มอ..เมีย..นั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป (ตอนที่ 9)
ต่างฝ่ายต่างเงียบไปกันไปพักใหญ่
สร้อยก็รูด คอ.ควยของผมไปเรื่อยๆ
ผมก็นวดเต็มเธอไปเรื่อยๆเช่นกัน
“นายช่าง…นายช่าง…หลับเหรอ…”
“อื้อ..ปล่าว…กำลังคิดว่าจะพูดยังไงให้สร้อยใจอ่อนยอมให้นายช่างดู..”
“ไม่ต้องคิดหาคำพูดมากล่อมสร้อยแล้วละ…” สร้อยพูดเสียงเบาไม่มองหน้าผม
“อ้าวทำไมละ…” ผมร้องเสียงผิดหวัง
“นายช่าง..เอียงหูมาซิ…เรื่องแบบนี้มันต้องกระซิบ”
ผมรีบเอียงหูไปหาเธอ แต่ก็ยังลีลาต่อไปว่า
“เอ..นายช่าง..สร้อยจะให้นายดูดีปล่าว…”
ผมเลยเอาริมฝีปากไปซุกไซ้ที่ใบหูจนสร้อยจั๊กจี้ แล้วพูด
“ดี..ดี..สร้อย..ให้นายช่างเค้าดูไปเถอะ เพราะต่อไปต้องทำอะไรๆกับที่ตรงนั้นเยอะเชียว…”
“อุ๊ย…บ้า..นายช่าง…บ้า…”
สร้อยเขินจนทุบผมตุ๊บๆ
“ไม่บ้าหรอก…อยากตรงนั้นจริงๆ”
ผมหัวเราะเสียงขื่นจนเธอรู้สึก
“เออ..งั้น..” แล้วสร้อยก็เงียบไปอีก
“ไง…สร้อย…” ผมคะยั้นคะยอถามอีก
สร้อยพยักหน้านิดๆ
“โอเค..ใช่ไหม….บอกมาซิ…โอเคใช่ไหม…”
“อึม…ให้นายช่างดูก็ได้ แต่นายช่างต้องสัญญานะว่าดูอย่างเดียว…”
“ให้จับสักนิดได้ป๊ะ…”
สร้อยส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“นะนายช่างนะ…ให้ดูนี่ก็ทำใจจะแย่แล้ว นะดูอย่างเดียวก่อนนะ…”
แหม..สร้อยพูดเสียน่าสงสารจัง
“งั้น..นายช่างสัญญา…ก็รักเค้าหมดใจแล้วนี่…”
สร้อยดันตัวขึ้นมากอดผมแล้วกระซิบบอกผมว่า
“สร้อยก็รักนายช่างหมดใจเหมือนกัน…แต่ยังทำใจไม่ได้…ขอเวลาหน่อยนะ…”
“อึม…ให้นายช่างถอดให้นะ…”
“สร้อยถอดให้ดีกว่า…”
“ไม่ได้หรอก..ผู้ชายเค้าถือกัน ผู้ชายจะต้องเป็นคนถอดผ้าให้ผู้หญิงเอง…”
เธอแสดงสีหน้าฉงน
“เหรอ…จริงเหรอ..เค้าถือกันยังงั้นเหรอ…สร้อยไม่เคยได้ยินมาก่อน…”
“สร้อยจะได้ยินได้ไง ใครจะกล้าเล่าให้สร้อยฟังละ ผู้หญิงก็อายที่ถูกจับแก้ผ้า ผู้ชายมาเล่าเดี่ยวก็โดนตบ”
“เหมือน..นายช่างโดนคราวที่แล้วเหรอ…”
“อื้อ…”
“สร้อยขอโทษนะ…”
สร้อยกราบที่อกผม เฮ่อ..ขโมยใจผมไปอีกแล้วสร้อยเอ๊ย..สร้อยฟ้าลดาวัลย์
ผมพลิกตัวสร้อยลงให้นอนหงาย ตัวเองขึ้นคร่อมอยู่ด้านบน
แล้วมองหน้าสร้อย ที่หลับตาพริ้มเชียว
เฮ่อ..เหนียงเอ๊ย…ทำไมมันตื่นเต้นขนาดนี้นะ…
ไอ้บ้า…เอ็งนะผ่านไม่รู้กี่สิบ ตั้งแต่ซิง เกือบซิง สาวนวดนาบ นักศึกษา สาวสนุก ฯลฯ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็งั้นๆแหละ ในใจมีแต่ความว่างเปล่า
แต่กับสร้อยนี่…อูยยยยย..ทำไม..ทำไม…มันตื่นเต้นฉิบหายเลย
นี่ถ้าไอ้เหี้ยเฮงรู้..มันล้อตายเลย มันคงหัวเราะจนกลิ้งตกเก้าอี้
มือไม้ก็สั่น
