จอมแพทย์นิรนาม ตอนที่ 15
โดย กระปี่หัก
บ่อเมี้ยและซากุระได้ออกมาฟากหนึ่งของหุบเขา เมื่อเจอแสงแดดซากุระถึงกระโดดโลดเต้นดั่งเด็ก ซึ่งก็สร้างอมยิ้มให้แก่บ่อเมี้ยแต่เมื่อเงยหน้ามองหุบเขาที่ผ่านมากับวอดวายไปทั้งหุบเขาสัตว์ป่าใหญ่น้อยที่หนีไม่ทันล้วนต้องประสพชะตากรรมด้วยเพราะมนุษย์ต้องการเท่านั้นสร้างความเสียใจให้แก่บ่อเมี้ยอย่างใหญ่หลวงซากุระเห็นดวงตาที่เศร้าสร้อยปานนั้นอดไม่ได้ที่นำมือของนางไปลูบที่ใบหน้าของบ่อเมี้ย
**** ข้อความถูกซ่อน ตอบกระทู้เพื่อดูข้อความ *****
“เมี้ยซังทำไมท่านจึงเศร้าจังคิดถึงเจ้เจ้เหรอ
หรือท่านคิดว่าไม่ควร….เรื่องระหว่างเรา ซา..ซาพร้อมจะไปไม่ทำให้เมี้ยซัง…….ฮือ ฮือ…” บ่อเมี้ยดึงนางเข้ามากอดอย่างแนบแน่น
“คิดไปไหนอีกเนี้ยเราสงสารสัตว์ที่ตายตั้งหากส่วนซากุระก็เป็นเมียของบ่อเมี้ยนะบ่อเมื้ยไม่ทิ้งหรอก …ของซากุระดีขนาดนี้……”
“บ้า”
ซากุระหน้าแดงยิ้มทั้งน้ำตาค้อนให้อีกหนึ่งวง บ่อเมี้ยจึงจูบปากเรียวบางของนาง อือ ระ ..รีบ..เดินทางเถอะซากุระรีบผลักตัวบ่อเมี้ยออก บ่อเมี้ยจึงยิ้ม(โอย…อะไรเนี้ยพระเจ้า)นางตะลึงงันและเข้าใจว่าทำไมเจ้เจ้ทั้งหลายจึงพยายามให้ปิดหน้าของหมอนี่จึงฉีกชายผ้าด้านในเสื้อเป็นทางยาวแบ่งเป็นสองท่อนผูกหน้าให้บ่อเมี้ยก่อนแล้วจึงผูกหน้าของตัวเอง อือ นางเป็นนินจาคงเคยชินแต่ทำไมต้องปิดหน้าเราด้วยเหมือนรู้แฮะพวกเบญจมาศบอกอะไรแน่ๆ
“หน้าของเมี้ยซังสังเกตง่าย ซาไม่อยากให้ใครสนใจ….”
