงายยกขาขวาพาดไหล่และค่อย ๆกดแท่นหยดอย่างช้าๆถึงแม้จะเคยเข้าหลายครั้งอีกทั้งมีน้ำค้างพร่างพรมเต็มดอกไม้ก็ยังเข้าค่อนข้างยาก
“อูย….บ่….บ่อเมี้ย…บะ…เบา….อูย…เข้า….หม….หมด….รึ….ยัง”
“ใกล้แล้วคนเก่งชอบไหม”
เบญจมาศหน้าแดงด้วยความเสียวไม่ยอมตอบได้แต่ร้องครางตามแรงของบ่อเมี้ยที่ค่อยๆซอย อา…อา….อือ…ซีด….อ….ปากบ่อเมี้ยก็ไปชิมความหอมของปทุมถันที่ชี้หน้าท้าทายและโยกตามจังหวะตัวมือก็บีบปทุมอีกข้าง เบญจมาศตั้งรับได้แต่กอดตัวบ่อเมี้ยและเผลอเด้งรับจากส่วนล่างอา…อ….อือ…..ในขณะที่ทั้งสองกำลังทำสงครามกันประสาทหูของบ่อเมี้ยก็รับรู้ได้ว่ามีแขกผู้มาเยือนเข้ามาในค่ายกลนี่แล้วบ่อเมี้ยก็ไม่หยุดซอยเบญจมาศได้แต่คราง ฮือ ฮือ อย่างเสียวที่สุดแต่ในที่สุด
เบญจมาศก็รับรู้ว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในเขตของตัวเองรับผิดชอบอยู่จึงมองหน้าบ่อเมี้ยเพื่อให้หยุดก่อนกับพบว่าบ่อเมี้ยเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก โอย…อา…ห..ยุด….อา…..ก…..ก่อน….อา…..อา…หยุด…..โอย…..ซีด……แขกผู้มาเยือนได้เดินอยู่รอบค่ายเบญจมาศรู้สึกอาย เสียว โกรธ ตื่นเต้น กลัว แต่ไม่สามารถหยุดบ่อเมี้ยได้ได้แต่ยอมรับอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด บ่อเมี้ยยังซอยต่อไปเมื่ออารมณ์ทุกอย่างมาพร้อมกันเบญจมาศจึงถึงไปก่อนอย่างกลั้นไม่ได้
โอว์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆอาห์เป็นเสียงเกือบตะโกนทำให้คนที่อยู่รอบค่ายกลชงักแต่หันมองหน้ากันเหมือนไม่รู้เสียงนั้นเป็นเสียงอะไรมาจากที่ไหนบ่อเมี้ยจับเบญจมาศคลุกเข่าหันหลังซึ่งเบญจมาศได้แต่งงงที่บ่อเมี้ยไม่จัดการผู้บุกรุกกับมาจัดการนางแต่แรงนางสู้ไม่ได้ก็ปล่อยให้บ่อเมี้ยทำตามใจพอบ่อเมี้ยเข้าข้างหลังได้นางได้แต่ร้อง อึยย์….อา….อ…อา….อูยจนบ่อเมี้ยซอยแรงจนนางและบ่อเมี้ยเสร็จพร้อมกันนางรู้ว่าครั้งนี้บ่อเมี้ยให้น้ำที่แรงและมากกว่าทุกครั้งที่ร่วมมา
“ไม่ต้องตกใจนะพวกเขาไม่ได้เห็นไม่ได้ยินยกเว้นตอนที่ม่วยตะโกนม่วยน่ารักที่สุด”
เบญจมาศยังไม่หายหอบหน้าแดงค้อนบ่อเมี้ยพอหายเหนื่อยก็ทุบไปที่หน้าอกของบ่อเมี้ย “หมอบ้า หมอลามก”