เจาะเวลาหาฉิมพลี(ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 27

เจาะเวลาหาฉิมพลี(ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 27

เจาะเวลาหาฉิมพลี(ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 27 คู่มือเพศศึกษาเบื้องต้น

       ยูอันกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ค่อยๆทบทวนเรื่องราวต่างๆ
หลังจากฟื้นคืนสติขึ้นมาเมื่อวาน ก็ทราบว่าหลังร่วงลงมากับสายน้ำ ตนเองสิ้นสติไปหลายวัน
ก่อนที่จะถูกช่วยเหลือโดยกลุ่มหญิงสาวที่บอกว่ามาจากวังร้อยบุปผา

ยูอันก็เคยได้ยินเรื่องของวังร้อยบุปผามาบ้าง พอได้เห็นสาวๆในสังกัดร้อยบุปผา
ก็รู้สึกว่าที่พูดๆกันในยุทธจักรไม่ได้ผิดจากความจริงเท่าไหร่นัก
สาวๆเหล่านี้สวย น่ารักเปี่ยมเสน่ห์จริงๆ ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันคงเป็นดารา นางเอกหนังกันได้สบายๆ

ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีสาวสวยนางใดแวะมาอีก มีแต่หมอที่เข้ามาตรวจเป็นระยะๆ
บางครั้งก็มียามาให้ดื่ม พอถึงเวลาอาหารก็มีสาวใช้นำอาหารมาให้ถึงห้อง

นับว่าได้รับการดูแลดีไม่น้อย

ร่างกายยังมีปวดๆอยู่บ้าง หากเคลื่อนไหวร่างกาย บางครั้งก็รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ
ที่จริงยูอันคิดไปตั้งแต่ตอนร่วงลงมาแล้วว่า ตัวเองคงตกลงมาตายอย่างแน่นอน
แต่ผิดคาด ไม่ตายอย่างที่คิด กระทั่งแขนขายังอยู่ครบ ไม่หักหรือพิการ
นี่ไม่ใช่เรื่องปรกติ คิดไปคิดมา ความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ
หลังจากดื่มเลือดเจ้าแดงน้อยกับตะพาบพันปีนั่นเข้าไป ร่างกายคง ถึก กว่าคนธรรมดาอยู่บ้าง
รอไว้เจอกับอาจารย์ค่อยถามดูอีกที

พอนึกถึงอาจารย์ ก็พลอยนึกไปถึงคุณหนูจางไม่ได้ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
จากที่ได้พูดคุยกับหมอที่แวะมาดูอาการ ทราบว่าตัวเองน่าจะหมดสติอยู่ก่อนแล้ว 3-4 วัน
แล้วถึงได้รับการช่วยเหลือจากสาวๆวังร้อยบุปผา จากนั้นถูกพามาที่กุ้ยหยาง
แปลว่ารวมๆแล้วตนเองหมดสติไปถึง 8-9 วัน
อ๋องไต้อี้เองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

ในใจยูอันคิดแต่อยากกลับลี่เจียง

ถึงแม้จะมีสาวสวยหลายคนอยู่ใกล้ๆ ยูอันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนัก
ถ้าเทียบกันแล้วคุณหนูจางกับอ๋องไต้อี้ยังเหนือกว่าเห็นๆ
มิหนำซ้ำตัวเองยังได้สัมผัสอย่างลึกถึงแก่นแท้ข้างในมาแล้ว

ปัญหาอยู่ที่ จะปลีกตัวไปได้อย่างไร – –

เท่าที่ฟังมาสาวๆกลุ่มนี้จะพาตัวเอง ไปยังวังร้อยบุปผาด้วย

ยูอันไม่รู้ว่าวังร้อยบุปผาตั้งอยู่ที่ไหน แต่รู้สึกว่าถ้าไปแล้ว
อาจกลับออกมาไม่ง่ายนัก… หรือไม่ได้กลับออกมาอีกเลย – –

ได้ยินว่า คืนนี้จะมีงานเลี้ยง หลังจากนั้น พรุ่งนี้จะเดินทางกลับวัง

ดังนั้นหากจะหนี มีแต่เพียงคืนนี้เท่านั้น

แต่ทว่า เวรยามที่อยู่มีมากมายเหลือเกิน แถมดูมีฝีมือไม่ใช่ธรรมดา
อย่างน้อยก็ดูเหนือกว่าคนในสำนักคุ้มกันภัย