เฮ้ย..สงบหน่อยซิว๊ะ เดี่ยวตบกระโหลกเลย
ผมต้องด่าตัวผมเอง
แต่ก็ควบคุมมันไม่ค่อยได้หรอก
มันจะบ้าก็ตามใจ ผมปลดตะขอกางเกงขาสั้นของสร้อยแล้วรูดซิบ
กลั้นหายใจค่อยๆรูดลงมาช้าๆ พอขอบกางเกงเลื่อนมาถึงสะโพก
สร้อยขยับยกสะโพกแอ่นขึ้นให้ผมรูดออกโดยสะดวก
อีกชั้นยังมีกางเกงในผ้าฝ้ายสีขาวเนื้อเนียน
ตรงกลางเป้าอวบจนนูนเด่นออกมาเป็นหลังเต่าตัวเขื่อง
เฮ่อ…ผมระบายลมหายใจที่กลั้นเอาไว้ออกจากปอด
มันเหมือนจะขาดใจยังไงก็ไม่รู้
ผมไม่รู้หรอกว่าสร้อยจะหรี่ตามองกริยาอาการของผมหรือเปล่า
ส่วนนะผมตะลึงมองเนินนูนที่ดันเนื้อผ้าขึ้นมาเหมือนถูกสะกดจิต
พยายามที่จะยกมือแต่เหมือนมันหนักเสียเหลือเกิน
ราวกับจะนานเป็นชาติหรือยังไงก็ไม่รู้
แต่ก็สามารถเอานิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในของสร้อยสำเร็จ
ไม่ใช่ว่าสร้อยจะต่อสู้ขัดขืน
เธอก็นอนของเธอนิ่งๆอยู่บนที่นอน
เธอก็คงต่อสู้กับสงครามความอายในใจของเธอ
ผมนี่ซิ ผมต้องสู้กับสงครามความอัดอั้นในใจของผมเหมือนกัน
ผมรูดออกมาทีละนิดๆ ไม่ใช่ใจเย็นหรอก
แต่มันหวิวๆ เหมือนหายใจไม่ออก
เอ..ทำไมกับคนที่เรารัก (จากใจจริงๆ) นี่นะ
มันต่อสู้กับความรู้สึกหลายๆอย่างในใจเสียเหลือเกิน
แล้วผมก็รูดกางเกงในของสร้อยมาติดที่สะโพกเหมือนเดิม
และสร้อยก็ช่วยยกก้นขึ้นปล่อยให้ผมรูดออกไปได้สะดวกเหมือนเดิม
ผมตัดใจยังไม่หันไปมองที่เนินเนื้อของเธอ
ผมจับขาเรียวของเธอยกขึ้นแล้วรูดกางเกงออกจากขา
แล้วค่อยหันมามองเป้าหมายสำคัญหมุนมาเหมือนหนังสโลว์
ผมเห็นแล้ว….ผมเห็นแล้ว….ผมอุทานในใจ
เห็นแนวขนเส้นหยิกหยอยแผ่ออกเป็นแนว
จากนั้นก็ลามมาคลุมกลีบอูมนูนทั้งสอง
แม้ไหมดำของสร้อยค่อนข้างจะดกดำตามพื้นเพ
แต่ไม่หยิกหยอยฟูฟ่อง ขนของเธอแผ่แแนบเกาะเกี่ยวไปกับผิวเนื้อนวล
ผมมองตะลึงอยู่นั่นแหละจนสร้อยคงจะสงสัย
“นายช่าง..เป็นไร…” เสียงเธอเครือ ๆ ชอบกล
“เออ…ของสร้อยสวยจัง…ใหญ่ด้วย…”
“ใหญ่เหรอ…ไม่น่าเกลียดนะ…”
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอ
“กลัวว่านายช่างบอกว่าน่าเกลียด…”
“ไม่..ไม่..เลย..น่าดูที่สุดเลย…สร้อยนี่ซ่อนรูปนะ…”
“หา…ซ่อนรูปไง…”
“ก็ตอนใส่เสื้อผ้านะประมาณไม่ถูกว่าจะขนาดนี้…”
“แสดงว่าทะลึ่งคิดลามกกับสร้อยมาตลอดซิ…”
“ใช่แล้ว…กะๆทั้งข้างบนข้างล่างแหละ..”
“พอเห็นของจริงละ”
“อื้อ…นมก็ใหญ่กว่าสวยกว่าที่คิด…”
“แล้วตรงนั้นละ…”
สร้อยชี้ไปที่เนินโหนก
“หอ.หี..เหรอ…”
สร้อยเบ่งตาโตกับคำพูดของผม
“เรียกไม่ถูกเหรอ…”
สร้อยส่ายหน้าอมยิ้ม ผมจึงพูดต่อว่า
“ก็ คอ.ควยของนายช่าง นี่ก็ต้อง หอ.หีของสร้อยนะซิ..”