ยังไม่ทันพูดจบแว่วเสียงลมฝ่าอากาศมามากกว่า ห้าทาง บ่อเมี้ยรู้ทันทีมีคนขว้างอาวุธลับจึงดึงตัวซากุระใช้วิชาตัวเบาอันสุดยอดถอยไปด้านหลังกระโดดเข้าป่า แต่ในผู้ติดตามก็มีวรยุทธ์และพลังวัตรสูงสามารถตามบ่อเมี้ยและซากุระพร้อมทั้งยังขว้างอาวุธลับซากุระเรียกทีหลังว่าชูริเคนมาดั่งห่าฝน บ่อเมี้ยได้แต่อาศัยกระโดดจากกิ่งหนึ่งข้ามไปอีกกิ่งหนึ่งเป็นลักษณะฟันปลาทำให้ผู้ติดตามย่นระยะในการติดตามจาก 3 ลี้ 2 ลี้ 1 ลี้เข้ามาใกล้ทุกที บ่อเมี้ยเป็นศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของซือแป๋สรรพวิชาผู้เป็นยอดคนบ่อเมี้ยฉลาดปราดเปรื่องเรียนรู้แทบทุกวิชาแต่
วรยุทธ์ไม่สามารถฝึกได้เพราะมีแต่ท่าร่างแต่หามีพลังวัตรไม่ก็เปรียบดั่งนักเลงข้างถนนถึงแม้จุดเส้นจะคลายหนึ่งจุดก็หาได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นแต่สมองของบ่อเมี้ยได้บรรจุคำสอนกลยุทธที่จะใช้ในชีวิตไว้มากมายระหว่างวิ่งไปบ่อเมี้ยหักกิ่งไม้ประมาณ หนึ่งเชี่ยะ(ฟุตจีน)ไว้สิบกว่าอันโดยให้ซากุระช่วยถือ
บ่อเมี้ยสำรวจหุบเขาไว้แล้วทราบว่าหลังป่าไผ่มีหน้าผาฝั่งตรงข้ามคือเขตเทือกเขาเหลียงซานมีสะพานไม้แขวนค่อนข้างเก่าค่อนข้างชำรุดอยู่เส้นหนึ่งส่วนใหญ่ชาวยุทธ์จะเลือกเส้นทางสายใหญ่ปลอดภัย สะดวกสบายกว่าเส้นทางนี้จึงใช้เฉพาะผู้ชำนาญทางเท่านั้น บ่อเมี้ยให้ซากุระผูกไม้ให้เป็นกากบาทอย่างรีบด่วนซากุระทำมาได้ห้าอันบ่อเมี้ยควานในอกเสื้อมีม้วนขดบางอย่างอยู่นำมาขดให้คล้ายสปริงทั้งสี่ด้านและรีบเข้าป่าไผ่อย่างรวดเร็วถึงป่าไผ่บ่อเมี้ยวางซากุระลงซากุระได้แต่งงงงว่าทำไมบ่อเมี้ยไม่รีบหนีบ่อเมี้ยกระโดดถึงยอดปลายไม้ไผ่ดัดให้โค้งงอและใช้ไม้ขัดไว้
ผู้คลุมหน้าประมาณสิบคนติดตามเข้ามาที่ป่าไผ่เห็นบ่อเมี้ยและซากุระยืนอยู่โดยไม่หลบหนีอีกจึงหัวเราะและกล่าวว่า
“ทำไมเจ้าไม่หนีอีกถึงจะหนีก็ไม่มีทางหนีพวกเราพ้นหรอก เราจะให้เจ้าเป็นคู่นกเป็ดน้ำ ให้สวรรค์อิจฉา โดยฝังพวกเจ้าไว้ในหลุมเดียวกัน”
“ลูกพี่น่าเสียดายนางซากุระมันน่ะค่อยส่งมันไปทีหลังละกันต้องคิดค่าเหนื่อยก่อน”
ซากุระรู้คำพูดของพวกมันหมายถึงจะรวมหัวรังแกนาง
“พวกเดียรถีย์ อัปปรีย์ อกตัญญู พ่อข้าเคยเลี้ยงพวกเจ้ามาพวกเจ้ากับพยายามทำร้ายลูกสาวเขาพวกเจ้า…..”