ตนเองเป็นคนที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แถมไม่มีวรยุทธ – –

ในยุคนี้ ไม่มีวรยุทธ เหมือนเป็นเพียงคนที่ไม่มีความสามารถขัดขืนอันใด
ใครจะทำอะไรกับตัวเอง ก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ กระทั่งอยากจะหลบหนี ยังไม่มีปัญญา – –

เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นทำให้ความคิดของยูอันต้องหยุดลง

ประตูห้องถูกเปิดออก ที่แท้เป็นหมอที่คอยมาตรวจดูยูอันนั่นเอง

” ท่านหมอ ” ยูอันกล่าวทักทายขึ้นมา
ท่านหมอที่ยูอันเรียก เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี ยูอันเพียงแต่ทราบว่ามันแซ่ตั้ง

” ดูสีหน้าท่านดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่เกินสองสามวัน น่าจะหายเป็นปรกติ ”
” ขอบคุณท่านหมอมากแล้ว ” ยูอันกล่าวขอบคุณอย่างสำนึก ไม่ว่าจะอย่างไร
หมอแซ่ตั้งก็ให้การดูแล รักษาตัวเองเป็นอย่างดี

” ตอนค่ำๆ เราจะให้คนนำยามาให้ ท่านก็ดื่มแล้วนอนพักเสีย คืนนี้ที่นี่มีงานเลี้ยง
ถ้าไม่จำเป็น อย่าได้ออกไปข้างนอกห้อง ” หมอแซ่ตั้งพูด

” รบกวนท่านหมอจริงๆ ”
” ฮ่า ฮ่า เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เพียงวันข้างหน้า ท่านได้ดี อย่าได้ลืมเราก็พอแล้ว ”
หมอแซ่ตั้งหัวเราะเล็กน้อย

ยูอันมีสีหน้าละอาย ก่อนจะพูดว่า
” ผู้เยาว์เป็นเพียงเด็กรับใช้คนหนึ่งเท่านั้น แถมไม่เป็นวรยุทธ คงได้ดี ไม่ได้หรอก – -”

” ฮ่า ฮ่า ท่านอย่าได้กังวลไป ที่คุณหนูรองให้ความสนใจท่าน ไม่เกี่ยวกับวรยุทธแต่อย่างใด ”

” ถ้าเช่นนั้น ผู้เยาว์ยังจะมีอะไรที่เป็นประโยชน์ได้ ? ”

” เรื่องนี้ให้เราตอบแทนก็แล้วกัน ”

ยูอันสะดุ้งเล็กน้อย ท่านอาอี้ ไม่ทราบว่ามาอยู่ที่หน้าประตูตั้งแต่เมื่อใด

หมอแซ่ตั้งลุกขึ้น ก้มหัวให้ท่านอาอี้เล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับออกไป

ท่านอาอี้ เดินมานั่งที่เก้าอี้ หันมาดูยูอันชั่วครู่ จึงพูดว่า

” เราทราบว่าเจ้ามีเรื่องสงสัยต้องการคำตอบ เราเองก็ต้องการทำความเข้าใจกับเจ้าเช่นกัน ”

” ผู้เยาว์เพียงทราบว่า พวกท่านเป็นคนของวังร้อยบุปผา ต้องขอบคุณพวกท่านมากที่ช่วยชีวิต ”
ยูอันประสานมือคารวะขอบคุณอย่างจริงใจ

” พวกเราย่อมไม่ช่วยเปล่า ได้ยินหมอแซ่ตั้งบอกว่าเจ้าชื่อยูอัน ”
” ใช่แล้ว ” ยูอันพยักหน้าตอบ
” เจ้ามีภรรยาแล้วหรือไม่ ?”
” ยะ ยังไม่มี ” ยูอันได้แต่ตอบเช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ฉันท์สามี ภรรยากับคุณหนูจางแล้ว
แต่ทว่าก็ยังไม่ได้เข้าพิธีกันอย่างถูกต้อง แถมจะมีโอกาสได้เข้ารึเปล่ายังไม่รู้
ด้วยฐานะเด็กรับใช้ จางไท่ซึ่งเป็นพ่อของคุณหนูจาง
ยอมยกลูกสาวที่งามปานเทพธิดาให้ก็แปลก

” แล้ว บิดา มารดาล่ะ ?”
” เอ่อ…ผู้เยาว์…พลัดพรากจากบิดามารดา มาเนิ่นนานแล้ว ..”
จะให้ตอบว่า พ่อกับแม่ อยู่ที่โลกยุคปัจจุบันก็ใช่ที่ – –