สร้อยยิ้มหวานตาเป็นประกายสดใจ
“พอใจยัง…”
“ทำไมละ…”
“ก็นายช่างดู ดู…”
“เอ้า..พูดซิ…ดู..ดู…อยู่นั่นแหละ…ว่าไร…”
“เอ่อ..พูดก็ได้ นายช่างดู หอ.หีสร้อยนานแล้วนะ…”
ผมทำเป็นสนใจคำพูดของเธอแล้วบอกเธอว่า
“สร้อย..อ้าขานิดได้ป๊ะ…”
สายตาผมมองตาเธอแบบเว้าวอนเต็มที่
สร้อยไม่ตอบผม แต่หลับตาอย่างวาบหวาม เธอขยับขาอ้าออกนิดแล้วรีบหุบทันที
ไม่ทันจะเห็นอะไรๆด้วยซ้ำ ใจร้ายจัง
“สร้อย..ใจร้ายไปป่าว…”
สร้อยลืมตาขึ้นอมยิ้มแล้วพูดว่า
“ก็ให้สร้อยอ้าขาออก..ทำแล้วนิ…”
“แหมรีบหุบเซี๊ยะขนาดนั้น..นายช่างจะเห็นอะไร…”
“ถามจริง…”
“ก็ถามซิ…”
“นายช่างอยากดูจริงๆเหรอ..สร้อยว่ามันน่าเกลียดนะ..ไม่น่าดูหรอก…”
“ใครบอก..นายช่างนะอยากดูของสร้อยใจจะขาด…แล้วอย่าพูดนะว่าน่าเกลียด
นายช่างว่าของสร้อยสวยที่สุดในโลกต่างหาก…”
“นายช่างนี่ปากหวานจัง…นิดเดียวนะ…”
“ให้เห็นชัดๆ หน่อยก็แล้วกันนะ…”
แล้วสร้อยก็ขยับขาของเธออ้าออก
ผมจ้องเขม็งที่กลีบทั้งสองที่ถูกขาหนีบอยู่
พอสร้อยขยับขาอ้าออกมากขึ้น มันก็ค่อยๆเเป็นอิสระเปิดให้เห็นกลีบแต่ข้าง
โอววววว..สร้อยฟ้าลดาวัลย์ของนายช่างเอ๊ย…แม่เจ้าคุณ..อูวววววสสส์
มีของดีแท้ๆ สวยเหลือเกิน สวยกว่าที่เคยเจอ แม้จะไม่ใช่ผิวขาวผ่องอย่างที่เคยชอบก็ตาม
แต่ก็อย่างที่บอกแล้วไง สร้อยนะไม่ใช่ดำปี๋ ผิวของสร้อยออกไปทางสีน้ำผึ้ง
แล้วเนื้อใสร่มผ้านะ สีมันไม่ได้เข้มอย่างที่คิดหรอก
ตั้งแต่อดีตนะคิดผิดมาเสมอ คิดว่าคนผิวดำมันต้องดำสม่ำเสมอไปหมด
ถึงได้ไปชอบแต่ขาว ๆ นี่ ดูแล้วมันขาวไปทุกที
แต่ไม่ใช่หรอก ผิวเนื้อในสร้อยนะนวลเนียนแล้วดูเหมือนมีพลังอยู่ข้างใน
ไม่ดูอ่อนนิ่มเหมือนกับคนผิวขาวส่วนใหญ่
กลีบแคม หอ.หี ของสร้อยเหรอ ช่างอวบแต่ง มีไรขนดำเกลี่ยคลุมทั้งสองกลีบ
ร่องตรงกลางระหว่างกลีบ แม้สร้อยจะอ้าขาออกก็ยังปิดสนิท
ผมจ้องไปที่ตรากลางร่อง แล้วสังเกตเห็นรอยเปียกสะท้อนเป็นเงาๆ
ผมว่าสร้อยคงขับหล่อลื่นออกมาแน่นอน
มองพินิจพิจารณาอยู่นั่นแหละ ชื่นใจเสียเหลือเกินสร้อยจ๋า
ผมพยายามเก็บภาพเนินเนื้อเอาไว้ในหน่วยความจำของหัวใจให้มากที่สุด
“นายช่าง..พอยัง…”
ผมไม่ได้ยินหรอกที่สร้อยเรียกตอนแรก
“นายช่าง ๆ”
“หือ….”
ผมสะดุ้ง
“ดูพอใจหรือยังละ…”
“สร้อย..นายช่างดูเท่าไหรก็ไม่เบื่อหรอก…”
“สร้อยจะนุ่งผ้าแล้วนะ…”
ผมนิ่งเงียบเหมือนครุ่นคิดแล้วพูดว่า
“สร้อยต้องให้นายช่างดูบ่อยๆนะ…”
“สามเวลาก่อนและหลังอาหารอีกหรือเปล่า…”
“อื้อ..ใช่เลย…นะสร้อยนะ…นายช่างทำตามสัญญาทุกอย่าง”
“ทำไมนายช่างชอบดูมันนะ…”
“เห็นคราวนี้นี่นะ ติดตาติดใจนายช่างไปตลอดชีวิตเลย…”
“แต่สร้อยอายนะ…”
“อายทำไมละ..นายช่างรักสร้อย..แล้วสร้อยก็รักนายช่างไม่ใช่เหรอ…”
“นั่นแหละ..แต่ก็ยังอายอยู่ดี…แต่ ๆ”
“แต่อะไรเหรอ….”
“สร้อยขอคิดดูอีกทีก็แล้วกัน…นะนายช่างนะ…”
“อึม…”
—————————-
โดย : kankan