บ่อเมี้ยจับที่มือนางก่อนที่นางจะขาดสติหลงกลยั่วยุให้โกรธจะได้เป็นไปตามแผนของพวกมัน ชายคลุมหน้าเห็นซากุระสงบใจได้เพียงบ่อเมี้ยสะกิดก็เปลี่ยนเป็นชักดาบก้าวเข้าหาอย่างช้า ๆ บ่อเมี้ยเห็นที่หมายตามที่ตั้งใจไว้ก็สะบัดมืออย่างรวดเร็ว ห้าครั้ง ผู้คลุมหน้าก็ชะงักและหลบอย่างง่ายดาย
“นี่หรือวิธีการเขวี้ยงอาวุธลับของชาวตงง้วนน่าหัวเราะสิ้นดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ของดีดูนานๆ”
บ่อเมี้ยตอบ
และ สิ่ง มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นอาวุธที่บ่อเมี้ยขว้างไปย้อนกลับมาโดยไม่จำแนกทิศทางบางครั้งก็ชนกันเองก็เปลี่ยนทิศทางอีกเมื่อฟาดหน้าหนึ่งในคนคลุมหน้าก็เด้งเปลี่ยนทิศทางไปชนกิ่งไผ่คนคลุมหน้าพยายามดาบไล่ฟัน กับทำให้โดนกันเองเข้าอีก ซากุระมองละหัวเราะบ่อเมี้ยได้แต่บอกไม่มีเวลาแล้วจับซากุระยืนบนไม้ไผ่และถอดสลักไม้ออกผลคือบ่อเมี้ยและซากุระเหินลอยละลิ้วแต่หน้าผากว้างกว่าที่แรงไม่ไผ่จะดีดพอบ่อเมี้ยให้ซากุระตัวถีบตัวเขากระชากตัวเขาซากุระทำตามมือของบ่อเมี้ยจับที่มือซากุระใช้แรงเหวี่ยงหมุนจนข้ามเขามาได้บ่อเมี้ยไม่วางใจจึงยืมดาบจากซากุระฟันที่สะพานเชือกจนขาด กลุ่มคนคลุมหน้าหลุดมาจากค่ายกลได้มองหน้าบ่อเมี้ยและซากุระด้วยความแค้นเคือง
บ่อเมี้ยและซากุระจึงมุ่งหน้าเขาเหลียงซานสถานที่จัดการประลองสถานที่ที่มีผู้อาวุโสที่ดำรงด้วยความยุติธรรม อือ โบตั๋น เบญจมาศ ดอกท้อ จะเป็นอย่างไรบ้าง นางมาถึงแล้วรึยัง จะประสบเหตุหรือเปล่า พวกนินจาคงไม่สนใจหรอก ตอนนี้คิดกังวลไปก็เท่านั้นต้องไปที่เหลียงซานก่อนคำตอบทั้งหมดจะอยู่ที่นั้น
ตลอดทางขึ้นเขาจะมีจอมยุทธ์ทั้งหญิงชาย อาวุโส ขอทาน บุตรหลานขุนนางเดินขึ้นเขาอย่างไม่ขาดสาย ตลอดรายทางก็มีพ่อค้าหัวใสนำสินค้ามาขายมากมายบ่อเมี้ยและซากุระจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเสื้อผ้าของนางและบ่อเมี้ยดูไม่เป็นเสื้อผ้าขาดแทบไม่มีชิ้นดี บ่อเมี้ยเปลี่ยนเป็นชุดรัดกุมสีขาวทำให้องอาจสง่าผ่าเผยบวกรอยยิ้มน้อยก็สามารถเป็นกงจู๊ลูกขุนนางใหญ่ได้เลยส่วนซากุระเปลี่ยนเป็นชุดสตรีสีครามที่เน้นความคล่องตัวแต่สวยงามบวกกับความงามของซากุระทำให้บ่อเมี้ยมองตาค้าง
“ห้ามไม่ให้ท่านมอง”
คำพูดเดียวกันแต่น้ำเสียงอ่อนหวานยิ้มหน้าแดงบ่อเมี้ยจึงหลับตา
“ตกลงข้าพเจ้าไม่มองท่านอีก”
“ตัวเลวร้ายมองเดี๋ยวนี้… ต่อไปนี้คอยดู…ข้าพเจ้าจะสนใจท่านไหม”
บ่อเมี้ยลืมตาคว้าตัวซากุระมากอดหอมแก้มวลนาง
“หายงอนหรือยังคนงาม”
ซากุระได้แต่หัวเราะกิ๊ก จากนั้นก็สวมหมวกกุ๊ยใบใหญ่พร้อมมีผ้าแพรสีดำล้อมรอบหมวกเมื่อสวมสามารถมองเห็นภายนอกแต่ภายนอกมองไม่เห็นทั้งสองหนุ่มสาวจึงพากันเดินขึ้นเขาเหลียงซานตามจอมยุทธ์ทั้งหลายต่อไป