” ถ้าเช่นนั้นก็ดี เจ้าตามพวกเราไป อยู่ที่วังร้อยบุปผาเถอะ ”
” เอ่อ คือว่า…” ยูอันอยากจะหาทางบ่ายเบี่ยง แต่ไม่รู้จะพูดอะไรดี

” เจ้าไม่ยินยอม ?” ท่านอาอี้ดูเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย
” คือว่า ผู้เยาว์เคยเป็นแต่เพียงเด็กรับใช้ แถมไม่เป็นวรยุทธ เกรงว่า
จะเป็นภาระเสียเปล่าๆ ”

” ลูกผู้ชาย ได้รับพระคุณเพียงหยดหนึ่ง ก็ต้องทดแทน นี่พวกเราช่วยชีวิตเจ้าไว้
ชีวิตเจ้าเป็นพวกเราเก็บคืนมาให้ ต่อให้พวกเราอยากให้เจ้าเป็นอะไร เจ้าก็ต้องเป็น ” ท่านอาอี้ตวาดเสียงดัง

ยูอันก้มหน้าลง พูดอะไรไม่ออก ที่จริงท่านอาอี้พูดมาก็ถูก เราจะมีเหตุผลอะไรไปค้าน – –
ที่จริงยูอันไม่ทราบว่า ถึงตัวเองนอนสลบอยู่ที่เดิม อีกไม่กี่วันก็จะฟื้นขึ้นมาได้เองอยู่แล้ว

” อย่าว่าแต่ เราไม่ได้จะนำเจ้าไปเป็นเด็กรับใช้ กลับจะนำเจ้าไปเสพสุข ”
ท่านอาอี้ที่มีสีหน้าผ่อนคลายลงพูด

” ผู้เยาว์จะทำประโยชน์อันใดได้ …”

ท่านอาอี้ มองยูอันชั่วครู่แล้วถามว่า

” เจ้าเคยเห็นคุณหนูรอง และคุณหนูคนอื่นๆแล้วใช่หรือไม่ ? ”

” เคยเห็นแล้ว ” ยูอันตอบ ในตอนที่ฟื้น ในห้องเต็มไปด้วยสาวสวยหลายคน
แถมมีสองคนที่กุม ยูน้อย ของตัวเองอีกด้วย – –

” หน้าที่ของเจ้าคือ ร่วมหลับนอนกับพวกนาง ”

” ว่ากระไร – -* ” ยูอันถึงกับหลุดปากออกมา

” เจ้าเห็นว่าพวกนางไม่งดงาม ? ”

” มิใช่เช่นนั้น – -” ยูอันตอบตามจริง บรรดาคุณหนูต่างสวยระดับนางเอกซีรี่เกาหลีเลยทีเดียว
ถ้าจะบอกตามตรง ดูๆไปก็ไม่ใช่งานที่น่าปฏิเสธ – – แถมอาจจะช่วยให้ตนเองฝึกปราณชมพูสวรรค์สำเร็จ
ได้กำลังภายในสะสมเรื่อยๆอีกด้วย

ท่านอาอี้เห็นยูอันไม่ปฏิเสธก็สีหน้าดีขึ้นมาก พูดต่อว่า

” บอกให้ทราบไว้ ไม่ทราบมีบุรุษมากมายเพียงใด ต้องการสมัครเป็น บุรุษพู่กัน ของวังเรา
หากเจ้าได้รับคัดเลือก เป็นบุรุษพู่กัน นอกจากจะได้เสพสุขกับสาวงาม
ยังได้รับเงินทองมากมาย ไม่ต้องเป็นเด็กรับใช้อีกต่อไป ”

ยูอัน คิดไปคิดมา ไหนๆก็หนีไม่ได้ แถมยังต้องตอบแทนบุญคุณ ก็ไปเป็น บุรุษพู่กัน สักพัก
และฝึกปราณชมพูสวรรค์ไปในตัว จากนั้นค่อยหาทางปลีกตัวออกมา – –

” เจ้ายื่นมือออกมา ” ท่านอาอี้สั่งขึ้น ยูอันจึงยื่นมือออกมา ท่านอาอี้จับชีพจรของยูอันครู่หนึ่ง
ก่อนจะถามว่า

” เจ้ายังเป็นหยกบริสุทธิ์ ?” (หมายถึงยังไม่เคยร่วมหลับนอนกับผู้หญิง)
” เอ่อ…-*- ” ยูอันไม่รู้จะตอบดีมั้ย อีกอย่าง เพราะไม่แน่ใจว่า คำว่าบริสุทธิ์ ในสมัยนี้หมายความว่ายังไง
เพราะถ้าบอกว่าเสียซิงกับมือตัวเอง นี่ก็ตั้งแต่ย่างเข้าวัยรุ่นแล้ว – – และหลับนอนกับผู้หญิงจริงๆก็คงเป็นกับเอ
และก็คุณหนูจาง

” พลังหยางในตัวยังสมบูรณ์ล้น แสดงว่าเจ้ายังไม่เคยร่วมหลับนอนกับหญิงสาวมาก่อน ”
ท่านอาอี้สรุปเอาเองว่างั้น – – ยูอันนึกค้านในใจ ไม่รู้ว่าท่านอาอี้ตรวจสอบผิดพลาดยังไง เพราะที่แน่ๆ ถ้าไม่นับมือตัวเอง – –
ตอนทำกับเอ เพื่อนสาวคนสวยก็เล่นไปจนเช้า แต่เอาเถอะนั่นอาจเป็นเพราะผ่านมาตั้งสามปีแล้ว
แต่ที่เพิ่งทำกับคุณหนูจางไปเมื่อแปดเก้าวันก่อนนี่ ก็ทั้งคืนแบบไม่มีหยุดแท้ๆ หรือว่าเพราะตอนนั้นไม่ได้หลั่งออกมา
ยูอันคิดทบทวนไปมา พยายามหาคำตอบแต่ก็ไม่ได้อะไรที่ชัดเจน

” เจ้ารับนี่ไป พยายามศึกษาให้ดี ” ท่านอาอี้ยื่นหนังสือให้สองเล่ม
เล่มแรกบางๆส่วนอีกเล่มค่อนข้างหนาทีเดียว

ยูอันพลิกดูคร่าวๆเล่มแรก เป็นกฏระเบียบภายในวัง จึงปิดลง แล้วเปิดดูอีกเล่มที่หนากว่า
ด้านในมีตัวหนังสือคำอธิบาย และรูปประกอบ

” นี่มัน…..” ยูอันหลุดปากออกมา ที่แท้เล่มที่สองเป็น คู่มือเพศศึกษา เบื้องต้น – –
ด้านในมีท่วงท่าในการร่วมรักชายหญิง อยู่หลายท่วงท่า พร้อมคำอธิบาย
ที่ว่าเบื้องต้นคือ ท่าต่างๆในเล่ม ดูบ้านๆมากสำหรับยูอัน – –

ถ้านับด้านวิชาการต่อสู้ คนในยุคนี้ ย่อมเหนือกว่าคนในยุคปัจจุบันอย่างเทียบไม่ติด
จอมยุทธสามารถโดดข้ามกำแพง แตะยอดหญ้า ขึ้นสู้ยอดต้นไม้ พลังฝ่ามือสามารถทำลายกองหิน
ป่นศิลา เพลงกระบี่สามารถทะลุทะลวงกำแพงเหล็ก

แต่ถ้านับวิชาบนเตียง ก็ตรงกันข้ามแล้ว – –

วิชาการต่อสู้ ค่อยๆลบเลือนหายไปกับกาลเวลา แต่ทว่า วิชาบนเตียงกลับไม่ใช่
ยิ่งนับวันยิ่งพัฒนา ยิ่งสั่งสม ยิ่งแพร่หลาย ยิ่งล้ำลึก

ภาพท่วงท่าในเล่มก็เป็นแต่เพียงท่าที่ใช้ในจีนยุคนั้น จะเทียบกับยูอันที่ศึกษาภาพเคลื่อนไหว
จากหลายสำนัก หลายชนชาติในโลกได้อย่างไร – –

ยิ่งท่าที่นิยมในยุคปัจจุบัน หลายๆท่า เรียกได้ว่า เป็นกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ที่ทุกๆชนชาติได้ค้นคว้าร่วมกันมา – –

แค่บทที่สอนเกี่ยวกับการจูบ ยูอันพลิกดูก็อดยิ้มไม่ได้ ถ้าจูบเพียงแค่ใช้ริมฝีปาก ไม่ใช้ลิ้น
มันจะเรียกว่าจูบได้อย่างไร บ้านเราคงเรียกว่า จุ๊บ แค่นั้น

ท่านอาอี้เห็นยูอันยิ้ม ก็พูดเสียงเข้มขึ้นว่า

” เจ้าอย่าได้เห็นเป็นเรื่องขบขัน เนื่องจากเจ้ายังไม่ประสา ต้องศึกษาให้มาก
หากพลาด ไม่ได้รับเลือกให้เป็นบุรุษพู่กัน ก็จะต้องไปเป็นเด็กรับใช้ภายในวังเท่านั้น ”

” ผู้เยาว์เป็นเด็กรับใช้ ก็ดีอยู่ ” ยูอันเงยหน้าขึ้นตอบ

” บุรุษในวังร้อยบุปผา หากไม่ใช่ได้รับเลือกเป็นบุรุษพู่กัน ล้วนแล้วแต่ต้องถูกตอน ”
ท่านอาอี้พูด ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้อง

 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ติดตามตอนอื่นได้
ภาคแรก http://uuuu69.blogspot.com/ จบภาคแรกแล้ว
ภาคสอง http://story.niyay.com/story.php?story_id=54253 

 ……………………………………………………

 คุยกันท้ายตอน
       ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยคอมเม้นท์ครับ แบบนี้เดี๋ยวต่ออีกตอนให้เลย *-*
อ่อ ถามเผื่อไว้นิดนึง(หรืออาจจะไม่นิด – -) ถ้ากลับไปยุคปัจจุบัน หมายถึงขึ้นภาคใหม่
รูปบรรดานางเอก อยากให้เป็นรูปวาด หรือใช้รูปคนจริง(ดารา นางแบบ เกาหลี ญี่ปุ่นอะไรแบบนั้น)
ถ้าใช้รูปดารา ไอดอล ใครมีรูปคนไหนจะนำเสนอ บอกมาได้เลยครับ
จะเม้นท์หรือจะส่งเป็นข้อความมาก็ได้

ยู

Share the Post:

Related Posts

ถ้าพี่ไม่รู้ พี่เขยก็เป็นผัวหนู ได้อีกคนหนึ่ง

เรื่องเสียว ถ้าพี่ไม่รู้ พี่เขยก็เป็นผัวหนู ได้อีกคนหนึ่ง เรื่องเสียวเกิดขึ้นแทบจะทุกคืน โดยไม่มีความอายหรือความเกรงใจเลยด้วยซ้ำ สำหรับพี่สาวของฉัน และว่าที่พี่เขยของฉัน พี่น้ำ ฉันมาอยู่ที่นี่ ร่วมกันกับทั้งสองคนเพราะว่าต้องเข้ามาเรียนมหาลัย อย่างน้อยก็สักสองสามเดือน เพราะว่ายังจัดการเรื่องหอพักไม่ได้นั่นเอง แต่แล้วเหมือนกับว่าพี่สาวของฉันนั้นอยากให้ฉันได้ยินว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหน เลยครางออกมาดังๆ ในทุกๆ คืนที่ทั้งสองคนนั้นเย็ดกัน เพียงเพราะว่าอดีตเราเคยทะเลาะกัน เรื่องที่พี่ของฉันเรียนไม่จบแล้วหนีมาทำงาน แต่ฉันเองกลับตั้งใจเรียนจนจบ

Read More

แอบไปเย็ดกับสาวน้อยข้างบ้านผู้ร่านควย

เรื่องเสียว แอบไปเย็ดกับสาวน้อยข้างบ้านผู้ร่านควย ผมชื่อว่า เติม ครับ อายุ 26 ปี เป็นแค่ผู้ชายบ้านนอกที่เข้ามาตามหาฝันในเมืองกรุง หวังว่าวันหนึ่งจะเรืองรุ่งกับเขาบ้าง แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าอะไรจะซ้ำ จะซัดผม ก็ได้กลายมาเป็นแค่เพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บริษัทแห่งหนึ่งเท่านั้นเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยจะมีวันหยุด แต่ก็ยังดีที่พอจะมีเงินเดือนสูงกว่างานอื่นๆ ที่เคยผ่านมาบ้างเท่านั้นเอง แต่ด้วยความที่ยังคงพอมีพื้นฐานที่เป็นคนคมเข้มอยู่บ้าง ก็เลยพอที่จะได้พบเจอกับเรื่องเสียวในเมืองกรุงบ้างนั่นเองละครับ

Read More